26 เมษายน 2567, 17:37:47
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 28 29 [30] 31  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: ยินดีต้อนรับพี่ๆ รุ่น 2510 ครับ  (อ่าน 285547 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #725 เมื่อ: 16 สิงหาคม 2553, 20:31:18 »

YouTube ย้าย วี ดี โอ ชุดนี้ไปเสียแล้ว

อดดูแล้วครับ
      บันทึกการเข้า
Preecha2510
Cmadong Member
Full Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2510
กระทู้: 788

« ตอบ #726 เมื่อ: 31 สิงหาคม 2553, 12:55:53 »



     ช่วงเวลา 2-3 วันที่ผ่านมานี้ มีมือมืดได้ก่อวินาศกรรมวางและยิงระเบิดเขย่าขวัญคนไทยเราอีกแล้ว  มาลองฟังความ

    คิดเห็นเรื่องที่เกิดนี้จากทางฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล  พวกเราในฐานะประชาชนจะเชื่อใครดี?




      http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1283087506&catid=01



      http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000120720

     
      บันทึกการเข้า
Preecha2510
Cmadong Member
Full Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2510
กระทู้: 788

« ตอบ #727 เมื่อ: 31 สิงหาคม 2553, 14:49:14 »

      ขณะนี้รัฐบาลได้แต่งตั้งคณะกรรมการต่างๆหลายคณะหาแนวทางตั้งบรรทัดฐานเพื่อแก้ไขปัญหาของชาติ

   บ้านเมือง  วันนี้ได้อ่านข้อเขียนของคุณ สันติ วิริยะรังสฤษดิ์ (ลมเปลี่ยนทิศ) ซีมะโด่ง นิเทศก์ 11 ซึ่งได้เขียน

   แสดงความเห็นออกมาในเรื่องการหาทางแก้ไขปัญหาของชาติในตอนท้ายของคอลัมม์ได้ตรงประเด็นที่สุด


                                         http://www.thairath.co.th/column/pol/thai_remark/107264
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #728 เมื่อ: 14 กันยายน 2553, 21:04:32 »

พี่แก้วครับ

การปรองดองจะเกิดขึ้นได้ มันไม่ใช่ว่าจะใช้เวลาภายใน 1 วัน หรือ 1 เดือน หรือ 1 ปี
มันอาจใช้เวลานานนับ 10 ปีก็ว่าได้ ดูอย่างกรณีเขาพระวิหาร เกิดเมื่อปี 2506 สมัยจอมพลสฤษดิ์ ถึงปัจจุบัน
ไทย กับ เขมร ยังไม่อาจคืนดี หรือหาทางออกร่วมกันได้เลย จนขณะนี้ 47 ปีแล้วครับ
"ปรองดอง" มันคงต้องใช้คำว่า อดทน อดกลั้น จนกว่า โทสะของฝ่ายหนึ่ง จะค่อยๆมอดลง เท่านั้น
และตอนนี้ โทสะของเขา-นอกจากจะไม่ลดลงแล้ว ยังคุโชนอยู่เสียด้วยซ้ำ แล้วมันจะจบลงได้อย่างไร ??
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #729 เมื่อ: 14 กันยายน 2553, 21:10:19 »

ที่สำคัญยิ่ง

สื่อต้องใช้บทเรียนจากอตีด ชี้นำให้สังคมรู้ และอย่าพยายามส่งไมค์ไปจ่อปาก เพื่อถามความเห็นที่มันเป็นไปไม่ได้ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เรื่องมันก็จะค่อยๆ สงบลง และอาจมีสติกลับขึ้นมาบ้างก็ได้
อย่าง "อ้ายตู่" มันพูดได้ทุกวัน ทั้งๆที่เราก็ทราบดีว่า เรื่องที่มันพูดนั้น โกหก พกลม ไม่มีความจริง เพียงพัดไฟไม่ให้ดับเท่านั้น
แต่สื่อกลับเอาประโยชน์ เพื่อการขายหนังสือพิมพ์ มันถึงได้ไม่ยอมจบสักทีนั่นเอง !! ??

ซ้ำด้วยนักวิชาการขายตัว มันก็รู้ว่า ปรองดองไม่มีทางจบได้ภายในระยะเวลา 1 ปี อวดฉลาด-พูดอยู่ได้
คนเราทะเลาะกัน กว่าจะคืนดีกันได้ เวลาเป็นเครื่องสมานแผล นี่เป็นสัจจธรรม
      บันทึกการเข้า
Preecha2510
Cmadong Member
Full Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2510
กระทู้: 788

« ตอบ #730 เมื่อ: 14 กันยายน 2553, 23:56:27 »



   สวัสดีครับเหยง     ตอนนี้เปิดไปฟังหรือดูข่าวทั้งวิทยุ,โทรทัศน์,นสพ,ฯลฯ ทุกสื่อก็มีแต่หยิบเรื่องคำว่า

  ปรองดองออกมาพูดกัน  พร้อมๆกับในขณะเดียวกันก็มีข่าวยิงระเบิดที่นั่น,วางระเบิดที่นี่ควบคู่กันไป เป็น

  แรงกดดันให้ประชาชนหวาดผวาและเร่งเร้าให้รัฐบาลรีบรับทำการปรองดอง เพื่อจะได้(คิดกันไปเอง)

  เกิดความสงบในบ้านเมืองเสียทีนั้น ตามข่าวที่มีการวิเคราะห์กันการเสนอขอปรองดองเป็นเพียงคำพูดที่

  ทำให้เสมือนเป็นการอ่อนข้อยื่นมือมาให้จับเท่านั้น แท้จริงการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาต่อรองก็เพื่อเป็นการซื้อ

  เวลาของทักษิณ  เพื่อปรับแผนเตรียมก่อศึกชิงอำนาจครั้งใหม่ที่กำลังอาจจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้  ผมเองก็คิด

