02 มิถุนายน 2567, 12:23:11
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 260 261 [262] 263 264 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3290096 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6525 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2555, 21:05:40 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มีเกียรติที่มาเยี่ยมเยือน ทุกท่าน

                                    วันนี้ผมนอนอยู่ที่ ฉัตรทิพย์รีสอร์ท  อำเภอสูงเนิน  โคราช ครับ  มาเยี่ยมเพื่อนฝูงที่โรงงานย่าโมคอนกรีต

                                    เมื่อตอนเช้าไปเยี่ยมแม่ ได้พูดคุยกับแม่  แผลกดทับมีเนื้องอกขึ้นมาใหม่ดีขึ้น

                                     และได้ใช้เวลาในการสอนคนดูแลแม่ให้ยกมือสร้างจังหวะ ๑๔ จังหวะของหลวงพ่อเทียน เพราะผมอยากพิสูจน์ สิ่งที่คุณหมอ ดร.วัลลพ  พูดเอาไว้ ว่าเสียเวลาไปเรียน ดร.ที่อังกฤษ ได้ ๓ ปริญญาเอก สิบกว่าปี  รักษาคนโรคจิต สู้หลวงพ่อเทียน ที่ไม่ได้เรียนหนังสือเลยไม่ได้ คือพวกโรคจิตทุกโรค  สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยการสร้างความรู้สึกตัว ๑๔ จังหวะให้เกิดขึ้น  คนไข้ของคุณหมอหายมาแล้วมากนัก

                                    ลูกสาวของคนดูแลแม่ เป็นโรคสมาธิสั้น  สามารถรักษาให้หายได้ ด้วยการสร้างความรู้สึกตัว ตามแนวทางของหลวงพ่อเทียน ได้  ผมอยากลองครับ เพื่อตอบแทนที่เขาทั้งสองดูแลแม่ผม

                                    คนเป็นโรคจิตส่วนใหญ่ เพราะหลงติดอยู่ในความคิด กังวล  ฟุ้งซ่าน หลง เพราะไม่รู้สึกตัว  น้องสาวของผมก็คนหนึ่งละ ผมเลยเอาหนังสือไปให้  ขอให้อ่านสองรอบ แล้วคิด แล้วจะรู้ว่า ตัวเองที่กินยามาสองปีนั้น ไม่ก่อประโยชน์ใดๆ เลยเป็นการรักษาตามอาการ ขอให้ไปวัดป่าสุคะโต  สักเจ็ดวันเท่านั้น โรคจิตที่เป็นอยู่หายแน่ๆ คุณหมอ ดร.วัลลพ  รับรอง  คุณหมอเป็นจิตแพทย์ อยู่ มศว. ประสานมิตร (สิ่งที่คุณหมอ บอกนั้น ตรงตามที่น้องสาว รักษาทุกประการ ของจิตแพทย์ส่วนใหญ่และไม่ได้ผล เพราะคนไข้ ขาดสติ หลงอยู่ในความคิดตัวเอง  แต่ถ้าทำให้คนไข้มีสติ  ความหลง มันจะหายไป  ฝรั่งเขาก็รักษาแบบนี้)

                                     ราตรีสวัสดิ์ทุกท่าน ครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6526 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2555, 21:27:34 »


                              ควันหลงจากการไปงานพระราชทางเพลิงศพ คุณแม่คำปุ๋ย  เชมนะสิริ วัดธาตุทอง  พี่ติ๋ว  บอกว่าราเมศวร์ให้พี่ติ่วมาบอกให้เธอว่าให้กลับไปช่วยงานสมาคม ......อีกมากเพราะเธอจะทำตามที่พี่ติ๋วขอร้อง

                               มันก็จริงครับ

                               แต่ด้วยใจลึกๆ แล้ว ไม่ว่าจะเป็นพี่ติ๋ว  อาจารย์พินิจ  ดร.สุริยา  คุณสมชาย  อ.แจ่มใส และคุณราเมศวร์  ก็คงไม่มาขอร้องผมหรอกครับ ผมข้ามพ้นความอยากขอตัวเองมาได้แล้ว  มาไกลเกินกว่าจะไป ทำแบบนั้นอีก  และผมเชื่อว่า คนอื่นก็ทำได้  ยิ่งทุกคนคิดว่าผมควรจะกลับไปช่วย  ผมยิ่งดีใจใหญ่เลย เพราะมีคนห่วงสมาคมแล้ว ผมหมดห่วง มันไม่เป็นอย่างที่เรากังวลหรอกครับ

                               ทุกครั้งที่ผมเดินผ่าน หรือไปนั่งดื่มน้ำ รับประทานอาหารเย็น เปียนโนว่าง คาราโอเกะว่าง  จิตผมมันพยายามจะให้ผมไปร้องเพลง ด้วยข้ออ้างต่างๆ นาๆ แต่ผมก็แก้มันด้วยสติว่า เราก้าวล่วงภาวะเป็นทาสของจิตเรา ผ่านมันไปมากแล้ว  อย่ากลับไปเป็นแบบนั้นอีกเลย  เอาชนะจิตตนเองให้ได้  ผมก็ไม่กระทำตามที่จิตมันต้องการ

                                ฉันใด ฉันนั้น ครับ

                                ผมยังให้ความร่วมมือ  มิได้บกพร่อง  ถ้าร้องขอมา ไม่เคยขัด คุณวัฒนา  คุณราเมศวร์ ทราบดี และก็ยังคงเส้น คงวา ในหมู่ชาวซีมะโด่ง เสมอ เพียงแต่ไม่ได้กระทำให้ถูกใจท่าน  แต่ผมก็เพียรกระทำด้วยความวิริยะ สำรวมกาย  วาจา  ใจ  ให้ปกติ  ยกเว้นตอนเผลอ ขาดสติ เท่านั้น ในบางโอกาส แต่คงไม่มากนัก

                                ผมต้องเอาชนะ จิตของผม  ไม่กระทำในสิ่งที่จิตมันต้องการ เพื่อตัวผมเอง  จะอยู่อย่างพอเพียง  ผมรู้ตัวของผมดี  ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าผมหรอกครับ  ผมเชื่อบุคคล ดังกล่าว ไม่ขอร้องผมหรอกครับ เพียงแต่มาบอกให้ทราบแบบพี่ติ๋ว เท่านั้น แต่ไม่ได้ขอร้อง เพราะผมไม่ได้ไปทำในสิ่งที่ไม่ก่อประโยชน์  จริงไหม?

