02 มิถุนายน 2567, 11:05:18
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 56 57 [58] 59 60 ... 156   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: สื่อสาส์น สานไมตรี ซีมะโด่ง 2516  (อ่าน 1064017 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1425 เมื่อ: 16 เมษายน 2553, 21:28:37 »

ซื้อกลับมาตุนไว้ที่บ้านด้วย เพราะหลายๆร้านหยุดขายวันสงกรานต์-วันครอบครัวและวันผู้สูงอายุ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1426 เมื่อ: 19 เมษายน 2553, 12:11:26 »

วันนี้ขอแก้หัวข้อของห้องเป็น>> RCU in Action @ รดน้ำขอพร "วันสงกรานต์ 2553" ศุกร์ที่ 23 เมษายน 2553 <<
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1427 เมื่อ: 19 เมษายน 2553, 15:22:02 »



ประกาศสงกรานต์ปีพุทธศักราช 2553 ปีขาล เป็น เทวดาผู้หญิงธาตุไฟ โทศก จุลศักราช 1372 ทางจันทรคติเป็นอธิกมาส
(ปีทางจันทรคติที่มีเดือน 8 สองหน) ทางสุริยคติเป็นปกติสุรทิน วันที่ 14 เม.ย. เป็นวันมหาสงกรานต์ ตรงกับวันพุธ ขึ้น 1 ค่ำ
เดือน 6 เวลา 07 นาฬิกา 19 นาที 19 วินาที นางสงกรานต์ทรงนามว่า "มณฑาเทวี" ทรงพาหุรัดทัดดอกจำปา อาภรณ์แก้ว
ไพฑูรย์ ภักษาหารนม เนย พระหัตถ์ขวาทรงเหล็กแหลม พระหัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้า เสด็จยืนมาเหนือหลังคัสพะ (ลา)
เป็นพาหนะวันที่ 16 เม.ย. เวลา 11 นาฬิกา 18 นาที 36 วินาที เปลี่ยนจุลศักราชใหม่เป็น 1372

ปีนี้ วันอังคารเป็นธงชัย วันพฤหัสบดีเป็นอธิบดี วันจันทร์เป็นอุบาทว์ วันเสาร์เป็นโลกาวินาศปีนี้ วันอังคารเป็นอธิบดีฝน
บันดาลฝนให้ตก 300 ห่า ตกในโลกมนุษย์ 30 ห่า ตกในมหาสมุทร 60 ห่า ตกในป่าหิมพานต์ 90 ห่า ตกในเขาจักรวาล 120 ห่า
นาคให้น้ำ 7 ตัว เกณฑ์ธัญญาหาร ได้เศษ 5 ชื่อวิบัติ ข้าวกล้าในภูมินาจะเกิดกิมิชาติ (ด้วงกับแมลง) จะได้ผลกึ่ง
เสียกึ่งเกณฑ์ธาราธิคุณ ตกราศีเตโช (ไฟ) น้ำน้อย

นอกจากนี้ คำทำนายโบราณ กล่าวไว้ว่า วันมหาสงกรานต์ตรงกับวันพุธ วันเนาตรงกับวันพฤหัสบดี วันเถลิงศก ตรงกับวันศุกร์
ทำนายว่า ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ จะได้รับการยกย่องจากต่างประเทศ ผลไม้จะแพง พ่อค้าคหบดีจะทำมาค้าขึ้น มีผลกำไรมาก
นางสงกรานต์ยืนมา จะทำให้เกิดความเดือดร้อน เจ็บไข้.
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1428 เมื่อ: 19 เมษายน 2553, 22:03:19 »

อยากเห็นบรรยากาศรดน้ำขอพรจากอาจารย์และซีมะโด่งรุ่นพี่ ในปี 2552 ที่ผ่านมา ได้ที่หน้า 1 ของห้องนี้ครับ
      บันทึกการเข้า
wannee
Global Moderator
Cmadong พันธุ์แท้
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: จุฬาฯรุ่นประวัติศาสตร์ 2516
คณะ: ทันตแพทยศาสตร์
กระทู้: 4,806

« ตอบ #1429 เมื่อ: 20 เมษายน 2553, 06:13:08 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 19 เมษายน 2553, 12:11:26
วันนี้ขอแก้หัวข้อของห้องเป็น>> RCU in Action @ รดน้ำขอพร "วันสงกรานต์ 2553" ศุกร์ที่ 23 เมษายน 2553 <<


ขอบคุณค่ะ ที่ช่วยกัน  ปิ๊งๆ
      บันทึกการเข้า

"เสียด" ภาษาจีนฮากกา แปลว่า หิมะ
Janchai
มือใหม่หัดเมาท์
*


It is lovely to be called "Mom".
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 242

