19 เมษายน 2567, 16:43:16
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1] 2 3 ... 7  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: ณ วันนี้ "ขวัญ-เรียม" คู่รักอมตะ"แผลเก่า" แห่ง"คลองแสนแสบ" จะมีชีวิตรอดมั้ยนี่??  (อ่าน 152740 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Intania๑๖
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: ๒๕๑๖
คณะ: เวสสุกรรม
กระทู้: 1,071

« เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553, 15:14:45 »


"อกพี่กลัดหนอง พี่หมองดั่งคลองแสนแสบ
เจ็บจำดังหนามยอกแปลบ แปลบ แสบแสนจะทน
โอ้ว่ากังหัน ทุกวันมันพัดสะบัดวน
อยากจะรู้จิตคน จะหมุนกี่หนต่อวัน..."





ณ วันนี้ "ไอ้ขวัญ-อีเรียม" คู่รักอมตะ "แผลเก่า" แห่ง "คลองแสนแสบ" จะมีชีวิตรอดมั้ยนี่?  

คนรุ่นเก่า อย่างพี่แก้ว พี่สิน พี่แอ๊ะ พี่ป๋อง พี่ตะวัน พี่เปี๊ยก พี่เจี๊ยบ พี่โด่ง พี่เหยง หมอเสียด ฯลฯ อาจจะมีโอกาสไปชมภาพยนตร์ เรื่อง "แผลเก่า" ที่ทำเงินมากที่สุดในสมัยนั้น ออกฉายครั้งแรก เดือน ธค. 2520 ที่โรงภาพยนตร์อินทรา ย่านประตูน้ำ นำแสดงโดย สรพงษ์ ชาตรี นันทนา เงากระจ่าง เป็นภาพยนตร์ ฟิล์มขนาด 70 มม. ก่อนหน้านี้ เป็นภาพยนตร์เพียง 16 มม.

"แผลเก่า" ได้ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ และละครโทรทัศน์ เป็นจำนวนถึง 7 ครั้งด้วยกัน เพลง "แสนแสบ" เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ ที่โด่งดังเรามาลองทบทวนความทรงจำกันอีกครั้ง



<a href="http://www.youtube.com/watch?v=pKx_QfhaAcw" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=pKx_QfhaAcw</a>



“ไอ้ขวัญ-อีเรียม” คู่รักแห่งทุ่งบางกะปิ ที่มีบทโรแมนติกว่ายน้ำเล่นกอดกันในคลองแสนแสบ  ทำให้ชื่อเสียงของคลองนี้ โด่งดังเป็นที่สุด

เรามาทำความรู้จักกับคลองแสนแสบ ว่าเป็นมาเช่นไร

คลองแสนแสบ เป็นคลองที่ขุดขึ้นตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) เพื่อเชื่อมแม่น้ำเจ้าพระยากับแม่น้ำบางปะกงเข้าด้วยกัน เมื่อปี พ.ศ. 2380 ซึ่งนับได้กว่าหนึ่งร้อยเจ๊ดสิบสามปีมาแล้ว ด้วยพระราชประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งอาวุธยุทธภัณฑ์ กำลังรบ และเสบียงอาหารไปยังญวน (เวียดนาม) ในราชการสงครามไทย-ญวน ซึ่งใช้เวลารบนานถึง 14 ปี และมีชื่อเรียกว่า "สงครามอันนัมสยามยุทธ"

เมื่อก่อนคลองคงจะดำสกปรกกว่านี้ แต่เมื่อปี 2533 สมัยที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมืองยังเป็นผู้ว่าฯ กทม. ก็ได้เปิดเส้นทางการเดินเรือในคลองแสนแสบนี้ขึ้นเพื่อแบ่งเบาการจราจรที่ติดไม่ขยับ และเชื่อว่าการนำเรือมาแล่นนั้นจะช่วยบรรเทาเบาบางน้ำเน่าเสียในคลองได้

คลองแสนแสบเป็นเส้นทางโดยสารที่นิยมเพราะสะดวกรวดเร็ว และเป็นเส้นทางเรือโดยสารคลองแสนแสบ แต่ปัจจุบันมีปัญหามลภาวะในน้ำ ส่งกลิ่นเหม็น เนื่องจากมีการทำลายสิ่งแวดล้อมและทิ้งขยะลงในแม่น้ำ


ผ่านมาเกือบ 20 ปี น้ำในคลองก็ยังคงเน่าเหมือนเดิม เพราะชุมชนริมคลองส่วนใหญ่ก็ยังคงปล่อยน้ำเสียลงคลอง แต่เรือคลองแสนแสบก็ได้ติดตลาดเป็นเส้นทางคมนาคมยอดฮิตอีกเส้นทางหนึ่ง เพราะเรือนั้นแล่นผ่านจุดสำคัญๆ ของกรุงเทพฯ ซึ่งหลายแห่งก็เป็นจุดที่รถติดอย่างหนัก เริ่มจากท่าวัดศรีบุญเรือง บางกะปิ ใกล้ๆสถาบันนิด้า ไปจนถึง ท่าผ่าฟ้าลีลาศ




      บันทึกการเข้า

Intania๑๖
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: ๒๕๑๖
คณะ: เวสสุกรรม
กระทู้: 1,071

« ตอบ #1 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553, 15:28:50 »

มาตรฐานที่ใช้ในการบ่งบอก เพื่อวัดค่าน้ำดีน้ำเสีย ตัวหนึ่งก็คือ ปริมาณอ๊อกซิเจนในน้ำ Dissolved Oxygen (DO) จะต้องมีมากกว่า 6 มิลลิกรัม/ลิตร หรือ 6 ppm (parts per million) ปลาและสัตว์น้ำอื่นๆ ถึงจะมีชีวิตอยู่ในน้ำได้


