24 พฤษภาคม 2567, 05:19:34
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 22 23 [24] 25 26 ... 31  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: ยินดีต้อนรับพี่ๆ รุ่น 2510 ครับ  (อ่าน 287979 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #575 เมื่อ: 29 เมษายน 2553, 09:47:36 »

คอลัมม์"คนปลายซอย" ของคุณเปลว สีเงิน

ด้วยเป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่า......?
เปลว สีเงิน 29 เมษายน 2553 - 00:00

  "พลทหารณรงค์ฤทธิ์   สาระ"  เป็นลูกหลานใคร  มาจากหน่วยไหน  สังกัดไหน  และจังหวัดไหน  ผมก็ยังไม่ทราบนะครับ  ทราบแต่ว่า...นี่คือ  "ทหารของชาติ"  มาปฏิบัติหน้าที่ควบคุม   "กลุ่มกบฏ"  ยึดเมืองหลวงอยู่ในกรุงเทพฯ  และเมื่อวานนี้  (๒๘  เม.ย.๕๓)  ปะทะกับกลุ่มกบฏเสื้อแดงที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติ  ดอนเมือง  และ  "ถูกยิงตาย"  ผมก็ขอแสดงความเสียใจกับผองเพื่อนทหาร  และญาติ-พี่น้องของพลฯ  ณรงค์ฤทธิ์ด้วย
     คงไม่ต้องเล่ารายละเอียดที่คณะแกนนำกบฏมอบหมายให้  "นายขวัญชัย  ไพรพนา"  เป็นแม่ทัพแดง  ยกกำลังจากศูนย์บัญชาการใหญ่  ณ  แยกราชประสงค์ไปเป็นกำลังสนับสนุนพรรคพวกที่ปฏิบัติการอยู่ย่านตลาดไท  แถวๆ  ธรรมกาย  เพราะโทรทัศน์ทั้งใน-นอกประเทศออกข่าวตลอดตั้งแต่บ่าย  ๒  โมงกว่าอยู่แล้ว
     พวกกบฏแดงปิดถนน  ทหารเข้าสกัดกั้น  ก็เลยปะทะกัน  "นายขวัญชัย  ไพรพนา"  ทิ้งชาวบ้านเสื้อแดงให้สู้กับทหาร  ส่วนตัวเองขึ้นรถหนีเอาตัวรอดกลับไปรวมหัวที่ราชประสงค์  แล้วขึ้นเวทีอวดซะอีกว่า  "มีพระดี"  จึงรอดมาได้!
     ก็ไม่อยากแสดงความคิดเห็นอะไรอีก   มันอนาถใจจนไม่รู้จะพูดอะไรถูก   วานซืนได้ยิน   "นายสุเทพ  เทือกสุบรรณ"  รองนายกฯ  ฝ่ายความมั่นคง  และผู้กำกับดูแลกิจการตำรวจพูดกระแทกๆ  ว่า  "ใครรู้ตัวว่าไม่พร้อมก็ขอย้ายตัวเองออกไปได้"
     นี่มันคือคำสารภาพตรงๆ  ว่า  "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ"  เต็มไปด้วย  "ตำรวจเกียร์ว่าง...ตำรวจสีแดง"  อย่างชัดเจน!
     การที่กฎหมายไร้สภาพบังคับใช้ขณะนี้   ส่วนหนึ่งก็มาจาก  "ตำรวจฝักใฝ่กบฏแดง"  ไม่ทำหน้าที่ก็ยังพอทน  แต่ที่หนักหนาน่าทุเรศกว่านั้น  ทั้งร่วม-ทั้งรู้เห็นเป็นใจ  เรียกว่าเป็นไปกับขบวนการ
     ทั้ง  ส.ส.แดง  ทั้งทหารแดง  ทั้งมหาดไทยแดง  และทั้งนายทุนอิทธิพลถิ่น  ไม่เว้นกระทั่งไอ้พวกหัวโล้นห่มเหลือง!
     ตำรวจ-ทหาร-ข้าราชการ  ใครจะแดง  ผมไม่ว่าอะไร  และไม่แปลกตรงไหน  แต่การที่ยังกินเงินเดือนชาวบ้าน  อยู่ในหน้าที่ราชการทำงานเพื่อประเทศชาติ-ประชาชน  พวกคุณต้องซื่อสัตย์-มั่นคงต่อหน้าที่นั้น  ถ้าอยากเป็นพวกกบฏแดง-กบฏทักษิณ  ก็ควรลาออกไป  ประกาศตัวให้ชัดเจนไปเลย
     แต่การทำอย่างนี้   ยังเป็นคนหลวง  กินเงินเดือนหลวง  แต่ทรยศหลวง  ทรยศประชาชน  พวกคุณเป็นคนไม่มีค่า-ไม่มีราคาความเป็นคนอะไรเลย  ฉะนั้น  การที่นายสุเทพแสดงอำนาจอวดชาวบ้านด้วยปากว่า  "ใครไม่พร้อมก็ขอย้ายตัวเองออกไปได้"  นั้น  นอกจากเป็นความเหลืออดที่สิ้นปัญญาแล้ว  ก็เหมือนตักน้ำรดหัวสาก  ซู่เดียวหายไป  ไม่มีใครรู้สึก
     ว่าแต่นายสุเทพเองก็เถอะที่ต้องสำนึก  เป็นคนคุมตำรวจ  แต่ตำรวจไม่ทำงาน  แถมยังมีบางส่วนไปร่วมพวกกบฏ  การที่เป็นเช่นนี้
     "ตัดหัวตำรวจกบฏ"  นั้น...ตัดได้
     แต่หัวนายสุเทพผู้เป็นนาย  ควรต้องตัดก่อนใช่มั้ย?!
     ณ  วันนี้  ด้วยการบริหารของนายกฯ  อภิสิทธิ์  ไม่เพียงกรุงเทพฯ  เท่านั้นที่กลายเป็นเมืองอันตราย   แต่ทั่วโลกประกาศให้รู้กันทั่วไปหมดแล้วว่า  "ทุกพื้นที่ประเทศไทย...อันตรายสูงสุด  ห้ามมา"!
     งามหน้ามั้ย...อภิสิทธิ์  "ผมจะบังคับใช้กฎหมายนำความสงบกลับคืนมาให้พี่น้องประชาชนโดยเร็ว"   พูดน่ะสวย  แต่ทำเฮงซวยตลอด  ปล่อยให้ชาวบ้าน  และทหาร  (ส่วนใหญ่ทหารเกณฑ์)  ต้องบาดเจ็บและตายไปวันละคน-สองคน  โดยไม่ได้ผลตอบแทนมาเป็นความสงบเรียบ
ร้อยอะไรเลย
     เป็นนายกฯ   น่ะ  ถ้าทำให้บ้านเมืองดีไม่ได้  ก็ไม่ควรเป็นตัวถ่วง  ถ้าบ้านเมืองมันจะต้องเป็นอะไร  ก็ปล่อยให้มันเป็นของมันไป  แต่ละคนจะได้สมน้ำหน้าตัวเองเท่าๆ  กัน   แต่อย่าให้มันเป็นด้วยการปล่อยให้คนเอาไปพูดกันว่า...เพราะบ้านเมืองมีนายกฯ-มีแม่ทัพที่...
     เหลือเดน!
     อภิสิทธิ์-อนุพงษ์   อยากมีชื่ออยู่ในบรรทัดประวัติศาสตร์ของหนังสือเรียนว่า  เราเสียเมืองให้กบฏ  สถาบันถูกย่ำยีในยุคนายกฯ  ชื่ออภิสิทธิ์  ผบ.ทบ.ชื่อ  พล.อ.อนุพงษ์อย่างนั้นหรือ?
     ไหน...เห็นเขาลือกันว่า   จะเปลี่ยนตัวว่าที่  ผบ.ตร. จาก  พล.ต.อ.ปทีป  ตันประเสริฐ   ไปเป็น  พล.ต.อ.จุมพล  มั่นหมาย  เพื่อนรักทักษิณ  (ความจริงอดีตก็คือเพื่อนรักผมด้วย)   ก็เปลี่ยนไปเลย  เพราะตั้งแต่  พล.ต.อ.ปทีปรักษาการ  ผมไม่เคยเห็น  พล.ต.อ.ปทีปแสดงภาวะผู้นำตำรวจที่ลูกน้องเคารพ-เชื่อฟังอะไรเลย
     ท่านเป็นคนดี   แต่ท่านน่าสงสารที่ตกอยู่ในฐานะ  "หนังหน้าไฟ"  ก็ลองให้  พล.ต.อ.ชุมพลเขามาทำหน้าที่บ้าง  อย่าไปมองว่า  "เพื่อนทักษิณ"  แล้วจะฉวยโอกาสยกตำรวจทั้ง  ๒-๓  แสนคน  ไปสังกัด  "สำนักงานตำรวจแดงแห่งชาติทักษิณ"  ถ้าเป็นอย่างนั้น  จะได้เชือดกันให้ถนัด
     ผมเชื่อว่า   พล.ต.อ.จุมพลแยกแยะความเป็นเพื่อน   กับความเป็นชาติในการทำหน้าที่ได้   ถ้าระแวงว่าเป็นเพื่อน  ผมก็จะบอกว่า  ผบ.สส. พล.อ.ทรงกิตติ  จักกาบาตร์  ก็เพื่อนทักษิณ   พล.อ.อนุพงษ์  เผ่าจินดา  ผบ.ทบ. ก็เพื่อนทักษิณ  กระทั่ง  พล.ร.อ.กำธร  พุ่มหิรัญ  ผบ.ทร.ก็เพื่อนทักษิณ
     แต่ไม่เห็นทักษิณมีอิทธิพลเหนือการทำหน้าที่ของแต่ละท่านนี่ครับ  แต่ละท่านปฏิบัติหน้าที่  "เพื่อชาติ"  จนตัวเป็นเกลียวกันทั้งนั้น!
     ก็ลองใช้บริการบิ๊กจุ๋มดูบ้าง  บางที  "ลางเนื้อชอบลางยา"  ในเมื่อเพ่งเล็งว่า  พล.ต.อ.จุมพลเป็นคนทักษิณ  ก็ให้มารับผิดชอบบัญชาการตำรวจซะเลย!
     เหมือนเอาคนชอบหนียาม  มาเป็นหัวหน้ายาม  แล้วดูซิต่อจากนี้  หน้าไหนมันจะหนีกันมั่ง!?
     แต่พูดกันด้วยความเป็นธรรม  "ตำรวจแดง"  ที่ยอมทรยศหน้าที่เพื่อทักษิณมีเพียงบางส่วนเท่านั้น  ส่วนใหญ่ยังคงเป็นตำรวจของประชาชน  ไม่ต้องดูไกล  ดูอย่าง  "กองปราบ"  นั่นก็พอ  ที่นั่นตำรวจแดงก็มี  แต่ในภาพรวมท่านทำหน้าที่  "พิทักษ์สันติราษฎร์"  กันน่าชื่นใจ
     อย่างท่าน  พ.ต.อ.ศานิตย์  มหถาวร  รองผู้บังคับการกองปราบนั่นปะไร  ใครก็ไม่กล้าจับเสธ.แดง  แต่ท่านจับซะเสธ.แดงซะแดงห้อไปเลย!
     ถึงตอนนี้...ใครยังบอกว่าที่พวกกบฏทักษิณทำ  เป็นการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยโดยสันติ  ปราศจากอาวุธอยู่อีก?
     ฆ่าทหารก็ฆ่าแล้ว  ยิงเอ็ม  ๗๙  ฆ่าชาวบ้านก็ฆ่าแล้ว  จลาจลเมืองก็จลาจลแล้ว  นี่...คาหนัง-คาเขา  วานนี้  ทหาร-ตำรวจไล่กวดมอเตอร์ไซค์เสื้อแดง  เห็นจวนตัวโยนถุงที่บรรทุกมาทิ้งข้างทางแถววิภาวดีรังสิต
     ปรากฏว่าเป็นลูกเอ็ม  ๗๙  ร่วมร้อยลูก!
     มันเป็นพวกก่อการกบฏ-เป็นพวกก่อการร้าย   มีอาวุธร้ายแรงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเห็นชัดๆ  มันทำกรุงเทพฯ  มันทำประเทศไทยให้กลายเป็นแดนมิคสัญญี  เป็นแดนก่อการร้ายเป็นที่หวาดกลัวกันไปทั้งโลก
     มีแต่นายกฯ  อภิสิทธิ์  พล.อ.ประวิตร  พล.อ.ทรงกิตติ  พล.อ.อนุพงษ์  พล.ร.อ.อิทธพร  พล.ร.อ.กำธร  และ  พล.ต.อ.ปทีป  เท่านั้นที่ยังเห็นว่า  พวกกบฏทักษิณเป็นผู้ชุมนุมโดยสันติ  ปราบปรามไม่ได้
     ขนาดจะพูดถึงยังเกรงอก-เกรงใจ   กลัวท่านวีระ  ท่านจตุพร  ท่านณัฐวุฒิ  ท่านเหวง  ท่านแรมบ้าอีสาน   ท่านอริสมันต์  จะไม่พอใจ  จะสลายม็อบแต่ละทียังต้องพูดว่า  "ขอคืนพื้นที่"!
     ดัดจริตจนอยากจะอ้วก!!
     นี่เห็นโรงพยาบาลจุฬาฯ   ปิดตึก-ปิดอาคาร  ย้ายผู้ป่วยใน  ไม่รับผู้ป่วยนอก  ชุลมุนวุ่นวายกันไปหมด  สงครามโลกครั้งที่  ๑  และครั้งที่  ๒  ยังไม่ถึงขนาดนี้เลย  จะรอให้กบฏยึดกรุงเทพฯ  เบ็ดเสร็จเสียก่อนรึไง  ค่อยไปนุ่งผ้าเตี่ยววางแผนอยู่ในป่าเขาใหญ่ปราบกบฏ?
     นี่เห็นทำท่าจะ   "ปิดประตูตีแมว"  เอาตำรวจ-ทหารตั้งด่าน  "อุดทวารกบฏ"  ที่ราชประสงค์   ทั้ง  ๖  ทิศ  ๖  ทาง  จะสลายม็อบว่างั้นเถอะ  มัวแต่ตั้งท่า  เงื้อง่าราคาแพงอยู่อย่างนี้  คงจะรอให้พวกสมุนเสื้อแดง-เสือดำตั้งพิกัดหันลำกล้องส่องเอ็ม  ๗๙  ใส่กลุ่มทหาร-ตำรวจชัดๆ  เสียก่อนแล้วค่อยเคลื่อนพลกระมัง?
     ก็หวังว่าจากวันนี้ไปจนถึงเช้าวันที่  ๒  พฤษภา  เช้าวันใด-วันหนึ่ง  ตื่นขึ้นมาคงพบข่าวดี  "ทหาร-ตำรวจ"  เข้าเคลียร์พื้นที่จับไอ้พวกหัวโจกมัดอกแอ่นได้เรียบร้อยแล้ว!
     ไม่ใช่กลายเป็นว่า  พวกกบฏบุกเข้าจับ  อภิสิทธิ์-อนุพงษ์-สุเทพ  แล้วเอาดินหม้อทาหัว-ทาหน้า  ชักรอกให้ฮากันตรึมกลางสี่แยกราชประสงค์แทนซะล่ะ
     ช่วงนี้ที่   "หมอตุลย์"  พักการแรลลี่ชาวหลากสีไว้ก่อนนั้น  ดีแล้วครับ  เพราะกรุงเทพฯ  เหมือน  ๓  จังหวัดใต้  โจรมันฆ่าได้ทั้งนั้น  ไม่เลือกชาวบ้าน  ไม่เลือกคนดี-คนร้าย  ฝังระเบิดเอาไว้   พ่อแม่มันเองก็ฆ่า  พอใครผ่านมามันก็ตูม..ตูม..ทั้งนั้น  เพื่อความไม่ประมาท  และไม่ต้องมาโทษกัน  หรือเสียใจกันภายหลัง
     เก็บพลังไว้ในใจ  ช่วงนี้อย่าเพิ่งเคลื่อนไปทางไหนเลย!
     นี่...พี่น้องหนุ่ม-สาวชาว  facebook  เขานัดหมายกันเอง  มีแผนร่วมทำกิจกรรมเพื่อชาติ  เพื่อสังคม  เพื่อในหลวง  ดูเหมือนว่าตั้งแต่บ่าย  ๒  โมงยัน  ๓  ทุ่ม  วันที่  ๒  พฤษภา   ที่เชิงสะพานพระราม  ๘  ฝั่งธนบุรี  เป็นความงดงามทางจิตใจและสายเลือด  ผมน่ะไม่ขัดหรอก  แต่ด้วยความเป็นคนแก่คิดมาก  ก็อยากจะบอกว่า...ไม่ขัดอะไร
     แต่ถ้ายังไงล่ะก็  "ระวัง-ระไว"  คิดถึงความปลอดภัยไว้ก่อนดีที่สุด!
     ตั้งแต่ตี  ๕  จากเมื่อคืนเป็นต้นไป  อย่างที่ผมบอก  "เสาร์เล็งมฤตยู"  ต้องเตรียมตัวกันเป็นพิเศษ   เปิดวิทยุช่องข่าวให้หลับคาหูไว้ก็ดี  เผื่อมีเสียงตึงตัง-ดังโครมอะไรขึ้นมา  จะได้ไม่นอนหลับทับเหตุการณ์   แล้วจะมาบ่นเจ็บใจทีหลังว่า  พลาดท่า-ไม่ได้ดูช็อตเด็ด  ๒  คู่หูต่างวัย  "มาร์ค-ป๊อก"  ปฏิบัติการไม่ได้เชียวนา
     จากนี้....ห้ามกะพริบตา  เว้นแต่ว่า...ใครตาค้าง!?

http://www.thaipost.net/news/290410/21485
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #576 เมื่อ: 29 เมษายน 2553, 21:57:15 »

เขาว่าเป็น  คลิปข่าว ''AlJazeera'' เห็นภาพมือปืนไอ้โม่งชุดดำซุ่มอยู่หลังม๊อบเสื้อแดงปะทะกับทหารที่ดอนเมืองเมื่อวานนี้

http://www.oknation.net/blog/prompzy/2010/04/29/entry-2
วันพฤหัสบดี ที่ 29 เมษายน 2553
คลิปข่าว 'AlJazeera' จาก''youtube' เห็นภาพมือปืนไอ้โม่งชุดดำซุ่มอยู่หลังพุ่มไม้ใกล้จุดทหารปะทะม๊อบเสื้อแดง

ชมรายละเอียดได้ที่
http://forum.serithai.net/viewtopic.php?f=2&t=21701
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #577 เมื่อ: 01 พฤษภาคม 2553, 09:06:04 »