« ตอบ #1430 เมื่อ: 21 เมษายน 2553, 05:13:51 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 19 เมษายน 2553, 15:22:02


ประกาศสงกรานต์ปีพุทธศักราช 2553 ปีขาล เป็น เทวดาผู้หญิงธาตุไฟ โทศก จุลศักราช 1372 ทางจันทรคติเป็นอธิกมาส
(ปีทางจันทรคติที่มีเดือน 8 สองหน) ทางสุริยคติเป็นปกติสุรทิน วันที่ 14 เม.ย. เป็นวันมหาสงกรานต์ ตรงกับวันพุธ ขึ้น 1 ค่ำ
เดือน 6 เวลา 07 นาฬิกา 19 นาที 19 วินาที นางสงกรานต์ทรงนามว่า "มณฑาเทวี" ทรงพาหุรัดทัดดอกจำปา อาภรณ์แก้ว
ไพฑูรย์ ภักษาหารนม เนย พระหัตถ์ขวาทรงเหล็กแหลม พระหัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้า เสด็จยืนมาเหนือหลังคัสพะ (ลา)
เป็นพาหนะวันที่ 16 เม.ย. เวลา 11 นาฬิกา 18 นาที 36 วินาที เปลี่ยนจุลศักราชใหม่เป็น 1372

ปีนี้ วันอังคารเป็นธงชัย วันพฤหัสบดีเป็นอธิบดี วันจันทร์เป็นอุบาทว์ วันเสาร์เป็นโลกาวินาศปีนี้ วันอังคารเป็นอธิบดีฝน
บันดาลฝนให้ตก 300 ห่า ตกในโลกมนุษย์ 30 ห่า ตกในมหาสมุทร 60 ห่า ตกในป่าหิมพานต์ 90 ห่า ตกในเขาจักรวาล 120 ห่า
นาคให้น้ำ 7 ตัว เกณฑ์ธัญญาหาร ได้เศษ 5 ชื่อวิบัติ ข้าวกล้าในภูมินาจะเกิดกิมิชาติ (ด้วงกับแมลง) จะได้ผลกึ่ง
เสียกึ่งเกณฑ์ธาราธิคุณ ตกราศีเตโช (ไฟ) น้ำน้อย

นอกจากนี้ คำทำนายโบราณ กล่าวไว้ว่า วันมหาสงกรานต์ตรงกับวันพุธ วันเนาตรงกับวันพฤหัสบดี วันเถลิงศก ตรงกับวันศุกร์
ทำนายว่า ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ จะได้รับการยกย่องจากต่างประเทศ ผลไม้จะแพง พ่อค้าคหบดีจะทำมาค้าขึ้น มีผลกำไรมาก
นางสงกรานต์ยืนมา จะทำให้เกิดความเดือดร้อน เจ็บไข้.

ขอบคุณ ชอบจัง ไม่ได้อ่านมานาน เกือบลืม นะเนี้ย
อยากรดน้ำอาจารย์ด้วยคน
เสียดถือสองขันรดเผื่อติ๋มด้วยนะคะ
ขอบคุณล่วงหน้า
คลานไปดีอย่าให้ขันคว้ำรดตัวเอง
เล่นโยคะ พละดังโยคี จะได้คลานไหว
      บันทึกการเข้า

ติ๋ม จันทร์ฉาย
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #1431 เมื่อ: 21 เมษายน 2553, 17:27:51 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 19 เมษายน 2553, 15:22:02


ประกาศสงกรานต์ปีพุทธศักราช 2553 ปีขาล เป็น เทวดาผู้หญิงธาตุไฟ โทศก จุลศักราช 1372 ทางจันทรคติเป็นอธิกมาส
(ปีทางจันทรคติที่มีเดือน 8 สองหน) ทางสุริยคติเป็นปกติสุรทิน วันที่ 14 เม.ย. เป็นวันมหาสงกรานต์ ตรงกับวันพุธ ขึ้น 1 ค่ำ
เดือน 6 เวลา 07 นาฬิกา 19 นาที 19 วินาที นางสงกรานต์ทรงนามว่า "มณฑาเทวี" ทรงพาหุรัดทัดดอกจำปา อาภรณ์แก้ว
ไพฑูรย์ ภักษาหารนม เนย พระหัตถ์ขวาทรงเหล็กแหลม พระหัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้า เสด็จยืนมาเหนือหลังคัสพะ (ลา)
เป็นพาหนะวันที่ 16 เม.ย. เวลา 11 นาฬิกา 18 นาที 36 วินาที เปลี่ยนจุลศักราชใหม่เป็น 1372