  ว่าแนวโน้มคงจะเป็นไปตามที่วิเคราะห์กัน  ถ้าย้อนกลับไปดูตามประวัติศาสตร์กองทัพฝ่ายรุกมักจะเสแสร้ง

  เจรจาด้านหน้าขอมีสันติให้อีกฝ่ายให้ตายใจ ขณะเดียวกันก็แอบส่งกองทัพบุกเข้าทางข้างหลังทุกครั้งไป

               ถ้าหากทักษิณมีความจริงใจขอมีการเจรจาปรองดอง ทำไมไม่สั่งให้ไอ้ตู่หยุดพูดสำรากรายวัน,ทำไม

  ไม่สั่งให้พวกเสื้อแดงหยุดการก่อหวอดประท้วงก่อความวุ่นวาย,ทำไมไม่สั่งให้พวกสมุนที่ก่อการร้ยหยุดยิง

  ระเิบิด หยุดวางระเบิด ในที่ชุมชน, ทำไมไม่สลายกองกำลังเสื้อดำที่ยังคงแฝงตัวอยู่,ทำไมไม่สั่งหยุดท่อนํ้า

  เลี้ยงที่ปัจจุบันยังคงมีส่งนํ้าเลี้ยงกันอย่างต่อเนื่องให้กับแนวร่วมในต่างจังหวัดและในกรุง ?
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #731 เมื่อ: 15 กันยายน 2553, 21:13:03 »

พี่แก้วครับ

เราต้องหยุดให้ราคา "อ้ายตู่" มันเสียที อ้ายนี่พูดได้ทุกวัน เพื่อชดเชยพวกมันที่ไม่ได้พูดเพราะติดคุกอยู่
ผมว่ามันพูดทุกวันนี้ก็ยังได้เงินอยู่ เหมือนกับรับจ้างตีรวนไปวันๆ ให้เกิดน้ำกระเพื่อมตลอดเวลา
ลองสื่อไม่จับข่าวมันสัก 2-3 วันจะรู้ว่าทุกอย่างจะเงียบ แต่สื่อมันไม่ยอมหยุดเพราะมันได้เงินด้วยครับ
ผมไม่เคยอ่านคำพูดของมันเลย ถือว่าเป็นเรื่องไร้ค่า และเราไม่เกิดปัญหา "ธาตุไฟแตก" ตามคนอื่นเขา
      บันทึกการเข้า
Preecha2510
Cmadong Member
Full Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2510
กระทู้: 788

« ตอบ #732 เมื่อ: 16 กันยายน 2553, 01:06:46 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 15 กันยายน 2553, 21:13:03
พี่แก้วครับ

เราต้องหยุดให้ราคา "อ้ายตู่" มันเสียที อ้ายนี่พูดได้ทุกวัน เพื่อชดเชยพวกมันที่ไม่ได้พูดเพราะติดคุกอยู่
ผมว่ามันพูดทุกวันนี้ก็ยังได้เงินอยู่ เหมือนกับรับจ้างตีรวนไปวันๆ ให้เกิดน้ำกระเพื่อมตลอดเวลา
ลองสื่อไม่จับข่าวมันสัก 2-3 วันจะรู้ว่าทุกอย่างจะเงียบ แต่สื่อมันไม่ยอมหยุดเพราะมันได้เงินด้วยครับ
ผมไม่เคยอ่านคำพูดของมันเลย ถือว่าเป็นเรื่องไร้ค่า และเราไม่เกิดปัญหา "ธาตุไฟแตก" ตามคนอื่นเขา

   สวัสดีครับเหยง   

        ผมเห็นด้วยกับเหยงเรื่องนายคนนี้(ไอ้ตู่)  คือถ้าทุกคนวางเฉยไม่ฟังหรือให้ความสนใจมันจะพูดอะไรก็พูดไป

  ถือเป็นเรื่องไร้สาระเสียแล้วมันก็ไม่มีค่าราคาอะไรเลย  ที่ยังพยายามพล่าม(สำราก)ออกมาทุกวันก็เป็นการพยายาม

  สร้างราคาให้กับตัวเองเพราะยังคงรับเงินนํ้าเลี้ยงจากนายใหญ่อยู่ทุกเดือน(ประเภทเงินมางานวิ่ง  เงินนิ่งงานหยุด

  ว่าอย่างนั้นเถอะ)
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #733 เมื่อ: 17 กันยายน 2553, 14:34:45 »

อ่านสบายๆ อย่าจริงจังครับ และห้ามอ่านแบบอ่านเอาเรื่องด้วยครับ

"ครูเหลือง-แดง" กับ ความยุติธรรมในโรงเรียน
17 กันยายน 2553 10:32 น.

 
       ท่ามกลางความแตกแยกทางความคิดของผู้คน ได้ส่งผลกระทบไปสู่โรงเรียน ดังนั้น คอลัมน์สังคมยุติธรรม วันนี้ จึงขอนำเสนอเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในโรงเรียน ซึ่งผู้เขียนได้ไปพบเห็นและคิดว่าน่าจะนำมาเสนอเพื่อเตือนสติประชาชน ให้มีความรัก ความสามัคคี กันให้มากขึ้น เหมือนกับที่ รัฐบาล กำลังดำเนินโครงการอยู่ในขณะนี้
       
       เรื่องมีอยู่ว่า มีโรงเรียนเล็กๆแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยที่โรงเรียนแห่งนี้ มีข้าราชการครู ซึ่งเป็นทั้งคนที่ชอบการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่มีเสื้อสีเหลือง เป็นสัณญลักษณ์
       
       และครูที่ชอบ "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตผู้นำประเทศ ที่มีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.ที่มี"เสื้อสีแดง"เป็นสัณญลักษณ์
       
       วันหนึ่ง ได้มีครูเสื้อแดง ทำการเคลื่อนไหวเพื่อรณรงค์ให้คนในพื้นที่ และพวกที่มีความคิดเดียวกัน ซึ่งมีเพียงไม่กี่คน สนับสนุนการเคลื่อนไหวของ คนเสื้อแดง
       
