01 พฤศจิกายน 2567, 06:36:18
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 18 19 [20] 21 22 ... 29  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม  (อ่าน 579116 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #475 เมื่อ: 31 มกราคม 2553, 21:47:32 »

อ้างถึง
ข้อความของ ราเมศวร์ เมื่อ 25 มกราคม 2553, 23:05:52
หมอสำเริง :  " ขอพวกเรา ที่ติดต่อพี่ราเมศวร์ได้  เสนอพี่ให้พิจารณาสร้างซอฟแวร์พันธุ์ไทยขึ้นมาใช้  พร้อมบริการให้กับกระทรวงสาธารณสุขไว้ใช้ทั้งประเทศ  ให้คนไข้เข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพได้ทุกที่ๆ สะดวก  แทนที่จะต้องมานั่งรอตรวจที่ ร.พ.ดัีง ๆ  เป็นตรวจที่ ร.พ.สร้างเสริมสุขภาพตำบลใกล้บ้าน  พบแพทย์ทางเทเลเมดดิซิน กับแพทย์ที่ต้องการพบได้  ไม่ต้องง้อซอฟแวร์ต่างชาติครับผม "

กรณีนี้เรื่องค่อนข้างยาว  หากต้องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น  ให้หมอสำเริงติดต่อผมหลังไมค์ดีกว่า  ทางเมล์ หรือโทรศัพท์ก็ได้ครับ


สวัสดีค่า ยินดีต้อนรับ RCU2516
เข้ามารีแลกซ์บ่อยๆนะคะ
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #476 เมื่อ: 01 กุมภาพันธ์ 2553, 16:54:55 »

อ้างถึง
ข้อความของ pusadee sittipong เมื่อ 31 มกราคม 2553, 21:47:32
อ้างถึง
ข้อความของ ราเมศวร์ เมื่อ 25 มกราคม 2553, 23:05:52
หมอสำเริง :  " ขอพวกเรา ที่ติดต่อพี่ราเมศวร์ได้  เสนอพี่ให้พิจารณาสร้างซอฟแวร์พันธุ์ไทยขึ้นมาใช้  พร้อมบริการให้กับกระทรวงสาธารณสุขไว้ใช้ทั้งประเทศ  ให้คนไข้เข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพได้ทุกที่ๆ สะดวก  แทนที่จะต้องมานั่งรอตรวจที่ ร.พ.ดัีง ๆ  เป็นตรวจที่ ร.พ.สร้างเสริมสุขภาพตำบลใกล้บ้าน  พบแพทย์ทางเทเลเมดดิซิน กับแพทย์ที่ต้องการพบได้  ไม่ต้องง้อซอฟแวร์ต่างชาติครับผม "
กรณีนี้เรื่องค่อนข้างยาว  หากต้องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น  ให้หมอสำเริงติดต่อผมหลังไมค์ดีกว่า  ทางเมล์ หรือโทรศัพท์ก็ได้ครับ
สวัสดีค่า ยินดีต้อนรับ RCU2516
เข้ามารีแลกซ์บ่อยๆนะคะ

        ผม ได้ส่งหลังไมค์ไปหาแล้ว แต่พี่ราเมศวร์ ยังไม่ตอบกลับมา

                gek gek gek
      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #477 เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2553, 10:45:31 »

Bet you did not know this ! : Welcome February 2010 ... once in 11 Years ...

เสรษฐวิทย์ - นิเทศ 16 ... ส่งมา

      บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #478 เมื่อ: 04 กุมภาพันธ์ 2553, 12:20:02 »

รถเมล์ไทยในอนาคต ... น่าทึ่งจริงๆ

เสรษฐวิทย์ - นิเทศ 16 ... ส่งมา











Wow !  ฝันจะเป็นจริงเมื่อไหร่เนี่ย ? ... จะทันได้ใช้ในชาตินี้มั้ย ?  ตื่นเต้น  ตื่นเต้น !
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #479 เมื่อ: 04 กุมภาพันธ์ 2553, 16:49:05 »

ตัดภาพเก่งจังคะพี่
ดูผ่านๆคิดว่าจริง
เอ๊ะ,ทำไมการจราจรไม่แน่นเลยคะ?
คนไปไหนกันหมด.
      บันทึกการเข้า


Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #480 เมื่อ: 07 กุมภาพันธ์ 2553, 12:36:32 »

ทำนายโลกแห่งเทคโนโลยีในอนาคต

เสรษฐวิทย์ - นิเทศ 16 ... ส่งมา



การทำนายลักษณะโลกแห่งเทคโนโลยีในอนาคต ได้ตีพิมพ์ในวารสารเทคโนโลยีของประเทศอังกฤษ ชื่อว่า วาร์ยด์ ( Wired ) ซึ่งวางตลาดแล้วในประเทศอังกฤษ เมื่อไม่นานมานี้

อันดับที่ 1 มีสัญญาณเครือข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ( Wi-Fi ) ทั่วทั้งเมือง ( ปี 2010 )

ซู ปาค์กเกอร์ นักมานุษยวิทยากล่าวไว้ว่า  อีกไม่นานไม่ว่าจะเป็นเมืองเล็ก หรือเมืองใหญ่  ก็จะมีสัญญาณอินเตอร์เน็ต หรือเครือข่ายไร้สายที่สามารถเชื่อมต่อได้ด้วยความเร็วสูงในการรับส่งข้อมูล  ที่สำคัญไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ  ซึ่งจะถือเป็นการพัฒนาระบบสารสนเทศให้ก้าวหน้าอีกขั้น

อันดับที่ 2 การพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีด้านชีวภาพ ( ปี 2013 )

การศึกษาผลกระทบของยาปฏิชีวนะต่อร่างกาย  สามารถทำได้โดยง่าย และมีความรวดเร็ว  เนื่องจากความแม่นยำ และคงที่ของคอมพิวเตอร์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาให้มีความสามารถมากขึ้น

อันดับที่ 3 หุ่นยนต์เริ่มเข้ามามีบทบาท ( ปี 2014 )

ในอนาคตหุ่นยนต์จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของมนุษย์มากขึ้น  และจะสามารถทำงานแทนมนุษย์ได้  โดยในบางชิ้นงานยังจะสามารถทำงานได้ดีกว่ามนุษย์  ประเทศเกาหลีใต้เพิ่งเปิดตัวเมืองหุ่นยนต์เมื่อไม่นานมานี้  โดยทั้งเมืองจะมีประชากรหุ่นยนต์ และอาจจะมีประธานาธิบดีที่เป็นหุ่นยนต์อีกด้วย  โดยลงทุนเป็นเงินมหาศาลในการพัฒนาเมืองหุ่นยนต์ขึ้นมา
 
อันดับที่ 4 โปรแกรมช่วยค้นหาข้อมูลที่เชื่อมโยงกันทุกอย่าง ( ปี 2014 )

อิริค ฮอร์เวส นักวิจัยของไมโครซอร์ฟ กล่าวว่าจากการที่เรามีการเก็บข้อมูลต่างๆ ไว้ในรูปแบบอิเลกทรอนิกส์  ที่ไม่ใช่เป็นแบบกระดาษเหมือนสมัยก่อน  ทำให้มีการนำเอาข้อมูลต่างๆ มาเชื่อมโยงกันเพื่อนำไปใช้งานในด้านต่างๆ  ซึ่งข้อมูลที่เก็บในฐานข้อมูลจะมีการถูกออกแบบโครงร่างความสัมพันธ์ของข้อมูลเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลเหล่านั้นเข้าด้วยกัน  สิ่งที่มนุษย์ต้องพัฒนา คือหาความสัมพันธ์ที่เหมาะสมในการเชื่อมโยงข้อมูลเหล่านั้น  และเมื่อใดก็ตามที่ข้อมูลทุกอย่างสามารถเชื่อมต่อกัน  ก็จะทำให้การเรียนรู้สิ่งต่างๆ เป็นไปได้ไม่ยาก และง่ายต่อการทำงาน

อันดับที่ 5 โปสเตอร์โฆษณาแสนฉลาด ( ปี 2015 )

การใช้งานโปสเตอร์ที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบ และตำแหน่งเหมือนกับจอโทรทัศน์ได้  จะถูกพัฒนา และนำมาใช้ในไม่ช้า  และการที่ป้ายลักษณะนี้สามารถเปลี่ยนสิ่งที่แสดงผลเหมือนจอโทรทัศน์  ก็จะทำให้มันมีมูลค่า และมีประสิทธิภาพในการใช้งานมากขึ้น

อันดับที่ 6 หน้าต่างไฮเทค ( ปี 2017 )