                                 สวัสดี
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #6527 เมื่อ: 09 กรกฎาคม 2555, 22:24:11 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 07 กรกฎาคม 2555, 21:06:05
สวัสดีค่ะ คุณน้องยาหยี ที่รัก

                              วันพุธที่ ๑๑ กรกฎาคม ที่จะถึงนี้นะจ๊ะ  พี่สิงห์ ต้องขอโทษ ดูเดือนผิดครับ

                              ราตรีสวัสดิ์ค่ะ



สวัสดีค่ะ  พี่สิงห์

ทั้งพี่ป๋องและพี่ปี๊ดไม่สะดวกค่ะ
หยีขออนุญาตนำลูกชายไปด้วยนะคะ
ตกลงว่า มีหยี ลูกชาย และพี่สิงห์ รวมทั้งสิ้น 3 คน

พบกันที่ร้านฟูจิ  เซ็นทรัลลาดพร้าว เวลาประมาณ 12.00 น.นะคะ

ขอบคุณค่ะ
     sorry
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6528 เมื่อ: 10 กรกฎาคม 2555, 07:09:15 »

อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 09 กรกฎาคม 2555, 22:24:11
อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 07 กรกฎาคม 2555, 21:06:05
สวัสดีค่ะ คุณน้องยาหยี ที่รัก

                              วันพุธที่ ๑๑ กรกฎาคม ที่จะถึงนี้นะจ๊ะ  พี่สิงห์ ต้องขอโทษ ดูเดือนผิดครับ

                              ราตรีสวัสดิ์ค่ะ



สวัสดีค่ะ  พี่สิงห์

ทั้งพี่ป๋องและพี่ปี๊ดไม่สะดวกค่ะ
หยีขออนุญาตนำลูกชายไปด้วยนะคะ
ตกลงว่า มีหยี ลูกชาย และพี่สิงห์ รวมทั้งสิ้น 3 คน

พบกันที่ร้านฟูจิ  เซ็นทรัลลาดพร้าว เวลาประมาณ 12.00 น.นะคะ

ขอบคุณค่ะ
     sorry

สวัสดีค่ะ คุณน้องยาหยี ที่รัก

                               ยินดีค่ะ  ที่จะได้พบหลานชาย 

                               ตกลงเป็นวันพุธที่ ๑๑ กรกฎาคม  ที่ร้านฟูจิ เซ็ลทรัลลาดพร้าว ครับ

                               สวัสดียามเช้าค่ะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6529 เมื่อ: 10 กรกฎาคม 2555, 07:28:28 »

สวัสดียามเช้าครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มีเกียรติที่เข้ามาเยี่ยมเยือน ทุกท่าน

                        รู้สึกว่าที่ฉัตรทิพย์รีสอร์ท อำเภอสูงเนิน  ผมจะนอนเพียงคนเดียว ทั้งรีสอร์ท ก็ดีครับ เงียบดี อยู่ได้สบาย มีสถานที่ปฏิบัติธรรมเจริญสติ ออกกำลังกาย เทียบเท่า ดีกว่าโรงแรมทวินโลตัส นครศรีธรรมราช มากครับ

                        เช้านี้ทางแสงไทยกรุ๊ป ขอให้ผมไปช่วยตีกอล์ฟกับทางผู้อำนายการภาค ธนาคารเอกชนแห่งหนึ่งครับ ที่เขาดูแลการเงินของบริษัทฯ ก็ต้องไปครับ

                        คงกลับกรุงเทพฯ เย็นๆ

                        วันก่อนขณะนั่งรอพิธีพระราชทางเพลิงศพ คุณแม่คุณจารุวรรณ  ก็ได้นั่งพิจารณาแขกผู้ที่มาร่วมงาน คิดถึงข้อดีข้อเสีย ว่าผู้ที่มาร่วมงานนี้มาเพื่อผู้วายชนม์ มาระลึกคุณงามความดี หรือมาเพราะลูก  ก็ได้คำตอบส่วนใหญ่มาเพราะลูก

                         ถ้าเราไม่ต้องการให้ใครมาเดือดร้อน และมาเพราะเรา  สู้อยู่เฉยๆ ไม่บอกใครดีกว่า หน้าที่จะเป็นทางที่สมควร  สงสัยต้องกระทำตามนี้ เพราะมาก็ดี  ไม่มาก็ดีสำหรับผม ได้ทั้งนั้น  มันเป็นเรื่องของคนทั่วไปเขาคิด แต่เราก็มีสิทธิไม่กระทำตามนั้นก็ได้ เพราะไม่ต้องการอะไรๆมากมายขอเพียงแค่ปัจจัย ๔ ที่จะเป็นเท่านั้น ก็อยู่ได้

                         และอีกเรื่อง คุณแววตา  บอกว่าให้ช่วยจัดทัวร์ไปซาปา  ผมก็บอกว่า ไปหาจำนวนคนมาซิ จะติดต่อบิวตี้ให้ แต่ว่าจะไปหรือไม่ไป ผมก็เฉยๆ  ไปก็ดี  ไม่ไปก็ดี  แต่ไม่ไปจะเป็นทางที่ดีสำหรับผม  เราก็เที่ยวมามากแล้ว ความสุขมันก็เพียงชั่วครู่ชั่วยาม ในขณะที่ไปถึง เห็น เท่านั้น มันเป็นเรื่องของความต้องการทางจิต ทางโลกไม่ยั่งยืน อย่าไปเลย เราก็สุขได้

                         และอีกเรื่อง ผมบอก ดร.สุริยา  ว่าผมไม่รู้อะไรเลย เพราะไม่ได้ไปไหนเลย  อยู่บ้านเป็นส่วนใหญ่  ไม่ได้ติดต่อกับคน เดือนหนึ่งเสียค่าโทรศัพท์ 450 บาท เท่านั้น

                         สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6530 เมื่อ: 10 กรกฎาคม 2555, 20:30:01 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่งและแขกผุ้มีเกียรติ ที่รักทุกท่าน

                            วันนี้ผมกลับมาถึงกรุงเทพฯ เรียบร้อยแล้วครับเมื่อค่ำที่ผ่านมา

                            สงสัยผมต้องทำตัว ไม่เข้าเวบคงจะดี  ผู้ที่เป็นห่วงจะได้เข้ามาแสดงความคิดเห็น ขัดตาทัพ  ไม่เช่นนั้นผมต้องร่ายยาวคนเดียว  บางครั้งจิตมันก็เบื่่อ ไม่อยากทำ  ผมเลยต้องทำเพื่อเอาชนะจิตตนเอง

                            บางครั้งอยากเขียนบรรยายความรู้สึกที่รู้ แต่บางครั้ง เขียนไปก็เท่านั้น  ไม่เขียนก็เท่านั้น ปล่อยวางไปเถอะ  เดี๋ยวเขาจะหาว่าอวดอุตริมนุษย์ธรรม  มันเป็นปัตจัตตัง  ก็พยายามหลีกเลี่ยงเขียนให้น้อย ไปเขียนเรื่องอื่นๆ ดีกว่า

                            ลืมไปหนึ่งเรื่อง ดร.สุริยา  บอกผมว่า ประธานรุ่น วศ. ๑๓ นั้น คุณวิฑูรย์ ท่านผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ  ไม่สะดวกในการรับตำแหน่ง เพราะเป็นห่วงเรื่องการจัดกอล์ฟหารายได้ ว่าจะทำไม่ได้ เลยต้องให้คุณอาทร  ผู้ว่า กฟน.รับเป็นประธานรุ่น (ผมคิดต่อเอง แต่ไม่ได้บอก ดร.สุริยา ว่า การเป็นประธานรุ่นนั้น มันมีงานที่จะต้องทำมากกว่าการจัดกอล์ฟหารายได้  ถ้าอยากจะทำ แต่ที่ผ่านมาเขาไม่ทำกัน  การหารายได้มันเป็นเรื่องส่วนรวมที่จะต้องช่วยกันทุกคน ง่ายจะตายไป กลัวทำไม  ตำแหน่งผู้ว่าฯ ทำงานอยากกว่าแยะ ครับ) นี่ละจิตคนครับ คิดไม่เหมือนกัน

                            พรุ่งนี้วันพระ หุงข้าวใส่บาตรที่หน้าบ้าน ดีกว่าไปตีกอล์ฟตอนเช้า  จนผมลืมไปแล้วว่า ไม่ได้ไปตีกอล์ฟตอนเช้าวันธรรมดา เพราะกลัวว่าพระท่านมาแล้ว เราไม่ได้ใส่บาตร แต่จริงๆ ตอนนี้แถวบ้านผมที่เป็นแห่งสุดท้ายที่พระท่านจะมารับบิณฑบาตร มีสมาชิกที่ใส่ประมาณ ๙ รายครับ ส่วนตลาดลุงเพิ่มหลังการบินไทย พระท่านไม่ได้ไปเพราะ ไม่มีคนใส่บาตร ครับ