คอลัมม์ยอดฮิต "คนปลายซอย" ของคุณเปลวง สีเงิน

วันเบาๆ กับ "ข่าวปนนินทา" ในอากาศ
เปลว สีเงิน 1 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     เนี่ย...ท่านเชื่อมั้ยว่า  แค่เรายกมือตะปบอากาศแล้วกำลงมา  เท่านั้นแหละ  "โลกทั้งใบตกอยู่ในกำมือท่าน"  และถ้าท่านต้องการทราบว่าพลโลกกว่า  ๖,๐๐๐  ล้านคน  เขากำลังทำอะไรกันบ้าง  กระทั่งว่าใครจะพูดอะไร  กระทั่งใครจะนินทาถึงเรา  หรือถึงใคร  เราสามารถรู้ได้หมดด้วยการใช้ระบบไอที  "แปลงรหัส"  อากาศในกำมือนั้นออกมาเป็นภาพ-เป็นเสียง  วันนี้-ผมจะทดลองให้ท่านดู!
     ทดลองยังไง...?   ก็ผมไม่ได้เหาะรอบโลกไปทางไหนเลย  นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์แท้ๆ  ด้วยวิวัฒนาการสู่ยุค  "ความลับไม่มีในโลก"  อะไรเกิดขึ้นที่ไหน  ใครทำอะไร  ไปไหน-มาไหน  หรือใครจะนินทาใคร  พูดถึงใคร  ลือถึงใคร  รู้กันโหม้ดดดดด  เอาตัวอย่างแรกเลยนะครับ  ผมเปิดเว็บไซต์ปุ๊บ  ก็มีข้อความปั๊บ
     ในจุดที่หน่วยสอดแนมของ   (ขอสงวนนาม)  ไปพบมาเมื่อวันสองวันนี้  คือ  กึ่งทางระหว่างถนนพระราม   4   ซอยสารสิน  เชื่อว่าเป็นจุดหนึ่งในหลายจุดที่มีการจัดเตรียมอาวุธไว้  อาวุธที่เห็น  ได้แก่  ปืนกล  M  60  ซึ่งเป็นปืนกลชนิดมีขาตั้ง  มีสายพานกระสุนวางเคียงอยู่  2  สาย  ยิงได้ทีเป็นพันนัดด้วยสายพานกระสุน  เครื่องยิงระเบิด  RPG  1  เครื่อง  มีลูกระเบิด  RPG  3  ลูกตั้งอยู่  ปืนกลทาโวซึ่งเป็นปืนกลรุ่นใหม่พร้อมแมกกาซีนบรรจุกระสุนเต็มพร้อมแล้ว  15  ชุด  ปืน  M  16  พร้อมกระสุนอีก  2  ชุด  ทั้งหมดนี้ตั้งอยู่นอกเต็นท์  มีการคลุมพรางตาไว้   ส่วนในเต็นท์ที่ลอบเปิดแล้วเห็น  มีปืนโคลท์จำนวนหนึ่ง  ปืนกล  M  60  พร้อมสายพานกระสุน  และเครื่องยิงระเบิด  RPG  กับจรวด  RPG
     นี่เฉพาะที่เห็นนะ   ที่ไม่เห็นอีกไม่อาจนับได้  ไอ้เสธ.เดนนรกถึงเอามาโม้ว่า  ถ้าม็อบถูกลุยหนนี้  ทหารต้องตายเป็นพันๆ  ศพ  จริงๆ  ข้อมูลด้านบนที่ได้มา  มันยาวกว่านี้  แต่ดิฉันคัดมาเฉพาะที่สำคัญเรื่องคลังแสงของพวกมันเท่านั้น  และที่  รพ.จุฬาฯ  ได้ตัดสินใจย้ายคนไข้ออกจากตึก   ภปร. และสิริกิติ์  และปิดตึกอย่างรีบด่วน  ก็เพราะหลังจากที่คณะแพทย์ได้ไปขอเจรจากับเสื้อแดงอีกครั้งให้ช่วยเปิดทางด้านประตูราชดำริ  คำตอบก็คือ  ต้องปิดตึก  สก. และ  ภปร. พวกมันนอกจากจะไม่ยอมแล้ว  หนำซ้ำยังข่มขู่กลับว่า
     "ถ้าไม่มีอะไร  เราก็คงไม่ทำอะไร  รพ.หรอกนะ  แต่ถ้าเกิดการสลายและปราบปรามผู้ชุมนุมขึ้นมา  เราก็มี  "ของ"  ของเราไว้ต้องป้องกันตัวเหมือนกัน"
     ว่าแล้วก็โชว์  "ของ"  ให้ดูเป็นขวัญตา  ด้วยการเปิดแสลนเขียวตรงด่านราชดำริ  ว่าภายใต้นั้นมีอะไรบ้าง  ก็ปรากฏอาก้าเป็นลังใหม่เอี่ยม  ระเบิด  M  67, M  79, ระเบิดเป็นลูกๆ   ระเบิดเป็นปอนด์ๆ  อยู่ใต้แสลนเขียวเป็นแนวพรึ่ด  ลังใหม่ๆ  เปิดกันใหม่ๆ  เอี่ยมๆ  แล้วมีระเบิดเต็มไปหมดอยู่ใต้แสลนเขียว   ทางจุฬาฯ  เลยถามไปว่า  "แล้วระเบิดพวกนี้ถ้าทำงานรัศมีมันจะถึงไหน"  พวกมันก็ตอบว่า
     "ก็คงถึงตึกน่ะแหละ"  แล้วอย่างงี้ทหารหาญเรา  ที่เมื่อวานยังใช้หนังสติ๊กยิงเสื้อแดงตรงวิภาวดีอยู่เลย  (ดูได้จากบางกอกโพสต์  ฉบับวันที่  29  เมษายน)
     จะเหลืออะไรกันล่ะ!!!!!
     ครับ...นี่คือข้อความที่ลอยปนอยู่ในอากาศที่เราใช้หายใจ  เท็จ-จริง  ผมไม่ได้เน้นตรงนี้   เพียงแต่ยกมาให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า   ในอากาศนั้นมีคลื่น  และถ้าใครจับคลื่นมาถอดรหัสได้  เราก็สามารถรู้ว่าใครทำอะไร  พูดอะไร  ที่ไหน  ได้ทุกแห่ง

                 X             X                X               X
     อีกตัวอย่างในโลกยุค  "สื่อสารครองโลก"  ในอากาศนอกจากมีคลื่นแล้วยังมีขยะสารพัดชนิดลอยปะปนอยู่ด้วย   และนี่ก็ถือว่าเป็น  "ขยะอากาศ"  อีกชนิดหนึ่ง  ผมใช้เทคโนโลยีการสื่อสารสกัดเอามาจากคลื่น  เอ้า...ลองอ่าน
     น้อง   ล่าสุดมีข่าวจากวงในแจ้งมาว่า  นายกฯ  พึ่งเทพในการจัดการม็อบเสื้อแดงแล้ว  และมีประสิทธิภาพสูงซะด้วย  ไม่ใช่เทพเทือกนะพี่น้อง  แต่เป็นเทพระดับอภิมหาเทพที่ทรงดูแลปกปักรักษาบ้านเมืองเรา   "พระสยามเทวาธิราช"  กระจอกข่าวแจ้งว่า  แดงตัวพ่อ-ทักษิณ-พ่อต่อมโต  ตอนนี้อยู่ไอซียูที่มอนเตเนโกร  สมองตายไปแล้ว  อยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ  ลูกเมียบินไปดูใจแล้ว  (บินไปต่อเครื่องที่ฮ่องกงไง)
     รายต่อมา  ดาว  ตอร์ปิโด  ตอนนี้มะเร็งกินปาก  อาการร่อแร่  คาดว่าคงตามแดงตัวพ่อไปเร็วๆ   นี้   (สมน้ำหน้า  อยากมาด่าสถาบัน  ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง)  รายล่าสุด  ท่านวีระ  หัวหน้าแกนนำแดง  ข่าวแจ้งว่าพี่มะมาเยี่ยมที่หลอดอาหาร  ดูจากสภาพการณ์และวัยแล้ว  น่าจะลุกลามอย่างรวดเร็วเช่นกัน  ไชโย้!
     เห็นมะ  สุดท้ายเทพท่านก็ลงมาจัดการคนชั่ว  และมาแบบมาเร็ว  เคลมเร็วซะด้วย  โปรดติดตามตอนต่อไป  จะแจ้งหลังวันหยุดยาวเน้อ
     ขอบอกข่าวล่าสุด   จริงแท้แน่นอน   เมื่อเที่ยงนี้เองมีคนมาให้ข่าว  เห็นพจมาน  โอ๊ค   เอม  อุ๊งอิ๊ง  แต่งชุดสีดำทุกคน  ขึ้นเครื่อง  เพราะเมื่อวานเพื่อนโอ๊คโทร.มาจากเมืองนอก  ว่า  I'm  sorry  about  your  dad

                 X                X               X             
     นี่เป็นอีกตัวอย่างการสื่อสารของโลกยุคไอที   อากาศห่อหุ้มโลกใบเดียวกันแท้ๆ  พัดหมุนเวียนอยู่ในโลกใบนี้  วัน-เวลา-นาที-วินาทีเดียวกันแท้ๆ  ในคลื่นล็อตเดียวกัน  คว้าจับอากาศหย่อมเดียวกันด้วยซ้ำ  ปรากฏถอดรหัสออกมาแตกต่างกันออกไป  สุดแต่  "ต้นทาง"   ใครจะปล่อยอะไรไปในคลื่นให้คว้าจับกัน
     นี่เป็นข่าวออนไลน์จาก  "ไทยรัฐ"  บ่ายวาน  (๓๐  เม.ย.)  แค่เราตามทุกเรื่องราวในโลกได้ทันนั้นยังไม่พอ   ยังต้อง  "รู้ทัน"  ด้วย  ไม่เช่นนั้นเราจะตกเป็นเหยื่อไอที  ไทยรัฐออนไลน์รายงานข่าวชนิดมีที่มา-ที่ไปอ้างอิงได้  ดังนี้ครับ
     เมื่อวันที่   30  เม.ย. รายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  (สตช.)  แจ้งว่า  จากกรณีคุณหญิงพจมาน  ดามาพงศ์  อดีตภรรยา  พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร  อดีตนายกรัฐมนตรี   พร้อมบุตร  เดินทางไปยังเกาะฮ่องกง  ด้วยสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค  เที่ยวบิน  CS708  เมื่อวันที่  29  เม.ย.ที่ผ่านมา  จากการตรวจสอบพบว่ามีการแจ้งกำหนดการเดินทางกลับของคุณหญิงพจมาน  และลูกสาวทั้ง  2  คน  คือ  น.ส.พินทองทา  ชินวัตร  และ  น.ส.แพทองธาร  ชินวัตร  พร้อมด้วยเลขาฯ  คนสนิท  ถึงสนามบินสุวรรณภูมิในวันที่  3  พ.ค.นี้  เวลา  19.00  น.
     วันเดียวกัน  น.ส.พินทองทาได้โพสต์ข้อความบนเว็บไซต์ทวิตเตอร์ส่วนตัวเป็นภาษาอังกฤษ  สรุปใจความได้ว่า  พ.ต.ท.ทักษิณแข็งแรงสมบูรณ์ดี  ให้หยุดข่าวลือไร้สาระได้แล้ว  ทั้งหมดเป็นเพียงเกม  (Stop  the stupid rumours! My dad is totally  healthy!!!  It's only their game people!)
     ต่อมาเวลาประมาณ  14.00  น.  พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร  อดีตนายกรัฐมนตรี  ก็ได้โพสต์ข้อความบนเว็บไซต์ทวิตเตอร์ส่วนตัว  ระบุว่า  "ไม่ได้ทวิตมาหลายวัน  เดินทางตลอด  มาจากมอสโกถึงอูกานดาเมื่อคืนนี้  ไม่ว่าไปไหนก็ต้องติดตามความเคลื่อนไหวของพี่น้องเสื้อแดงยอดนักสู้ตลอด  วันนี้จะไปตรวจงานที่อูกานดาแล้วจะเดินทางต่อ  เมื่อกี้ฟังน้องตึงตังบูรพาร้องหมอลำน่ารักฉลาดมาก  แถมยังบริจาคเงินให้เวทีอีกต่างหาก  และได้ร้องถึงผม  ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและความเป็นธรรมทุกคน  ขอชื่นชมหัวใจที่เด็ดเดี่ยว  บางคนถูกยิงรักษาตัวอยู่  ยังบอกว่าหายจะไปสู้ต่อ"
     ต่อมาเมื่อเวลา  14.50  น.  พ.ต.ท.ทักษิณได้ทวิตตอบคำถามของแฟนคลับผู้ที่ใช้งานทวิตเตอร์เกี่ยวกับกระแสข่าวลือ  และกรณีที่มีคนมองว่า  "ขอบคุณครับผมสบายดี  คนเสื้อแดงหลายคนโทร.มาหาผมเป็นห่วงข่าวลือ  เลยบอกไปว่าเรื่องพิสูจน์ง่ายๆ  มันยังกล้าโกหก  นับประสาอะไรกับเรื่องอื่นๆ  ขณะที่ประเด็นเรื่องทวิตเตอร์ตัวปลอม  ระบุว่า  "ของจริงที่ผมทวิตเองมีเว็ปเดียวคือ  thaksinlive  เท่านั้น  นอกนั้นจะเป็นญาติสนธิ  กับญาติอำมาตย์ผู้ประสงค์ออกตังค์  แต่ไม่ประสงค์ออกนามครับ".
     พอเข้าใจเรื่องโลกกับไอทีกันแล้วนะครับ   ต่อไปนี้เป็นรายการ  "ย่อยอาหารไอที"  ก็ได้มาจากการคว้าอากาศมาถอดรหัสนั่นแหละ  ผมบอกแล้ว  "ตามทัน"  ไม่พอ  เราต้อง  "รู้ทัน"  ด้วยจึงจะฮา  ฮิฮิ  เอ้า...อ่าน...เร็ว!
     30 April 2010, 4:30 AM
     Thaksin Dead?
     Hot off the press
     Thaksin dies in Israel
     While visiting Israel, Thaksin suffers a heart attack and passes away.  The undertaker calls the Thai Embassy and says, 'You can have him shipped home for Bht 500,000, or you can bury him here, in the Holy Land , for just Bht100.'
     The Ambassador thinks about it for a minute and replies that they want Thaksin shipped home.
     The undertaker is puzzled and asks, 'Why would you spend Bht 500,000 to ship him home, when it would be wonderful to be buried here and you would spend only Bht100? With the money you save you could line quiet a few pockets in Thailand.
     To  this the Thai ambassador replied, 'Long ago a man died here, was  buried here, and three days later he rose from the dead. We just can't take the risk.'
     เฮ้อ...ค่อยหายบ้าถึงขนาด  "บุกโรงพยาบาล"  ไปวันนะครับ.

http://www.thaipost.net/news/010510/21572
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #578 เมื่อ: 01 พฤษภาคม 2553, 17:54:46 »

"สมเด็จพระสังฆราช" ย้ายประทับ รพ.ศิริราช เรียบร้อยแล้ว
1 พฤษภาคม 2553 17:44 น.

 
       ความคืบหน้าล่าสุด "สมเด็จพระสังฆราช" ย้ายไปประทับรักษาที่ รพ.ศิริราช เรียบร้อยแล้ว หลัง "สมเด็จพระเทพฯ ทรงเข้าเยี่ยมและโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมเชิญไปประทับรักษาต่อ
       
       
       วันนี้ (1 พ.ค.) หลังจากที่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อทรงเยี่ยม สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้เชิญไปประทับรักษาพระองค์ที่โรงพยาบาลศิริราช
       
       ล่าสุด สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ย้ายไปประทับรักษาอาการที่โรงพยาบาลศิริราช เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 
 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000060184
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #579 เมื่อ: 05 พฤษภาคม 2553, 09:28:41 »

ลองอ่านบทความของ คุณปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ดูครับ

ทักษิณตายแล้ว !?
30 เมษายน 2553 22:53 น.

 
       "ณ บ้านพระอาทิตย์"
       โดย...ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
       
       11 มกราคม 2553 นักโทษชายทักษิณ ได้โฟนอินมายังเวทีคนเสื้อแดงความตอนหนึ่งว่า:
       
       “ถ้าผมไม่ตายจะเรียกร้องความเป็นธรรมจนถึงที่สุด ถึงแม้ว่าตายในนรกสวรรค์ก็จะหาให้เจอ ไม่มียอมแพ้ เมื่อไหร่ที่พี่น้องบอกว่าผมจำเป็นต้องเข้าไป ผมจะเข้าไป”
       
       เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงและรัฐบาล แต่ถึงวันนี้ก็ยังไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญของความขัดแย้งครั้งนี้ และการโฟนอินในลักษณะนี้มีหลายคนวิเคราะห์ในขณะนั้นว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ไม่เป็นผลดีกับตัวนักโทษชายทักษิณเอง
       
       วันพฤหัสบดีที่ 22 เมษายน 2553 มีกระแสข่าวลือหนาหูสะพัดไปในโลกไซเบอร์ว่านักโทษชายทักษิณ เกิดอาการช็อกอันเป็นผลต่อเนื่องจากการรักษาโรคมะเร็ง แต่โชคร้ายไปกว่านั้นคือสมองไม่ทำงานแล้ว ปัจจุบันอยู่ได้ด้วยเครื่องหายใจเพียงอย่างเดียว และรอวันที่จะลาไปจากโลกนี้เท่านั้น
       
       ข้อความที่ส่งต่อเผยแพร่กันในโลกของเฟสบุ๊ก และโพสต์กันต่อในเว็บไซต์ต่างๆ จำนวนมาก มีตัวอย่างเช่น:
       
       “ข่าวทักษิณช็อกคอนเฟิร์มค่ะ แต่เราไม่กล้าเปิดเผยแหล่งข่าวเดี๋ยวเค้าจะเดือดร้อน เพราะเค้าต้องมีจรรยาบรรณทางการแพทย์ของเขาค่ะ
       
       ตอน นี้ทักษิณช็อกยังไม่ฟื้น ทางการแพทย์ถือว่าเสียชีวิตแล้วเพราะอยู่ได้ด้วยเครื่องหายใจ
       ทางเหนือได้เตรียมทำอนุสรณ์ไว้ให้แล้ว แต่ยังปิดข่าวกันเพราะยังใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ และจะมีผลกระทบกับเสื้อแดงมาก
       
       บอกตรงๆ เราไม่ได้เห็นกับตาตัวเองในห้องไอซียูเราคงบอกไม่ได้ว่าร้อยเปอร์เซ็นต์... See More
       
       แต่แหล่งข่าวเป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่เชื่อถือได้ ถ้าไม่เกิดปาฏิหาริย์ทักษิณคงจะกลับมาล้างผลาญชาติไม่ได้อีกแล้ว และ คิดดูไตร่ตรองดูตามวิจารณญานของแต่ละท่านนะคะ
       
       ทำไมแกนนำมีท่าทีอ่อนลง, ทำไมวีระเตรียมลี้ภัยไปอเมริกา, ทำไมทักษิณหายไปนานนักทั้งที่เป็นเวลาทำแต้ม, ทำไมทุกคนต่างพูดถึงวันที่ 26 ว่าดวงใครบางคนจะดับบ้าง...”
       
