29 มีนาคม 2567, 08:30:21
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 11 12 [13] 14  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุณหมอโอภาสเชิญชวนหนุ่มห้าว-สาวแกร่งเดินป่าที่เขาใหญ่ ในวันที่ 11-12 ธค. 53นี้  (อ่าน 114697 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
pornchaiketlek
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 134

« ตอบ #300 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2553, 21:53:48 »


ภาพ และบรรยากาศบริเวณ " สำนัก 708 " - สำนักผู้เฒ่า  เคยปิดเป็นความลับสุดยอด ในระหว่างปี 2516-2519  หลังจากเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519  สำนักผู้เฒ่าย้ายไปประจำชายแดนลาว-จีนเรียกว่า R 1 เพื่อสะดวกในการติดต่อประสานงาน และเพลง 'เดือนเพ็ญ ' ของนายผี น่าจะแต่งในช่วงนี

                        


" กระท่อมลุงไฟ " เป็นต้นแบบกระท่อมที่ลุงไฟ - อัศนีย์ พลจันทร์ เคยอยู่  ยังมีหลายอีกกระท่อม เช่น กระท่อมลุงพโยม พ่อของพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ เคยอยู่  ผมเองก็เคยอยู่กระท่อมแบบนี้  แต่ไม่ใช่ที่นี่  เป็นค่ายที่บ้านห้วยลอย  คนที่อยู่กระท่อมแบบนี้ได้ ต้องเป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูง หรือแต่งงาน-มีครอบครัว  ผมได้อยู่เพราะใช้เป็น ' เรือนหอ ' ครับ

                        

                        
      บันทึกการเข้า
pornchaiketlek
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 134

« ตอบ #301 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2553, 22:11:02 »






                                                  




อุโมงค์หลบภัยจากการโจมตีทางอากาศ
      บันทึกการเข้า
pornchaiketlek
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 134

« ตอบ #302 เมื่อ: 24 ธันวาคม 2553, 22:55:47 »

  













                                  
ภูพยัคฆ์ - วันที่ 10 ธันวาคม 2553
      บันทึกการเข้า
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #303 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2553, 10:05:39 »

น้องโด่ง
ขอบคุณมากที่นำภาพการไปเยือนถิ่นเก่า และได้พบเจอสหายเก่าๆ
ได้ดู ได้อ่านแล้วน้ำตาซึม แม้จะต่างสถานที่ ต่างบุคคล
แต่ความรู้สึกและประสบการณ์ต่างๆ คงไม่แตกต่างกัน

บรรยากาศของความรัก การเอาใจใส่ น้ำใจ ที่มีต่อกัน
ร่วมต่อสู้ ในความยากลำบาก มีกินบ้าง อดบ้าง แต่เราก็อดทน
 ด้วยอุดมการณ์ที่รู้สึกว่ายิ่งใหญ่มากในขณะนั้น

ยังรู้สึกว่าเหตุการณ์ เพิ่งผ่านพ้นไป เมื่อวันวาน
ภาพแห่งความทรงจำไม่เคยลบเลือน เพื่อนที่จากไปในการต่อสู้ในเขตป่าเขา
เพื่อนที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน
และเพื่อนที่ความคิดอ่านผันแปรไป...ไม่อาจคบหากันได้เหมือนเมื่อก่อน
เป็นความเจ็บปวดที่ร้าวลึก ยากจะแก้ไข

ดีมากเลยครับน้องโด่ง ที่นำภาพเหล่านี้มาให้ชมกัน
ขอบคุณ ขอบคุณ และขอบคุณ มากๆเลยครับ


ป่าลำเนาทิวเขาฟ้า  สายธาราผาชันกั้นกาง
อุปสรรคขวากหนามตามทาง  ไม่อาจขัดขวางเราได้
สายธารนักรบประชา
เกียรติประวัติจารึกแต่หลัง สวยสมดังตำนานผ่านมา
เอกราชจักสมอุรา  มีแต่ปักใจฟันฝ่า
ฟ้าดินต้องยอมจำนน
ชูสงครามประชา ช่วงชิงชัยมา ไว้เป็นอนุสรณ์
ปลดปล่อยประเทศ  บ้านเกิดเมืองนอน
คืนสู่ถิ่นฐานมารดร สร้างไทยเจริญรุ่งเรือง

เพลง สายธารนักรบประชา (ไม่ทราบผู้แต่ง)


      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
Leam
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 23,776

« ตอบ #304 เมื่อ: 27 ธันวาคม 2553, 11:34:05 »


ยากจะบรรยายความรู้สึก........

ขอบคุณ ขอบคุณ และขอบคุณ เช่นกันครับ........พี่โด่ง.
      บันทึกการเข้า
KUSON
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,125

« ตอบ #305 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2553, 15:40:28 »

อ้างถึง
ข้อความของ pornchaiketlek เมื่อ 24 ธันวาคม 2553, 22:55:47
 
                                 

       จากดวงใจร้าวราน    เหมือนดังเมื่อวานคืนทุกข์สุขอุรา
อยู่ดง พงศ์พนา               อยู่ไกลนักหนาเขาลำเนาไพร
"โด่ง"เอ๋ยเจ้าจากมาไกล   เจ้าลืมสัญญาของพ่อที่ให้
กลับตัวกลับใจ                 หาพ่อเถอดเอย
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #306 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2553, 17:51:33 »