ลักษณะพิเศษของหน้าต่างนี้คือ  สามารถที่จะทำความสะอาดตัวเองได้  โดยใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์

อันดับที่ 7 เครื่องบรรจุสิ่งของไฮเทค ( ปี 2017 )

เครื่องบรรจุสิ่งของที่สดแสนจะทันสมันนี้  จะมีการทำงานโดยใช้ชิปที่มี RFID ( การใช้คลื่นความถี่วิทยุเพื่อระบุลักษณะเฉพาะของวัตถุแต่ละชิ้น )  สิ่งนี้จะช่วให้การบรรจุสิ่งของทำได้อย่างสมบูรณ์แบบมากขึ้น
 
อันดับที่ 8 อาคาร-สิ่งก่อสร้างที่มีประสิทธิภาพสูง ( ปี 2017 )

อาคารที่ประกอบด้วยไปด้วยลักษณะสถาปัตยกรรมที่แปลกใหม่  น่าสนใจ  พร้อมทั้งการติดตั้งเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งานมากมาย  นอกจากนั้นอาคารที่มีความสามารถในการรักษาความปลอดภัยสูง และช่วยลดการสิ้นเปลืองพลังงาน  ก็ถือเป็น 1 ใน 10 สิ่งที่จะมีในโลกอนาคต

อันดับที่ 9 อุปกรณ์ไฮเทคสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ Teledildonics ( ปี 2018 )

อุปกรณ์ที่กล่าวถึงนี้  เป็นอุปกรณ์รีโมทคอนโทลจำลอง  เสมือนการมีเพศสัมพันธ์  คิดค้นโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่น

อันดับที่ 10 คอนเทคเลนส์ไฮเทค ( ปี 2018 )

การพัฒนาคอนแทคเลนส์ในขณะนี้มีความก้าวหน้าไปมาก  และในการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีก็ระบุว่า  คอนเทคเลนส์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงนี้  สามารถที่จะแสดงคำ หรือภาพให้เห็นบนดวงตาได้  อีกทั้งยังสามารถที่จะดาวน์โหลดโปรแกรมที่สามารถกำหนดความฝันได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม  ในบางสื่ออาจจะมีการทำนายที่แตกต่างกันออกไป  แต่อย่างไรก็ตามข้อมูลข้างบนก็ช่วยทำให้เราเห็นภาพของโลกเทคโนโลยีในอนาคต  และรับรู้สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในไม่ช้า  โดยการทำนายเทคโนโลยีในอนาคตนี้  รวบรวมโดย ชาร์ลี เบร์นตัน


ที่มา  http://www.telegraph.co.uk/scienceandtechnology/technology/technologynews/5090296
 
      บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #481 เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2553, 09:01:27 »

ทายนิสัยจากตัวอักษรที่ขึ้นต้นอี-เมล์ของคุณ

จาก  http://www.marketatnation.com/Gallery/ShowGallery.aspx?ID=2672

         เชื่อแน่ๆ ว่าคุณๆ คงมี อีเมล์ กันอย่างน้อยก็คนละชื่อล่ะค่ะ  จะอยู่@อะไรประเด็นนี้ไม่เกี่ยว  ที่เกี่ยวคือชื่ออีเมล์ของคุณที่ใช้อยู่เป็นประจำน่ะ  ขึ้นต้นด้วยอักษรตัวใด  ซึ่งสามารถทำนายได้  เพราะมันเป็นชื่อที่คุณคัดสรรเอง
 
ขึ้นต้นด้วย A J S  แสดงว่าคุณเป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์  ชอบทำอะไรใหม่ๆอยู่เสมอ  ถ้าจะทำงานสักชิ้นต้องเป็นงานที่โดดเด่น  ได้แสดงออกถึงความสามารถของตน  นอกจากนั้นจะเป็นพวกชอบเดินทาง  ผจญภัย  ถ้ามีแฟนจะเป็นคนที่ไม่ให้คำสัญญาใดๆ ที่เป็นการผูกมัด ( เอ …. ดีมั๊ยเนี่ย ? )
 
ขึ้นต้น B K T  เป็นคนร่าเริงกระฉับกระเฉง  ชอบโต้แย้งความคิดเห็น  ชีวิตของคุณจะดำเนินไปตามความรู้สึก และอารมณ์  ไวต่อสิ่งรอบข้าง  ไม่ค่อยให้ความสนใจเรื่องใดเรื่องหนึ่งนาน  ค่อนข้างไฮเปอร์  แต่เป็นคนที่ไม่ยอมย่อท้อต่อปัญหาที่เข้ามาในชีวิต
 
ขึ้นต้น C L U  เป็นคนมองโลกในแง่ดี  อ่อนโยน  เข้ากับคนง่าย  มีความสามารถพิเศษในการติดต่องาน  แต่มีโลกที่ผู้อื่นยากเข้าถึง  ไม่ค่อยเผยแพร่ความต้องการของตัวเองให้คนอื่นรู้  ชอบทำงานศิลปะ  ให้ความสำคัญกับจิตนาการ
 
ขึ้นต้น D M V  ค่อนข้างมีระเบียบในชีวิต  ทั้งเรื่องส่วนตัว ครอบครัว งาน  ทำอะไรก้อต้องเรียบร้อยหมด  ไม่ขอบขีวิตที่มีการเปลี่ยนแปลงเท่าไหรนัก  เป็นคนขยัน หนักแน่น อดทน  เหมาะกับการเป็นผู้นำ
 
ขึ้นต้น E N W  มีนิสัยซอกแซก  เห็นทุกเรื่องน่าสนใจไปหมด  ชอบทดสอบ  ทดลองทุกอย่างด้วยตนเอง  เป็นพวกอยากรู้อยากลอง  แต่ถ้าเป็นเรื่องของคุณใครอย่ามายุ่ง  จะปิดบังไว้อย่างดี  เป็นคนขี้ระแวงไปนิด  ไม่เชื่อใครง่าย  จนกว่าจะได้พิสูจน์ว่าเค้าดีจริง
 
ขึ้นต้น F O X  เป็นคนอ่อนโยน  มีน้ำใจกับทุกคน  ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง  เกลียดการกระทำที่หยาบคาย  ให้ความสำคัญกับครอบครัวอันดับหนึ่ง  อยากให้คนใกล้ชิดมีความสุขรักใคร่กัน  แต่ข้อเสียคือไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง  ชอบหนีปัญหา
 
ขึ้นต้น G P Y  เป็นคนรักความปราณีต  จะต้องให้สมบูรณ์ทุกกระบวนความ  ชอบความหรูหราเริ่ดหรู  รสนิยมดี  รักศักดิ์ศรี  ไม่ยอมใครง่ายๆ  แตถ้าเจอคนถูกใจแล้ว  เท่าไหรก็เท่ากัน  ยอมได้ทุกอย่าง
 
ขึ้นต้น H Q Z  มีน้ำอดน้ำทนสูงกับทุกเรื่อง  ไม่ว่าเป็นปัญหาส่วนตัวหรือเรื่องอื่น  เข้าใจโลก และเข้าใจชีวิต  เป็นนักแก้ปัญหาด้วยความรอบคอบ  อย่างมีเหตุผล  ไม่ค่อยวางใจคนอื่น  เพราะมีความเชื่อมั่นเป็นหลัก
 
ขึ้นต้น I R  เป็นนักอุดมคติ  มีความคิดทันสมัย  บางครั้งถึงขั้นล้ำสมัย  ชอบหาเหตุ และผลให้กับทุกเรื่อง  ชอบทำงานเพื่อส่วนรวม  มีน้ำใจ  ใจเปิดกว้าง  เปิดโอกาสให้คนอื่นแสดงความคิดเห็น  แม้ตัวเองจะไม่เห็นด้วย
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #482 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2553, 19:32:22 »

อ้างถึง
ข้อความของ Jiab16 เมื่อ 03 กุมภาพันธ์ 2553, 10:45:31
Bet you did not know this ! : Welcome February 2010 ... once in 11 Years ...