       หลังจากข่าวดังกล่าวแพร่สะพัดออกไป ก็เกิดการแก้ข่าวเกิดขึ้นในหลายรูปแบบโดยทันที
       
       วันอาทิตย์ที่ 25 เมษายน 2553 คนเสื้อแดงซึ่งได้สมัครเป็นสมาชิกรับข้อความจากนักโทษชายทักษิณนั้นได้รับข้อความซึ่งส่งมายังโทรศัพท์มือถือว่า:
       
       “มีการปล่อยข่าวว่าผมตายแล้ว ยังครับ แข็งแรงดีไม่เจ็บป่วยไม่ไข้ ขอเป็นกำลังใจทุกคน”
       
       นอกจากนี้ก็ยังมีการส่งข้อความในลักษณะเดียวกันก็ไปยังทวิตเตอร์ของทักษิณด้วย แต่ประชาชนทั่วไปก็ดูเหมือนจะยังไม่เชื่ออยู่ต่อไป เพราะการส่งข้อความเพียงอย่างเดียวก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่านักโทษชายทักษิณเป็นคนส่งข้อความด้วยตัวเอง
       
       ประมาณตี 3 ครึ่งของเช้ามืดวันจันทร์ที่ 26 เมษายน 2553 มีเสียงนักโทษชายทักษิณได้โฟนอินเข้ามาบนเวทีคนเสื้อแดงปฏิเสธว่าไม่ได้เสียชีวิต ไม่ได้เป็นมะเร็ง และแข็งแรงดี แต่เสียงโฟนอินดังกล่าวก็ยังถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นเสียงของนักโทษชายทักษิณจริงๆในเวลานั้นหรือไม่ เพราะข้อความที่พูดนั้นดูจะซ้ำกับข้อความที่เคยพูดโฟนอินก่อนหน้านี้แล้ว อีกทั้งเทคโนโลยีการตัดต่อเสียงในยุคนี้ซึ่งทำได้กับเสียงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะมาแล้ว จึงทำให้หลายคนยังเกิดความเคลือบแคลงสงสัยในสุขภาพและการมีชีวิตของนักโทษชายทักษิณต่อไป
       
       แต่ในวันเดียวกันนั้น ปัญหาสุขภาพของนักโทษชายทักษิณ ดูมีน้ำหนักน่าเชื่อถือมากขึ้นเมื่อพบว่าภาพถ่ายที่นักโทษชายทักษิณ นำมาเผยแพร่ในเฟซบุ๊กนั้นถูกจับได้ว่า “มีการตัดต่อและตกแต่งให้ภาพนักโทษชายทักษิณไปวางในภาพสถานที่ต่างๆ” ยิ่งทำให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยว่า ทำไมจึงต้องมีขบวนการตัดต่อ ตกแต่ง ภาพนักโทษชายทักษิณมาโกหกประชาชนในเว็บไซต์ของนักโทษชายทักษิณเองด้วย
       
       การตัดต่อ ตกแต่งภาพ แล้วขึ้นภาพในเฟซบุ๊กของตัวเองเพื่อเผยแพร่หลอกประชาชนครั้งนี้ ถือว่าเป็นพิรุธอย่างมาก และเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า นักโทษชายทักษิณต้องมีปัญหาบางประการในการปรากฏตัวต่อสาธารณชนอย่างแน่นอน !!!
       
       คืนวันจันทร์ที่ 26 เมษายน 2553 ปรากฏว่าสำนักข่าวในประเทศหลายแห่งได้นำภาพเคลื่อนไหวที่นักข่าวต่างประเทศไปสัมภาษณ์นักโทษชายทักษิณที่มอนเตเนโกร ภาพเคลื่อนไหวครั้งนี้ดูจะมีน้ำหนักมากขึ้นกว่าทุกครั้ง แต่เมื่อมีการตัดต่อ ตกแต่งภาพนิ่งที่เผยแพร่ในเฟซบุ๊กของนักโทษชายทักษิณแล้ว ทำให้นักสืบค้นในโลกไซเบอร์จึงไม่เชื่อภาพเคลื่อนไหวครั้งนี้ได้ง่ายๆ และได้สังเกตพบว่าการแต่งกายและข้อความที่สัมภาษณ์นักโทษชายทักษิณนั้นน่าจะเป็นภาพข่าวเก่าเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2553 ซึ่งได้ส่งข้อสังเกตที่น่าสนใจมาโพสต์ในข่าวเว็บไซต์ www.manager.co.th ดังนี้:
       
       “ภาพข่าววีดีโอนี้ เป็นภาพข่าวเก่าเมื่อวันที่ 18 มีนาคม ครับ ไม่ใช่ปัจจุบันแต่อย่างใด ได้รับการพิสูจน์แล้วด้วย เพราะ
       
       1. ชุดสูทและเนคไทที่ใส่ ไปเหมือนกับภาพข่าว วันที่ 18 ที่ทักษิณได้รับสัญชาติมอนเตฯ และบทสัมภาษณ์ในวีดีโอทักษิณก็พูดว่า"ผมเป็นพลเมืองมอนเตเนโกรแล้ว" คือเขาได้รับสัญชาติวันนั้นครับเลยพูดวันนั้น
       
       2. คลิปนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ยูทูบ และเอเอฟพี ดันรีบเอาไปลง ซึ่งปัจจุบันเอเอฟพีก็เอาข่าวนี้ลงแล้ว เพราะตรวจสอบพบว่าตัวเองถูกแม้วต้ม
       
       3. มีไมค์นักข่าวคนหนึ่งเขียนว่า vijesti ซึ่งเมื่อลองเข้าไปดูเวบข่าวของสำนักข่าวนี้http://www.vijesti.me/ ผลก็คือ ไม่มีข่าวนี้ครับ ถ้าเพิ่งสัมภาษณ์จริงก็ต้องยังอยู่ หรือย้อนหลังไปก็ต้องเจอ แต่นี้ไม่มีเลยครับ ลองเข้าไปดูกันได้
       
       เชื่อเถอะครับ ตอนนี้ข่าวที่ว่า "ทักษิณอยู่บรูไน นอนอยู่โรงพยาบาลในเครือบำรุงราษฎร์ และ
       มีหมอจากโรงพยาบาลใหญ่สองที่ไปรักษาอยู่นั้นเป็นความจริง เพราะก่อนนี้ ท่านกษิตเองก็เคยเรียกทูตบรูไนเข้าพบอีกด้วย ซึ่งก็น่าจะมาจากเรื่องนี้
       
       มันเป็นขบวนการของพวกกบฏแดงน่ะครับ ที่ต้องการรักษามวลชน กลัวพวกเสื้อแดงรู้จะกลับบ้านกันหมด เลยเอาวีดีโอมาให้กำลังใจ”
       
       ปีนี้ถือว่าพลังของนักรบ นักสืบค้น ของโลกไซเบอร์ โดยเฉพาะสังคมในโลกของเฟซบุ๊ก มีความโดดเด่น เฉียบคม และก้าวหน้ามากกว่าสื่อมวลชนหลายแขนงไปแล้วจริงๆ!!!

 
 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000059903
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #580 เมื่อ: 05 พฤษภาคม 2553, 11:32:35 »

คั่นรายการครับ

วันนี้เป็นวันฉัตรมงคล และครบ ๖๐ ปี บรมราชาภิเษก และเมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน ๕๓ ที่ผ่านมา ครบ ๖๐ ปี ราชาภิเษกสมรส เช่นกัน กระทรวงการคลัง และ ธนาคารแห่งประเทศไทย ออกธนบัตร ฉบับราคา ๑๐๐ บาท โดยด้านหลังธนบัตรเป็นภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ และภาพช่วงบรมราชาภิเษก ออกให้แลกในวันที่ ๔ พฤษภาคม ที่ผ่านมา ตามธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง (ดังภาพตัวอย่างขาว-ดำ ที่นำมาแสดง)

ข่าวแจ้งว่า หมดก่อนเที่ยงวัน แต่บางท่านที่ติดต่อธนาคารเป็นประจำ อาจพอมีเหลือครับ

      บันทึกการเข้า
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #581 เมื่อ: 05 พฤษภาคม 2553, 21:23:18 »

lสรุปว่าทักษิน ยังไม่ตาย ใช่มะ
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #582 เมื่อ: 06 พฤษภาคม 2553, 17:54:45 »

พี่แอ๊ะครับ

อย่าคิดว่า ทักษิณตายแล้วซิครับ ต้องคิดว่า มันยังอยู่และพรุ่งนี้มันจะคิดและทำยังไงกับประเทศไทย

เราจะได้เตรียมตัวรับมือได้ทัน คิดว่ามันตายแล้ว เอาเปรียบกันเกินไป

ให้มันมีอายุยาวกว่านี้ เพื่อให้เห็นว่าประเทศไทยสามารถเดินไปข้างหน้าได้โดยไม่พึ่งมันและพวกมันเลย ดีที่สุด
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #583 เมื่อ: 06 พฤษภาคม 2553, 20:54:50 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 06 พฤษภาคม 2553, 17:54:45
พี่แอ๊ะครับ

อย่าคิดว่า ทักษิณตายแล้วซิครับ ต้องคิดว่า มันยังอยู่และพรุ่งนี้มันจะคิดและทำยังไงกับประเทศไทย

เราจะได้เตรียมตัวรับมือได้ทัน คิดว่ามันตายแล้ว เอาเปรียบกันเกินไป

ให้มันมีอายุยาวกว่านี้ เพื่อให้เห็นว่าประเทศไทยสามารถเดินไปข้างหน้าได้โดยไม่พึ่งมันและพวกมันเลย ดีที่สุด


ชอบจริง ๆ ค่ะ .. พี่เหยง     รักนะ
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
Preecha2510
Cmadong Member
Full Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2510
กระทู้: 788

« ตอบ #584 เมื่อ: 06 พฤษภาคม 2553, 21:24:55 »


   สวัสดีครับ แอ๊ะ,อ้อย,อ.แจ่มใส,เหยง,น้องหะยี

                 ในที่สุดคุณอภิสิทธิ์ก็รีบหาทางออกด้วยแนวทางการยุบสภา เลือกตั้งใหม่กลางเดือน พย.2553,จัดทำแผน

   ปรองดอง 5 ข้อที่แฝงนัยยะสำคัญ  ในความเห็นของผมการแก้ปัญหาทางการเมืองแบบนี้ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ไปเต็มๆ

   คือพรรค ปชป., ทักษิณ, นักการเมือง,และพรรคการเมืองทุกฝ่ายเท่านั้น  ประชาชนและประเทศชาติไม่ได้อะไรเลย

               นักเคลื่อนไหวด้านประชาธิปไตย(เสื้อแดง)ทั้งจริง,ทั้งปลอม,ทั้งที่ถูกหลอกหรือรับจ้างมา รวมทั้งประชาชน

   เสื้อหลากสีผู้สนับสนุนรัฐบาลไม่ให้ยุบสภา คงจะต้องกลับมาคิดทบทวนและหาข้อสรุปว่าการเรียกร้องหาเป้าหมาย

   เชิงอุดมการณ์ที่ไปซ้อนอยู่กับเป้าหมายที่เป็นประโยชน์ของนักการเมืองนั้น ในที่สุดทุกๆฝ่ายก็ถูกหลอกให้เป็นเพียง

   ตัวเบี้ยที่ถูกจับเดินในกระดานการเมืองเท่านั้นเอง
      บันทึกการเข้า
Preecha2510
Cmadong Member
Full Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2510
กระทู้: 788

« ตอบ #585 เมื่อ: 06 พฤษภาคม 2553, 21:58:47 »




               http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9530000062417
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #586 เมื่อ: 06 พฤษภาคม 2553, 23:09:04 »

อ้างถึง
ข้อความของ Preecha2510 เมื่อ 06 พฤษภาคม 2553, 21:24:55

   สวัสดีครับ แอ๊ะ,อ้อย,อ.แจ่มใส,เหยง,น้องหะยี

                 ในที่สุดคุณอภิสิทธิ์ก็รีบหาทางออกด้วยแนวทางการยุบสภา เลือกตั้งใหม่กลางเดือน พย.2553,จัดทำแผน

   ปรองดอง 5 ข้อที่แฝงนัยยะสำคัญ  ในความเห็นของผมการแก้ปัญหาทางการเมืองแบบนี้ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ไปเต็มๆ

   คือพรรค ปชป., ทักษิณ, นักการเมือง,และพรรคการเมืองทุกฝ่ายเท่านั้น  ประชาชนและประเทศชาติไม่ได้อะไรเลย

               นักเคลื่อนไหวด้านประชาธิปไตย(เสื้อแดง)ทั้งจริง,ทั้งปลอม,ทั้งที่ถูกหลอกหรือรับจ้างมา รวมทั้งประชาชน

   เสื้อหลากสีผู้สนับสนุนรัฐบาลไม่ให้ยุบสภา คงจะต้องกลับมาคิดทบทวนและหาข้อสรุปว่าการเรียกร้องหาเป้าหมาย

   เชิงอุดมการณ์ที่ไปซ้อนอยู่กับเป้าหมายที่เป็นประโยชน์ของนักการเมืองนั้น ในที่สุดทุกๆฝ่ายก็ถูกหลอกให้เป็นเพียง

   ตัวเบี้ยที่ถูกจับเดินในกระดานการเมืองเท่านั้นเอง


ค่ะ  พี่แก้ว .. เซ็งมากมาย  ผิดหวัง       smoke
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #587 เมื่อ: 06 พฤษภาคม 2553, 23:10:40 »





      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #588 เมื่อ: 06 พฤษภาคม 2553, 23:12:33 »







      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #589 เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2553, 09:41:55 »

คอลัมม์ "คนปลายซอย" ของคุณเปลว สีเงิน วิพากย์ Road Map ซึ่งยังไม่มีการตอบรับจากเสื้อแดง

แค่"หนังตัวอย่าง"แล้วจะตั้งแง่กันไปทำไม?
เปลว สีเงิน 7 พฤษภาคม 2553 - 00:00


                ถ้ามานับจากคืนวันที่ ๓ พ.ค.๕๓ ที่นายกฯ ประกาศแผนปรองดอง ๕ ข้อ เมื่อถึงวันอาทิตย์ที่ ๙ พ.ค.ก็เรียกว่า "ครบ ๗ วัน" ถ้าเป็นผี ไม่เผา-ก็เก็บ จะไม่เอาศพมาตั้งเอ้อเร้อเอ้อเต่อกลางบ้าน-กลางเมืองอยู่อย่างนี้หรอก ฉะนั้น ช่วงนี้ ก่อนครบ ๗ วัน ผมคิดว่า ประชาสังคมและ ศอฉ.จะยังคง "อดทน-อดกลั้น-รอคอย" ให้ผีป่าเข้าธานี โดยไม่บ่น ยอมทนสะอิดสะเอียน อีกซักพัก แต่ถ้าพ้นจากวันที่ ๙ พ.ค.ไปแล้ว ผมจะบอกให้ "วีระ-จตุพร-ณัฐวุฒิ" ถึงหลังฉาก พวกคุณจะต่อสายคุยกับรัฐบาลดีขนาดไหน.....

                แต่ถ้ากลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่หายไปจากราชประสงค์ ยังยั้วเยี้ยเป็น "นิคมปกครองตนเอง" กันอยู่อย่างนี้ และรัฐบาล-ศอฉ.ก็ไม่เด็ดขาดให้แกนนำกบฏตัดสินใจยกพวกกลับกันไป
                ผมคิดว่า "ประชาสังคม" จะเป็นฝ่าย "เด็ดขาด" กับรัฐบาล และ ศอฉ.ให้ตัดสินใจ "ทำอย่างใด-อย่างหนึ่ง" ให้เป็นที่ "เบ็ดเสร็จ" จะปล่อยให้บริหารปัญหาแบบคนต่อมปัสสาวะอักเสบคือ "เยี่ยวไม่สุด" อยู่อย่างนี้ไมได้!

                ถึงตอนนี้ คนเริ่มมองหน้ากัน แล้วถาม...ปรองดอง..แล้วไง?

                ฝ่ายแกนนำกบฏก็โอเค ฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์ "แกนรัฐบาล" และพรรคร่วมก็โอเค นายกฯ อภิสิทธิ์ก็โอเค ในเมื่อตัวหลักๆ ผู้มีอำนาจกินบ้าน-กินเมืองโดยตรง โอเคหมด
                แล้วทำไมยังปล่อยให้ผู้ชุมนุมเสื้อแดงยึดราชประสงค์เป็นป่าละเมาะริมทาง กิน-ขี้-ปี้-นอน โดยไม่เอื้ออาทรกับความเดือดร้อนของชาวบ้าน-ชาวเมืองเขาอยู่อีกล่ะ?

                ก็ฝากให้นายกฯ คิด บรรดาตะกวดตะกายตึกคิด และผู้ชุมนุมทั้งหลายได้คิด ผมไม่สนใจหรอกว่า "เบื้องหลัง" ของแผนปรองดอง ฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายกบฏจะต่อสายเจรจาซูเอี๋ยกันหรือไม่ พวกคุณจะต่อรอง-ซูเอี๋ยกันอย่างไรก็ได้ เพราะเบื้องหลังของความสำเร็จทุกเรื่องในโลก มาจาก "ความโสโครก" ภายใต้หน้ากากทั้งนั้น แต่ข้อสำคัญ
                พวกม็อบล้มบ้าน-ล้มสถาบันจะต้อง "หายไป" จากท้องถนน....เจ้าใจมั้ย?

                ทำเป็นเกี่ยง แค่ "ให้รัฐบาลระบุวันยุบสภา" ไม่งั้นไม่สลายการชุมนุม ไม่อยากพูดว่านี่คือการ "แกล้งโง่" เพราะพวกไพร่สถุลมันก็ไพร่สถุลวันยังค่ำ ทำแกล้งโง่ "ซื้อเวลา" พักฟื้น และรอเช็กข่าวจริงๆ เท่านั้นแหละว่า ที่ทักษิณทวิตเตอร์มานั้นมัน "ทักษิณตัวจริง" หรือ "ผี-นอมินีทักษิณ"?

                เพราะอะไร...เพราะจากข่าว "ตาย-ไม่ตาย" นี้ สร้างปัญหาใหญ่ให้กับ "ตัวจ่าย" ที่ชักไม่มั่นใจ เลยจ่ายมั่ง-ไม่จ่ายมั่ง และถ้าสลายม็อบกลับไป ใครจะรับเคลียร์หน้าเสื่อที่หลอกชาวบ้าน-ยึดบัตรเขาไว้ว่า "ชนะแล้วจ่ายหัวละ ๒ แสน"?

                ตอนนี้ แกนนำรับแผนปรองดอง แต่ใครก็ไม่กล้าขึ้นเวทีประกาศเอาหน้าว่า "เราชนะแล้ว" เหมือนทุกคราวที่ผ่านมา เพราะขืนบอกชนะแล้ว ให้เก็บครกกระบากสากกระเบือกลับบ้านได้ เท่ากับเข้าเงื่อนไขที่สัญญาไว้ ต้องจ่ายตามบัตรประชาชนที่ยึดไว้...รายละ ๒ แสน!