อ้างถึง
ข้อความของ KUSON เมื่อ 29 ธันวาคม 2553, 15:40:28
       จากดวงใจร้าวราน    เหมือนดังเมื่อวานคืนทุกข์สุขอุรา
อยู่ดง พงศ์พนา               อยู่ไกลนักหนาเขาลำเนาไพร
"โด่ง"เอ๋ยเจ้าจากมาไกล   เจ้าลืมสัญญาของพ่อที่ให้
กลับตัวกลับใจ                 หาพ่อเถอดเอย
ถ้าไม่บอกไม่รู้นะเนี่ย ว่า คุณพ่อของโด่งท่านชื่อ "เถอด"
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #307 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2553, 20:49:07 »

สถานการณ์ช่วงนั้น มีผู้ถ่ายทอดออกมาเป็นตัวหนังสืออยู่หลายท่าน แม้แต่คุณเสกสรรค์ ประเสริฐกุล
ที่คุณโด่ง ถ่ายทอดมานี้ เป็นอีกมุมหนึ่ง ยินดีติดตามต่อหากคุณโด่งจะเล่าขานเพิ่มครับ
      บันทึกการเข้า
jeam
สมาชิกวิสามัญ
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 574

« ตอบ #308 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2553, 22:41:48 »

ณ. เวลานั้น ถ้าใครได้สัมผัส และอยู่ในเหตุการณ์ หรือทราบข้อมูลที่แท้จริง
ก็จะมีความรู้สึกเหมือนดั่งบทเพลงนี้

ความคับแค้นครั้งนี้ จงแปรเปลี่ยนเป็นพลัง ให้กล้าแกร่งดุจดังพายุโหม
เราจะลุกขึ้นสู้ เราจะยอมสู้ตาย แม้ชีวาจะวาย เราก็จะพลี....

ถ้าจำไม่คลาดเคลื่อน ดูเหมือนจะเขียนขึ้นครั้งแรก
ในการต่อสู้ของกรรมกรโรงงาน "ฮาร่า" ที่ต่อสู้ยืดเยื้อยาวนาน

แต่หลังเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 เนื้อเพลง ได้ถูกเปลี่ยนจาก....เราจะลุกขึ้นสู้.....
เป็น.....จับอาวุธขึ้นสู้..... ซึ่งทำให้มีเยาชน นักศึกษา เข้าป่าจำนวนมาก ตามบทเพลงนี้ครับ


<a href="http://www.youtube.com/watch?v=UaxRwno2v1M" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=UaxRwno2v1M</a>
      บันทึกการเข้า

I think, therefore I am.
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #309 เมื่อ: 29 ธันวาคม 2553, 23:01:04 »

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=PvBYGC6Hv1E" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=PvBYGC6Hv1E</a>

ต้องเอาเพลงนี้มาประกบกับคุณเจียมเลยครับ เร้าใจคล้ายอยู่สมัยเดียวกัน
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #310 เมื่อ: 30 ธันวาคม 2553, 09:18:19 »

นี่ก็เป็นอีกเพลงหนึ่ง ที่ ให้ภาพของ ความเจ็บแค้นของนักศึกษาในสมัยนั้น
 และได้เข้าป่าไปร่วมต่อสู้กับ พรรคคอมนิสต์แห่งประเทศไทย
หลังเหตุการณ์ 6 ตค.19



                                          จากลานโพธิ์ถึงภูพาน



คำร้อง : วัฒน์ วรรลยางกูร
ทำนอง: วัฒน์ วรรลยางกูร และสุรสีห์ ผาธรรม


ดินสอโดม ธรรมศาสตร์ เด่นสู้ศึก
ได้จารึก หนี้เลือด อันเดือดดับ
หกตุลา เพื่อนเรา ล่วงลับ
มันแค้นคับ เดือดระอุ อกคุไฟ

เรามีเพียง มือเปล่า มันล้อมปราบ
ระเบิดบาป กระสุนบ้า มาสาดใส่
เสียงเหมือนแตร งานศพ ซบสิ้นใจ
สนามหญ้า คลุ้งกลิ่นไอ คาวเลือดคน

มันตามจับตามฆ่า ล่าถึงบ้าน
อ้างหลักฐานจับเข้าคุก ทุกแห่งหน
เราอดทน ถึงที่สุด ก็สุดทน
จึงเปลี่ยนหนทางสู้ ขึ้นภูพาน

อ้อมอกภูพานคือ ชีวิตใหม่
คือมหาวิทยาลัย คนกล้าหาญ
จะโค่นล้มไล่เฉดเผด็จการ
อันธพาล อเมริกา อย่าหวังครอง

สู้กับปืนต้องมีปืนยืนกระหน่ำ
พรรคชี้นำตะวันแดงสาดแสงส่อง
จรยุทธ์นำประชาสู่ฟ้าทอง
กรรมาชีพ ลั่นกลอง อย่างเกรียงไกร

ในวันนี้ลานโพธิ์ธรรมศาสตร์อาจเงียบหงอย
ก็เพียงช่วง รอคอย สู่วันใหม่
วันกองทัพ ประชาชน ประกาศชัย
จะกลับไป กรีดเลือดพาล ล้างลานโพธิ์...............
.................................................................................
ใครที่เก่งๆ ช่วยเอา you tube มาปะให้หน่อยครับ
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #311 เมื่อ: 30 ธันวาคม 2553, 09:25:02 »