                            ขอไปสวดมนต์เย็น เจริญสติครับ วันนี้

                           ราตรีสวัสดิ์ ทุกท่านครับ


      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6531 เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2555, 11:01:47 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่งและแขกผุ้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                             วันนี้เป็นวันพระ แรม ๘ ค่ำ เดือน ๘ ครับ

                             อยู่บ้าน เลยได้หุงข้าวใส่บาตรพระที่หน้าบ้าน วันนี้พระท่านต้องกางร่ม เพราะฝนตกพรำๆ วันนี้แม่ค้าขายขนมไทย มาสาย เลยต้องถวายเป็นปัจจัยใส่ซองแทน ให้ท่านไปจัดหา หรือใช้จ่ายอย่างอื่นแทน ส่วนกับข้าว  ข้าวสุก และน้ำ ยังปกติ   ถึงแม้ฝนจะตกพวกเราก็ยังใส่บาตรพระกัน ๖ บ้าน ครับ

                             วันนี้ยังไม่มีใครอาราธนาธรรม เลยซุ่มเสียง ไม่มี เลยยังไม่เทศน์โปรด และต้องไปที่ร้านฟูจิ เซ็นทรัล เพื่อพบกับคุณน้องลูกหยี และหลานชาย ครับ

                              มีอีกเรื่องหนึ่งอยากแจ้งให้ทราบว่า ทุกท่านที่ไปร่วมงานพระราชทานเพลิงศพ คุณแม่คำปุ๋ย  เชมนะสิริ ซึ่งเป็นแม่ของคุณจารุวรรณ ท่านได้รับแจกหนังสือเป็นที่ระลึก ท่านอย่าลืมเปิดอ่าน นะครับ เรื่องการรักษาอาการบาดเจ็บทางกล้ามเนื้อ ข้อต่อ เอ็น และอย่าลืมเรื่องยืดเหยียดกล้ามเนื้อด้วยครับ ของดีๆ ที่น่าอ่านครับ เมื่ออ่านแล้วปฏิบัติ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อตนเอง ครับ

                             สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #6532 เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2555, 14:31:08 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 11 กรกฎาคม 2555, 11:01:47
วันนี้ยังไม่มีใครอาราธนาธรรม เลยซุ่มเสียง ไม่มี เลยยังไม่เทศน์โปรด และต้องไปที่ร้านฟูจิ เซ็นทรัล เพื่อพบกับคุณน้องลูกหยี และหลานชาย ครับ

กราบขอบพระคุณพี่สิงห์ สำหรับคำแนะนำเรื่องการเรียน การทำงาน และการกีฬา ให้หลาน
ขอบพระคุณสำหรับอาหารที่สุดแสนอร่อยด้วยค่ะ
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6533 เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2555, 20:38:39 »



พิมพ์เดียวกันเลยครับ






                           ต้องขอขอบคุณ คุณน้องยาหยีและหลานชาย ที่ได้มารับประทานอาหารกลางวันกับพี่สิงห์ ครับ

                           รู้สึกว่าครั้งสุดท้ายที่เราได้พบกัน คืองานคืนสู่เหย้า ที่คุณทรงเกียรติ เป็นคนจัด  นานมากแล้ว

                           พี่สิงห์ ดีใจที่ได้พบ และเห็นคุณน้องยาหยี ดูแลสุขภาพ ตัวเองได้ดี และขอให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปครับ เพื่อครอบครัวและลูกๆ

                           มีอะไรให้พี่สิงห์ รับใช้ยินดีเสมอ ครับ

                           สวัสดี
      บันทึกการเข้า
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #6534 เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2555, 21:13:57 »

มีข่าวดีมาบอกค่ะ วันนี้คุยกับพี่สาวเขาบอกว่าตำราไท้จี๋ที่พี่สิงห์มาสอนให้ยอดเยี่ยมมากค่ะ พี่เขาทำทุกวัน แต่หนูว่าจะเริ่มพยายามทำให้ได้อย่างเขาบ้างค่ะ แฮ่ๆอันหลังนี่ข่าวดีหรือเปล่าก็ไม่รู้นิ อิๆ
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #6535 เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2555, 21:19:31 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 11 กรกฎาคม 2555, 20:38:39


พิมพ์เดียวกันเลยครับ






                           ต้องขอขอบคุณ คุณน้องยาหยีและหลานชาย ที่ได้มารับประทานอาหารกลางวันกับพี่สิงห์ ครับ

                           รู้สึกว่าครั้งสุดท้ายที่เราได้พบกัน คืองานคืนสู่เหย้า ที่คุณทรงเกียรติ เป็นคนจัด  นานมากแล้ว

                           พี่สิงห์ ดีใจที่ได้พบ และเห็นคุณน้องยาหยี ดูแลสุขภาพ ตัวเองได้ดี และขอให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปครับ เพื่อครอบครัวและลูกๆ

                           มีอะไรให้พี่สิงห์ รับใช้ยินดีเสมอ ครับ

                           สวัสดี


แว๊ก .. เต็มจอเลยค่ะ  พี่สิงห์

หน้าตาคุณน้องยาหยีโล้นเลี่ยนไปจากปกติที่เคยเห็น
วันนี้ ออกจากบ้านไปโดยทาแป้งอย่างเดียว
ไม่มี eye shadow และขนตาปลอม

คริคริ ..

ใช่ค่ะ  ครั้งสุดท้ายพบกันเมื่องานคืนสู่เหย้าปี 2009
ตอนนั้น พี่ทรงเกียรติเป็นประธาน
หยีถูกพี่ตะวันชวนขึ้นไปร้องเพลงลุกทุ่ง
เวลาผ่านไปเร็วจริง ๆ นะคะ

กราบขอบพระคุณพี่สิงห์อีกครั้งค่ะ
  หึหึ  
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6536 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2555, 07:25:01 »

อ้างถึง
ข้อความของ pusadee sitthiphong เมื่อ 11 กรกฎาคม 2555, 21:13:57
มีข่าวดีมาบอกค่ะ วันนี้คุยกับพี่สาวเขาบอกว่าตำราไท้จี๋ที่พี่สิงห์มาสอนให้ยอดเยี่ยมมากค่ะ พี่เขาทำทุกวัน แต่หนูว่าจะเริ่มพยายามทำให้ได้อย่างเขาบ้างค่ะ แฮ่ๆอันหลังนี่ข่าวดีหรือเปล่าก็ไม่รู้นิ อิๆ

สวัสดีค่ะ คุณน้องป้อม ที่รัก

                           เพียงแค่คิด (แสดงว่าตั้งใจคิด เกิดปัญญาจากภายใน หลวงพ่อเทียนท่านว่า นี่ละคือการใช้ปัญญา)

                           การออกกำลังกายเป็นการเอาชนะ จิตตนเองอย่างหนึ่ง ที่จะไม่ตกอยู่ในโมหะ เพราะ จิตมันไม่อยากให้กระทำ  ดังนั้นเธอต้องเอาชนะจิตเธอให้ได้ ด้วยเหตุผล

