23 พฤษภาคม 2567, 10:11:18
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 77 78 [79] 80 81 ... 131   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: [2513] "ซำบายดีพี่แอ๊ะ ๑๓"  (อ่าน 722258 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #1950 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2553, 19:23:02 »

ชอบรูปนี้มากค่ะ ต้องถือโอกาส อวดพี่ ๆ น้องๆค่ะ

      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #1951 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2553, 19:25:21 »

รูปนี้ ก็ไม่ธรรมดา

คนยโส หยิ่ง แต่ชอบร้องรำทำเพลงค่ะ

      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #1952 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2553, 19:29:13 »

ดู พ่อใหญ่ท่านนี้ที่ท่านรักยโส มาก ท่านชื่อ ไอ วา ตะ ค่ะ

เป้นคนรวยของญี่ปุ่นเลยค่ะ มีโรงงานอะไรเยอะเเยะไปหมด

ตอนเราไปต้อนรับเราอย่างสุดๆๆๆๆๆๆๆๆ

      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #1953 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2553, 19:30:51 »

การแสดงรำมวย ของโรงเรียนกีฬาของอบจ.พี่แอ๊ะ ค่ะ

      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #1954 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2553, 19:35:34 »

สส. หญิงของยโสธร

แปลกใจไหมถ้าจะบอกว่า ยโสธรมีสส.พรรคประชาธิปัตย์ค่ะ



คงไม่ต้องสงสัยนะ ว่าเพราะพี่แอ๊ะอยู่ยโสธร ยโสธรจึงต้องมี ปชป.

บ้านนี้อย่ามา  กวน เลือก "ชวน" กันหมดทั้งบ้าน (คือป้าย หน้าบ้านที่ ประชาชน ติดที่จังหวัดตรังค่ะ)

บ้าน นี้ แดง อย่า มาว๊าก... เพราะรัก มาร์ค สุดหัวใจ


ปล. น้องดร.มนตรี เข้าบ้านนี้ได้ค่ะ เพราะไม่ใช่แดงเต็มพิกัดดดดดดดดดดดดดดดดด
5555555555555555555555555
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #1955 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2553, 19:41:32 »

ดูรูปนี้ให้หายเซ็งการเมือง นะเหยงนะ

      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #1956 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2553, 19:42:07 »

สวัสดีค่ะ
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
หนุน'21
Global Moderator
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
*****


ซีมะโด่ง'จุฬาฯ ที่มาของผม
ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: "ครุศาสตร์"
กระทู้: 26,927

« ตอบ #1957 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2553, 19:48:33 »


ขอบคุณมากครับพี่แอ๊ะ
ที่นำเรื่องดีๆ น่ารักๆ มาเปลี่ยนบรรยากาศ
ตามอ่านตามดูเพลินไปเลยครับ


 หลั่นล้า หลั่นล้า

 รักนะ
      บันทึกการเข้า

“สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใต้หล้า ทั้งมิใช่ชื่อเสียง และไม่ใช่ทรัพย์ศฤงคาร หากแต่เป็นน้ำใจระหว่างคน ท่านหากได้มา พึงทะนุถนอมไว้
อย่าได้สร้างความผิดหวังต่อตนเองและผู้อื่น.” “วีรบุรุษสำราญ” “โกวเล้ง”
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #1958 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2553, 19:53:22 »

อ้างถึง
ข้อความของ mek เมื่อ 10 พฤษภาคม 2553, 18:52:59
ู^
^
^
อ้าว ไม่ทัน  เหนื่อย 5555

น้องหมอเมฆ


ไม่ทันใครคะ ฉีเเดงเหยอออออออออออ
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
หนุน'21
Global Moderator
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
*****


ซีมะโด่ง'จุฬาฯ ที่มาของผม
ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: "ครุศาสตร์"
กระทู้: 26,927

« ตอบ #1959 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2553, 19:55:07 »



จิ๊ จิ๊ แต่พอกลับไปนึกถึงข่าวที่พี่เหยง เอามาให้อ่าน
หงุดหงิดอีกแย้วววว....ครับพี่
เมื่อไรไอ่...เศษแดง เศษดำ จะทำลูกระเบิดในกระเป๋ามันหล่นใสตรีนตัวมันเองไม่รู้เน๊าะ
คนอะไร...แลวได้สมบูรณ์แบบจริงๆ


 จ๊าากกก จ๊าากกก
      บันทึกการเข้า

“สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใต้หล้า ทั้งมิใช่ชื่อเสียง และไม่ใช่ทรัพย์ศฤงคาร หากแต่เป็นน้ำใจระหว่างคน ท่านหากได้มา พึงทะนุถนอมไว้
อย่าได้สร้างความผิดหวังต่อตนเองและผู้อื่น.” “วีรบุรุษสำราญ” “โกวเล้ง”
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #1960 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2553, 20:00:38 »

อ้างถึง
ข้อความของ mek เมื่อ 10 พฤษภาคม 2553, 18:52:29
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 10 พฤษภาคม 2553, 18:32:23
ซิกแพค

แปลว่า หยังคะ หนูน้อย

พอดีผ่านมาครับ ขออนุญาตตอบแทนพี่ ดร.มนตรี นะครับ ว่า ซิกแพค ก็คือกล้ามเนื้อหน้าท้องครับคนที่รูปร่างเฟิร์มจะนับได้ 6 ลูกครับ เอ่อ ไม่รู้จะเป็นอะไรมั้ยครับถ้าผมจะบอกว่าพี่หาญยังดูรูปร่างดีอยู่มากเลยครับ ผมอายุ 30 ตอนนี้แผละไปทั้งตัวพุงกลมเชียวครับ

 น้องหมอเมฆคะ

ตายเเย้ววววว พี่แอ๊ะยังไม่ทราบเลย ว่าพี่หาญแกมี ซิกแพค หรือ six package ของน้องya

พี่หาญแก sit up  ทุกวัน ยกตุ้มน้ำหนัก ก่อนนอน และตื่นนอน ค่ะ

บางทีพี่แอ๊ะกลัวแกจะเอาลูกตุ้มใส่หัวพี่แอ๊ะด้วยค่ะ

คนอาราย ไม่ทันสมัยยย ไม่มีพุงน่ะ
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #1961 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2553, 20:03:38 »

น้องหนุนคะ  ฟัง มันประกาศ เรด แมป แล้ว

อยากอ๊วกกกกกกกกกกกกกก

คน ชั่วช้า กลายเป็นวีระชน เป็นพระเอก ของ red rally ไปได้


โลกหนอโลกกกกกกกกกกกกกก

มันหาทางลง ให้สวยๆๆๆๆน่ะ

กิน ขี้ บี้ เยี่ยว โดยมีโล่มนุษย์ ห้อมล้อม อย่างขาดอิสรภาพอยู่นานๆ

มันก็อึดอัดเต็มทีแล้ว เเถมเงินก็ได้เยอะจนเป็นอาเสี่ยกันหมดเเล้ว

มันต้องยอม เพราะเด่วไม่มีเวลาใช้เงิน

สำหรับวีระ เขาคงอนุญาตให้ลี้ภัยการเมืองไปอยู่กับเมีย ดาวรามคำแหงได้


เพราะอ่อนข้อมากที่สุด เวลาเดินมาขึ้นเวที ข้ออ่อนจนต้องถ่อไม้เท้าแล้ว ไปพักผ่อนซะดีๆๆ พี่วีระเอ๋ยยยยยยยยยยยย

ว่าแต่ว่าพ่อใหญ่จิ่ว หายไปไหนน่ะ หลังจากหน้าเเตกใส่ชุดทหารสีเขียว ยามแก่

ไปพบนายกและเขาไม่ออกมาพบน่ะ

ไม่มีหน้าจะเสียแล้ว พ่อใหญ่เอ๊ยยยยยยยยยย55555555555555555555555
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #1962 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2553, 20:41:51 »

ปล. น้องๆคะ

พี่หาญบอกให้พี่แอ๊ะรีบแก้ข่าวค่ะ


ลูกตุ้ม ที่พี่แอ๊ะบอกว่าพี่แกยก ทั้งเช้าและก่อนนอน

คือ ดรัมเบลล์ค่ะ

พีหาญบอกว่า พี่แอ๊ะ รู้เรื่องไปหมด ทุกเรื่อง แต่ไม่รู้จัก ดรัมเบลล์

เเถมไปเรียกว่า ลูกตุ้ม พี่หาญอ๊ายยยยยยอายค่ะ

ไม่โป๊ และไม่เปลือยนะคะ 5555555555555555
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #1963 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2553, 21:12:59 »

อ๊าววววววว

น้องดร.มนตรี คิดว่ากลับบ้านแล้ว อุตส่าห์นินทา แฮ่ะๆๆๆๆๆ

รักดอกจึงหยอกเล่น

คนบ้านเดียวกันนนนนนนนนนนน
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #1964 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2553, 21:15:20 »

อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 10 พฤษภาคม 2553, 21:12:59
อ๊าววววววว

น้องดร.มนตรี คิดว่ากลับบ้านแล้ว อุส่าห์นินทา แฮ่ะๆๆๆๆๆ

รักดอกจึงหยอกเล่น

คนบ้านเดียวกันนนนนนนนนนนน



ฮ่าๆๆ ถึงบ้านแล้วครับพี่แอ๊ะ ... นินทาไม่ว่า ด่าก็ไม่บ่น  เพราะเคารพพี่แอ๊ะมากมาย ^_^


เทกแคร์ครับ  เดี๋ยวว่างๆมาติดตามใหม่ ครับ  ^_^
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1965 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2553, 21:38:42 »

นปช แถลงว่า พรุ่งนี้ 08.00 น. จะสลายการชุมนุมครับ

แต่...อย่าเพิ่งวางใจคืนนี้ จะมีอะไรเกิดขึ้นอีกหรือเปล่า ที่เป็นเหตุให้มีการชุมนุมต่อไปอีก




ยังไม่ทันข้ามชั่วโมง.....แววว่า นปช "เบี้ยวแล้ว"
      บันทึกการเข้า
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #1966 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2553, 07:06:19 »

อ้างถึง
ข้อความของ ดร.มนตรี เมื่อ 10 พฤษภาคม 2553, 21:15:20
อ้างถึง
ข้อความของ prapasri AH เมื่อ 10 พฤษภาคม 2553, 21:12:59
อ๊าววววววว

น้องดร.มนตรี คิดว่ากลับบ้านแล้ว อุส่าห์นินทา แฮ่ะๆๆๆๆๆ

รักดอกจึงหยอกเล่น

คนบ้านเดียวกันนนนนนนนนนนน


ขอบคุณน้องดร.มนตรี ที่ยังเคารพ พี่แอ๊ะ
พี่แอ๊ะก็เคารพดร.มนตรี
เเสดงว่ามีความเป็นประชาธิปไตย
สามารถแสดงความคิดเห็นได้

เห็นใจ ที่ต้องเคารพพี่ เคารพพี่ พี่ผู้มีอาวุโสจากจุฬา

แต่ จะไม่เคารพบ้างในบางความคิดก็ได้นะคะ

พี่แอ๊ะใจกว้างค่ะ แต่แอบนินทา ดร.มนตรี จี๋แดงบ้าง ไม่ว่ากันนะ แฮะๆๆๆๆๆ


ฮ่าๆๆ ถึงบ้านแล้วครับพี่แอ๊ะ ... นินทาไม่ว่า ด่าก็ไม่บ่น  เพราะเคารพพี่แอ๊ะมากมาย ^_^


เทกแคร์ครับ  เดี๋ยวว่างๆมาติดตามใหม่ ครับ  ^_^
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #1967 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2553, 07:44:29 »

สวัสดีค่ะ  พี่แอ๊ะ ..


ไม่ได้เข้ามา 1-2 วันเท่านั้น .. แม่ไม้มวยไทย เอ๊ย ศิลปะวัฒนธรรมไทยออกสู่สายตาชาวโลกเพียบ
ขอบคุณที่นำภาพมาให้ได้ชมกันค่ะ

คนไทยน่ารักนะคะ ..
ไม่เหมือนใครในโลก
ยามศึกเราช่วยกันรบ  ยามสงบเรามาตีกันเอง


ฮิ้ววววววววววววววววววววววว ..     เหอๆๆ





ปล. พี่แอ๊ะน่ารักมากนะคะ    รักนะ   .. ขอบอก 
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1968 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2553, 09:08:07 »

บทบรรณาธิการ นสพ. แนวหน้าออนไลน์ วันอังคารที่ 11 พฤษภาคม 2553

บทบรรณาธิการ 
 
หมดเวลาเจรจาแกนนำเสื้อแดง (บทบรรณาธิการ) 
 
 
    หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้ประกาศแผนสร้างความปรองดองในชาติด้วยการยอมรับหลักการที่จะยุบสภาในช่วงครึ่งหลังของเดือนกันยายนและกำหนดวันเลือกตั้งคร่าวๆในวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ พร้อมกับมาตรการ 5 ข้อตามแผนสร้างความปรองดอง แต่บรรดาแกนนำม็อบคนเสื้อแดงกลับพยายามสร้างเงื่อนไขต่อรองดึงเกมซื้อเวลาไม่ยอมสลายการชุมนุมหลังยึดพื้นที่ย่านราชประสงค์เป็นเวทีปักหลักชุมนุมยืดเยื้อมานานเกือบ 2 เดือน

    แกนนำม็อบคนเสื้อแดงพยายามเล่นแง่ตั้งเงื่อนไขมาตลอดเพื่อใช้เป็นข้ออ้างไม่สลายการชุมนุมและสร้างข้อเรียกร้องต่อรองเพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลาโดยล่าสุดต้องการให้มีการดำเนินคดีกับนายกฯอภิสิทธิ์และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงในกรณีสั่งสลายการชุมนุมม็อบเสื้อแดงเมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมาจนเป็นเหตุให้มีทหารและประชาชนเสียชีวิต 25 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 800 รายจนทำให้แผนสู่ความปรองดองอาจล้มเหลว

    ทั้งนี้หนึ่งในเป้าหมายที่แท้จริงซึ่งบรรดาแกนนำคนเสื้อแดงเรียกร้องในก็คือต้องการให้รัฐบาลรับปากหากมีการสลายการชุมนุมก็คือ ต้องให้แกนนำคนเสื้อแดงทั้ง 25 คนที่ถูกออกหมายจับก่อนหน้านี้ซึ่งในจำนวนนี้9คนถูกตั้งข้อกล่าวหาร้ายแรงฐานร่วมในกลุ่มก่อการร้ายและคิดล้มล้างสถาบับเบื้องสูงต้องได้รับการประกันตัวในทันทีหลังถูกควบคุมตัว

    นอกจากนี้ขณะที่แกนนำม็อบคนเสื้อแดงด้านหนึ่งรับปากว่าเห็นด้วยกับกระบวนการสร้างความปรองดอง แต่อีกด้านหนึ่งกลับระดมเกณฑ์มวลชนจากต่างจังหวัดเข้ามาสมทบการชุมนุมที่ย่านราชประสงค์เพื่อสร้างอำนาจต่อรองและเตรียมไม้จำนวนมากเพื่อก่อสร้างเป็นพื้นรองนั่งสำหรับปักหลักชุมนุมยืดเยื้อไปจนถึงฤดูฝน

    ที่สำคัญบรรดาแกนนำม็อบคนเสื้อแดงยังคงรับคำสั่งจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเจ้าของม็อบเสื้อแดงตัวจริง ซึ่งล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณ แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับแผนสร้างความปรองดองของฝ่ายรัฐบาล โดยมองว่าเป็นเพียงเกมที่ต้องการจะสลายม็อบคนเสื้อแดงให้ได้โดยเร็วที่สุดเท่านั้น

    นอกจากนี้ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง หัวหน้าหน่วยรบและหนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดง รวมทั้งกลุ่มฮาร์ดคอร์คนเสื้อแดงต่างก็ออกมาแสดงท่าทีแข็งกร้าวต่อต้านแผนสร้างความปรองดองและไม่เห็นด้วยที่ม็อบเสื้อแดงจะสลายการชุมนุมตามแรงกดดันของฝ่ายรัฐบาล

    จากท่าทีของบรรดาแกนนำคนเสื้อแดงข้างต้นชี้ให้เห็นถึงความไม่เป็นเอกภาพและส่อเจตนาขาดความจริงใจที่จะเข้าร่วมกระบวนการปรองดองอย่างแท้จริง โดยพยายามเล่นเกมตีสองหน้าต่อรองซื้อเวลา เพื่อรอคอยโอกาสที่จะสร้างสถานการณ์รุนแรงรอบใหม่หวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างฉับพลัน ขณะที่ชาติบ้านเมืองเสียโอกาสจากความหายนะอันเกิดจากการชุมนุมของม็อบคนเสื้อแดงมามากเกินพอแล้ว

    ดังนั้นขณะนี้น่าจะหมดเวลาแล้วสำหรับการเจรจาระหว่างรัฐบาลกับบรรดาแกนนำคนเสื้อแดง โดยรัฐบาลควรเดินหน้าบังคับใช้กฏหมายสลายการชุมนุมของม็อบเสื้อแดงเพื่อทวงคืนพื้นที่ย่านราชประสงค์และจับกุมดำเนินคดีกับกลุ่มก่อการร้ายที่คิดกบฏล้มล้างสถาบันเบื้องสูงที่แฝงตัวอยูในม็อบคนเสื้อแดงอย่างจริงจังเสียที 
 
วันที่ 11/5/2010
 
http://www.naewna.com/news.asp?ID=210591
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1969 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2553, 09:10:28 »