 เพลง "จากลานโพธิ์ถึงภูพาน" แต่งโดย วัฒน์ วรรลยางกูร

เป็นเพลงที่บรรยายความรู้สึกของฝ่ายที่ถูกล้อมปราบ
ในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519, 33 ปีก่อนได้ดีมากเพลงหนึ่ง
หลังจากผ่านเหตุการณ์ 6 ตุลาคม ไม่กี่วัน, วัฒน์ วรรลยางกูร เขียนเนื้อเพลงนี้
 ระหว่างเดินทางในเขตป่าเขา อ. ส่องดาว จ. สกลนคร
เขาเป็นหนึ่งใน กลุ่มนักศึกษาปัญญาชน เดินทางเข้าป่า หลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม
เลือกแนวทางการต่อสู้กับอำนาจรัฐ
ด้วยกำลังอาวุธ ภายใต้การนำของของพรรคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย

เนื้อเพลงบรรยายถึงความแค้น ที่ถูกมวลชนฝ่ายขวาหัวรุนแรง
 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทำอย่างโหดเหี้ยม ไร้มนุษยธรรม
ใช้อาวุธสงครามนาๆชนิด ยิงเข้าใส่ นักศึกษาและประชาชน
ที่กำลังชุมนุมขับไล่พระถนอม บริเวณสนามฟุตบอล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เป็นเหตุให้มีคนเสียชีวิต กว่า 46 คน ไม่แต่เพียงเท่านั้น
 ยังมีการกระทำทารุณกรรมต่อศพผู้เสียชีวิต
เช่น ลากศพไปแขวคอที่ต้นมะขามริมสนามหลวง เอาเก้าอี้ทุบศพ
 เอาเหล็กแหลมตอกอก และจุดไฟเผาประจาน
ภาพการล้อมปราบ และทารุณกรรมศพผู้เสียชีวิต
สื่อมวลชนบันทึกไว้ทั้งภาพถ่าย และภาพเคลื่อนไหว ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก

เหตุการณ์ เช้าวันที่ 6 ตุลาคม เป็นจุดเปลี่ยนที่ส่งผลทั้ง กับขบวนการนักศึกษาปัญญาชน และ
ขบวนการฝ่ายขวา รวมถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลัง การปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมในครั้งนั้น
ด้วยความแค้นเคือง และสิ้นศรัทธาต่อแนวทางสันติวิธี นักศึกษาปัญญาชนจำนวนมากมาย
เดินทางจากเมืองสู่เขตป่าภาคเหนือ อีสาน และใต้
จับอาวุธกับพรรคอมมิวนิสต์ โค่นล้มอำนาจรัฐ เปลี่ยนแปลงมันใหม่ แบบถอดรากถอนโคน
ส่วนขบวนการฝ่ายขวา  เวลาผ่านไปความจริงเริ่มปรากฏ จากความภาคภูมิใจ กลายเป็นความอับอาย
หลายคน หลบลี้หนีหน้า ใช้อภิสิทธิ์ในฐานะที่เป็นชนชั้นผู้ปกครอง ข้าราชการระดับสูง
กลบเกลื่อนความผิดที่ตนกระทำไว้ ไม่กล้าออกมาต่อสู้ความจริง

บทความขนาดยาว ของ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ชื่อ "ใครเป็นใครในกรณี 6 ตุลา"
รวบรวมในหนังสือชื่อ "ประวัติศาสตร์ที่เพิ่งสร้าง"
โดย สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน เป็นบทความที่ดีที่สุดเกี่ยวกับ เบื้องหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519


ท่อนจบของเพลง จากลานโพธิ์ถึงภูพาน ร้องว่า

"...ในวันนี้ลานโพธิ์ธรรมศาสตร์อาจเงียบหงอย
ก็เพียงช่วง รอคอย สู่วันใหม่
วันกองทัพ ประชาชน ประกาศชัย
จะกลับไป กรีดเลือดพาล ล้างลานโพธิ์..."

แน่นอนว่า "วันกองทัพ ประชาชน ประกาศชัย" ไม่เคยเกิดขึ้นจริง
ขบวนการที่พวกเราร่วมต่อสู้ด้วย ค่อยๆล่มสลายลง
ทั้งจากปัจจัยภายใน ความแตกแยกในขบวนการฝ่ายซ้าย
และปัจจัยภายนอก นโยบายเชิงสมานฉันท์ของรัฐบาล พลเอกเปรม ติณสูลานนท์
ทำให้พวกที่เข้าป่า ทยอยกันกลับเข้าเมืองจนหมด
หลายคนถึงกับพูดว่า นี่เป็นความพ่ายแพ้ครั้งที่ 2 หลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม
ถึงกระนั้นก็ตาม ทุกประวัติศาสตร์ย่อมมีบทสรุป
แม้บางครั้ง อาจจะไม่เป็นอย่างที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องการ
สุดท้าย ผู้คนในสังคมก็ต้องหาวิธีจดจำ หรือแม้กระทั้งลืมมัน ในรูปแบบแตกต่างๆกันไป