เสรษฐวิทย์ - นิเทศ 16 ... ส่งมา



พี่เจี๊ยบ,
เมื่อวานในโต๊ะกินข้าว,คุยเรื่องนี้
สายตา 3 คู่จ้องกลับพร้อมยิงคำถาม:
"แล้วกุมภาทุกปีๆ เป็นยังไงเหรอ?
ที่ไม่ไช่ ทุก11 ปีนี่น่ะ"
เอิ่ม...keine Ahnung!
ไม่รุ...จำไม่ได้...ไม่เคยสังเกตคะ
คือคำตอบจากหนิง.

nn.
      บันทึกการเข้า


Samrotri2517
Cmadong Member
Hero Cmadong Member
****


จะเป็นด้านที่1และ2ของ3เหลี่ยมฯ เพื่อให้เกิดด้านที่3
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: รหัสเข้า 17 รุ่น 57
คณะ: แพทยศาสตร์ จุฬาฯรุ่น 30
กระทู้: 1,915

« ตอบ #483 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2553, 19:48:17 »

อ้างถึง
ข้อความของ Jiab16 เมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2553, 09:01:27
ทายนิสัยจากตัวอักษรที่ขึ้นต้นอี-เมล์ของคุณ

จาก  http://www.marketatnation.com/Gallery/ShowGallery.aspx?ID=2672
         
ขึ้นต้น B K T  เป็นคนร่าเริงกระฉับกระเฉง  ชอบโต้แย้งความคิดเห็น  ชีวิตของคุณจะดำเนินไปตามความรู้สึก และอารมณ์  ไวต่อสิ่งรอบข้าง  ไม่ค่อยให้ความสนใจเรื่องใดเรื่องหนึ่งนาน  ค่อนข้างไฮเปอร์  แต่เป็นคนที่ไม่ยอมย่อท้อต่อปัญหาที่เข้ามาในชีวิต
 
ขอผม เป็น tsumruang ขึ้นด้วย t ดูว่า เป็นคนร่าเริง.... น่า จะตรงนะ พวกเรา


           รักนะ รักนะ รักนะ


      บันทึกการเข้า

3 เหลี่ยมเขยื้้อนภูเขา เสนอโดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี มี 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านให้ความรู้กับกลุ่มคน ด้านที่ 2 กลุ่มคน ที่ได้รับความรู้ เห็นด้วย สร้างวัฒนธรรมไม่มีบทลงโทษถ้าไม่ทำ ด้านที่ 3 ด้านการเมือง เป็นด้านออกกฏหมาย มีบทลงโทษถ้าไม่ปฏิบัติ ถ้ามีครบ 3 ด้านจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริง
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #484 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2553, 20:03:21 »

หนิงไม่ตรงคะพี่หมอ!
ตัว k เขาว่า hyper
ไม่จิ๊ง ไม่จริง
      บันทึกการเข้า


Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #485 เมื่อ: 28 กุมภาพันธ์ 2553, 16:04:05 »

อืม ม ม ม !  ที่เค้าทายหมอสำเริง  ก็ แม่น นะคะ ... ยิ่งทายหนุงหนิง ยิ่ง แม่น เป๊ะ เป๊ะ !  ยังกะตาเห็นเลย  เจ้าตัวจะปฏิเสธพัลวันยังไง  ก็ฟังไม่ขึ้น  อิ๊  อิ๊ ...


รู้ไว้ ... เวลาจะขึ้นเครื่องบิน

นายสัตวแพทย์ สากล 16 ... ส่งมา

เคยสังเกตกันบ้างไหมว่า  เครื่องบินในประเทศไทยได้ใช้สัญลักษณ์การลงทะเบียนอากาศยาน
ที่จดทะเบียนในประเทศไทยที่ขึ้นต้นด้วย HS  หรือที่เรียกกันว่า Hotel Sierra กันนั้น มีประวัติมาจากหนใดกัน ?

ทำไมเครื่องบินในประเทศไทยถึงใช้คำว่า HS

ประเทศที่ขอ Prefix ได้ในช่วงเวลาใกล้ๆ กับประเทศไทยก็มักจะเลือกสัญญาณเรียกขานที่บ่งถึงประเทศ
ตัวเอง เช่น ญี่ปุ่น หรือ JAPAN ได้ JA  ส่วน Germany ซึ่งเรียกตัวเองว่า ดอยช์แลนด์ ก็ได้ DL แล้วคำ
ว่า HS ที่นำหน้าสถานีของประเทศไทยนั้นหมายความว่าอย่างไร ?

ท่านอาจารย์อุดม จะโนภาษ เขียนไว้ว่า " เรื่องนี้พระวรวงค์เธอพระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร ไชยากรณ์
ซึ่งเป็นโอรสของเสด็จในกรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน  เล่าให้ฟังว่าในขณะนั้นยังมีอักษรอื่นก่อนตัว
HS ที่ทรงเลือกอักษร HS  เพราะจะให้มีความหมายว่า His Majesty The King Of SIAM "  ในสมัยนั้น
ประเทศไทยยังเรียกว่า SIAM อยู่

เวลาเรียกขานทางวิทยุทีหนึ่งก็จะได้เป็นการถวายความเคารพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประเทศ
ไทยจึงมีสัญญาณเรียกขานว่า HS ตั้งแต่บัดนั้นมา  สถานีโทรทัศน์ เช่น สถานีโทรทัศน์กองทัพบก มี
สัญญาณเรียกขานทางวิทยุว่า HSATV ฯลฯ "

ทำไมต้องวางกระเป๋า หรือของใช้ส่วนตัวที่พกขึ้นเครื่องบินไว้ใต้ที่นั่งของคนข้างหน้า ?

เป็นเหตุผลทางด้านความปลอดภัยค่ะ  เพราะว่าหากวางเกะกะหรือวางไว้ตรงปลายเท้าพอดี
แล้ว  เกิดมีเหตุฉุกเฉินกระเป๋า หรือสัมภาระที่ถูกวางไว้เกะกะ  ไม่เป็นระเบียบอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้โอกาส
รอดชีวิตของเราลดลงก็เป็นได้  เพราะจะขัดขวางทางเดินของการวิ่งหนี  หรือวิ่งแล้วไปสะดุดล้ม

ทำไมต้องเปิดหน้าต่างขึ้น เวลาที่เครื่องบินจะขึ้นหรือลง ?

เป็นเหตุผลทางด้านความปลอดภัยอีกเช่นกัน  เพราะช่วงที่เครื่องบินขึ้นหรือลงนั้น  เป็นช่วงที่เกิด
อุบัติเหตุได้ง่ายมากๆ  เพราะฉะนั้นจำเป็นจะต้องเปิดหน้าต่างเพื่อให้ผู้โดยสารได้ช่วยกันดูว่า  ภาย
นอกมีเหตุอะไรไม่ปกติหรือเปล่า  เช่น ไฟไหม้ปีกเครื่องบิน  เพราะจะได้รีบแจ้งลูกเรือได้อย่างทันท่วงทีค่ะ

ทำไมควรสวมเสื้อแขนยาว หรือแจ็คเกต และกางเกงขายาวเวลาขึ้นเครื่องบิน ?
 
เป็นเหตุผลทางความปลอดภัยค่ะ  ซึ่งมักเป็นเรื่องที่หลายคนมองข้ามกันเพราะหากเกิดอุบัติเหตุแล้วเกิด
ไฟไหม้นั้นเสื้อผ้า หรือกางเกงจะได้ช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากไฟไหม้ที่อาจไหม้ผิวหนัง  รวมถึงเวลาวิ่งหนี
ในเหตุฉุกเฉิน  จะช่วยป้องกันการถลอก หรือบาดแผลจากการล้มด้วยค่ะ  จริงๆ

ทำไมควรปิดฝาชักโครก ( ในห้องน้ำ ) ก่อนกดชักโครก ?

ส้วมบนเครื่องบินเป็นระบบ Vaccum ( ระบบสูญญากาศ )  ดังนั้นเวลาที่ทำธุระ เสร็จแล้ว
ควรจะปิดฝาชักโครกก่อนกด  จะทำให้ส้วมสามารถสร้างแรงดึงดูดได้ มากขึ้น โดยจะดูด
ของเสียไปไว้ที่ถังเก็บรวมท้ายเครื่อง  และเมื่อถึงสนามบินปลายทาง จะมีรถมาดูดไปทิ้งค่ะ
เคยแอบอ่านข่าวเจอว่ามีผู้หญิงคนหนึ่ง  กดชักโครกโดยที่ยังนั่งอยู่บนโถ ปรากฏว่าก้นติดกับ
ชักโครก  ลุกขึ้นไม่ได้  จริงๆ แล้วเรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆหรอก แต่ยังไงก็ต้องระวังกันด้วยนะ

ทำไมควรดื่มน้ำมากๆ เวลาอยู่บนเครื่องบิน ?