       ขณะที่มีครูเสื้อสีเหลือง เฝ้าดูอยู่ห่างๆ
       
       อยู่ๆได้มีเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่ง ซึ่งมีครูเสื้อสีแดงและกำลังเคลื่อนไหวอยู่ เป็นครูประจำชั้น
       
       ทันใดนั้น ครูเสื้อสีเหลือง ได้เข้าไปสอบถาม เด็กนักเรียนคนนั้น ว่าหนูคิดอย่างไร กับการเคลื่อนไหวของ ครูประจำชั้นของหนู
       
       แต่แทนที่เด็กนักเรียนหญิงผู้ใสซื่อคนนั้นจะตอบในทันที
       
       บิดาของเด็กนักเรียนหญิงที่เดินมาส่งลูก ซึ่งเป็นคนที่มีความรู้เพียงแค่ ป.4 อาชีพทำงานรับจ้างกรีดยางพารา และรับจ้างเก็บมะพร้าว ตลอดจนทุกงานที่สุจริตที่มีใครจ้างเขา ก็จะรับงานนั้นมา เพื่อเลี้ยงครอบครับ ปะทังชีวิตของเขา โดยที่ครอบครับ เขาอยู่อย่างอบอุ่น พ่อ แม่ ลูก
       
       เหตุที่ผู้เขียนถึงกับตะลึง และเห็นว่า น่าจะมีประโยชน์กับผู้อ่าน คือ...บิดาเด็กนักเรียนหญิง ที่มีความรู้แค่ ป.4 เขาตอบแทนลูกว่า "ผมไม่โทษทั้งเสื้อเหลือง และเสื้อแดง เนื่องจากเข้าใจในความคิด ความรู้สึกของแต่ละคน โดยที่ผมเชื่อว่า ทั้งสีแดง และสีเหลือง เขาทำในสิ่งที่เขาเชื่อว่า ดี ถูกต้อง ส่วนผลสรุป สุดท้ายใครผิด ใครถูก ก็อยู่ที่การกระทำ"
       
       เขาย้ำว่า ครูของลูกผม เขาใส่เสื้อสีแดง แต่ผมซึ่งเป็นพ่อของลูก ใส่เสื้อสีเหลือง ผมก็ไม่ได้โกรธ หรือเกลียดครูของลูกผม เพราะผมเชื่อว่า เขาสอนให้ลูกผมเป็นคนดี เขาให้วิชาความรู้แก่ลูกผม
       
       ส่วนคำพูดที่เข้าย้ำทิ้งท้ายว่า...สำหรับการแบ่งฝ่าย เหลือง แดง ในยุคนี้ เชื่อแน่นอนว่า จะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ในประเทศไทย และวันนั้น วันที่ลูกของผมเขาโตขึ้นมา และเมื่อเขาได้อ่านประวัติศาสตร์แห่งการต่อสู้ เขาก็จะได้รู้ซึ้ง และรับรู้ในที่สุด ว่าประชาธิปไตย ไม่ใช่ของที่ได้มาง่ายๆ และเมื่อเป็นเช่นนี้ ผมเชื่อว่า ลูกผมจะเป็นคนดี รักประชาธิปไตย รักชาติ รักศาสนา และพระมหากษัตริย์
       
       จากเหตุบังเอิญที่พบเจอ ถือว่า เป็นคำพูดที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง แทนที่พ่อของเด็กนักเรียนหญิง ซึ่งใส่เสื้อสีเหลือง เขาจะสอนลูกของเขา ไม่ให้ไปเชื่อครูประจำชั้นที่ใส่เสื้อสีแดง และสอนให้เกลียดชังครูคนนั้น แต่เขากลับสอนในสิ่งที่ดี โดยที่ผู้คนที่ได้รับฟัง ถึงกับอึ้ง และแทบไม่น่าเชื่อว่า นี่คือความคิดของบิดาที่จบเพียงชั้น ป.4 แต่หัวจิต หัวใจ ของเขา ช่างประเสริฐจริง...
       
       ด้านครูเสื้อเหลือง มองเรื่องการแบ่งแยกสี ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนว่า ถือเป็นเรื่องปกติ ที่แต่ละคนจะเห็นต่าง และสำหรับโรงเรียนของเรา แม้จะเห็นต่าง แต่เราก็ไม่มีความแตกแยก และจะเข้าใจซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะสิ่งสำคัญที่สุด คือ ทำอย่างไร ให้ลูกศิษย์ เป็นคนดีของสังคม
       
       นี่คือเรื่องจริง กับสังคมแห่งความยุติธรรม ที่เกิดขึ้น กับโรงเรียนเล็กๆแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช...

 
 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000130712
 
      บันทึกการเข้า
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #734 เมื่อ: 19 กันยายน 2553, 09:35:25 »

เรื่องขำ นะคะ

พี่แก้ว และเหยง

 วันก่อนเเอ๊ะเห็น หน้าปก หนังสือพิมพ์ มติชน หีรือ เนชั่นสุด ไม่เเน่ใจ

เขาเขียน คำว่า

ปรองดอง

แล้วทำ ตัว งองู

หล่นไป

แอ๊ะขำ เลยค่ะ  หรือเขาลืม ตรวจบรู๊ฟ 5555555555555
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
Preecha2510
Cmadong Member
Full Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2510
กระทู้: 788

« ตอบ #735 เมื่อ: 03 ตุลาคม 2553, 11:10:20 »



        วันนี้เปิดอ่านข่าวเกี่ยวกับประเทศจีนพบข่าวที่น่าสนใจ 2 เรื่องก็เลยเอามาให้อ่านกันเล่นๆ

                               เรื่องแรก   การพยายามหาวิธีแก้ไขปัญหารถติดในกรุงปักกิ่ง


                 http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9530000137644


         
                                       เรื่องที่สอง จีนเปิดสุขาหญิงแบบยืนฉี่ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม


                 http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9530000136967
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #736 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2553, 21:58:15 »

