29 มีนาคม 2567, 04:28:47
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 579 580 [581] 582 583 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3207484 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14500 เมื่อ: 17 เมษายน 2558, 08:36:32 »



วันนี้ วันพระ

เพราะมิได้สดับคำสอนของพระพุทธองค์  คนจึงหลงอยู่ในทิฏฐิ

การหลงอยู่ในทิฏฐิ คือหลงอยู่ในความคิดที่ว่า นี่คือตัวตนของเรา นี่เป็นเรา นี่เป็นของของเรา  เราเป็นนั่น นั่นเป็นของเรา

เพราะหลงอยู่ในความคิดอย่างนี้ คนจึงประกอบไปด้วยความตระหนี่  ความริษยา ก่อกิเลส - ตัณหา ตามมาด้วยความโลภ ความโกรธ ความหลง ตาย-เกิด วนเวียนอยู่ในวัฏสงสาร มิรู้จบ

การปฏิบัติธรรม คือการ แยกจิต  ออกมาจากความคิด ด้วยสติ หรือการรู้สึกตัวที่กาย เวทนา จิต ธรรม

เปลี่ยนจากทิฏฐิ  ให้เป็น สัมมาทิฏฐิ
หรือเปลี่ยนจาก หลง เป็น รู้ คือเปลี่ยนจากการหลงอยู่ในความคิด เป็นผู้รู้ หรือรู้สึกตัว

การรู้สึกตัว หรือมีสติ-สัปชัญญะ จะป็นเหตุ-ปัจจัย ให้สามารถพ้นทุกข์ถาวร ไม่ตาย-เกิดอยู่ในวัฏสงสาร ได้

เมื่อทุกท่านได้สดับคำสอนของพระพุทธองค์ ว่า ร่างกายและจิต ที่เราหลงยึดมั่น ถือมั่น ว่าเป็นตัวตนของเรา เป็นเรา นั้น แท้จริงมันประกอบด้วย ขันธ์ ๕ คือ รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ และวิญญาณขันธ์ หรือรูป-นาม หรือ กาย-จิต นั่นเอง

เวทนาขันธ์  สัญญาขันธ์  สังขารขันธ์  วิญญาณขันธ์ เป็นนาม  ไม่มีตัวตน เป็นธรรมชาติที่รู้อารมภ์

ส่วนรูปขันธ์ ประกอบด้วย ธาตุ ๔ คือ ลม น้ำ ดิน ไฟ มาประชุมรวมกันด้วยเหตุ-ปัจจัย เป็นรูป ดังที่เข้าใจกันนั้น  รูปนั้น ไม่สามารถรู้อารมภ์ได้

และรูป-นาม นั้น เราไม่มีอำนาจบังคับมันได้เลย

รูป-นาม นั้น ไม่เที่ยง  เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา

ขอทุกท่านจงจดจำเอาไว้ หรือเจริญสติภาวนาให้เห็นธรรมอันนี้ ด้วยตัวของท่านเองเถิด

ขอ สาธุ สาธุ  สาธุ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14501 เมื่อ: 17 เมษายน 2558, 11:48:19 »



สวัสดี ทุกท่านครับ

พี่สิงห์  อยู่นครศรีธรรมราช

แสงแดดจ้ามาก อากาศร้อน แต่มีลมพัดผ่าน

ถ้าเดินกลางแดด รับรองตัวดำแน่นอน แสงแดดจ้ามากกว่า กทม. แบบเกือบสองเท่า

ดังนั้น คนทั่วไปผิวจึงคล้ำ หรือดำ เพราะโดนรังสีจากแสงแดด

วันนี้ ที่ดอนเมือง ผู้โดยสารไม่มาก สนามบินว่างผิดปกติ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14502 เมื่อ: 17 เมษายน 2558, 19:16:57 »



ปัญหาทางโลก คือกามคุณ ๖ ได้แก่ ติดใจใน รูป  รส  กลิ่น  เสียง  ได้สัมผัสทางกาย(โผฏทัพพะ) ได้ปล่อยใจนึกคิด(ธรรมารมณ์)

ปัญหาทางธรรม คือการเอาชนะใจตนเอง ไม่หลงไปกับความคิด

เพราะความคิด มันเป็นตัวบงการสั่งให้กระทำทางกาย วาจา ใจ

ถ้าสั่งการ ด้วยจิต เป็นกุศล  มันก็เป็นผลดี

แต่ถ้าสั่งการด้วยจิตที่เป็นอกุศล  ล้วนนำทุกข์มาให้

คนทุกข์ เพราะความคิด

คนจะไม่ทุกข์ เมื่อมีสติ หรือรู้สึกตัว

ดังนั้น ต้องหมั่นสร้างสติอยู่เนือง ๆ หรือ ให้รู้สึกตัวมาก ๆ บ่อย ๆ  การคิดมันจะน้อยลง ๆ ไปเรื่อย ๆ ความสงบสุข ก็จะบังเกิดขึ้นกับเรา เพราะจิตมนุษย์นั้นฝึกได้

ราตรีสวัสดิ์ ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14503 เมื่อ: 18 เมษายน 2558, 05:49:03 »



