29 เมษายน 2567, 13:40:14
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 384 385 [386] 387 388 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3240466 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9625 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2556, 18:35:54 »

อ้างถึง
ข้อความของ Pete15 เมื่อ 23 กรกฎาคม 2556, 07:48:57
อ้างถึง
ข้อความของ jeam เมื่อ 21 กรกฎาคม 2556, 20:35:01



พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธฺมโม วัดอัมพวัน สิงห์บุรี)
    สวัสดี เพือน นก ขอตอบข้อสงสัย ที่คาใจอยู่
              นี้แหละที่เห็นๆ ฆารวาส ทำลาย พระ มันเป็นของเทียมทั้งหมด ทั้งหนังหมี และ งา ด้วยความที่ ท่านปล่อยวาง
 ท่านก็ไม่สนใจ  (เป็นของถวาย)..... แต่ส่วนฆารวาส ก็เพราะ กูเต็มไปด้วย โลภ หลง โกรธ ฉันจะต้องโชว์ ของที่ฉันถวาย
 และกูจะต้องเอาไว้ ตรงนี้ ไม่งั้นโกรธ เพราะ เส้น กูใหญ่ ..... ต้องมีคนไปนํา ออก....ส่วนตัวท่านเอง จะไม่ มี Yes และ No
 แล้ว..... Yes และ No มันจะออกมาจากพระ และ คนที่อยู่ รอบๆ ข้างท่าน?......นะจ๊ะ.....เพื่อนนก จาก แมงมะชะโย ขออนุ
 ญาตตอบ แทน เอง

                             คนเรานั้น ความคิดไม่เหมือนกัน

                             อย่าตอบแทนผมเลย  เพราะคนตอบจะตอบตามความคิดตนเองเป็นหลัก

                              คำตอบที่ไม่ก่อประโยชน์  ผมจะไม่ตอบ


                             สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9626 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2556, 18:38:11 »



                                 ชาวบ้านชอบทำบุญ  แต่ไม่ชอบประพฤติธรรม
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9627 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2556, 18:40:56 »



                                การทำบุญมันทำง่าย  แต่การประพฤติธรรม  ตามคำสอนของพระพุทธองค์ มันยาก  คนไม่ชอบ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9628 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2556, 18:43:08 »



                                สามเณรองค์กลาง นั้นผมจับฉลากได้ เบอร์ ๑๕  จากพระ-เณร ๒๕ องค์
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9629 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2556, 18:45:23 »



                                การหล่อเทียนพรรษา
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9630 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2556, 18:48:10 »



                               การใสบาตรพระ มีแต่ข้าวขาว  ยกเว้นของพี่สิงห์ ที่หุงข้าวกล้องไปใส่บาตร
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9631 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2556, 18:50:22 »



                           ชาวบ้านมาทำบุญมากมายเต็มศาลาวัด  อาหารจึงมากตาม  แต่พระท่านเสี่ยงเป็นโรคเรื้อรัง
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9632 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2556, 18:52:17 »



                                  ขนมก็มากมาย พระ-เณร ฉันไม่หมด
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9633 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2556, 18:55:17 »



                          ปีนี้วัดพระนอน  ไม่มีพระบวชใหม่เลย  นี้เป็นสิ่งที่ไม่ดีเลย
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9634 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2556, 19:00:23 »



                                    ปีนี้ กฐิน  ที่วัดพระนอน มีเจ้นภาพจองเรียบร้อยแล้ว
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9635 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2556, 19:04:09 »



                                  ปีนี้ผมได้รับความเมตตาจากชาวซีมะโด่ง  และเพื่อนฝูง ที่ให้ทำงาน

                                  พอมีเงิน  จึงอยากตอบแทนเพื่อนฝูงที่ให้เงิน  ขอเป็นเจ้าภาพทอดกฐิน  อีกสักครั้ง ตามประเพณี 
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9636 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2556, 19:06:19 »



                                     บรรยากาศรอบ ๆ วัดปากแรต
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9637 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2556, 19:09:00 »