เนื่องจากบนเครื่องบินมีอากาศที่แห้งมาก ( ว่ากันว่าแห้งพอๆ กับทะเลทรายเลยค่ะ )เ  พราะเครื่องบินบินอยู่
ในระดับความสูงที่สูงจากระดับน้ำทะเลมาก  อากาศภายในห้องโดยสารจึงเปรียบเหมือนอยู่บนภูเขาสูง  มี
อากาศที่แห้ง และเบาบาง  ดังนั้นจึงควรดื่มน้ำ 1 แก้ว / 1 ชั่วโมง

      บันทึกการเข้า
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #486 เมื่อ: 12 เมษายน 2553, 14:03:31 »

เนื่องในวันปีใหม่ 13  เมษา  2553 ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยจงดลบันดาลให้ชาวซีมะโด่งทุกท่านประสบความเร็จและ ความสุขตลอดไปครับ
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #487 เมื่อ: 12 เมษายน 2553, 16:56:36 »

พี่เจี๊ยบขา,
มีสิ่งต้องรู้เกี่ยวกับสงกรานต์ปีนี้มั้ยคะ
ฤกษ์ ยาม นางสงกรานต์ชื่ออะไร
und so weiter...


น้องเมขลา
      บันทึกการเข้า


Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #488 เมื่อ: 23 เมษายน 2553, 00:06:14 »

        จัดให้หนุงหนิงจ้า ... โดยขอ copy มาจากที่คุณเหยง 16 หามาฝากเพื่อนๆ ที่กระทู้ของรุ่น 2516 ตรงนี้  ตรงนี้ ...

        http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,3178.1425.html




ประกาศสงกรานต์ปีพุทธศักราช 2553 ปีขาล เป็นเทวดาผู้หญิงธาตุไฟ โทศก จุลศักราช 1372 ทางจันทรคติเป็นอธิกมาส ( ปีทางจันทรคติที่มีเดือน 8 สองหน ) ทางสุริยคติเป็นปกติสุรทิน วันที่ 14 เม.ย. เป็นวันมหาสงกรานต์ ตรงกับวันพุธ ขึ้น 1 ค่ำ
เดือน 6 เวลา 07 นาฬิกา 19 นาที 19 วินาที  นางสงกรานต์ทรงนามว่า " มณฑาเทวี " ทรงพาหุรัดทัดดอกจำปา อาภรณ์แก้ว
ไพฑูรย์ ภักษาหารนม เนย พระหัตถ์ขวาทรงเหล็กแหลม พระหัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้า เสด็จยืนมาเหนือหลังคัสพะ ( ลา )
เป็นพาหนะวันที่ 16 เม.ย. เวลา 11 นาฬิกา 18 นาที 36 วินาที เปลี่ยนจุลศักราชใหม่เป็น 1372

ปีนี้ วันอังคารเป็นธงชัย วันพฤหัสบดีเป็นอธิบดี วันจันทร์เป็นอุบาทว์ วันเสาร์เป็นโลกาวินาศปีนี้ วันอังคารเป็นอธิบดีฝน
บันดาลฝนให้ตก 300 ห่า ตกในโลกมนุษย์ 30 ห่า ตกในมหาสมุทร 60 ห่า ตกในป่าหิมพานต์ 90 ห่า ตกในเขาจักรวาล 120 ห่า
นาคให้น้ำ 7 ตัว เกณฑ์ธัญญาหาร ได้เศษ 5 ชื่อวิบัติ ข้าวกล้าในภูมินาจะเกิดกิมิชาติ ( ด้วงกับแมลง ) จะได้ผลกึ่ง
เสียกึ่งเกณฑ์ธาราธิคุณ ตกราศีเตโช ( ไฟ ) น้ำน้อย

นอกจากนี้ คำทำนายโบราณ กล่าวไว้ว่า วันมหาสงกรานต์ตรงกับวันพุธ วันเนาตรงกับวันพฤหัสบดี วันเถลิงศก ตรงกับวันศุกร์
ทำนายว่า ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จะได้รับการยกย่องจากต่างประเทศ  ผลไม้จะแพง  พ่อค้าคหบดีจะทำมาค้าขึ้น มีผลกำไรมาก
นางสงกรานต์ยืนมา  จะทำให้เกิดความเดือดร้อน เจ็บไข้
      บันทึกการเข้า
ภาณุ ปาตานี
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,254

« ตอบ #489 เมื่อ: 02 พฤษภาคม 2553, 08:34:34 »

อ้างถึง
ข้อความของ Jiab16 เมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2553, 16:04:05
รู้ไว้ ... เวลาจะขึ้นเครื่องบิน

นายสัตวแพทย์ สากล 16 ... ส่งมา

..........................
ทำไมควรดื่มน้ำมากๆ เวลาอยู่บนเครื่องบิน ?

เนื่องจากบนเครื่องบินมีอากาศที่แห้งมาก ( ว่ากันว่าแห้งพอๆ กับทะเลทรายเลยค่ะ )เ  พราะเครื่องบินบินอยู่
ในระดับความสูงที่สูงจากระดับน้ำทะเลมาก  อากาศภายในห้องโดยสารจึงเปรียบเหมือนอยู่บนภูเขาสูง  มี
อากาศที่แห้ง และเบาบาง  ดังนั้นจึงควรดื่มน้ำ 1 แก้ว / 1 ชั่วโม

สวัสดีครับพี่เจี๊ยบ..

ผมนึกว่า...เวลานั่ง Low Cost Airline แล้ว

เขาขายน้ำแพง...เลยต้องดื่มตุนไว้ก่อนนะครับ  บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #490 เมื่อ: 02 พฤษภาคม 2553, 15:08:12 »

อ้างถึง
ข้อความของ Jiab16 เมื่อ 23 เมษายน 2553, 00:06:14
       จัดให้หนุงหนิงจ้า ... โดยขอ copy มาจากที่คุณเหยง 16 หามาฝากเพื่อนๆ ที่กระทู้ของรุ่น 2516 ตรงนี้  ตรงนี้ ...

        http://www.cmadong.com/board/index.php/topic,3178.1425.html




ประกาศสงกรานต์ปีพุทธศักราช 2553 ปีขาล เป็นเทวดาผู้หญิงธาตุไฟ โทศก จุลศักราช 1372 ทางจันทรคติเป็นอธิกมาส ( ปีทางจันทรคติที่มีเดือน 8 สองหน ) ทางสุริยคติเป็นปกติสุรทิน วันที่ 14 เม.ย. เป็นวันมหาสงกรานต์ ตรงกับวันพุธ ขึ้น 1 ค่ำ
เดือน 6 เวลา 07 นาฬิกา 19 นาที 19 วินาที  นางสงกรานต์ทรงนามว่า " มณฑาเทวี " ทรงพาหุรัดทัดดอกจำปา อาภรณ์แก้ว
ไพฑูรย์ ภักษาหารนม เนย พระหัตถ์ขวาทรงเหล็กแหลม พระหัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้า เสด็จยืนมาเหนือหลังคัสพะ ( ลา )
เป็นพาหนะวันที่ 16 เม.ย. เวลา 11 นาฬิกา 18 นาที 36 วินาที เปลี่ยนจุลศักราชใหม่เป็น 1372

ปีนี้ วันอังคารเป็นธงชัย วันพฤหัสบดีเป็นอธิบดี วันจันทร์เป็นอุบาทว์ วันเสาร์เป็นโลกาวินาศปีนี้ วันอังคารเป็นอธิบดีฝน
บันดาลฝนให้ตก 300 ห่า ตกในโลกมนุษย์ 30 ห่า ตกในมหาสมุทร 60 ห่า ตกในป่าหิมพานต์ 90 ห่า ตกในเขาจักรวาล 120 ห่า
นาคให้น้ำ 7 ตัว เกณฑ์ธัญญาหาร ได้เศษ 5 ชื่อวิบัติ ข้าวกล้าในภูมินาจะเกิดกิมิชาติ ( ด้วงกับแมลง ) จะได้ผลกึ่ง
เสียกึ่งเกณฑ์ธาราธิคุณ ตกราศีเตโช ( ไฟ ) น้ำน้อย

นอกจากนี้ คำทำนายโบราณ กล่าวไว้ว่า วันมหาสงกรานต์ตรงกับวันพุธ วันเนาตรงกับวันพฤหัสบดี วันเถลิงศก ตรงกับวันศุกร์
ทำนายว่า ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จะได้รับการยกย่องจากต่างประเทศ  ผลไม้จะแพง  พ่อค้าคหบดีจะทำมาค้าขึ้น มีผลกำไรมาก
นางสงกรานต์ยืนมา  จะทำให้เกิดความเดือดร้อน เจ็บไข้


พี่เจี๊ยบ,
อ่านผ่านๆที่ห้อง 16แล้วคะ
ถึงบอกพี่เหยงให้ repeatที่นี่อีกรอบ
ขอบคุณพี่ค่ะ
      บันทึกการเข้า


Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #491 เมื่อ: 06 พฤษภาคม 2553, 03:27:50 »

YA นะ ... เที่ยวแซวพี่ แซวเชื้อ ซะจน ' ยิ้มกว้าง ' เลย ! ... จริงเร้อ ? ที่สายการบินแบบประหยัด เค้าใช้เทคนิคขายน้ำแพงๆ เหมือนร้านหมูกะทะ น่ะ ... น้ำที่เสริ์ฟบนเครื่อง เค้ารวมอยู่ในค่าตั๋วเครื่องบินแล้วจ้า  ยกเว้นว่า YA อยากจะดื่มแบบ Extra อ่ะดิ !  ถึงแพง

เชียงใหม่แตกตื่น ลูกเห็บตกราวหิมะ ... 100 ปีเพิ่งจะมี

มนูญ - วิศวะ 16 ... ส่งมา

ฮือฮาลูกเห็บตกขาวโพลนทั้งดอยราวหิมะ ที่ ต.แม่แรม อ.แม่ริม เชียงใหม่  ข้ามวันก็ยังละลายไม่หมด  ผู้เฒ่าผู้แก่เผย 100 ปีเพิ่งเคยเห็น  หนุ่มสาวตื่นตาถ่ายรูปกันสนุกสนาน ...



เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 31 มี.ค. 53  ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากประชาชนใน อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ว่า ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 30 มี.ค. ที่ผ่านมา ได้มีพายุลูกเห็บในพื้นที่ ต.แม่แรม อ.แม่ริม จนถึงวันนี้ ก็ยังละลายไม่หมด  จึงไปตรวจสอบ  พบลูกเห็บตกปกคลุมหลายจุดของ ต.แม่แรม  ทำให้พื้นขาวโพลนไปทั้งดอย  มองดูลักษณะคล้ายหิมะตก  ขณะที่บางจุดลูกเห็บจับตัวเป็นก้อนอยู่ตามต้นไม้  สร้างความตาตื่นใจแก่ผู้พบเห็น  ส่วนผู้สูงอายุต่างระบุเป็นเสียงเดียวกันว่า ในรอบ 100 ปี เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก



ขณะเดียวกัน นายชนะ แพ่งพิบูลย์ นายอำเภอแม่ริม  และนายสมพงษ์ สิงห์ชัย นายก อบต.แม่แรม ได้ออกสำรวจความเสียหายจากพายุลูกเห็บใน ต.แม่แรม  พบว่าบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายถึง 300 หลัง  ต้องให้ความช่วยเหลือโดยเร่งด่วน



นายสมพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ มี 7 หมู่บ้านจำนวนกว่า 300 หลังคาเรือนของ ต.แม่แรม ได้รับความเสียหายจากพายุลูกเห็บ  ซึ่งตกหนักสุดที่บ้านหมู่ 3 หมู่ 6 และหมู่ 8  แต่ในหมู่ 1 และหมู่ 5 ลูกเห็บตกหนา และนานผิดปกติ  สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่ผู้พบเห็น  เชื่อว่าในรอบ 100 ปีไม่เคยปรากฏมาก่อน  ทำให้พื้นที่กว้างเหมือนหิมะขาวโพลน  และเป็นเรื่องน่าแปลกแม้ข้ามวันไปแล้ว แต่ลูกเห็บก็ยังละลายไม่หมด



นายสมพงษ์ กล่าวต่อว่า ทุกครั้งที่เห็นลูกเห็บตก  แม้จะเม็ดใหญ่แต่ไม่มาก  แตกต่างจากครั้งนี้เป็นลูกเห็บขนาดเล็ก  แต่ตกมากและนานกว่ า 30 นาที  จนเกิดการทับถมหนาแน่นสวยงามราวหิมะ  ผู้สูงอายุต่างออกมาดูกัน ส่วนหนุ่มสาวพากันมาถ่ายรูปเป็นที่สนุกสนาน

ป.ล. คนโพสต์ก็พลอยตื่นเต้นไปด้วยจ้า ... แต่กะลัง รอ  ร้อ  รอ  ให้หิมะตกในกรุงเทพฯ ตามคำทำนายของนักวิชาการอุตุนิยมวิทยาไทย  มาตั้งกะกลางปีที่แล้ว  ก็ยังไม่เห็นตกเลย  ปีนี้บอกว่าจะเกิดสินามิขนาดมโหฬารกว่าครั้งที่แล้วอีก  Let's see.
      บันทึกการเข้า
พธู ๒๕๒๔
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ซื่อต่อนายไม่หน่ายมิตรใกล้ชิดลูกน้องคุ้มครองชาวBan
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 64
คณะ: niti
กระทู้: 7,842

เว็บไซต์
« ตอบ #492 เมื่อ: 06 พฤษภาคม 2553, 04:11:55 »

ตื่นเช้าจังพี่
      บันทึกการเข้า

เว้นชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่สิ่งดีงาม ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #493 เมื่อ: 06 พฤษภาคม 2553, 09:34:13 »

 
         อ๊ะจ๊ะ !  กะลังจะเข้านอนตะหาก ... โพสต์ก่อนป๋าทูแค่ 44 นาทีเอง  ป๋าน่ะแหละ ตื่นเช้าจัง ( ตัวจริง เสียงจริง )
      บันทึกการเข้า
Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #494 เมื่อ: 06 พฤษภาคม 2553, 13:10:35 »

ดอกไม้ประจำเดือนเกิด‏

นายสัตวแพทย์ สากล 16 ... ส่งมา

" ว่ากันว่าสีและรูปทรงของดอกไม้นั้นเกี่ยวพันกับการเคลื่อนที่ของดวงดาว  ไม่ว่าจะเป็นสี ทรวดทรง รอยหยัก แม้กระทั่งลักษณะเกสรของกลีบดอก ก็บ่งบอกถึงคนที่เกิดในเดือนนั้นๆ  มีตำนานแห่งพุทธศาสนาได้กล่าวไว้ว่า  หากเราได้เข้าใจความมหัศจรรย์แห่งดอกไม้เพียงหนึ่งดอกอย่างชัดเจน ก็จะทำให้ชีวิตของเราเปลี่ยนไปในทิศทางที่กลับกันได้เลยทีเดียว "
 
( โห !  แค่ย่อหน้าแรก  ครูวิทยาศาสตร์ก็ไม่ยอมเชื่อเลยซ้าก ก ก ก ประโยคนึง  แต่ก็เอามาเล่าสู่กันฟังแบบหนุกๆ ... พออ่านเสร็จปุ๊บ ก็ลืมปั๊บ !  ตรงข้ามกับฮิตาชิ อ่ะนะ ... ท่านที่เกิดปลายๆ เดือน  คำทำนายในเดือนนั้นอาจจะไม่แม่น  ต้องข้ามไปอ่านของเดือนถัดไป  ค่อยแม่นหน่อย  อิ๊  อิ๊ )

ใครเกิดเดือนไหนก็เชิญเลือกอ่านดูได้ตามอัธยาศัยเลยค่ะ

1. เดือนมกราคม - ดอกเบญจมาศ



" ดอกเบญจมาศ " นั้น ถือว่าเป็นดอกไม้แห่งความสูงส่ง ในบางแห่งใช้ดอกเบญจมาศนี้แทนสัญญลักษณ์ของกษัตริย์ หรือราชวงศ์ที่สูงศักดิ์ ดอกเบญจมาศมักบานเป็นเวลานานก่อนที่จะโรยรา ซึ่งแอบแฝงความนัยว่า มีหลักแหลมแฝงอยู่ตัวตนเป็นพิเศษผู้ที่เกิดเดือนนี้จึงฉลาดหลักแหลม มีความสำเร็จในชีวิต และมีเพื่อนที่พร้อมให้ความช่วยเหลือตลอดเวลา เช่นเดียวกับกลีบที่ซ้อนกันเป็นชั้นๆ หลายชั้นมีคนอุ้มชู เกื้อหนุนตลอดเวลา แถมยังเป็นนักฟังที่ดีด้วย

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนมกราคม ผู้ที่เกิดเดือนนี้มักจะเป็นนักอนุรักษ์นิยมเกี่ยวกับประเพณี และมักจะหัวโบราณกว่าชาวเดือนอื่น