                เอ้า...พี่น้องเสื้อแดงทั้งหลาย กลับถึงบ้านเมืองไหร่ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน-ส.ส.-อบต.-หัวหน้าคิว-หัวหน้าม็อบ คนไหน ที่พามาและสัญญากับเขาไว้ พวกท่านอย่าลืมไปทวง ๒ แสนเน้อ
                พวกเขา "รับล่วงหน้า" กันมาประเป๋าตุง ถ้าบ่ายเบี่ยงไม่จ่าย หมายความว่าท่าน "ถูกอม" ต้องช่วยกันระดมทวง อย่างน้อยครึ่งนึง "๑ แสน" ก็ยังดี!

                นายกฯ กับแกนนำกบฏ ควรจะรีบนัดคุย-นัดเคลียร์ในข้อปลีกย่อยเสียให้จบวันนี้-พรุ่งนี้ แล้วรีบสลายม็อบไป ไม่งั้น "สถานการณ์จะกลายเป็นอื่น"

                ไอ้ที่จะทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายก็ทำไป แต่จะรอให้ "ตกลง-เข้าใจ" เหมือนกันทั้งหมดทุกฝ่ายก่อน ทั้งเสื้อแดง-เสื้อเหลือง-เสื้อหลากสี แบบนี้ เห็นทีฝนนี้ ต้องแปลงราชประสงค์เป็นทุ่งเลี้ยงควาย ไถ-หว่านทำนากันไปตลอดฤดูกาลแน่ๆ!

                "ยุบสภา" เป็นการตัดสินใจบนอำนาจนายกฯ เป็นการตัดสินใจตามรัฐธรรมนูญให้ดาบ ไม่ว่าเสื้อสีไหนในฐานะประชาชนมีสิทธิ์ "เห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย" ได้ทั้งนั้น แต่ประเด็นสำคัญ "อำนาจตัดสินใจยุบสภา" ตามระบอบประชาธิปไตย อันว่าด้วยการเลือกตั้ง....

                อยู่ที่ท่าน "คนเดียว"!

                ถ้าเข้าใจคำว่า "ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่ผู้เดียว" ไม่ต้องสนใจใคร ในเมื่อสิ่งที่ตัดสินใจตรองแล้ว "ดีที่สุด" กับสังคมและอนาคตบ้านเมือง ไม่มีใครทำให้ทุกคนถูกใจได้ แต่ถ้าสิ่งที่ตัดสินใจนั้น สามารถทำให้ทุกคน "ดำรงสิทธิ" ในความเป็นประชาชนโดยไม่ถูกผู้อื่นล่วงล้ำก้ำเกินแบบนี้ได้ โอเค.แล้ว

                ฉะนั้น เมื่อท่านแน่ใจว่า "แผนปรองดอง" ทำแล้ว ม็อบสลาย-คืนความสงบให้บ้านเมืองได้

                เชิดหน้า...ลุยเลย อภิสิทธิ์ ผมจะ (ใช้มือ) ยันหลังให้!

                ที่เกี่ยงงอนกันว่า "ปรองดองกับโจรแล้วปัญหาระยะยาวมันจะไม่จบ" นั้น ผมก็อยากจะบอกว่า "ถ้าทั้งคนปกครอง คนถูกปกครอง คนถาม และคนตอบ 'สิ้นตัณหา' เมื่อไหร่ โลกนี้-สังคมนี้-บ้านเมืองนี้ ทุกปัญหาที่มี 'จบตลอดกาล' แน่นอน"

                ความคิดเห็นเรื่อง "ยุบ-ไม่ยุบสภา" จากกลุ่มคนต่างๆ ตอนนี้ สังเกตว่าไม่ได้มาจากฐานเหตุผล แต่มาจากฐาน "ทิฏฐิ" จะเอาชนะ-ชำระแค้นกันมากกว่า และพูดกันตรงๆ ผมจับมือถามทุกคน-ทุกสีเลยว่า "ไหน...บอกซิ แผนปรองดอง ๕ ข้อ สาระมีว่าอย่างไรบ้าง?"

                สะเปะสะปะกันไปหมดทันที พุ่งประเด็น และจำแม่นอยู่ประเด็นเดียว ทั้งที่ไม่ใช่ "สาระหลัก" ตามเจตนารมณ์ของแผนปรองดอง นั่นคือจำและเพ่งเล็งกันแต่ว่า
                นายกฯ จะยุบสภา...นายกฯ อ่อนข้อให้โจร...นายกฯ จะยุบสภา.!?

                แล้วก็ "พ่อแง่--แม่งอน" กันอยู่แต่ขยะตรงนี้ ไม่มีใครสนใจไปเพ่งเล็ง-พูดถึง ๕ ข้อตามแผนปรองดอง หรือจะเรียกว่าแผน "ปฏิรูปโครงสร้าง" สังคมชาติใหม่นั้นซักเท่าไหร่?

                ผมก็เข้าใจ และคิดว่าทั้งคนคลอดแผนคือทั้งนายกฯ ทั้งพวกกบฏ และทั้งคนทุกสี "รู้อยู่กับใจ" ก็แค่ร่างมาเป็น "ผ้าคลุมหน้าศพ" ที่ใครก็ไม่อยากไปคุ้ย-ไปเปิดเพื่อเผชิญ "ความจริง" ว่าปัญหาสังคมชาติทุกวันนี้แค่ "แผนปรองดอง" ยังใช้แก้อะไรไม่ได้ แต่ช่วยให้ทุกคน-ทุกฝ่าย "ทำใจ" เพื่อผ่อนคลายไประยะหนึ่งเท่านั้น
                ด่านอรหันต์น่ะ กว่าจะไปถึง ต้องผ่านด่านทดสอบไม่รู้กี่สิบด่าน จะเข้ามหาวิทยาลัย ยังต้องตะกายตั้งแต่เตรียมอนุบาล จะเป็นรัฐมนตรี-อธิบดี-ปลัด ซักที ต้องถูกบี้-ถูกไถ และต้องจ่ายค่าเก้าอี้ไม่รู้กี่ด่าน?

                เหตุนั้น ทุกคนส่วนใหญ่จึง "ละไว้" ในเรื่องรู้อยู่กับใจ ไม่ถามไถ่ประเด็นปรองดองที่ยังกินไม่ได้ นอกจากรุมประเด็นยุบสภา-เลือกตั้งใหม่ ซึ่งเป็นประชาธิปไตย (หา) กินได้ เนี่ย...หัวใจของ "ปัญหาใหม่" ขณะนี้ มันก็มีดังที่ว่านี้แหละ
                ทีนี้-กลับมาโลกแห่งความเป็นจริงปัจจุบันบ้าง ความจริงคือ กบฏแผ่นดิน อันมีกองกำลังติดอาวุธยังคงยึดบ้าน-ยึดเมืองอยู่ ชะงักชั่วคราว เพราะนายกฯ ใช้ยาปฏิชีวนะขนานใหม่ป้ายลงไป แต่ "เชื้อชั่วยังไม่ตาย" หรอกครับ!

                เมื่อไม่ตายแล้วยังไงต่อ...ก็ยังงี้ครับ คือตอนนี้ ศอฉ.ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรงยังมีอยู่ ศาลไม่ห้ามการสลายผู้ชุมนุม แต่บอกให้ดูความจำเป็น และให้ใช้มาตการสากลจากเบาไปหาหนัก
                แล้วรัฐบาล โดย ศอฉ.ใช้ "เบาไปหนัก" กับผู้ชุมนุมแล้วหรือยัง?

                จะเห็นว่าเขาใช้มาตามลำดับ ทั้งใบปลิว ทั้งวิทยุ-โทรทัศน์ และกระสุนยาง ถึงขณะนี้ แฟนที่ผมคลั่งไคล้ "พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด" ท่านออกจอประกาศเตือนเบาบ้าง-หนักบ้าง เป็นระยะ ล่าสุด-วานนี้ (๖ พ.ค.) ท่านประกาศว่า
                "....นปช.ไม่มีทางเลือกมากนัก ไม่มีสิทธิ์มาต่อรองใดๆ ทั้งสิ้นในแผน ๕ ประการที่ประกาศไป ไม่ได้หมายความว่าจะไม่สลายการชุมนุม เรื่องการแก้ปัญหาของรัฐบาลว่าไปตามแก้ปัญหาของรัฐบาล ส่วน ศอฉ.มีความจำเป็นที่ต้องรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาเรื่องการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย ซึ่งมีการก่อการร้ายเข้าไปปะปน ดังนั้น ไม่เกี่ยวข้องกัน"

                และแฟนที่ผมคลั่งไคล้-ได้ใจผมมากอีกท่าน "นายธาริต เพ็งดิษฐ์" อธิบดี DSI ท่านก็แถลงเมื่อวานนี้เช่นกันว่า
                "ตามที่ศาลแนะนำให้ DSI ใช้หมายจับตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จับกุมกลุ่มผู้ต้องหาแกนนำ นปช.ทั้ง ๙ คน ประกอบด้วย นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล นายขวัญชัย ไพรพนา และ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ โดยไม่ต้องออกหมายจับซ้ำ เมื่อจับกุมได้แล้วจึงแจ้งข้อกล่าวหาก่อการร้าย ซึ่งมีผลให้ทหารและตำรวจเป็นผู้มีอำนาจจับตามหมายจับ
                ......ระหว่างนี้ยังไม่สามารถจับกุมได้ ก็จะรอจนถึงวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ที่แกนนำ นปช.ประกาศต่อสาธารณชนว่าจะเข้ามอบตัวสู้คดีพร้อมกันทั้งหมด หากเลยเวลาแล้วยังไม่มามอบตัว DSI เตรียมแนวทางดำเนินการต่อไปไว้แล้ว......"

                เห็นมั้ย...ก็อยากให้ประชาสังคม และทุกสีที่ข้องใจได้เข้าใจว่า การเมือง-ทางนายกฯ ก็แก้ทางการเมืองของท่านไป ส่วนการบ้าน-อันว่าด้วยกฎหมายและการปราบปราม ทาง ศอฉ.และทาง DSI ก็ยังเขม็งเกร็งเกลียวของเขาอยู่ต่อไป
                ยุคดาวพลูโต เป็นยุคกฎหมายชำระบาป ฉะนั้น จะทำอะไรเอาแต่ใจ-เอาแต่อำนาจไม่ได้หรอกครับ เปิดช่องนิดเดียว "ไอ้ขี้ฟ้อง" ก็จะใช้ระบบศาลเป็นเครื่องมือ เห็นมั้ย...นี่ทักษิณตัวจริง หรือผีทักษิณก็ไม่รู้ มันไปจ้างมือกฎหมายระดับโลกมาเป็นทนายแก้ต่างให้พวกกบฏของมันแล้ว
                ฉะนั้น ต้องมีสติ อดทน รักษาขั้นตอน จะเอามาตรฐานโจรปฏิบัติมาเป็นมาตรฐานราชการปฏิบัติไม่ได้ พลาดนิดเดียว มันจะไปตายเอาตาม "บรรทัดกฎหมาย" ช่วยกันเข้าใจตรงนี้ไว้ด้วย!

                เอาละ...จะยื้อกันไปนานขนาดไหนก็ตาม แต่ระวัง ๑๕ พฤษภา อาทิตย์ยกเข้าพฤษภ "โลกาวินาศ" ยากเลี่ยงการปะทะกัน และถ้ากบฏและรัฐบาลยังตกลงอะไรกันไม่ได้ หลัง ๒๗ พฤษภา ไป "ระวัง..แตงโม" จะเริ่มเปลี่ยนเป็น "แตงเทศ" ที่เรียกว่า "เมล่อนไทย" เขียวทั้งเปลือก-ทั้งเนื้อใน เผลอๆ จะถูกเช็กบิลทุกฝ่าย ก็บอกแล้ว...เมืองไทยจะเกิด-จะตาย "อยู่ที่ทหาร" และที่สำคัญ ๒๐ กรกฎา ไป

                คอยกินแชร์ "โต๊ะใหญ่"....เดี๋ยวจะว่าไม่บอก!?.


http://www.thaipost.net/news/070510/21878
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #590 เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2553, 09:56:54 »

วันนี้ ท่านขุนน้อย วิพากษ์ การเมืองของประเทศกรีซ ซึ่ง EU และ IMF อัดฉีดเม็ดเงินรวมกว่า 146,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 4,700 ล้านล้านบาทไทย เข้ากอบกู้เศรษฐกิจ เป็นเวลา 3 ปี โดยรัฐบาลกรีซต้องลดรายจ่ายภาครัฐลงร้อยละ 3 ของ จีดีพี และเก็บภาษีเพิ่มจากสินค้าและบริการ ซึ่งรัฐบาลกรีซก็ปฏิบัติตามคำสั่งเช่นเดียวกับที่รัฐบาลไทยเคยรับคำสัง IMF ในปี 2540-41 ดังตัวอย่างที่รัฐบาลกรีซทำดังเช่น ยกเลิกการจ่ายเงินเดือนข้าราชการ ลูกจ้างของรัฐ รวมทั้งบำเหน็จบำนาญของข้าราชการเกษียณ ขึ้นภาษีของก๊าซหุงต้ม มีผลให้ราคาก๊าซขึ้นราคาทั่วประเทศ และมีการประท้วงกันไปทั่ว

เหตุการณ์กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ ส่วนจะจบแบบไหน คงต้องติดตาม

ไฟกรีก!!!
ท่านขุนน้อย 7 พฤษภาคม 2553 - 00:00

     วันนี้...ลองเตลิดเปิดเปิงไปว่ากันถึงเรื่องประเทศ กรีซ น่าจะเหมาะกว่า เนื่องจากวันวานที่ผ่านมา การประท้วงต่อต้านรัฐบาลนาย จอร์จิโอ หรือ จอร์จ ปาปันเดรอู ได้บานปลายกลายเป็นการจลาจล ปะทุลุกลามขึ้นมาในเมืองหลวง กรุงเอเธนส์ และเมืองอันดับสอง เทสซาโลนิกิ เล่นเอาคนตายไปแล้ว 3 ราย มีการปาระเบิดเพลิงเข้าใส่ร้านค้า ธนาคาร ฯลฯ เรียกว่า...ประมาณน้องๆ เสื้อแดงเอาเลยก็ว่าได้...
             ------------------------------------------
     แต่การประท้วงในกรีซนั้น...คงไม่ได้มีประเภทแดงเทียม เศษแดง หรือแดงชราตัณหากลับ ฯลฯ เข้าไปร่วมด้วยช่วยป่วนกันซักเท่าไหร่ อาจเรียกได้ว่า ส่วนใหญ่นั้นต้องถือเป็น พลังบริสุทธิ์ ล้วนๆ หรือเป็นผู้ที่ทุกข์ยากเดือดร้อนโดยตรง อันเนื่องมาจากผลกระทบจากกรณีที่รัฐบาลได้ตัดสินใจเข้ารับการอุดหนุน ช่วยเหลือทางด้านเศรษฐกิจ จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) คิดเป็นจำนวนเงินถึง 1.1 แสนล้านยูโร โดยมีเงื่อนไขว่า จะต้องหันมาตัดค่าใช้จ่ายภาครัฐ และรีดภาษีของราษฎรเพิ่มขึ้น เพื่อหาทางเพิ่มรายได้ของรัฐปีละประมาณ 30,000 ล้านยูโรให้จงได้ ภายในช่วงระยะ 3 ปีข้างหน้า...
             -------------------------------------------
     สำหรับผู้ซึ่งเคยผ่านประสบการณ์การขอความช่วยเหลือจากไอเอ็มเอฟ อย่างเช่น คนไทยในบ้านเรา คงพอทราบๆ กันดีอยู่แล้วว่า ช่วงระยะเวลาเช่นนั้น มันเต็มไปด้วยรังสีความอำมหิต โหดเหี้ยม มากน้อยขนาดไหน ความจำเป็นในการตัดค่าใช้จ่ายต่างๆ ของรัฐบาล ซึ่งเลี่ยงไม่พ้นที่จะต้องส่งผลกระทบถึงระบบสวัสดิการ การบริการสาธารณะ นอกจากจะสร้างความทุกข์ ความเดือดร้อนให้กับประชาชนโดยถ้วนหน้า แถมยังต้องหาทางเพิ่มรายได้ ด้วยการรีดเลือดออกมาจากปูแต่ละตัว อย่างการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 21 เปอร์เซ็นต์ เป็น 23 เปอร์เซ็นต์ ฯลฯ ล้วนแล้วแต่ทำให้ประชาชนชาวกรีซ ไม่ว่าจะเป็นประเภทมนุษย์เงินเดือน ข้าราชการ ตลอดไปจนสหภาพแรงงาน ฯลฯ ต่างก็รับไม่ได้ด้วยกันทั้งสิ้น...
           ----------------------------------------------
     การลุกฮือของมวลชน โดยไม่จำเป็นต้องมีนักโทษหนีคดีรายใดมาคอยยุยง ไม่ต้องมีตำรวจมะเขือเทศ หรือทหารแตงโม มาร่วมด้วยช่วยหนุน ไม่ต้องมีสามเกลอ หรือสี่เกลอหัวขวด รายใดมาสถาปนาตัวเองเป็นแกนนำ แต่เพียงแค่สหภาพแรงงานข้าราชการ ที่มีจำนวนสมาชิกประมาณ 500,000 คน จากจำนวนประชากรทั้งหมด 11 ล้านคน ประกาศพร้อมใจนัดหยุดงานทั่วประเทศเท่านั้น...ทุกสิ่งทุกอย่างก็ เดี้ยง ไปเป็นแถบๆ ไม่ว่าสถานีรถไฟใต้ดิน ท่าอากาศยานในแต่ละแห่ง โรงเรียน โรงพยาบาล สำนักงานราชการตามกระทรวง ทบวง กรม ฯลฯ ต่างตกอยู่ในอาการอัมพาต โดยไม่จำเป็นต้องคว้าเอ็ม 79 เอ็ม 60 มาไล่ถล่ม ชาวบ้าน ชาวช่อง หรือตั้งด่านปิดถนนตามใจชอบแบบบ้านเราเอาเลยแม้แต่น้อย...
             -------------------------------------------
     อย่างไรก็ตาม...แม้จะมีข่าวการปะทะ การบุกรุกเข้าไปในรัฐสภา การปาระเบิดเพลิงใส่ร้านค้า ธนาคาร ฯลฯ จนผู้คนบาดเจ็บ ล้มตาย กันไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่มีข่าวว่านายกรัฐมนตรี ปาปันเดรอู คิดจะออก โรดแม็พ ใดๆ มาช่วยหยุดยั้ง ผ่อนคลาย สถานการณ์เอาเลยแม้แต่น้อย แนวโน้มของการประท้วง การก่อจลาจลในประเทศกรีซ จึงไม่อาจคาดคะเนได้ว่า จะมีมุมจบออกมาในทางแฮปปี้เอนดิ้งแบบบ้านเราหรือไม่? แต่ที่แน่ๆ ก็คือว่า...ไม่ว่าจะจบกันแบบไหน? อย่างไร? โอกาสที่รัฐบาลกรีซจะหาทางหลีกเลี่ยงไปจากการประพฤติ ปฏิบัติ ตามเงื่อนไขของไอเอ็มเอฟและสหภาพยุโรป ที่ยอมควักเอาเงินก้อนใหญ่ จำนวนนับเป็นแสนล้านยูโร มาช่วยกอบกู้สถานะทางเศรษฐกิจของประเทศกรีซในช่วงระยะนี้นั้น...น่าจะยากซ์ซ์เต็มที!!!....
           -----------------------------------------------
     เพราะว่าไปแล้ว ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศกรีซในทุกวันนี้...มันไม่ได้เป็นปัญหาแต่เฉพาะตัวของประเทศกรีซเพียงลำพังเท่านั้น แต่มันเป็นปัญหาที่เชื่อมโยง บูรณาการ ไปถึงประเทศต่างๆ แทบจะทั่วทั้งสหภาพยุโรปด้วยกันทั้งหมด ดังเห็นได้จากคำอธิบายของนาง แองเกลา แมร์เคิล ผู้นำเยอรมัน ซึ่งได้แถลงต่อรัฐสภาเยอรมนีไปเมื่อวานนี้ว่า...ชะตากรรมของสหภาพยุโรปกำลังตกอยู่ในความเสี่ยงสูง  จากภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจที่ร้ายแรงที่สุดเท่าที่เคยเป็นมาในช่วง 11 ปี ของการร่วมสถาปนาเงินยูโรขึ้นมาใช้กัน นอกจากนั้นประเทศอื่นๆ อีกหลายประเทศในกลุ่มยูโรโซน อาจได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาวิกฤติศรัทธาที่มีต่อสถานะการคลังของรัฐบาล อย่างเช่นที่ประเทศกรีซกำลังประสบอยู่ในทุกวันนี้...
            ---------------------------------------------
     ไม่ต่างไปจากนาย โดมินิก สเตราส์ คาห์น กรรมการผู้จัดการใหญ่ไอเอ็มเอฟ ที่ได้ให้ความเห็นกับหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศสฉบับหนึ่งเอาไว้ว่า...มีความเป็นไปได้ หรือมีความเสี่ยงสูงเอามากๆ ที่วิกฤติเศรษฐกิจในประเทศกรีซ จะลุกลามไปยังประเทศอื่นๆ ในกลุ่มยูโรโซน ยกเว้นแต่เฉพาะฝรั่งเศส  และเยอรมัน แน่นอนว่า...ภายใต้สภาพเช่นนี้การควบคุม ป้องกัน ไม่ให้ ไฟกรีก ลุกลามไปทั่วทั้งยุโรป ก็มีแต่จะต้องหันมารัดเข็มขัดรัฐบาลกรีซ ชนิดให้เอวคอด เอวกิ่ว ไปพร้อมๆ กับการกดดันให้รัฐบาลหาทางเพิ่มรายได้ให้เร็วๆ เข้าไว้ จะด้วยวิธีรีดเลือดชาวกรีซมาใช้ดับไฟแทนน้ำ หรือจะด้วยวิธีหันไปบวงสรวงเทพเจ้าชาวกรีก ก็แล้วแต่จะคิดหาทางออกกันเอาเอง...
         --------------------------------------------------
     ท่ามกลางสภาพความเป็นไปเช่นนี้...จึงพอเป็นที่เข้าใจได้ว่า เหตุใดผู้ที่แห่ออกมาประท้วง ต่อต้านรัฐบาล ถึงต้องโอดครวญเอาไว้อย่างน่าสงสาร น่าเวทนาเป็นอย่างยิ่ง ด้วยคำพูดที่ว่า  ประชาชนชาวกรีซ...กำลังถูกรัฐบาลนำไปบูชายัญ และต่างแสดงออกถึงความรู้สึกไปในทิศทางเดียวกันว่า ผู้ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากความช่วยเหลือของสหภาพยุโรปและไอเอ็มเอฟ อย่างเป็นเนื้อเป็นหนัง อันที่จริงแล้ว...ก็คือบรรดาธนาคารพาณิชย์รายต่างๆ ในยุโรป ซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาหนี้เน่า รวมทั้งพวกคนรวย คนโกงภาษี ตลอดไปจนถึงนักการเมืองทุจริต ไม่ว่าจะเป็นประเภทที่หลบหนีคดีไปแล้ว หรือยังไม่ถูกดำเนินคดีก็ตาม ที่ต่างก็ไม่ต้องแบกรับผลกระทบจากมาตรการของรัฐบาล เท่ากับคนธรรมดาสามัญ ข้าราชการ และมนุษย์เงินเดือนทั้งหลาย แต่ก็ยังโชคดี...ที่ไม่มีชาวกรีซรายใดดันไปคิดว่าตัวเองเป็น ไพร่ การลุกขึ้นมาต่อต้าน อำมาตย์ แห่งประเทศกรีซคราวนี้ จึงเป็นเพียงแค่การแสดงความไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล ไม่ได้ไปไกลถึงขั้นคิดจะ ล้มปืน-ล้มทุน-ล้มเจ้า อย่างเช่น ประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของเราเอาเลยแม้แต่น้อย...
           ----------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก นิรนาม...สิ่งใดที่ยังแก้ไขไม่ได้....สิ่งนั้นต้องอดทน[/b][/size]