           


น้ำสะอาดโดยทั่วๆไป ที่อุณหภูมิ 22 องศาเซลเซียส ความลึกยังไม่เกิน 1000 ฟุต จะมีปริมาณอ๊อกซิเจน ถึง 8.4 ppm หรือ 8.4 มิลลิกรัม/ลิตร    
      บันทึกการเข้า

Intania๑๖
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: ๒๕๑๖
คณะ: เวสสุกรรม
กระทู้: 1,071

« ตอบ #2 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553, 16:13:34 »

แล้วน้ำใน "คลองแสนแสบ" หรือ "คลองแสบแสน" จะมีปริมาณอ๊อกซิเจน เท่าไหร่?





กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ทำการตรวจวัดอ๊อกซิเจนละลายน้ำ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2552 แจ้งว่า
คุณภาพน้ำคลองแสนแสบ บริเวณท่าเรือประตูน้ำ          = 0.8 มิลลิกรัม/ลิตร
คุณภาพน้ำคลองแสนแสบ บริเวณท่าเรือวัดศรีบุญเรือง  = 0.7 มิลลิกรัม/ลิตร

มาตรฐาน ที่จะให้ปลาและสัตว์น้ำอื่นๆ มีชีวิตอยู่ได้       = 6 มิลลิกรัม/ลิตร
มาตรฐาน ที่จะให้ปลาและสัตว์น้ำอื่นๆ เติบโตและสืบพันธุ์ได้= 7 มิลลิกรัม/ลิตร




นิยายรักเรื่องจริง-เรื่องเศร้า "ไอ้ขวัญ-อีเรียม" แห่งคลองแสนแสบ ลุ่มน้ำบางกะปิ บันทึกไว้ ณ วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรัก ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ นี้
      บันทึกการเข้า

Intania๑๖
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: ๒๕๑๖
คณะ: เวสสุกรรม
กระทู้: 1,071

« ตอบ #3 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553, 16:53:17 »






















ภาพถ่าย บริเวณท่าเรือวัดศรีบุญเรือง เขตบางกะปิ สัตว์น้ำพวก ปลา- หอย ที่หลุดออกมาจากบึง และคลอง ของสถาบันนิด้า มายังตลองแสนแสบ จะตายในเวลาไม่นาน บางภาพจะเห็นปลาตัวเล็กๆ และหอย พยายามที่จะว่ายน้่า และหายใจบนผิวน้ำ เพราะน้ำในคลองแสนแสบ ขาดอ๊อกซิเจนอย่างมาก และก็เป็นน้ำเน่า ที่เต็มไปด้วยสารและแก๊สพิษต่างๆ เข่น คาร์บอนไดอ๊อกไซค์ คาร์บอนมอนอคไซค์ ซัลเฟอร์ไดอ๊อกไซค์ แก๊สมีเทน ฯลฯ

วันวาเลนไทน์ ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ นี้ เศร้าจัง
      บันทึกการเข้า

Preecha2510
Cmadong Member
Full Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2510
กระทู้: 788

« ตอบ #4 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553, 22:39:15 »

อ้างถึง
ข้อความของ Intania๑๖ เมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2553, 15:14:45

"อกพี่กลัดหนอง พี่หมองดั่งคลองแสนแสบ
เจ็บจำดังหนามยอกแปลบ แปลบ แสบแสนจะทน
โอ้ว่ากังหัน ทุกวันมันพัดสะบัดวน
อยากจะรู้จิตคน จะหมุนกี่หนต่อวัน..."





ณ วันนี้ "ไอ้ขวัญ-อีเรียม" คู่รักอมตะ "แผลเก่า" แห่ง "คลองแสนแสบ" จะมีชีวิตรอดมั้ยนี่? 

คนรุ่นเก่า อย่างพี่แก้ว พี่สิน พี่แอ๊ะ พี่ป๋อง พี่ตะวัน พี่เปี๊ยก พี่เจี๊ยบ พี่โด่ง พี่เหยง หมอเสียด ฯลฯ อาจจะมีโอกาสไปชมภาพยนตร์ เรื่อง "แผลเก่า" ที่ทำเงินมากที่สุดในสมัยนั้น ออกฉายครั้งแรก เดือน ธค. 2520 ที่โรงภาพยนตร์อินทรา ย่านประตูน้ำ นำแสดงโดย สรพงษ์ ชาตรี นันทนา เงากระจ่าง เป็นภาพยนตร์ ฟิล์มขนาด 80 มม. ก่อนหน้านี้ เป็นภาพยนตร์เพียง 16 มม.

"แผลเก่า" ได้ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ และละครโทรทัศน์ เป็นจำนวนถึง 7 ครั้งด้วยกัน เพลง "แสนแสบ" เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ ที่โด่งดังเรามาลองทบทวนความทรงจำกันอีกครั้ง



<a href="http://www.youtube.com/watch?v=pKx_QfhaAcw" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=pKx_QfhaAcw</a>


“ไอ้ขวัญ-อีเรียม” คู่รักแห่งทุ่งบางกะปิ ที่มีบทโรแมนติกว่ายน้ำเล่นกอดกันในคลองแสนแสบ  ทำให้ชื่อเสียงของคลองนี้ โด่งดังเป็นที่สุด

