29 เมษายน 2567, 00:14:02
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 81 82 [83] 84 85 ... 1883   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: ◄◄◄ << เมียงู >>►►► .. Life is Beautiful ..  (อ่าน 7031187 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #2050 เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2552, 00:54:29 »

อ้างถึง
ข้อความของ I-Love-CU เมื่อ 19 พฤษภาคม 2552, 00:21:53
พี่หะยี

ไม่ต้องห่วงหรอกครับว่าใครจะแซงหน้าไทย

ขอแค่เราแซงหน้าตัวเองให้ได้ก็พอ แต่ตอนนี้ มันแบบยึกๆยักๆ จะก้าวก็ไม่ก้าว จะถอยก็ไม่ถอย

ล้มๆลุกๆ ทรงๆตัวอยู่แบบผีอมโรค  

 เค้าไม่ยอม

ว่าแต่ นอนดึกมาก จะเป็นหมีแพนด้า หน้าไม่เด้ง นะครับ  เตือน

ขอบคุณค่ะ  .. น้องบังยุทธ
พี่นอนก่อน  น้องช่วย post นะคะ
เพราะเรื่องเวียดนามพี่ไม่ค่อยรู้เท่าไร

คุณพ่อพี่เป็นทหาร  เคยไปรบที่เวียดนามเหมือนกัน
เกือบเอาชีวิตไม่รอด
ถูกยิงและโดนสะเก็ดระเบิด
รวมทั้งอาการโรคผิวหนังเรื้อรัง  จากการที่ไม่ได้ล้างเท้าและต้องใช้ถุงเท้าคู่เดิมเน่า ๆ นาน ๆ

ทำให้เรา (พยายาม) มองข้ามประเทศนี้ไป
เพราะถือเป็นแผลในใจของพี่หะยีเหมือนกัน ..

Goodnite ค่ะ
   

sleep

      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
manopkd
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2051 เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2552, 14:49:00 »

สวัสดีค่ะ คุณน้องลูกหยี๋
              ขอบคุณมากสำหรับเรื่องสาวเวียตนามท่านนั้น อ่านแล้วทำให้เราคิดตามหลักพุทธศาสนา ตามที่เธอได้ตอบนักบินผู้นั้นไป 
              ครั้งแรกที่พี่สิงห์ไปเวียตนามก็กลัวเขาเกลียดคนไทยเหมือนกัน ครับ เพราะในสมัยนั้นประเทศไทย โดยทหารไทยรับจ้างอเมริการบกับเวียตนาม เพราะกลัวว่าเราจะโดนเวียตนามโจมตี(คอมมูนิสต์)
              แต่จริงๆแล้วชาวเวียตนามไม่ได้โกรธคนไทยเลย และชาวเวียตนามนิยมของที่ผลิตในไทยมากเพราะเชื่อถือในเรื่องคุณภาพ โดยเฉพาะในเรื่องสิ่งประกอบการทำอาหาร  อาจจะเป็นเพราะลุงโฮ  ได้สั่งลูกหลานไว้  ไม่ให้ทำลายประเทศไทย เพราะประเทศไทยเป็นผู้ให้ที่ผึ่งพิงแก่ลุงโฮ  จนลุงโฮ สามารถปลดปล่อยเวียตนามได้
              บังเอิญที่ผมเข้าไปเวียตนามครั้งแรกนั้น  ผมไปให้ความรู้เรื่องคอนกรีตอัดแรง บรรยายที่โรงงานเขาเป็นภาษาอังกฤษ  เขาจึงให้ความต้อนรับอย่างดี ในทุกเรื่องยกเว้นสาวๆ เพราะกฎหมายเข้มมากตอนนั้นและพี่สิงห์ไม่ปราถนา
              สมัยนั้น คนเวียตนามเองไม่มีสิทธิ์ที่จะรับประทานหมูหรือเนื้อเลย เป็นสิ่งที่มีราคาแพงมาก คนเวียตนามไม่มีเงินพอ  คนเวียตนามจะรับประทานแต่ผักต้ม กับข้าว และปลาเป็นหลัก  ดังนั้นเราจึงไม่พบคนเวียตนามอ้วนเลยในสมัยนั้น  พี่สิงห์เคยไปขอดูพนักงานสายการบินเวียตนามรับประทานข้าว ซึ่งเธอใส่กล่องมากิน ปรากฎว่า มีข้าวกับผักต้มเท่านั้นครับ แต่ปัจจุบันเปลี่ยนไปแล้ว คนเวียตนามกินหมูกินเนื้อ ชอบอาหารทะเล และดนตรีครับ เปลี่ยนไปมากอาจเป็นเพราะคนเวียตนามมีสตางค์ครับ
              มีครั้งหนึ่งพนักงานบริหารของ 601 อยากเลี้ยงพี่สิงห์  เขาก็พาไปนั่งร้านยองๆเหลา  คือ เป็นร้านข้างถนน และเป็ยร้านที่ต้องยืนรอเป็นแถวคอยเข้าไปกิน เหมือนร้าน MK และ Fuji เลยครับ เป็นร้านอาหารเนื้อแพะ ครับ ต้องนั่งกับพื้นบนเสื่อเวียตนามและมีเกาอี้เตี้ยๆ แบบนั่งยองๆเลย และมีเตาตรงกลาง สำหรับ ย่างเนื้อแพะ  อาหารก็มีเนื้อแพะย่าง ลาบเนื้อแพะ กินกับเบียร์  ชาวเวีตนนามกินเบียร์แทนน้ำ ดังนั้นห้ามชนแก้วเด็ดขาด เทคนิคในการรับประทานเนื้อแพะย่างก์คือ เนื้อขณะที่ย่างจะต้องทาด้วยนมแพะ  ถึงจะทำให้ไม่มีกลิ่นเวลารับประทาน  ทีแรกพี่สิงห์ก็กินไม่ได้ แต่ภายหลังทานมแพะแล้วย่างพี่สิงห์ก็พอรับประทานได้ กินกันหกคน เบียร์เป็นโหล หมดไปสี่ร้อยกว่าบาทเองครับมื้อนั้น ก็แปลกดี ครับ ร้านนี้เป็นร้านเนื้อแพะ ที่ชาวเวียตนามชอบมากๆและราคาถูกมากๆ ครับ นี่เป็นครั้งหนึ่งที่พี่สิงห์ไปสัมผัสมาครับ  ขอบคุณ
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #2052 เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2552, 14:59:50 »