                           - การออกกำลังกาย จะทำให้เราแข็งแรง  ลูกจะหมดห่วง ตั้งใจเรียน

                           - ถ้าเราเป็นโรคเรื้อรัง ใครจะรับผิดชอบดูแล ผู้อาวุโส ที่เราดูแลอยู่ ท่านคงจะลำบากเพิ่มขึ้น ถ้าขาดเรา

                           ด้วยเหตุ ผล ๒ ข้อนี้ก็เพียงพอแล้วครับ

                           แต่อย่าลืม  สามีเธอน่ากลัวที่สุดในเรื่องสุขภาพ และมาจะเพิ่มขึ้นๆ เพราะเป็นผลจากการดื่มของมึนเมามาแต่หนุ่ม มันจะเริ่มส่งผลตอนอายุมากๆ นี่ละ มีตัวอย่างให้เห็นมาแล้วมากมาย เช่น รศ.พินิจ  เธอจะต้องชวนเขามาออกกำลังกายให้ได้ มิฉะนั้นเธอจะลำบาก เพราะเธอจะต้องดูแลเขา แน่นอน หลีกหนีไม่พ้น

                           สำหรับพี่สาวเธอ ยินดีด้วย  และถ้าพี่สิงห์ มีโอกาสไปเชียงใหม่-เชียงราย จะไปสอนโยคะเพิ่มเติม ให้ครับ

                           สวัสดียามเช้า ครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6537 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2555, 07:31:08 »

สวัสดีค่ะ คุณน้องยาหยี ที่รัก

                              แต่งหน้านิดหน่อยนั้น สวยแล้วครับ

                              ทุกครั้งที่ขึ้น Nok Air พนักงานต้อนรับ เป็นสาววัยย์รุ่น แต่งตัวไม่เป็น ทาปาก ทาหน้า ใส่ขนตาปลอม และเพิ่งแต่งหน้าเสร็จใหม่ๆ  ดูแล้วไม่เป็นธรรมชาติเลย จริงๆ แล้วเพียงทาแป้งนิดหน่อยก็น่ารักแล้ว เพราะทุกคนหน้าตาไป วัดวาได้  หุ่นดี และอายุไม่มาก อย่างไรก็สวย

                              ทุกครั้งที่พี่สิงห์ พบหน้าคุณน้อง Tooky เธอจะต้องใส่ขนตาปลอม มันดูแล้ว อย่างไรไม่รู้บอกไม่ถูก ทั้งๆที่ ถ้าเธอเพียงทาแป้งนิดหน่อย ก็สวยแล้ว  ไม่เชื่อลองถาม ดร.สุริยา  ดูก็ได้

                              สวัสดียามเช้าค่ะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6538 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2555, 08:43:34 »

ทัวร์ Angkor Wat ๒๖-๒๗-๒๘ มิถุนายน











































                           ค่ำวันศุกร์ที่ ๒๗ ทางทัวร์พาไปรับประทานอาหารเย็นที่ร้านโตนเลแม่โขง เป็นร้านอาหารนานาชาติ บุปเฟ่ ใหญ่มาก เพื่อไปชมการแสดงศิลปเขมร

                            ตอนแรก เป็นการแสดงโขนแบบเขมร คือขาดความสวยงาม อ่อนช้อย เป็นแบบแข็งทื่อๆ

                            วงปี่พาทย์ก้เหมือนกัน แข็งกระด้าง แบบเขมร จึงไม่ไพเราะหู

                            ทั้งๆ ที่สองอย่างนี้ ไทยเรียนแบบมาจากศิลปเขมร

                            หลังจากนั้นจะเป็นการแสดง ที่ชมเขมรเล่นตามฤดูกาล เช่นเล่นกะลา

                            สุดท้ายจบลงด้วยรำของนางอัปสรา ครับ

                            เชิญชมภาพ

                            สวัสดี
         
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6539 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2555, 13:48:39 »










                         วันศุกร์เช้า คณะได้ไปตีกอล์ฟที่สนามกอล์ฟโภคีธารา คันทรีคลับ ซึ่งเป็นเครือเดียวกับโรงแรมโภคีธารา รีสอร์ท เจ้าของคือผู้ผลิตยาแก้ไข้ Tiffy เป็นคนไทย

                         สนามนี้ออกแบบโดยคนไทย ตอนแรกบริหารโดยฝรั่ง แต่ปัจจุบันขาดทุนมาก เลยมีแต่พนักงานดูแล เป็นสนามอยาก ยาวมาก สวยงามพอสมควร แต่น่าเสียดายที่มีคนเล่นน้อย สนามอยู่ไม่ได้ ผลคือ เมื่อขาดเงินสนามก้เสีย ปัจจุบันบ่อทรายเป็นดิน-หญ้า เลยต้องทำใหม่ทั้งหมดเพื่อให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิม กำลังทำทีละหลุม ครับ

                         คนท้องที่ไม่สามารถเล่นได้เนื่องจากราคาแพงมากคือ 120 ดอลล่า US. มากกว่าเงินเดือนพนักงานเสียอีก คนเขมรเลยไม่เล่น คนไทยก็ไม่ไป คนที่ไปชมรครวัด ก็ไม่เล่นกอล์ฟ สนามเลยขาดทุน

                          Caddy ได้เป็นเงินเดือน ๆ ละ 57 US.dollar ไม่รวมค่าทิป  พนักงานเป็นเงินเดือนๆ ละ 115 US dollar

                           ต้นไม้ที่ประดับในสนามคือ ต้นตาล  ที่มีมากในเสียมเรียบ ครับ

                          คนเขมรส่วนใหญ่ชอบคนไทย ยกเว้นคนของรัฐบาล ฮุนเซน

                          ต่างชาติที่ลงทุนในเขมรมากคือ คนไทย ครับ

                          ผมเล่นกอล์ฟเสร็จ บ่ายโมง รับประทานข้างกฃลางวันเสร็จ บ่ายสาม เดินทางถึงด่าน 17:00 น. ครับ

                          สวัสดี
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #6540 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2555, 14:20:28 »

สวัสดีครับ พี่สิงห์ ...

พี่สิงห์ยังแลดูสดใสเหมือนเดิมเลย นะครับ


ปล.  น้ำในแก้ว คือน้ำอะไรครับ ... ถ้าให้เดา ผมคิดว่าไม่ใช่ ไวน์ขาว หรือเครื่องดื่มที่มี แอลกอฮอล์  น่าจะเป็นน้ำผลไม้ใช่ไหม ครับ


      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #6541 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2555, 14:24:56 »

เมื่อกลางเดือนที่แล้ว (มิ.ย.) ... ที่หัวหิน ผมก็เจอน้ำกระเจี๊ยบ กับน้ำตะไคร้ ในแก้วไวน์เหมือนกัน ครับ  รักนะ







      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #6542 เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2555, 14:28:05 »

ดื่มน้ำผลไม้เสร็จแล้ว ได้ผลเลยครับ ....  มีประโยชน์มาก  ... ผิวพรรณผ่องใส ขึ้นมาทันที     เหอๆๆ หลั่นล้า






      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6543 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2555, 10:01:18 »

สวัสดีครับ ดร.มนตรี

                            ขอบคุณมาก ที่มาร่วมสนทนา  น้ำชา ครับ เขาเอามาเสริฟแขก พี่สิงห์เลยทิป ไป ๑๐๐ บาท ให้แบ่งสองคน

                            "รูปัง  อะนิจจา     รูปไม่เที่ยง"

                            "รูปัง ทุกขัง         รูปเป็นทุกข์" จากการเกิด  แก่  เจ็บ ตาย .......