                                  หลังนาข้าวนั้น       คือลำแม่ลาแหล่งปลาช้อนอร่อยที่สุดของประเทศไทย                                                                         
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9638 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2556, 19:12:26 »



                          ถนนเข้าวัดปากแรด  เมื่อก่อนเป็นสนามบอล  ที่พี่สิงห์ พาทีมวัดพระนอนไปแข่งกับทีมวัดปากแรต เป็นงานวัดประจำปีก่อนวันสงกรานต์                                               
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9639 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2556, 19:18:09 »



                           ปีนี้ ผมจะทอดกฐินที่วัดปากแรต วันอาทิตย์ที่ ๒๗  ตุลาคม  ๒๕๕๖ หรือ แรม ๘ ค่ำ เดือน ๑๑

                            วัดปากแรต  พ่อเป็นคนสร้าง ในสมัยที่ผมยังเรียนหนังสืออยู่ชั้นประถม
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9640 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2556, 19:28:45 »



                       วันนี้ พี่ป้า น้า  อา และชาวบ้านที่อยู่วัด ถือศีล ๘  ได้ชวนพี่สิงห์  อยู่วัด ด้วย
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9641 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2556, 19:32:17 »



                         เอาไว้วันพระหน้าที่ว่าง  จะไปอยู่วัด และช่วยสอนการปฏิบัติธรรม ให้
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9642 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2556, 19:37:36 »



                                หลังทำบุญเสร็จ  ได้ไปกราบหลวงพ่อหิน  และที่อนุสาวรีย์พ่อ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9643 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2556, 20:00:20 »


                  สมัยที่ผมยังเรียนชั้นประถม ชุมชนชาวบ้านปากแรต หางบาง ลำแม่ลา และดอนแฝก ต้องใช้เวลาเดินด้วยเท้ามาตามหัวคันนา เวลาตีห้า ถึงจะมาทันทำบุญที่วัดพระนอน ไม่มีถนนทั้งสิ้น เกิดความลำบากในการทำบุญ และเด็กนักเรียนไม่สามารถเดินมาเรียนที่วัดพระนอนได้ คนส่วนใหญ่จึงไม่ได้เรียนหนังสือ  ถ้าจะได้เรียนต้องมาอาศัยวัด หรือญาติเท่านั้น

                  ชาวบ้านจึงรวมตัวกัน โดยมีผู้ใหญ่ฝอย  น้องชายพ่อ เป็นหัวหน้า ได้ขอให้เจ้าอาวาสวัดพระนอน ขณะนั้นคือพระครูจุล  เจ้าคณะตำบล  จัดตั้งวัดขึ้นที่บ้านปากแรต ที่เป็นที่ดอน ทำนาไม่ได้ในสมัยนั้น โดยมีผู้บริจาคที่ดินให้สร้างวัด

                  พ่อผม ได้เป็นกำลังหลักในการสร้างศาลา  สร้างกุฏิ และวางฐานรากโบสถ์ พ่อเอาเวลาที่ว่างจากการสีข้าว เดินไปสร้างวัดอยู่เป็นสิบปี  จนเดินไม่ไหว และ เป็นวัด มีทุกอย่างครบแล้วรวมทั้งโรงเรียน พ่อจึงไม่ได้ไป แต่ทุกครั้งที่มีงานประจำปี  พ่อจะไป

                  วัดปากแรต  ถือเป็นวัดพี่ วัดน้อง ของวัดพระนอน ในสมัยนั้นพระครูจุล  ส่งหลวงตาผิว กับหลวงตาจ่าไปอยู่วัดปากแรต ที่กันดาร  คนรอบวัดยากจน  มีอาชีพทำนา บางปีแล้ง  ข้าวไม่พอกิน  บางปีน้ำท้วม  จึงไม่มีพระที่ไหนอยากจะไปอยู่เท่าไร  หลวงตาจ่าท่านอยู่ได้ เพราะท่านเป็นทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่สอง มีบำนาญ  ท่านก็ทำอาหารของท่านเอง เลี้ยงหลวงตาผิว ได้  ทุกปีเวลามีงานวัด ต้องมีการยิงกันตายเสมอ เพราะอยู่กลางทุ่ง ไกลปืนเที่ยง ขโมย  โจร  ชุกชุมในสมัยนั้น มีแต่นักเลง และอดอยาก ยากจนมาก ชาวบ้านมีเพียงผัก ปลาล้า น้ำพริก ลำแม่ลาก็ไม่มีน้ำในหน้าแล้ง  ผมเคยไปบ่อย ไปกับพี่เขย ไปรับข้าวมาสี และไปกับพ่อ เวลามีงานวัด