เรามาทำความรู้จักกับคลองแสนแสบ ว่าเป็นมาเช่นไร

คลองแสนแสบ เป็นคลองที่ขุดขึ้นตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) เพื่อเชื่อมแม่น้ำเจ้าพระยากับแม่น้ำบางปะกงเข้าด้วยกัน เมื่อปี พ.ศ. 2380 ซึ่งนับได้กว่าหนึ่งร้อยเจ๊ดสิบสามปีมาแล้ว ด้วยพระราชประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งอาวุธยุทธภัณฑ์ กำลังรบ และเสบียงอาหารไปยังญวน (เวียดนาม) ในราชการสงครามไทย-ญวน ซึ่งใช้เวลารบนานถึง 14 ปี และมีชื่อเรียกว่า "สงครามอันนัมสยามยุทธ"

เมื่อก่อนคลองคงจะดำสกปรกกว่านี้ แต่เมื่อปี 2533 สมัยที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมืองยังเป็นผู้ว่าฯ กทม. ก็ได้เปิดเส้นทางการเดินเรือในคลองแสนแสบนี้ขึ้นเพื่อแบ่งเบาการจราจรที่ติดไม่ขยับ และเชื่อว่าการนำเรือมาแล่นนั้นจะช่วยบรรเทาเบาบางน้ำเน่าเสียในคลองได้

คลองแสนแสบเป็นเส้นทางโดยสารที่นิยมเพราะสะดวกรวดเร็ว และเป็นเส้นทางเรือโดยสารคลองแสนแสบ แต่ปัจจุบันมีปัญหามลภาวะในน้ำ ส่งกลิ่นเหม็น เนื่องจากมีการทำลายสิ่งแวดล้อมและทิ้งขยะลงในแม่น้ำ


ผ่านมาเกือบ 20 ปี น้ำในคลองก็ยังคงเน่าเหมือนเดิม เพราะชุมชนริมคลองส่วนใหญ่ก็ยังคงปล่อยน้ำเสียลงคลอง แต่เรือคลองแสนแสบก็ได้ติดตลาดเป็นเส้นทางคมนาคมยอดฮิตอีกเส้นทางหนึ่ง เพราะเรือนั้นแล่นผ่านจุดสำคัญๆ ของกรุงเทพฯ ซึ่งหลายแห่งก็เป็นจุดที่รถติดอย่างหนัก เริ่มจากท่าวัดศรีบุญเรือง บางกะปิ ใกล้ๆสถาบันนิด้า ไปจนถึง ท่าผ่าฟ้าลีลาศ







                  สวัสดีครับน้องวณิชย์       เรื่องแผลเก่านี้ก่อนนำมาสร้างเป็นภาพยนต์ในปี พศ 20 เคยถูกนำมาแสดง

      เป็นละครทางโทรทัศน์ช่องไทยทีวีบางขุนพรมมาก่อน  จำได้ว่าตอนนั้นประมาณปี พศ.2504 หรือปี พศ 2505

      ประมาณนั้น(ผมกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้น) ทั้งบทและการแสดงละครดีมากผู้ชมหน้าจอทีวีนั่งดูไปนํ้าตาไหลไป

      (บทสุดท้ายตอนพระเอกถูกยิงตกลงไปในคลองแสนแสบ และนางเอกกระโดดนํ้าลงไปหาพระเอกกอดกันจมนํ้า

      เสียชีวิตด้วยกันทั้งคู่  เป็นตำนานความรักอมตะของชายหญิงคู่หนึ่งแห่งคลองแสนแสบ)  ผู้แสดงนำฝ่ายชาย

      ในตอนนั้นคือคุณกำธร สุวรรณปิยะ  ผู้แสดงนำฝ่ายหญิงคือคุณนันทวรรณ เมฆใหญ่  ผู้แสดงเป็นผู้ร้ายคือคุณ

       สมจินต์ ธรรมทัตน์ หลังการแสดงละครเรื่องนี้จบลงต่อมาคุณกำธรและคุณนันทวรรณกลายเป็นคู่รักกันจริงๆ

       และได้แต่งงานครองรักกันอยู่จนถึงทุกวันนี้   ภายหลังเมื่อนำมาสร้างเป็นภาพยนต์ผมก็ไปดูอีกครั้ง มีความเห็น

       เหมือนกับหลายๆคนว่าบทและการแสดงไม่ประทับใจเหมือนกับดูละครในโทรทัศน์  หากสมมุติว่าอ้ายขวัญกับ

       อีเรียมกลับชาติมาเกิดใหม่และมาเห็นนํ้าในคลองแสนแสบเน่าเหม็นแบบนี้  ทั้งสองคงต้องกลั้นใจตายและไม่ขอ

       กลับมาเกิดอีกอย่างแน่นอน
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #5 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553, 22:42:20 »

พี่วณิชย์ก็มีอารมณ์ขันไม่น้อยเลยนะคะเนี่ย .. อ่านไป  ก็เครียดไปและยิ้มไป ค่ะ      บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557

เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553, 22:46:59 »

ผมเพิ่งเคยได้นั่งเรือจริงๆจังๆ ก็สามครั้งครับ
คลองแสนแสบยาวมากๆ แต่ก็เน่าตลอดสาย
นั่งเรือแต่ละที เสียวไม่ให้น้ำกระเด็นถูกตัว (แต่ก็เป็นไปได้ยาก)

แล้วจะพอมีวิธีในการเพิ่มออกซิเจนให้คลองแสนแสบไหมคับเนี่ย
      บันทึกการเข้า
Intania๑๖
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: ๒๕๑๖
คณะ: เวสสุกรรม
กระทู้: 1,071

« ตอบ #7 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553, 23:22:46 »



โฮ..... ออนไลน์ มาพร้อมกัน 3 คนเลย พี่แก้ว น้องหะยี และน้องสน

พี่แก้ว ผู้ชายอกสามศอก บอกว่า "ชมหน้าจอทีวีนั่งดูไปนํ้าตาไหลไป" แล้วพี่แก้ว น้ำตาไหลบ้างมั้ยครับ ถามจริงๆ?