เรียน พี่สิงห์

ทำไมจึงชนแก้ว (เบียร์) กับชาวเวียดนามไม่ได้ล่ะคะ ??
เขามีความเห็นต่อวัฒนธรรมชนแก้วอย่างไร ??

ขอบคุณค่ะ 
 

ปิ๊งๆ
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
พธู ๒๕๒๔
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ซื่อต่อนายไม่หน่ายมิตรใกล้ชิดลูกน้องคุ้มครองชาวBan
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 64
คณะ: niti
กระทู้: 7,842

เว็บไซต์
« ตอบ #2053 เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2552, 16:46:57 »

แพะถูกย่าง คงพอๆกับถูกยัดเยียดให้เป็นแพะ
      บันทึกการเข้า

เว้นชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่สิ่งดีงาม ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
พศินน์
Full Member
**

ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2535
คณะ: วิศวฯ
กระทู้: 511

« ตอบ #2054 เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2552, 16:55:23 »

อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 19 พฤษภาคม 2552, 00:54:29
อ้างถึง
ข้อความของ I-Love-CU เมื่อ 19 พฤษภาคม 2552, 00:21:53
พี่หะยี

ไม่ต้องห่วงหรอกครับว่าใครจะแซงหน้าไทย

ขอแค่เราแซงหน้าตัวเองให้ได้ก็พอ แต่ตอนนี้ มันแบบยึกๆยักๆ จะก้าวก็ไม่ก้าว จะถอยก็ไม่ถอย

ล้มๆลุกๆ ทรงๆตัวอยู่แบบผีอมโรค  

 เค้าไม่ยอม

ว่าแต่ นอนดึกมาก จะเป็นหมีแพนด้า หน้าไม่เด้ง นะครับ  เตือน

ขอบคุณค่ะ  .. น้องบังยุทธ
พี่นอนก่อน  น้องช่วย post นะคะ
เพราะเรื่องเวียดนามพี่ไม่ค่อยรู้เท่าไร

คุณพ่อพี่เป็นทหาร  เคยไปรบที่เวียดนามเหมือนกัน
เกือบเอาชีวิตไม่รอด
ถูกยิงและโดนสะเก็ดระเบิด
รวมทั้งอาการโรคผิวหนังเรื้อรัง  จากการที่ไม่ได้ล้างเท้าและต้องใช้ถุงเท้าคู่เดิมเน่า ๆ นาน ๆ

ทำให้เรา (พยายาม) มองข้ามประเทศนี้ไป
เพราะถือเป็นแผลในใจของพี่หะยีเหมือนกัน ..

Goodnite ค่ะ
   

sleep





    เสียใจกับพี่หะยี ด้วยนะครับ แต่ขอให้ความพยายามของพี่ สามารถเอาชนะแผลในใจของพี่เองได้
      บันทึกการเข้า

sound mind in sound body
พศินน์
Full Member
**

ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2535
คณะ: วิศวฯ
กระทู้: 511

« ตอบ #2055 เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2552, 17:25:47 »