                   ผมเคยบวชเณร ที่วัดปากแรต เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับลุงฝอย

                   เมื่อน้ำท้วมใหญ่ที่ผ่านมา ชาวบ้านโดนน้ำท้วมนาข้าวหมด  ไม่สามารถหาเจ้าภาพทอดกฐินได้  พี่สาวผม  จึงถูกขอร้องให้ไปช่วยทอดกฐินให้ด้วย เพราะก็ญาติ ๆ กันทั้งนั้น

                   ปีนี้เป็นความต้องการของผม ที่จะทอดกฐิน  เพราะโอกาสต่อไปคงลำบาก  เพราะคงไม่ได้ทำงาน  การทอดกฐินนั้น เป็นประเพณีสำคัญ ของชาติไทย และพุทธศาสนิกชนม์ ที่จะบำรุงวัดให้คงอยู่  วัดก็ได้เงินก้อนจากกฐิน นี่ละไปบำรุงวัด

                   คนที่ไม่มีลูกชาย บวชจึงนิยมทอดกฐิน เสมือนว่าได้บวชพระ มีอานิสสงเท่ากัน

                   ผมก็ยังมีความอยาก อยู่ และมีจิตที่เป็นกุศล  จึงขอทอดกฐิน ในปีนี้

                   ใครจะร่วมด้วย ก็ไม่ขัดข้อง  จะพาไปนอนที่วัดหนึ่งคืน อยู่ชนบท และได้รับประทานปลาช้อนแม่ลาแท้ ๆ แน่นอนจากชาวบ้าน

                   ราตรีสวัสดิ์ทุกท่าน ครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9644 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2556, 20:57:56 »




สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                     พรุ่งนี้ พี่สิงห์ ไปทำงานที่เอเซียคอนกรีต  สมุทรสาคร ทั้งวัน ไม่มี internet

                     และวันที่ ๒๖ - ๒๖ กรกฎาคม  ต้องไปแข่งขันกอล์ฟอาชีพ Super Senior ที่สนาม Royal Hill นครนายก  จัดโดย โปร.มานพ   ทัพวิบูลย์  โดยมีเบียร์สิงห์ เป็นผู้ให้เงินรางวัล

                     และวันที่ ๒๗ - ๒๘  กรกฎาคม  ไปเขื่อนเจ้าเณร ไปเลี้ยงอำลาท่านผู้ว่าการ กฟผ. กับชาวซีมะโด่ง

                     อาทิตย์นี้  จึงไม่ได้ไปทำงานที่นครศรีธรรมราช

                     เมื่อเช้าพี่สิงห์ กินเข้าเช้ากับพี่สาว ที่บ้านวัดพระนอน

                     กลางวันน้องสาว จัดข้าวเพล ให้รับประทานที่บ้าน โรงเรียนอินทโมลีประทาน

                     ถึงแม้จะรับประทานข้าว ๒ มื้อ ก็ยังแข็งแรง  ยังแข่งขันกอล์ฟ ได้  ไม่เป็นอุปสรรค เพราะชินเสียแล้ว ไม่นึกอยากกินในตอนเย็น

                     และมีเงินเหลือเอาไว้ทำบุญได้ ยังมีความจำเป็นอยู่  นอกจากการปฏิบัติธรรม  

                     ยังต้องดูแลพี่สาว และส่งลูกสาวของคนที่ดูแลแม่  เรียนให้จบ  จนสามารถมีอาชีพเลี้ยงตัวเองได้ เป็นการตอบแทนบุญคุณ ที่เป็นเพื่อนแม่มาหลายปี