น้องหะยีครับ เรื่องนี้ เป็นเรื่องเครียดนะ เป็นปัญหาหนึ่งของแผ่นดิน เรื่องน้ำเสีย อากาศเสีย การจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ มิน่าหล่ะ ถึงไม่ยอมขับรถ ทราบมั้ยว่า ที่นิวยอร์ค แก้ไขเรื่องน้่ำเสียกันอย่างไร? วันนี้ ยังจะไม่ถามเรื่องแก้ไขรถติด

น้องสนครับ เป็นนักวิทยาศาสตร์ เราต้องมาช่วยกันคิด ช่วยกันหาทางแก้  อาจจะมีชาวซีมะโด่งความคิดๆดีๆ มาช่วยกัน  เราจะมีทางออกกันอย่างไร?

มีแต่คำถาม พี่น้องซีมะโด่งคนอื่นๆ จะมีทางแก้ไขอย่างไร? ที่น้องสนถามมาครับ
      บันทึกการเข้า

ภาณุ ปาตานี
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,254

« ตอบ #8 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553, 23:35:46 »

พี่วณิชย์ครับ สมัยทำงานแรกๆ ยังไม่มีรถขับ นั่งเรือมาทำงานประจำ น้ำก็เน่าอย่างนี้ละครับ

ตอนนี้ใช้รถมา 18 ปี แล้ว ก็เห็นยังไม่เปลี่ยนเลยครับ รอฟังแนวทางอยู่ครับ เพราะไม่มีความรู้เลย

ผมรู้แต่ว่า อีเรียมกับไอ้ขวัญตอนสุดท้าย...ใช้ซีม่าเป็นโหลเลยครับ
      บันทึกการเข้า
Preecha2510
Cmadong Member
Full Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2510
กระทู้: 788

« ตอบ #9 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2553, 00:14:35 »


         น้องวณิชย์ตอนนี้มีเวลาพักเรี่องการเมืองในเว็บ cmadong ก็เลยต้องหาเรื่องเบาๆมาคุยกันไปเรื่อยๆก่อน   เรื่องละครแผลเก่า

          ที่ดูเมื่อเกือบห้าสิบปีที่แล้วนั้น จำได้ว่ามานั่งหน้าจอทีวีขาวดำดูกันทั้งบ้านรวมทั้งญาติข้างบ้านด้วย(สมัยก่อนเครื่องรับโทรทัศน์

          ประเทศเรายังผลิตเองไม่ได้ มาจากต่างประเทศราคาแพงมาก  โดยเฉพาะที่ต่างจังหวัดบ้านใครมีสักเครื่องเวลามีละครคนข้างบ้าน

          ทั้งแขกรับเชิญและที่ไม่ได้รับเชิญก็จะพากันแห่มาชมเต็มบ้าน)  ตอนจบของละครเรื่องนี้เศร้ามาก  จำได้ว่าพวกผู้หญิงไม่ว่าสาว

           แก่แม่หม้ายที่นั่งดูอยู่ต่างอินกับละครมากนํ้าตาไหลเอาผ้าเช็ดหน้าซับนํ้าตากันใหญ่  ผมตอนนั้นยังเด็กอยู่นั่งดูกับเขาด้วยก็

          รู้สึกว่าละครมันเศร้าตอนพระเอกกับนางเอกตายพร้อมกันแต่ก็ไม่อินเท่ากับเขา  ยังรู้สึกแปลกใจว่าโห!ทำไมต้องเศร้าถึงกับนํ้าตา

          ไหลกันเป็นเต่าเผาขนาดนี้ฟ๊ะ  อาจเป็นเพราะสมัยก่อนไม่ค่อยมีหนังมีละครให้ดูมากมายหลากหลายเหมือนสมัยนี้  นานๆมีละคร

           หรือมีหนังดีมาฉายที่โรงหนังทีหนึ่งเกือบทุกบ้านแห่กันมาดู  พอดูจบแล้วยังมาพูดคุยต่อกันถึงหนังละครที่ดูมาแล้วเจ็ดวันยังไม่

            เลิกเลย
      บันทึกการเข้า
ภาณุ ปาตานี
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,254

« ตอบ #10 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2553, 05:03:35 »

เท่าที่เห็นก็คือ มีการปล่อยน้ำเสียจากบ้านเรือนลงในคลองแสนแสบตลอดเวลา

นอกจากบ้านเรือนแล้ว ก็ยังมีนำเสียประเภทอุตสาหกรรม อาบอบนวด บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ครับ
      บันทึกการเข้า
YOTSAWIN
Hero Cmadong Member
***


หอพักรักของข้า...
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU27
คณะ: ศิลปกรรมศาสตร์
กระทู้: 1,159

เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2553, 06:54:52 »

ผมเคยลองนั่งเรือสมัยเรียน เพื่อท่องเที่ยว ปรากฏว่าโดนน้ำสาดเละเลยครับ เลยเข็ด
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #12 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2553, 07:11:55 »

ดูหนังเรื่องแผลเก่า  ยุคที่นันทนา เงากระจ่าง เป็นนางเอก
สรพงษ์ ชาตรี เป็นพระเอก ..
ตอนนั้น หะยียังเป็นเด็กมาก ๆ ..

