ตามครูไปเที่ยว

[nok15]

สวัสดีค่ะน้องเริง
   
      ตามอ่านอยู่นะคะ

มีประโยชน์มาก. พี่ชอบเรื่องที่เล่ามากค่ะ

สวัสดีทุกคนนะคะ
   

[เริง2520]

สตูลเป็นของไทย ไม่เป็นของมาลายู ..เหมือนไทรบุรี

เรื่อง เกี่ยวกับเมืองสตูลยังปรากฎในหนังสือพงศาวดารเมืองสงขลา แต่ข้อความที่ปรากฎบางตอนเกี่ยวกับชื่อผู้ว่าราชการเมืองสตูล ไม่ตรงกับพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๓ ประวัติเกี่ยวกับเมืองสตูลในการจัดรูปแบบการปกครองเมือง ตามระบอบมณฑลเทศาภิบาลว่า ในปี พ.ศ. ๒๔๔๐ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รักษาเมืองไทรบรี เมืองเปอร์ลิส และเมืองสตูลเป็นมณฑลเทศาภิบาล เรียกว่า "มณฑลไทรบุรี" โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาไทรบุรีรามภักดี เจ้าพระยาไทรบุรี (อับดุลฮามิต) เป็นข้าราชการเทศาภิบาลมณฑลไทรบุรี เมืองสตูลได้แยกจากเมืองไทรบุรีอย่างเด็ดขาด ตามหนังสือสัญญาไทยกับอังกฤษเรื่องปักปันเขตแดนระหว่างไทยกับสหพันธรัฐมาลายู ซึ่งลงนามกันที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม ร.ศ.๑๒๗ (พ.ศ. ๒๔๕๒) จากหนังสือสัญญานี้ยังผลให้ไทรบุรีและปลิสตกเป็นของอังกฤษ ส่วนสตูลคงเป็นของไทยสืบมาจนถึงปัจจุบัน

 เมื่อ ปักปันเขตแดนเสร็จแล้ว ได้มีพระราชโองการโปรดให้เมืองสตูลเป็นเมืองจัตวารวมอยู่ในมณฑลภูเก็ต เมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม ร.ศ.๑๒๘ (พ.ศ. ๒๔๕๓)

[เริง2520]

[

คฤหาสน์กูเด็น ที่สร้างขึ้นโดยพระยาภูมินารถภักดี  (ท่านเดียวกับที่มีตึกในปีนัง ) หรือตวนกูบาฮารุตดิน บินตำมะหง เจ้าเมืองในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ระหว่าง พ.ศ.2441-2459 เป็นสถาปัตยกรรมยุโรปแบบโคโรเนียล เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน 2 ชั้น อาคารเป็นตึกแบบตะวันตก ประตูหน้าต่างรูปโค้งสถาปัตยกรรมยุโรบ หลังคาทรงปั้นหยาแบบไทยและใช้กระเบื้องดินเผารูปกาบกล้วย บานหน้าต่างเป็นแผ่นไม้ชิ้นเล็กๆ เป็นเกล็ดแนวนอน ช่องลมหน้าบนตกแต่งรูปดาวสถาปัตยกรรมแบบอิสลาม สร้างเมื่อ พ.ศ.2441 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2459  คฤหาสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่ไม่ได้ประทับแรม และเคยเป็นบ้านพักและศาลากลางจังหวัด ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมโบราณวัตถุและจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยว กับศิลปวัฒนธรรมประเพณีและวิถีชีวิตของชาวสตูลในด้านต่าง ๆ

[หนุน'21]

ตามอ่าน ตามชมครับพี่เริง
ขอบคุณครับ

[เหยง 16]

พายุหวู่ติ๊บ เข้ามาในประเทศไทยทั้งจังหวัดนครพนมด้วยการเป็นดีเปรสชั่น และสลายตัวเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ
จากนั้นจะขึ้นทะแยงไปทางเหนือเล็กน้อย ไปสลายเหนือจังหวัดตาก-ลำปาง (ตามรูปพยากรณ์ในภาพสีเขียว)

มีร่องมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พาดผ่านภาคใต้ฝั่งอันดามัน-อ่าวไทย และภาคตะวันออก มีผลให้ฝนมาก คลื่นสูง ลมแรง

จุดที่พายุหวูติ๊บ สลายตัวในประเทศไทย

ภาพจาก JTWC จองสหรัฐ


ภาพจากอุตุนิยมของไทย

พยากรณ์อากาศ ประจำวันอังคารที่ 1 ตุลาคม 2556
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"พายุ “หวู่ติ๊บ” (WUTIP)"

ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.  พายุไต้ฝุ่น “หวู่ติ๊บ” (WUTIP) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางได้ขึ้นฝั่งเหนือเมืองเว้ ประเทศเวียดนาม
เมื่อวานนี้ (30 กันยายน) เวลา 16.00 น. ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและพายุดีเปรสชั่นอย่างรวดเร็วและเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณจังหวัดนครพนมในเช้าวันนี้ (เวลา 01.00 น.) และเมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (1 ต.ค. 56)มีศูนย์กลางอยู่ที่จังหวัดนครพนม กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยคาดว่าจะอ่อนกำลังลงอีกเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณรอยต่อของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ด้านตะวันออกและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือรวมทั้งภาคเหนือด้านตะวันออกมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งกับมีลมแรง ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดนครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติดังกล่าวไว้ด้วย
อนึ่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนหนาแน่นเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามัน
และอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังการเดินเรือในระยะ 1-2 วันนี้
ไว้ด้วย

[เริง2520]

บ้านที่สมเด็จฯเช่า ไม่มีนานแล้ว คนไปก่อนๆบอกไว้
"ก่อนเดินทางมาปีนัง เราทราบล่วงหน้าแล้วว่าซินนามอนฮอลล์ที่สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพเคยประทับนั้นไม่หลงเหลือซากใด ๆ เพราะจากการสอบถามคุณอร่าม สวัสดิวิชัย กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ มูลนิธิเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเคยถวายงานรับใช้ใกล้ชิด ม.จ. พูนพิศมัย ดิศกุล  คุณอร่ามเล่าว่าเคยทูลถามเรื่องนี้เช่นกัน  ท่านหญิงพูนทรงเล่าว่ารื้อไปนานแล้ว  แม้จะฟังดู “น่าเสียดาย” ที่คนรุ่นหลังพลาดโอกาสจะได้ตามรอยสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพในปีนังอย่างใกล้ชิดจริง ๆ จัง ๆ แต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่าตั้งแต่เมื่อสมเด็จฯ ไปเช่าอยู่ บ้านซินนามอนก็เก่าถึงขนาดที่เจ้าของบ้านเคยบอกว่าถ้าสมเด็จฯ เลิกเช่าแล้วคงต้องรื้อทิ้ง เพราะเทศบาลไม่อนุญาตให้ซ่อมแซมอีกต่อไป  ส่วนถนนเกลาไวที่เราเห็นในวันนี้กลายเป็นย่านหรูของปีนัง เต็มไปด้วยตึกสูงและคอนโดมิเนียมราคาแพง"

มีเพียงชื่อ ถนนกรุงเทพฯ หลังวัดไชยมังคลาราม

[เริง2520]

เที่ยวปีนังกันจนเหนื่อย ..พักทานขนมก่อน

[เหยง 16]

น้องเริง


น่าจะเป็น"ขนมจาก" ทำจากมะพร้าวขูดเป็นหลักกับแป้ง ห่อด้วยใบจากย่างจนสุกพร้อมกลิ่นจากใบจาก
ต่างจาก"ขนมข้าวเหนียวปิ้ง"ใช้ใบตองห่อ ซึ่งเป็นข้าวเหนียวห่อกล้วยหรือเผือกเป็นไส้ ปิ้งย่างแบบเดียวกัน

[เริง2520]

พี่เหยง

ขนมอย่างนี้ก็มักครับ  ข้าวเหนียวปิ้ง..อร่อยและอิ่ม

[เหยง 16]

น้องเริง

เดี๋ยวนี้ชิ้นละ 5 บาทแล้ว แพงขึ้นทุกวัน
สมัยเด็กๆ ยังซื้อได้ชิ้นละสลึงเดียว

[เริง2520]

อย่างนี้แล้วขนมจากของ"ยายทวด" จะอันละเท่าไรนี่

[เหยง 16]

น้องเริง

'เมกา ยังใช้ 1 ดอลล์ที่ที่เป็นเหรียญและแบงก์
ของเรา 10 บาท หาแบงก์ไม่เจอแล้ว แถมพวกจะทำแต่เหรียญ 20 อีกต่างหาก

[เริง2520]

วันนี้ไปพื้นที่ ไปโดยรถ..เป็นเส้นทางเดิมๆใช้คลอง ถ้าจะไปกรุงเทพฯต้องนั่งเรือไปที่อำเภอบางใหญ่และต่อเรือไปท่าช้าง

วัดบางโค ริมคลองบางใหญ่



ฝั่งตรงข้ามวัด

[เริง2520]

นั่งรถต่อไป..เจอคลองเดิม ที่ชุมชนบางคูลัด





หากนั่งเรือตรงไป จะไปถึงนครชัยศรี มหาชัยและออกทะเลได่

และหันหลังกลับ ก็ไปอำเภอบางใหญ่และไปอำเภอบางบัวทองและที่อื่นๆด้วยคลองเช่นกัน

[เหยง 16]