                     เมื่อถึงเวลานั้น  พี่สิงห์  คงเลิกทำงาน  อยู่จนกว่าจะตายจากโลกนี้ไป  ไม่มีอะไรที่ต้องกระทำอีกแล้ว

                     ก็เรียนให้ทราบ

                     ราตรีสวัสดิ์ครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9645 เมื่อ: 24 กรกฎาคม 2556, 05:35:28 »

สวัสดียามเช้าครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                         "กรรม คือการกระทำ"  ใครทำกรรมดีก็ตาม  ใครทำกรรมชั่่วก็ตาม  ย่อมได้รับผลของกรรมนั้น เสมอ

                           นี่คือ คำสั่งสอนของพระพุทธองค์

                           พุทธศาสนา ไม่ให้พึ่งสิ่งศักดิ์สิทธ์ มาช่วยเหลือใด ๆ เลย  ไม่ให้รอคอยความหวังในการช่วยเหลือ หรือบันดาล  มันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

                           การปฏิบัติธรรมเจริญสติภาวนา นั้น เป็นการทำกรรมดี ที่พระพุทธองค์ ให้เอาความระลึกได้ มาย้อนมองดูกาย  ดูจิตของเรา

                           มองให้เห็นความจริงในกายของเรา  มองให้เห็นความจริงในจิตของเรา

                           กายและจิตของทุกคน มีพฤติกรรมเหมือนกัน  แต่ต่างความคิดกัน เนื่องจากความยึดมั่นถือมั่น ไม่เท่ากัน นั่นเอง

                           เมื่อเราย้อนมามองกาย และจิต  จะพบความจริง  ที่มีอยู่แล้วในทุกคน ไม่ละเว้น ที่เรามองไม่เห็น เพราะเราหลงว่ากายนี้ จิตจี้ เป็นตัวตนของเรา และเป็นความเคยชิน สำหรับคนที่ไม่ได้รับฟังคำสอนของพระพุทธองค์ หรือรับรู้จากการศึกษา

                           เมื่อเราเอาสติมามองหรือติดตามกาย จิต  จะพบความจริงว่า ไม่มีอัดใดเป็นตัวตนของเราเลย มีเพียงรูป(ร่างกายที่ประกอบด้วยธาตุทั้ง ๔) และจิต(ธรรมชาติของการรู้อารมณ์)  เท่านั้น ไม่มีตัวตนแท้จริง (เมื่อเราแยกรูปนามได้) และเราจะเห็น(ความคิด) ว่าทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้นเป็นธรรมดา และดับไปเป็นธรรมดา  ไม่คงอยู่ถาวรเลย  โดยเฉพาะความคิด  เมื่อมันคิดขึ้นมา  (ทำให้ทุกข์)  คงอยู่ระยะเวลาหนึ่ง(เพื่อรอคอยให้กาย ใจกระทำ) และจะดับไปเอง (เมื่อไม่กระทำ คือมีอุเบกขา) การคิด การดับ ล้วนเกิดจากเหตุ-ปัจจัย ทั้งสิ้น เมื่อเหตุ-ปัจจัยไม่มี มันก็ไม่เกิดขึ้น

                          เมื่อจิตมันพบความจริงในกาย ในจิต นี้ มันจะคลายความยึดมั่นถือมั่นส่วนลึกลงได้ ไม่หลงอยู่ในตนเองลง(ความคิด) อยู่อย่างธรรมชาติ  มีสติสมบูรณ์  ก็พ้นทุกข์ได้ เพราะไม่คิด

                         พระโมคคัลลานะเป็นพระอรหันต์  ยังหนีกรรมที่ตนเองเคยก่อในอดีตชาติ คือคิดจะฆ่า พ่อ-แม่ของตน ตามคำยุยงของเมีย  ยังต้องชดใช้กรรมที่เคยก่อเพื่อให้หมดสิ้นไปในชาตินี้  ไม่หนี  ไม่ปกป้องตนเอง  จนถูกโจรฆ่าตาย ในที่สุด  ทั้งๆ ที่ท่านสามารถหลีกเลี่ยงได้