บทบรรณาธิการ นสพ. ไทยโพสต์

ใครก็ได้ ช่วยจับ"เสธ.แดง"ที
บทบรรณาธิการ 11 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     ได้ฟัง พล.อ.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม ออกมายืนยันว่าไม่เคยปล่อยปละละเลยกับการเอาผิดกับ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง "เราดำเนินการตามขั้นตอนมาตลอด" แล้ว รู้สึกอเนจอนาถใจที่ขั้นตอนของกองทัพไทยมันช่างยาวนาน นานเสียจนลืมไปแล้วว่าจุดเริ่มต้นอยู่ตรงไหน

     เสธ.แดงยังเป็นคนของกองทัพ รับเงินเดือนจากภาษีประชาชน แต่งชุดทหารติดยศนายพล เดินเข้า-ออกพื้นที่ชุมนุมของคนเสื้อแดงแทบทุกวัน สอนให้ผู้ชุมนุมใช้อาวุธต่อต้านรัฐ ไม่ใช่เพิ่งมาทำในวันนี้ แต่ทำมานานแล้ว กองทัพก็ปล่อยปละละเลยให้เสธ.แดง กลายเป็นภัยความมั่นคงของประเทศ มีผู้ล้มตายจากการใช้อาวุธสงครามมานับไม่ถ้วนแล้ว

     ที่น่าเจ็บใจคือเสธ.แดง มีหมายจับติดตัว แต่สามารถเดินทางไปไหนก็ได้ เข้า-ออกพื้นที่ชุมนุมเป็นว่าเล่น ทั้งๆ ที่มีด่านทหาร-ตำรวจรอบๆ พื้นที่ชุมนุม แต่การบังคับใช้กฎหมายกับเสธ.แดง ไม่เคยเป็นผล ราวกับว่าเสธ.แดง สามารถหายตัวได้

     นับแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา  ในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ตอกย้ำว่า เสธ.แดงอยู่ในขบวนการล้มโรดแม็พปรองดอง โดยรับคำสั่งมาจาก น.ช.ทักษิณ ชินวัตร ทางกองทัพก็น่าจะมีแอคชั่นออกมา แต่กลับเงียบฉี่ ซ้ำร้าย เสธ.แดงยังไปโชว์ในพื้นที่ชุมนุมอีกต่างหาก

     นอกจากคำพูดของนายกรัฐมนตรีไม่มีความหมายใดๆ แล้ว กองทัพยังทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน ประชาชนเกิดความคับข้องใจว่า รัฐบาล และกองทัพ รวมทั้งตำรวจกำลังทำอะไรกันอยู่ แค่เสธ.แดงคนเดียวไม่สามารถจัดการได้ ในขณะที่บทบาทของเสธ.แดงต่อการชุมนุมของคนเสื้อแดงนั้น มีนัยสำคัญขึ้นเรื่อยๆ

     วันนี้เสธ.แดงได้กลายเป็นวีรบุรุษของมวลชนคนเสื้อแดง เขาสามารถกุมหัวใจคนเสื้อแดงได้ เพราะมีบุคลิกเป็นนักสู้ พร้อมที่จะรบกับฝ่ายตรงข้ามตลอดเวลา แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นจะเป็นคนไทยด้วยกันก็ตาม ก่อนที่เสธ.แดงจะมีบทบาทไปมากกว่านี้ ซึ่งแน่นอนหนทางไปสู่การนองเลือดอยู่ไม่ไกลแน่ ทางกองทัพต้องแสดงความรับผิดชอบจัดการคนของตัวเองเสียให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด

     ที่ผ่านมาเหมือนคนในกองทัพไม่กล้าแตะเสธ.แดง แม้กระทั่งพล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ไม่ใคร่จะใส่ใจสิ่งที่เสธ.แดงได้ดำเนินการมาตลอด นับแต่การฝึกนักรบพระเจ้าตาก การวิจารณ์กองทัพและวิจารณ์รัฐบาล รวมทั้งยังพบปะติดต่อกับนักโทษอาญาแผ่นดิน น.ช.ทักษิณ ชินวัตร อยู่ตลอดเวลา กองทัพทำเหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติธรรมดา กระทั่งวันนี้ได้พัฒนามากลายเป็นปัญหาด้านความมั่นคงของประเทศแล้ว

     กองทัพจะเอาอย่างไร จะไล่ออก ให้ออก หรือจะเชิญให้เสธ.แดงรับราชต่อไปจนเกษียณอายุราชการ ควรตอบมาให้ชัด อย่าสักแต่เลี่ยงบาลี ทำเป็นธุระไม่ใช่ ชิ่งหนีไปวันๆ อย่าให้ประชาชนต้องลงมือจับเสธ.แดง รุมกระทืบในชุดนายพลเลยมันจะเสียความรู้สึกกันเปล่าๆ.

http://www.thaipost.net/news/110510/22035
      บันทึกการเข้า
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #1970 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2553, 09:10:58 »

น้องหะยีคะ
คิดถึงน้องหะยี ใจจะขาดเเล้วเอย

กำลังจะตามหา ว่าหายไปไหน


ยามสงบเราก็ตีกันเองงงงงงงงงง
ต้องช่วยกันมาตี นะคะ


ตีจี๋แดงงงงงงงงงง ให้วายวอด

กลัวเเต่เสธ บ้า แกเอาระเบิด ปาบ้านปาเมืองน่ะ

แกไม่น่าเกิดเป็นคนโพธราราม ราชบุรีเลย

ปกติคนราชบุรี จะใจดี

ถามพี่แก้ว ดูก็ได้

คนราชบุรี จะมีลักษณะเย็นๆ ใจดีเหมือนพี่แก้ว ปรีชา น่ะค่ะ

เพื่อรุ่นพี่หาญบอก ว่าเสธบ้านี้ มันบ้าตั้งแต่เรียน โพธาวัฒนเสนีย์แล้วค่ะ


เสียดายไม่ได้อยู่วัด ที่โพธารามกะพี่หาญ ไม่งั้นพี่หาญคงเตือนมันได้บ้างงงงงงงงงงง

      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1971 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2553, 09:15:29 »

คอลัมม์ "คนปลายซอย" ของคุณเปลว สีเงิน

ลีลา"เอาม็อบลง"ของคณะ ๓ เกลอ
เปลว สีเงิน 11 พฤษภาคม 2553 - 00:00

             ไม่ทราบว่าเย็นวาน (๑๐ พ.ค.๕๓) ท่านได้ดู-ได้ฟังการประกาศ "เรดแม็พ" ของคณะแกนนำกบฏ "ตอบรับ" โรดแม็พของรัฐบาลหรือเปล่า ผมไม่ได้ดู แต่ได้ฟังเสียงจากเวทีราชประสงค์ สรุปในหลักการว่า "โอเค ยุติการชุมนุม" แต่ด้วยภาวะคนกรุง "ประสาทหลอน" มาร่วม ๒ เดือน ถึงจะจูบปากกันแล้วก็เถอะ แต่ตราบใดที่ตูดผู้ชุมนุมยังไม่ขยับพ้นไปจากราชประสงค์...ใครก็ยากจะปักใจเชื่อ!

             แต่ก็มีส่วนเป็นอย่างนั้นอยู่นะ เพราะที่ว่าบรรดาแกนนำกบฏมีมติเป็นเอกฉันท์ ยอมรับเลือกตั้งใหม่ที่ ๑๔ พ.ย.๕๓ จะยุบสภาระหว่างวันที่ ๑๕-๓๐ ก.ย.เข้าสู่กระบวนการปรองดองกับรัฐบาลก็จริง แต่ "ลูกผู้ชายย่อมไม่ไร้พิษ" เรื่องจะตกลงกันง่ายๆ เห็นจะยาก

            คือ ถึงจะยอมรับเงื่อนไข แต่ก็ "ยักศอก" เป็นเงื่อนไขกลับไปให้รัฐบาลทำเป็นการบ้านเหมือนกัน แต่ก่อนจะคุยในรายละเอียด ผมว่า เรามาอ่านถ้อยแถลงที่นายณัฐวุมิ ใสยเกื้อ เป็นผู้อ่านก่อนดีกว่า เพราะมี "เงื่อนไขกลับ" อยู่ในนั้นด้วย ดังนี้

            ๑.นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ขอประกาศตอบรับการกำหนดวันเลือกตั้ง ๑๔ พ.ย. ๒๕๕๓ ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ และเมื่อประกาศตอบรับการเลือกตั้ง เราตั้งคำถามวันกำหนดวันยุบสภา แทนที่จะกำหนดวันเลือกตั้ง ปรากฏว่าเห็นตรงกันว่าวันยุบสภา ๑๕-๓๐ ก.ย. เมื่อมีคำตอบเช่นนี้ เรายินดีตอบรับวันยุบสภาโดยไม่มีเงื่อนไข นี่คือแสดงความจริงใจของนปช.แดงทั้งแผ่นดิน โดยไม่ต้องมีผู้บาดเจ็บหรือล้มตาย