           ปลายปี 2541 บริษัทฯ ที่ผมทำงานขณะนั้น เป็นวิศวกรสนาม(site engineer) ไม่สามารถหาพีๆๆ ที่ อาวุโสกว่า ไปประจำหน่วยงานที่เวียดนาม ได้ พี่ ผอ.ฝ่าย ขณะนั้น(ต่อมาทราบภายหลังว่าเป็นพี่หอซีมะโด่ง) จึงได้ ถามผมว่าจะไปประจำได้ไหม? ผมตอบพี่ว่า ถ้าพี่สั่งให้ผมไปก็ยินดี ที่จะไป    เนื้องจากขณะนั้น พิษของโรคต้มยำกุ้ง กำลังขยายผลในเมืองไทย ผมจึงได้โอกาส สัมผัสชีวิต การทำงานกับเพื่อนบ้าน รวมทั้งการดำรงชีวิต ที่ต้องปรับตัวอย่างมาก ทุกอย่างมีทั้งด้านที่สวยงาน และด้านมืด ...ผมไปอยู่ไม่กี่เดือน ก็ป่วยหนักมาก ต้อง ให้พี่คนไทย แทรกคิว ตั๋วการบินไทย ให้เพื่อ กลับมาพักรักษา ตัวที่เมืองไทย เนื่องจากค่ารักษาพยาบาล สำหรับคนต่างชาติ ที่โน่น แพงมาก สรุปผมเป็นไข้หวัดใหญ่ นอนโรงพยาบาลหลายคืน และพักฟื้น จึงกลับไปลุยงานต่อ เกือบจะ เอาชีวิตไปทิ้ง ที่ ใจกลาง HCMC เพราะว่าโดนมิจฉาชีพ กระชากสร้อย ขณะซ้อนมอเตอร์ไซด์ ทำให้รถล้ม ดีที่ไม่บาดเจ็บสาหัส มีแต่แผลถลอก..  แต่ในด้านอื่นๆ ก็ครบรถชาติ   ด้วยวัย ด้วยภาวะงานที่กดดัน จึงตะลุย ทุกอย่างใน HCMC ผมใช้เวลา 3 เดือน จึงสามารถสื่อสารภาษาเวียดนาม กับทีมงานผู้รับเหมา และวิศวกรชาวเวียดนามได้  กับเจ้าของงาน ก็สื่อสารภาษาอังกฤษ จึงได้ภาษาอังกฤษ ที่เป็นทางการ กลับมาหน่อยหนึ่ง   เพราะฉะนั้น ความเห็น ที่นำมาแลกเปลี่ยน ใน บอร์ดนี้ จึงเป็นความเห็นที่มาจาก ประสปการณ์ ส่วนตัว  ล้วนๆๆ


 
      บันทึกการเข้า

sound mind in sound body
พศินน์
Full Member
**

ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2535
คณะ: วิศวฯ
กระทู้: 511

« ตอบ #2056 เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2552, 17:43:47 »

           
อ้างถึง
ข้อความของ manopkd เมื่อ 19 พฤษภาคม 2552, 14:49:00
สวัสดีค่ะ คุณน้องลูกหยี๋
              ขอบคุณมากสำหรับเรื่องสาวเวียตนามท่านนั้น อ่านแล้วทำให้เราคิดตามหลักพุทธศาสนา ตามที่เธอได้ตอบนักบินผู้นั้นไป 
              ครั้งแรกที่พี่สิงห์ไปเวียตนามก็กลัวเขาเกลียดคนไทยเหมือนกัน ครับ เพราะในสมัยนั้นประเทศไทย โดยทหารไทยรับจ้างอเมริการบกับเวียตนาม เพราะกลัวว่าเราจะโดนเวียตนามโจมตี(คอมมูนิสต์)
              แต่จริงๆแล้วชาวเวียตนามไม่ได้โกรธคนไทยเลย และชาวเวียตนามนิยมของที่ผลิตในไทยมากเพราะเชื่อถือในเรื่องคุณภาพ โดยเฉพาะในเรื่องสิ่งประกอบการทำอาหาร  อาจจะเป็นเพราะลุงโฮ  ได้สั่งลูกหลานไว้  ไม่ให้ทำลายประเทศไทย เพราะประเทศไทยเป็นผู้ให้ที่ผึ่งพิงแก่ลุงโฮ  จนลุงโฮ สามารถปลดปล่อยเวียตนามได้
              บังเอิญที่ผมเข้าไปเวียตนามครั้งแรกนั้น  ผมไปให้ความรู้เรื่องคอนกรีตอัดแรง บรรยายที่โรงงานเขาเป็นภาษาอังกฤษ  เขาจึงให้ความต้อนรับอย่างดี ในทุกเรื่องยกเว้นสาวๆ เพราะกฎหมายเข้มมากตอนนั้นและพี่สิงห์ไม่ปราถนา
              สมัยนั้น คนเวียตนามเองไม่มีสิทธิ์ที่จะรับประทานหมูหรือเนื้อเลย เป็นสิ่งที่มีราคาแพงมาก คนเวียตนามไม่มีเงินพอ  คนเวียตนามจะรับประทานแต่ผักต้ม กับข้าว และปลาเป็นหลัก  ดังนั้นเราจึงไม่พบคนเวียตนามอ้วนเลยในสมัยนั้น  พี่สิงห์เคยไปขอดูพนักงานสายการบินเวียตนามรับประทานข้าว ซึ่งเธอใส่กล่องมากิน ปรากฎว่า มีข้าวกับผักต้มเท่านั้นครับ แต่ปัจจุบันเปลี่ยนไปแล้ว คนเวียตนามกินหมูกินเนื้อ ชอบอาหารทะเล และดนตรีครับ เปลี่ยนไปมากอาจเป็นเพราะคนเวียตนามมีสตางค์ครับ
              มีครั้งหนึ่งพนักงานบริหารของ 601 อยากเลี้ยงพี่สิงห์  เขาก็พาไปนั่งร้านยองๆเหลา  คือ เป็นร้านข้างถนน และเป็ยร้านที่ต้องยืนรอเป็นแถวคอยเข้าไปกิน เหมือนร้าน MK และ Fuji เลยครับ เป็นร้านอาหารเนื้อแพะ ครับ ต้องนั่งกับพื้นบนเสื่อเวียตนามและมีเกาอี้เตี้ยๆ แบบนั่งยองๆเลย และมีเตาตรงกลาง สำหรับ ย่างเนื้อแพะ  อาหารก็มีเนื้อแพะย่าง ลาบเนื้อแพะ กินกับเบียร์  ชาวเวีตนนามกินเบียร์แทนน้ำ ดังนั้นห้ามชนแก้วเด็ดขาด เทคนิคในการรับประทานเนื้อแพะย่างก์คือ เนื้อขณะที่ย่างจะต้องทาด้วยนมแพะ  ถึงจะทำให้ไม่มีกลิ่นเวลารับประทาน  ทีแรกพี่สิงห์ก็กินไม่ได้ แต่ภายหลังทานมแพะแล้วย่างพี่สิงห์ก็พอรับประทานได้ กินกันหกคน เบียร์เป็นโหล หมดไปสี่ร้อยกว่าบาทเองครับมื้อนั้น ก็แปลกดี ครับ ร้านนี้เป็นร้านเนื้อแพะ ที่ชาวเวียตนามชอบมากๆและราคาถูกมากๆ ครับ นี่เป็นครั้งหนึ่งที่พี่สิงห์ไปสัมผัสมาครับ  ขอบคุณ