เสียดายว่า การเดินทางและขนส่งทางเรือของเราเลิกใช้ไปแล้ว

หากยังเป็นตามนี้ เรายังใช้เส้นทางน้ำเพื่อการคมนาคมได้ เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ในยุดที่ถนนเต็มไปด้วยรถคันแรก

[เริง2520]

ไปวัดสิงห์ ที่ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย

ตั้งอยู่ที่บ้านบางคูเวียง ตำบลบางคูเวียง อำเภอบางกรวย สร้างเมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๓๒๐ ขึ้นทะเบียนเป็นสร้างโบราณสถาน เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๖
พระวิหาร มีลักษณะทรงสูง ด้านหน้าและด้านหลังเป็นมุขเด็จ หน้าบันและหร่ายสร้างด้วยไม้สัก สลักลวดลายดอกไม้ บัวหัวเสา ฐานชุกชี ซุ้มประตู และหน้าต่างเป็นลวดลายปูนปั้นปิดทองประดับกระจก ฐานพระวิหารแอ่นโค้งเป็นรูปสำเภาเป็นศิลปกรรมสมัยอยุธยาตอนปลาย

วิหาร ด้านหน้า หันหน้าไปทางคลองบางคูเวียง









ด้านหลัง



และพระพุทธรูปในวิหารสมัยกรุงศรีอยุธยา

[เหยง 16]

น้องเริง


ที่เห็นไม่ใช่ตัวพระอุโบสถ (โบสถ์) หรือ ??

[เริง2520]

หอไตร ตั้งอยู่กลางน้ำ หน้าบันแกะเป็นรูปพระนารายณ์ทรงครุฑ และลายกระหนกเปลว ออกช่อเป็นรูปเทพนมล้อมรูปพระนารายณ์ บานประตูหน้าต่างเป็นลายรดน้ำ  ภาพของท่านอื่น  สังเกตรอยคราบน้ำท่วมที่ถังน้ำ

[เริง2520]

พระอุโบสถ  ภาพของท่านอื่น

ที่ไม่ได้ถ่ายเพราะสร้างใหม่

[เริง2520]

พี่เหยง
จากคำอธิบายเป็นวิหารครับ

แต่ที่วัดสุวรรณดาราราม  อยุธยา พระอุโบสถแอ่นท้องสำเภา

[เริง2520]

แต่พระวิหารไม่แอ่นท้องสำเภา

[เริง2520]

มาที่วัดสิงห์ ต่อ

ศาลาวัด ต่อเติมบ้างด้วยซีเมนต์เพื่อใช้สอยและความแข็งแรง แต่เสายังใช้ไม้ทั้งต้น ด้านบนและล่าง



ด้านล่างใช้ไม้ทั้งต้นเป็นเสาอย่างชัดเจน ชุมชนใช้พื่นที่นี้จัดเลี้ยงงานบวชงานมงคลอื่นๆ พร้อมทั้งมีไฟ พัดลมและเวที

ส่วนพิธีการใช้ชั้นบน วัดนี้จึงอยู่ร่วมกับชุมชนได้เป็นอย่างดี

[เริง2520]

เช้านี้อากาศดี ไม่ฝน ไม่แสงแดด

[เริง2520]

นายไมตรี ปิตินานนท์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับน้ำที่ผ่านเขื่อนเจ้าพระยาระบายอยู่ที่ 2,195 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที รวมถึงฝนที่ตกใต้เขื่อนเจ้าพระยาลงมาตั้งแต่จ.สิงห์บุรี ลพบุรี และอ่างทอง ทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นจึงมีผลกระทบทำให้ระดับน้ำบริเวณโบราณสถานป้อมเพชรของอำเภอพระนครศรีอยุธยา สูงขึ้นตามไปด้วย
 
ทั้งนี้ ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดแล้ว พร้อมขอความร่วมมือกรมเจ้าท่าประกาศแจ้งเตือนเรือที่ใช้เส้นทางดังกล่าวสัญจรไปมา เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรงและเป็นพื้นที่ติดกับสามแยกแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักไหลมาบรรจบกัน อาจทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มขึ้น ล่าสุด ระดับน้ำสูงขึ้นเอ่อล้นแนวกระสอบทรายที่ทำป้องกันไว้ ไหลเข้าท่วมทางเท้ารอบโบราณสถานแล้ว

ภาพสภาพปรกติที่ถ่ายมาครั้งล่าสุด  ๒๕ กันยายน

[หนุน'21]

สวัสดีครับพี่เริง
ตามชมครับ