                ๒.เราต่อสู้เพื่อความยุติธรรมสองมาตรฐาน เราไม่อาจรับการกระทำจากรัฐที่เป็นสองมาตรฐานทุกกรณี นั่นหมายความว่าการดำเนินคดีต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องเกิดขึ้น เรายืนยันไม่ประสงค์นิรโทษกรรม เรายินดีเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการยุติตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่รัฐบาลก็ต้องปฏิบัติตามกระบวนการยุติธรรมในมาตรฐานเดียวกัน ก็คือ ที่มาของข้อกล่าวหาก่อการร้าย นปช.แดงทั้งแผ่นดิน คืนวันที่ ๑๐ เม.ย. ทหารใช้กำลังสลายการชุมนุม

                ภายหลังเหตุการณ์เกิดขึ้น พวกเราถูกกล่าวหาเป็นผู้ก่อการร้ายและอนุมัติหมายจับจากดีเอสไอ ขณะที่นายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ยังไม่ปรากฏมีความคืบหน้าดำเนินคดีแต่อย่างใด ทั้งที่เราได้ไปแจ้งข้อหาไว้แล้ว ข้อเรียกร้องของเรา เมื่อตอบรับแล้ว นายกฯ และรองนายกฯ ก็ต้องเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเช่นเดียวกัน

                ๓.วันประกาศยุติการชุมนุม เพื่อเดินหน้าเข้าสู่วันปรองดอง จะเป็นวันเดียวกับที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ก็จะกลับบ้าน ยุติการชุมนุมทันที แต่หากไม่ไปก็จะไม่ยอมยุติการชุมนุม

                "นายสุเทพมอบตัววันไหน กลับบ้านวันนั้น นายสุเทพปฏิเสธวันไหน ก็ปฏิเสธวันนั้น"

                ๔.ให้รัฐบาลยุติปิดพีเพิลแชนแนล ซึ่งหากมีคณะกรรมการขึ้นมาดูแล ก็ยินดีเข้าสู่คณะกรรมการ พร้อมกับสถานีเอเอสทีวี หากมีมติเช่นไร เรายินดีปฏิบัติเช่นเดียวกับเอเอสทีวี

                ๕.เมื่อคนเสื้อแดงยุติการชุมนุม รัฐบาลต้องรับผิดชอบหากยังคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้ หากรัฐบาลจะคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็เป็นเรื่องของรัฐบาล ก็ขอให้เรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบซึ่งประชาชนจะกดดันรัฐบาลมากขึ้น

                สุดท้าย กราบเรียนว่า นปช.แดงทั้งแผ่นดินมีความตั้งใจจริง ออกจากกับดักความขัดแย้งโดยสันติวิธี เราจะเข้าไปร่วมกับคณะกรรมการต่างๆ และคณะกรรมการตรวจสอบต้องยอมรับได้

            ทั้งหมดนี้ผมลอก "กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" เงื่อนไขกลับของแกนนำกบฏก็คือ พวกเขายอมเข้าสู่กระบวนกายุติธรรม นายกฯ อภิสิทธิ์ และรองฯ สุเทพ ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามข้อหา "สั่งฆ่าประชาชน" ที่เขาไปแจ้งความด้วย

            เขายกเว้นให้นายกฯ ในฐานะเป็น ส.ส. ยังไม่ต้องไปมอบตัว แต่นายสุเทพลาออกจาก ส.ส.มาเป็นรองนายกฯ แล้ว ต้องไปมอบตัวกับตำรวจ และนายณัฐวุฒิก็ประกาศว่า

            "นายสุเทพมอบตัววันไหน พวกเราก็จะยุติการชุมนุมกลับบ้านวันนั้นทันที แต่ถ้านายสุเทพปฏิเสธ ก็เท่ากับ "ยกเลิก" ข้อตกลง และจะชุมนุมต่อไปทันที!"

            ก็ขอแทรกเพื่อความต่อเนื่องไว้ตรงนี้เลย เมื่อแกนนำประกาศเงื่อนไขอย่างนี้ นายสุเทพก็บอกกับนักข่าวทันทีเหมือนกันว่า "วันนี้ (๑๑ พ.ค.) หลังประชุม ครม.ที่ทำเนียบฯ เสร็จจะไปมอบตัวที่ DSI เลย"

            นักข่าวก็ไปบอกนายณัฐวุฒิ ฝ่ายนายณัฐวุฒิก็เกี่ยงว่า "ต้องไปมอบตัวกับตำรวจที่เป็นกลาง ไม่ไว้ใจ DSI อาจเป็นพวกเดียวกันกับนายสุเทพ"

            แล้วไงต่อก็ไม่ทราบนะครับ แต่ผมคาดว่า "โน พร็อมเบลม" จะให้ขึ้นสวรรค์-ลงนรก คุณสุเทพก็ไป ท่านอาจสงสัย เอ๊ะ..ทำไมเชื่องจริง กบฏแดงสั่งให้ทำอะไรก็ทำหมด?

            ก็ค่อยๆ ไล่เลียงกันไปตามลำดับแล้วกัน ประเด็นหลักที่คิดว่าทุกท่านอยากรู้-อยากเห็นเร็วๆ ก็คือ ถ้าเที่ยงนี้-บ่ายนี้ รองฯ สุเทพไปพบเจ้าพนักงานรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว กบฏแดงจะสลายการชุมนุม "หายวับไปกับตา" จากท้องถนนกรุงเทพฯ โดยเฉพาะที่ราชประสงค์หรือไม่?

            ตรงนี้แหละ..ประเด็นของเรื่อง!!

            ถ้าจะให้ผมตอบ บอกได้เลยว่า สังเกตจาก กทม.ระดมเจ้าหน้าที่วักน้ำสาดถนน สังเกตจากร้านค้าเตรียมอ้าประตูเปิดห้าง กระทั่ง ททท.เตรียมโปรแกรม "รับขวัญราชประสงค์" พลิกฟื้นคืนชีวิตการท่องเที่ยว

            แสดงว่า รัฐบาลและแกนนำ นปช.บรรลุข้อตกลงร่วมกันล้วตั้งแต่วันอาทิตย์ ประเด็นหลักน่าจะอยู่ที่เงื่อนไขการมอบตัว และการจะให้-ไม่ให้การประกันตัว เมื่อตกลงกันแล้ว การอ่าน "สัญญาสงบศึก" จึงมีขึ้นเมื่อเย็นวาน

            แล้วทำไมมีเงื่อนไข นายกฯ อภิสิทธิ์-รองนายกฯ สุเทพ ต้องตกเป็นผู้ต้องหา และทำไมรัฐบาลจึงยอม?

            ใครที่ฟังเสียง ดูลีลาอ่านแถลงการณ์ของนายณัฐวุฒิคงใจเต้นแต๊ว..แต๊ว..แล้วร้องว่า...ตายละ แบบนี้มันตีรวน-ตั้งแง่เบี้ยวกันชัดๆ เพราะมีที่ไหน จะดึงให้นายกฯ-รองนายกฯ กลายเป็นผู้ต้องหา บ้าน่ะซี!?

            แต่...ไม่บ้าหรอกครับ จะแจ้งความ-ไม่แจ้งความ ตามระเบียบกฎหมายมีให้ปฏิบัติอยู่แล้ว ผมเป็นนักข่าวอาชญากรรมเก่า เห็นตำรวจยิงคนร้ายที่ต่อสู้ขัดขืนตายมาหลายราย เขาเรียกคดีแบบนี้ว่า "วิสามัญฆาตกรรม" แต่นั่นก็เถอะ ตำรวจที่ฆ่าผู้ร้ายในหน้าที่ ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการกฎหมายตามระเบียบเหมือนกัน

            เพียงแต่เขาจะ "สั่งไม่ฟ้อง" เท่านั้น!