การปฏิบัติธรรมนั้น เปรียบได้กับการพายเรือทวนกระแสน้ำเชี่ยว

กระแสน้ำไหล เปรียบได้กับ กิเลส - ตัณหา หรือการหลงอยู่ในความคิด ที่จะเกิดขึ้นตลอดเวลาในจิต เปรียบได้ด้วยนิวรณ์ ๕ คือเครื่องปิดกั้นการทำความดี

การออกแรงพายเรือให้วิ่งไปข้างหน้านั้น เปรียบได้กับการมีสติ หรือรู้สึกตัว เพราะเมื่อใดมีสติ กิเลส-ตัณหา หรือการหลงอยู่ในความคิด จะดับไป

ดังนั้น การปฏิบัติธรรมต้องกระทำอย่างต่อเนื่อง ตลอดเวลา จนกว่าจะบรรลุซึ่งพระนิพพาน หรือตายจากโลกนี้ไป

อย่าลืม ถ้าท่านหยุดพายเรือ เรือของท่านก็จะหยุด และโดนกระแสน้ำพัดพาถอยหลังเสมอ  ทำ ๆ หยุด ๆ ก็ถอยหลังไปไกลยิ่งขึ้น

การปฏิบัติธรรม ก็เช่นกัน ทำ ๆ หยุด ๆ ไม่ต่อเนื่อง กิเลส-ตัณหา จะยิ่งมากขึ้นเพราะมีแต่นิวรณ์เจริญขึ้น  ฝั่งพระนิพพาน จะยิ่งไกลขึ้น ๆ ๆ เป็นลำดับ

ถ้าท่านทำได้ดังนี้ การพายเรือทวนกระแสน้ำก็เป็นไปได้ ที่ท่านจะพายเรือไปยังจุดหมายปลายทางของท่านได้ ตามวัตถุประสงค์ ฉันใด

เมื่อเปรียบเทียบกับการปฏิบัติธรรม หมายความว่า ถ้าท่านบำเพ็ญความเพียรด้วยความวิริยะ อุตสาหะ  ท่านก็มีโอกาสที่จะข้ามฝั่งของวัฏสงสารไปถึง ซึ่งพระนิพพานได้ ฉันนั้น

ขอมอบธรรมนี้ให้ทุกท่านได้พิจารณาให้เห็นความจริงในธรรมนี้เถิด

อรุณสวัสดิ์ ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14504 เมื่อ: 18 เมษายน 2558, 07:29:31 »



สวัสดี ทุกท่านครับ

เช้าวันนี้ อากาศเย็น มีลมพัดผ่าน  รู้สึกเลยว่าเราใส่เสื้อผ้า
บางไปหรือเปล่า!  
นั่นเป็นความรู้สึกถึงธรรมชาติของอากาศ ที่เราสัมผัสได้ทางกาย  แต่ใจเรานั้น ต้องไม่หวั่นไหว ต่อสภาพที่สัมผัสได้ทางอายตนะ คือ ไม่ยินดี จิตไม่ฟู ดีใจ พอใจไปกับผัสสะที่เกิดขึ้นทางอายตนะ  หรือไม่ยินร้าย จิตใจไม่แฟบ ไม่ห่อเหี่ยวไปกับสิ่งที่สัมผัสได้ทางอายตนะ นั้น

ธรรมชาติ มันเป็นเช่นนั้น มันเกิดขึ้นจากเหตุ-ปัจจัย ทั้งสิ้น

ร่างกาย คนเราก็เช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องอาหารที่เรารับประทานทุกวัน เราต้องอย่ากินตามความอยาก  ต้องกินในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ในปริมาณที่เหมาะสม

วันนี้ ทดลองดื่มกาแฟ ดู เพราะไม่ได้ดื่มมา ๔๘ วันแล้ว ผลคือ รู้สึกมึนศรีษะ  เลยบอกตัวเองว่า เมื่อดื่มกาแฟแล้วมึนศรีษะ แล้วเราจะดื่มไปทำไมอีกล่ะ !
ต่อไปนี้ก็คงจะงดดื่มกาแฟไปปริยาย เลย ถ้าขับรถง่วงก็แวะพักข้างทาง หรือนอนหลับสักงีบดีกว่า ดื่มกาแฟ ให้มึนหัวเปล่า ๆ

ถึงแม้ จะผ่าตัดมา ๔๘ วันแล้วก็ตาม แผลภายนอกหายติดสนิท  แต่ยังรู้สึกได้ว่า แผลภายในยังติดไม่หมด ยังเจ็บ ยังรับรู้ได้ เวลาเดินไกล ๆ หรือออกแรงมาก ๆ จนหน้าท้องตึง จะรู้สึกเจ็บทันที  
เมื่อวานพนักงานที่ SICON บอกว่า บางคนผ่าแบบอาจารย์ แผลออกลูก มันแตกได้จากภายใน อาจารย์  ต้องระวัง มันก็เป็นความจริง

พี่สิงห์  ก็ระวัง เตือนตนเองว่า ยังเป็นผู้ป่วยอยู่  แต่เราต้องดำรงชีวิต  ช่วยตนเองในปัจจัย ๔ ไม่ได้ออกกำลังกายอะไรมากมาย มันไม่น่าเป็นอะไร

แต่ตราบใดที่ไม่มีไข้  แสดงว่า ไม่มีการอักเสบของบาดแผล  คิดอย่างนี้

จึงดำรงชีวิตตามปกติ  ต้องทำงาน  ต้องเดินทาง เพราะหยุดมามากพอแล้ว งานล่าช้ามากแล้ว