               เรียนพี่สิงห์

                          ยองๆ เหลา  ต้องคู่กับ เบียร์เฮย (เบียร์ที่ร้านค้าหมักเอง)  พร้อมกับ หวูเย (นมแพะหมักเครืองเทศ) หรือ ทิศเย (เนื้อแพะ)  ย่าง จะได้ รสชาติที่เยี่ยมมาก  ชาวเวียดนาม รับประทานทุกอย่าง (ทุกอย่างจริงๆๆ)  เนื้อจิงโจ้ เต่า ตะพาบ สกังค์ ตัวตุ่น และงู (เป็นอาหารโด้บ) ตามร้านอาหาร จะมีกรงให้เลือก งูเห่า แล้วจะมาเชือด เอาเลือด และดีงู สดๆๆ มาผสมเหล้า ถือเป็นเครื่องดื่ม ชูกำลัง  ผมลองแล้ว ไม่รู้ว่าที่ทำให้คึกคัก เพราะว่า เหล้าขาว หรือเหล้ากลั่น ที่ไปผสม หรือปล่าว แต่นึกย้อนหลัง แล้วรอดจากพยาธิ ก็ ถือว่า...รอดตัวครับ  และจะมีร้านอาหารชาวบ้าน โดยเฉพาะ ร้านไก่ เตอ (Cai To)  อย่านึกว่าเป็นร้านไก่ย่างนะครับ  เป็นร้านอาหารที่ขายเนื่อสุนัข  หน้าร้านจะมีการนำ สุนัขที่เชือดแล้วมา ลนขนด้วยเปลวไฟ หนังจะมีสีเหลือง  ก่อนจะไปชำแหละ และประกอบอาหาร ให้รับประทาน  เนื่องจากชาวเวียด เชื่อว่าเนื้อสุนัขช่วยทำให้ร่างกานอบอุ่นในหน้า หนาว โดยเฉพาะทางเหนือ ฮานอย จะมีร้านอาหาร แบบนี้มากกว่า ทางใต้   

                           ภาษาเวียดนาม จะมีสำเนียง แยกเป็นกลุ่มใหญ่ๆๆ คือ สำเนียงเหนือ (Hanoi)ภาคกลาง (Hue,Danang) ภาคใต้ (Ho Chi Minh,Sai gon)    แตกต่างกันไม่มาก แต่ศัพท์บางคำจะเรียกไม่เหมือนกัน


Xin chào ซิน จ่าว = สวัสดี
      บันทึกการเข้า

sound mind in sound body
Tik_PE 22
มือใหม่หัดเมาท์
*


บุญก็ทำ กรรมก็ก่อ วัดก็เข้า เหล้าก็กิน
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 180

« ตอบ #2057 เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2552, 17:45:39 »

ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมซะหลายวัน..
น้อง หะ-ยี ชวนเข้ามาแจม เรื่องเขมร
แต่ตอนนี้ ย้ายจากเขมร ไปเวียดนามซะแหล่ว...
แล้วจะตามทันมั้ยเนี่ย
      บันทึกการเข้า

Tik_PE 22
บุญก็ทำ กรรมก็ก่อ วัดก็เข้า เหล้าก็กิน
พศินน์
Full Member
**

ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2535
คณะ: วิศวฯ
กระทู้: 511

« ตอบ #2058 เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2552, 18:28:42 »

วันนี้เป็นวัน  รำลึก 119 ปี โฮจิมินห์   

สำหรับประชาชนคนไทยแล้ว วันที่ 19 พ.ค.ของทุกปี อาจเป็นวันธรรมดาวันหนึ่ง ที่ไม่มีความสำคัญอะไร แต่สำหรับชาวเวียดนามแล้ว วันนี้ถือเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งที่พวกเขาจะย้อนรำลึกถึง "โฮห์จิมินห์" นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม

สาเหตุที่เลือกเอาวันนี้ เพราะเป็นวันคล้ายวันเกิดของครบรอบ 119 ปี ของโฮจิมินห์ ด้วยเหตุนี้ในวันนี้ของทุกปี เพื่อระลึกถึงท่าน ชาวเวียดนามไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็มักเดินทางไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ ซึ่งตั้งอยู๋ในกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ซึ่งสร้างขึ้นเพื่ออุทิศถึงอดีตผู้นำ และกลุ่มทหารปฎิวัติที่ต้องต่อสู้กับมหาอำนาจ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 2533 หลังท่านโฮจิมินห์เสียชีวิตไปแล้ว 30 ปี