http://www.thaipost.net/news/070510/21860
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #591 เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2553, 10:47:55 »

สวัสดีครับพี่แก้ว

ปัญหาของประเทศกรีซ ใหญ่โตมากและอาจจะลามไปถึงประเทศโปรตุเกส และ สเปน ด้วย

ซึ่งหากเป็นจริงผมว่าจะลามเป็น "วิกฤติเศรษฐกิจโลก" ทีเดียว เพราะเป็น 3 ประเทศที่ค่อนข้างใหญ่

พี่แก้วมีความเห็นอย่างไรบ้างกับเรื่องนี้ครับ ??

นี่ถ้าเราทะเลาะกันไม่เลิก จนเครดิตเสีย จะมีผลเป็นอย่างไร ??
      บันทึกการเข้า
Preecha2510
Cmadong Member
Full Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2510
กระทู้: 788

« ตอบ #592 เมื่อ: 08 พฤษภาคม 2553, 13:43:36 »


   
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 07 พฤษภาคม 2553, 10:47:55
สวัสดีครับพี่แก้ว

ปัญหาของประเทศกรีซ ใหญ่โตมากและอาจจะลามไปถึงประเทศโปรตุเกส และ สเปน ด้วย

ซึ่งหากเป็นจริงผมว่าจะลามเป็น "วิกฤติเศรษฐกิจโลก" ทีเดียว เพราะเป็น 3 ประเทศที่ค่อนข้างใหญ่

พี่แก้วมีความเห็นอย่างไรบ้างกับเรื่องนี้ครับ ??

นี่ถ้าเราทะเลาะกันไม่เลิก จนเครดิตเสีย จะมีผลเป็นอย่างไร ??

    สวัสดีครับเหยง

           เท่าที่ติดตามอ่านข่าวเศรษฐกิจและการวิเคราะห์จากหน่วยงานต่างๆ  พอสรุปได้ว่าปัญหาฟองสบู่แตกที่เกิดที่ประ

   เทศกรี๊ซในตอนนี้น่าจะพอควบคุมได้  เพราะเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจไม่ใหญ่มากนัก  ความเสียหายไม่ได้มีสเกล

   ขนาดใหญ่ขนาดเท่าซับไพร์มที่่เกิดขึ้นที่อเมริกา ขณะเดียวกันฐานะของประเทศข้างเคียงเช่นสเปนก็ไม่ได้อยู่ในสภาพ

   ที่ตกตํ่าแย่มากนักแม้แต่โปตุเกศก็เช่นเดียวกัน คิดว่าคงจะไม่ลามเป็นโดมิโนไปยังประเทศต่างๆในกลุ่ม EU เพราะ

   ขณะนี้กลุ่มประเทศ EU และกองทุน IMF ก็ได้เข้ามาช่วยกันอัดฉีดพยุงสถานะการณ์อย่างรีบด่วนแล้ว  ก็คิดว่าคงจะช่วย

   บรรเทาแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปได้  แต่ในระยะสั้นคงจะหลีกเลี่ยงปัญหาทางสังคมที่จะเกิดขึ้นไม่พ้น  อันเนื่องจาก

   ระเบียบและมาตรการควบคุมและการเข้มงวดทางด้านการใช้จ่ายทั้งภาครัฐฯและประชาชน  รวมทั้งการเก็บภาษีภาย

   ในประเทศเพิ่มขึ้น ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนจะฝืดเคืองขึ้นซึ่งก่อให้เกิดการประท้วงรัฐบาลในเรื่องต่างๆ  ตาม

   ข่าวที่เริ่มปรากฏให้เห็น
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #593 เมื่อ: 10 พฤษภาคม 2553, 09:05:06 »

ต่อเรื่องของประเทศกรีซ

ขณะนี้ค่าเงินยูโร ร่วงหล่นลงไปอีก โดยค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐแข็งค่าสวนทางขึ้นมา เนื่องจากชาวอียู ไม่มั่นใจในการแก้ไขปัญหาของกรีซ ว่าจะไปรอด

ในขณะที่ข่าวว่า สเปนและอิตาลี มีอาการสาหัสเพิ่มขึ้น เนื่องจากรัฐบาลและประชาชนของ 2 ประเทศนี้ไปลงทุนในพันธบัตรของรัฐบาลกรีซ ซึ่งขณะนี้ไม่มีปัญญาจ่ายแม้กระทั่งดอกเบี้ยพันธบัตร ซึ่งหลายๆคนมองว่าจะเป็นปัญหาลุกลามไปทั่วอียู

ธปท. มองว่าวิกฤติประเทศกรีซไม่กระทบไทยโดยตรง แต่จะมีผลต่อการส่งออกสินค้่าไปยังกลุ่มอียู รวมทั้งอาจทำให้นักท่องเที่ยงจากอียู มาไทยลดลง เพราะต้องประหยัดรายจ่ายกัน
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #594 เมื่อ: 11 พฤษภาคม 2553, 09:17:06 »

คอลัมม์ "คนปลายซอย" ของคุณเปลว สีเงิน

ลีลา"เอาม็อบลง"ของคณะ ๓ เกลอ
เปลว สีเงิน 11 พฤษภาคม 2553 - 00:00

             ไม่ทราบว่าเย็นวาน (๑๐ พ.ค.๕๓) ท่านได้ดู-ได้ฟังการประกาศ "เรดแม็พ" ของคณะแกนนำกบฏ "ตอบรับ" โรดแม็พของรัฐบาลหรือเปล่า ผมไม่ได้ดู แต่ได้ฟังเสียงจากเวทีราชประสงค์ สรุปในหลักการว่า "โอเค ยุติการชุมนุม" แต่ด้วยภาวะคนกรุง "ประสาทหลอน" มาร่วม ๒ เดือน ถึงจะจูบปากกันแล้วก็เถอะ แต่ตราบใดที่ตูดผู้ชุมนุมยังไม่ขยับพ้นไปจากราชประสงค์...ใครก็ยากจะปักใจเชื่อ!

             แต่ก็มีส่วนเป็นอย่างนั้นอยู่นะ เพราะที่ว่าบรรดาแกนนำกบฏมีมติเป็นเอกฉันท์ ยอมรับเลือกตั้งใหม่ที่ ๑๔ พ.ย.๕๓ จะยุบสภาระหว่างวันที่ ๑๕-๓๐ ก.ย.เข้าสู่กระบวนการปรองดองกับรัฐบาลก็จริง แต่ "ลูกผู้ชายย่อมไม่ไร้พิษ" เรื่องจะตกลงกันง่ายๆ เห็นจะยาก

            คือ ถึงจะยอมรับเงื่อนไข แต่ก็ "ยักศอก" เป็นเงื่อนไขกลับไปให้รัฐบาลทำเป็นการบ้านเหมือนกัน แต่ก่อนจะคุยในรายละเอียด ผมว่า เรามาอ่านถ้อยแถลงที่นายณัฐวุมิ ใสยเกื้อ เป็นผู้อ่านก่อนดีกว่า เพราะมี "เงื่อนไขกลับ" อยู่ในนั้นด้วย ดังนี้

            ๑.นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ขอประกาศตอบรับการกำหนดวันเลือกตั้ง ๑๔ พ.ย. ๒๕๕๓ ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ และเมื่อประกาศตอบรับการเลือกตั้ง เราตั้งคำถามวันกำหนดวันยุบสภา แทนที่จะกำหนดวันเลือกตั้ง ปรากฏว่าเห็นตรงกันว่าวันยุบสภา ๑๕-๓๐ ก.ย. เมื่อมีคำตอบเช่นนี้ เรายินดีตอบรับวันยุบสภาโดยไม่มีเงื่อนไข นี่คือแสดงความจริงใจของนปช.แดงทั้งแผ่นดิน โดยไม่ต้องมีผู้บาดเจ็บหรือล้มตาย

                ๒.เราต่อสู้เพื่อความยุติธรรมสองมาตรฐาน เราไม่อาจรับการกระทำจากรัฐที่เป็นสองมาตรฐานทุกกรณี นั่นหมายความว่าการดำเนินคดีต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องเกิดขึ้น เรายืนยันไม่ประสงค์นิรโทษกรรม เรายินดีเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการยุติตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่รัฐบาลก็ต้องปฏิบัติตามกระบวนการยุติธรรมในมาตรฐานเดียวกัน ก็คือ ที่มาของข้อกล่าวหาก่อการร้าย นปช.แดงทั้งแผ่นดิน คืนวันที่ ๑๐ เม.ย. ทหารใช้กำลังสลายการชุมนุม

                ภายหลังเหตุการณ์เกิดขึ้น พวกเราถูกกล่าวหาเป็นผู้ก่อการร้ายและอนุมัติหมายจับจากดีเอสไอ ขณะที่นายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ยังไม่ปรากฏมีความคืบหน้าดำเนินคดีแต่อย่างใด ทั้งที่เราได้ไปแจ้งข้อหาไว้แล้ว ข้อเรียกร้องของเรา เมื่อตอบรับแล้ว นายกฯ และรองนายกฯ ก็ต้องเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเช่นเดียวกัน

                ๓.วันประกาศยุติการชุมนุม เพื่อเดินหน้าเข้าสู่วันปรองดอง จะเป็นวันเดียวกับที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ก็จะกลับบ้าน ยุติการชุมนุมทันที แต่หากไม่ไปก็จะไม่ยอมยุติการชุมนุม

                "นายสุเทพมอบตัววันไหน กลับบ้านวันนั้น นายสุเทพปฏิเสธวันไหน ก็ปฏิเสธวันนั้น"

                ๔.ให้รัฐบาลยุติปิดพีเพิลแชนแนล ซึ่งหากมีคณะกรรมการขึ้นมาดูแล ก็ยินดีเข้าสู่คณะกรรมการ พร้อมกับสถานีเอเอสทีวี หากมีมติเช่นไร เรายินดีปฏิบัติเช่นเดียวกับเอเอสทีวี

                ๕.เมื่อคนเสื้อแดงยุติการชุมนุม รัฐบาลต้องรับผิดชอบหากยังคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้ หากรัฐบาลจะคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็เป็นเรื่องของรัฐบาล ก็ขอให้เรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบซึ่งประชาชนจะกดดันรัฐบาลมากขึ้น

                สุดท้าย กราบเรียนว่า นปช.แดงทั้งแผ่นดินมีความตั้งใจจริง ออกจากกับดักความขัดแย้งโดยสันติวิธี เราจะเข้าไปร่วมกับคณะกรรมการต่างๆ และคณะกรรมการตรวจสอบต้องยอมรับได้

            ทั้งหมดนี้ผมลอก "กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" เงื่อนไขกลับของแกนนำกบฏก็คือ พวกเขายอมเข้าสู่กระบวนกายุติธรรม นายกฯ อภิสิทธิ์ และรองฯ สุเทพ ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามข้อหา "สั่งฆ่าประชาชน" ที่เขาไปแจ้งความด้วย

            เขายกเว้นให้นายกฯ ในฐานะเป็น ส.ส. ยังไม่ต้องไปมอบตัว แต่นายสุเทพลาออกจาก ส.ส.มาเป็นรองนายกฯ แล้ว ต้องไปมอบตัวกับตำรวจ และนายณัฐวุฒิก็ประกาศว่า

            "นายสุเทพมอบตัววันไหน พวกเราก็จะยุติการชุมนุมกลับบ้านวันนั้นทันที แต่ถ้านายสุเทพปฏิเสธ ก็เท่ากับ "ยกเลิก" ข้อตกลง และจะชุมนุมต่อไปทันที!"

            ก็ขอแทรกเพื่อความต่อเนื่องไว้ตรงนี้เลย เมื่อแกนนำประกาศเงื่อนไขอย่างนี้ นายสุเทพก็บอกกับนักข่าวทันทีเหมือนกันว่า "วันนี้ (๑๑ พ.ค.) หลังประชุม ครม.ที่ทำเนียบฯ เสร็จจะไปมอบตัวที่ DSI เลย"

            นักข่าวก็ไปบอกนายณัฐวุฒิ ฝ่ายนายณัฐวุฒิก็เกี่ยงว่า "ต้องไปมอบตัวกับตำรวจที่เป็นกลาง ไม่ไว้ใจ DSI อาจเป็นพวกเดียวกันกับนายสุเทพ"

            แล้วไงต่อก็ไม่ทราบนะครับ แต่ผมคาดว่า "โน พร็อมเบลม" จะให้ขึ้นสวรรค์-ลงนรก คุณสุเทพก็ไป ท่านอาจสงสัย เอ๊ะ..ทำไมเชื่องจริง กบฏแดงสั่งให้ทำอะไรก็ทำหมด?

            ก็ค่อยๆ ไล่เลียงกันไปตามลำดับแล้วกัน ประเด็นหลักที่คิดว่าทุกท่านอยากรู้-อยากเห็นเร็วๆ ก็คือ ถ้าเที่ยงนี้-บ่ายนี้ รองฯ สุเทพไปพบเจ้าพนักงานรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว กบฏแดงจะสลายการชุมนุม "หายวับไปกับตา" จากท้องถนนกรุงเทพฯ โดยเฉพาะที่ราชประสงค์หรือไม่?

            ตรงนี้แหละ..ประเด็นของเรื่อง!!

            ถ้าจะให้ผมตอบ บอกได้เลยว่า สังเกตจาก กทม.ระดมเจ้าหน้าที่วักน้ำสาดถนน สังเกตจากร้านค้าเตรียมอ้าประตูเปิดห้าง กระทั่ง ททท.เตรียมโปรแกรม "รับขวัญราชประสงค์" พลิกฟื้นคืนชีวิตการท่องเที่ยว

            แสดงว่า รัฐบาลและแกนนำ นปช.บรรลุข้อตกลงร่วมกันล้วตั้งแต่วันอาทิตย์ ประเด็นหลักน่าจะอยู่ที่เงื่อนไขการมอบตัว และการจะให้-ไม่ให้การประกันตัว เมื่อตกลงกันแล้ว การอ่าน "สัญญาสงบศึก" จึงมีขึ้นเมื่อเย็นวาน

            แล้วทำไมมีเงื่อนไข นายกฯ อภิสิทธิ์-รองนายกฯ สุเทพ ต้องตกเป็นผู้ต้องหา และทำไมรัฐบาลจึงยอม?