อย่าลืม คิดในสิ่งที่ดี เป็นกุศล  เกิดประโยชน์ส่วนรวม ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14505 เมื่อ: 18 เมษายน 2558, 07:38:27 »



ทำไม ? ช่าง เวลาสร้างพระพุทธรูป จึงต้องสร้างให้

- พระเศียรมีปลายยอดแหลม
- หูยาน ยาว
- สายตามองต่ำ

มันเป็นปริศนาธรรม ! ให้เราได้คิดเวลาไปกราบพระพุทธรูป ให้เราตระหนักในความเป็นจริงในการใช้ชีวิตประจำวัน

พระเศียรมีปลายยอดแหลม ท่านต้องการสื่อให้ทราบว่า ในการใช้ชีวิตประจำวันนั้นให้ใช้ปัญญา และมีปัญญเฉียบแหลม ฉลาด คือไม่ให้หลงอยู่ในความคิด ให้อยู่ด้วยการมีสติ -สัมปชัญญะ เพราะผู้มีสติ จะไม่กระทำตามความคิดตนเอง จะใช้ปัญญไตร่ตรอง กระทำแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ส่วนรวม เป็นกุศล ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน เชื่อว่าทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้นตามเหตุ-ปัจจัย เชื่อเรื่องกรรม และต้องกระทำด้วยตนเอง ไม่เชื่ ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะบันดาลให้ได้

หูยาน ยาว นั้น ท่านต้องการสื่อให้ทราบว่า เราต้องเป็นคนมีจิตใจหนักแน่น เมื่อได้ยิน ได้ฟังในสิ่งที่มีคนมาตำหนิ  มาด่า มาต่อว่าเรา ในทางที่ไม่ดีทั้งหลาย เพราะทุกวันในการดำรงชีวิตของเรา สิ่งที่มากระทบเราแล้ว ทำให้เราจิตใจหวั่นไหวมากที่สุดคือ การได้ยินได้ฟัง 
ถ้าเราเป็นคนหูหนัก (หูยาน ยาว) เมื่อได้ยินคำด่า จิตก็ไม่แฟบ เมื่อได้ยินคำเยินยอ จิตก็ไม่ฟู ไปตามกระแส  ให้มีจิตที่มั่นคง ใตร่ตรองด้วยปัญญา ตามหลักกาลามสูตร

พระพุทธรูปนั้นสายตาจะมองต่ำ ท่านสื่อความหมายว่า ให้เรามองดูตัวเราเอง ให้ระวังตนเอง ให้มีสติ หรือความรู้สึกตัวที่ตนเอง ให้อยู่ในมรรคมีองค์ ๘ หรืออยู่ในศีล สมาธิ ปัญญา นี่ละ อย่าไปมองคนอื่น ไปกระทำตามคนอื่น ไปคิดตามคนอื่น เพราะ ไปกระทำตามคนอื่นนั้น มันล้วนนำทุกข์มาให้ จงมองตนเอง ระวังตนเองให้อยู่ในศีล  สมาธิ ปัญญาเถิด

ดังนั้น เมื่อใดประสพแด่สิ่งที่ไม่ดี  จงเข้าวัดไปกราบพระพุทธรูป มองดูพระพุทธรูป แล้วนึกถึงปริศนาธรรมที่สื่อให้ทราบ นั้น ความสุข สงบแห่งจิตใจจะเกิดขึ้น เพราะธรรมนั้นมันเป็นจริงเสมอ ขอให้เห็นธรรมนั้นเถิด

อย่าไปกราบพระพุทธรูป แล้วอ้อนวอนให้ท่านช่วย  ท่านช่วยไม่ได้หรอกเพราะท่านเป็นเพียงพระพุทธรูป  ไม่มีวิญญาณ ไม่สามารถทำอะไรได้ นี่คือความจริง

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14506 เมื่อ: 18 เมษายน 2558, 15:01:02 »


เมืองเกียวโต  แพรว  ส่งมาใดู

สวัสดี ทุกท่านครับ

พี่สิงห์  อยู่สนามบินนครศรีธรรมราช  รอขึ้นเครื่องนกแอร์ กลับบ้าน กทม.

นครศรีธรรมราชแสงแดดแรงมาก  แต่มีลม เลยอยู่ได้  แต่ฝนไม่มี  น้ำทะเลยังแห้งเลย เห็นชายฝั่งเป็นดินโคลน ในทะเลไปไกลเลย

วันนี้ รู้สึกว่าเวลานั่ง จะรู้สึกแปลบ ๆ ที่ท้องน้อย คือเส้นเอ็นหน้าท้องมันตึง ๆ บ่อยมาก  มันคงเตือนเราให้ระวัง ว่าเรายังเป็นคนป่วยอยู่

ดังนั้น  กว่าจะออกกำลังกาย ซ้อมกอล์ฟได้  คงต้องอีกหนึ่งเดือน  ไม่ได้ตีกอล์ฟ แต่สตางค์ก็ไม่เหลือ เพราะเอาไปทำบุญมาก  เพราะใจมันอ่อนอยากจะช่วย