พี่แก้วครับ

เป็นธรรมดาของประเทศที่มีประชากรกว่า 1,300 ล้านคน ซึ่งถ้ามีเศรษฐีใหม่เกิดขึ้นเพียง 100 ล้านคน เมืองจีนก็แย่แล้วครับ
เคยมีโครงการขยายการค้าของกระทรวงพาณิชย์ไปยังประเทศจีนในหลายปีก่อนจะเกิดแผ่นดินไหวที่นครเฉิงตู มณฑลเสฉวน
ซึ่งเป็นแหล่งพักและระบายสินค้าของไทย โดยประเทศไทยมีโครงการจะไปตั้งศูนญืแสดงและสาธิตสินค้าไทยที่นั่น
วิทยากรบอกกับตัวแทนร้านขายกระยาสารทของจังหวัดนครสวรรค์ที่อยากจะไปขยายสินค้าที่นั่นว่า
แค่คนจีนเพียงมณฑลเดียว ลองชิมกระยาสารท 1 ชิ้นและกล้วยไข่ 1 ใบเท่านั้น กระยาสารททั้งเมืองไทยก็ไม่พอให้ชิม
และถ้าขายได้ ก็ต้องทำกระยาสารทครั้งละ 100 ตัน และปลูกกล้วยไข่ยกจังหวัดเืพื่อให้คนจีนเพียงมณฑลเดียวกิน
เพราะหลายมณฑลมีประชากรเกิน 100 ล้านคน

ดังนั้นถ้าคนจีน 100 ล้านคน ซื้อรถยนต์ 100 ล้านคัน มันก็จะเหมือนเมืองไทย ที่สร้างถนนไม่พอให้รถยนต์ส่วนตัววิ่ง
ที่แน่ๆ บริษัทขายรถยนต์ส่วนตัวร่ำรวยแน่นอน บริษัทต่างๆจึงพยายามเข้าไปตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ในจีนกัน
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #737 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2553, 22:00:02 »

ส่วนเรื่องผู้หญิงจีนยืนฉี..ไม่มีความเห็นครับ ขนาดผู้ชายซึ่งธรรมชาติให้มาเหมาะสมกว่า ยังเลอะและมีกลิ่นเลย  จ๊าากกก  เหนื่อย  เค้าไม่ยอม
      บันทึกการเข้า
Preecha2510
Cmadong Member
Full Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2510
กระทู้: 788

« ตอบ #738 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2553, 21:21:22 »


    สวัสดีครับเหยง

                  วันนี้ได้ดูข่าวได้ทราบว่าอเมริกากำลังจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศด้วยการพิมพ์ธนบัติ

  ปล่อยออกมาอีกประมาณ 600,000 ล้าน us$  ซึ่งคงจะมีผลให้ค่าของเงินดอลล่าร์อ่อนลงไปและค่าเงิน

  ของประเทศคู่ค้าต่างๆรวมทั้งไทยแข็งขึ้นไป  จะทำให้สินค้าทุกชนิด(รวมทั้งสินค้าเกษตร)ที่ส่งออกไป

  ขายต่างประเทศแพงและขายออกได้น้อยลง เกษตรกรไทยทั่วประเทศคงจะได้รับผลกระทบแน่นอน

  คิดว่าเหยงและผู้อยู่ในวงการซื้อขายสินค้าทางการเกษตรคงได้ทราบ  และเตรียมตัวรับสถานะการณ์

  กันแล้ว

      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #739 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2553, 21:31:05 »

ติดตามข่าวเรื่องเงินบาทเช่นกันค่ะ .. ขอแอบมาอ่านในห้องพี่แก้วด้วยนะคะ     ปิ๊งๆ
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
Preecha2510
Cmadong Member
Full Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2510
กระทู้: 788

« ตอบ #740 เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2553, 00:21:56 »


   สวัสดีครับน้องหะยี

                 ได้ติดตามเข้าไปดูในห้อง เมียงู  Minha Vida em Portugal  ที่น้องหะยีถ่ายรูปสถานที่สวยงาม

 ต่างๆใน Lisbon นำมาลงในเว็บเห็นแล้วน่าไปเที่ยวมาก  คิดว่าตอนนี้คงปรับตัวเข้ากับสภาพอาก่าศและ

สถานที่ได้แล้ว
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #741 เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2553, 02:20:53 »

อ้างถึง
ข้อความของ Preecha2510 เมื่อ 05 พฤศจิกายน 2553, 00:21:56

   สวัสดีครับน้องหะยี

                 ได้ติดตามเข้าไปดูในห้อง เมียงู  Minha Vida em Portugal  ที่น้องหะยีถ่ายรูปสถานที่สวยงาม

 ต่างๆใน Lisbon นำมาลงในเว็บเห็นแล้วน่าไปเที่ยวมาก  คิดว่าตอนนี้คงปรับตัวเข้ากับสภาพอาก่าศและ

สถานที่ได้แล้ว

ขอบคุณค่ะ พี่แก้ว ..     รักนะ

เดือนแรกแทบไม่ไหวค่ะ  เหงามาก ..
เราเคยทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำ
มานั่งเฉย ๆ อยู่กับบ้าน  เกือบเฉาตาย
แถมด้วยเป็นผื่นคัน เต็มหน้า เต็มคอ
ต้องรักษากันอยู่เป็นเดือน ..
หยีขอกลับ กทม. เลยค่ะ .. บอกว่าไม่อยู่แล้ว

คิดว่าเป็นภูมิแพ้ .. แพ้อากาศ แพ้ฝุ่น เกษรดอกไม้ หรืออื่น ๆ
จนสุดท้าย  หมอต้องทำ skin test เพื่อทดสอบหาตัวกระตุ้น
เอาตัวรอดมาได้แล้วค่ะ

เดือนที่สอง .. เริ่มยิ้มออก
พาตัวเองออกนอกบ้านบ่อย ๆ .. กระตุ้นให้อาแปะพาไปเที่ยวบ่อย ๆ (เขาเองก็ชอบ)
เข้าที่แล้วล่ะค่ะ ..