นั่งดูหนังไปตามภาพที่ปรากฏ .. แบบไม่คิดอะไรเล้ยยยยยยยยย

กลับมาย้อนดูอีกครั้งตอนที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว
จึงถึงบางอ้อกับฉากที่ไอ้ขวัญกับอีเรียมลงไป .. เล่นในน้ำ .. หยั่งงี้ หยั่งงี้ .. อิอิอิ






      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
jeam
สมาชิกวิสามัญ
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 574

« ตอบ #13 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2553, 07:39:07 »

ประมาณปี 33-34 ผมยังเคยได้กินกุ้งน้ำจืด ที่ตกได้จากคลองแสนแสบ
เป็นคลองแสนแสบ บริเวณหนองจอกครับ
ไม่รู้เดี๋ยวนี้ยังจะมีหรือไม่

ผมจบโททาง วิศวสิ่งแวดล้อม จากจุฬา เลยเข้าใจเรื่องนี้พอสมควรครับ
การแก้ไข ไม่ใช่ไม่มีทาง แต่คงต้องใช้เงินมหาศาล......ลลลลล
      บันทึกการเข้า

I think, therefore I am.
iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2553, 07:41:24 »

สวัสดีตอนเช้าค่ะพี่วณิชย์

แผลเก่านั้นได้ยินแบบเป็นตำนานจริงๆ แล้วก็พอจะทันยุคชุติมา แต่ยังเรียนมัธยม ฮี่ๆ...ตอนได้ยินยังนึกเลยมันคงจะน่าเล่น

แต่สมัยนั้นก็มีข่าวมาแล้วว่า มันเน่าเหม็นเหลือเกิน จนกระััทั่งพจมานปุ๊กกี้ ถือชะลอม ถักเปีย เข้ามาเมืองกรุงตอนพฤษภาทมิฬ
รุ่นของน้องที่หอเราจะเรียกรุ่นกันว่า "รุ่นพฤษภาทมิฬ" เพราะรหัส 35 ยุคนั้นพอดี ภูมิใจในประวัติศาสตร์ตัวเองว่า เข้าจุฬาฯ ปีแห่งความโศกพอดี ฮ่าๆๆ...

แล้วก็ได้นั่งเรือด่วนจากประตูน้ำไปหาเืพื่อนทีี่เรียนรามฯ ตอนปี 1 แม่เจ้า...คลองแสนแสบที่เราไ้ด้ยินได้ฟังในตำนานทั้งเพลงทั้งหนัง มันจะดำ เหม็นได้ขนาดนี้เลยหรือเนี่ย อึ้งไปเลยค่ะ ที่สำคัญแฮ่ๆ เข็ดแล้วอ่ะ เสียดาย ที่เรามักจะมาแก้ไขในภายหลัง ยังดีที่ไม่สายมากเกินไป ตอนนี้น้ำเริ่มดีขึ้นกว่าเดิม (วัดจากน้ำตรงร้านก๋วยเตี๋ยวเรืออนุสาวรีย์ชัยฯ ค่ะ)

เราต้องสอนให้รุ่นหลังตระหนักในการรักษ์สิ่งแวดล้อม การหวงแหนธรรมชาติที่เรามี และพ่อแม่ต้องทำเป็นตัวอย่างค่ะ
      บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

ภาณุ ปาตานี
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,254

« ตอบ #15 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2553, 07:43:52 »

อ้างถึง
ข้อความของ jeam เมื่อ 15 กุมภาพันธ์ 2553, 07:39:07
ประมาณปี 33-34 ผมยังเคยได้กินกุ้งน้ำจืด ที่ตกได้จากคลองแสนแสบ
เป็นคลองแสนแสบ บริเวณหนองจอกครับ
ไม่รู้เดี๋ยวนี้ยังจะมีหรือไม่

ผมจบโททาง วิศวสิ่งแวดล้อม จากจุฬา เลยเข้าใจเรื่องนี้พอสมควรครับ
การแก้ไข ไม่ใช่ไม่มีทาง แต่คงต้องใช้เงินมหาศาล......ลลลลล


พี่เจียม เล่าให้ฟังบ้างซิครับ
      บันทึกการเข้า
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #16 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2553, 08:43:20 »

ถ้าขวัญกะเรียมสมัยนี้  คงเป็นโรคผิวหนังกันไปหมด
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #17 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2553, 08:49:02 »

ในอดีต แม่น้ำเทมส์ ( River Thames) ซึ่งเป็นแม่น้ำใหญ่ที่ไหลในอังกฤษตอนใต้ และเป็นที่รู้จักมากที่สุดเพราะแม่น้ำไหลผ่านใจกลางกรุงลอนดอน นอกจากนี้ แม่น้ำยังไหลผ่านเมืองอื่น ๆ ด้วย เช่น เมืองอ็อกซ์ฟอร์ด รีดดิ้ง และ วินด์เซอร์ เป็นต้น ก็เคยประสบปัญหามลภาวะ (Water Pollution) แทบไม่ต่างอะไรกับคลองแสนแสบบ้านเรา แต่ก็ได้รับการแก้ไขได้ในที่สุด ... โดย Thames Water ( http://www.thameswater.co.uk/ ) เป็น Key หลักในการแก้ไขปัญหานี้จนสำเร็จ

ประมาณช่วงปี  2536 ... Thames Water (UK) และ Berli Jucker PLC. (Thailand) ได้ร่วมทุนจัดตั้งบริษัท Berli Jucker Thames Water Co., Ltd.

งานแรกที่เริ่มในเมืองไทยคือ สัมปทานจาก การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมครบวงจร ...