ผ่านมา 33 ปี ขบวนการนักศึกษาปัญญาชนยุคหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม
 ต่างก็คลี่คลายตัวเอง และสลายตัวเข้ากับระบบที่พวกเขาเคยเกลียด
บ้างก็กลับมายึดอาชีพค้าขาย เป็นนักการเมือง เป็นหมอ เป็นวิศวกร
เป็นอาจารย์สอนหนังสือ เป็นนักดนตรี ฯลฯ ใช้ชีวิตอย่างโอ่อ่าผ่าเผย
จากที่เคยถูกตราหน้าว่า เป็นผู้ทำลายชาติเมื่อ 33 ปีก่อน
ประวัติศาสตร์ได้ย้อนกลับมายกย่องพวกเขาอย่างวีรบุรุษ ผู้เคยต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมในสังคม
ขณะที่ ขบวนการฝ่ายขวา จากที่เคยภาคภูมิใจ
ในฐานะผู้รักชาติ เมื่อ 33 ปีก่อน หลายคนต้องเก็บซ้อนอดีตของตนไว้ในมุมมืด
ดำเนินชีวิตอยู่ในปัจจุบัน อย่างคนที่มีอดีตลึกลับ ไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง แม้แต่ลูกหลานของตัวเอง

เพลง จากภูพานถึงลานโพธิ์ า สุรสีห์ ผาธรรม เป็นผู้แต่งทำนอง
บันทึกเสียงในป่า พ.ศ. 2520 คุณภาพเสียงไม่ดีนัก แต่ก็สะท้อนบรรยากาศของยุคสมัยได้ดี
ผู้ขับร้องเพลงนี้ชือ สรรเสริญ ยงสูงเนิน หรือ สหายฟา ยาดำ
อดีตนักศึกษาวิศวฯ ขอนแก่น (ถึงแก่กรรม มิถุนายน  2545)
บรรเลงดนตรีโดย วง 66 ซึ่งการรวมตัวของนักศึกษา ม.เกษตรฯ กับ ม.ขอนแก่น

ปล. ข้อมูลบางส่วนจากหนังสือ
"สายลมเปลี่ยนทิศ แต่ดวงจิตมิได้เปลี่ยนเลย : ผลึกแห่งชีวิตและเสียงเพลงปฏิวัติไทย"
โครงการบันทึกและเผยแพร่ประวัติศาสตร์งานเพลงปฏิวัติ : บรรณาธิการอำนวยการ, วัฒน์ วรรลยางกูร


      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
KUSON
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,125

« ตอบ #312 เมื่อ: 30 ธันวาคม 2553, 14:07:52 »

    อยากเขี่ยเด็กสวนกุหลาบ     อยากปราบคนเกเร
เฉโกและโฉเก                                ต้องยกให้ ดร.สุริยา 
 ร้ายนัก ร้ายสุดฤทธิ                        พิษสง เกินคณนา         
 เฆี่ยนด้วยหวาย เอาเกลือทา            สมน้ำหน้า  คนปากดี 
         
      บันทึกการเข้า
jeam
สมาชิกวิสามัญ
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 574

« ตอบ #313 เมื่อ: 30 ธันวาคม 2553, 19:49:16 »

"จากลานโพธิ์ถึงภูพาน"
เป็นอยู่นานหลายปีทีเดียว ที่ได้ยินเพลงนี้ จะเกิดก้อนสะอื้นและน้ำตาซึม

Forgive But Not Forget ครับ


<a href="http://www.youtube.com/watch?v=6PGmSq56GGs" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=6PGmSq56GGs</a>
      บันทึกการเข้า

I think, therefore I am.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #314 เมื่อ: 31 ธันวาคม 2553, 10:17:41 »

อ้างถึง
ข้อความของ jeam เมื่อ 30 ธันวาคม 2553, 19:49:16
"จากลานโพธิ์ถึงภูพาน"
เป็นอยู่นานหลายปีทีเดียว ที่ได้ยินเพลงนี้ จะเกิดก้อนสะอื้นและน้ำตาซึม

Forgive But Not Forget ครับ


<a href="http://www.youtube.com/watch?v=6PGmSq56GGs" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=6PGmSq56GGs</a>

ถึงทุกวันนี้ พี่ก็ยังเป็นอยู่...บรรยายไม่ถูกมันอั้นๆอยู่...ไม่ได้เจ็บแค้นแล้ว
 แต่ความทรงจำยังฝังแน่นอยู่เสมอไม่มีวันลืม
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #315 เมื่อ: 31 ธันวาคม 2553, 10:41:46 »

ในยุคนั้น การต่อสู้ของคนงานหญิงโรงงานยีนฮารา พวกเธอถูกจับเข้าคุก
และในเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 พวกนิสิต นักศึกษาประชาชน กรรมกร ชาวนา ที่ร่วมต่อสู้กับเผด็จการ
ถูกจับกุมคุมขังในคุกมากมาย
ความระทมขมขื่นของพวกเธอและเขาเหล่านั้นสะท้อนผ่านเพลงนี้ครับ

แดนตาราง
(ขับร้องโดยวง คุรุชน)

จันทร์เจ้าอยู่บนแดนฟ้า
โปรดมาเห็นใจฉันบ้าง
ฟังทำนองเพลงร้องครวญคราง
เสียงเพลงในแดนตะราง
ร้องครวญครางจากจิตใจ

ทำดีกลับมีคนเห็นเป็นร้าย
ใจฉันนั้นช่างคิดไป แต่คราวนี้ถูกเขาจงใจ
หาความไม่ดีมาให้ ช้ำใจทุกวันทุกคืน

ใครรู้ใครก็ต้องประนาม
สังคมและโลกนี้นี้ทราม ล้วนความไม่จริงสุดฝืน
หวนคิดไปหัวใจเต็มตื้น
คนจนระทมขมขื่น ทุกคืนมันโศรกไม่จาง

คนมั่งมีกดขี่คนจน
กี่หนแล้วเป็นตัวอย่าง
จับเอาเรามาเข้าตาราง
ถึงทีของเราเข้าบ้าง พวกมันจะต้องล่มจม