เมืองนี้เป็นเมืองโบราณ สถาปัตยกรรมเก่า ๆ และสวยงาม มีมากมาย
หากเป็นคนชอบเที่ยวและศึกษาเรื่องเหล่านี้
รับรองมีความสุขมากค่ะ ..
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #742 เมื่อ: 07 พฤศจิกายน 2553, 20:19:37 »

อ้างถึง
ข้อความของ Preecha2510 เมื่อ 04 พฤศจิกายน 2553, 21:21:22

    สวัสดีครับเหยง

                  วันนี้ได้ดูข่าวได้ทราบว่าอเมริกากำลังจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศด้วยการพิมพ์ธนบัติ

  ปล่อยออกมาอีกประมาณ 600,000 ล้าน us$  ซึ่งคงจะมีผลให้ค่าของเงินดอลล่าร์อ่อนลงไปและค่าเงิน

  ของประเทศคู่ค้าต่างๆรวมทั้งไทยแข็งขึ้นไป  จะทำให้สินค้าทุกชนิด(รวมทั้งสินค้าเกษตร)ที่ส่งออกไป

  ขายต่างประเทศแพงและขายออกได้น้อยลง เกษตรกรไทยทั่วประเทศคงจะได้รับผลกระทบแน่นอน

  คิดว่าเหยงและผู้อยู่ในวงการซื้อขายสินค้าทางการเกษตรคงได้ทราบ  และเตรียมตัวรับสถานะการณ์

  กันแล้ว




พี่แก้วครับ

ตอนนี้ทั้งเกษตรกรและพ่อค้ากำลังแย่ครับ สื่อกำลังลงข่าวเรื่อง อ๊าฟต้า ซึ่งไม่ค่อยมีใครรู้เรื่องเลย
ยกเว้นส่วนราชการและบริษัทใหญ่ๆ ที่มีสำนักวิจัย หรือวิชาการ ที่ติดตามและประเมินสถานการณ์์ เช่น ซีพี
ข้าราชการเราไม่คิดปกป้องเกษตรกรหรือผู้ค้า ซึ่งเป็นคนเสียภาษีให้เป็นเงินเดือนแก่เขา
เกิดเรื่องแล้วแก้ไขยากครับ คือ เงินบาทแข็งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลดอลล่าร์ แต่ในประเทศเงินบาทมีค่าลดลงเสมอ
เราจะได้เปรียบด้วยการซื้อของเข้ามา ซึ่งที่สุดคือเสียดุลการค้า และเงินบาทอ่อนค่า ขายสินค้าไม่ได้ จนมุม
ของที่นำเข้าแปรเป็นเงินบาทในระหว่างคนไทยแล้ว ไม่ถูกลง คนไทยขายของให้คนไทยในราคาเดิมครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #743 เมื่อ: 07 พฤศจิกายน 2553, 20:30:25 »

     รถยนต์จำนวน 13 ล้าน 6 แสน 4 หมื่นคันที่มีการขายไปในปี 2552 ต้องใช้พื้นที่ในการแล่นคันละไม่ต่ำกว่า 4 เมตร ตามความยาวของตัวรถ โดยยังไม่คิดถึงระยะห่างของรถที่กฎหมายกำหนดไว้ จำต้องมีพื้นผิวถนน 54,560 ก.ม. ครับ แล้วรถมันจะไม่ติดขัดไปได้อย่างไร ประเทศจีนยังจะต้องประสบปัญหานี้ไปอีกหลายๆปี ทั้งนี้ยังไม่รวมถึงการจัดหาที่จอดรถยนต์ทั้งที่เป็นบ้านส่วนตัว สถานที่ทำงาน แหล่งบันเทิงเพื่อจับจ่ายซื้อของ ฯลฯ ด้วยน่ะครับ
     และในระยะเวลาต่อจากนี้ไป สถานีบริการน้ำมัน อู่ซ่อมรถยนต์ ช่างซ่อมรถยนต์ประเภทต่างๆ อาทิ ช่างปะยางและเครื่องล่าง ช่างเครื่องยนต์ ช่างไฟฟ้า-ไดทุกชนิด ช่างหม้อน้ำ ช่างทำเบาะ ช่งตัดผุ-ทำสีรถ จะต้องตามมาเป็นพรวน ผิดกับการใช้จักรยาน หรือจักรยายนต์ราวกับฟ้าและดินเลย

ยอดขายรถยนต์พุ่ง มลพิษในอากาศเพิ่ม
7 พฤศจิกายน 2553 12:27 น.

 
       เอเยนซี่ - กระทรวงป้องกันสิ่งแวดล้อมแดนมังกรออกรายงานภาวะมลพิษ ซึ่งเกิดจากการปล่อยไอเสียของรถยนต์ในประเทศประจำปี 2553 ระบุ ยอดขายรถ ที่อู้ฟู่กำลังเป็นตัวการสำคัญ ทำลายคุณภาพอากาศในเมืองส่วนใหญ่ของจีน
       
       ในรายงานภาวะมลพิษจากไอเสียรถยนต์ ซึ่งกระทรวงเผยแพร่เป็นครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสฯ (4 พ.ย.) ระบุว่า กว่าร้อยละ 30 ของเมืองขนาดใหญ่และขนาดกลาง 113 เมืองทั่วประเทศ มีสภาพอากาศไม่ได้มาตรฐานแห่งชาติ โดยสาเหตุใหญ่มาจากการปล่อยไอเสียของยวดยานพาหนะและจากการเผาถ่านหินบ้าง โดยเริ่มมองเห็นปัญหามลพิษในอากาศ นับตั้งแต่ฝนกรด, หมอกแดด และหมอกควันแบบโฟโตเคมิคัล (photochemical smog) ได้บ่อยขึ้นในบางภาคภูมิภาค
       