ก.ย.ปี 37 (อายุ 26 ปี) ผมเริ่มงานในตำแหน่ง Regional Manager รับผิดชอบนิคมในเขตภาคกลาง (ลาดกระบัง บางปู ฯลฯ )
ปี 39 ได้ Promote เป็น Operation - Technical Services Manager เริ่มเข้าไปรับผิดชอบ การบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมในนิคมทั่วประเทศรวมถึงโครงการโรงบำบัดน้ำเสียของกทม. โครงการโรงบำบัดน้ำเสียภูเก็ต (JV กับ ช.การช่าง) ฯลฯ

จะหาเวลาว่างมาแชร์ประสบการณ์นะครับ ^_^
      บันทึกการเข้า
สมชาย17
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,300

« ตอบ #18 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2553, 09:15:43 »

สวัสดี พี่วณิชย์
ผมได้ดูแผลเก่า สมัย สรพงษ์ ชาตรี เล่นคู่กับ นันทนา เงากระจ่าง
เชิด ทรงศรี เป็นผู้กำกับ  หนังทำได้ดีมาก(สมัยเดียวกันกับ น้องหะยี)

น้ำเน่ากับ กทม (และเมืองใหญ่ ในอนาคตอันใกล้ อาจเป็นของคู่กัน)
เรามีองค์การ บำบัดน้ำเสีย ตั้งแต่ปี 2537 หรือ 2538  จำไม่ได้  น้อง ดร.มนตรี อาจ จำปี พศ.ได้
แต่ก็ยังไม่ได้ ปรับปรุง คลองน้ำเน่า ระบบระบายและบำบัดน้ำเสีย จากบ้านเรือน และอุตสาหกรรมครัวเรือน

เรือโดยสาร คลองแสนแสบ ช่วยตี ออกซิเจน เข้าในน้ำเน่าได้ระดับหนึ่ง ช่วยให้คุณภาพน้ำดีขึ้น
ผมให้โดยสารเรือที่คลองแสนแสบ ไป นิด้า เมื่อเดือน มค.2553 ที่ผ่านมา ใช้เวลาสั้นมาก
ก็ถึงที่หมายแล้ว  เรือไม่ติดเลย กลิ่นก็พอทนได้ คิดว่าเป็น โอโซน ก็แล้วกัน

ขอบคุณพี่วณิชย์ ที่เข้ามาตั้ง หัวข้อ ในเรื่องรักษา สิ่งแวดล้อม และบำบัดของเสีย ปิ๊งๆ ปิ๊งๆ

      บันทึกการเข้า
jeam
สมาชิกวิสามัญ
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 574

« ตอบ #19 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2553, 09:24:21 »

อันที่จริง ถึงแม้ผมจะได้เรียนสาขาวิศวสิ่งแวดล้อม ตอนมาเรียนต่อ
และวิทยานิพนธ์ที่ทำ ก็ได้มีการเผยแพร่ในวารสาร และห้องสมุดของสภาวิจัยแห่งชาติ
รวมถึงห้องสมุดอื่นๆ อีกหลายที่มาก แต่ผมก็ไม่เคยทำงานทางสาขาสิ่งแวดล้อมเลยครับ
ทำงานด้านโยธาตลอด เสียดายอยู่เหมือนกันครับ ภายหน้าถ้ามีโอกาสจะนำวิทยานิพนธ์หาทางประยุกต์ใช้
วิทยานิพนธ์ของผมชื่อ การผลิตก๊าซมีเทนจากขยะ โดยกระบวนการชีวภาพแบบไร้อากาศสองขั้นตอน

อีกเรื่องที่ขอเล่าให้ฟัง (อย่าหาว่าผมโม้นะครับ)
ผมได้เขียนบทความลงมติชนเมื่อ 25 ตุลาคม 52 เรื่องเมื่อทรายไทยจะไปสิงคโปร์
เป็นการเสนอมุมมองอีกด้านเรื่องโครงการขุดทรายที่ตะกั่วป่า ที่ตอนนี้ถูกระงับไปแล้ว (ชั่วคราว)

เมื่อลงไปแล้วทางบริษัทที่จะขุดยัง mail มาชี้แจงกับผมเลย อ้างถึง ดร. AIT ถึงสองคน
แล้วก็มีคน mail มาสนับสนุนผมหลายคน ผมยังคิด (เข้าข้างตัวเอง) ว่าเป็นเพราะบทความของผม
ทำให้กระแสจุดติด จนนำไปสู่สาธารณะในวงกว้าง ทำให้โครงการไม่หวานหมูอีกต่อไป
เนื่องจากมีการนำไป link เป็นจำนวนมาก เผยแพร่ใน net

ที่เขียนบทความลง นสพ. เป็นเพราะทนไม่ได้จริงๆ

ขออนุญาตนำ link มาให้ดูครับ เผื่อพี่น้องจะสนใจ
http://www.measwatch.org/autopage/show_page.php?t=20&s_id=1860&d_id=1860&page=1&start=1

เล่าสู่กันฟัง เรื่องเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่ผม(คิด)ว่าได้มีโอกาสทำเพื่อประเทศชาติ (คิดยิ่งใหญ่ไปไหมเนี่ย.......)