            ใครที่ฟังเสียง ดูลีลาอ่านแถลงการณ์ของนายณัฐวุฒิคงใจเต้นแต๊ว..แต๊ว..แล้วร้องว่า...ตายละ แบบนี้มันตีรวน-ตั้งแง่เบี้ยวกันชัดๆ เพราะมีที่ไหน จะดึงให้นายกฯ-รองนายกฯ กลายเป็นผู้ต้องหา บ้าน่ะซี!?

            แต่...ไม่บ้าหรอกครับ จะแจ้งความ-ไม่แจ้งความ ตามระเบียบกฎหมายมีให้ปฏิบัติอยู่แล้ว ผมเป็นนักข่าวอาชญากรรมเก่า เห็นตำรวจยิงคนร้ายที่ต่อสู้ขัดขืนตายมาหลายราย เขาเรียกคดีแบบนี้ว่า "วิสามัญฆาตกรรม" แต่นั่นก็เถอะ ตำรวจที่ฆ่าผู้ร้ายในหน้าที่ ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการกฎหมายตามระเบียบเหมือนกัน

            เพียงแต่เขาจะ "สั่งไม่ฟ้อง" เท่านั้น!

            หรือแม้แต่เราจอดรถอยู่เฉยๆ มีคนวิ่งมาชนรถเราล้มหัวฟาดถนนตาย เรา-คนขับก็ต้องเจอข้อหา "ขับรถเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย" เป็นเบื้องต้นอยู่ดี ก่อนจะไปจบสำนวนอยู่ที่ "สั่งไม่ฟ้อง" นั่นเหมือนกัน

            อย่างนายกฯ อภิสิทธิ์ และรองฯ สุเทพ ฝ่าย นปช.เขาไปแจ้งความ (แก้เกี้ยว) ว่าเป็นผู้สั่งฆ่าประชาชนในเหตุการณ์ ๑๐ เม.ย. ความจริงไม่ต้องแจ้ง ในหลักการทำสำนวนคดี ตำรวจเขาก็ต้องทำสำนวนอยู่แล้ว ซึ่งนั่นก็ไม่มีปัญหาอะไร

            อย่างเหตุการณ์คืน ๑๐ เม.ย. การสลายชุมนุมนั่นเป็นการสั่งตามหน้าที่ในฐานะ "เจ้าพนักงาน" ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ด้วยอำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่างกันกับเหตุการณ์ ๗ ตุลา ๕๒ ที่หน้ารัฐสภา นั่นเจ้าพนักงานใส่ผู้ชุมนุมกันเห็นจะจะ และทั้งอยู่ในภาวะปกติ

            แต่ในข้อเท็จจริงอันมีหลักฐานปรากฏชัด เมื่อคืนที่ ๑๐ เม.ย.ตำรวจ-ทหาร ซึ่งมีแต่กระบองไปสลายการชุมนุม ถูก "กลุ่มผู้ก่อการร้าย" ที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มเสื้อแดงใช้อาวุธสงครามฆ่าเจ้าพนักงาน และมีฝูงชนใช้อาวุธนานาชนิดรุมซ้ำ เจ้าหน้าที่ซึ่ง "ถูกกระทำ" จึงตอบโต้เป็นการป้องกันตัว เป็นที่รู้-ที่เห็นกันทั่ว

            และก็ยากที่กลุ่มกบฏแดงจะปฏิเสธไม่รู้เห็นกับผู้ก่อการร้าย เพราะก่อนหน้านี้แกนนำคนหนึ่ง จะเป็นนายสุภรณ์หรือนายอริสมันต์ผมจำไม่ถนัด ประกาศบนเวทีทำนองว่า "ไม่ต้องกลัว พวกเรามีกองกำลังติดอาวุธมาช่วยแล้ว"!

            ทุกคนฝ่ายแกนนำกบฏรู้ข้อกฎหมาย และความแตกต่างของเหตุการณ์เมื่อ ๗ ตุลา กับ ๑๐ เมษา ดี แต่อย่างว่า การจุดม็อบให้ติดนั้น "ไม่ยาก" เท่ากับเอาม็อบที่ติดแล้ว "ให้ลง" ตรงนี้แหละ ใครที่เคยเป็นหัวขบวนม็อบจะรู้ดีที่สุด

            นี่ก็เหมือนกัน เอาชาวบ้านมาเป็นหางเครื่องจน "เครื่องติด" ยิ่งติดต่อเนื่องเป็นเดือนมันก็พัฒนาเป็น "เสพติด" ทีนี้...จะเอาม็อบลง บอกให้กลับบ้าน ถ้าไม่มีเหตุผลให้เห็นว่าชนะ...ได้ตามที่เรียกร้อง จู่ๆ ไปบอกเลิกชุมนุม

            เผลอๆ กระแสตีกลับ จากที่จะกระทืบรัฐบาล หันไปรุมกระทืบบรรดาแกนนำม็อบเซ่นส้นไปเลย โทษฐาน "หลอกกูมา แล้วพวกมึงไปซูเอี๋ยกันเฉยเลย"!?

            ฉะนั้น จะลงทั้งที มันก็ต้องร่วมกันแสดงให้สมบทบาทหน่อย ผมจึงถามท่านแต่ต้นว่า "ได้ดู-ได้ฟัง" ลีลาการเอาม็อบลงของนายณัฐวุฒิผ่านการอ่าน "สัญญาสงบศึก" เขาหรือเปล่า?

            เงื่อนไขให้นายกฯ-รองนายกฯ ต้องไปมอบตัวด้วย "นายสุเทพมอบตัววันไหน ยุติการชุมนุม กลับบ้านทันทีวันนั้น" พอนายณัฐวุฒิย้ำเสียงกร้าว ถลึงตาเป็นลูกกอล์ฟเท่านั้นแหละ แฟนๆ หน้าเวทีเขย่าตีน เป่าปาก เป็นที่ถูกอก-ถูกใจ ถ้าผมอยู่บนเวทีด้วย คงต้องแอบแขม่วท้อง ถอนหายใจโล่งอก

            เฮ้อ...รอดตาย-รอดตีน (พวกกันเอง) ไปได้หวุดหวิด!

            สรุปก็คือ "แฮปปี้ เอนดิ้ง" นายสุเทพไปมอบตัว แกนนำที่ถูกหมายจับไปมอบตัว ได้ประกันตัวไป เพราะไม่มีเจตนาหลบหนี เนื่องจากไปมอบตัวเอง ตามบทแสดงเหล่านี้ก็หมายความว่า วันนี้-พรุ่งนี้...จบ (ชั่วคราว) กันทีกับ "นรกกลางกรุง" ๒ เดือนเต็ม!

            แต่...จบแค่ภาค ๑ "ภาคสันติ-อหิงสา" เท่านั้น ภาค ๒ อันเป็นภาคบู๊ล้างผลาญ "ภาคแดงโม่งดำ" คงจะรับไม้ต่อ สัญญาสงบศึกจะถูกฉีกด้วย "เหตุการณ์แปรผัน" จากไอ้โม่งแดง-โม่งดำหรือไม่ ต้องคอยฟังสัญญาณเสียงวี้ดดดบึ้มมมในแต่ละคืน แต่ถ้าสามารถ "แยกโจร-แยกชาวบ้าน" ออกจากกันได้อย่างนี้

            เผลอๆ มีรายการ "เด็ดหัว" !?.


http://www.thaipost.net/news/110510/22042
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #595 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2553, 13:29:03 »

คอลัมม์ "คนปลายซอย" ของคุึณเปลว สีเงิน วิเคราะห์ว่า ใคร?? ควรจะไปซะที !! ??

แดงไม่ไป "อภิสิทธิ์-อนุพงษ์" ใครควรไป?
เปลว สีเงิน 12 พฤษภาคม 2553 - 00:00

      ผมได้รับกล่องกระดาษที่จัดทำประณีตจาก "ชมรมคนรักวัง" กล่องหนึ่ง วังในที่นี้คือ "พระราชวังพญาไท" ภายใน "โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ" ที่ไปเยี่ยมทหารบาดเจ็บกันมานั่นแหละ   หน้ากล่องมีข้อความว่า "ท่านเจ้าคุณนรฯ สอนอะไร?" เปิดดูก็พบ "พระผงเจ้าคุณนรรัตนฯ" พร้อมข้อความ "กตัญญูกตเวทีเป็นรากแก้วของคนดี" และกระดาษพิมพ์รูปท่านพร้อมธรรมวจนะ "ทำดี ดีกว่าขอพร ใครทำกรรมดี ผลของความดีก็คุ้มครองอยู่แล้ว สิ่งอื่นนั้นไม่ใช่เนื้อแท้ของพุทธศาสนา"...ธมฺมวิตกฺโก
      ผมห้อยเหรียญ "ท่านเจ้าคุณนรฯ" อยู่แล้ว เมื่อจู่ๆ ได้รับ "พระผงเจ้าคุณนรรัตนฯ" อีกตั้ง ๒ องค์ ก็ดีใจมาก พลิกดูเอกสารกำกับ ทราบว่า "ชมรมคนรักวัง" ได้นำมวลสารวัดเทพศิรินทราวาสที่ "สมเด็จพระญาณวโรดม" อดีตเจ้าอาวาสเก็บรวบรวมไว้กว่า ๕๐ ปีมาจัดพิมพ์ขึ้น
      มวลสารมีทั้งเกศา จีวร และผงของท่านเจ้าคุณนรฯ พร้อมด้วยเกศา จีวร ของอริยสงฆ์อีกหลายรูป เช่น "หลวงปู่อำพัน" เป็นต้น และพุทธาภิเษกตั้งแต่วันจันทร์ที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ พอดีปีนี้ "พระราชวังพญาไท" อันเป็นพระราชฐานที่ประทับถาวรของ "พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว" รัชกาลที่ ๖ ครบรอบ ๑๐๐ ปี
      ทาง "ชมรมคนรักวัง" ก็นำพระผงรูปเหมือนท่านเจ้าคุณนรฯ ออกเผยแพร่ เข้าใจว่าเจตนาเพื่อหาทุนสมทบ "มูลนิธิอนุรักษ์พระราชวังพญาไท" ที่กำลังคืนอดีตสู่ปัจจุบันด้วยการซ่อมแซมสู่ดังเดิม นอกจากเป็นการอนุรักษ์แล้ว ยังเพื่อการท่องเที่ยว และการศึกษาในรูปแบบพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ด้วย
      วันเสาร์ที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๓ นี้ จะมีการบำเพ็ญพระกุศล ณ พระที่นั่งพิมานจักรี พระราชวังพญาไท ในวาระครบ ๑๐๐ ปี แต่ผมเห็นว่าเป็นโอกาสดี เพราะปัจจุบันนี้ยากยิ่งที่จะได้ "พระผงรูปเหมือนท่านเจ้าคุณนรฯ" ไว้เป็นมงคลชีวิต เป็นเครื่องกระตุ้นเตือนจิตถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ
      ไม่มีการแจ้งรายละเอียดเพื่อการนี้ แต่คาดว่าหลายท่านสนใจจึงนำมาบอก ลองสอบถามไปที่ "ชมรมคนรักวัง" ภายในโรงพยาบาลพระมงกุฎฯ นั่นแหละ หรือโทร.เบอร์ ๐-๒๓๕๔-๗๗๓๒ และเบอร์ ๐-๒๒๕๔-๗๙๘๗ สอบถามดู จะมอบให้ หรือสำหรับสมนาคุณท่านที่สมทบทุนซ่อมแซมพระราชวัง ก็จะได้ทราบกัน
      "ท่านเจ้าคุณนรฯ" คืออดีตผู้ถวายการรับใช้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาท "พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว" รัชกาลที่ ๖ เป็นทั้งองคมนตรี และที่ปรึกษาราชการในส่วนพระองค์ หลังจากล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ สวรรคตแล้ว ด้วยความจงรักภักดีสูงสุด ท่านเจ้าคุณนรฯ หยิบหญ้าแพรกมาเคี้ยว แล้วประกาศว่า
      "เมื่อสิ้นในหลวงแล้วจะไม่ง้อใคร กินหญ้าก็ไม่ตาย"
      จากนั้นท่านก็ไปบวชอยู่วัดเทพศิรินทราวาส คร่ำเคร่งปฏิบัติธรรมอยู่ ๔๕ พรรษา "อาจารย์ดวงใจ  ภรณวลัย" หมอดูไพ่ยิปซีที่ไม่มีใครเหมือน และไม่เหมือนใคร "๑ เดียวในประเทศไทย" เคยเล่าให้ฟังว่า  ตอนเด็กๆ แม่พาไปดักอยู่ข้างกุฏิ รอเวลาท่านออกจากกุฏิไปลงพระอุโบสถ คนเยอะแยะ รอกราบท่านอย่างเดียวเท่านั้น
      ท่านไม่ยุ่ง ไม่สุงสิง ไม่คละเคล้ากับหมู่ญาติโยมคนไหน วันๆ ปิดกุฏิบำเพ็ญสมณธรรม จะเปิดออกมาก็ตอนเดินไปลงโบสถ์ทำวัตรเช้า-เย็นเท่านั้น จนเป็นที่กล่าวขานในหมู่อริยสงฆ์ว่าท่านเป็น "พระอรหันต์ในเมืองกรุง" และมรณภาพเมื่อ ๘ ธ.ค.๑๔
      อาจารย์ดวงใจคุยอวดด้วยว่า "เป็นคนเดียวที่ท่านเจ้าคุณนรฯ กรอกน้ำมนต์ให้" จากนั้น พอโตขึ้นจะไปทำธุรกิจอาชีพอะไรก็ดูไม่ลงตัวซักอย่าง นอกจากนั่งพูด..พูด..พูด..อย่างเดียวทั้งวัน จนทุกวันนี้ งานคือ "การนั่งพูด" ทั้งวันเหมือนเดิม เพียงแต่จำกัดคน-จำกัดเวลาลงหน่อย เพราะจะ ๘๐ ปีแล้ว! 
      ก็พูดผ่านการ "เปิดไพ่" บอกลายแทงชีวิตนั่นแหละ!
      เอ้า..คุยแล้วก็ยาว เดี๋ยวจะไม่เหลือเนื้อที่ "คุยเรื่องเครียด" ประจำวัน ในที่สุดก็เป็นอย่างที่คนส่วนใหญ่คาดคือ แกนนำกบฏ "เบี้ยว" อีกตามเคย เปลี่ยนจาก "คนเลี้ยงควาย" ไปเป็น "เด็กเลี้ยงแกะ" แหม...ทำขึงขังเหมือนดาราใหญ่เข้าฉาก ประกาศเข้าสู่กระบวนการปรองดอง
      "สุเทพไปมอบตัววันไหน กลับบ้านวันนั้น"!
      สุเทพก็เชื่องและเชื่อง่ายดีเหลือเกิน อยากจะให้พวกเสื้อแดงเลิกชุมนุมกลับบ้านกันไปเสียที ขมีขมันไปรายงานตัวที่ DSI ตั้งแต่ผมยังไม่ตื่น แต่ลงท้ายพวกแกนนำกบฏแดงถลกตูดให้ ทำเฉไฉ อ้างอย่างโน้น-อย่างนี้ สรุปง่ายๆ ว่า...พวกข้าจะชุมนุม "ยึดราชประสงค์" อยู่ต่อโว้ย!
 "อย่าเอาใจวิญญูชนไปวัดใจโจร" มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ แถลงการณ์เป็นตุ-เป็นตะ ไม่เพียงรับรู้เฉพาะในเมืองไทย คนทั้งโลกที่ติดตามสถานการณ์เขาก็รู้ว่า "กบฏทักษิณประกาศยอมปรองดอง เลิกชุมนุมแล้ว"
      แต่พอเช้าวันรุ่งขึ้น จากราชสีห์สะบัดแผงคอเย็นวาน กลายเป็นหมาขี้เรื้อนสะบัดหางไปซะงั้น!?
      ฝ่ายรัฐบาลเขาไม่เสียหรอกนะ เพราะเขาอดทน อดกลั้นอยู่ในถังเกลือ พยายามใช้การประนีประนอมแทนการปราบปรามด้วยกำลังจนถูกด่า และถูกชมขรมไปหมดแล้ว แต่ฝ่ายกบฏนั่นแหละมีแต่เสีย จนถึงขั้นบูด-เน่าเหม็น
      โจรตระบัดสัตย์นั่นไม่แปลก แต่การทำเช่นนี้ ทำให้สิ่งที่คลุมเครือเด่นชัดในความจริงขึ้นว่า ที่แท้ เจตนาชุมนุมนั้น ไม่ใช่เรียกร้องประชาธิปไตย เพราะรัฐบาลสนองตอบให้แล้ว ตัวเองกลับเตะทิ้ง
      มันก็ "หางโผล่" ในเชิงตรรกะซีว่า ชุมนุมสันติ-อหิงสา กับพวกโจรก่อการร้าย...ที่แท้...มันก็พวกเดียว-กลุ่มเดียวกัน!
 เจตนากบฏบ้าน-กบฏเมือง หวัง "ล้มสถาบัน-เปลี่ยนระบอบ" ด้วยกัน!!
      ถึงวันนี้ด้วยการกระทำตัวเอง ฉากหน้าที่ฉาบทาว่า ชุมนุมสันติ-อหิงสา มาเรียกร้องประชาธิปไตย นั้น มันหลุดลอกเห็นลายแท้และดั้งเดิมแล้ว มันเป็นความเสียหายที่จะนำมาซึ่ง "ผลร้าย" กับตัวเองโดยตรง ชาวบ้านที่มาชุมนุมด้วยบริสุทธิ์ใจ จากที่คลางแคลงใจ ตอนนี้เชื่อเลยว่า
 "ถูกหลอกมาเป็นเครื่องมือโจรล้มชาติ-ล้มสถาบันจริงๆ"!
      แรกๆ ชาวโลกรู้ฉาบฉวยด้วย "เท็จเป็นจริง" จากฝ่ายแดงที่ปั้นแต่งขึ้นบ้าง จากบริษัทสื่อในต่างประเทศที่ทักษิณจ้าง "ปั้นความจริงเทียม" ออกเผยแพร่ผ่านสื่อทุกระบบบ้าง แต่เมื่อชาวโลกเห็นชัดๆ คาตา-คาหู จากภาพ-ข่าวเหตุการณ์สดๆ โม่งดำฆ่าทหารเมื่อคืนวันที่ ๑๐ เมษาก็ดี บึ้มสีลมฆ่าประชาชนก็ดี  ซุ่มยิงทหารที่วิภาวดีรังสิตก็ดี บุกโรงพยาบาลจุฬาฯ และสภากาชาดไทย จนต้องปิดโรงพยาบาล ย้ายคนไข้ก็ดี
      นี่มันการกระทำของขบวนการ "โจรก่อการร้าย ๑๐๐%"!
      แล้วตัวเองบอก "เลิกชุมนุม" เข้าสู่กระบวนการปรองดองตอนเย็น แต่พอรุ่งขึ้นเช้าบอก...ไม่เลิก แล้ว...ชุมนุมต่อ ก็เลยชัด เป็นที่สิ้นสงสัยด้วยประการทั้งปวงว่า....อหิงสากับมือฆ่า-มือปาระเบิดคือ "โจรก่อการร้าย" กลุ่มเดียวกัน
      เมื่อเป็น "โจรก่อการร้าย" ยึดชัยภูมิกลางกรุงตั้งค่าย-ตั้งแคมป์ปฏิบัติการ จึงไม่มีปัญหาอะไรที่ "ตำรวจ-ทหาร" จะใช้กำลังและอาวุธเข้าปราบปรามให้สิ้นซาก!
      แต่ที่ไม่มีการใช้อำนาจทางกฎหมายเข้าจัดการให้เด็ดขาด เขาพูดกันว่า
๑.ตำรวจ-ทหาร "บางส่วน" เป็นใจ
๒.สั่งแล้ว แต่บิ๊กกองทัพ-บิ๊กตำรวจไม่ขยับ-เขยื้อน
๓.ทั้งรัฐบาลและสังคมโลกไม่ต้องการให้ใช้ความรุนแรง
๔.สลายการชุมนุมเกรงชาวบ้านจะล้มตาย
๕.ตำรวจ-ทหารกลัวปะทะ เพราะเชื่อว่าในวงชุมนุมซุกซ่อนอาวุธร้ายแรงไว้เยอะ และ
๖.ขณะนี้รัฐบาลเป็น "รัฐบาลที่ล้มเหลว" เนื่องจาก "สูญเสียอำนาจบริหาร-สั่งการไปแล้ว"!?