(น้องเจียมช่วยแปะเพลงให้หน่อยครับ)


แดนตาราง” ผู้แต่งคือ “ร.ต.ต.วาศ สุนทรจามร”

ร.ต.ต.วา ศ สุนทรจามร ถูกขนานนามเป็น “ปัญญาชนปฏิวัติของชนชั้นกรรมกรไทย"
เขาเป็นเพื่อนที่ร่วมงานกับ ถวัติ ฤทธิเดช ผู้นำกรรมการยุคแรก ออกหนังสือพิมพ์กรรมกร
ต่อมาเขายังได้รับเป็นที่ปรึกษาสมาคมกรรมกรต่าง ๆ
กระทั่งถูกจับกุมหลังการรัฐประหารปี ๒๔๙๐ และในปี ๒๔๙๒
เขาลี้ภัยไปอยู่ประเทศจีน และอาศัยอยู่ที่นั่นจนถึงแก่กรรม

.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล บอกเล่าว่า เคยได้รับรู้ว่า วาศ สุนทรจามร อดีตผู้นำกรรมกร ในช่วงปี ๒๔๗๕
ซึ่งเป็นญาติกับ เวศ สุนทรจามร แห่งวงสุนทราภรณ์
(ภายหลังเข้าเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย
เดินทางไปจีนเมื่อต้นทศวรรษ ๒๔๙๐ และไปเสียชีวิตที่นั่น)
 ยังเป็นผู้เขียนเพลง “แด่เธอ” อีกด้วย

“แด่เธอ”
วิญญาณของเธอนั้นไร้พันธนาการ
เสียงเธอก้องกังวานยิ่งกว่าเสียงฟ้าคะนอง
เกียรติของเธอ เสมอดังเรืองแสงทอง
ทาบฟ้าผ่องเรืองรองท้องนภา
เสียงเธอผ่องผุดบริสุทธิ์ด้วยศรัทธา
ก้องกังวานมาจากส่วนลึกแห่งดวงใจ
เสียงเธอก้องฟ้า ข้ามป่าเขาลำเนาไพร
ปลุกความมั่นใจแด่ชนผู้ใฝ่เสรี
ใครกล้าประณามหยามว่าเธอมีราคี
โลกสดุดีเป็นศรีของมวลชน
ความรักศรัทธาใหญ่ยิ่งกว่ามหาสมุทร
ชโลมจิตมนุษย์ให้ผุดผ่องโสภา
เจ้ายืนตระหง่านดุจประการดังเหล็กศิลา
สูงสุดเสียดฟ้าศรัทธาจงเจริญ
แด่เธอผู้มีความรักสูงส่ง
แด่เธอผู้มั่นคงดุจศิลา
แด่เธอนักรบผู้หาญกล้า
แด่เธอผู้มีศรัทธายิ่งใหญ่
แด่เธอผู้มีใจงามแสนงาม
แด่เธอนักรบผู้นำชนชาวไทย
แด่เธอวีรชนผู้ชูโบกธงชัย
แด่เธอผู้มั่นใจในศรัทธา
เมื่อคราแสงทองจะเรืองรองส่องจากขอบฟ้า
วันชัยนั้นจะมาความชั่วช้าจะหมดสิ้นไป
พวกเราพร้อมใจกันเพื่อสร้างสรรค์
เอกราชชาติไทย

ข้อมูลเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยครับ ทายาทของ วาศ สุนทรจามร
คือ “เฉินซัน” ที่เป็นผู้เขียนบทกวี “ปรีดี พนมยงค์”
ที่ “สุรชัย จันทิมาธร” นำมาใส่ดนตรี
จนเป็นเพลง “ปรีดี พนมยงค์” ด้วยครับ


      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
pornchaiketlek
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 134

« ตอบ #316 เมื่อ: 31 ธันวาคม 2553, 21:03:40 »

          
          เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกท่าน

        " เรื่องเล่าเหตุการณ์ในอดีต " ของผมคงจบเท่านี้ครับ  รายละเอียดในอดีตส่วนใหญ่ ผมลืมแล้ว  แต่บางครั้งมีคนถามผมว่า “ รู้สึกคิดผิดไหม ที่ตัดสินใจเช่นนั้น ” และถ้าย้อนเวลากลับมาได้ “ จะตัดสินใจเช่นนั้นไหม ”  
          
       ผมก็จะตอบว่า  “ รู้สึกผิดมากๆ ๆ ๆ  ที่ตัดสินใจเช่นนั้น  เมื่อคิดถึงความรู้สึกของคนที่เป็นพ่อแม่ ครูอาจารย์ เพื่อนพ้อง คนที่ฝากความหวังไว้กับเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้สึกของคนที่เป็นพ่อแม่  ผมมารู้สึกเช่นนี้เมื่อผมมีลูกแล้ว  ผมยังโชคดีกว่าอีกหลายคนที่มีชีวิตกลับมาได้  ได้มีโอกาสรับใช้ดูแลพ่อแม่เมื่อยามชรา และในช่วงสุดท้ายของชีวิตท่าน  ยิ่งได้เห็นความรู้สึกของพ่อ-แม่ ของสหายยง ที่ไปเคารพหลุมศพลูกชาย ที่เล่าในรูปข้างต้นแล้ว  ยากที่จะบรรยาย  แม้เวลาผ่านมา 30 กว่าปีแล้วก็ตาม  แต่ถ้ามองในด้านความรู้สึกส่วนตัวของผมเอง เมื่อย้อนกลับไป  ก็ยังรู้สึกภูมิใจ  คุ้มค่า  เหมือนเอาตัวเองเดินเข้าไปในหนังสือประวัติศาสตร์ " การพัฒนาการทางการเมืองช่วงหนึ่งของสังคมไทย " และด้วยความเป็นคนชอบ และอยากใช้ชีวิตในป่าเขาลำเนาไพรเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว  ก็เลยทำให้ไม่รู้สึกลำบากอะไร  กลับมีความรู้สึกเป็นสุขอย่างประหลาด เมื่อได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติดั้งเดิมเช่นนี้  ถ้าย้อนเวลาได้  ก็คงตัดสินใจเช่นนั้นอีก  แต่ไม่ขอพาตัวเองกลับเข้าสู่กระแสอขงความขัดแย้ง และสงครามอีก  ไม่ว่าอดีต หรือปัจจุบัน ”
            