ที่มา
http://www.thairath.co.th/content/life/6982
      บันทึกการเข้า

sound mind in sound body
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #2059 เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2552, 18:34:00 »

อ้างถึง
ข้อความของ Tik_PE 22 เมื่อ 19 พฤษภาคม 2552, 17:45:39
ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมซะหลายวัน..
น้อง หะ-ยี ชวนเข้ามาแจม เรื่องเขมร
แต่ตอนนี้ ย้ายจากเขมร ไปเวียดนามซะแหล่ว...
แล้วจะตามทันมั้ยเนี่ย


ยังตามได้ทันค่ะ  พี่ติ๊ก ..
เวียดนามมั่ง ขแมร์มั่ง .. สลับสับเปลี่ยนกันไป
หรือเรื่องเหนือธรรมชาติมั่ง .. ก็ดีนะคะ

รับรองไม่หลงประเด็น  เพราะยังวนเวียนอยู่ในอินโดจีน !!!
ตามอ่านแล้วได้ความรู้มากเลยค่ะ 
เพราะทั้งพี่ ทั้งน้อง ล้วนแต่มีประสบการณ์ตรง
ได้อารมณ์กว่าการนั่งอ่านหนังสือนำเที่ยวอีก
เพราะเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเหล่านี้ .. เขาไม่เขียนถึง
   

sing
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #2060 เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2552, 19:41:51 »

ถ้าไม่มาอาศัยร่มไม้ใบบังของกระทู้ "แอ่นแอ๊น...เมียงู...แอ่นแอ๊น"
ก็ไม่มีทางฮ๊อทฮิตติดชาร์ตอย่างนี้หร๊อกคร๊าาาบ...
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
แจง-24
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2524
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 10,028

« ตอบ #2061 เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2552, 20:29:23 »

ชอบความเห็นเรื่องเวียตนามของพี่ๆ-น้องๆทุกคน...อ่านสนุก และให้แง่คิดดีจังค่ะ

ขอบคุณพี่หยี ที่หาข้อมูลดีๆมาเปิดประเด็น
"เมียงู" ซีมะโด่งนี่ ช่างทรงภูมิและอินเตอร์ดีจริงๆค่ะ
      บันทึกการเข้า

   อยู่อย่างต่ำ กระทำอย่างสูง
Kaimook
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,132

« ตอบ #2062 เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2552, 22:14:36 »

  หวัดดีค่ะแม่ยอดยาหยี เรื่องเวียดนามดีจริงๆค่ะ
จำได้ว่าเคยเห็นภาพคิมฟลุค แล้วรู้สึกสะเืึทึอนใจจริงๆสงสารเขามากๆค่ะ
 ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ
      บันทึกการเข้า
หนุน'21
Global Moderator
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
*****


ซีมะโด่ง'จุฬาฯ ที่มาของผม
ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: "ครุศาสตร์"
กระทู้: 26,927

« ตอบ #2063 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2552, 08:01:02 »

gek

ขอบจัง  เมียงู... ภาคเกล็ดอินโดจีน...
หลากประเด็น  หลายความเห็น
พี่น้อง เข้ามาคุยกัน
ได้มุมมอง กับ ข้อมูลที่น่าสนใจ
แล้วนานๆ ค่อยแว้ป ...ไป
หาเมียงู...ดั่งเดิม กันทีนึง
กร๊ากกก...


 เหอๆๆ
      บันทึกการเข้า

“สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใต้หล้า ทั้งมิใช่ชื่อเสียง และไม่ใช่ทรัพย์ศฤงคาร หากแต่เป็นน้ำใจระหว่างคน ท่านหากได้มา พึงทะนุถนอมไว้
อย่าได้สร้างความผิดหวังต่อตนเองและผู้อื่น.” “วีรบุรุษสำราญ” “โกวเล้ง”
I-Love-CU
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 705

« ตอบ #2064 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2552, 09:23:04 »

ใครไปอยู่เวียดนาม แต่ไม่ได้ทานของดี ถือว่ายังไปไม่ถึงเด้อ   เหอๆๆ

      บันทึกการเข้า
I-Love-CU
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 705

« ตอบ #2065 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2552, 09:24:20 »

เอาสเต้ก มาแลกก็ไม่ยอม     เค้าไม่ยอม

      บันทึกการเข้า
พศินน์
Full Member
**

ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2535
คณะ: วิศวฯ
กระทู้: 511

« ตอบ #2066 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2552, 10:50:30 »

ขอบคุณพี่ยุทธ สำหรับภาพปลากรอบ...
อ้างถึง
ข้อความของ I-Love-CU เมื่อ 20 พฤษภาคม 2552, 09:24:20
เอาสเต้ก มาแลกก็ไม่ยอม     เค้าไม่ยอม


      บันทึกการเข้า

sound mind in sound body
manopkd
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2067 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2552, 11:07:58 »

อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 19 พฤษภาคม 2552, 14:59:50
เรียน พี่สิงห์

ทำไมจึงชนแก้ว (เบียร์) กับชาวเวียดนามไม่ได้ล่ะคะ ??
เขามีความเห็นต่อวัฒนธรรมชนแก้วอย่างไร ??