            หรือแม้แต่เราจอดรถอยู่เฉยๆ มีคนวิ่งมาชนรถเราล้มหัวฟาดถนนตาย เรา-คนขับก็ต้องเจอข้อหา "ขับรถเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย" เป็นเบื้องต้นอยู่ดี ก่อนจะไปจบสำนวนอยู่ที่ "สั่งไม่ฟ้อง" นั่นเหมือนกัน

            อย่างนายกฯ อภิสิทธิ์ และรองฯ สุเทพ ฝ่าย นปช.เขาไปแจ้งความ (แก้เกี้ยว) ว่าเป็นผู้สั่งฆ่าประชาชนในเหตุการณ์ ๑๐ เม.ย. ความจริงไม่ต้องแจ้ง ในหลักการทำสำนวนคดี ตำรวจเขาก็ต้องทำสำนวนอยู่แล้ว ซึ่งนั่นก็ไม่มีปัญหาอะไร

            อย่างเหตุการณ์คืน ๑๐ เม.ย. การสลายชุมนุมนั่นเป็นการสั่งตามหน้าที่ในฐานะ "เจ้าพนักงาน" ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ด้วยอำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่างกันกับเหตุการณ์ ๗ ตุลา ๕๒ ที่หน้ารัฐสภา นั่นเจ้าพนักงานใส่ผู้ชุมนุมกันเห็นจะจะ และทั้งอยู่ในภาวะปกติ

            แต่ในข้อเท็จจริงอันมีหลักฐานปรากฏชัด เมื่อคืนที่ ๑๐ เม.ย.ตำรวจ-ทหาร ซึ่งมีแต่กระบองไปสลายการชุมนุม ถูก "กลุ่มผู้ก่อการร้าย" ที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มเสื้อแดงใช้อาวุธสงครามฆ่าเจ้าพนักงาน และมีฝูงชนใช้อาวุธนานาชนิดรุมซ้ำ เจ้าหน้าที่ซึ่ง "ถูกกระทำ" จึงตอบโต้เป็นการป้องกันตัว เป็นที่รู้-ที่เห็นกันทั่ว

            และก็ยากที่กลุ่มกบฏแดงจะปฏิเสธไม่รู้เห็นกับผู้ก่อการร้าย เพราะก่อนหน้านี้แกนนำคนหนึ่ง จะเป็นนายสุภรณ์หรือนายอริสมันต์ผมจำไม่ถนัด ประกาศบนเวทีทำนองว่า "ไม่ต้องกลัว พวกเรามีกองกำลังติดอาวุธมาช่วยแล้ว"!

            ทุกคนฝ่ายแกนนำกบฏรู้ข้อกฎหมาย และความแตกต่างของเหตุการณ์เมื่อ ๗ ตุลา กับ ๑๐ เมษา ดี แต่อย่างว่า การจุดม็อบให้ติดนั้น "ไม่ยาก" เท่ากับเอาม็อบที่ติดแล้ว "ให้ลง" ตรงนี้แหละ ใครที่เคยเป็นหัวขบวนม็อบจะรู้ดีที่สุด

            นี่ก็เหมือนกัน เอาชาวบ้านมาเป็นหางเครื่องจน "เครื่องติด" ยิ่งติดต่อเนื่องเป็นเดือนมันก็พัฒนาเป็น "เสพติด" ทีนี้...จะเอาม็อบลง บอกให้กลับบ้าน ถ้าไม่มีเหตุผลให้เห็นว่าชนะ...ได้ตามที่เรียกร้อง จู่ๆ ไปบอกเลิกชุมนุม

            เผลอๆ กระแสตีกลับ จากที่จะกระทืบรัฐบาล หันไปรุมกระทืบบรรดาแกนนำม็อบเซ่นส้นไปเลย โทษฐาน "หลอกกูมา แล้วพวกมึงไปซูเอี๋ยกันเฉยเลย"!?

            ฉะนั้น จะลงทั้งที มันก็ต้องร่วมกันแสดงให้สมบทบาทหน่อย ผมจึงถามท่านแต่ต้นว่า "ได้ดู-ได้ฟัง" ลีลาการเอาม็อบลงของนายณัฐวุฒิผ่านการอ่าน "สัญญาสงบศึก" เขาหรือเปล่า?

            เงื่อนไขให้นายกฯ-รองนายกฯ ต้องไปมอบตัวด้วย "นายสุเทพมอบตัววันไหน ยุติการชุมนุม กลับบ้านทันทีวันนั้น" พอนายณัฐวุฒิย้ำเสียงกร้าว ถลึงตาเป็นลูกกอล์ฟเท่านั้นแหละ แฟนๆ หน้าเวทีเขย่าตีน เป่าปาก เป็นที่ถูกอก-ถูกใจ ถ้าผมอยู่บนเวทีด้วย คงต้องแอบแขม่วท้อง ถอนหายใจโล่งอก

            เฮ้อ...รอดตาย-รอดตีน (พวกกันเอง) ไปได้หวุดหวิด!

            สรุปก็คือ "แฮปปี้ เอนดิ้ง" นายสุเทพไปมอบตัว แกนนำที่ถูกหมายจับไปมอบตัว ได้ประกันตัวไป เพราะไม่มีเจตนาหลบหนี เนื่องจากไปมอบตัวเอง ตามบทแสดงเหล่านี้ก็หมายความว่า วันนี้-พรุ่งนี้...จบ (ชั่วคราว) กันทีกับ "นรกกลางกรุง" ๒ เดือนเต็ม!

            แต่...จบแค่ภาค ๑ "ภาคสันติ-อหิงสา" เท่านั้น ภาค ๒ อันเป็นภาคบู๊ล้างผลาญ "ภาคแดงโม่งดำ" คงจะรับไม้ต่อ สัญญาสงบศึกจะถูกฉีกด้วย "เหตุการณ์แปรผัน" จากไอ้โม่งแดง-โม่งดำหรือไม่ ต้องคอยฟังสัญญาณเสียงวี้ดดดบึ้มมมในแต่ละคืน แต่ถ้าสามารถ "แยกโจร-แยกชาวบ้าน" ออกจากกันได้อย่างนี้

            เผลอๆ มีรายการ "เด็ดหัว" !?.


http://www.thaipost.net/news/110510/22042
      บันทึกการเข้า
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #1972 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2553, 09:17:46 »

จี๋แดงงงงงงง สลายแย้ววววววว

พี่แอ๊ะจะเข้ากรุงเทพ ไปชอ๊บปิ้งงงงงงงง ชิดลม ชะเอิงงงงเอยยยยยยยยยยยย

เข้ากรุงเทพ วันนี้ค่ะ

ท่านใดอยากมาสนทนา ประสาคอการเมืองกะ พี่แอ๊ะก็เชิญนะคะ

เข้ากรุงเทพพี่แอ๊ะจะเข้าเนตไม่เป็น ค่ะ

อยากซื้อ bb แต่ลูกสาว เขาขี้เหนียว เขาว่ามามี้เล่นไม่เป็นเด่วก็ทิ้งแบบ ซื้อ ไอโฟนอีก
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1973 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2553, 09:24:27 »

ยุคพระอาทิตย์ 7 ดวง
ท่านขุนน้อย 11 พฤษภาคม 2553 - 00:00

   จะเป็นเพราะอากาศร้อนขึ้นๆ...หรือใจคนร้อนขึ้นๆ หรือเปล่าก็มิอาจสรุปได้ ถึงทำให้การแสดงความคิด ความเห็นใดๆ ในเรื่องบ้านเรื่องเมือง...มันจึงชักจะเป็นอันตรายยิ่งขึ้นทุกที เรียกว่าถ้าหากไม่ถูกหู ถูกใจ ขึ้นมาเมื่อไหร่ ต่อให้เป็นมิตร เป็นสหาย เป็นผู้หลัก-ผู้ใหญ่ เป็นกัลยาณมิตร เป็นเพื่อนที่แสนดี...ก็มีสิทธิ์ถูกถีบ ถูกสวน ถูกโต้ ชนิดดอกต่อดอก ได้ด้วยกันทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้...ประเภทนกไร้ขน คนไร้เพื่อน แถมยังเฒ่าชะแร แก่ชรา ไร้เรี่ยวแรง ไร้กำลังวังชา อย่าง ท่านขุนน้อย เห็นทีจะต้องหาทางหลบเลี่ยงส้นมือ ส้นตีน ของใครต่อใคร...ด้วยการเบี่ยงไปพูดเรื่องอื่นน่าจะเหมาะกว่า...
               --------------------------------------

     แต่ในเมื่อทะลุออกนอกโลก นอกจักรวาล เตลิดเปิดเปิง ไปพูดเรื่องต่างประเทศกันมาหลายครั้งแล้ว ร้อนๆ อย่างนี้น่าจะลองมุดลงไปในทะเลกันดูซักเที่ยว ซึ่งก็เผอิญว่าเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้มีนักวิชาการประมงแห่งสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลฯ ผู้มีชื่อว่าคุณ นิพนธ์ พงษ์สุวรรณ ท่านได้ออกมาเปิดเผยถึงข่าวคราวชิ้นหนึ่งที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย นั่นก็คือ ข่าวคราวว่าด้วยการเกิดปรากฏการณ์ ปะการังฟอกขาว ครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประเทศไทย แพร่ระบาดไปทั่วทั้งสองฟากฝั่งมหาสมุทร คือไม่ว่าจะเป็นท้องทะเลทางด้านอ่าวไทย หรือด้านทะเลอันดามัน ต่างก็กำลังเผชิญหน้ากับปรากฏการณ์ที่ว่าในชนิดน่าใจหาย น่าหวั่นวิตก เป็นอย่างยิ่ง...
             -------------------------------------------

     เพื่อให้พอเป็นที่เข้าใจว่าปรากฏการณ์  ปะการังฟอกขาว ที่ว่านี้...มันคืออะไรกันแน่??? คงต้องขออนุญาตนำเอาคำอธิบายของผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ มาแปลไทยเป็นไทยเอาไว้คร่าวๆ ซึ่งโดยสรุปรวมความแล้วก็คงประมาณว่า...มันคือปรากฏการณ์ที่ปะการังชนิดต่างๆ ในท้องทะเล ได้บ้วนเอาสาหร่ายเซลล์เดียว  ที่เรียกๆ กันเป็นภาษาวิชาการว่า ซูแซนแทลลี (Zooxanthelle) ซึ่งเคยพึ่งพาอาศัยอยู่ภายในเนื้อเยื่อของมัน คอยช่วยสร้างสีสันและอาหารให้กับปะการังแต่ละชนิด หรือ เคยใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันแบบน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า จนแทบจะเป็นชีวิตเดียวกัน ออกมาจากเนื้อตัวของตัวเอง จนทำให้ตัวตนของปะการังเหล่านั้นแปรสภาพเป็นสีขาว อันเป็นสีที่แท้จริงตามลักษณะโครงสร้างที่เป็นหินปูนมาแต่แรกเริ่ม...