ขอบคุณครับ
      บันทึกการเข้า

I think, therefore I am.
Intania๑๖
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: ๒๕๑๖
คณะ: เวสสุกรรม
กระทู้: 1,071

« ตอบ #20 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2553, 17:11:09 »

ขอบคุณครับ พี่ปรีชา น้องสน ครูตุ๋ย น้องหะยี น้องปุ๊กกี้ น้องยา น้องเจี๊ยบ-ยศวินท์ น้องสมชาย-Intania 17  น้องเจียม-Intania 18   และพี่น้องซีมะโด่งคนอื่นๆ

แสดงว่า พวกซีมะโด่งเราก็มีความสนใจและเป็นห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อมของบ้านเมืองเราในขณะนี้ คลองแสนแสบ เป็นตัวอย่างหนึ่ง เป็นกระจกเงาสะท้อน ถึงความล้มเหลว ในระบบราชการ ระบบการเมืองของประเทศไทย

แต่ละปี เรามีนักเรียนนักศึกษา ไปแข่งขันคณิตศาสตร์ เคมี ฟิสิกค์ ชีวะ ในต่างประเทศ ได้เหรียญทอง เหรียญเงิน เหรียญทองแดง คล้องเต็มคอกลับมาประเทศไทย

เรามีนักวิชาการ มีบัณทิต เอาทุนไปเรียนต่างประเทศ นานาประเทศ ปีๆหนึ่งหลายร้อยหลายพันคน เป็นเวลานานร่วม 100 ปีมาแล้ว แสดงว่า เรามีคนไทยเป็นล้านๆ คนที่ผ่านการศึกษามาจากต่างประเทศ ไปดูงานต่างประเทศ ล้วนแต่ผลาญเงินภาษีอากรของประชาชน ไปไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่

เรามีนักการเมือง เป็นรัฐมนตรีกระทรวงสำคัญ เน้นว่ากระทรวงสำคัญ แต่จบการศึกษามากจากวิทยาลัยครูชานเมือง จบจากวิทยาลัยอาชีวะศึกษา แล้วมาชุบตัว จนจบในระดับปริญญาโท ปริญญาเอก จากจุฬาฯ บ้าง จากธรรมศาสตร์บ้าง จากนิด้า บ้าง จากรามคำแหง บ้าง พูดภาษาอังกฤษได้แค่ Yes, No, OK, CocaCola, Pizza, 7up

นักการเมืองพวกนี้หรือครับ ที่มีวิสัยทัศน์ ที่จะแก้ไขปัญหาระดับชาติบ้านเมือง ไม่ใช่แค่สอบ TOEFL ให้ผ่าน 500 คะแนน ก็พอแล้ว ต้องสอบให้ผ่านในระดับ 800 คะแนน  นี่คือ ตย. รัฐมนตรีในประเทศด้อยพัฒนา ไปต่างประเทศก็ไม่กล้าไป เพราะพูดภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่อง แค่สั่งอาหารสักจาน โซดาสักแก้ว ก็คุยไม่รู้เรื่อง  ต้องเอาเลขานุการ เอาล่ามไป

ถ้าเป็นแบบนี้ เราก็ผลิตได้แต่ตัวถึงรถตุ๊กๆ  เครื่องยนต์ซื้อของญี่ปุ่น ไดฮัทซุ มาใส่เอา ไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องที่จะต่อเรือเดินทะเล สร้างยานไปดวงจันทร์ เรื่องใกล้ๆตัว เครื่องตรวจระเบิด GT200 เครื่องมือกวาดล้างป่าช้าแบบฝรั่ง ไม่มีแบตเตอรี่สักก้อน จะเอาพลังงานที่ไหนไปทำงาน ซื้อมาได้ไง ราคาตั้งหลายแสน จนถึงล้านกว่าบาท ทั้งโกงกิน ทั้งโดนฝรั่งต้ม ต้นทุนแบบนี้ ไม่ถึง 30 เหรียญ (1พันบาท)

สหรัฐอเมริกา เป็นประเทศที่มีเทคโนโลยี่ไม่แพ้ใคร แต่พอเรื่องตรวจอาวุธ ตรวจวัตถุระเบิด ตรวจยาเสพติด ไม่ว่าจะเป็นของกองทัพ หรือหน่วยงานอิมมิเกรชั่น ยังใช้สุนัขดมกลิ่นทั้งสิ้น ไม่มี GT200 หรือ ADE651 ได้โปรดเถอะ กองทัพและ กระทรวงมหาดไทย อย่าแถอีกเลย

ผู้ผลิตที่ GT200 หรือ ADE651 ประเทศอังกฤษ ก็โดนจับติดคุกไปแล้ว พวกนี้ ไม่ได้ติดตามอ่านข่าวรึไง  ยังดักดานที่จะใช้เครื่องมือดังกล่าว ให้ทหารชั้่นผู้น้อยไปตายแทนในแต่ละวัน เศร้าและอเน็จอนาถใจ

เราต้องการ การเมืองที่มีธรรมภิบาล สะอาด โปร่งใส ตรวจสอบได้ ไม่มีคอร์รัปชั่น เก็บภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วย ข้าราชการชั้นผู้น้อย เสมียน ครู อาจารย์ แพทย์ พยาบาล มีรายได้ที่ยุติธรรม และมากพอต่อการครองชีพ

เมื่อไหร่ เราจะมีวันน้ัน ปัญหาเรื่องมลภาวะ เรื่องการจราจรติดขัด แก้ไขได้แน่อน เพราะมีแบบอย่างในต่างประเทศมาแล้วทั้งสิ้น เราสามารถที่จะเรียนจากแบบอย่างที่ล้มเหลว และที่ประสบความสำเร็จ

ทั้งนี้ ทั้งนั้น ระบบการเมืองจะต้องมีธรรมภิบาล ระบบราชการมีธรรรมาภิบาล ปัญหาทุกอย่าง เราสามารถที่จะแก้ไขได้