ขอบคุณค่ะ 
 

ปิ๊งๆ

สวัสดีค่ะ คุณน้องลูกหยี๋
             คนเวียตนามดื่มเบียร์เป็นน้ำ ชนทีไรต้องหมดแก้ว  คนอย่างพี่สิงห์ ไม่ได้ดื่มเหล้า-เบียร์ จะไปสู้ใครเขาได้ครับ  พี่สิงห์ก็ดื่มเป็นพิธีเท่านั้น ครับ  ส่วน wine สามารถดื่มได้ แต่ไม่เกิน สามแก้วครับ ไม่เหมือนเธอหรอก
      บันทึกการเข้า
พศินน์
Full Member
**

ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2535
คณะ: วิศวฯ
กระทู้: 511

« ตอบ #2068 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2552, 11:10:14 »

        มีเกร็ดเล็กน้อย สำหรับคุณเวียดนาม ที่กำลังสนทนาการ ถ้าเราได้ ยินคู่สนทนา คุย อย่าคิดว่าเขากำลังทะเลาะกัน นะครับ เพราะว่าจะคุยกันเสียงดัง และเถียงหรือ ออกความคิดเห็นแบบ เอาจริงเอาจัง นะครับ , เป็นปกติ ของการสนทนา / คนเวียดนาม โดยส่วนมากจะมีกลิ่นกาย ที่รุนแรงมาก (ไม่แน่ใจว่ามาจากอาหารการกิน หรือว่าสุขอนามัย) ปัจจุบันนี้ไม่แน่ใจว่าเปลี่ยนไปหรือยัง  เรื่องกลิ่นกาย นี้ก็ไม่เว้นสำหรับสุภาพสตรีชาวเวียด นะครับ เธอก็มักจะมีกลิ่นกายที่แรงมาก โคโลญจน์ หรือว่าน้ำหอม คาดว่ายังไม่ได้ใช้แพร่หลาย ในขณะนั้น  , และส่วนหนึ่งพวกเธอเหล่านั้นไม่นิยมกำจัดขนภายใต้วงแขนเท่าไหร่... ก็เลยดูคลาสสิค ไปอีกแบบ หนึ่ง

     ชุดแต่งกายประจำชาติเวียดนาม เรียกว่า ชุดยาว อ๋าว หญ่าย (Ao Dai) อ๋าว แปลว่า เสื้อ, หญ่าย แปลว่า ยาว










      บันทึกการเข้า

sound mind in sound body
manopkd
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2069 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2552, 11:28:22 »

สวัสดีครับ น้องๆชาวเวบที่รักทุกท่าน
                สำหรับเนื้อสุนัข  นั้นเขาก็เคยถามพี่สิงห์ เหมือนกันว่าอยากรับประทานไหม?  พี่สิงห์ตอบเลยไม่ครับและไม่ลองด้วย เพราะมันขัดความรู้สึกครับ  ผมยอมไปไม่ถึงเวียตนามดีกว่า  ขนาดเนื้อแพะ กว่าจะรู้วิธีรับประทาน  วิธีย่าง  ผมก็เกือบจะไม่รับประทานอยู่แล้ว  คือว่าอย่างนี้ครับ อาหารอะไรก็ตามที่มีกลิ่น  ที่เกิดจากการหมัก เช่น แหนม  ปลาหล้า  ปูดอง  ซึ่งมีกลิ่นตุๆ ร่างกายพี่สิงห์มันไม่รับเลยครับ  ก็เลยเป็นคนที่กินอยากก็ว่าอยาก  กินง่ายก็ว่าง่ายครับ
                มีครั้งหนึ่งผมถามเจ้าหน้าที่ SCT เวียตนาม ที่เป็นชาวเวียตนาม ว่า ผมอยากกินแหนมเนืองเวียตนามแท้ๆ ครับ ปรากฎว่าในสมัยนั้น แหนมเนืองสำหรับชาวเวียตนามเป็นอาหารที่บุคคลธรรมดา  จะไม่รับปรัทานกันครับ เพราะมันทำจากเนื้อหมู  และเนื้อหมูในเวลานั้นมันแพงมาก คนเวียจนามไม่มีสตางค์เพียงพอที่จะมาซื้อเนื้อหมูรับประทานครับ  นอกจากวาระพิเศษจริงๆ เท่านั้น จากที่ผมบอกคนทั่วไปนิยมจะรับประทานผัก-ปลา เท่านั้น ครับ เพราะราคาถูกมากๆ   ปรากฎว่ากว่าจะหาร้านแหนมเนืองเจอนานมาก เป็นร้านห้องแถว  คนแน่นมากและขายดีมาก ดูภายนอกไม่ค่อยสะอาดแต่อร่อยมากครับ เป็นร้านที่ทาง SCT เวียตนาม  พาคนไทยมารับประทานประจำครับ (SCT เวียตนาม คือ บริษัทปูนซีเมนต์ไทยสาขาเวียตนาม  ที่มีหน้าที่ขายสินค้าเครือปูนซีเมนต์ไทย และซื้อสินค้าให้เครือซีเมนต์ไทย ครับ)
               รุ่งขึ้นอีกวัน  ผมก็บอกเขาว่าผมอยากรับประทานขนมเบื้องเวียตนามครับ  เขาก็พาไป ทีแรกนึกว่าเป็นอาหารรับประทานเล่นๆ แบบเมืองไทย  ที่ไหนได้ ภายหลังจากสั่งแล้ว เขาเสริฟจากใหญ่มากเท่าจานเปล เป็นอาหารจากหลัก และมีผักให้เป็นเครื่องเคียง รสชาติสู้ทำในเมืองไทยไม่ได้  และเท่าที่ดู ร้านขนมเบื้องเวียตนาม  คนไม่ค่อยรับประทาน คือ ขายไม่ดี แต่ตกแต่งร้านดูสะอาดมากครับ ขอเวลารับประทานอาหารกลางวันก่อนครับ  เช่นเคยวันนี้พี่สิงห์ต้องเดินทางไปนครศรีธรรมราช เลยหุงข้าวกลางวันรับประทานเอง ทำแกงจืดเห็ดโคน รับประทานกับข้าวร้อนๆ ครับ ก็อิ่มได้ครับ
      บันทึกการเข้า
manopkd
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2070 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2552, 11:31:45 »