ปีนี้ วันอังคารเป็นธงชัย วันพฤหัสบดีเป็นอธิบดี วันจันทร์เป็นอุบาทว์ วันเสาร์เป็นโลกาวินาศปีนี้ วันอังคารเป็นอธิบดีฝน
บันดาลฝนให้ตก 300 ห่า ตกในโลกมนุษย์ 30 ห่า ตกในมหาสมุทร 60 ห่า ตกในป่าหิมพานต์ 90 ห่า ตกในเขาจักรวาล 120 ห่า
นาคให้น้ำ 7 ตัว เกณฑ์ธัญญาหาร ได้เศษ 5 ชื่อวิบัติ ข้าวกล้าในภูมินาจะเกิดกิมิชาติ (ด้วงกับแมลง) จะได้ผลกึ่ง
เสียกึ่งเกณฑ์ธาราธิคุณ ตกราศีเตโช (ไฟ) น้ำน้อย

นอกจากนี้ คำทำนายโบราณ กล่าวไว้ว่า วันมหาสงกรานต์ตรงกับวันพุธ วันเนาตรงกับวันพฤหัสบดี วันเถลิงศก ตรงกับวันศุกร์
ทำนายว่า ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ จะได้รับการยกย่องจากต่างประเทศ ผลไม้จะแพง พ่อค้าคหบดีจะทำมาค้าขึ้น มีผลกำไรมาก
นางสงกรานต์ยืนมา จะทำให้เกิดความเดือดร้อน เจ็บไข้.
พี่เหยง,
replyนี้ต้องนำไปแปะอีกทีที่common room
กระทู้ รู้ไว้ไช่ว่าค่ะ
กำลังอยู่ในช่วงพอดี

      บันทึกการเข้า


เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1432 เมื่อ: 21 เมษายน 2553, 20:14:27 »

หนุงหนิง

ฝากน้องแปะให้ด้วย เพราะดูฤกษ์ดูยามตามประกาศนั่นแหละ เมื่อวานที่ร้านตัดผม คนตัดกันตรึมเลย
วันจันทร์-เป็นวันอุบาทว์ วันเสาร์เป็นวันโลกาวินาศ, วันอังคารเป็นวันธงชัย วันพฤหัสบดี เป็นวันอธิบดี
วันพุธ เขาไม่ตัดผมกันอยู่แล้ว ทำให้เมื่อวาน คนไปรอตัดผมกันแน่นร้าน เพราะเป็นวันธงชัยวันแรกของปีใหม่
      บันทึกการเข้า
wannee
Global Moderator
Cmadong พันธุ์แท้
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: จุฬาฯรุ่นประวัติศาสตร์ 2516
คณะ: ทันตแพทยศาสตร์
กระทู้: 4,806

« ตอบ #1433 เมื่อ: 22 เมษายน 2553, 19:46:44 »


เหยง  แก้กระทู้แล้วนา  ปิ๊งๆ

ติ๋ม16  ทราบว่ามัทและนิดไปชัวร์ จะฝากให้นา  และจะกำชับให้คลานดีๆ บ่ฮู้บ่หัน  เหอๆๆ
      บันทึกการเข้า

"เสียด" ภาษาจีนฮากกา แปลว่า หิมะ
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1434 เมื่อ: 23 เมษายน 2553, 12:34:59 »

ข่าวล่ามาเรือเกลือ

คณะกรรมการชมนมนิสิตเก่าหอพักนิสิตจุฬาฯ ตัดสินใจยกเลิกการรดน้ำขอพรอาจารย์และพี่เก่า และการประชุมกรรมการในวันนี้แล้ว เนื่องจากสถานการณ์ที่ไม่ปกติของบ้านเมือง รวมทั้งรถไฟฟ้า BTS กับรถไฟใต้ดินหยุดให้บริการ

จึงเรียนมาเพื่อทราบ
      บันทึกการเข้า
Janchai
มือใหม่หัดเมาท์
*


It is lovely to be called "Mom".
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 242

« ตอบ #1435 เมื่อ: 23 เมษายน 2553, 20:47:39 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 23 เมษายน 2553, 12:34:59
ข่าวล่ามาเรือเกลือ

คณะกรรมการชมนมนิสิตเก่าหอพักนิสิตจุฬาฯ ตัดสินใจยกเลิกการรดน้ำขอพรอาจารย์และพี่เก่า และการประชุมกรรมการในวันนี้แล้ว เนื่องจากสถานการณ์ที่ไม่ปกติของบ้านเมือง รวมทั้งรถไฟฟ้า BTS กับรถไฟใต้ดินหยุดให้บริการ

จึงเรียนมาเพื่อทราบ

ช่างสลดใจเสียจริงๆ เราก็แก่ลงไปทุกวัน อยากเห็นคนรุ่นหลังรู้จักรัก สามัคคีกัน
เขาก็คน เราก็คน ทำไมถึงรักกันไม่ได้
แค่เห็นไม่เหมือนกัน ควรจะเอาความไม่เหมือนมาบวกกัน แล้วสร้างสรรค์ให้ชีวิตกับคนรุ่นใหม่
อนิจจัง อนิจจา น้ำตาคนไทยอย่างเราไม่ได้ช่วยอะไรได้เลย มันเลยแห้งหายไปเอง
แล้วก็ก้มหน้าทำหน้าที่ของคนที่ไหนๆก็เกิดมาแล้ว จนชีวิตมันสิ้นตามเวลาตามธรรมชาติ
      บันทึกการเข้า

ติ๋ม จันทร์ฉาย
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1436 เมื่อ: 23 เมษายน 2553, 21:07:04 »

ติ๋ม

.....