       ความจริงแล้วความขัดแย้งทางการเมืองจะกี่ครั้งที่ผ่านมาในไทย  ล้วนมีรากเหง้าความขัดแย้งของการแย่งชิงการจัดการทรัพยากรของอภิมหาอำนาจของโลกทั้งนั้น  ต่างฝ่ายต่างหาทฤษฎีที่ก้าวหน้าที่สุด ทันสมัยที่สุด มาอธิบายถึงความถูกต้องชอบธรรมในการจัดรูปแบบการปกครอง และจัดสรรทรัพยากร  ยุยงให้คนเลือกเข้าข้างตน และชี้หน้าอีกฝ่ายว่าเลวร้ายอย่างไร  ทุกวันนี้ความขัดแย้งเช่นนี้จะยังไม่จบสิ้น  หากแต่จะรุนแรงยิ่งขึ้นทุกวัน  ต่างฝ่ายต่างยืนชี้หน้าว่าอีกฝ่ายว่าผิด  ชั่วร้าย  ต้องแก้ไขเปลี่ยนแปลงทันที  พร้อมหาวิธีการสื่อสารที่แยบยล ยั่วยุให้มีการต่อสู้อย่างรุนแรง  แล้วจะเกิดนักบริหารจัดการความขัดแย้งในสถานการณ์รุนแรง  ถ้าฝ่ายไหนชนะ จะได้รับชื่อว่าเป็น “ วีรบุรุษประชาธิปไตย ”  พร้อมผลประโยชน์ ลาภ ยศ สรรเสริญ เหลือคณานับ  ทุกวันนี้โชคดีอยู่นิดนึง ที่เยาวชนลูกหลานเขาพวกเราในวันนี้ไม่สนใจ  จึงทำให้โศกนาฏกรรมที่เคยเกิดขึ้นช่วงที่ผ่านมาจึงไม่เศร้านัก

        สำหรับผมบทสรุปให้กับตัวเองว่า  ด้วยความเยาว์ ความเขลา มีแต่จิตใจที่มุ่งแสวงหาความหมาย  และจูนคลื่นความคิด รับกระแสเอียงซ้ายได้  จนพาตัวเองเข้าสู่พายุหมุน-ใต้ฝุ่นทางการเมือง  จนยากที่จะหลุดออกจากกระแสได้  เมื่อสถานการณ์วิกฤตมีทางหลายแพ่งให้เลือกเดิน  ก็ตัดสินใจเดินในหนทางที่มีให้ขณะนั้น  คิดว่ากล้าหาญ  ถูกต้องที่สุดแล้ว  แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป เรามีวุฒิภาวะมากขึ้น  จึงค่อยเห็นต่างไปจากที่เคยคิดในอดีต
          
       เล่าเรื่องเก่าๆ ของตัวเองมายืดยาว  อ่านแล้วเครียดเปล่าๆ  แต่อยากฝากบอกใครต่อใครว่า " ความจริงแล้ว คนเคยอยู่ป่าก็ดี  ผู้นำม็อบทั้งหลาย ที่ทำท่าเสียงดังฟังชัดขณะนี้ก็ดี  จิตใจพวกเขาก็ไม่ได้แข็งกร้าว กระด้างกระเดื่องอะไรนักหรอก  หากแต่เต็มด้วยความโลภ โกรธ หลง ถือทิฐิ  และมี รัก เศร้า เหงา ท้อแท้ และอ่อนแอ  แต่บ้างเวลาก็ โรแมนติกอย่างยิ่งเชียวนะจะบอกให้ "


<a href="http://www.youtube.com/watch?v=NocnUkEVLIg" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=NocnUkEVLIg</a>
      บันทึกการเข้า
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #317 เมื่อ: 01 มกราคม 2554, 12:16:46 »

น้องโด่ง และ เพื่อนพ้องน้องพี่

ขออนุญาตแสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนในประเด็นที่โด่งพูดมา
( เป็นความรู้สึกนึกคิดของแต่ละบุคคล ไม่เกี่ยวว่าใครคิดดีกว่ากัน
เพียงแต่อยากแชร์ความคิดเห็นที่ต่างกัน แค่ยั้นเอง)