             -------------------------------------------

     แต่อาจมีปะการังบางชนิดที่สีสันดั้งเดิมของมัน ไม่ได้ออกไปในทางสีขาวๆ แต่อาจจะเป็นสีเหลืองอมเขียว เช่น ปะการังชนิดที่เรียกๆ กันว่า ปะการังอ่อนหนัง หรือ ปะการังทองหยิบ เป็นต้น แต่เมื่อใดก็ตามที่มันดันเกิดอาการคลื่นเหียน วิงเวียน จนต้องอาเจียนเอา ซูแซนแทลลี ออกมาจากเนื้อตัวของมัน มันก็อาจแปรสภาพกลับไปเป็นสีเหลืองคล้ายๆ กับสีทอง ก่อให้เกิดความตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นใจ กับใครต่อใคร ถึงกับต้องยกขบวนแห่ไปดูปรากฏการณ์แปลกๆ ชนิดนี้กันแน่นขนัด คิดว่าเป็น ดอกไม้ทะเลสีทอง ที่มาบานแฉ่งอยู่แถวๆ ริมอ่าว บริเวณใกล้ๆ กับกองเรือป้องกันชายฝั่ง กองทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานั่นเอง...
             -------------------------------------------

     อย่างไรก็ตาม...ปรากฏการณ์เหล่านี้ นอกจากมันจะไม่ใช่เรื่องแปลก ประหลาด พิสดาร หรือเป็นนิมิตหมายอันดี  จนทำให้ใครต่อใครเคยคิดที่จะแล่นเรือออกไปขอหวยกันซึ่งๆ หน้าแล้ว มันยังสะท้อนถึงความหมายในเชิงตรงกันข้าม หรือถือเป็นการส่ง สัญญานแห่งความฉิบหาย ซึ่งกำลังอุบัติขึ้นมาในท้องทะเล อันไม่เพียงแต่จะมีผลต่อสิ่งมีชีวิตต่างๆ ที่ใช้ชีวิตอยู่ภายในทะเลและมหาสมุทรแต่เพียงเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบต่อเนื่องมาถึงมวลมนุษย์ ผู้ต่างก็ต้องพึ่งพาอาศัยท้องทะเล สามารถยังชีวิตอยู่ด้วยการบริโภคกุ้ง หอย ปู ปลา มาโดยตลอดประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้...

            ---------------------------------------------

     พูดง่ายๆ ก็คือ...ปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว หรือฟอกออกมาเป็นสีทองก็แล้วแต่ มันก็คือปรากฏการณ์ที่แสดงให้เห็นว่า บรรดาปะการังเหล่านั้นกำลังเจ็บไข้ได้ป่วย หรือกำลังจะตายไป ในอีกไม่นานไม่ช้านั่นเอง และต้นสายปลายเหตุอันทำให้ปะการังเหล่านี้ต้องเกิดอาการเจ็บป่วย คลื่นเหียน วิงเวียน ชนิดถึงกับต้องอาเจียนเอาสาหร่ายเซลล์เดียวที่อยู่ภายในเนื้อตัวของมันออกมา ก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่า ภาวะความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมที่มันเคยใช้ชีวิตอยู่อย่างเป็นปกติ มันเกิดความผิดปกติขึ้นมาดื้อๆ จากสภาวะที่มันเคยอยู่ดี มีสุข ภายใต้อุณหภูมิน้ำทะเลประมาณ 18-27 องศาเซลเซียส แต่เมื่ออุณหภูมิของน้ำทะเลสูงขึ้น ร้อนขึ้นๆ อย่างเช่นทุกวันนี้ ขนาดมนุษย์แท้ๆ ยังบ้าได้ ป่วยได้ พร้อมที่จะบ้วนอะไรต่อมิอะไร ออกมาใส่กันและกันชนิดไม่มีข้อยกเว้น...แล้วปะการังล้วนๆ จะไปเหลืออะไรล่ะท่าน!!!

          ------------------------------------------------

     ท่ามกลางปรากฏการณ์ เอล นิโญ่ ที่หวนคืนกลับมาในช่วงระยะนี้กันอีกครั้ง ว่ากันว่าได้ทำให้ระดับอุณหภูมิน้ำทะเลแถบฝั่งอันดามันสูงถึง 31 องศาเซลเซียส ในขณะที่ฝั่งอ่าวไทยพุ่งขึ้นไปถึง 33 องศาเซลเซียส ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นผลให้ปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว แผ่ซ่านไปทั่วทั้งสองฟากฝั่งมหาสมุทรอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ บริเวณฝั่งอันดามันนั้น ว่ากันว่าปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวแผ่ครอบคลุมไปแทบทั้งทั่วทะเลอันดามัน พื้นที่ไม่น้อยกว่า 80 ตารางกิโลเมตร เต็มไปด้วยซากปะการังที่ตายแล้ว และกำลังจะตายไปในอีกไม่นานไม่ช้า ไม่ว่าจะไล่มาตั้งแต่ หมู่เกาะสุรินทร์ สิมิลัน หมู่เกาะตราชัย จังหวัดพังงา เกาะผ้า แหลมกลางใหญ่ กลางน้อย ลามไปถึงภูเก็ต สตูล ตรัง ฯลฯ ล้วนแล้วแต่ขาวแหงแก๋กันไปเป็นแถบๆ...

       ------------------------------------------------------

     ส่วนฝั่งอ่าวไทย...พื้นที่ปะการังฟอกขาวลุกลามไปแล้วถึง 30 เปอร์เซนต์ ไล่มาตั้งแต่ตราด ระยอง เกาะกระดาน เกาะสีชัง เกาะมัน ลึกลงไปถึงประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฏร์ธานี ฯลฯ ล้วนเต็มไปด้วยภาพปะการังที่กำลังอ้วกแตก อ้วกแตน จนทำให้ท้องทะเลขาวโพลนไปตามๆ กัน แม้นปรากฏการณ์ทำนองนี้จะเคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วงปี พ.ศ.2541-2543 แต่ว่ากันว่า...ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ใหญ่โตที่สุด ร้ายแรงที่สุด อันทำให้นักวิชาการประมงได้แต่นั่งทำตาปริบๆ หรือได้แต่สวดมนต์  ภาวนา เพื่อให้บรรดาปะการังเหล่านี้มันไม่ถึงกับต้องเด๊ดสะมอเร่ อิน เดอะ เท่งทึง ลงไปทั้งหมด สามารถฟื้นตัวหายจากอาการป่วยได้บ้าง แม้นว่าอุณหภูมิของน้ำทะเลมันยังไม่มีแนวโน้มที่จะเย็นลงๆ เนื่องมาจากข้อเท็จจริงว่าด้วย ภาวะโลกร้อน ก็ตาม...

    -------------------------------------------------------------

     เพราะเป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปในแวดวงวิชาการ...ว่าพื้นที่ปะการังในท้องทะเลประมาณ 1 ตารางกิโลเมตร นั้น เมื่อคำนวนออกมาเป็นสูตรตัวเลขสถิติแล้ว ถือเป็นพื้นที่ซึ่งสามารถดลบันดาลให้เกิดปริมาณ กุ้ง หอย ปู ปลา อันเป็นอาหารหลักของมนุษย์ได้มากถึง 15 เมตริกตัน ใช้เลี้ยงดูผู้คนได้จำนวนไม่น้อยกว่า 2,500 คน ในแต่ละปี ด้วยเหตุนี้...ถ้าหากปะการังซึ่งแผ่ขยายไปในพื้นที่ไม่รู้ กี่พัน กี่หมื่น ตารางกิโลเมตร เกิดมาตาย ล่มสลาย พังพินาศ กันต่อหน้าต่อตา...นั่นก็หมายถึงว่า มวลมนุษย์ซึ่งเคยพึ่งพาอาศัยพื้นที่เหล่านั้น ย่อมจะต้องไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มีตามไปด้วย ประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม อันเคยได้ชื่อว่า...ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว มาโดยตลอด จะต้องฉิบหายวายวอดไป เพราะน้ำมือของมนุษย์ หรือ ธรรมชาติ...ก็คงต้องคอยติดตามกันต่อไป...