ต้องพยายามเตือนตัวเอง สังคม มีแต่ต้องการความช่วยเหลือทั้งนั้น เราไม่ใช่คนพิมพ์แบ้งค์ได้เอง ต้องทำงานแลกเอามา เหมือนกัน จงช่วยเท่าที่จะช่วยได้ และ เราไม่เดือดร้อน

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14507 เมื่อ: 18 เมษายน 2558, 17:57:47 »



สวัสดี ทุกท่านครับ

พี่สิงห์ อยู่บ้าน กทม. แล้วครับ

วันนี้ เห็นชายทะลแล้วน่าตกใจ คือระดับน้ำทะเลแห้งไปมาก ๆ เห๋นโคลนไปไกลมาก

และเช่นกัน ที่ปากอ่าวไทย มองลงไป จะเห็นชายฝั่งเป็นดินไกลมาก ๆ เรือใหญ่ไม่สามารถเข้ามาท่าเรือคลองเตยได้ เพราะน้ำทะเลมันแห้งมาก ๆ เพราะอากาศร้อน  น้ำมันระเหยไปไหนหมด

นี่ละธรรมชาติ

ส่วนกรุงเทพฯ มีแต่ป่าคอนกรีต

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14508 เมื่อ: 19 เมษายน 2558, 05:48:49 »



อรุณสวัสดิ์ ทุกท่านครับ

เมื่อเริ่มต้นภาวนา แต่ละครั้ง สติยังไม่เป็นสมาธิ  จิตมันจะฟุ้ง คิดเรื่องนั้น  คิดเรื่องนี้ จะเห็นว่าจิตนั้นเป็นอนัตตา เพราะควบคุม หรือบังคับมันไม่ได้เลย มันฟุ้งเสียจนบางครั้ง หรือส่วนใหญ่ทำให้เราเลิกภาวนาเลย เพราะคิดว่าไม่รู้จะภาวนาทำไม ในเมื่อมันฟุ้ง ยากที่จะเป็นสมาธิ ได้

เมื่อเจอสภาวะแบบนี้ ท่านต้องไม่เลิก ต้องเอาชนะมัน ด้วยการอุเบกขา มันคิดปล่อยมัน  มันฟุ้งปล่อยมัน ไม่เลิกภาวนา แต่ขอให้รู้สึกตัวว่ามันฟุ้ง สลับไปแบบนี้ อย่ายอมแพ้  ถ้ายอมแพ้จิตมันจะกำเริบใหญ่เลย ไม่ดี

เมื่อไม่ยอมแพ้ มันฟุ้ง เมื่อเวลาผ่านไป จิตมันจะฟุ้งน้อยลง ๆ จนสามารถมีความรู้สึกตัวที่กาย หรือทางทวารทั้งหกมากขึ้น ๆ จนกระทั้งเป็นสมาธิได้ ต้องอาศัยเวลา ต้องมีวิริยะ  อุตสาหะ ด้วยการอุเบกขาให้มาก บางครั้งมันอาจจะฟุ้งนานมาก ก็พยายาม อย่ายอมแพ้ มีความรู้สึกตัวเข้าไว้ สลับกับการฟุ้ง เอาชนะเวทนาที่เกิดขึ้นให้ได้

ธรรมชาติของจิต มันเป็นเช่นนี้ การปฏิบัติธรรม เป็นการทวนกระแสน้ำ เอาชนะจิตตนเอง ไม่กระทำตามความคิด เอาชนะความคิด ด้วยการเห็นความคิด คือเมื่อคิดปุ๊ป รู้ปั๊ป ไม่เป็นผู้เป็น ให้เป็นผู้เห็นและเป็นผู้ดู ด้วยสติหรือความรู้สึกตัว

สุดท้ายจิตมันจะยอมแพ้ สามารถมีสคิ จนเป็นสมาธิ เอาชนะนิวรณ์ ๕ ได้ คือ
- กามฉันทะ
- พยาบาธิ
- ถีนะมิตธะ
- อุจทัจจะกุกุจจะ
- วิจิกิจฉา

หลังจากนั้น จงทำญาณที่ ๑ ๒ ๓ ๔ ให้บังเกิดขึ้นเถิด และดำรงค์จิตอยู่ที่ ญาณที่ ๔

สาธุ ส่าธุ สาธุ

สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14509 เมื่อ: 19 เมษายน 2558, 07:33:25 »



พระพุทธเมตตา  ที่เจดีย์พุทธคยา
เป็นพระพุทธรูปสมัยปาละ คือสร้างสมัยประมาณพุทธศัตวรรษที่ ๕-๖
เริ่มสร้างพระพุทธรูปเอาไว้บูชา แทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะไม่มีศรีษาปลายแหลม จะเกล้าผมแทน ตามคนสมัยนั้น

พระพุทธเมตตา  จึงใกล้เคียงพระพุทธองค์ มากที่สุด
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14510 เมื่อ: 19 เมษายน 2558, 07:37:23 »



พระพุทธรูป องค์นี้ก็สร้างในสมัยปาละ เช่นเดียวกัน
เป็นปางค์ปฐมเทศนา  ค้นพบที่เมกขัมมะสถูปย์ ที่ป่าอิสิปัตนมฤคทายยวัน เมืองพาราณาสี เป็นพระพุทธรูปที่งดงามมากที่สุดองค์หนึ่ง
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14511 เมื่อ: 19 เมษายน 2558, 07:58:10 »