                            "รูปัง  อะนัตตา     รูปไม่ใช่ตัวตน"

                             อย่าไปยึดมั่นถือมั่น  หรือยึดติดใน ตา หู  จมูก  ลิ้น  กาย  ใจ  ที่ได้สัมผัส  ได้รับรู้ มากนัก เพราะมันจะติดใจอยากได้อีกเสมอ ไม่มีสิ้นสุด  เป็นอาสวะกิเลสเสียแล้ว มันเอาออกยาก        

                            สวัสดี


      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6544 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2555, 10:17:28 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่งและแขกผู้มีเกียรติ ที่รักทุกท่าน

                             ผมอยู่นครศรีธรรมราช ครับ

                             อากาศยามเช้าที่นครศรีธรรมราช ไม่มีลม แสงแดดไม่แรง  ฝนไม่มี แต่ครึ้มๆ ครับ สามารถออกกำลังกายยามเช้าได้แบบไม่สบายตัวนัก  ได้ทบทวนทั้งหมด

                             วันนี้ดีใจที่น้ำหนักตัวเหลือ 68 กิโลกรัม คงพยายามให้คงอยู่เท่านี้ + 1 กิโลกรัม

                              เมื่อวาน รศ.อ้อมทิพย์ จากแม่โจ้ ได้โทรศัพท์ มาถามแนวทางการปฏิบัติธรรม ไม่มีความแน่ใจว่าปฏิบัติถูกต้องหรือไม่ เพราะมีหลายแนวทางด้วยกัน เวลาปฏิบัติก็ดี มีสติ แต่เวลาเจอมารพ่ายแพ้เรียบ จะทำอย่างไรดี

                              ผมก็ได้อธิบายไปทีละคำถาม และแนะนำอย่างไปสงสัย  อย่าไปสอดรู้สอดเห็นแยะ มันจะติดอยู่กับความคิด  ขอให้ไม่รู้อะไรเลย  สร้างความรู้สึกตัวเข้าไว้ ให้จิตมันตื่น คอยสังเกตุสิ่งที่เกิดขึ้นกับกาย-ใจ จะสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง อย่าไปคิด เพียงแค่ดูว่าเกิดอะไรขึ้น  ไม่เกิดอะไรขึ้น เท่านั้น แต่ต้องทำให้ต่อเนื่องมากๆ เข้าไว้

                               ส่วนใหญ่นักปฏิบัติธรรม จะติดอยู่ในความคิด  พอไม่เห็นมีอะไร  หรือมีอะไรแต่ตัวเองสังเกตุ ดูกาย-ใจ ไม่ออก เลยเบื่อ ไม่รู้จะทำไปทำไม? เลิกดีกว่า  เสียเวลา นั่นละความไม่อยากของจิตละ มันจะเป็นเช่นนี้  ต้องมีวิริยะ เอาชนะมันให้ได้

                               พยายามอธิบายไป เกือบชั่วโมงครับ  หวังว่าเธอคงจะเข้าใจขึ้น และเริ่มต้นใหม่

                               ในการยกมือ ๑๔ จังหวะของหลวงพ่อเทียน นั้น ต้องกระทำช้าๆ ทุกครั้งที่หยุดต้องรู้ตัว เคลื่อนรู้ตัว  ถ้าทำเร็วไป มันจะกลายเป็นแบบนักวิ่ง วิ่งแบบไม่รู้ตัว และจะหลงไปกับความคิดได้โดยง่าย  ต้องหาจังหวะให้เหมาะสมกับตัวเอง ที่จะไม่หลง และรู้สึกตัวตลอดเวลา  โอกาสหน้าไปเชียงใหม่  คงต้องหาเวลาไปปฏิบัติธรรมด้วย  แล้วละ

                                สวัสดีครับ

                       


      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #6545 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2555, 10:35:12 »

อ่านแล้วคิดถึง สิงห์ มานพ ขึ้นมาจับจิต-จับใจ จึงต้อง copy & paste

» อ่านกันซักนิด เพื่อชีวิตที่ยืนยาว : โดย สมคิด ลวางกูร

ช่วงนี้...บริษัทต่างๆ...เชิญผมไปพูดปลุกพลังให้ทีมงาน...อาทิตย์ละหลายวัน...
ปัญหาหลักของผมคือ...เสียงแห้ง...และคออักเสบตลอดปี...ตลอดชาติ...

ไปหาหมอ...หมอก็ให้ยาแก้อักเสบมากิน...
กินเสร็จ...หาย...ยาหมด...เป็นอีก...กินอีก...หาย...
เลิกกินยาเป็นอีก...พอกินยานานๆ...ยาตัวเดิมเอาไม่อยู่...
ต้องกินยาที่แรงขึ้นเรื่อยๆ...จนถึงแผงละ 950 บาท...

ผมหมดค่ายาไปหลายหมื่น...อาการก็เป็นๆหายๆ...
ชีวิตทุกข์ทรมานมาก...และเป็นปัญหามาก...กับการทำมาหากิน...

----

วันหนึ่งอ่านโบรชัวร์โฆษณา...ของโรงพยาบาล...
เรื่อง...โรคกรดไหลย้อน...
เขาบอกว่า...ถ้ามีอาการอย่างนี้...คุณเป็นโรคกรดไหลย้อน...ต้องรีบรักษา...

อาการคือ...
จุก...แน่น...แสบร้อน...ที่หน้าอกและคอ...
เหมือนมีอะไรมาติดที่หน้าอกและคอ...เรอเปรี้ยว...มีรสขม...
เวลานอน...มีกรดไหลมาที่ลำคอ...เข้าปาก...เข้าหลอดลม...เต็มจมูก...
เจ็บมาก...แสบคอและจมูกแสนสาหัส...กรดมันจุกคอจนหายใจไม่ออก..

เจ็บคออย่างแสนสาหัส...กลืนอาหารไม่ได้...เสียงแหบ...พูดไม่ได้...
ปวดแสบปวดร้อนที่หน้าอกอย่างรุนแรง...เหมือนอกจะไหม้...

ไอเรื้อรัง...เจ็บคอเรื้อรัง...เสียงแหบเรื้อรัง...
ปอดอักเสบ...ปวดเจ็บจี๊ดๆที่หน้าอกบ่อยๆ...

สาเหตุเป็นเพราะ...
กรดในกระเพราะอาหาร...มันไหลย้อนเข้ามากัด...
หลอดอาหาร...คอ...และหลอดลม...

วิธีรักษา...
ต้องไปหาหมอผู้เชี่ยวชาญ...โดยด่วน...
ถ้าทิ้งไว้นาน...มีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็ง...
หลอดอาหาร...คอ...กล่องเสียง...

อ่านเสร็จ...อุทานว่า...เวรแล้วกู...
ที่มึงพูดมาทั้งหมดนี่...อาการของกูล้วนๆเลยหละ...
นี่กูเป็นโรคกรดไหลย้อนหรือนี่...?
แล้วถ้าไม่รีบรักษา...มะเร็ง...!!!!!

ผมทำตามคำแนะนำทันที...เดี๋ยวนั้น...
ไปหาหมอที่โรงพยาบาลตามที่โฆษณา...
หมอบอกว่า...อาการผมหนักมาก...ต้องกินยา...
และรักษาต่อเนื่อง...อย่างน้อย 6 เดือน...
ถ้ายังไม่ดีขึ้น...ต้องรักษาด้วยวิธีอื่น...

หลังจากนั้น...ผมก็เข้าออกโรงพยาบาล...เหมือนเป็นบ้านหลังที่ 2...