      นี่คือสิ่งที่เขานินทากันอยู่ ฉะนั้น ตอนนี้ ฝ่ายกบฏ-ถือว่าเสียความชอบธรรมในการชุมนุมทั้งปวงแล้ว และฝ่ายรัฐบาล โดย ศอฉ.มีความชอบธรรม ๑๐๐% ในการปราบปรามโจรก่อการร้ายแล้ว
      เพื่อพิสูจน์และลบคำนินทา ข้อครหาทั้งปวง รัฐบาลโดย ศอฉ.มีเวลา "ช้าที่สุด" ถึงวันเสาร์ที่ ๑๕ พฤษภานี้เท่านั้น ที่จะ...
 - พิสูจน์ให้รู้ชัดว่า "รัฐบาลไม่ล้มเหลว ยังมีอำนาจบริหาร-สั่งการอยู่ในมือ"
 - พิสูจน์ให้รู้ชัดว่า "กองโจรต้องไม่เหนือกว่ากองทัพ"
 - พิสูจน์ให้รู้ชัดว่า "ตำรวจ-ทหาร เพื่อประชาชน" ไม่ใช่ "ตำรวจ-ทหาร เพื่อกองโจร"
       ท่านนายกฯ ท่านโรดแม็พกะโจรก่อการร้ายได้ โรดแม็พกะสมาชิกรัฐสภาได้ แล้วท่านไม่คิดจะโรดแม็พกับประชาชน โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ ที่กำลังหายใจแขม็บๆ บ้างหรือ การปรองดองกับประชาชนคือ ท่านต้องเลิกคลานเช็ดตูดให้โจรก่อการร้ายได้แล้ว 
      กองทัพ "ไม่กลัว" กองโจร แน่ ประชาชนเชื่อ
 แต่ ผบ.กองทัพ กลัว ผบ.กองโจร หรือเปล่านั้น....ประชาชนสงสัย!?

http://www.thaipost.net/news/120510/22091
      บันทึกการเข้า
Intania๑๖
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: ๒๕๑๖
คณะ: เวสสุกรรม
กระทู้: 1,071

« ตอบ #596 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2553, 16:11:08 »



http://www.komchadluek.net/detail/20100428/57243/ทักษิณโพสต์ภาพเฟซบุ๊กยืนข้างธงชาติมอนเตฯ.html


คมชัดลึก :นพดลเผย "ทักษิณ"เตรียมฟ้องสุเทพ-ศอฉ.สัปดาห์หน้า ออกแถลงการณ์ยันไม่อยู่ในขบวนการล้มสถาบัน แย้มเร็วๆนี้เผยตัวสยบข่าวลือตาย ชี้แม้วพูดเป็นประชาชนมอนเตรเนโกเพราะถือพาสปอตอยู่


(28เม.ย.) ความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในประเทศมอนเตเนโกรนั้น วันเดียวกันเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. มีรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณโพสต์รูปบนเว็บไซต์เฟซบุ๊กใหม่อีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 เมษายน ได้โพสต์มาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่ามีการตกแต่งภาพใหม่ โดยภาพที่ พ.ต.ท.ทักษิณนำมาโพสต์ในครั้งนี้เป็นภาพใส่ชุดสูท ผูกเนกไทลายสีน้ำเงิน ยืนอยู่ข้างธงชาติประเทศมอนเตเนโกร พร้อมระบุว่า ภาพดังกล่าวถ่ายวันที่ 26 เมษายน 2553

 ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวกรณี พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์เป็นพลเมืองประเทศมอนเตเนโกรจะกระทบต่อการดำเนินคดีต่างๆ ในประเทศไทยหรือไม่ว่า ยังตอบไม่ได้ตอนนี้ ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญดูข้อเท็จจริงก่อน

นพดลชี้แม้วจะออกมาแจง

 นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชี้แจงเกี่ยวกับกระแสข่าวลือเกี่ยวกับการเจ็บป่วยและเสียชีวิตของ พ.ต.ท.ทักษิณว่า ไม่รู้ทำอย่างไร ตอนป่วย เมื่อไม่ชี้แจงก็บอกว่าตายแล้ว เมื่อส่งภาพมากลับกล่าวหาว่าตัดต่ออีก พอนำคลิปออกมาก็บอกทักษิณโกโฮมอีก ไม่รู้ข่าวนี้มาจากไหน ต้องไปถามสำนักข่าวที่ออกข่าวแบบนี้มาประจำ

 เมื่อถามว่า เหตุใดพักหลังๆ พ.ต.ท.ทักษิณไม่วิดีโอลิงก์มายังเวทีการชุมนุมคนเสื้อแดง นายนพดลกล่าวว่า เข้าใจว่าเร็วๆ นี้ พ.ต.ท.ทักษิณจะทำอะไรสักอย่าง เพื่อให้คนสนิทใจมากขึ้น ส่วนสาเหตุที่ไม่โฟนอิน เพราะไม่อยากหลงกลอำมาตย์ที่พยายามหลอกล่อให้โฟนอินมา เพื่อจะได้กล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังคนเสื้อแดง ส่วนข่าวที่ออกมาในลักษณะว่า พ.ต.ท.ทักษิณพูดว่าเป็นประชาชนมอนเตเนโกรนั้น ขอชี้แจงว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีเชื้อชาติไทย ถือพาสปอร์ตมอนเตเนโกร กับนิการากัว มีถิ่นพำนักอยู่ดูไบ

ชี้ "รบ.มอนเตฯ-ทักษิณ"สมประโยชน์

 ด้านความเคลื่อนไหวของชาวมอนเตเนโกรเกี่ยวกับการเข้ามาถือสัญชาติของ พ.ต.ท.ทักษิณ วันเดียวกันสำนักข่าวมินาของมอนเตเนโกรรายงานว่า พรรคนิว เซิร์บเดโมเครซี (โนวา) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของมอนเตเนโกร ระบุว่า พรรคเดโมเครติก พาร์ตี ออฟ โซเชียลลิสต์ (ดีพีเอส) พรรครัฐบาล พยายามเพิ่มคะแนนนิยมต่อพรรคด้วยความช่วยเหลือของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในช่วงที่ดีพีเอสกำลังประสบปัญหาภายในพรรคและปัญหาอื่นๆ

 "เป็นที่เข้าใจกันว่าผู้นำดีพีเอสยังคงไม่ใส่ใจต่อข้อเท็จจริงที่ว่า บุคคลผู้นี้ต้องโทษจำคุก 2 ปีในข้อหาคอรัปชั่น และข้อเท็จจริงดังกล่าวจากประวัติชีวิตที่แสดงถึงความร่ำรวยของเขา อาจเป็นสิ่งที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดที่ทำให้เขามีความเหมาะสมต่อการเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ของรัฐบาลชุดนี้" พรรคโนวาระบุ

 ขณะนี้ชาวมอนเตเนโกรกำลังจับตาดูว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะได้รับบัตรประชาชนของมอนเตเนโกรหรือไม่ และจะได้ที่เมืองใด รวมทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณได้บรรลุเงื่อนไขที่จำเป็นทั้งหมดแล้วหรือไม่ในการได้รับสิทธิต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็นการลงคะแนนเสียง และในการได้รับการเลือกตั้งในมอนเตเนโกร

 "หากเขาได้รับสิทธิเช่นนั้น เขาจะได้อยู่ในรายชื่อสมาชิกของดีพีเอสในสภาเทศบาล 1 ใน 14 แห่ง และอาจจะได้เป็นหนึ่งในสมาชิกหรือผู้สังเกตการณ์ใกล้กล่องหย่อนบัตรเลือกตั้ง ชายผู้นี้เล่นการเมืองมานานหลายปี เขาจะไม่ทิ้งนิสัยเดิมอย่างง่ายดายนัก โดยเฉพาะเมื่อมีโอกาสที่จะนำแนวคิดและนิสัยของเขามาดำเนินการผ่านทางกิจกรรมที่ทำร่วมกับดีพีเอส ซึ่งมีความใกล้เคียงกับเขาในทุกๆ อย่าง" พรรคโนวากล่าว
      บันทึกการเข้า

เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #597 เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2553, 19:47:14 »

เป็นอย่างนี้หรือเปล่า?? มันถึงรบชนะไม่เป็น...............

เก้อจื้อเหวยเจิ้ง : ต่างคนต่างทำ
28 เมษายน 2553 08:38 น.

 
       《各自为政》
       
       各(gè) อ่านว่า เก้อ แปลว่า ต่างก็, แต่ละ
       自(zì) อ่านว่า จื้อ แปลว่า ตนเอง
       为(wéi) อ่านว่า เหวย แปลว่า เป็น, เพื่อ
       政(zhèng) อ่านว่า เจิ้ง แปลว่า งานของรัฐ แต่ในที่นี้หมายถึงกิจการงานใดๆ


                                                 
       
       ในสมัยชุนชิว เมื่อแคว้นซ่งจับมือเป็นพันธมิตรกับแคว้นจิ้น ส่งผลให้แคว้นฉู่ไม่พอใจเป็นอันมาก ฉู่อ๋องจึงให้แคว้นเจิ้งซึ่งเป็นแคว้นพันธมิตรของฉู่บุกโจมตีแคว้นซ่ง
       
       แม่ทัพใหญ่แคว้นซ่ง นามหัวหยวน เป็นผู้ที่จะนำทัพออกไปตั้งรับศัตรู โดยคืนก่อนที่จะมีการรบนั้น หัวหยวนจัดงานเลี้ยงปลุกปลอบขวัญเหล่าทหารและแม่ทัพนายกอง โดยมีการเชือดแพะเพื่อนำเนื้อมาทำอาหารเลี้ยงกองทัพ ตั้งแต่แม่ทัพผู้ใหญ่จนถึงนายทหารผู้น้อยทุกคนดื่มกินอย่างสำราญใจ
       
       ในตอนหนึ่งรองแม่ทัพผู้หนึ่งได้เอ่ยถามหัวหยวนว่า "ท่านจะมิเรียกหยังเจินผู้ทำหน้าที่ขับรถศึกให้ท่านมาดื่นกินด้วยหรอกหรือ?"
       
       หัวหยวนตอบว่า "ก็แค่คนขับรถม้าคนหนึ่ง การรบของข้าไม่จำเป็นต้องพึ่งเขา ไม่จำเป็นต้องให้เขามาพบข้า เพราะเรื่องการรบ ข้าเป็นผู้สั่งการ ทั้งยังวางแผนเอาไว้เป็นอย่างดีแล้ว ท่านไม่จำเป็นต้องกังวลใจ"
       
       เมื่อถึงวันสัประยุทธ์ระหว่างแคว้นซ่งและแคว้นเจิ้ง หัวหยวนนั่งอยู่บนรถศึกของหยังเจิน เพื่อออกคำสั่งในการรบทั้งหมด โดยในระหว่างการประหัตประหารของเหล่ากองทัพ พลัดกันรุกผลัดกันรับอยู่นั้น แม่ทัพหัวหยวนได้ออกคำสั่งให้หยังเจินขับรถมาศึกเข้าไปยังจุดที่ทหารเจิ้งเบาบางที่สุด แต่มิคาด หยังเจินกลับควบรถม้าศึกเข้าไปยังจุดที่มีกองทหารเจิ้งหนาแน่นที่สุด แม่ทัพหัวหยวนเห็นดังนั้นจึงเอ่ยถามอย่างตกใจว่า "เจ้าคิดไปยังที่ใด?" หยังเจิน กล่าวตอบอย่างดุดันว่า "วานนี้ยามแบ่งอาหารแบ่งสุรายกให้ท่านเป็นผู้ตัดสินใจ ทว่าเรื่องราวในวันนี้ ตอนนี้ มีเพียงข้าน้อยตัดสินใจเท่านั้น!"
       
       ผลสุดท้าย การตัดสินใจทรยศขายชาติของหยังเจิน ทำให้หัวหยวนเสียชีวิตในสนามรบ ส่วนกองทัพซ่งก็ประสบความพ่ายแพ้ครั้งยิ่งใหญ่
       
       ต่อมา ชนรุ่นหลังใช้คำพูดของหยังเจินมาแปลงเป็นสำนวนที่ว่า "เก้อจื้อเหวยเจิ้ง" หรือ "ต่างคนต่างทำ" หมายถึง ผู้ที่อยู่ในหน่วยงานหรือองค์กรเดียวกัน แต่ต่างยึดเหตุผลของตนเองเป็นใหญ่โดยไม่สนใจส่วนรวม หรือคนที่ไม่สนใจที่จะร่วมมือกับผู้อื่น
       

 
 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000057164
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #598 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2553, 10:01:59 »

อีกหนึ่งข้อมูล...เพื่อทราบ

แฉ“พล.เอก พ.”รับงาน“ทักษิณ”โยงเหตุฆ่าโหด “พ.อ.ร่มเกล้า”!?
12 พฤษภาคม 2553 21:40 น.

 
       "เรื่องมันฟ้อง"
       โดย....กรงเล็บ
       
       ความกังวลของคนไทยในขณะนี้ มิใช่เพียงแค่การชุมนุมที่ยืดเยื้อของ “กลุ่มไพร่เสื้อแดง”บริเวณพื้นที่ราชประสงค์เท่านั้น แต่ยังหวาดผวากับ “กองกำลังก่อการร้ายติดอาวุธ”ที่มียุทธศาสตร์และวางยุทธวิธีแบบทหารอาชีพ
       
       มิใช่มือสมัครเล่น หรือเป็นพวกทหารบ้านที่ได้รับการฝึกฝนผ่านโรงเรียน นปช.เท่านั้น
       
       เพราะการวางแผนรบ ขุดกับดักล่อ จนทำให้เกิดโศกนาฏกรรมบริเวณสี่แยกคอกวัว ล้วนเป็นแผนก่อการร้ายที่ออกแบบมาเพื่อ...
       
       ทวงคืนอำนาจรัฐ แก้แค้นการรัฐประหารวันที่ 19 กันยายน ที่ทำให้ ปีศาจทักษิณ ต้องพ้นจากอำนาจและยังไม่เห็นหนทางกลับมาเหยียบแผ่นดินไทยได้จนถึงทุกวันนี้
       
       มีใครบ้างที่หัวใจอัดแน่นไปด้วย “ความแค้น”จากการทำรัฐประหารครั้งนั้น
       
       แน่นอนว่า อันดับหนึ่งยังคงเป็น “ปีศาจทักษิณ” ที่พร้อมทุ่มทรัพยากรทั้งหมดที่มี เพื่อชำระแค้น และทวงคืนอำนาจ
       
       ความแค้นฝังหุ่นยังเกิดขึ้นกับคนอีกกลุ่มหนึ่งแบบฝังรากลึก คือ กลุ่มเตรียมทหารรุ่น 10 ที่ ปีศาจทักษิณ กำลังวางตัวให้เป็นทายาทสืบทอดอำนาจในกองทัพ แต่มีอันต้องกระเด็นออกจากอำนาจเสียก่อนทำให้ ตท.10 ตกกระป๋องหลุดวงโคจรจากการกุมอำนาจในกองทัพ ชนิดที่เรียกว่าไม่มีโอกาสเติบโตหากการเมืองไม่เปลี่ยนขั้ว
       
        การทำรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 “กลุ่มบูรพาพยัคฆ์”เป็นกำลังหลักที่ทำให้ปฏิบัติการดังกล่าวสำเร็จลุล่วงอย่างหมดจด ปราศจากการสูญเสียเลือดเนื้อ ด้วยแผนลับลวงพรางที่แยบยล เฉียบขาด และรวดเร็ว จนนายทหาร ตท.10 ขุมข่ายกำลังหลักของ “ปีศาจทักษิณ” ไม่ทันตั้งตัว ทำให้ปราชัยไปโดยที่ไม่มีโอกาสต่อสู้
       
        ว่ากันว่า ระหว่างปฏิบัติการ พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม นายทหารที่เสียชีวิตในยุทธการขอคืนพื้นที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศในวันที่10เมษายน ถึงกับต้องเอาปืนจ่อหัวควบคุมตัว พล.ท.พฤณฑ์ สุวรรณทัต อดีต ผบ.พล.1 รอ. เพื่อน ตท.10 คนสนิทของปีศาจทักษิณ
       
       ซึ่ง พล.ท.พฤณฑ์ สุวรรณทัต อยู่ในฝ่ายคุมกำลัง และเตรียมออกปฏิบัติการตอบโต้ชิงอำนาจรัฐไม่ให้หลุดไปอยู่ในมือของการรัฐประหารครั้งนั้น
       
        คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ “ทหารแตงโม”ในกองทัพจะเลือกชี้เป้าไปที่หัวของ พ.อ.ร่มเกล้า จนนายทหารกล้าผู้นี้จนต้องพลีชีพสังเวยความแค้นของใครบางคน
       
        คงไม่ใช่อุบัติเหตุที่ทำให้ระเบิดเอ็ม 79 ตกบึ้มสนั่นลงกลางเต๊นท์บัญชาการของนายทหารบูรพาพยัคฆ์ระหว่างปฏิบัติการขอคืนพื้นที่ที่สี่แยกคอกวัว
       
       จากงานด้านการข่าวของรัฐตรงกันทุกหน่วยว่า “กองกำลังติดอาวุธชุดดำ”เชื่อมโยงกับ “นายทหารแตงโม”ในราชการที่ยังคงอยู่ในกองทัพ
       
       โดยมี “พล.เอก พ.พาน” ที่รู้จักและสนิทแนบแน่นกับ “ปีศาจทักษิณ” เป็นฝ่ายเปิดวาล์วท่อน้ำเลี้ยง เดินทางไปสิงคโปร์ก่อนการชุมนุมใหญ่ของก่อการร้ายแดง เพื่อนำมาใช้หล่อเลี้ยงกองกำลัง ซึ่งมีทั้งที่เป็นทหารรับจ้าง รวมไปถึงทหารจากประเทศเพื่อนบ้านด้วย