เมกขัมมสถูปย์

นิวรณ์ ๕ เครื่องปิดกั้นการกระทำความดี ที่ประกอบไปด้วย

- กามฉันทะ ยังรู้สึกยินดีในรูป เสียง กลิ่น รส ได้สัมผีสทางกาย ที่เคยได้รับมาในอดีต ที่ยังจำได้ มันผุดขึ้นมาให้คิดปรุงแต่ง ให้ฟุ้งซ่าน อยากจะได้อีก ทำให้จิตไม่ตั้งมั่นเป็นสมาธิ

- พยาบาท ยังมีจิต อิจฉา ริษยา ตระหนี่ ปองร้าย พยาบาท อยู่ จึงคิดฟุ้งซ่านขึ้นมา ทำให้จิตไม่ตั้งมั่นเป็นสมาธิ

 - ถีนะมิธถะ จิตเกิดความหดหู่  เซื่องซึม เหงา หงอย ง่วง หาว อยากนอนหลับ ไม่อยากภาวนาต่อไป เพราะตามันปรือ หลับ สัปหงก

- อุจทัจจะกุกุจจะ ความพรุ่งพร่าน เดือดดาลใจ เอาแต่ฟุ้ง อยู่ในความคิด จนจิตไม่ตั้ง นเป็นสมาธิ

- วิจิกิจฉา  ความลังเลสังสัย พระพุทธเจ้ามีจริงไหมหนอ? พระธรรมดีไหมหนอ เราปฏิบัติถูกต้องไหมหนอ? ไม่เสียเวลาเปล่า .........คิด ๆๆๆๆ ด้วยความสงสัยต่าง ๆ นา ๆ จิตฟุ้งซ่านไม่ตั้งมั่นเป็นสมาธิ

เมื่อเกิดนิวรณ์ ๕ ขึ้นกับท่าน ท่านไม่ต้องไปบังคับให้มันมีสติ  ท่านบังคับมันไม่ได้เพราะจิตมีนเป็นอนัตตา บังคับไม่ได้เลย

ท่านต้องปล่อยมันไปตามธรรมชาติ แต่ขอให้รู้ว่ามันฟุ้ง มันถูกนิวรณ์ ๕ เล่นงาน เมื่อท่านรู้ และฟุ้งในนิวรณ์ ๕ สลับกัน ชิงไหวชิงพริบ เหมือนโคบาลฝึกม้าพยศ พอม้ามันเหนื่อย หมดแรง มันก็ยอมให้โคบาลขี่มัน ได้

จิตคนก็เป็นเช่นนั้น เมื่อมันฟุ้ง มันคิด มันยังติดอยู่ในนิวรณ์ ๕ ก็ปล่อยมัน แต่ขอให้เรายังภาวนาต่อไป จะนานแค่ไหนก็อดทน อุเบกขาเข้าไว้  อย่าไปเลิก ไปหลงในความคิด ให้รู้สึกตัวเข้าไว้ ชิงไหว ชิงพริบกับมัน แบบนี้ นานเข้า ๆ จิตมันก็แพ้ไปเองเพราะเรารู้สึกตัวว่ามันฟุ้งในนิวรณ์ ๕ ไม่ได้ไปหลงอยู่ในความคิด

สุดท้ายท่านก็สามารถจะผ่านความฟุ้งในนิวรณ์ ๕ ออกมาได้ จิตจะสงบ สว่าง โล่ง เบา มีปิติเป็นที่ตั้ง แต่ท่านต้องเอาชนะปีติให้ได้ ด้วยปัตสัทธิ คือความสงบ นั่นเอง จิตจะตั้งมั่นเป็นสมาธิ ได้และอยู่ในญาณ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14512 เมื่อ: 19 เมษายน 2558, 09:37:45 »



อาจารย์กำพล   ทองบุญนุ่ม

หน้าตา ท่านยังแจ่มใส่

ช่วงนี้ ท่านได้บอกลาญาติโยมทุกท่าน เพราะธาตุขันธ์ มันไม่ไหวแล้ว เป็นระยะสุดท้ายของชีวิต มะเร็งตับเล่นงาน ท่านอย่างหนัก

ก็เรียนให้ทุกท่านได้ทราบ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Dtoy16
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: อักษรศาสตร์
กระทู้: 1,424

« ตอบ #14513 เมื่อ: 19 เมษายน 2558, 17:06:05 »

       สวัสดีค่ะพี่สิงห์  เห็นภาพถ่ายทางอากาศ ชัดมากแสดงว่าบินไม่สูง
      แสงแดดดี  ช่วงนี้ที่กระบี่แแถวชายหาดโล่งขึ้นมาก พวกที่รุกล้ำเช่น
      ทำนวดชายหาด เพิงร้านอาหาร ต้องออกหมด ก็จัดระเบียบกันไป
      วันนี้ที่เขาใหญ่โบนันซ่าก็เป็นข่าวว่าบางส่วนรุกป่าสงวนน่ะค่ะ
           ได้เข้ามาอ่านธรรมะที่พี่เขียน เดี๋ยวนี้อ่านไม่ทันที่พี่เขียน
           ต้องอาศัยใกล้เวลานอนจึงจะมีเวลาส่วนตัว
           ท่านอ.กำพลแม้ไม่รู้จัก ถ้าการทำให้ท่านอายุยืนขึ้นด้วยการ
           แผ่เมตตา ผลบุญได้ ก็จะทำให้
           แต่ที่ทำแย่คือวันนี้ปาหินโดนแมว  ลูกแนะว่าไปแผ่เมตตาให้แมวก่อน
     