                        กรรมนั้น  ชดใช้กันไม่ได้  แก้กรรมไม่ได้  แต่ทำกรรมดีได้  ด้วยการกระทำที่เป็นกุศล เช่นการเจริญสติภาวนา

                         สวัสดี
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9646 เมื่อ: 24 กรกฎาคม 2556, 07:11:40 »

วันนี้ฝนตกในอัตราร้อยละ 70-80 ของทุกพื้นที่ เหมือนฝนจะตกทั่วฟ้า
แต่มีคำเตือนว่าจังหวัดนครราชสีมา สระแก้ว ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ฝนจะตกหนักถึงหนักมาก
คลื่นในทะเลทั้งสองฝั่งและชายฝั่งทะเลตะวันออกสูง 2-3 เมตร ลมแรง ไม่เหมาะกับการออกทำประมงและท่องเที่ยว
กทม.และปริมณฑล ฝนร้อยละ 80 ของพื้นที่ คงต้องเตรียมอุปกรณ์กันฝนติดมือ ติดรถไปด้วยครับ


พยากรณ์อากาศ ประจำวันพุธที่ 24 กรกฏาคม 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งต่อไปได้อีกในวันนี้ ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดนครราชสีมา สระแก้ว ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนทะเลอันดามันและอ่าวไทย มีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย
สำหรับในช่วงวันที่ 25-26 ก.ค. 2556 ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย จะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลงในระยะนี้
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. 

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ และเพชรบูรณ์

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม เลย ชัยภูมิ และนครราชสีมา

อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคกลาง  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออก  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
บริเวณจังหวัดนครนายก สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด

อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
 
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
 
 
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9647 เมื่อ: 24 กรกฎาคม 2556, 19:29:12 »

สวัสดีครับ คุณเหยง

                         ขอบคุณมากสำหรับข้อมูล

                         วันที่ ๒๔-๒๕ กรกฎาคม  ผมไปแข่งกอล์อาชีพที่ จังหวัดนครนายก  เจอฝนแน่นอนหลีกเลี่ยงไม่พ้น

                          สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #9648 เมื่อ: 24 กรกฎาคม 2556, 21:54:04 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 24 กรกฎาคม 2556, 05:35:28
สวัสดียามเช้าครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                         "กรรม คือการกระทำ"  ใครทำกรรมดีก็ตาม  ใครทำกรรมชั่่วก็ตาม  ย่อมได้รับผลของกรรมนั้น เสมอ

                           นี่คือ คำสั่งสอนของพระพุทธองค์

                           พุทธศาสนา ไม่ให้พึ่งสิ่งศักดิ์สิทธ์ มาช่วยเหลือใด ๆ เลย  ไม่ให้รอคอยความหวังในการช่วยเหลือ หรือบันดาล  มันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

                           การปฏิบัติธรรมเจริญสติภาวนา นั้น เป็นการทำกรรมดี ที่พระพุทธองค์ ให้เอาความระลึกได้ มาย้อนมองดูกาย  ดูจิตของเรา

                           มองให้เห็นความจริงในกายของเรา  มองให้เห็นความจริงในจิตของเรา

                           กายและจิตของทุกคน มีพฤติกรรมเหมือนกัน  แต่ต่างความคิดกัน เนื่องจากความยึดมั่นถือมั่น ไม่เท่ากัน นั่นเอง

                           เมื่อเราย้อนมามองกาย และจิต  จะพบความจริง  ที่มีอยู่แล้วในทุกคน ไม่ละเว้น ที่เรามองไม่เห็น เพราะเราหลงว่ากายนี้ จิตจี้ เป็นตัวตนของเรา และเป็นความเคยชิน สำหรับคนที่ไม่ได้รับฟังคำสอนของพระพุทธองค์ หรือรับรู้จากการศึกษา