2. เดือนกุมภาพันธ์- ดอกกล้วยไม้



" ดอกกล้วยไม้ " นั้น ถือว่าเป็นที่ต้องการดูแลการเอาใจใส่เป็นอย่างดี ต้องปลูกในที่ร่มในเรือนเพาะชำคำนวนอัตราสัดส่วนของน้ำและแสงให้พอเหมาะ ถึงจะงอกงามสวยงาม เช่นกัน ผู้ที่เกิดในนี้ จึงเป็นต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างมาก และยังเป็นแรงบันดาลใจให้มนุษย์มีความใฝ่ฝันที่จะผลักดันความฝันตัวเองให้เป็นจริง และเต็มไปด้วยความเอื้ออาทรและเอาใจใส่ทุกๆสิ่งทุกอย่างรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็น คน สัตว์ สิ่งของ มีความฉลาดหลักแหลม รักธรรมชาติ และใจกว้าง แต่เนื่องจากกล้วยไม้นั้นเป็นดอกไม้มีกลีบดอกที่ค่อนข้างหนา บานได้นานกว่าดอกไม้อื่นๆ จึงต้องดูแลในระยะยาวนานและจริงจัง เพื่อให้มันคงความงดงามอยู่ตลอดไป

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนกุมภาพันธ์ คุณเป็นคนที่มีความสนใจในด้านปราชญาศาสนา ประวัติศาสตร์ สถูปโบราณ แต่ก็สนใจความรู้สมัยใหม่ร่วมไปด้วย เพื่อผสมผสานศาสตร์เก่าและใหม่เข้าด้วยกันได้อย่างกลมกลืน

3. เดือนมีนาคม - ดอกคาร์เนชั่นแดง



" ดอกคาร์เนชั่นแดง " นั้น ถือว่าเป็นดอกไม้โปรดของบรรดาเหล่าศิลปิน เพราะเป็นดอกไม้แห่งความผันอันลึกลับ เป็นแรงบันดาลใจที่ปรากฏขึ้นให้เห็นในโลกแห่งตัวตนของคนในเดือนนี้ เมื่อความฝันนั้นถูกนำเข้าสู่ความจริง ไม่ว่าจะด้วยงานเขียนภาพแนวสร้างสรร หรืองานบริการต่างๆ ก็ตาม ผู้ที่เกิดในเดือนนี้ ส่วนใหญ่จึงมีบุคลิกเป็นไปในทางอาร์ท ศิลปิน ออกแนวเซอร์ กันให้เห็นอย่างชัดเจน

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนมีนาคมนั้น มีสัมผัสพิเศษในการติดต่อกับโลกแห่งวิญญาณ มีใจฝักใฝ่ในหลักธรรมคำสอนเป็นการส่วนตัว

4. เดือนเมษายน - ดอกลิลลี่



" ดอกลิลลี่ " นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้ที่บ่งบอกถึงความเป็นผู้นำอยู่ในท่ามกลางธรรมชาติอยู่แล้ว สังเกตได้ว่าดอกลิลลี่จะโดดเด่นกว่าดอกไม้อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดจัดช่อหรือการจัดซุ้มดอกไม้ และก็เป็นที่ประทับใจให้กับทุกๆคนที่ได้รับมันด้วย

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนเมษนั้น มีความสนใจในด้านปราชญาที่เกี่ยวข้องกับงานศิลปะและภาพเขียนแนวสัจนิยม

5. เดือนพฤษภาคม - ดอกลีลาวดี



" ดอกลีลาวดี " นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้บ่งบอกถึงความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ บอกถึงความเป็นตัวตนของผู้ที่เกิดเดือนนี้ ด้วยลักษณะของดอกลีลาวดีมีสีขาว มองดูแล้วให้ความสงบสุข ผู้ที่เกิดเดือนนี้ส่วนใหญ่จะมีบุคลิกที่รอบคอบ สุขุม และจะมองการณ์ไกล สุขุมรอบคอบ และเต็มไปด้วยความรักในมวลมนุษย์ ดอกลีลาวดีนี้มักถูกปลูก หรือแต่งแต้มสีสันลงในภาพวาดภาพเขียนเพื่อนชื่นชม และใช้ประโยชน์ตั้งแต่แกลอรี่งานศิลปะ ไปจนถึงการนำไปปรุงแต่งเป็นน้ำมันหอมระเหยหรืออะไรมาเธอราพี เพื่อบำบัด นอกจากนั้นยังนำมาปรุงอาหารได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ เพราะฉะนั้นคนที่เกิดเยี่ยงดอกลีลาวดีนี้มักโกรธยากและมีความจำเป็นเลิศ

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนพฤษภาคมนี้ คือเป็นผู้ชื่นชมความงามของธรรมชาติอย่างมาก และมีสัมผัสพิเศษในเรื่องของปรากฏการณ์ธรรมชาติ

6. เดือนมิถุนายน - ดอกเล็บมือนาง



" ดอกเล็บมือนาง " นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้ที่ไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อน เพราะมักจะบานบ่อยๆ ด้วยเสน่ห์แบบง่ายๆ และความเฉลียวฉลาด เป็นดอกไม้ที่มีความงามแบบเฉพาะตัวเมื่อปลูกอยู่ริมรั้ว ผู้ที่มีดอกไม้นี้เป็นดอกประจำเดือน มักจะเป็นคนที่มีความคิดเปิดกว้างและยืดหยุ่น แต่อารมณ์แปรปรวนง่าย โดยเฉพาะในเรื่องของความรัก

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนมิถุนายน ผู้ที่เกิดเดือนนี้จะสนใจเรื่องศาสนาและนิกายแปลกๆ

7. เดือนกรกฎาคม - ดอกบัว



" ดอกบัว " นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้ที่บ่งบอกถึงความอ่อนหวานในสระน้ำลึก บรรยากาศที่ดีเป็นสิ่งที่จะทำให้ดอกไม้นี้ผลิบานงดงามเต็มที่ ผู้ที่เกิดเดือนนี้ก็เช่นกันเค้าต้องการสิ่งแวดล้อมที่อบอุ่น สวยงาม เรียบร้อยและมีระเบียบ ผู้ที่เกิดเดือนนี้จึงมักจมอยู่กับห้วงแห่งความฝัน มักคาดหวังในชีวิตสูง

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนกรกฎาคม ผู้ที่เกิดเดือนนี้มักฝักใฝ่ที่จะแก้ไขปัญหาในทุก ๆ เรื่อง และชอบที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ มีความกรุณาเอื้ออาทรสูง และเป็นผู้ให้คำปรึกษาที่ดี

8. เดือนสิงหาคม - ดอกทานตะวัน



" ดอกทานตะวัน " นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้ที่บ่งบอกถึงความเป็นมิตร และความสดใสร่าเริง ที่สำคัญยังงามโดดเด่น ดอกไม้ชนิดนี้เป็นดอกไม้ที่อารมณ์ดีที่สุดในหมู่ดอกไม้ทั้งหมด ดอกไม้ชนิดนี้มีใจกลางดอกที่งามเด่น แสดงถึงความมั่นใจและไม่ค่อยเรื่องมากในเรื่องของความรัก แม้จะเด่นก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรมากเป็นพิเศษ กลับชอบที่จะอยู่อย่างสันโดษหาความสนุกสนานใส่ตัวมากกว่า

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนสิงหาคม ผู้ที่เกิดเดือนนี้มักมีความนับถือในพระอาทิตย์ ชื่นชมแสงแดดเป็นพิเศษ และที่สำคัญรักธรรมชาติเป็นที่สุด

9. เดือนกันยายน - ดอกทิวลิป



" ดอกทิวลิป " นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้ที่บ่งบอกถึงความนุ่มนวลและถูกขัดเกลามาอย่างดี ดอกทิวลิปเป็นดอกไม้ที่แคร์ความรู้สึกของคนอื่น ๆ มากกว่าระดับปกติ มีหัวใจที่ลึกซึ้งด้วยความเห็นอกเห็นใจคนรอบข้างแสดงถึงความฉลาดหลักแหลม ชอบที่จะใช้วิธีในทางธรรมชาติบำบัด ดอกทิวลิปเป็นดอกไม้แห่งความรู้สึก " ซาบซึ้ง " โดยจะสังเกตเห็นได้จาก เป็นคนเจ้าระเบียบ ตรงระเบียบ ตรงต่อเวลา แต่ก็มักวิตกกังวลกับเรื่องต่างๆ ได้ง่าย

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนกันยายน ผู้ที่เกิดเดือนนี้จะชอบเข้าวัดและผูกพันลึกซึ้งกับศาสนา เชื่อเรื่องโชคลางโหราศาสตร์เป็นพิเศษ