      บันทึกการเข้า

Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14514 เมื่อ: 19 เมษายน 2558, 17:56:24 »


หลานสาว  ส่งมาจากญี่ปุ่น  ขอมอบให้เธอ

สวัสดีค่ะ คุณน้องต้อย ที่รัก

อย่าไปกังวลกับมันเลย ปาโดนแมว มันเป็นอดีตแก้ไขไม่ได้แล้ว ไปคิดมีแต่กังวล ไม่สบายใจ เป็นทุกข์เปล่า ๆ ให้มีสติอยู่กับปัจจุบันนี้ละ

การดำเนินชีวิต ทำงาน ต้องให้เห็นจริงตามหลักอริยสัจจ ๔ และความเป็นไตรลักษณ์ อยู่ในศีล  สมาธิ  ปัญญา และต้องภาวนาให้มาก จนถึงระดับที่ไม่ต้องเชื่อใคร เพราะพบว่าธรรมนั้นเป็นจริงเสมอ สามารถพบได้ด้วยตนเอง

คนเราเห็นแก่ตนเอง มันเป็นเรื่องปกติของจิต  แต่ไม่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม  ผู้รู้ ติเตียนเพราะไม่สมควรกระทำ เพราะเอาเปรียบคนอื่น เห็นแก่ตัว นิสัยไม่ดี ผู้มีอิทธิพลชอบทำอยู่แล้ว จัดระเบียบกันใหม่ก็ดี  แต่กลัวเป็นไฟไหม้ฟาง สร้างกลุ่มอิทธพลใหม่ขึ้นมาแทนชุดเก่า แบบสมบัติผลัดกันชม นั่นเอง

กทม. แสงแดดจ้าร้อนมาก ในบ้าน แต่ก็ต้องอยู่

การดูทีวี นั้นไม่ดีเลย มีแต่เรื่องปรุงแต่ง  สู้อยู่กับสติไม่ได้  ไม่มี อะไรต้องคิด

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14515 เมื่อ: 19 เมษายน 2558, 18:55:19 »



สวัสดี ทุกท่านครับ

พรุ่งนี้ วันที่ ๒๐-๒๑ มษายน พี่สิงห์ ต้องไปทำงานที่อุดรธานี เพื่อเร่งโรงงานผลิต Hollow Core Slabs ของ Ku-Con มีเวลาอีกสามเดือนกว่า ๆ ต้องเร่งให้เสร็จ เพราะเครื่องจักรจากสเปน จะมาถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม ยังมีงานที่จะต้องทำอีกมาก รวมทั้งการสอนวิศวกร พนักงาน ให้ผลิตเป็น  ออกแบบเป็น ขายเป็น ก่อนที่พี่สิงห์  จะหันหน้าไปทางธรรม  เลิกการทำงานทั้งหมด

ตอนนี้ทราบมาว่า วันที่ ๒๑-๒๔ เมษายน จะมีพายุฤดูร้อน มาเยือนประเทศไทย

พี่สิงห์  ยังเป็นผู้ป่วยอยู่  ยังไม่ครบสองเดือน แต่งานก็ต้องทำ การเดินยังไม่ปกติ  ยังออกกำลังกายไม่ได้  ยกของหนักไม่ได้  แต่ต้องยกกระเป๋า computer และกระเป๋าเสื้อผ้า และต้องช่วยตนเองในทุกสิ่ง อยู่บ้านคนเดียว  ยังถูบ้านไม่ได้  ก็อยู่กับมัน ทำไงได้

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14516 เมื่อ: 20 เมษายน 2558, 07:06:20 »



สวัสดียามเช้า ทุกท่านครับ

พี่สิงห์ อยู่สนามบินดอนเมือง
มาถึงสนามบิน หกโมงสิบห้านาที  เช็คอิน และรับประทานอาหารเช้าที่ร้านสีลมวิลเลียจ และได้นำกล้วยน้ำว้ามาจากบ้าน ๒ ผล มารับประทานด้วย
พี่สิงห์  ต้องเดินทางไปทำงานที่อุดรธานี  มีงานรออยู่ในการสร้างโรงงานผลิต Hollow Core Slabs

ไม่เคยปวดหัวข้างเดียวมานานมากกว่าสิบปี  แต่เช้านี้รู้สึกปวดนิดหน่อย  ยังไม่ต้องรับประทานยา  แสดงว่า ร่ายกายเราผิดปกติ  พี่สิงห์ ไม่ได้ออกกำลังกายมาตั้งแต่ผ่าตัด และยังออกกำลังกายไม่ได้ต่อไปจนกว่าจะสิ้นเดือนพฤษภาคม  จึงต้องระวังอาหาร เป็นอย่างมาก  เพราะโรคเรื้อรังที่ประกอบไปด้วย ความดัน อ้วน เบาหวาน หัวใจ  ล้วนมีสาเหตุจากอาหาร ไม่ออกกำลังกาย และนอนดึก

ผู้สูงอายุ  ไม่ต้องการปริมาณอาหารมากมายอะไรเลยในแต่ละวัน  ดังนั้น อย่ากินตามความอยาก  อย่าหลงอยู่ในความคิดที่เต็มไปด้วยความอยาก