                           เมื่อเราเอาสติมามองหรือติดตามกาย จิต  จะพบความจริงว่า ไม่มีอัดใดเป็นตัวตนของเราเลย มีเพียงรูป(ร่างกายที่ประกอบด้วยธาตุทั้ง ๔) และจิต(ธรรมชาติของการรู้อารมณ์)  เท่านั้น ไม่มีตัวตนแท้จริง (เมื่อเราแยกรูปนามได้) และเราจะเห็น(ความคิด) ว่าทุกสิ่งล้วนเกิดขึ้นเป็นธรรมดา และดับไปเป็นธรรมดา  ไม่คงอยู่ถาวรเลย  โดยเฉพาะความคิด  เมื่อมันคิดขึ้นมา  (ทำให้ทุกข์)  คงอยู่ระยะเวลาหนึ่ง(เพื่อรอคอยให้กาย ใจกระทำ) และจะดับไปเอง (เมื่อไม่กระทำ คือมีอุเบกขา) การคิด การดับ ล้วนเกิดจากเหตุ-ปัจจัย ทั้งสิ้น เมื่อเหตุ-ปัจจัยไม่มี มันก็ไม่เกิดขึ้น

                          เมื่อจิตมันพบความจริงในกาย ในจิต นี้ มันจะคลายความยึดมั่นถือมั่นส่วนลึกลงได้ ไม่หลงอยู่ในตนเองลง(ความคิด) อยู่อย่างธรรมชาติ  มีสติสมบูรณ์  ก็พ้นทุกข์ได้ เพราะไม่คิด

                         พระโมคคัลลานะเป็นพระอรหันต์  ยังหนีกรรมที่ตนเองเคยก่อในอดีตชาติ คือคิดจะฆ่า พ่อ-แม่ของตน ตามคำยุยงของเมีย  ยังต้องชดใช้กรรมที่เคยก่อเพื่อให้หมดสิ้นไปในชาตินี้  ไม่หนี  ไม่ปกป้องตนเอง  จนถูกโจรฆ่าตาย ในที่สุด  ทั้งๆ ที่ท่านสามารถหลีกเลี่ยงได้

                        กรรมนั้น  ชดใช้กันไม่ได้  แก้กรรมไม่ได้  แต่ทำกรรมดีได้  ด้วยการกระทำที่เป็นกุศล เช่นการเจริญสติภาวนา

                         สวัสดี


“ กรรม ”


                      กรรม แปลว่า การกระทำ

                      พระพุทธองค์ท่านทรงสอนว่า  “ใครทำกรรมดีก็ตาม ใครทำกรรมชั่วก็ตาม  ย่อมได้รับผลของกรรมนั้นเสมอ ”
กรรมไม่สามารถ แก้กรรมได้  ไม่ช้า  ไม่นานมนุษย์ต้องรับผลของกรรมที่ตัวเองได้ก่อเอาไว้ ทั้งปัจจุบันและอดีตชาติ ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
 
                      ดังพุทธภาษิต

กัมมัสสะโกมฺหิ,            เรามีกรรมเป็นของของตน;
กัมมะทายาโท  (หญิงว่า : ทา).      เราจักต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น;
กัมมะโยนิ,               เรามีกรรมเป็นแดนเกิด;
กัมมะพันธุ,               เรามีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์;
กัมมะปะฏิสะระโณ (หญิงว่า : ณา),   เรามีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย;
ยัง กัมมัง  กะริสสามิ,          เราทำกรรมอันใดไว้;
กัลฺยาณัง  วา  ปาปะกัง  วา,      เป็นกรรมดีก็ตาม เป็นกรรมชั่วก็ตาม;
ตัสสะ ทายาโท (หญิงว่า : ทา)  ภะวิสสามิ.   เราจักต้องเป็นผู้รับผลแห่งกรรมนั้น

                      ดังนั้น กรรมที่เราก่อขึ้นไม่ว่าในโลกปัจจุบัน หรือในอดีตโลก เราต้องได้รับผลของกรรมนั้นเสมอ ไม่สามารถหลีกเลี่ยง ไม่สามารถลดหย่อน หรือไปแก้กรรมนั้นได้ทั้งสิ้น