พิมพ์ไปเยอะเลย แต่ขอลบออกน่ะ
บอกได้แค่..หลายๆคน ไปเพราะมีเงินจ้างไป พอมีเรื่อง เขาก็โหนกระแส มีอารมณ์ไปด้วย ทำร้ายคนโดยไม่มีเหตุผล
มองคนที่ไม่เข้าเป็นพรรค เป็นพวก เป็นศัตรูไปเลย ซึ่งมันน่าสลดใจจริงๆ
      บันทึกการเข้า
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #1437 เมื่อ: 24 เมษายน 2553, 15:40:21 »

เหอๆๆๆๆๆ  สวัสดีครับ  ท่ามกลางความวุ่นวายของบ้านเมือง  ไม่รู้จะจบลงแบบไหน
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1438 เมื่อ: 25 เมษายน 2553, 08:42:40 »

ถึงเวลาหนึ่ง ก็ต้องใช้กำลังครับ ........ จบแบบยกเลิกการชุมนุมนั้น คาดว่า-ไม่มีแน่นอน
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1439 เมื่อ: 25 เมษายน 2553, 08:44:19 »

วันนี้ ๒๕ เมษายน เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ช่วยกันสวด พาหุง ให้ประเทศไทยกันด้วยครับ
      บันทึกการเข้า
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #1440 เมื่อ: 25 เมษายน 2553, 08:58:32 »

คุณเหยงสวดแล้วใส่เครื่องหมายไม้ยมกด้วยนะ
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1441 เมื่อ: 25 เมษายน 2553, 13:22:32 »

ได้เลย
สวดให้ 3 จบครบแล้วครับ
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1442 เมื่อ: 25 เมษายน 2553, 13:27:30 »

พุทธคุณ พาหุง มหากา

จากคำสอนหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน

หลวงพ่อจรัญ " พระพุทธคุณ อาตมาสังเกตมาว่า บางคนเขาไปหาหมอดูเคราะห์ร้ายก็ต้องสะเดาะเคราะห์
อาตมาก็มาดูเหตุการณ์โชคลางไม่ดีก็เป็นความจริงของหมอดู อาตมาก็ตั้งตำราขึ้นมาด้วยสติ
บอกว่าโยมไปสวดพุทธคุณเท่าอายุให้เกินกว่า ๑ ให้ได้ เพื่อให้สติดี แล้วสวด "พาหุงมหากา" หายเลย
สติก็ดีขึ้นเท่าที่ใช้ได้ผลสวดตั้งแต่ นะโม พุทธัง ธัมมัง สังฆัง พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ พาหุงมหากา
จบแล้วย้อนกลับมาข้างต้น เอาพุทธคุณห้องเดียว ห้องละ ๑ จบ ต่อ ๑ อายุ อายุ ๔๐ สวด ๔๑ ก็ได้ผล "


--------------------------------------------------------------------------------

<<เริ่มสวด>>
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

๑. พุทธคุณ
อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะ สัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู
อนุตตะโร ปุริสะธัมมะสาระถิ สัตถาเทวมนุสสานัง พุทโธภะคะวาติ


๒. ธรรมคุณ
สวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตังเวทิตัพโพ วิญญูหิติ


๓. สังฆคุณ
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทังจัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ


๔. พุทธชัยมงคลคาถา (ถวายพรพระ)

๑. พาหุง สะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง
ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ

๒. มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง
ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ

๓. นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง
เมตตัมพุเสกะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ

๔. อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง ธาวันติโย ชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง
อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ

๕. กัตตวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ
สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ

๖. สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง
ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ

๗. นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต
อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ

๘. ทุคคาหะ ทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พรัหมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง
ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ
เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถาโย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที
หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ

* ถ้าสวดให้คนอื่นใช้คำว่า เต สวดให้ตัวเองใช้คำว่า เม (เต แปลว่าท่าน - เม แปลว่าข้าพเจ้า)