สำหรับตัวผมแล้ว การตัดสินใจเข้าป่าครั้งนั้น ตราบทุกวันนี้
ในคำถามเดียวกันว่า ตัดสินใจถูก หรือ ผิด ในการเข้าป่า
ส่วนตัวผม ขอตอบว่า ตราบทุกวันนี้ ไม่เคยรู้สึก ว่าตัดสินใจผิดเลย
การได้เข้าไปม่ส่วนร่วมในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญที่ผ่านมา
รู้สึกว่า เป็นโอกาสที่หาไม่ได้อีกแล้ว และเป็นโอกาสที่ควรจดจำเสมอมา และตลอดไป
แม้ว่า ผมได้ผ่านเหตุการณ์การสูญเสียของคนรอบข้าง ไม่ว่า เพื่อน รุ่นน้องที่คณะ
ต้องผ่านการไปพบ พ่อ แม่ เพื่อบแกว่า เขาได้สูญเสีย คนที่เขารักไปแล้ว
ได้พบเห็นความเศร้าโศกเสียใจ ของบุคคลต่างๆดังกล่าว
เข้าใจ และเสียใจอย่างสึดซึ้งเช่นกัน
แต่ก็ยังรู่สึกว่า ไม่ได้ตัดสินใจผิด ในครั้งนั้น
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ก็จะตัดสินใจเช่นนั้นอีกเหมือนเดิม


สำหรับความขัดแ้ย้งที่เกิดขึ้นไม่ว่าเมือ่ไดก็ตาม มันต้องมีฝ่ายหนึ่งถูก และฝ่ายหนึ่งผิดเสมอ
และฝ่ายที่ชนะ ไม่จำเป็นว่าเป็นฝ่ายถูกเสมอไป
 มันขึ้นกับกลยุทธในการต่อสู้ อำนาจในมือไม่ว่าอาวุธ คน สื่อฯลฯ
เหตุการณื 14 ตุลา และ 6 ตุลา แน่นอน เผด็จการทหารไม่ถูกแน่นอน
และการเข้าร่วมต่อสู้กับขบวนการนิสิตนักศึกษาประชาชนขณะนั้นน่าจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องในขณะนั้น
การขัดแย้งของทักษิณ กับพันธมิตร ทุกคนก็ประจักว่า ทักษิณไม่ถูกอย่างแน่นอน
หรือ เหตุการณ์ เสื้อแดงกับรัฐบาลอภิสิทธิ์ แน่นอน เสื้อแดง ย่อมไม่เป็นฝ่ายถูกอย่างแน่นอน
( เหตุผลคงไม่ต้องอธิบาย บุคคลที่มีความคิดอ่านอย่างมีเหตุผลน่าจะเข้าใจเรื่องนี้ดี)
การเข้าร่วมหรือไม่เข้าร่วม ในความขัดแย้ง ย่อมสท้อนให้เห็นถึงตัวตนของคนนั้นๆว่าเขามีความคิดอ่านอย่างไร
ในส่วนตัวเมือ่วิเคราะห์อย่างมีเหตุผลแล้ว ก็ยังจะเข้าร่วมกับ
ฝ่ายที่เรามองแล้วว่าถูกต้อง มุ่งที่จะกระทำเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม
จะไม่เข็ด หรือ เลิกที่จะเข้าร่วมกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม

คนเราเกิดมาแล้วก็ต้องตาย ไม่มีใครหนีพ้น
ช่วงชีวิตตั้งแต่เกิด เติบโต แก่ ตาย
แต่ละคนดำเนินชีวิตไปตามเส้นทางที่แต่ละคนเลือกแล้ว
ความหมายของการมีชิวิตอยู่เพื่อใครและ อย่างไรก็แตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล


ก็เพียงแต่เข้ามาแลกเปลี่ยน และรู้สึกว่าการพูดคุยเรื่องราวเหล่านี้
เป็นการบำรุงสติปัญญา และรู้สึกว่า มันมีค่าที่จะพูดคุย และแลกเปลี่ยนกัน


โกวเล้ง นักเขียนนวนิยายกำลังภายใน เขียนไว้ในเรือง ฤทธิ์มีดสั้น
"คนที่ไม่คิดถึงตัวเองเป็นคนน่าสงสาร
แต่คนที่ไม่คิดถึงคนอื่น ยิ่งน่าสงสารกว่า"

"ยังพอมีปัญญาบอกไม่ให้ฆ่าคนได้ แต่ไม่สามารถบังคับให้รักได้"
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
pornchaiketlek
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 134

« ตอบ #318 เมื่อ: 03 มกราคม 2554, 13:36:49 »

                 
                  ขอบคุญมากพี่ตะวันมาแชร์เรื่องนี้
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #319 เมื่อ: 03 มกราคม 2554, 13:40:56 »

โด่ง

สวัสดีปีใหม่ 2554 ครับ
      บันทึกการเข้า
KUSON
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,125

« ตอบ #320 เมื่อ: 06 มกราคม 2554, 16:32:49 »

สวัสดีปีใหม่ 2544 สำหรับผู้เข้ามาอ่านทุกๆท่านครับ
พี่ป๋องครับ
ใหนๆก็เข้ามาอ่านแล้ว
ช่วยเขียนให้กำลังใจพี่ๆน้องๆหน่อยสิครับ
      บันทึกการเข้า
prapasri AH
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,256

เว็บไซต์
« ตอบ #321 เมื่อ: 06 มกราคม 2554, 21:13:59 »

โด่งคะ

พี่แอ๊ะแอบมาอ่านเรื่องที่โด่งเล่า มาหลายวัน กะว่าวันไหนว่างๆแล้วจะมานั่งอ่านแบบร้อยเรียงให้จบ

เพื่อที่จะได้เเชร์ ความรู้สึกที่ต้องเจ็บปวดจากการพลัดพรากในช่วงนั้น

 


คิดถึงโด่งมาก

เป็นห่วงโด่งตลอดเวลา ถ้าโด่งได้ทราบว่า พี่แอ๊ะตามหาโด่งหลายสิบปี ทีเดียว

พอทราบว่าโด่งได้กลับมาทำงานทีดี มีชีวิตที่ดี พี่แอ๊ะก็สุดจะดีใจ

แล้วก็ส่งข่าวถึงหลายๆคน ว่าโด่งกลับมาแล้ว..