                      ดังตัวอย่างของ พระโมคคัลลานะ เป็นพระอรหันต์ สำเร็จอภิญญา ๖ มีฤทธิ์มาก ในอดีตชาติ ท่านเคยเกิดเป็นมนุษย์ มีพ่อ-แม่ ตาบอด ที่ท่านต้องเลี้ยงดู จนกระทั่งท่านแต่งงานกับหญิงแพศยา จิตใจต่ำทราม มายุยงท่านให้กำจัดบิดา-มารดาเสียเพื่อว่าตัวเองจะได้ไม่ต้องเลี้ยงดูบิดา-มารดา ของสามีที่ตาบอด

                      พระโมคคัลานะในอดีตชาติ ท่านหลงผิดยินยอมกระทำตามที่ภรรยาขอร้อง แบบเสียไม่ได้ จึงพาบิดา-มารดา ขึ้นเกวียนเข้าไปในป่าห่างไกลผู้คน เมื่อไปถึงที่หน้าผา  ได้ทำทีเอะอะโวยวายว่าโจรกำลังเข้ามาปล้น ฆ่า บิดา-มารดา  ตาบอดได้ฟังดังนั้นก็ตกใจกลัวว่าลูกจะโดนโจรทำร้ายจนถึงแก่ความตาย ก็ได้แต่บอกลูก ให้ลูกจงหนีเอาตัวรอดไปเถิด บิดา-มารดาแก่แล้ว และตาบอด ปล่อยให้โจรทำร้ายบิดา-มารดา แทน

                      พระโมคคัลานะในอดีตชาติ ได้ฟังดังนั้น ก็เกิดความสลดใจขึ้นมา สำนึกบาปที่ตนกำลังจะก่อขึ้นมาได้ ก็ได้ไปกราบบิดา-มารดา บอกเล่าความจริงให้ฟัง ซึ่งบิดา-มารดา ก็ไม่ถือโทษอย่างใดทั้งสิ้น  ผลแห่งกรรมที่พระโมคคัลลานะในอดีตชาติ ได้ก่อไว้จึงมามีผลในชาตินี้ที่เป็นชาติสุดท้าย ไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงใด ๆ ได้ทั้งสิ้น  ท่านจึงยอมรับความจริง  ขอชดใช้กรรมเก่าที่เคยก่อเอาไว้ให้หมดไปในชาตินี้ ที่เป็นชาติสุดท้าย

                      ก่อนที่พระโมคคัลานะ จะนิพพาน โดยมีหมู่โจรมาทำร้าย หมายชีวิตถึงสองครั้ง แต่ก็รอดมาได้ เพราะเป็นผู้มีฤทธิ์มาก และรู้ล่วงหน้าว่าจะมีคนมาฆ่า  จึงหลบหนีได้ทัน  แต่ท่านก็เอะใจ ว่าท่านทำอะไรไว้หน๋อ จึงมีคนคิดมาฆ่า ท่านก็ได้พิจารณาพบความจริงว่า เพราะในอดีตชาติ ท่านเคยคิดฆ่าบิดา-มารดา กรรมนั้นจึงติดตัวมาถึงชาตินี้ เมื่อพบความจริงอันนี้ ท่านเลยยอมรับชะตากรรม ขอชดใช้กรรมเก่าให้หมดไปในชาตินี้  ด้วยการไม่ยอมหนี  ไม่ปกป้อง  จึงถูกโจรทำร้ายแสนสาหัส ปางตาย กลับไปเฝ้าพระพุทธองค์เพื่อกราบลา และกลับมานิพพานที่ถ้ำ ตามกรรมเก่านั้น
 
                       แสดงให้เห็นว่า ถึงแม้ พระโมคคัลลานะ จะเป็นพระอรหันต์ สำเร็จอภิญญา ๖ มีฤทธิ์มาก ก็ไม่สามารถหนีกรรมเก่าที่เคยทำเอาไว้ในอดีตชาติได้