       “ในบางภูมิภาคประสบสภาพอากาศ ที่มีหมอกแดดนานกว่า 200 วันเมื่อปี 2552” รายงานระบุ
       
       “ ปัญหาทั้งหมดล้วนเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับการปล่อยไอเสียรถยนต์ รวมทั้งก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ และอนุภาคอื่น ๆ “
       
       การปล่อยไอเสียรถยนต์มีปริมาณทั้งสิ้นสูงกว่า 51 ล้านตันในปีที่แล้ว ซึ่งกว่า 40 ล้านตันเป็นก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์l, เกือบ 5 ล้านตันเป็นก๊าซไฮโดรคาร์บอน, ราว 6 ล้านตันเป็นก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ และอนุภาคอื่น ๆ อีก 590,000 ตัน จากสถิติของกระทรวง
       
       รายงานยังระบุว่า แม้จำนวนผู้เป็นเจ้าของรถยนต์ในจีนเพิ่มขึ้นอย่างมากมาตั้งแต่ปี 2543 แต่ทางการก็ได้ดำเนินนโยบายต่าง ๆ เพื่อควบคุมการปล่อยไอเสียจากรถยนต์ อาทิ คณะผู้บริหารกรุงปักกิ่ง, มหานครเทียนจิน และมณฑลเหอเป่ยได้ดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมเสร็จเรียบร้อยสถานีเติมน้ำมัน และคลังเก็บน้ำมันหลายพันแห่ง
       
       ขณะที่บางเมืองในเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี และเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมปากแม่น้ำจูเจียง เริ่มโครงการแก้ไขการปล่อยไอเสียรถยนต์
       
       นอกจากนั้น ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติฉบับที่ 12 (2554-2558) ซึ่งผ่านการเห็นชอบในเดือนต.ค. ระบุให้อุตสาหกรรมยานยนต์ในจีนมุ่งวิจัยและพัฒนารถยนต์ ที่ใช้พลังงานสะอาด เช่นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอีกด้วย
       
       ทั้งนี้ จีนก้าวขึ้นเป็นตลาดผู้ซื้อรถยนต์รายใหญ่สุดของโลกในปี 2552 โดยยอดผลิตพุ่งถึง 13 ล้าน 7 แสน 9 หมื่นคัน และยอดขายพุ่งถึง 13 ล้าน 6 แสน 4 หมื่นคันในปีที่แล้ว

 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000156744
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #744 เมื่อ: 12 ธันวาคม 2553, 22:29:50 »

อ้างถึง
ข้อความของ Preecha2510 เมื่อ 04 พฤศจิกายน 2553, 21:21:22

    สวัสดีครับเหยง

                  วันนี้ได้ดูข่าวได้ทราบว่าอเมริกากำลังจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศด้วยการพิมพ์ธนบัติ

  ปล่อยออกมาอีกประมาณ 600,000 ล้าน us$  ซึ่งคงจะมีผลให้ค่าของเงินดอลล่าร์อ่อนลงไปและค่าเงิน

  ของประเทศคู่ค้าต่างๆรวมทั้งไทยแข็งขึ้นไป  จะทำให้สินค้าทุกชนิด(รวมทั้งสินค้าเกษตร)ที่ส่งออกไป

  ขายต่างประเทศแพงและขายออกได้น้อยลง เกษตรกรไทยทั่วประเทศคงจะได้รับผลกระทบแน่นอน

  คิดว่าเหยงและผู้อยู่ในวงการซื้อขายสินค้าทางการเกษตรคงได้ทราบ  และเตรียมตัวรับสถานะการณ์

  กันแล้ว



ขออนุญาตเพิ่มเติมครับ

ประธาน FED แถลงในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ถ้า 6 แสนล้านเหรียญไม่พอ จะเพิ่มจำนวนอีกก็ได้
ที่สำคัญคือ การเพิ่มธนบัตรเข้าตลาด ค่าเงินจะอ่อนตัวลง เพราะสหรัฐไม่มีระบบค้ำด้วยทองคำ
ืั้ทั้งๆ ที่อเมริกามีทองคำ แต่ไม่ประกาศผูกพันกับเงินดอลล่าร์ (คงจะเข็ดกับการที่ฝรั่งเศสในสมัย ชาร์ล เดอโกล
รับเงินช่วยเหลือในรูปธนบัตรแล้วขอแลกเป็นทองคำ ทำให้ปี 1965 ปธน.เคนเนดี้ ประกาศยกเลิกการผู้ค่าเงินกับทองคำ)

แต่ปรากฎว่า ช่วงเอาเงินดอลล่าร์ออกมาซื้อหนี้เน่านั้น เกิดวิกฤติในประเทศยูโรโซน
เช่น ไอร์แลนด์ ซึ่งต้องใช้เงิน 85,000 ล้านยูโรเข้าอัดฉีด ก็ยังไม่เพียงพอ
กรีซซึ่งได้เงินไปหลายพันล้านแก้ไขปัญหาหนี้ที่กู้มาแข่งบอลโลก แต่ไม่สามารถใช้คืนได้ทันกำหนด
ตามด้วยต้องขอเลื่อนการชำระเงินรอบใหม่อีก จากปี 2016 ไป 2021 เลย
แถมสเปนและโปรตุเกส ก็ออกอาการ เช่นกัน (สเปนและโปรตุเกส เสนอตัวคู่จัดบอลโลกปี 2018 แต่กาต้าร์ได้ไปแทน)
เมื่อเงินยูโรไร้เสถียรภาพ เงินดอลล่าร์ก็กลับมาแข็งค่ากว่าเงินยูโร
สรุป อเมริกันสบายไป โดยได้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ไป

