พม.เตรียมทำประชาพิจารณ์ กม.ลงโทษผู้ชายทำหญิงท้องต้องทำแท้ง

[Samrotri2517]

                    ดัน กม.ลงโทษชายทำหญิงท้องต้องทำแท้ง
ขอขอบคุณเวบเดลินิวส์ วันจันทร์ ที่ 29 พฤศจิกายน 2553 สนับสนุนเนื้อหาข่าว
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=419&contentID=107076

           พม.เตรียมทำประชาพิจารณ์ กม.ลงโทษผู้ชายทำหญิงท้อง
                ต้องทำแท้ง หากสังคมหนุน พร้อมดัน กม.ออกทันที

                      

         นายอิสสระ สมชัย รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)

         วันนี้ (29 พ.ย.) ที่โรงแรมมารวยการ์เด้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอิสสระ สมชัย รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงว่า ขณะนี้ ตนเสนอ

ร่างยุทธศาสตร์ป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนตั้งครรภ์ไม่พร้อม 6 ยุทธศาสตร์ คือ

1.ยุทธศาสตร์ด้านการป้องกัน

2.ยุทธศาสตร์ด้านการช่วยเหลือและบำบัดฟื้นฟู

3.ยุทธศาสตร์การเสริมสร้างบทบาทและองค์ความรู้แก่กลุ่มผู้นำทางความคิดของเด็กและเยาวชน

4.ยุทธศาสตร์การขจัดสิ่งยั่วยุและอิทธิพลจากสื่อ

5.ยุทธศาสตร์ด้านการผลักดันนโยบาย และ

6.ยุทธศาสตร์สำรวจข้อมูล การพัฒนาระบบงาน และการติดตาม

         เตรียมเสนอครม.เพื่ออนุมัติแล้ว

         โดยเฉพาะได้มีการกำหนดยุทธศาสตร์ มาตรการส่งเสริมความรับผิดชอบต่อผู้ทำให้ผู้หญิงท้องไม่พร้อม ต้องมีการดำเนินคดีกับผู้ล่วงละเมิดทางเพศเด็กและเยาวชนตามกฎหมายกำหนด ไม่ควรสนับสนุนให้มีการไกล่เกลี่ยและลงท้ายด้วยการยอมความกัน

         “ดังนั้นผู้ชายต้องรับโทษทางอาญาด้วยหากทำให้ผู้หญิงตั้งท้องแล้วไปทำแท้ง โดยการแก้กฎหมายเอาผิดผู้ชายนั้น ผมกำลังเตรียมจัดประชุมใหญ่ เชิญทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นในเรื่องการลงโทษผู้ชาย หากสังคมเห็นด้วย ก็จะเสนอออกมาเป็นกฎหมาย หรือเสนอให้กระทรวงสาธารณสุขที่ดูแลกฎหมายทำแท้งดำเนินการ เพื่อลดปัญหาทำแท้งได้ตรงจุด กว่าการไปขยายกฎหมายเปิดช่องให้ทำแท้งเพิ่มขึ้นซึ่งเป็นเรื่องปลายเหตุ

         โดยปัญหานี้ผู้หญิงถูกสังคมประณาม ขณะนี้ผู้ชายลอยนวลอยู่ ดังนั้นต้องจัดการที่ต้นเหตุ เบื้องต้นที่รับฟังก็มีคนร่วมสนับสนุนด้วยจำนวนมาก” รมว.การพัฒนาสังคมฯ กล่าว.

                          

[เหยง 16]

วิจารณ์เรื่องนี้ ค่อนข้างหมิ่นเหม่กับคำว่า ศีลธรรม จริงๆ
การจะดำเนินคดีกับชาย คงต้องอาศัยการตรวจ DNA ของชายและซากทารกที่ทำแท้งให้ตรงกัน เพื่อเป็นหลักฐานการเป็นพ่อ-ลูก หรือใช้ทฤษฎีใด
ขอเสนอตุ๊กตา สัก 2-3 ประเด็นครับ

ประเด็นที่ 1. ชายไปเที่ยวสถานบันเทิงหรือสถานอโคจร และมีเพศสัมพันธ์กับหญิง(ซึ่งไม่เคยรู้จักกับชายนั้นมาก่อน และมีเพศสัมพันธ์ในวันนั้นหลายครั้งกับชายหลายคน) โดยหญิงไม่ได้ระมัดระวังอย่างเพียงพอ ต่อมาเกิดท้องและไปทำแท้ง และถูกตำรวจจับได้ขณะทำแท้ง
     จะสืบสวน สอบสวน ติดตามหาชายที่เป็นพ่อของเด็กกันอย่างไร, ต้องตรวจ DNA จากซากทารกที่ทำแท้งเพื่อมัดตัวชายใช่หรือไม่ ??, ที่สำคัญชายไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับหญิงฉันชู้สาวเพื่อให้เกิดบุตรและสร้างครอบครัว จะใช้หลักเจตนาแบบไหนในการดำเนินคดี
     หรือต่อไป หญิงต้องขอสำเนาบัตรประชาชนของชายที่ไปเที่ยวไว้ทุกคน เพื่อสามารถหาผู้รับผิดในเหตุการณ์ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ?? !!

ประเด็นที่ 2. หญิงโสด ดาราหรือนางแบบหญิง(ซึ่งสังคมเชื่อว่าเป็นโสด) ไปเที่ยวสถานบันเทิง ออฟเด็กชายออกมา ต่อมาเกิดมีท้องขึ้นและไปทำแท้ง แล้วถูกตำรวจจับได้ กรณีนี้จะดำเนินคดีกันอย่างไร ?? มีผลกระทบสังคมขนาดไหน

ประเด็นที่ 3. หญิงมีสามีแล้ว (ทั้งที่จดทะเบียนสมรส และไม่จดทะเบียนสมรส) ต่อมามีท้องและไปทำแท้ง ตำรวจจับได้ ตรวจ DNA ของซากทารกที่ทำแท้ง พบว่า DNA ไม่ตรงกับสามีที่หญิงอยู่ด้วยในขณะตั้งท้อง จะดำเนินคดีกันอย่างไร ?? มีผลกระทบสังคมขนาดไหน ??

[khesorn mueller]

เอ,พี่ๆ
ไปบังคับให้มารับ คงไม่ง่ายคะ
ในเมื่อในสติ มโนสำนึกเค้า
ต่อต้านปฏิเสธมาแต่ต้น...
เค้าขาดความรับผิดชอบ เค้าขาด
ความเป็นผู้ใหญ่ที่กล้าทำกล้ารับ
นี่กรณีชาย-หญิง 1+1=3 ที่ไม่ไช่กรณี
มากที่มา มากหน้า หลายพันธุ์!นะคะ.

เรื่องนี้มองได้หลายมุมทีเดียวคะ
ว่าท้องต้องทำแท้งกรณีไหน?
-ถูกกระทำชำเรา
-โรคภัยที่อาจอันตรายต่อชีวิตแม่
-สภาพจิตใจของแม่
-สภาพครอบครัว(เลี้ยงไม่ไหว)
..
..
กรณีอื่นๆ ล่อแหลมคะ!
เพราะเป็นเรื่องส่วนบุคคล
ที่คน 2 คนควรที่จะพูดคุยกันก่อน.
sexกับความรับผิดชอบ-หน้าที่
เป็นรองเท้าคนละข้างกันคะ
..
หนิงว่า.