       
        ส่วนคนคุมกำลังและวางแผนการรบ คือ คนที่คับแค้นอย่างที่สุดจากการไม่มีโอกาสได้ต่อสู้ในวันที่มีการทำรัฐประหาร โดย “ทหารแตงโม”คนสำคัญคนหนึ่งเป็นศูนย์กลางการบังคับบัญชาของกองกำลังแดง ซึ่งงานด้านการข่าวของรัฐบาลพบว่า
       
       นายพลคนนี้มีการติดต่อกับแกนนำก่อการร้ายแดง ทั้ง วีระ มุสิกพงษ์ จตุพร พรหมพันธ์ อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง รวมทั้งยังมีการประสานกับฟากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
       
        ที่สำคัญ คือ “พ.คนใกล้ชิดปีศาจทักษิณ” ยังรับงานตรงจากดูไบเพื่อปฏิบัติการโฉดสร้างสงครามกลางเมืองบนผืนแผ่นดินไทย
       
        ส่วนมือไม้ที่ถูกนำมาใช้ปฏิบัติการครั้งนี้นั้น นอกจากจะเป็น “ทหารพรานค่ายปักธงชัย”แล้ว ยังมีมือปืนระดับพระกาฬจากค่ายนักการเมืองดังที่เคยหนีจากประเทศกัมพูชาด้วยข้อหาปฏิวัติมาแล้ว

       
       นอกจากนี้เครือข่ายดังกล่าวยังเชื่อมโยงกับ ชยุต ไหลเจริญ หัวหน้าการ์ดแดง เมธี อมรวุฒิกุล และ เคทอง ซึ่งทั้งสามคนล้วนแต่ถูกจับกุมแล้วทั้งสิ้น ดังนั้นการขยายผลต่อยอดเพื่อทลายขบวนการก่อการร้ายจึงมิใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
       
        ที่น่าสนใจคือ วันที่ 10 เมษายน ก่อนปฏิบัติการโฉดของกองกำลังชุดดำจะเริ่มต้นขึ้น ปรากฏหลักฐานยืนยันว่า นายพลคนนี้ติดต่อกับ จตุพร อริสมันต์ ณัฐวุฒิ และหัวหน้าผู้ก่อการร้ายตัวจริงที่ดูไบ
       
        หลังการติดต่อกับปีศาจไม่กี่ชั่วโมง ก็มีการยื่นเงื่อนไขผ่าน กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผ่านไปทาง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้ลาออกจากตำแหน่ง กำหนดให้ สุเทพ เทือกสุบรรณ รักษาการตำแหน่งนายกฯ
       
       เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ เปิดทางให้คนนอกที่ไม่เป็น ส.ส.มาเป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีการระบุชื่อ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ให้เป็นนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลแห่งชาติ ที่จะเข้ามาแก้ไขกติกาเพื่อให้ ปีศาจหลุดพ้นบ่วงกรรม
       
        แต่แผนการนี้ล้มเหลว เพราะ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไม่เล่นด้วย จากนั้นไม่นานความอำมหิตผิดมนุษย์ก็เกิดขึ้นที่สี่แยกคอกวัว จนถนนราชดำเนินแปรสภาพเป็นสมรภูมิรบ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 26 ราย บาดเจ็บอีกเกือบพันคน

       
        เครือข่ายการก่อการร้ายที่นำมาเปิดโปงครั้งนี้ สะท้อนชัดว่า แกนนำก่อการร้ายแดงทุกคน ล้วนแต่รับทราบดีว่า ใครคือผู้บัญชาการกองกำลังติดอาวุธ มิใช่เป็นกองกำลังไม่ทราบฝ่ายตามที่มีการกล่าวอ้าง
       
        เพราะหากเป็นกองกำลังไม่ทราบฝ่ายจริง ณัฐวุฒิ คงไม่กล้าที่จะเจรจากับกอร์ปศักดิ์ในค่ำคืนวันที่ 10 เมษาทมิฬ ยุติปฏิบัติการของทั้งสองฝ่าย
       
       โดยภายหลังจากตกลงกัน “กองกำลังชุดดำ”ก็หลบเข้าสู่เงามืดใช้โล่มนุษย์ไพร่แดงเป็นที่กำบัง
       
        ถ้า ณัฐวุฒิ ไม่รู้ว่า ใครคือกองกำลังไม่ทราบฝ่ายที่ทั้งสาดกระสุน ยิงเอ็ม 79 และปาระเบิดใส่ทหาร แล้วจะหาญกล้ามาเจรจาหยุดยิงได้อย่างไร?
       
        ข้อหาก่อการร้ายยังถือว่าน้อยเกินไป เพราะพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้คือ กบฏในราชอาณาจักร โดยมีปีศาจทักษิณ เป็นหัวหน้ากบฏตัวจริง

 
 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000065662
 
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #599 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2553, 10:26:45 »

คอลัมม์ "คนปลายซอย" ของคุณเปลว สีเงิน

ฝรั่ง "วิสัยทัศน์ไทย" ชี้ทางพ้นทุกข์
เปลว สีเงิน 13 พฤษภาคม 2553 - 00:00

      ครับ...ทุกอย่างกำลังเดินไปตามเส้นทาง "เป็น-ที่ต้องเป็น" นายกฯ ประกาศล้มเลิกแผน "ยุบสภา-เลือกตั้ง ๑๔ พ.ย." ไปแล้ว เพราะพวกกบฏ "รับปากแล้วขากทิ้ง" ไม่ยอมสลายการชุมนุม นายกฯ ดูจะ "เครื่องติด" และฝ่าย ศอฉ.ก็ "ติดเครื่อง" เตรียมเบาไปหาหนักรับแผนกัน  แต่ผมว่า...โน่นแหละ ตีห้า สิบแปดนาที ของวันเสาร์ที่ ๑๕ พ.ค.ไปแล้วนั่นแหละ น่าจะเป็นเวลา  breakfast ของคนราชประสงค์ด้วย "ต้มเลือดหมู" ร้อนๆ! พวกแกนนำกบฏคงรู้เหมือนกันว่าเวลาของ "ลมหายใจ" กระชั้นเข้ามาทุกที ตอนนี้เลยแตกกันเละ "อหิงสา" พวกหนึ่ง อย่างนายวีระ นายก่อแก้ว ก็อยากมอบตัว พวก "มหิงสา" คือกลุ่มซาดิสม์อย่างสุภรณ์-อริสมันต์-จตุพร-เหวง อีกพวกหนึ่ง พวกนี้มอบตัวแล้วกลัวเข้าคุก ก็เลยยึดชาวบ้านที่หลอกมาชุมนุมเป็นตัวประกันความปลอดภัยให้ตัวเองไปเรื่อยๆ

      ฉะนั้น ช่วงนี้ "ดูเหตุการณ์" ไปซัก ๒-๓ วัน ไม่มีอะไรต้องคุยกัน แต่พอดีท่านอาจารย์ nongnapas  tapasanant อีเมล์เรื่องที่ "คุณสุทธิชัย หยุ่น" สัมภาษณ์ "นายสตีเฟน ยัง" นักศึกษาฮาร์วาร์ด ลูกชายอดีต  "เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย" ผู้เติบโตและเล่าเรียนต่ออยู่ในไทย ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ และการปกครอง ตั้งแต่ยุคล่าอาณานิคมจนถึงยุคคอมมิวนิสต์สู่เอเชียอาคเนย์ มาให้ผมอ่าน

      ความจริง บทสัมภาษณ์นี้ ตั้งแต่ ๘ ก.ย.๕๒ ในรายการชีพจรโลก ทางช่อง ๙ จำได้ว่าเมื่อออกอากาศไปมีเสียงวิพากษ์-วิจารณ์ในเชิงตอบรับกันมาก แต่เมื่อได้อ่านอีก ผมก็อดใจไม่ไหวที่จะขออนุญาตนำ "ของเก่ามาเล่าใหม่" เพราะของเก่านั้น "ค่าควรเมือง" จริงๆ ขอให้ท่านตั้งใจอ่านแล้วคิด-ใคร่ครวญตามไปด้วยนะครับ

       นายสตีเฟนกล่าวว่า บิดาของเขาใกล้ชิดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และใกล้ชิดกับจอมพลสฤษดิ์  ธนะรัชต์ ตั้งแต่ปี ๒๕๐๔ จึงได้เห็นช่องว่างระหว่างคนชนชั้นสูงกับคนจนในชนบทอย่างชัดเจน จนมาถึงปัจจุบัน ปี ๒๕๕๒ ตนได้ยินกลุ่มคนเสื้อแดงพูดว่า ไทยมีช่องว่างระหว่างคนรวยในกรุงเทพฯ กับคนจนในชนบท ทำให้คิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ เพราะทุกวันนี้ช่องว่างมีเพียงแค่นี้ เทียบกับที่ประเทศสหรัฐก็มีช่องว่างเช่นกัน

       นายสตีเฟนกล่าวต่อว่า เข้ามาอยู่ในประเทศไทย ตั้งแต่ปี ๒๕๐๔ ซึ่งเป็นเวลากว่า ๔๘ ปีมาแล้ว  โดยมาอยู่ตั้งแต่ประเทศไทยยังไม่มีไฟฟ้า และน้ำประปาใช้ รวมทั้งถนนยังเป็นดินลูกรัง แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป ประเทศไทยมักเจอเรื่องราวแปลกประหลาดเสมอ ทำนองว่าประเทศนี้ยังไม่มีสิ่งนั้น-สิ่งนี้ ต้องทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยปัญญาชนบางคนที่ต้องการปฏิวัติอำนาจ

       เขามองว่าเรื่องนี้ไร้สาระ และสิ่งเหล่านี้ทำให้เขามองเห็นความทะเยอทะยานของผู้ชายชื่อ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" ตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจในเครือชินคอร์ปอเรชั่นฯ และสัมปทานโทรศัพท์ของรัฐบาลด้วยระบบผูกขาด

       นายสตีเฟนย้ำว่า สาเหตุที่ พ.ต.ท.ทักษิณทำเงินได้เยอะและกลายเป็นคนรวย เพราะรัฐบาลได้มอบฐานะบุคคลอภิสิทธิ์ให้เขา พร้อมทั้งให้สิทธิพิเศษในการผูกขาดด้านต่างๆ จึงทำให้การปกครองของคนชั้นสูงหรือกลุ่มคนร่ำรวยมีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น "นี่ไม่ใช่เรื่องของผู้ชายคนหนึ่งที่เริ่มจากความยากจนแล้วไต่เต้าขึ้นมารวย เขามีสายสัมพันธ์พิเศษ และผมเห็นเขาใช้สายสัมพันธ์พิเศษเหล่านั้น" นายสตีเฟนกล่าว


       นายสตีเฟนกล่าวอีกว่า สำหรับเขาแล้วมุมมองความคิดของ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นแบบจักรพรรดิจีน  นั่นคือ ในสมัย "ฉิน จื่อ หวาง" ได้มีการแบ่งชนชั้น เสมือนเบื้องบนเป็นสวรรค์ ถัดลงมาเป็นคนคนนึง  ส่วนเบื้องล่างคือคนที่เหลือ แล้วเข้าควบคุมรัฐบาล ตำรวจ ผู้พิพากษา นักธุรกิจ โทรทัศน์ และนักหนังสือพิมพ์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ทุกสิ่งอยู่ใต้เขา ซึ่งไม่เคยมีผู้นำไทยคนไหนในประวัติศาสตร์ชาติไทยที่พยายามทำเช่นนี้

      โดย พ.ต.ท.ทักษิณชอบทำให้คนไทยตัวเล็กๆ แหงนมองว่าเขาสำคัญ เพราะพวกเขามีความรู้สึกของระบบอุปถัมภ์อยู่ โดย พ.ต.ท.ทักษิณได้เข้าไปตัดลำดับขั้นต่างๆ เพื่อเข้าไปปกครองโดยตรง ทำให้ทุกคนที่ทำงานอยู่ต้องตกภายใต้ตัวผู้นำ ไม่ใช่ความร่วมมือแบบเก่าๆ ซึ่งคนส่วนใหญ่ทำงานให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เชื่อว่าเงินของอดีตนายกรัฐมนตรีจะช่วยดูแลพวกเขาได้

       แต่ถ้าถามว่าลักษณะเช่นนี้เรียกว่าเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ ต้องขอตอบว่า คำว่าประชาธิปไตยที่ปราศจากศีลธรรมที่ว่าย่ำแย่ที่สุดแล้ว ยังเทียบไม่ได้กับความยุติธรรมที่เป็นสิ่งจำเป็นกว่านั้น

       "ย้อนกลับไปที่อริสโตเติล หากคุณเป็นประชาธิปไตย แต่คุณฉ้อโกงทำร้ายผู้อื่น เราเรียกว่าทรราช  คุณไม่มีศีลธรรม ไม่ยุติธรรม นั่นเป็นระบบที่เลวร้าย อริสโตเติลกล่าวไว้ว่า ทุกๆ ระบบไม่ว่าจะเป็นระบอบกษัตริย์ ขุนนาง หรือประชาธิปไตย ต้องมีกฎหมาย มีศีลธรรม และเป็นธรรม ที่จะควบคุมอำนาจในทางมิชอบ" นายสตีเฟนกล่าว

       นายสตีเฟนกล่าวต่อว่า สิ่งที่ประเทศไทยเดินผิดทาง คือการปกครองลักษณะเดียวกับประเทศอาร์เจนตินาที่อยู่ภายใต้การนำของ "ฮวน เปรอง" ที่ไปบอกหากเลือกเขาเป็นผู้นำ จะเอาเงินจากคนรวยมาช่วยคนจน ทั้งที่เมื่อปี ๑๙๓๐ ก่อนยุค ฮวน เปรอง อาร์เจนตินาได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ร่ำรวย แต่เมื่อเจอผู้นำเผด็จการทำลายเศรษฐกิจ และสร้างพรรคเผด็จการ ๗๐ ปีต่อมาอาร์เจนตินากลับต้องเป็นประเทศที่เผชิญกับความยากจนและแตกแยก หากประเทศไทยยังปล่อยไว้เช่นนี้ ก็จะประสบชะตากรรมเดียวกันกับอาร์เจนตินา!

       นายสตีเฟนย้ำอีกว่า ระบบที่ดีอยู่ที่ใครจะสร้างความยุติธรรมในสังคมได้ หรือใครจะปกครองสังคมอย่างมีศีลธรรม ซึ่งต้องมีการตรวจสอบและควบคุมกันและกันได้ เหมือนเช่นรัฐธรรมนูญปี ๒๕๔๐  ที่นับว่าดี แต่มีบางคนที่มีเงินแล้วเข้ามาทำตัวเหมือนหนูที่จะเอาเนยแข็งไปทั้งก้อน ทำให้คุณความดีของรัฐธรรมนูญสูญหายไป เกิดเหตุผู้คนไม่พอใจ ทำการประท้วง หรือปฏิเสธการประนีประนอม

      โดยที่ผ่านมา ได้ยิน พ.ต.ท.ทักษิณพูดตลอดว่า เหตุการณ์รัฐประหารเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ปี ๒๕๔๙ ที่ล้มล้างอำนาจเขา นับเป็นการข่มเหงเขามาตลอด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณไม่เคยพูดว่า ตนเองฝ่าฝืนเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และทำลายกฎหมายอย่างไร ยังไม่นับกับสร้างความชอบธรรมและอะลุ้มอล่วยทางกฎหมาย คือ หากจะพูดให้ชัดเจน พ.ต.ท.ทักษิณเองที่เป็นฝ่ายทำให้กระบวนการล่มสลาย และการรัฐประหารเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของการล่มสลายเท่านั้น

       "ตอนนั้นผมรู้สึกเศร้าใจ อะไรคือทางออกของไทย ถ้าเดินหน้าต่อไป พ.ต.ท.ทักษิณอาจดำเนินเหตุการณ์ไปจบลงด้วยเผด็จการแบบจีน ซึ่งไม่ดีต่อประเทศไทยแน่ๆ แต่ถ้าเลือกรัฐประหารมันก็ขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งประเทศไทยไม่ควรตกอยู่ในจุดนั้น ไม่ใช่เพราะกองทัพ ไม่ใช่เพราะคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ  ไม่ใช่เพราะ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ แต่เป็นเพราะคนคนนึงกับทีมของเขาเอง" นายสตีเฟนกล่าว

       สำหรับกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ โทษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ว่าอยู่เบื้องหลังความเดือดร้อนของประเทศ นายสตีเฟนกล่าวประเด็นนี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนฉลาดในการพูด ดังนั้น เขารู้จักหัวใจคนไทยดี รู้ว่าควรจะพูดอะไรให้คนไทยคิดเหมือนเขา ซึ่งในตะวันตกเรียกว่าเป็นผู้ปลุกปั่น โดยเขาจะศึกษาตัวตนของคนฟังว่ามีอารมณ์อย่างไร  แล้วก็พูดในสิ่งที่คนอยากได้ยิน ไม่ใช่ด้วยความรู้สึกชอบหรือห่วงใย แต่เป็นเพราะต้องการอะไรบางอย่าง  นั่นคือ เสียงโหวตและความภักดี

       ท้ายสุด นายสตีเฟนกล่าวว่า ยังหวังว่าความแตกแยกทางการเมืองในประเทศไทยจะสามารถแก้ไขได้ ถ้าหากทุกฝ่ายนั่งลงแล้วคุยกันถึงวิธีแก้ปัญหาแล้วทำงานร่วมกัน โดยทุกคนควรมีจิตสำนึกในสิ่งที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม จริยธรรม และความภาคภูมิใจที่เป็นคนไทย พร้อมทั้งไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนหรือต้องฟังใคร รวมทั้งที่สำคัญกว่านั้น หากความทะเยอทะยานของ พ.ต.ท.ทักษิณถูกนำออกไปจากบริบท ปัญหานี้ก็น่าจะมีทางออกสักทาง

        "ยารสหวานๆ แบบฉบับไทยๆ กินทุกๆ วันเป็นเดือนหรือ 3 เดือนแล้วคุณจะดีขึ้นเอง ดีกว่ายาที่กินวันเดียว แต่คนอาจไม่ชอบ ยานี้คืออะไร ผมว่ามันต้องมาจากผู้นำรัฐบาล ผู้นำพรรคการเมือง พวกเขาอาจต้องกลืนยาขม จะต้องไม่มีใครรับสินบน ใช้เวลา 3 ปี ตำรวจและทุกๆ คนต้องทำหน้าที่ของตัวเอง นี่คือยาขมทำให้คนไทยได้เห็นว่านี่คือกฎเกณฑ์ใหม่" นายสตีเฟนกล่าว

       ขอให้ความสุข ความเจริญ จงมีกับประเทศไทย-คนไทย และคนที่รัก-รู้จักประเทศไทย "ด้วยเข้าถึง"  ทุกคน-ทุกท่าน เทอญ.


http://www.thaipost.net/news/130510/22134
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 22 23 [24] 25 26 ... 31  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><