ที่สำคัญ นักเก็งกำไรยังเชื่อว่า เมื่อเงินดอลล่าร์อ่อนค่า ต้องซื้อสินค้าโภคภัณฑ์ไว้เก็งกำไร
จีนได้ออกมาตรการกันการเก็งกำไรด้วยการสั่งห้ามธนาคารออกเงินให้ผู้ค้าเก็งราคาอาหารและธัญพืชอาหารสัตว์
พร้อมให้ธนาคารทุกแห่งสำรองเงินเพิ่มขึ้นถึง 2 ครั้งครั้งละ 0.50% เป็น 18.5% แล้ว
เนื่องจากเงินเฟ้อของจีนไปที่ร้อยละ 5.1 จากที่รัฐตั้งเป้าไว้เพียงร้อยละ 3.0 พร้อมกับสั่งให้รัฐบ่าลท้องถิ่น
แจกเงินยังชีพให้ชาวจีนเพื่อใช้ซื้ออาหารกันแล้ว

บ้านเราหลังเกษตรกร ชาวบ้านกว่า 53 จังหวัดได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ซึ่งยังไม่จบแม้ในขณะนี้
เกษตรกรอ่อนแอ พึ่งตัวเองไม่ได้ เนื่องจากผลผลิตที่จะเก็บเกี่ยวได้จมน้ำและไม่สามารถใช้หนี้ก้อนนี้ได้
ต้องรอ...ความช่วยเหลือจากภาครับเพียงอย่างเดียว...............

แล้ว จนท.รัฐ ก็แย่ พอน้ำท่วมก็กลัว ด้วยการปล่อยน้ำทิ้งจนตอนนี้เริ่มกลับมาแห้งแล้งอีกแล้ว......!!!
จนท.ของเรา ไม่เอาเรื่องเลย ไม่เคยมองไปข้างหน้าว่า ถ้าน้ำท่วมต้องแก้อย่างไรจึงจะถูกหลัก และมีน้ำเหลือใช้ต่อไป
เมื่อน้ำท่วมก็ปล่อยน้ำหมด-ให้ไหลลงทะเลไป เลิกท่วมจึงไม่เหลือน้ำในเขื่อนพอ เพื่อให้พอใช้ไปถึงฤดูฝนปีหน้า.....


และเดือนนี้คือเดือน 12 เดือนสิ้นปีของปฏิทิน พ่อค้าทุกรายเซฟเงินเพื่อให้ตัวเลขบัญชีดูดี
ส่งผลให้พ่อค้าทุกชนิดชะลอการซื้อสินค้าเกษตรจากชาวไร่ ชาวนา ส่งผลให้เดือดร้อนกันอยู่ในขณะนี้ครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #745 เมื่อ: 12 ธันวาคม 2553, 22:33:55 »

ต่อด้วย

วันที่ 12 ธันวาคม นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27 หรือมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2010 เปิดเผยว่า ยอดจองรถภายในงานปีนี้คาดว่ามียอดรวมถึง 30,000 คัน ขณะนี้ยอดจองรวม 11 วันจนถึงวันที่ 11 ธันวาคม อยู่ที่ 27,058 คัน ซึ่งทำลายสถิติของปี 2552 ที่มียอดจองเพียง 25,220 คัน มีเงินสะพัดประมาณ 23,000 ล้านบาท

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1292163747&grpid=&catid=05&subcatid=0500

รถ 1 คันใช้พื้นผิวถนน 5 เมตร(โดยประมาณ) คูณ 27,058 คัน เท่ากับ 135.290 กม. ที่จะต้องให้รถยนต์ที่ขายได้ในงานนี้จอดรอไฟเขียว ไม่รวมพื้นที่จอดรถในบ้าน, หมู่บ้าน, ห้างฯ อีกต่างหาก
      บันทึกการเข้า
Preecha2510
Cmadong Member
Full Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2510
กระทู้: 788

« ตอบ #746 เมื่อ: 13 ธันวาคม 2553, 15:29:38 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 12 ธันวาคม 2553, 22:29:50
อ้างถึง
ข้อความของ Preecha2510 เมื่อ 04 พฤศจิกายน 2553, 21:21:22

    สวัสดีครับเหยง

                  วันนี้ได้ดูข่าวได้ทราบว่าอเมริกากำลังจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศด้วยการพิมพ์ธนบัติ

  ปล่อยออกมาอีกประมาณ 600,000 ล้าน us$  ซึ่งคงจะมีผลให้ค่าของเงินดอลล่าร์อ่อนลงไปและค่าเงิน

  ของประเทศคู่ค้าต่างๆรวมทั้งไทยแข็งขึ้นไป  จะทำให้สินค้าทุกชนิด(รวมทั้งสินค้าเกษตร)ที่ส่งออกไป

  ขายต่างประเทศแพงและขายออกได้น้อยลง เกษตรกรไทยทั่วประเทศคงจะได้รับผลกระทบแน่นอน

  คิดว่าเหยงและผู้อยู่ในวงการซื้อขายสินค้าทางการเกษตรคงได้ทราบ  และเตรียมตัวรับสถานะการณ์

  กันแล้ว



ขออนุญาตเพิ่มเติมครับ

ประธาน FED แถลงในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ถ้า 6 แสนล้านเหรียญไม่พอ จะเพิ่มจำนวนอีกก็ได้
ที่สำคัญคือ การเพิ่มธนบัตรเข้าตลาด ค่าเงินจะอ่อนตัวลง เพราะสหรัฐไม่มีระบบค้ำด้วยทองคำ
ืั้ทั้งๆ ที่อเมริกามีทองคำ แต่ไม่ประกาศผูกพันกับเงินดอลล่าร์ (คงจะเข็ดกับการที่ฝรั่งเศสในสมัย ชาร์ล เดอโกล
รับเงินช่วยเหลือในรูปธนบัตรแล้วขอแลกเป็นทองคำ ทำให้ปี 1965 ปธน.เคนเนดี้ ประกาศยกเลิกการผู้ค่าเงินกับทองคำ)