จริงด้วยครับ
                 ในสมัยนั้นชาวเวียตนามกลิ่นตัวแรง  ยกตัวอย่าง เสื้อผ้า คนไทยนิยมใส่วันละชุด  แต่คนเวียตนามที่พี่สิงห์ไปพบ รวมถึง พนักงาน STC เวียตนาม เสื้อผ้าเขาใส่ชุดละไม่ต่ำกว่าสองถึงสามวันครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #2071 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2552, 12:12:34 »

อ้างถึง
ข้อความของ I-Love-CU เมื่อ 20 พฤษภาคม 2552, 09:23:04
ใครไปอยู่เวียดนาม แต่ไม่ได้ทานของดี ถือว่ายังไปไม่ถึงเด้อ   เหอๆๆ


อ้างถึง
ข้อความของ I-Love-CU เมื่อ 20 พฤษภาคม 2552, 09:24:20
เอาสเต้ก มาแลกก็ไม่ยอม     เค้าไม่ยอม




เอาสเต๊ก มาแลก ก็ไม่ยอม

ไม่ต้องไปทานถึงเวียตนามหรอกครับ
เนื่องจากเคยรับน้องที่เป็นเทคนีเชี่ยนชาวนครพนมซึ่งจบวิทยาลัยเทคนิคนครพนม ไปช่วยงานเกือบ 5 ปี
ซึ่งพื้นที่จังหวัดนครพนมคุ้นเคยกับหมาย่าง และแมวย่างครับ
เมื่อไปอยู่นครสวรรค์ เขาก็ยังปรุงรับประทานกันช่วงหน้าหนาวเป็นประจำ ดูแล้วน่าทานเป็นอย่างยิ่ง

เขาเลือกลูกหมาไทยอายุ 4 – 8 เดือน อ้วนท้วนสมบูรณ์ เขาว่าหมาไทยรูปร่างสวยน่าทาน?Huh?
จับตัวเป็นๆ มัดขาหน้า-ขาหลัง ผูกเชือกยาวๆแล้วโยนลงน้ำสักยี่สิบนาทีถึงครึ่งชั่วโมง แล้วดึงเชือกขึ้นมา
เขาบอกว่าหมามันจะสำลักน้ำและช่วงนั้นมันจะถ่ายของเสียออกจนหมด
ลำใส้ใหญ่จะสะอาดมาก เหมาะไปทำต้นแซบ-อร่อยมาก
แล้วนำตัวขึ้นผึ่งแดดให้ขนแห้ง เอาย่างไฟให้ขนไหม้เกรียมสักนิด แล้วขูดขนและหนังออก
ตัวจะขาวออกเหลืองๆ ย่างไฟต่ออีกสักพักตัวจะเหลืองแบบที่เห็นเลยครับ(เสียดายไม่คิดถ่ายภาพไว้)
จากนั้นจะผ่าท้องเพื่อเอาเครื่องในออกทั้งหมด โดยกลวงช่องทวารหนักให้เป็นรูขนาดใหญ่ตามภาพ
เอาเครื่องใน เช่น ปอด ตับ หัวใจ ม้าม  กระเพาะใส้ใหญ่ต้มกับตระไคร้ ใบมะกรูด ข่า หนึ่งน้ำดับคาว
หั่นเป็นชิ้นๆ ขนาดพอคำแล้วต้มใหม่พร้อมเครื่องชูรสเป็นต้มแซบ
ใส้อ่อนต้มลวกจิ้มซีอิ้วครับ คนไทยทานกับข้าวสวย หรือไม่ก็เป็นกับแกล้มเหล้า เขาว่าแก้หนาว
ส่วนตัวเมื่อย่างจนเหลืองแล้ว ก็อยู่ได้นานหน่อย จะสับชิ้นส่วนไหนไปผัด ย่าง แกง อร่อยทั้งนั้นครับ
ชาวเวียตนามชอบทานเนื้อ หรือแกงหมากับขนมจีนครับ เขาว่าคู่กัน อร่อยมาก พร้อมๆกับผักต้ม
แมว (ไม่เคยเห็นเขาทำ) หมาก็เหมือนกับหมูน้อยธรรมดา ที่เราทานกันอยู่ประจำนั่นเอง
..ว่าแต่หิวหรือยังครับ..จะลองสักคำมั๊ย?Huh? แล้วจะติดใจ