ความอยากล้วนนำทุกข์มาให้  แต่เราสั่งไม่ให้มันอยาก  สั่งมันไม่ได้

แต่ถ้าเรามีสติ มีธรรมอยู่ในจิต  ใช้ปัญญา เราก็สามารถจะละซึ่งความอยากลงได้

การมีสติ หรือการรู้สึกตัว จึงมีความจำเป็นมากสำหรับทุกคนที่เกิดมาเป็นมนุษย์

เมื่อท่านนั่งดูทีวี  ท่านจะลืมกาย  ไม่มีสติ ไม่รู้สึกตัว  จิตท่านจะคิด จะอินไปกับละคร ข่าว ฟังเพลง ที่ได้สัมผัสทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไปทั้งสิ้น ลืมว่าเรากำลังนั่ง ดูทีวี เพราะใจไปจดจ่อกับทีวี  นี่ละการลืมกาย หลงไปกับสิ่งที่ผัสผัสทาง อายตนะ และคิดวิตกกังวล ดีใจ  เสียใจ ไปกับสิ่งที่ผัสสะ  ทางอายตนะ

นี่คือการหลงอยู่ในความคิดละ จงจำเอาไว้ให้ดี เพราะท่านยังภาวนาแยกรูป-นาม ไม่ได้ จึงต้องศึกษาให้รู้ มันเป็นตัวอย่าง ที่เห็นได้ง่าย

การรู้ธรรม นั้นคือการเห็นธรรมนั้นด้วยตาใน ว่าธรรมนั้นมันเป็นจริงเสมอ  ไม่ต้องเชื่อใครเพราะเราพบธรรมนั้นด้วยตัวของเราเองจริง ๆ

ดังนั้น สรุปเราต้องมีความรู้สึกตัวที่กาย ที่เป็นกรรมฐานใหญ่ให้บ่อย ๆ  จะได้ไม่หลงอยู่ในความคิด และไม่มีอะไรต้องคิด ต้องวิตกกังวลทั้งสิ้น

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14517 เมื่อ: 21 เมษายน 2558, 06:29:03 »



อรุณสวัสดิ์ ทุกท่านครับ

เมื่อวานรับประทานอาหารเช้า เป็นแบบอเมริกัน  อาหารกลางวันเป็นแบบไก่ย่าง ข้าวเหนี๋ยว ส้มตำ  ผลคือ อาหารไม่ย่อย เพราะมีแต่โปรตีนมาก พานนอนไม่หลับ

เมื่อนอนไม่หลับ ก็เลยนั่งภาวนาไปเรื่อย ๆ

ประกอบกับอากาศร้อน อบอ้าว ไม่มีลม  ร่างกายมันฟ้อง  รู้สึกจะไม่สบายเอาเหมือนกัน  นี่ละผลจากการไม่ได้ออกกำลังกาย  กลัวแผลผ่าตัดต่อไม่ติด  ทั้ง ๆ ที่ควบคุมอาหารมาตลอด แต่บางครั้งก็ต้องยอม ตามสถานการณ์บีบบังคับ เพราะเลือกไม่ได้

เช้า ๆ อย่างนี้ ต้องทำจิตของเราให้เป็นกุศล คือ คิดดี  ทำดี  ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน หรือจิตประกอบไปด้วย เมตตา  กรุณา  มุฑิตา  อุเบกขา ความสงบสุข  จะเกิดขึ้นกับเรา

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14518 เมื่อ: 21 เมษายน 2558, 12:58:59 »


Staff  ของ   Ku-con อุดรธานี

สวัสดี ทุกท่านครับ

พี่สิงห์  อยู่สนามบินอุดรธานี รอขึ้นเครื่องนกแอร์กลับบ้าน กทม.

ได้ประชุม สั่งงาน  รายละเอียดในการก่อสร้างโรงงาน  ดูสถานที่ จนเป็นที่เข้าใจกันได้ ในการก่อสร้าง

และเช้านี้ได้สอนหนังสือ พวกวิศวกร และพนักงาน ให้เข้าใจสามารถออกแบบส่วนผสมคอนกรีต ผสมเสร็จได้

อากาศที่อุดรธานี ร้อนอบอ้าว  จนจะเป็นไข้

มีเรื่องราวเกิดขึ้นที่วัดป่าหนองวัวแดง คือ หลวงพ่อลี ท่านไม่ได้อยู่ที่วัดแล้ว ท่านกลับไปอยู่ที่วัดป่าบ้านตาด และจำพรรษาที่นั้น  ไม่ให้ใครพบทั้งสิ้น  คงมีปัญหาเรื่องการก่อสร้างเจดีย์ อย่างหนัก ท่านจึงหนี  
นี่ละเพราะทิฏฐิ  จึงมีแต่ความขัดแย้ง ทั้งที่มีเจตนาที่ดี  แล้วพี่สิงห์  จะทำอย่างไรดี  สงสัยต้องอุเบกขาเหมือนกัน เพราะหลวงพ่อลี  ท่านก็ยังหนีได้  ทั้งที่ท่านเป็นคนรับบริจาคเงินในการก่อสร้าง  ยุ่งละทีนี้

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14519 เมื่อ: 21 เมษายน 2558, 17:04:08 »