10. เดือนตุลาคม - ดอกกุหลาบ



" ดอกกุหลาบ " นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้ที่มีความโดดเด่น อ่อนหวาน เข้าได้กับทุกสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี แถมชอบบรรยากาศที่สวยงาม อากาศที่บริสุทธ์ ดังนั้นผู้ที่เกิดเดือนนี้จึงหลงไหลกับบรรยากาศรอบข้างไปด้วย แต่ก็ไม่ใช่คนมีระเบียบมากนัก ออกจะรกกว่าคนอื่น ๆ ด้วยซ้ำไป และเนื่องจากดอกกุหลาบเป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม จึงมี อิทธิพล ให้ชาวเดือนนี้มักเป็นคนที่มีเสน่ห์ในวงสนทนาเป็นพิเศษ

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนตุลาคม ผู้ที่เกิดในเดือนนี้เชื่อมั่นในความรัก และศรัทธาในศาสนาอย่างลึกซึ้ง รักความสงบเป็นพิเศษ

11. เดือนพฤศจิกายน - ดอกตะบองเพชร



" ดอกตะบองเพชร " นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้ที่แอบแฝงด้วยความลึกลับในกำเนิด และเกสร รวมทั้งในทุก ๆ กลีบดอก ผู้ที่เกิดเดือนนี้จึงมักมีความลับนับร้อย ๆ อยู่ในการดำเนินชีวิตของเขา แต่สิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่ดึงดูงเพศตรงข้ามได้อย่างล้ำลึก เนื่องจากน่าสนใจและน่าค้นหาไม่รู้จบนั่นเอง ชาวเดือนนี้จึงมักชอบอยู่เงียบ ๆ ในออฟฟิตมากกว่าจะออกไปสังคมข้างนอก และมักจะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้อยู่เสมอ

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนพฤศจิกายน ผู้ที่เกิดเดือนมักมีสัมผัสเร้นลับเกี่ยวกับความเชื่อโชคลางและศาสนา

12. เดือนธันวาคม - ดอกพุทธรักษา



" ดอกพุทธรักษา " นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้แห่งความสนุกสนาน ความโชคดีของชีวิต มีความสว่างไสวอยู่ในมุมที่น่าเบื่อที่สุดของสวน ดังนั้นผู้ที่เกิดเดือนนี้จึงมีความประพฤติดี ๆ และมีระเบียบวินัยที่ผ่อนคลายยืดหยุ่นได้ตลอดเวลา จึงมักที่จะเป็นแรงกำลังใจให้กับเพื่อนฝูงในเวลาตกต่ำของชีวิต ทำให้คนอื่นรอบข้างมองโลกในทางที่ดีขึ้น เบิกทางสู่เสรีภาพ และมักนำคนรอบข้างไปสู่การตัดสินใจที่ถูกต้องอยู่เสมอ

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนธันวาคม มีบุคลิกโดดเด่น ร่าเริงและมีความสามารถในการปลอบโยนให้กำลังใจคนได้ดี และที่สำคัญมีความศรัทธาเกี่ยวกับเรื่องการก่อตั้งองค์กรทางศาสนา

      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #495 เมื่อ: 06 พฤษภาคม 2553, 18:24:26 »

พี่เจี๊ยบ,
เค้าแจ้งความเสียหายเรื่องลูกเห็บมั้ยคะ?
ตกลงบนรถยนตร์ดูไม่จืดคะ ปุๆน่าเกลียด.
ที่เยอรมันก็หนาวคะ..7-8°cจาเรียก winterดีมั้ยนี่
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #496 เมื่อ: 06 พฤษภาคม 2553, 18:27:56 »

ดอกลิลลี่พิมพ์ผิดค่ะ.
เค้ากำกับใต้รูปว่าเป็นดอกไม้เดือนมีนา
แต่บรรยายเป็นเมษา!


เอ๊ะ,แก็กพี่เจี๊ยบป่ะเนี่ย???
      บันทึกการเข้า


Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #497 เมื่อ: 06 พฤษภาคม 2553, 20:18:20 »

NN ... เรียกว่า Cold Spring ดีมั้ย ?  หนิงอยู่ในบ้าน ยังต้องเปิด heater รึเปล่าคะ ?  ทั้งๆ ที่ไม่ใช่หน้าหนาวแล้วเนี่ยนะ ?

Lilly เป็นดอกไม้ประจำเดือนเมษายน จ้า  ในรูปเค้าพิมพ์ผิด  แถมในรูปยังพิมพ์ชื่อเดือน " กุมภาพันธ์ " ตัวสะกดการันย์ก็ผิดอีกด้วย  ก็เป็นวิธีเช็คว่าหนิงไม่ได้ง่วงเหงาหาวนอน ตอนกะลังอ่านคำทำนายอยู่ไง !  ... ว่าแต่เค้าทำนายเดือนเกิดของหนิงไม่เห็นจะแม่นเลยนอะ !
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #498 เมื่อ: 06 พฤษภาคม 2553, 20:31:43 »

แฮพทั้งสองเดือนที่พิมพ์มาเลยละกันคะ.
ตอนแรกยังดีใจเขาให้มีนาตั้งสองดอก.


heater (Fußbodenheizung)ตั้งเวลา/โปรแกรมไว้ค่ะพี่
ปิดไปนานแล้ว แถมหนิงเก็บเสื้อผ้าหน้าหนาว
สวมใส่ชุดหน้าร้อน...นี่เดินหนาวสั่นในบ้าน
มาหลายวันแล้วค่ะ วันนี้ 6 °cคะ
      บันทึกการเข้า


Jiab16
Global Moderator
Hero Cmadong Member
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,267

เว็บไซต์
« ตอบ #499 เมื่อ: 06 พฤษภาคม 2553, 20:59:17 »

... " โอ้ !  เมืองไทย  อยู่ตรงไหน  เหมือนใกล้วิมาน ... "  คนสแกนดิเนียเวียก็เลยต้องแห่กันมาซื้อบ้านชายหาดที่เมืองไทย ไว้หนีหนาว เหมือนนกคุณแอ่นจากไซบีเรีย ...

NN ... heater เนี่ยเหรอ  ภาษาเยอรมันว่า Fußbodenheizung  ทำไมถึงยาวเหยียดตั้ง 5 พยางค์  มิต้องออกเสียงกันเหนื่อยแย่เรอะ ?  ว่าไงนะ ? ฟัส-โบ-เดน-ไฮ-ซุง  รึเปล่า ? ... สลบกันพอดี



นักสืบ ' พันทิป ' ถอยไป  นักข่าว ' เฟซบุ๊ก ' มาแล้ว … !

จาก ไทยรัฐ ออนไลน์  วันพฤหัสที่ 6 พฤษภาคม 2553  ... http://www.thairath.co.th/content/life/80240

ถ้าเว็บไซต์ดังอย่าง " พันทิปดอทคอม " มี " นักสืบพันทิป " ที่ตามหาและไล่ล่าความจริงกระจายตัวอยู่มากมายแล้วล่ะก็  อีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่ควรจะบันทึกเอาไว้ในยุคทองของ " เฟซบุ๊ก " ขาขึ้นสุดๆ  ก็คนกลุ่มหนึ่งที่เรียกตัวเองว่า " นักข่าวเฟซบุ๊ก "

ซึ่งแตกหน่อขยายกอเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่น่าจับตามอง ....

ไทยรัฐออนไลน์ มีโอกาสได้พูดคุยโดยใช้เฟซบุ๊กตอบโต้ นายศาสตรา โตอ่อน อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ที่ได้รับทุนไปศึกษาต่อปริญญาโทควบปริญญาเอก สาขาวิชากฎหมายมหาชน ที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมันนี  เจ้าของ http://www.facebook.com/sattra.toaon  เขาเรียกตัวเองว่า " นักข่าวเฟซบุ๊ก " สายต่างประเทศ

นายศาสตรา เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการเป็นนักข่าวเฟซบุ๊กก็คือความสนใจในโลกของ " โซเชียลเน็ตเวิร์ค " อีกทั้งยังชอบติดตามข่าวสารทั่วโลก โดยเฉพาะสถานการณ์การเมืองไทย ประจวบกับตอนที่อยู่เมืองไทยได้มีโอกาสรู้จักกับนักข่าวทั้งจากประเทศไทยและต่างประเทศ จึงมีการแอดลิสต์รายชื่อนักข่าวเหล่านี้ไปในเฟซบุ๊ก หลังจากนั้นก็ได้แลกข่าวสารเหตุบ้านการเมืองผ่านเฟซบุ๊กของกันและกันนับจากนั้นเป็นต้นมา  