----

วันหนึ่ง...ยาหมด...แล้วผมต้องไปพูดปลุกพลังที่ขอนแก่น...
กลัวมาก...กลัวเจ็บคอ...กลัวเสียงแหบ...กลัวพูดไม่ได้...
ไม่มีเวลาไปโรงพยาบาล...เอาไงดี...?
ตัดสินใจ...พึ่งหมอตี๋...เข้าร้านขายยาปากซอยหน้าหมู่บ้าน...

เจอเภสัชกรคนหนึ่ง...หน้าตากวนตีนมาก...
อายุน้อยกว่าผม...แต่กวนตีนมากกว่าผม...

ซื้อยาแก้กรดไหลย้อนครับ...
เอาเกรดไหน...มี 3 เกรด...ถูก...กลาง...แพง...
คุณภาพยา...ขึ้นกับราคา...ว่าไง...?
มันถามแล้วมองหน้าผมแบบกวนตีน...

ผมกวนตีนกลับ...เอาเกรดไหนก็ได้...ที่กินแล้วหายน่ะ...
ไม่มี...โรคนี้....ยาไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้...
ถ้าคุณรักษาด้วยยา...คุณจะต้องกินยาไปตลอดชีวิต...

ผมหันไปจ้องหน้ามัน...เพราะสะดุดคำว่า...
ถ้าคุณรักษาด้วยยา...คุณจะต้องกินยาไปตลอดชีวิต...
ผมถามว่า...มันมีวิธีรักษาด้วยวิธีอื่นหรือ...?
มันค่อยๆชายตามามองผมด้วยสายตาดูถูก...อย่างรุนแรง...
แล้วพูดโดยไม่มองหน้าคนฟังว่า...

คนที่เป็นโรคกรดไหลย้อน...เกิดจากนิสัย"ชั่ว" 5 อย่าง...
1. กินข้าวไม่ตรงเวลา...
2. กินอาหารรสจัดมาก...โดยเฉพาะเผ็ดจัด...
3. กินมากเกินไป...
4. กินแล้ว...เข้านอนทันที...
5. เครียดตลอดเวลา...

ถ้าอยากหาย...ไปเปลี่ยนนิสัย...ไม่ต้องกินยา...

ผมกัดฟันแน่น...จ้องหน้ามัน...ทำไมมึงถึงกวนตีนยังงี้วะ...?
ผมคิดในใจ... แล้วค่อยๆเปิดประตู...เดินออกจากร้านไป...

----

10 วัน...ผ่านไป...ผมไปบรรยายหลายงาน...หลายจังหวัด...

คืนหนึ่งกลับเข้าบ้าน...ดึกแล้ว...
ผ่านร้านขายยา...ไฟยังไม่ปิด...ผมรีบจอดรถ...เดินเข้าไปในร้าน...
เจอไอ้เภสัชกวนตีน...คนเดิมเต็มๆ...มันหันมาเห็นผม...
อ้าว...เป็นไง...โรคกรดไหลย้อน...?

ผมปรี่เข้าประชิดตัว...แล้วยกมือ...พนม...พร้อมก้มหัว...
ขอบพระคุณมากครับ...หายแล้วครับ...
พูดได้แค่นั้น...แล้วก็จุกที่คอ...พูดอะไรต่อไม่ได้อีก...
แล้วรีบเดินออกจากร้าน...
เป็นครั้งแรกในชีวิต...ที่ผมยกมือไหว้คนขายยา...ที่อายุน้อยกว่าผมมาก...

ผมพูดอะไรไม่ออก...แต่ผมเชื่อว่า...ไอ้เภสัชหนุ่มนี่มันรู้...ว่าผมจะพูดอะไร...?
มันสามารถสูบเงินจากผมได้เป็นหมื่น...และทำกำไรมหาศาล...แต่มันไม่ทำ...
มันเลือกที่จะช่วยผม...ให้หายป่วย...โดยไม่ได้เงินสักบาท...

----

การดำเนินชีวิตของผมตอนนี้...

- กินข้าวตรงเวลา...ทุกมื้อ...
- กินอาหารจืด...ไม่กินรสจัด...เผ็ดจัด...
- กินแค่จานเดียว...เลิก...ไม่ว่าจะอร่อยแค่ไหนก็ตาม...
- มื้อสุดท้าย...กินก่อน 6 โมงเย็น...แล้วไม่กินอะไรอีกเลย...
ไม่ว่าจะนอนดึกแค่ไหนก็ตาม...
- อารมณ์ดีตลอด...ยิ้ม...หัวเราะ...ทำตัวให้มีความสุขทั้งวัน...

ผลที่เกิดตามมาคือ...

- พุงผมหายไป...ไม่มีหน้าท้อง...ไม่อึดอัด...
- สุขภาพดีขึ้น...ไม่เป็นโรคอ้วน...
- บุคลิกภาพดีขึ้น...ความมั่นใจเพิ่มขึ้น...เวลาเข้าสังคม...
- หายใจสะดวก...ไม่แน่นท้องเหมือนก่อน...
- ไม่ง่วงนอน...ไม่อ่อนเพลียเวลาทำงาน...เหมือนก่อน...
- การทำงานและการเคลื่อนไหวร่างกาย...คล่องตัวขึ้น...

ที่สำคัญคือ...
ชีวิตผม...มีความสุขขึ้น...เยอะเลย...

นี่แหละคือเหตุผลที่ผมต้องไหว้...
และผมจะไหว้ท่านนี่ตลอดชีวิต...ไม่ว่ากูจะเจอมึงที่ไหน...

----

สิ่งมีค่าที่สุดที่มันมอบให้ผมก็คือ...
โรคภัยไข้เจ็บ...90 %...ของมึงเนี่ย...ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค...
แต่เกิดจากเชื้อไม่ดี...ในการดำเนินชีวิตของมึงทั้งนั้น...

ดำเนินชีวิตให้ถูกต้อง...ตามธรรมชาติ...มีสุขนิสัยที่ดี...
คุณจะไม่ป่วย...ไม่เป็นโรค...ไม่ต้องไปหาหมอ...
หมอและยา...เขามีไว้รักษาและขาย...ให้คนที่โง่...เท่านั้น...


ผมแค่ทำตัวตามที่ไอ้หมอตี๋กวนตีนนั่นบอก...
เปลี่ยนเอานิสัยไม่ดีๆในการดำเนินชีวิตออก...
โรคกรดไหลย้อน...ไม่มีอาการ...โรคซึมเศร้าดีขึ้น...จนเริ่มเขียนหนังสือได้...
โรคเครียดเบาบางลงมาก...ยิ้ม...หัวเราะ...มีความสุขกับการทำงานเกือบทั้งวัน...

คุณภาพชีวิตที่ดีๆของผม...กลับคืนมาแล้ว...เยอะมากด้วย...
จึงอยากจะถือโอกาสนี้...บอกกับเพื่อนๆทุกคนว่า...

เลิกโง่กันเถอะเพื่อน...

----

Credit : สมคิด ลวางกูร / วลีกวนตา...วาจากวนตีน...
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6546 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2555, 10:52:50 »

อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 13 กรกฎาคม 2555, 10:35:12
อ่านแล้วคิดถึง สิงห์ มานพ ขึ้นมาจับจิต-จับใจ จึงต้อง copy & paste

» อ่านกันซักนิด เพื่อชีวิตที่ยืนยาว : โดย สมคิด ลวางกูร

ช่วงนี้...บริษัทต่างๆ...เชิญผมไปพูดปลุกพลังให้ทีมงาน...อาทิตย์ละหลายวัน...
ปัญหาหลักของผมคือ...เสียงแห้ง...และคออักเสบตลอดปี...ตลอดชาติ...