ปัจจุบันคนเวียตนามสมบูรณ์เพราะมีเนื้อบริโภค ไม่เหมือนแต่ก่อนที่ทานผักทานปลามากกว่า
เชื่อว่าต่อไปเราจะได้เห็นคนเวียตนามอ้วน ทรงสวยๆแบบปัจจุบันละลดลงไปมาก
เหมือนกับอดีตเรามีเอว 22-23 นิ้ว แต่เดี่ยวนี้ 25-26-27-28 จนจับเอวไม่เจอแล้วครับ?Huh?
เพราะฉะนั้นดูภาพสาวเวียตนามสวยๆ เอวบางๆไว้ ต่อไปอาจไม่ได้เห็นแล้วครับ
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #2072 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2552, 17:04:23 »

อ้างถึง
ข้อความของ manopkd เมื่อ 20 พฤษภาคม 2552, 11:07:58
สวัสดีค่ะ คุณน้องลูกหยี
             คนเวียตนามดื่มเบียร์เป็นน้ำ ชนทีไรต้องหมดแก้ว 
คนอย่างพี่สิงห์ ไม่ได้ดื่มเหล้า-เบียร์ จะไปสู้ใครเขาได้ครับ 
พี่สิงห์ก็ดื่มเป็นพิธีเท่านั้น ครับ  ส่วน wine สามารถดื่มได้ แต่ไม่เกิน สามแก้วครับ
ไม่เหมือนเธอหรอก

สวัสดีค่ะ  พี่สิงห์

หะยีขอสารภาพความจริงนะคะ
หะยีก็ไม่ได้เป็นคนดื่มเก่งอะไรหรอกค่ะ
แต่ละครั้งก็จะดื่ม wine ไม่เกิน 2 แก้ว และชอบดึงไว้นาน ๆ (ไม่ยอมเติม)

ที่กล่าวถึงตัวเองในเว็บนี้เกี่ยวกับเครื่องดองของเมา
รวมทั้งการแอ๊คท่าถ่ายรูปเพื่อแสดงในเว็บนี้นั้น
หากเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จะทราบค่ะว่า 
เราทำท่าเล่นสนุก ๆ กัน

แท้จริงแล้ว  หะยีก็ไม่ได้เป็นคนขี้เหล้าเมายาเหมือนภาพที่ปรากฎในเว็บนี้นะคะ
หะยีคงเป็นเพียงไม่กี่คน  ที่สนุกกับการสร้างภาพทางลบให้กับตัวเอง..

คริคริ ..

      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
หนุน'21
Global Moderator
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
*****


ซีมะโด่ง'จุฬาฯ ที่มาของผม
ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: "ครุศาสตร์"
กระทู้: 26,927

« ตอบ #2073 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2552, 17:13:06 »

อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 20 พฤษภาคม 2552, 17:04:23
อ้างถึง
ข้อความของ manopkd เมื่อ 20 พฤษภาคม 2552, 11:07:58
สวัสดีค่ะ คุณน้องลูกหยี
             คนเวียตนามดื่มเบียร์เป็นน้ำ ชนทีไรต้องหมดแก้ว 
คนอย่างพี่สิงห์ ไม่ได้ดื่มเหล้า-เบียร์ จะไปสู้ใครเขาได้ครับ 
พี่สิงห์ก็ดื่มเป็นพิธีเท่านั้น ครับ  ส่วน wine สามารถดื่มได้ แต่ไม่เกิน สามแก้วครับ
ไม่เหมือนเธอหรอก

สวัสดีค่ะ  พี่สิงห์

หะยีขอสารภาพความจริงนะคะ
หะยีก็ไม่ได้เป็นคนดื่มเก่งอะไรหรอกค่ะ
แต่ละครั้งก็จะดื่ม wine ไม่เกิน 2 แก้ว และชอบดึงไว้นาน ๆ (ไม่ยอมเติม)

ที่กล่าวถึงตัวเองในเว็บนี้เกี่ยวกับเครื่องดองของเมา
รวมทั้งการแอ๊คท่าถ่ายรูปเพื่อแสดงในเว็บนี้นั้น
หากเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จะทราบค่ะว่า 
เราทำท่าเล่นสนุก ๆ กัน

แท้จริงแล้ว  หะยีก็ไม่ได้เป็นคนขี้เหล้าเมายาเหมือนภาพที่ปรากฎในเว็บนี้นะคะ
หะยีคงเป็นเพียงไม่กี่คน  ที่สนุกกับการสร้างภาพทางลบให้กับตัวเอง..

คริคริ ..



 เหอๆๆ

กร๊ากกกก....กก

พี่สิงห์ คร้าบบบ
มีสองหูใช่มั๊ย

จิ๋ยยย


 เหอๆๆ
      บันทึกการเข้า

“สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใต้หล้า ทั้งมิใช่ชื่อเสียง และไม่ใช่ทรัพย์ศฤงคาร หากแต่เป็นน้ำใจระหว่างคน ท่านหากได้มา พึงทะนุถนอมไว้
อย่าได้สร้างความผิดหวังต่อตนเองและผู้อื่น.” “วีรบุรุษสำราญ” “โกวเล้ง”
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #2074 เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2552, 20:12:09 »

มีสองหู  นี่หมายความฟังน้องหะยีแล้วต้อวฟังหูไว้หูหรอ
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
  หน้า: 1 ... 81 82 [83] 84 85 ... 1883   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><