นายศาสตรา บอกว่า หน้าที่หลักๆ ของเขาคือการประสานงาน ส่งและแลกเปลี่ยนข่าวสารเหตุบ้านการเมืองประจำวันผ่านเฟซบุ๊กพร้อมกับแปล 3 ภาษา ภาษาไทย-อังกฤษ-เยอรมัน อีกทั้งยังมีการเพิ่มเติมบทวิเคราะห์-วิจารณ์ทางกฎหมายเพิ่มเติม ( ศาสตราบอกจุดเด่นของเฟซบุ๊กที่เขาชอบมากกว่าทวิตเตอร์เพราะ เนื้อหาข่าว และข้อความที่พิมพ์ในเฟซบุ๊กลงได้มากกว่า )  โดยเป็นสิ่งที่เขาเรียนมาโดยตรงอีกด้วย หลังจากนั้นก็จะมีเครือข่ายที่ร่วมกันทั้งนักวิชาการ และบุคคลที่มีความสนใจในเรื่องการเมือง มาร่วมเป็นอาสานักข่าวและนักวิชาการรวมกันกระจายข่าวสาร ซึ่งจาก 2-3 ปีที่ผ่านมาถือว่าได้การตอบรับน่าพอใจมากๆ

" ยกตัวอย่างเหตุการณ์การเมืองที่มันรุนแรงมีการต่อสู้กัน มีการให้ข้อมูลข่าวสารมุมต่างๆ ในปัจจุบันข่าวที่เข้ามาในเฟซบุ๊กผมเร็วมาก เรียกว่าวันๆ แทบจะไม่ได้ทำอะไรโพสต์แต่ข่าวขึ้นไปเรื่อยๆ ปรากฏว่าคนก็เริ่มเฮ … เข้ามา ภายในไม่กี่วันผมรับ add คนเพิ่มเกือบ 300 คน แต่ 300 คนอาจหมายถึงเครือข่ายที่ส่งข้อความไปอีกเท่าไรไม่อาจคำนวณได้  ผมเลยกลายเป็นนักข่าวที่เป็นเสมือนที่เก็บรวบรวมข้อมูลข่าวสารเพื่อกระจายต่อไปยังผู้เสพข่าวในเวลาอันรวดเร็ว  แต่ถ้าถามว่าพลังจากเฟซบุ๊กที่ผลักให้คนออกมาชุมนุมจะส่งผลถึงความรุนแรงเป็นแบบ 6 ตุลา ที่ประชาชนเข้าห่ำหั่นกัน หรือเปล่าผมว่าไม่  เพราะจากการร่วมตัวหลายครั้งที่ผ่านมา คนที่มามากมายถือว่ามีการศึกษา ที่สำคัญไม่ชอบความรุนแรง "

ถามว่าการชุมนุมของคนเสื้อหลากสีที่เร่ิมต้นจากเครื่อข่ายทางเฟซบุ๊กสู่ท้องถนน กับการชุมนุมของเสื้อเหลือง-แดงที่ดูเคเบิลทีวีนั้นๆ มีแตกต่างกันอย่างไร อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ ม.รังสิต มองว่า เสื้อแดงเป็นการจัดตั้งตามรูปแบบ การชุมนุมไม่ต่างจากกลุ่มเสื้อเหลือง แต่สำหรับเสื้อชมพูและกลุ่มคนเสื้อหลากสีนั้นเกิดขึ้นจากความไม่พอใจ เนื่องจากการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงมันกระทบชีวิตประชาชนที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายไหนจนเป็นวงกว้าง ซึ่งการกระทำแบบนี้มันผลักให้ผู้คนเหล่านี้ และคนที่ไม่เห็นด้วยในเรื่องความคิดทางการเมือง จนกลายเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของคนรุ่นใหม่ที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ในการจัดตั้งการชุมนุมทางสังคมออนไลน์เกิดขึ้น

" เมื่อมีการส่งผ่านข้อมูล ความคิด ความเห็นไปสู่กัน เมื่อความคิด ความเห็นตรงกัน พลังทางสังคมก็เกิดขึ้น อีกอย่างปัจจุบันเฟซบุ๊ก นั้นได้กลายเป็นวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ จึงมีอิทธิพลอย่างยิ่งในการส่งผ่านความคิดและผลักพลังบริสุทธิ์ของจากหน้าจอคอมพ์ไปสู่ถนนอย่างที่หลายคนคาดไม่ถึงเลยทีเดียว ส่วนกระแสของ "นักข่าวเฟซบุ๊ก" จะมาเร็วไปเร็วไหม ทุกๆ อย่างมีขึ้นมีลง ซึ่งถ้าอนาคตสถานการณ์จริงๆ มันกดดันคนอยู่แบบนี้ทุกๆ วัน เฟซบุ๊กเป็นที่รวมที่ประสานความคิดความเห็นซึ่งเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ อาจจะมีหรืออาจจะหายไปขึ้นกับเทคโนโลยี แต่อย่างไรก็ดี การขับเคลื่อนของกลุ่มคนเล็กๆ แต่ทว่าก็พิสูจน์ได้ว่ามันสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ หรือที่ฝรั่งเขาเรียกกันว่าทฤษฎีบัตเตอร์ไฟล์เอฟเฟก นั่นเอง " นักข่าวเพซบุ๊กกล่าวในที่สุด

" ผึ้ง " เจ้าของเฟซบุ๊ก  http://www.facebook.com/#!/profile.php?id=781325397 เป็นอีกหนึ่งคนที่เรียกตัวเองว่า นักข่าวเฟซบุ๊กสายในประเทศ  ปัจจุบันเธอทำงานอยู่ที่สถาบันการเงินชื่อดังแห่งหนึ่งเล่าให้ฟังว่า  เริ่มเล่นเฟซบุ๊กประมาณ 1-2 ปีพร้อมกับ add ชื่อ " นักวิชาการ " เอาไว้มากมายเพื่อติดตามข่าวสารการวิเคราะห์ของพวกเขา  จนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์พลิกผันของการเมืองไทยเมื่อวันที่เข้ายึดพื้นที่คอกวัว และมีการยิงกันตาย  คืนนั้นข่าวสารการเมืองที่มีมาปล่อยข่าวโคมลอยให้ประเทศไทย-สถาบันกันวุ่นวายมากๆ จากแค่ผู้ตามข่าวสาร จึงตัดสินใจอยากจะนำเสนอข่าวที่เป็นข้อเท็จจริงเพื่อเผยแพร่ไปสู่สาธารณชนให้เขาได้รับทราบข่าวสารการวิเคราะห์รอบด้าน  ทั้งมุมแดง มุมเหลือง มุมของรัฐบาล และมุมของต่างประเทศ

" วันหนึ่งๆ ข่าวหนังสือพิมพ์ คอลัมนิสต์ รายการฟรีทีวี เคเบิลทีวีทั้งนอก และในประเทศเราดูหมด  ซึ่งบางบทความดีมากๆ แต่คนพวกนี้จะไม่ค่อยได้เล่นเฟซบุ๊ก  พอนำมาลง  ก็เหมือนช่วยเขาเผยแพร่เป็นประจำวันละหลายเวลา  อย่างเช่นข่าวเมื่อวันที่มีการยิงเอ็ม 79 ที่สีลมเราก็มอนิเตอร์ว่า  เหลืองว่าไง  แดงว่าไง  ฟรีทีวีว่าไง  เคเบิลทีวีว่าไง  ต่างประเทศว่าไง  แล้วเอามาประมวลผลว่าข้อมูลการตาย  สาเหตุทั้งหมดว่าตรงกันไหม  แล้วทำการเผยแพร่ด้วยข้อมูลรอบด้านแบบนี้  ปัจจุบันจึงมีคนแอดชื่อเฟซบุ๊กของเราเข้าหลักพันคนแล้ว "

ผึ้ง บอกด้วยว่า ปัจจุบันคนที่เป็นนักข่าวเฟซบุ๊กกำลังบูมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีการรวมกลุ่มกันแชร์ข้อมูลข่าวสารมากถึงกว่าพันคน

" ถามว่าได้อะไรจากตรงนี้  เงินเดือนก็ไม่ได้  เหนื่อยก็เหนื่อยเครียดก็เครียด ( หัวเราะ )  แต่ก็ได้ความภูมิใจ ที่เราได้ทำหน้าของคนไทยคนหนึ่งที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารแบบรอบด้าน  ไม่ใช่การให้ข้อมูลมอมเมาอย่างจอเหลือง  หรือจอแดง อย่างเดียว  สิ่งที่เหนืออื่นใดเราเชื่อว่าว่าไม่ต้องเป็นองค์กรใหญ่  เราเชื่อในทฤษฎีที่คนเล็กก็สามารถมีสิทธิเปลี่ยนแปลงอะไรได้  และเฟซบุ๊กก็กำลังจะเป็นแบบนั้น " นักข่าวสาวสายเฟซบุ๊กสรุป

      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 18 19 [20] 21 22 ... 29  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><