    ------------------------------------------------------------

     ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก ท่าน พุทธทาสภิกขุ (อีกครั้ง)...ยุคพระอาทิตย์ 7 ดวง กำลังจะมาถึง คือ ความร้อนโดยวิกฤติกาล ทั้งทางวัตถุ และทางจิต มันจะเพิ่มขึ้น 7 เท่า...ดังนั้น จงเตรียมตัวป้องกันไว้เถิด อย่าทำอะไรที่เป็นการทำลายธรรมชาติแห่งความถูกต้อง ไม่ว่าในทางวัตถุ หรือในทางจิตใจ ก็ตาม...


http://www.thaipost.net/news/110510/22033
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1974 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2553, 09:53:24 »

แก้ปัญหาเฉพาะหน้า
ถูกทุกข้อ 11 พฤษภาคม 2553 - 00:00


เรียน คุณสามวา สองศอกที่เคารพ
     ผมได้ทราบข่าวปัญหาในประเทศแล้ว ว่าได้คลี่คลายลงไปพอสมควร แต่เราก็ประมาทไม่ได้ ที่ผมว่าไม่ประมาทนั้นหาใช่ไปหลงโทษอีกฝ่ายหนึ่งไม่ แต่ควรหวนกลับมาโทษตัวเองว่า ในอดีตนั้นเราประมาทมานาน เมื่อประมาทมานานแล้วหยุด ผมจึงไม่ค่อยจะเชื่อว่าเราหยุดจริง ที่ว่าหยุดนั้นแท้จริงแล้วก็คือหยุดความประมาท
     มีเงื่อนไขที่น่าคิดอยู่อย่างหนึ่งว่า ในอดีตที่ผ่านมามักมีคนปรารภว่า "คนไทยนิยมแก้ปัญหาแต่เพียงเฉพาะหน้าเท่านั้น"
     ผมหวังว่าหลายคนคงเคยได้ยินคำปรารภ ที่ผมนำมากล่าวฝากไว้ในขณะนี้
     อนึ่ง การแก้ปัญหาเฉพาะหน้านั้นมันก็เป็นเรื่องผิวเผิน แต่รากเหง้าของปัญหาที่แท้จริง ยังคงฝังอยู่ใส่วนลึกของสังคมโดยไม่สูญหายไปไหน
     ดังนั้นในกรณีที่เกิดปัญหาใหญ่ขึ้นในสังคมปัจจุบัน ผมได้ให้สัมภาษณ์โทรทัศน์ไปอย่างหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยิน
     อย่างไรก็ตาม ผมขออนุญาตนำมากล่าวย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้นั้น มีผลสืบเนื่องมาจากปัญหาที่ลงรากฝังลึกอยู่ในสังคมไทยมานานมากแล้ว แม้ตัวผมเองจะปรารภมาแต่อดีต ย้ำแล้วย้ำอีกว่า "การพัฒนาชนบทของไทยเท่าที่เป็นมาแล้ว จำต้องประสบกับความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง"
     ถ้าใครจะถามผมว่า "มีอะไรเป็นตัวบ่งชี้" ผมพร่ำพูดมานานแล้วว่า ตัวเองมีนิสัยสนใจสังเกตสิ่งที่มันสะท้อนออกมาจากความจริง ยิ่งกว่านั้นยังย้ำความสำคัญด้วยว่า "อย่าดูถูกของเล็ก แท้จริงแล้วของเล็กก็คือรากฐานของสิ่งใหญ่"
     ผมสังเกตมาเป็นเวลานับสิบๆ ปีแล้ว ว่าคนที่เข้ามาชุมนุมทำร้านค้าแผงลอยอยู่ตามข้างถนนนั้น แท้จริงแล้วส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรที่เคยทำมาหากินอยู่ในชนบท แม้แต่ชุมชนแออัดก็เช่นกัน
     ยิ่งกว่านั้น เมื่อถึงช่วงสงกรานต์หรือถึงช่วงเทศกาลปีใหม่ สภาพแออัดภายในเมืองกรุงเทพฯ มันก็กลายไปเป็นชุมชนที่ไม่ค่อยจะมีคนอยู่
     ถ้าใช้โอกาสนำเอาข้อมูลในขณะนั้นมาพิจารณา นั่นคือของจริงของเมืองกรุงเทพฯ แม้แต่รถราบนถนนมันก็ไม่แออัด คงเหลือแต่ความว่างเปล่าเป็นจำนวนมาก
     นี่มันบ่งบอกอะไรแก่เรา ถ้าไม่ใช่ความล้มเหลวในการพัฒนาชนบท ยิ่งไปกว่านั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้มันก็เป็นตัวบ่งชี้ถึงความล้มเหลวของชีวิตคนชนบทเช่นกัน ถ้าคนกรุงเทพฯ ไม่ตกอยู่ในความประมาท หากรู้จักละทิ้งความสบายได้บ้าง ทุกอย่างมันก็น่าจะดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
     ผมได้เคยให้ข้อสังเกตมานานแล้วว่า หลักธรรมซึ่งใช้เป็นตัวบ่งชี้อย่างได้ผลนั้น หมายความว่า "เมื่อด้านหนึ่งสูงขึ้น อีกด้านหนึ่งก็ย่อมลดลง"
     ดังนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นภายในเมืองกรุง เราก็ควรมุ่งไปแก้ไขที่ชนบท โดยลงไปคลุกคลีทำงานร่วมกับเขา เพื่อช่วยให้พลังใจเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ แม้แต่การแก้ไขเศรษฐกิจก็ใช้หลักนี้ได้ โดยไม่ต้องเสียเงินมากนัก
     เราควรเข้าใจถึงความจริงของชีวิตมนุษย์ทุกคน ว่าต่างก็มีพลังจิตที่จำเป็นต้องแสดงออก หากแสดงออกก็ย่อมมีความสุข ดังนั้นถ้าเราไม่ทำให้พลังจิตเกิดขึ้นบนวิถีทางที่มีเหตุผล พลังจิตก็ย่อมเกิดขึ้นบนทิศทางที่ทำลายได้เช่นกัน
     เฉพาะการคิดแก้ไขควรใช้หลักธรรม อันหมายถึงเมื่อด้านหนึ่งลำบาก หากเราอยู่ในด้านที่สบายกว่า เราก็ควรลดตัวลงมาอยู่กับสภาพแวดล้อมของชีวิตเพื่อนมนุษย์ที่ยังตกทุกข์ได้ยาก นี่คือหลักสำคัญของการแก้ไข
     ยิ่งไปกว่านั้นทุกสภาพของปัญหา ถ้าจะแก้ไขให้ได้ผลอย่างจริงจัง เราก็ควรใช้หลักธรรมเพื่อการปฏิบัติหาใช่เอาแต่พูด แม้กระทั่งอ้างว่า "ต้องจับเข่าคุยกัน" ถ้ารู้เท่าทันก็ย่อมรู้ว่า "การจับเข่าคุยกันนั้น ความจริงแล้วมันเป็นเพียงข้ออ้าง ที่มนุษย์ผู้หลงอยู่กับความสบายไม่อยากปฏิบัติ"
     มีหลักปฏิบัติอีกอย่างหนึ่ง "ถ้าเรามีจิตใจที่เป็นมนุษย์จริง ก็ควรรู้จักเห็นใจผู้อื่น" ความเห็นใจผู้อื่นนั้นขอได้โปรดเห็นอย่างแท้จริงด้วย หลังจากเห็นว่าทุกคนต่างก็มีจิตใจ เมื่อเห็นแล้วไม่ใช่เอาแต่พูด ต้องลงไปปฏิบัติร่วมกับเขา ซึ่งถือว่าเป็นเพื่อนกันกับเราให้ได้
     เรื่องนี้ผมทำมานานแล้ว และไม่จำเป็นจะต้องไปบอกใครเพื่อเอาหน้า หากทำแล้วได้บุญกุศลก็ย่อมมีความสุขเป็นธรรมดา
     หากถามนิสิตในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ว่ายามปกตินั้นอธิการบดีสละห้องแอร์ฯ แต่ลงไปทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขอยู่กับชาวบ้านในชนบทแทบทุกแห่งหน ที่ชีวิตเพื่อนมนุษย์ยังตกทุกข์ได้ยาก เมื่อจิตวิญญาณของเขารู้สึกอบอุ่น ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมไม่ไปไหนเสีย
     การที่ผมพูดว่า "ไม่ไปไหนเสีย" หาใช่ว่าตัวผมเองต้องการรางวี่รางวัลจากใครก็ตามภายในสังคมไทย แต่ผมนำมาพูดก็เพื่อให้ทุกคนเห็นได้ว่า การกระทำที่ผมนำปฏิบัตินั้นมันเกิดจากรากฐานจิตใจตนเองที่มีความมั่นคงอยู่เสมอ
     ผมเชื่อว่าการยกพวกทำร้ายกันนั้น เราคงไม่จำเป็นที่จะต้องไปบอกใครต่อใคร ว่าเราทำอย่างนี้ที่ตรงนี้ไม่ว่าอะไรต่อมิอะไร ขอให้ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ แม้จะไม่จำเป็นต้องไปบอกใครก็ตาม แต่ทุกคนย่อมรู้ได้เองเช่นนี้เป็นต้น
     ผมอยากจะถามว่าเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นครั้งนี้ ทุกคนได้จิตสำนึกเช่นนั้นหรือเปล่า ถ้ายังไม่ได้แม้ไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นเราก็ควรทำ หากทำด้วยความรักความจริงใจแล้ว ทุกอย่างที่นำปฏิบัติย่อมมีความมั่นคงอยู่เสมอ
     ดังนั้นไม่ว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม ผมเองก็ยังทำมาโดยตลอด เพราะสำนึกอยู่เสมอว่า "เราควรทำ หากทำแล้วบังเกิดความสุข พฤติกรรมที่มันสะท้อนออกมาปรากฏ ก็เป็นเครื่องยืนยันความจริงได้อย่างดีที่สุด"
     ผมถึงได้พูดว่า "คนที่ยกมือไหว้อยู่ด้านหน้านั้น อาจเป็นของจริงหรือไม่ใช่ของจริงก็ได้ แต่คนที่ยกมือไหว้อยู่ด้านหลังนั่นซิคือของจริง" ซึ่งเราควรเก็บเอาไว้เป็นเครื่องเตือนสติภายในจิตใจเราเองให้มั่นคงอยู่ได้    
     ดังนั้น ยิ่งทำนุบำรุงสิ่งมีชีวิตชีวาที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า ย่อมเป็นบุญกุศลที่ส่งสนองให้ตัวเรา บังเกิดความสุขสมปรารถนาได้ตลอดไป
                                                   ด้วยความเคารพอย่างสูง
                                                            ระพี สาคริก
ตอบ อาจารย์ระพี
     นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องรับฟังคำแนะนำของอาจารย์ระพี เพื่อนำไปแก้ปัญหาที่เกิดอยู่ในขณะนี้