แต่ปรากฎว่า ช่วงเอาเงินดอลล่าร์ออกมาซื้อหนี้เน่านั้น เกิดวิกฤติในประเทศยูโรโซน
เช่น ไอร์แลนด์ ซึ่งต้องใช้เงิน 85,000 ล้านยูโรเข้าอัดฉีด ก็ยังไม่เพียงพอ
กรีซซึ่งได้เงินไปหลายพันล้านแก้ไขปัญหาหนี้ที่กู้มาแข่งบอลโลก แต่ไม่สามารถใช้คืนได้ทันกำหนด
ตามด้วยต้องขอเลื่อนการชำระเงินรอบใหม่อีก จากปี 2016 ไป 2021 เลย
แถมสเปนและโปรตุเกส ก็ออกอาการ เช่นกัน (สเปนและโปรตุเกส เสนอตัวคู่จัดบอลโลกปี 2018 แต่กาต้าร์ได้ไปแทน)
เมื่อเงินยูโรไร้เสถียรภาพ เงินดอลล่าร์ก็กลับมาแข็งค่ากว่าเงินยูโร
สรุป อเมริกันสบายไป โดยได้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ไป

ที่สำคัญ นักเก็งกำไรยังเชื่อว่า เมื่อเงินดอลล่าร์อ่อนค่า ต้องซื้อสินค้าโภคภัณฑ์ไว้เก็งกำไร
จีนได้ออกมาตรการกันการเก็งกำไรด้วยการสั่งห้ามธนาคารออกเงินให้ผู้ค้าเก็งราคาอาหารและธัญพืชอาหารสัตว์
พร้อมให้ธนาคารทุกแห่งสำรองเงินเพิ่มขึ้นถึง 2 ครั้งครั้งละ 0.50% เป็น 18.5% แล้ว
เนื่องจากเงินเฟ้อของจีนไปที่ร้อยละ 5.1 จากที่รัฐตั้งเป้าไว้เพียงร้อยละ 3.0 พร้อมกับสั่งให้รัฐบ่าลท้องถิ่น
แจกเงินยังชีพให้ชาวจีนเพื่อใช้ซื้ออาหารกันแล้ว

บ้านเราหลังเกษตรกร ชาวบ้านกว่า 53 จังหวัดได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ซึ่งยังไม่จบแม้ในขณะนี้
เกษตรกรอ่อนแอ พึ่งตัวเองไม่ได้ เนื่องจากผลผลิตที่จะเก็บเกี่ยวได้จมน้ำและไม่สามารถใช้หนี้ก้อนนี้ได้
ต้องรอ...ความช่วยเหลือจากภาครับเพียงอย่างเดียว...............

แล้ว จนท.รัฐ ก็แย่ พอน้ำท่วมก็กลัว ด้วยการปล่อยน้ำทิ้งจนตอนนี้เริ่มกลับมาแห้งแล้งอีกแล้ว......!!!
จนท.ของเรา ไม่เอาเรื่องเลย ไม่เคยมองไปข้างหน้าว่า ถ้าน้ำท่วมต้องแก้อย่างไรจึงจะถูกหลัก และมีน้ำเหลือใช้ต่อไป
เมื่อน้ำท่วมก็ปล่อยน้ำหมด-ให้ไหลลงทะเลไป เลิกท่วมจึงไม่เหลือน้ำในเขื่อนพอ เพื่อให้พอใช้ไปถึงฤดูฝนปีหน้า.....


และเดือนนี้คือเดือน 12 เดือนสิ้นปีของปฏิทิน พ่อค้าทุกรายเซฟเงินเพื่อให้ตัวเลขบัญชีดูดี
ส่งผลให้พ่อค้าทุกชนิดชะลอการซื้อสินค้าเกษตรจากชาวไร่ ชาวนา ส่งผลให้เดือดร้อนกันอยู่ในขณะนี้ครับ


     สวัสดีครับเหยง 

             ณ.วันนี้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราอยู่ที่ 29 บาทเศษๆต่อดอลล่าร์ค่าเงินบาทแข็งเกินจริง  แล้วยิ่งมีกม.

  เปิดให้มีเงินไหลเข้าออกได้โดยเสรี จะสังเกตุได้ว่าช่วงนี้มีเงินนอกหมุนเข้ามาเก็งกำไรกันมาก  ผมยังเกรงๆ

 ว่าถ้ารัฐไม่มีมาตราการควบคุมที่รัดกุมให้ดี  อาจจะเกิดภาวะฟองสบู่ในบ้านเราอีกครั้งก็ได้ ใครที่ลงทุนแบบเก็ง

  กำไร   ช่วงนี้คงต้องระมัดระวังกันหน่อย
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #747 เมื่อ: 13 ธันวาคม 2553, 18:36:18 »

พี่แก้วครับ

ข้าราชการไม่กล้าสกัดดอกครับ แค่ ธปท.ขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยไม่แจ้ง ก็โดนนายกฯ บ่นใส่มาแล้ว
เพราะนักการเมืองกำลังเล่นหุ้นกันอยู่ล แต่การบอกถือว่าผิดวิสัยด้วยเช่นกัน
เพราะนักการเมืองรู้ ก็เล่นขายล่วงหน้าฟันกำไรเช่นกัน ??
สส., สว.และ รมต. เบี้ยวประชุมสภาฯ จนสภาล่ม-เป็นเรื่องธรรมดา แต่ไม่เคยเบี้ยวห้องค้าหุ้นและโรงอาบอบนวดครับ
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #748 เมื่อ: 23 ธันวาคม 2553, 09:04:58 »

สวัสดีปีใหม่ค่ะ ..       หึหึ

      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #749 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2553, 21:38:59 »

Merry Christmas and Happy New Year ค่า
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
  หน้า: 1 ... 28 29 [30] 31  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><