๕. มหาการุณิโก

มหาการุณิโก นาโถ หิตายะ สัพพะปาณินัง ปูเรตวา
ปาระมี สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
โหตุ เต ชะยะมังคะลังฯ
ชะยันโต โพธิยา มูเล สักยานัง
นันทิวัฑฒะโน เอวัง ตะวัง วิชะโย โหหิ ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล
อะปะราชิตะปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร อะภิเสเก สัพพะ
พุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะติฯ สุนักขัตตัง สุมังคะลัง
สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง สุขะโณ สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัหมะ
จารีสุ ปะทักขิณัง กายะกัมมัง วาจากัมมัง ปะทักขิณัง ปะทักขิณัง
มโนกัมมัง ปะณิธี เต ปะทักขิณา ปะทักขิณานิ กัตวานะ ละภันตัดเถ ปะทักขิเณฯ
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
สัพพะพุทธา นุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต*
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
สัพพะธัมมา นุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต*
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
สัพพะสังฆา นุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต*
* ถ้าสวดให้คนอื่นใช้คำว่า เต สวดให้ตัวเองใช้คำว่า เม (เต แปลว่าท่าน - เม แปลว่าข้าพเจ้า)

กราบ ๓ ครั้ง เสร็จแล้วสวดเฉพาะพุทธคุณ ดังต่อไปนี้

อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชา จาระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู
อะนุตตะโร ปุริสะทัม มะสาระถิ สัตถาเทวะ มะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ

ให้สวดพุทธคุณเกินอายุ ๑ จบ เช่น อายุ ๒๘ ปี ให้สวด ๒๙ จบ
เมื่อสวดพุทธคุณครบตามจำนวนจบที่ต้องการแล้ว จึงตั้งจิตแผ่เมตตาและอุทิศส่วนกุศลดังนี้


คาถาแผ่เมตตาตนเอง

อะหัง สุขิโต โหมิ ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข
อะหัง นิททุกโข โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากความทุกข์
อะหัง อะเวโร โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากเวร
อะหัง อัพยาปัชโฌ โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง
สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ
ขอให้ข้าพเจ้าจงมีความสุขกายสุขใจ รักษากายวาจาใจให้พันจากความทุกข์ภัยทั้งปวงเถิด


แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์
สัพเพสัตตา สัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
อัพยาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้พยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
อนีฆา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย
สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิดฯ


บทกรวดน้ำ (อุทิศส่วนกุศล)
อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร
- ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่มารดาบิดาของข้าพเจ้า ขอให้มารดาบิดาของข้าพเจ้า จงมีความสุข
อิทัง เม ญาตินัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย
- ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า จงมีความสุข
อิทัง เม คุรูปัชฌายาจริยานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ คุรูปัชฌายาจริยา
- ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แด่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ จงมีความสุข
อิทัง สัพพะ เทวะตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เทวา
- ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลาย ขอให้เทวดาทั้งหลายจงมีความสุข
อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา
- ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่เปรตทั้งหลาย ขอให้เปรตทั้งหลาย จงมีความสุข
อิทัง สัพพะ เวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเวรี
- ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงมีความสุข
อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพสัตตา
- ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข

<<จบบทสวด>>


--------------------------------------------------------------------------------

คำแปล "พาหุงมหากา" หรือ "พุทธชัยมงคลคาถา" มีอยู่ ๘ บท และมีความมุ่งหมายแตกต่างกันทั้งแปดบท กล่าวคือ

บทที่ ๑ สำหรับเอาชนะศัตรูหมู่มาก เช่น ในการสู้รบ
บทที่ ๒ สำหรับเอาชนะใจคนที่กระด้างกระเดื่องเป็นปฏิปักษ์
บทที่ ๓ สำหรับเอาชนะสัตว์ร้ายหรือคู่ต่อสู้
บทที่ ๔ สำหรับเอาชนะโจร
บทที่ ๕ สำหรับเอาชนะการแกล้ง ใส่ร้ายกล่าวโทษหรือคดีความ
บทที่ ๖ สำหรับเอาชนะการโต้ตอบ
บทที่ ๗ สำหรับเอาชนะเล่ห์เหลี่ยมกุศโลบาย
บทที่ ๘ สำหรับเอาชนะทิฏฐิมานะของคน

เราจะเห็นได้ว่า ของดีวิเศษอยู่ในนี้ และถ้าพูดถึงการที่จะเอาชนะหรือการแสวงหาความมีชัย ก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไร
นอกเหนือไปจาก ๘ ประการที่กล่าวข้างต้น
ก่อนที่จะนำเอาตัวคาถาบทสวดมนต์และคำแปลมาไว้ให้จำจะต้องทำความเข้าใจคำอธิบายบทต่างๆ
ไว้พอสมควรก่อน เพราะความในคาถาเองเข้าใจยาก ถึงจะแปลออกมาก็ยังเข้าใจยากอยู่นั่นเอง เมื่อเราไม่เข้าใจ
เราอาจจะไม่เกิดความเลื่อมใส จึงควรจะหาทางทำความเข้าใจกันให้แจ่มแจ้งไว้ก่อน