วันพรุ่งนี้ จะนำเรื่องราว การบำบัดน้ำเสียในต่างประเทศ ซึ่งมีถึง 3 ตอน ใน 3 เมืองใหญ่ๆ ในสหรัฐอเมริกา ว่าเขาทำกันอย่างเช่นไร เราจะนำมาใช้แก้ไขปัญหาคลองแสนแสบ คลองทุกแห่ง และแม่น้ำทุกสาย ในประเทศไทย ได้หรือไม่? ติดตามอ่านกันต่อไป
      บันทึกการเข้า

swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #21 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2553, 17:55:09 »

คิดถึงค่ะ ..
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
phraisohn
บักสน
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


บักสนแคมโบ้
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu89 (ปี 2549)
คณะ: วิทยาศาสตร์
กระทู้: 9,557

เว็บไซต์
« ตอบ #22 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2553, 18:05:19 »

รออ่านบทความของพี่วนิชอย่างใจจดจ่อเลยครับ
เขียนได้โดนใจมากเลยครับ 55

พูดภาษาอังกฤษได้แค่ Yes, No, OK, CocaCola, Pizza, 7up
      บันทึกการเข้า
Intania๑๖
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: ๒๕๑๖
คณะ: เวสสุกรรม
กระทู้: 1,071

« ตอบ #23 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2553, 09:05:08 »

Reveal THE SECRETS OF NEW YORK!!!
เปิดโปง ความลับของมหานครนิวยอร์ค
ที่ไม่ค่อยมีใคร ได้เห็นมาก่อน
ขออภัยที่แองเจลิโน่ ถ้าต้องล้ำเส้น อดีตเจ้าถิ่นนิวยอร์คเก้อร์ แม่งูหะยี  อิอิอิ






ทำไมต้องเป็นมหานครนิวยอร์ค??
เพราะมหานครนิวยอร์คเก่าแก่มาถึง 386 ปี (หลังสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเล็กน้อย) เป็นเมืองใหญ่  มีประชากรอยู่หนาแน่นโดยเฉลี่ยหนาแน่นที่สุดของสหรัฐอเมริกา
กรุงวอชิงตัน ดีซี อาจจะเป็นเมืองหลวงของสหรัฐอเมริกา ก็จริง แต่มหานครนิวยอร์ค เป็นเมืองหลวงของโลก ใครที่มาเที่ยวอเมริกา ต้องมาสัมผัสนิวยอร์ค ถ้าไม่มาสัมผัสนิวยอร์ค ก็เสมือนหนึ่งมายังไม่ถึงอเมริกา

ฉายาของมหานครนิวยอร์ค
The Big Apple
The Concrete Jungle
The Never Sleep City
The Capital of the World

มหานครนิวยอร์ค New York City (NYC) ประกอบไปด้วย 5 boroughs คือ แมนฮัตตัน บล๊องซ์ บรุ๊คลิน ควีนส์ และสแตทตั้น  มีประชากรไม่ต่ำกว่า 8.3 ล้านคน ใน พื้นที่ 786 ตร.กม.




ประวัติของมหานครนิวยอร์ค

นิวยอร์ค เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวพื้นเมืองอินเดียแดง เผ่า Lenape มาก่อน นักเดินเรือสำรวจชาวอิตาลี Giovanni da Verrazzanoรับจ้างจากกษัตริย์ฝรั่งเศส ก็มาพบแมนฮัตตันเป็นครั้งแรก หลังจากชาวดัชท์ก็มาตั้งเป็นตลาดการค้าขนสัตว์ทางตอนใต้ของแมนฮัตตัน ตั้งแต่ปี 1614 (=พ.ศ. 2157 หลังสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พ.ศ. 2098-2148) ได้ขอซื้อที่ดินมาจากชาวอินเดียแดงพื้นเมือง   เปลี่ยนชื่อเป็น  "Nieuw Amsterdam" ในปี 1664 ก็ตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ เลยเปลี่ยนชื่อมาเป็น New York เพื่อเป็นเกียรติแก่กษัตริย์ของประเทศอังกฤษ  English Duke of York and Albany

นิวยอร์ค ก็อยู่ในความดูแลของประเทศอังกฤษ ตั้งแต่นั้นมากว่าร้อยปีเศษ จนกระทั่งในวันที่ 4 กรกฎาคม ปี 1776 อาณานิคม 13 แห่ง ประกาศเป็นอิสระภาพออกจากประเทศอังกฤษ ตั้งตนเป็นประเทศใหม่ คือ สหรัฐอเมริกา นิวยอร์คซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุด เคยเป็นเมืองหลวง ระหว่างปี 1787-1790 อยู่ราวๆ 4 ปี

      บันทึกการเข้า

Intania๑๖
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: ๒๕๑๖
คณะ: เวสสุกรรม
กระทู้: 1,071

« ตอบ #24 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2553, 09:27:46 »


ในปี 1849 มีการระบาดของอหิวาตกโรค Cholera epidemic เฉพาะที่นิวยอร์คมีคนตายไปกว่า 5,000 คน อันเนื่องมาจากสุขอนามัยที่ไม่ถูกต้อง  การขจัดขยะ น้ำเสีย ต่างก็ทิ้งลงไปในแม่น้ำแมนฮัตตัน ซึ่งไม่แตกต่างกับ การทิ้งขยะ การปล่อยน้ำเสีย ลงในลำคลองและแม่น้ำในประเทศไทยในปัจจุบันนี้สักเท่าไหร่  จึงเป็นที่มาของระบบการกำจัดน้ำเสียในระบบใหม่ ของมหานครนิวยอร์ค












      บันทึกการเข้า

  หน้า: [1] 2 3 ... 7  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><