                      หรืออีกตัวอย่างหนึ่ง พระองคุลีมาร ก่อนที่จะมาบวช ท่านเป็นมหาโจร ฆ่าคนไปแล้วถึง ๙๙๙ คน เอานิ้วมือมนุษย์ที่ฆ่ามาร้อยเป็นพวงมาลัยคล้องคอ จนมาพบพระพุทธองค์ ได้ฟังธรรม ได้สำนึกผิด ขอบวชเป็นพระภิกษุ และต่อมาได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ ทุกครั้งที่พระองคุลีมารไปบิณฑบาตร  จะมีชาวบ้านใช้ก้อนอิฐ  ก้อนดิน  ขว้างปาทำร้ายจนได้รับความอันตราย ทุกข์ทรมาร มีเลือดกลับมาทุกครั้ง ท่านก็ยอมรับกรรมที่เคยก่อเอาไว้ทั้งสิ้น ไม่ปกป้อง ใด ๆ เพื่อให้กรรมที่เคยกระทำเอาไว้นั้น ให้หมดไปในชาตินี้ที่เป็นชาติสุดท้าย เช่นเดียวกับพระโมคคัลลานะ เป็นต้น

                 ดังนั้น กรรม ไม่สามรรถแก้กรรมได้ ดังพุทธภาษิตของพระพุทธองค์ ที่กล่าวเอาไว้ข้างต้น

                      การปฏิบัติธรรม เจริญสติภาวนา เป็นการกระทำความดี  เป็นการสร้างกุศลกรรม เป็นทางสายเอกที่ผู้ปฏิบัติตาม สามารถที่จะพ้นทุกข์ได้ แต่ไม่ใช่เป็นการไปแก้กรรมเก่าที่เคยทำเอาไว้ในอดีตให้ลดลง หรือหมดไปได้  ต้องเข้าใจให้ถูกต้องตามพุทธภาษิต ดังได้กล่าวเอาไว้ข้างต้น
 
                      การแก้กรรม เป็นการหลงผิด  เป็นความเชื่อที่ผิด เป็นการกล่าวตู่คำสอนของพระพุทธองค์ โดยแท้ ที่เราชาวพุทธ  ไม่ควรกล่าวตู่คำสอนของพระพุทธองค์

                      เช่นเดียวกับที่เราได้ยินได้ฟังว่า “ธรรมทั้งหลาย เป็นอนัตตา” แต่มีพระวัดหนึ่ง ที่ยิ่งใหญ่ ที่สอนว่า “ธรรมทั้งหลายเป็น อัตตา” เป็นการกล่าวตู่คำสอนของพระพุทธองค์ ไม่สมควรเลยที่เราจะไปส่งเสริม ยินดี หรือสมาคมด้วย เพราะมันเป็นการทำลายพุทธศาสนาโดยแท้ ทั้ง ๆ ที่ตนเองก็ประกาศเป็น สาวกของพระพุทธองค์ แต่กล่าวตู่คำสอนของพระพุทธองค์ ในหลักการพุทธศาสนาเลยทีเดียว

                      ราตรีสวัสดิ์ทุกท่าน ครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #9649 เมื่อ: 25 กรกฎาคม 2556, 09:48:02 »

ฝนลดลงกว่าเมื่อวานนี้เล็กน้อย
แต่คลื่นและลมในทะเลยังแรง เรือเล็กและนักท่องเทียวไม่สมควรออกทะเล


พยากรณ์อากาศ]ประจำวันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฏาคม 2556
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านตอนบนของประเทศไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยเริ่มมีฝนลดลง ส่วนทะเลอันดามันและอ่าวไทย ยังคงมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย
สำหรับในช่วงวันที่ 26-27 ก.ค. 2556 ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านตอนบนของประเทศไทย และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย จะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลงในระยะนี้
 
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ ส่วนมาก
บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ เพชรบูรณ์ และอุตรดิตถ์

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคาย
บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม เลย ชัยภูมิ และนครราชสีมา

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 

ภาคกลาง  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. 

ภาคตะวันออก  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมาก
บริเวณจังหวัดนครนายก สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด

อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร
 
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต

อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล  มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. 
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 384 385 [386] 387 388 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><