ไปหาหมอ...หมอก็ให้ยาแก้อักเสบมากิน...
กินเสร็จ...หาย...ยาหมด...เป็นอีก...กินอีก...หาย...
เลิกกินยาเป็นอีก...พอกินยานานๆ...ยาตัวเดิมเอาไม่อยู่...
ต้องกินยาที่แรงขึ้นเรื่อยๆ...จนถึงแผงละ 950 บาท...

ผมหมดค่ายาไปหลายหมื่น...อาการก็เป็นๆหายๆ...
ชีวิตทุกข์ทรมานมาก...และเป็นปัญหามาก...กับการทำมาหากิน...

----

วันหนึ่งอ่านโบรชัวร์โฆษณา...ของโรงพยาบาล...
เรื่อง...โรคกรดไหลย้อน...
เขาบอกว่า...ถ้ามีอาการอย่างนี้...คุณเป็นโรคกรดไหลย้อน...ต้องรีบรักษา...

อาการคือ...
จุก...แน่น...แสบร้อน...ที่หน้าอกและคอ...
เหมือนมีอะไรมาติดที่หน้าอกและคอ...เรอเปรี้ยว...มีรสขม...
เวลานอน...มีกรดไหลมาที่ลำคอ...เข้าปาก...เข้าหลอดลม...เต็มจมูก...
เจ็บมาก...แสบคอและจมูกแสนสาหัส...กรดมันจุกคอจนหายใจไม่ออก..

เจ็บคออย่างแสนสาหัส...กลืนอาหารไม่ได้...เสียงแหบ...พูดไม่ได้...
ปวดแสบปวดร้อนที่หน้าอกอย่างรุนแรง...เหมือนอกจะไหม้...

ไอเรื้อรัง...เจ็บคอเรื้อรัง...เสียงแหบเรื้อรัง...
ปอดอักเสบ...ปวดเจ็บจี๊ดๆที่หน้าอกบ่อยๆ...

สาเหตุเป็นเพราะ...
กรดในกระเพราะอาหาร...มันไหลย้อนเข้ามากัด...
หลอดอาหาร...คอ...และหลอดลม...

วิธีรักษา...
ต้องไปหาหมอผู้เชี่ยวชาญ...โดยด่วน...
ถ้าทิ้งไว้นาน...มีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็ง...
หลอดอาหาร...คอ...กล่องเสียง...

อ่านเสร็จ...อุทานว่า...เวรแล้วกู...
ที่มึงพูดมาทั้งหมดนี่...อาการของกูล้วนๆเลยหละ...
นี่กูเป็นโรคกรดไหลย้อนหรือนี่...?
แล้วถ้าไม่รีบรักษา...มะเร็ง...!!!!!

ผมทำตามคำแนะนำทันที...เดี๋ยวนั้น...
ไปหาหมอที่โรงพยาบาลตามที่โฆษณา...
หมอบอกว่า...อาการผมหนักมาก...ต้องกินยา...
และรักษาต่อเนื่อง...อย่างน้อย 6 เดือน...
ถ้ายังไม่ดีขึ้น...ต้องรักษาด้วยวิธีอื่น...

หลังจากนั้น...ผมก็เข้าออกโรงพยาบาล...เหมือนเป็นบ้านหลังที่ 2...

----

วันหนึ่ง...ยาหมด...แล้วผมต้องไปพูดปลุกพลังที่ขอนแก่น...
กลัวมาก...กลัวเจ็บคอ...กลัวเสียงแหบ...กลัวพูดไม่ได้...
ไม่มีเวลาไปโรงพยาบาล...เอาไงดี...?
ตัดสินใจ...พึ่งหมอตี๋...เข้าร้านขายยาปากซอยหน้าหมู่บ้าน...

เจอเภสัชกรคนหนึ่ง...หน้าตากวนตีนมาก...
อายุน้อยกว่าผม...แต่กวนตีนมากกว่าผม...

ซื้อยาแก้กรดไหลย้อนครับ...
เอาเกรดไหน...มี 3 เกรด...ถูก...กลาง...แพง...
คุณภาพยา...ขึ้นกับราคา...ว่าไง...?
มันถามแล้วมองหน้าผมแบบกวนตีน...

ผมกวนตีนกลับ...เอาเกรดไหนก็ได้...ที่กินแล้วหายน่ะ...
ไม่มี...โรคนี้....ยาไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้...
ถ้าคุณรักษาด้วยยา...คุณจะต้องกินยาไปตลอดชีวิต...

ผมหันไปจ้องหน้ามัน...เพราะสะดุดคำว่า...
ถ้าคุณรักษาด้วยยา...คุณจะต้องกินยาไปตลอดชีวิต...
ผมถามว่า...มันมีวิธีรักษาด้วยวิธีอื่นหรือ...?
มันค่อยๆชายตามามองผมด้วยสายตาดูถูก...อย่างรุนแรง...
แล้วพูดโดยไม่มองหน้าคนฟังว่า...

คนที่เป็นโรคกรดไหลย้อน...เกิดจากนิสัย"ชั่ว" 5 อย่าง...
1. กินข้าวไม่ตรงเวลา...
2. กินอาหารรสจัดมาก...โดยเฉพาะเผ็ดจัด...
3. กินมากเกินไป...
4. กินแล้ว...เข้านอนทันที...
5. เครียดตลอดเวลา...

ถ้าอยากหาย...ไปเปลี่ยนนิสัย...ไม่ต้องกินยา...

ผมกัดฟันแน่น...จ้องหน้ามัน...ทำไมมึงถึงกวนตีนยังงี้วะ...?
ผมคิดในใจ... แล้วค่อยๆเปิดประตู...เดินออกจากร้านไป...

----

10 วัน...ผ่านไป...ผมไปบรรยายหลายงาน...หลายจังหวัด...

คืนหนึ่งกลับเข้าบ้าน...ดึกแล้ว...
ผ่านร้านขายยา...ไฟยังไม่ปิด...ผมรีบจอดรถ...เดินเข้าไปในร้าน...
เจอไอ้เภสัชกวนตีน...คนเดิมเต็มๆ...มันหันมาเห็นผม...
อ้าว...เป็นไง...โรคกรดไหลย้อน...?

ผมปรี่เข้าประชิดตัว...แล้วยกมือ...พนม...พร้อมก้มหัว...
ขอบพระคุณมากครับ...หายแล้วครับ...
พูดได้แค่นั้น...แล้วก็จุกที่คอ...พูดอะไรต่อไม่ได้อีก...
แล้วรีบเดินออกจากร้าน...
เป็นครั้งแรกในชีวิต...ที่ผมยกมือไหว้คนขายยา...ที่อายุน้อยกว่าผมมาก...

ผมพูดอะไรไม่ออก...แต่ผมเชื่อว่า...ไอ้เภสัชหนุ่มนี่มันรู้...ว่าผมจะพูดอะไร...?
มันสามารถสูบเงินจากผมได้เป็นหมื่น...และทำกำไรมหาศาล...แต่มันไม่ทำ...
มันเลือกที่จะช่วยผม...ให้หายป่วย...โดยไม่ได้เงินสักบาท...

----

การดำเนินชีวิตของผมตอนนี้...