คุณวีรยา  บรรจง  น้องสาวส่งมาให้จากพิษณุโลก

พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปที่งดงามมาก แบบไทย ๆ

เมื่อไปกราบพระพุทธชินราช

เราต้องมีจิตที่งดงาม รวมทั้งการสำรวมกาย  วาจา  ใจ  ให้เป็นปกติ ไม่ฟู  ไม่แฟบ ไปตามอารมณ์ที่มากระทบ ทางทวารทั้งหก

นอกจากนี้ต้อง เห็นธรรมที่น้อมนำมาปฏิบัติว่าธรรมนั้นงดงาม เป็นจริงเสมอ ให้คุณกับผู้ปฏิบัติ

และมีความเชื่อมันว่าพระอริยสงฆ์ ผู้ปฏิบัติดี  ปฏิบัติชอบ นั้นมีจริง

เมื่อกราบพระพุทธชินราชแล้ว มีจิตอย่างนี้ ก็คุ้มค่าที่มากราบพระพุทธรูปแล้วครับ

สวัสดี

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #14520 เมื่อ: 22 เมษายน 2558, 06:51:55 »



สวัสดี ทุกท่านครับ

วันนี้ พี่สิงห์  มาทำงานที่โรงงานบ้านแพ้ว สมุทรสาคร

ถึงแม้จะควบคุมอาหาร  นอนหัวค่ำ และภาวนา แต่การไม่ได้ออกกำลังกาย  รู้ได้เลยว่าร่างกายอ่อนแอมาก  พาลจะเป็นโน่น เป็นนี่ ไม่สบายเอาได้ง่าย ๆ  ยิางอากาศร้อน ๆ แบบนี้ ไม่เคยปวดหัว ปวดหัวข้างเดียวมานานมาก  ก็เริ่มที่จะปวดหัวข้างเดียว มากขึ้น แพ้อากาศง่าย  ต้องระวังโรคความดันแล้วเรา

ได้แต่อดทน ให้พ้นสองเดือนไปก่อน จะได้เริ่มต้นฟื้นฟูร่างกาย ด้วยการฝึกโยคะ ให้ข้อต่อ  กล้ามเนื้อคลายตัวไม่ติดไม่ขัด สักพักก็จะออกกำลังการชิกง และขี่จักรยาน  รู้สึกได้ว่าน้ำหนักตัวเพิ่ม เริ่มอึดอัด

ไม่ได้มาทำงานหลายวัน  จนเรารู้สึกว่า ไม่ได้อยู่ในเกมส์ เป็นส่วนเกินของโรงงานไป  ก็ต้องตั้งสติใหม่ในการทำงาน  ถ้าเราไม่คิด  คนอื่นเขาก็ไม่คิดสักแต่ว่าทำงานไปวันหนึ่ง ๆ

ดังนั้น เราต้องคิด  วางแผน  จะทำอะไร  ปรับปรุงอะไร  แก้ไขอะไร  ให้พนักงาน คนงาน ทำงานให้ดีกว่าเดิม  เพื่อที่ธุรกิจสามารถที่จะอยู่ได้ในสภาวะชะงักงันแบบนี้

ได้เวลาทำงานแล้วครับ

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Dtoy16
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: อักษรศาสตร์
กระทู้: 1,424

« ตอบ #14521 เมื่อ: 22 เมษายน 2558, 09:03:47 »

       สวัสดีค่ะพี่สิงห์ ข้อคิดข้อเขียนนี้เรียบง่าย เป็นประโยชน์ต่อผู้คนได้ธรรมมะในแนวของพี่เอง
       ใช้ได้ให้ผู้คนเกิดสำนึกโดยเฉพาะวัยทำงาน
       ดังนั้นระดับของคนในองค์กร มีทั้งใช้แรงงาน
       ใช้สมอง ใช้การสื่อสาร เมื่อวานต้อยยังมาทบทวนว่า
       ทำไมพนักงานที่ให้ไปต่อใบอนุญาตต้องขับรถ
       ไปถึงภูเก็ต ทั้งๆที่คุยกันแล้วว่าตั้งแต่เดือนมีนาคม
      ทำที่กระบี่ได้    แต่ขณะที่เค้ามาเล่าสารภาพ
      เราเกิดรู้สึกว่า ของเก่าที่ฝังหัวมันล้างยาก
       เคยทำเดิมๆมาตลอด เราเองก็มีส่วนตรงที่ต้องย้ำ
        ต้องคุยในเวลาที่เขาสนใจมีสมาธิจะฟัง

      โพสภาพแถวๆบ้านมาฝากค่ะพี่สิงห์
      บันทึกการเข้า

Dtoy16
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: อักษรศาสตร์
กระทู้: 1,424

« ตอบ #14522 เมื่อ: 22 เมษายน 2558, 09:09:24 »

      บันทึกการเข้า

Dtoy16
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: อักษรศาสตร์
กระทู้: 1,424

« ตอบ #14523 เมื่อ: 22 เมษายน 2558, 09:11:38 »

      บันทึกการเข้า

Dtoy16
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: อักษรศาสตร์
กระทู้: 1,424

« ตอบ #14524 เมื่อ: 22 เมษายน 2558, 09:15:06 »

      บันทึกการเข้า

  หน้า: 1 ... 579 580 [581] 582 583 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><