หลายคนที่พี่แอ๊ะ ตามหา อย่างพี่พิรุณ ฉัตรวณิชกุล

พอพี่ออกมาพี่เขาไปทำร้านขายหนังสือ และสื่อการเรียนทีพัฒนาเด็ก เเถวซีคอน หรือเสรีเซ็นเตอร์?

พี่แอ๊ะรีบอุดหนุนสินค้าเขาตั้งสามพันกว่าบาท ตอนนั้นมากๆๆๆๆๆๆๆๆ

แต่ต้องการให้ "ต้นกล้า" ได้เรียนรู้ สิ่งประดิษฐ์ที่พี่เขานำมาขาย

แต่พี่เขาไม่ยอมเอาเงิน

พี่บอกว่าเขาไม่เคยลืมบุญคูณพี่แอ๊ะเลย  พี่กลับมาแล้วอยากตอบแทนบุญคุณแอ๊ะบ้าง

พี่แอ๊ะก็ไม่ยอม เพราะอยากมา ช่วยพี่เขา

 เพราะสงสารพี่มาก ดีใจที่พี่เขากลับมา

จริงๆ พี่แอ๊ะสัมผัส กับเรื่องในป่ามาก  เรียกว่าอยู่ชายป่าเลยทีเดียว แต่ชาวหอไม่ค่อยทราบ
แล้วจะมาเล่าให้ฟังต่อนะคะ
ขอไปซับน้ำตาก่อนค่ะ
      บันทึกการเข้า

ชาวหอ ชาวหอจุฬา สดใสเริ่งรา เมื่อมาร่วม สามัคคี
pornchaiketlek
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 134

« ตอบ #322 เมื่อ: 06 มกราคม 2554, 22:48:44 »

    
         ขอบคุณครับพี่แอ๊ะ  ผมซาบซึ้งในความเอื้ออาทรของพี่ที่มีต่อผมตลอดมาครับ  ประมาณปี 42  พอพี่แอ๊ะทราบข่าวว่าผมทำงานที่ใหนจากพี่สนิท  พี่ก็รีบโทร.นัดพบผมทันที ที่ร้านอาหารแถวๆ ซอยทองหล่อ  ผมยังจำได้ดีครับ
  
       ผมกลับจากป่ามาในปี 26   ในปี 28-29 ได้ไปทำงานเหมืองแร่ดีบุกที่ห้วยมุด  อ.บ้านนาสาร  จ.สุราษฏร์ธานี  และได้พบกับ พรเทพ  ถามพรเทพว่าทำอาชีพอะไรอยู่  พรเทพบอกว่าเป็น " ทนาย "   พรเทพถามผมว่า ผมมาทำอะไรที่นี่  ผมบอกว่า มาเป็นผู้จัดการเหมืองแร่ดีบุกที่ห้วยมุด  เราสองคนทำอาชีพสลับกันแท้ๆ  เรื่องแปลก แต่จริง  
      บันทึกการเข้า
อ้อย 14
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,055

« ตอบ #323 เมื่อ: 07 มกราคม 2554, 13:04:54 »

อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 29 ธันวาคม 2553, 17:51:33
อ้างถึง
ข้อความของ KUSON เมื่อ 29 ธันวาคม 2553, 15:40:28
       จากดวงใจร้าวราน    เหมือนดังเมื่อวานคืนทุกข์สุขอุรา
อยู่ดง พงศ์พนา               อยู่ไกลนักหนาเขาลำเนาไพร
"โด่ง"เอ๋ยเจ้าจากมาไกล   เจ้าลืมสัญญาของพ่อที่ให้
กลับตัวกลับใจ                 หาพ่อเถอดเอย
ถ้าไม่บอกไม่รู้นะเนี่ย ว่า คุณพ่อของโด่งท่านชื่อ "เถอด"

ขอขอบคุณ ที่ทำให้หัวเราะในเดือนมกราคม 2554 นี้  ขออวยพรให้พี่ป๋องคงความคมคาย ไปตลอดศกเลยนะคะ
      บันทึกการเข้า
อ้อย 14
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,055

« ตอบ #324 เมื่อ: 07 มกราคม 2554, 13:08:08 »

อ้างถึง
ข้อความของ KUSON เมื่อ 30 ธันวาคม 2553, 14:07:52
    อยากเขี่ยเด็กสวนกุหลาบ     อยากปราบคนเกเร
เฉโกและโฉเก                                ต้องยกให้ ดร.สุริยา 
 ร้ายนัก ร้ายสุดฤทธิ                        พิษสง เกินคณนา         
 เฆี่ยนด้วยหวาย เอาเกลือทา            สมน้ำหน้า  คนปากดี 
         

สำหรับ ดร.กุศล ขอแสดงความนับถือว่า เป็นโคลงสี่สุภาพ แห่งปีของน้องเลย...หลุดจากวังวนไปได้อย่างไรหนอ...
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 11 12 [13] 14  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><