ในบทที่ ๑. เป็นเรื่องผจญมาร ซึ่งมีเรื่องว่าพระยามารยกพลใหญ่หลวงมา พระพุทธเจ้าก็ทรงสามารถเอาชนะได้
จึงถือเป็นบทสำหรับเอาชนะศัตรูหมู่มาก เช่น ในการสู้รบ
คำแปล- พระยามารผู้นิรมิตแขนได้ตั้งพัน ถืออาวุธครบมือ ขี่ช้างชื่อ ครีเมขละ พร้อมด้วยเสนามารโห่ร้องมา
องค์พระจอมมุนีก็เอาชนะมารได้ ด้วยทานบารมีด้วยเดชะอันนี้ ขอชัยมงคลจงมีแก่เรา

ในบทที่ ๒. เรื่องเล่าว่า มียักษ์ตนหนึ่ง ชื่ออาฬะวกะ เป็นผู้มีจิตกระด้างและมีกำลังยิ่งกว่าพระยามาร
พยายามมาใช้กำลังทำร้ายพระองค์อยู่จนตลอดรุ่ง ก็ทรงทรมานยักษ์ตนนี้ให้พ่ายแพ้ไปได้
จึงถือเป็นบทที่ใช้เอาชนะปฏิปักษ์หรือคู่ต่อสู้
คำแปล- อาฬะวกะยักษ์ผู้มีจิตกระด้าง ปราศจากความยับยั้ง มีฤทธิ์ใหญ่ยิ่งกว่าพระยามาร
เข้ามาประทุษร้ายอยู่ตลอดรุ่ง องค์พระจอมมุนีก็เอาชนะได้ ด้วยขันติบารมี ด้วยเดชะอันนี้ ขอชัยมงคลจงมีแก่เรา

ในบทที่ ๓. มีเรื่องว่าเมื่อพระเทวทัตทรยศต่อพระพุทธเจ้า ได้จัดการให้คนปล่อยช้างสาร ที่กำลังตกมันชื่อนาฬาคีรี
เพื่อมาทำร้ายพระพุทธเจ้า แต่เมื่อช้างมาถึงก็ไม่ทำร้าย จึงถือเป็นบทที่เอาชนะสัตว์ร้าย
คำแปล- ช้างตัวประเสริฐ ชื่อนาฬาคีรี เป็นช้างเมามัน โหดร้ายเหมือนไฟไหม้ป่า มีกำลังเหมือนจักราวุธ และสายฟ้า
องค์พระจอมมุนีก็เอาชนะได้ ด้วยพระเมตตาบารมีด้วยเดชะอันนี้ ขอชัยมงคลจงมีแก่เรา

ในบทที่ ๔. เป็นเรื่องขององคุลีมาล ซึ่งเรารู้กันแพร่หลาย คือ องคุลีมาลนั้นอาจารย์บอกไว้ว่า
ถ้าฆ่าคนและตัดนิ้วมือมาร้อยเป็นสร้อยคอ ให้ได้ครบพัน ก็จะมีฤทธิ์เดชยิ่งใหญ่
องคุลีมาลฆ่าคนและตัดนิ้วมือได้ ๙๙๙ เหลืออีกนิ้วเดียวจะครบพัน ก็มาพบพระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้าทรงสามารถเอาชนะถึงกับองคุลีมาลเลิกเป็นโจรและยอมเข้ามาบวช กลายเป็นสาวกองค์สำคัญองค์หนึ่ง
จึงถือเป็นบทที่ใช้เอาชนะโจรผู้ร้าย
คำแปล- โจร ชื่อ องคุลีมาล มีฝีมือเก่งกล้า ถือดาบเงื้อวิ่งไล่พระองค์ไปตลอดทาง ๓ โยชน์
องค์พระจอมมุนีก็เอาชนะได้ ด้วยการกระทำปาฏิหาริย์ ด้วยเดชะอันนี้ขอชัยมงคลจงมีแก่เรา

ในบทที่ ๕. หญิงคนหนึ่งมีนามว่า จิญจมาณวิกา ใส่ร้ายพระพุทธเจ้า โดยเอาไม้กลมๆ
ใส่เข้าที่ท้องแล้วก็ไปเที่ยวป่าวข่าวให้เล่าลือว่าตั้งครรภ์กับพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทรงเอาชนะ ให้ความจริงปรากฏแก่คนทั้งหลายว่าเป็นเรื่องกล่าวร้ายใส่โทษพระองค์โดยแท้
จึงถือเป็นบทที่เอาชนะคดีความหรือการกล่าวร้ายใส่โทษ
คำแปล- นางจิญจมาณวิกาใช้ไม้มีสัณฐานกลมใส่ที่ท้อง ทำอาการประหนึ่งว่ามีครรภ์ เพื่อกล่าวร้ายพระพุทธเจ้า
องค์พระจอมมุนีก็เอาชนะได้ ด้วยวิธีสงบ ระงับพระทัยในท่ามกลางหมู่คน ด้วยเดชะอันนี้ขอชัยมงคลจงมีแก่เรา