- กินข้าวตรงเวลา...ทุกมื้อ...
- กินอาหารจืด...ไม่กินรสจัด...เผ็ดจัด...
- กินแค่จานเดียว...เลิก...ไม่ว่าจะอร่อยแค่ไหนก็ตาม...
- มื้อสุดท้าย...กินก่อน 6 โมงเย็น...แล้วไม่กินอะไรอีกเลย...
ไม่ว่าจะนอนดึกแค่ไหนก็ตาม...
- อารมณ์ดีตลอด...ยิ้ม...หัวเราะ...ทำตัวให้มีความสุขทั้งวัน...

ผลที่เกิดตามมาคือ...

- พุงผมหายไป...ไม่มีหน้าท้อง...ไม่อึดอัด...
- สุขภาพดีขึ้น...ไม่เป็นโรคอ้วน...
- บุคลิกภาพดีขึ้น...ความมั่นใจเพิ่มขึ้น...เวลาเข้าสังคม...
- หายใจสะดวก...ไม่แน่นท้องเหมือนก่อน...
- ไม่ง่วงนอน...ไม่อ่อนเพลียเวลาทำงาน...เหมือนก่อน...
- การทำงานและการเคลื่อนไหวร่างกาย...คล่องตัวขึ้น...

ที่สำคัญคือ...
ชีวิตผม...มีความสุขขึ้น...เยอะเลย...

นี่แหละคือเหตุผลที่ผมต้องไหว้...
และผมจะไหว้ท่านนี่ตลอดชีวิต...ไม่ว่ากูจะเจอมึงที่ไหน...

----

สิ่งมีค่าที่สุดที่มันมอบให้ผมก็คือ...
โรคภัยไข้เจ็บ...90 %...ของมึงเนี่ย...ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค...
แต่เกิดจากเชื้อไม่ดี...ในการดำเนินชีวิตของมึงทั้งนั้น...

ดำเนินชีวิตให้ถูกต้อง...ตามธรรมชาติ...มีสุขนิสัยที่ดี...
คุณจะไม่ป่วย...ไม่เป็นโรค...ไม่ต้องไปหาหมอ...
หมอและยา...เขามีไว้รักษาและขาย...ให้คนที่โง่...เท่านั้น...


ผมแค่ทำตัวตามที่ไอ้หมอตี๋กวนตีนนั่นบอก...
เปลี่ยนเอานิสัยไม่ดีๆในการดำเนินชีวิตออก...
โรคกรดไหลย้อน...ไม่มีอาการ...โรคซึมเศร้าดีขึ้น...จนเริ่มเขียนหนังสือได้...
โรคเครียดเบาบางลงมาก...ยิ้ม...หัวเราะ...มีความสุขกับการทำงานเกือบทั้งวัน...

คุณภาพชีวิตที่ดีๆของผม...กลับคืนมาแล้ว...เยอะมากด้วย...
จึงอยากจะถือโอกาสนี้...บอกกับเพื่อนๆทุกคนว่า...

เลิกโง่กันเถอะเพื่อน...

----

Credit : สมคิด ลวางกูร / วลีกวนตา...วาจากวนตีน...

                        ขอบคุณ ดร.สุริยา  เป็นอย่างมาก ครับที่กรุณา นำมาสอนสั่ง

                        ผมก็เคยเอาวิธีการทั้ง ๕ ข้อที่กล่าว ไปสอนคนที่เป็นโรคกรดไหลย้อน และผมก็ได้รับคำขอบคุณ โดยไม่ต้องกินยา เป็นประจำครับ

                        คนที่ยังกินยา พึ่งหมอ  กินอาหารที่ไม่ก่อประโยชน์ ไมตรงเวลา  ไม่ออกกำลังกาย  เครียด เป็นพวกที่ "ไม่รักตัวเองแท้จริง  ตามที่คุณดลนภา  บอกเหตุผลในการออกกำลังกายให้ผมฟังครับ"

                        ช่วงนี้สุขภาพผมดีมาก  ไม่ต้องกินยาแก้แพ้อากาศ โพรงจมูกไม่บวม  ไม่อุดตัน  แปลกมากๆ

                        สำหรับการสอนหนังสือนั้น ไม่สอนมาก  ไม่เกินครึ่งวัน   หรือติดต่อเกินสองชั่วโมง เอาเท่านี้ เรื่องมาก ไม่สอน  ไม่เอาด้วย  เพราะไม่คุ้ม  เพราะรู้ตัวดีว่า  มีจุดอ่อนอะไร  แล้วจะทำไปทำไม?

                         "อยู่อย่างไม่มีสตางค์(พอเพียง) แต่ไม่ทุกข์  ดีกว่า อยู่อย่างมีสตางค์ แต่ทุกข์"

                         สวัสดี


      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #6547 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2555, 11:05:08 »

ไม่ได้นำมาสอนสั่ง แต่เอามาลงไว้ เพื่อสนับสนุนความเชื่อ ของอาจารย์มานพ ไงครับ
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6548 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2555, 11:22:42 »

อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 13 กรกฎาคม 2555, 11:05:08
ไม่ได้นำมาสอนสั่ง แต่เอามาลงไว้ เพื่อสนับสนุนความเชื่อ ของอาจารย์มานพ ไงครับ

                          ผมก็ไม่ได้ เก็บเอามาคิดว่าเป็นการสอนสั่งผม  ตามที่ ดร.สุริยา  เข้าใจ

                          แต่เอามาย้ำเตือนตัวผม  ว่ามาถูกทางแล้ว  อยู่กับธรรมชาติ พึ่งตนเอง  และอยู่แบบพอเพียง

                          เพราะระยะหลัง จิตมันเกิดลังเลสงสัย ว่าเราจะเสียชาติเกิดเสียแล้วละ  จบวิศวฯ แต่จน(คุณ...  เคยถาม เมื่อเปรียบเทียบกับ รุ่นพี่วิศวฯ ที่มีบ้านอยู่ที่นครไชยศรี  มันคนละเรื่องเลย)  มันไม่คุ้มเลย  ที่กระทำตนเองแบบนี้

                           แต่ก็ใจดีสู้เสือ  เตือนตัวเองว่า  อย่าไปหลงตามที่จิตมันต้องการ เราสามารถอยู่ได้  แม้จน  ไม่มีเกียรติ  ไม่มีใครคบ..... เราเห็นโลกมามากเพียงพอแล้ว  อย่าไปใช้ชีวิตอย่างเดิมๆ เลย ขอเพียงเราอยู่แบบไม่ทำให้ใครเดือดร้อน  เพียรรักษากาย  วาจา  ใจ  ของเราให้เป็นปกติ  มีน้อยใช้น้อย  ใช้ชีวิตแบบแม่ เข้าไว้ เราก็อยู่ได้

                           ให้ในส่วนที่ไม่ต้องใช้เงิน หรือใช้ไม่มากที่เราไม่เดือดร้อน เราก็ให้ได้

                           สวัสดี


      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6549 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2555, 12:02:06 »



                             วันที่ไปรับประทานอาหารกลางวันกับคุณน้องยาหยี  ได้บอกกับเธอไปว่า

                              ดร. สุริยา  บอกว่า "ตอนนี้ออกกำลังกายด้วยการเดินทุกวัน  วันละหนึ่งชั่วโมง  จนไม่เจ็บป่วย เป็นอะไรเลย และตอนนี้กลัวว่า จะตายช้า มีอายุยืน แน่ๆ "

                               สาธุ  สาธุ  สาธุ 

                               ถ้าผมจะต้องตายก่อน ดร.สุริยา 

                               ผมจะสั่งหลานๆ เอาไว้ ให้ช่วยเลี้ยง-ดู ทำศพ  ดร.สุริยา  แทนผมให้ด้วย

                               สวัสดี
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 260 261 [262] 263 264 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><