                    เตือนพันธมิตรฯ
เรียน คุณสามวา สองศอกที่เคารพ
     อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด จริงๆ ใครจะห้ามได้เมื่อฟ้าลิขิตแล้ว แต่ถึงอย่างไรเราก็ควรพยายามที่จะไม่ให้มันเกิด โดยเฉพาะชีวิตผู้บริสุทธิ์ไม่ว่าจะฟากไหน ฝั่งไหน หรือสีไหน บทเรียนที่ผ่านมาสะท้อนความเจ็บปวดทุกๆ ครั้งที่เห็นคนไทยฆ่ากันเอง โดยกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่า "นักการเมือง" นักการปกครองทั้งหลาย ซึ่งล้วนอยู่เบื้องหลังความสูญเสียทุกครั้งที่ผ่านมา

     ทำไมน่ะหรือ ก็ "ทรัพย์สมบัติและอำนาจ" ไง ที่คนชั่วและโลภต่างแสวงหาโดยแก่งแย่งช่วงชิงทุกวิถีทางเพื่อให้ได้สิ่งที่ตนเองและพวกพ้องต้องการ จนถึงเวลานี้ผมยังไม่เคยลืมเหตุการณ์ 14 ต.ค.16 เพราะเพื่อนพ้องเสียชีวิตไปหลายคน บาดเจ็บก็เยอะ และวงเวียนแห่งกรรมหรืออะไรก็แล้วแต่ สุดแต่จะคิดจะเรียกขานกัน ก็เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยไม่มีผู้ที่คิดจะแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงวิถีนี้ให้ดีขึ้น "ปลาใหญ่กินปลาเล็ก" "คนโง่เป็นเหยื่อคนฉลาด" ประชาชนก็คือเหยื่อตกปลาใหญ่ของนักการเมืองชั่วซึ่งมีกว่า 90% ในสภาไทยอย่างรองประธานสภา ซึ่งไปขึ้นเวทีเสื้อแดงประกาศต้องขับไล่อำมาตย์ ตนเองเป็น "ไพร่" แต่ความเป็นจริงก็ยังรับเงินเดือนในฐานะอำมาตย์อยู่ (ไม่ยอมลาออก) นี่แหละ "ไพร่สถุลตัวจริง"

     ส่วน "มูเซอแดง" นายใหญ่ คงไม่มีโอกาสกลับมาอย่างเป็นๆ หรอก เพราะแผนที่วางไว้ผิดพลาด (10 เม.ย.53) หวังใช้ศพประชาชนฟ้องชาวโลก กรรมตามทันเมื่อมีคลิปต่างประเทศมากมายฟ้องประจาน คิดว่าตอนนี้คงนอนกระอักเลือดอยู่

     ขอพูดถึงทหารแตงโมซึ่งคิดว่าคนไทยโง่ทั้งประเทศ! แต่ถ้าใครอยากรู้ว่าแตงโมตัวพ่ออนาคตอยากเป็นอะไร? จับไอ้เศษแดงได้เมื่อไหร่ แล้วลองให้มันสารภาพ (แบบลดครึ่งราคา) แล้ว มันจะบอกเอง เริ่มตั้งแต่เล่นลิเกออกมากูกระทืบนั่นแหละ ส่วนสารพัดซ้ายที่คลั่งอุดมการณ์จนเลอะเทอะ ทำแม้กระทั่งนำแรงงานพม่าจากภาคเหนือ (นายตู้เย็นกำกับ) แรงงานเขมรจากอีสาน (111 กำกับ) เข้ามาที่ราชประสงค์ เพื่ออำนาจด้วยการทำร้ายประเทศตัวเอง

     อีกแนวร่วมก็ตำรวจมะเขือเทศคิดว่ามีกว่า 90% เพราะมูเซอแดงวางรากฐานรัฐตำรวจไว้จนแข็งแกร่งยากที่จะต้านทาน ก็ขนาดนายกฯ ยังตั้ง ผบ.ตร.ไม่ได้มาจนทุกวันนี้ ปทีปก็แก่เกินจะสู้รบก็เลยเกียร์ว่าง หรืออาจกลัวถูกเช็กบิลย้อนหลัง

     หลายวันก่อนได้ดูละครเรื่อง "สุเมธ เอสซีปาร์ค" ดารานำอริสมันต์ก็ได้ใจเสื้อแดงไปจนจุก สรุปตอนนี้ก็ได้แต่ห่วงพี่น้อง พธม.เพราะถ้ารวมตัวเมื่อไหร่ก็จะเข้าทางพวก "แตงโม+มะเขือเทศ" รวมถึงที่ต้องระวังที่สุดคือ "ไอ้เศษแดง" เพราะมันถล่ม พธม.แน่เชื่อเถอะ

     ไม่ได้ให้กลัวนะแต่อยากบอกแกนนำ พธม.ว่า อย่าแค่คิดนำมวลชนออกมาอย่างเดียว ต้องแก้เกม "ไอ้เศษแดง" กับพวก "แตงโม มะเขือเทศ" ไว้ด้วย หากจะระดมมวลชนไม่ควรต่ำกว่า 3 หมื่นคน และให้ไปรวมกับกลุ่มมวลชน "เสื้อหลากสี" รับรองมันคงคิดหนัก  

     อีกหนึ่งที่ต้องระวังก็คือไอ้ห้อย "จอมเสี้ยม" แกล้งไปอเมริกาเพื่อตัดประเด็นไม่รู้จะส่งมือที่ 4 ที่ 5 มาแอบบึ้มให้สมฉายาหรือไม่? ก็ขอให้ระวังกันให้มากๆ หน่อย เพราะที่ผ่านมาก็เจ็บปวดเกินรับอยู่แล้วชาว พธม.เอ๋ย เรามีน้องโบว์ 1 และโบว์ 2 รวมถึงสารวัตรจ๊าบเป็นแรงหนุนในหัวใจเรา ตอนนี้คงไม่ต้องถามแล้วว่าสู้มั้ย เพราะเราจะไม่ถอยจะไม่ท้อ แล้วพบกันเมื่อชาติต้องการ
     ท้ายนี้ขอให้ อ.เปลว คุณสามวาฯ และผู้รักชาติทั้งหลายทั้งปวง จงแคล้วคลาดจากคมกระสุน คมหอก คมดาบ รวมทั้งระเบิดทั้งหลายแหล่ด้วยเทอญ สาธุ
                                                      จากผู้เฒ่าในเงามืด
ตอบ คุณผู้เฒ่าฯ
     แกนนำพันธมิตรฯ ที่ส่วนหนึ่งได้กลายเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ไปแล้ว จะทำอะไรต้องคิดให้รอบคอบ
                                                       สามวา สองศอก
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 77 78 [79] 80 81 ... 131   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><