ในบทที่ ๖. เป็นเรื่องที่พระพุทธเจ้าทรงเอาชนะสัจจะกะนิครนถ์ ซึ่งเป็นคนเจ้าโวหาร เข้ามาโต้ตอบกับพระพุทธเจ้า
จึงถือเป็นบทที่ใช้เอาชนะในการโต้ตอบ
คำแปล- สัจจะกะนิครนถ์ ผู้มีนิสัยละทิ้งความสัตย์ใฝ่ใจจะยกย่องถ้อยคำของตนให้สูงประหนึ่งว่ายกธงเป็นผู้มืดมัวเมา
องค์พระจอมมุนีก็เอาชนะได้ ด้วยรู้นิสัยแล้วตรัสเทศนาด้วยเดชะอันนี้ ขอชัยมงคลจงมีแก่เรา

ในบทที่ ๗. เป็นเรื่องที่พระพุทธเจ้า ให้พระโมคคัลลาน์ อัครมหาสาวกไปต่อสู้เอาชนะพระยานาคชื่อ นันโทปนันทะ
ผู้มีเล่ห์เหลี่ยมในการต่อสู้มากหลาย จึงถือเป็นบทที่ใช้เอาชนะเล่ห์เหลี่ยมกุศโลบาย
คำแปล- องค์พระจอมมุนี ได้โปรดให้พระโมคคัลลาน์เถระ นิรมิตกายเป็นนาคราช ไปทรมานพระยานาคชื่อ
นันโทปนันทะ ผู้มีฤทธิ์มากให้พ่ายแพ้ด้วยวิธีอันเป็นอุปเท่ห์แห่งฤทธิ์ ด้วยเดชะอันนี้ ขอชัยมงคลจงมีแก่เรา

ในบทที่ ๘. เป็นเรื่องที่พระพุทธเจ้าทรงเอาชนะ ผกาพรหม ผู้มีทิฏฐิแรงกล้าสำคัญว่าตนเป็นผู้ที่มีความสำคัญที่สุด แต่พระพุทธเจ้าก็ทรงสามารถทำให้ผกาพรหมยอมละทิ้งทิฏฐิมานะ และยอมว่าพระพุทธเจ้าสูงกว่า
จึงถือเป็นบทที่ใช้เอาชนะทิฏฐิมานะของตน
คำแปล- พรหม ผู้มีนามว่า ท้าวผกา มีฤทธิ์และสำคัญตน ว่าเป็นผู้รุ่งเรืองด้วยคุณอันบริสุทธิ์
มีทิฏฐิที่ถือผิดรัดรึงอยู่อย่างแน่นแฟ้น องค์พระจอมมุนีก็เอาชนะได้ด้วยวิธีเทศนาญาณ ด้วยเดชะอันนี้ ขอชัยมงคลจงมีแก่เรา


คำแปล มหาการุณิโก

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระผู้ทรงเป็นที่พึ่งของสรรพสัตว์ทรงประกอบด้วยพระมหากรุณา ทรงบำเพ็ญพระบารมีทั้งปวง เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่สรรพสัตว์ ทรงบรรลุพระสัมโพธิญาณอันสูงสุด ด้วยการกล่าวสัจจวาจานี้ ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า


ขอข้าพเจ้าจงมีชัยชนะในชัยมงคลพิธี ดุจพระจอมมุนีผู้ยังความปีติยินดีให้เพิ่มพูนแก่ชาวศากยะ ทรงมีชัยชนะมาร ณ โคนต้นมหาโพธิ์ทรงถึงความเป็นเลิศยอดเยี่ยม ทรงปีติปราโมทย์อยู่เหนืออชิตบัลลังก์อันไม่รู้พ่าย ณ โปกขรปฐพี อันเป็นที่อภิเษกของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ฉะนั้นเถิด เวลาที่กำหนดไว้ดี งานมงคลดี รุ่งแจ้งดี ความพยายามดี ชั่วขณะหนึ่งดี ชั่วครู่หนึ่งดี การบูชาดี แด่พระสงฆ์ผู้บริสุทธิ์ กายกรรมอันเป็นกุศล วจีกรรมอันเป็นกุศล มโนกรรมอันเป็นกุศล ความปรารถนาดีอันเป็นกุศล ผู้ได้ประพฤติกรรมอันเป็นกุศล ย่อมประสบความสุขโชคดี เทอญ


ขอสรรพมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า ขอเหล่าเทพยดาทั้งปวงจงรักษาข้าพเจ้า ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้า ขอความสุขสวัสดีทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้าทุกเมื่อ


ขอสรรพมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า ขอเหล่าเทพยดาทั้งปวงจงรักษาข้าพเจ้า ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรม ขอความสุขสวัสดีทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้าทุกเมื่อ


ขอสรรพมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า ขอเหล่าเทพยดาทั้งปวงจงรักษาข้าพเจ้า ด้วยอานุภาพแห่งพระสงฆ์ ขอความสุขสวัสดีทั้งหลาย จงมีแก่ข้าพเจ้าทุกเมื่อ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------




ที่มาและอานิสงส์ของบทสวดมนต์ ชัยมงคลคาถา หรือพาหุงมหาการุณิโก
ที่มาของบทสวดมนต์ชัยมงคลคาถา อาตมาได้ตำราเก่าแก่ครั้งกรุงศรีอยุธยา เป็นใบลานทองคำจารึกของสมเด็จพระพนรัตน์
วัดป่าแก้ว ปัจจุบันเรียกว่า วัดใหญ่ชัยมงคล อยุธยา ได้รจนาถวายพระพรชัยมงคลคาถาแก่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระพนรัตน์เป็นอาจารย์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
อานิสงส์ของบทสวดมนต์ชัยมงคลคาถา หรือพาหุงมหากา สมเด็จพระนเรศวรมหาราชไม่เคยแพ้ทัพ
สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ไม่เคยแพ้ทัพ พระชัยหลังช้างของ ร.๑ นั้นมาจากบทพาหุง มหากา
ผู้ใดสวดมนต์ชัยมงคลคาถา หรือพาหุงมหากา เป็นประจำทุกๆ วันแล้ว มีแต่ชัยชนะทุกประการ
เรียนหนังสือก็เกิดปัญญา มีแต่ความเก่งกล้าสามารถ ผู้ใดสวดทุกเช้า ค่ำ คิดสิ่งใดที่ดีเป็นมงคล
จะสมความปรารถนาทุกประการ


เมื่ออาตมา(หลวงพ่อจรัญ)ได้พบกับสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว

คืนวันหนึ่งอาตมานอนหลับแล้ว ฝันไปว่า อาตมาได้เดินไปในสถานที่แห่งหนึ่งได้พบกับพระสงฆ์รูปหนึ่งครองจีวรคร่ำ
สมณสารูปเรียบร้อยน่าเลื่อมใส อาตมาเห็นว่าเป็นพระอาวุโสผู้รัตตัญญูจึงน้อมนมัสการท่าน
ท่านหยุดยืนตรงหน้าอาตมาแล้วกล่าวกับอาตมาว่า
"ฉันคือสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้วแห่งกรุงศรีอยุธยา ฉันต้องการให้เธอได้ไปที่วัดใหญ่ชัยมงคล เพื่อดูจารึกที่ฉันได้จารึกถวายพระเกียรติแก่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชผู้เป็นเจ้า เนื่องในวาระที่สร้างพระเจดีย์ฉลองชัยชนะเหนือพระมหาอุปราชาแห่งพม่าและประกาศความเป็นอิสระของประเทศไทย
จากหงสาวดีเป็นครั้งแรก เธอไปดูไว้แล้วจดจำมาเผยแพร่ออกไป ถึงเวลาที่เธอจะได้รับรู้แล้ว"
ในฝันอาตมารับปากท่าน ท่านก็บอกตำแหน่งให้แล้วก็ตกใจตื่นนอนใกล้รุ่ง อาตมาก็ทบทวนความฝันก็นึกอยู่ในใจว่าเราเองนั้นกำหนดจิตด้วยพระกรรมฐานมีสติอยู่เสมอเรื่องฝันฟุ้งซ่านก็เป็นไม่ม
ี อาตมาก็ได้ข่าวในวันนั้นแหละว่า ทางกรมศิลปากรทำการบูรณะปฏิสังขรณ์พระเจดีย์ใหญ่ในวัดใหญ่ชัยมงคล
และจะทำการบรรจุบัวยอดพระเจดีย์ อันเป็นนิมิตหมายการสิ้นสุดการบูรณะ และจะรื้อนั่งร้านทั้งหมดออกเสร็จสิ้น
อาตมาจึงได้ขอร้อง ดร.กิ่งแก้ว อัตถากร ให้เลื่อนการปิดยอดบัวไปอีกวันหนึ่งเพื่อที่อาตมาจะได้นำพระซุ้มเสมาชัย
ซุ้มเสมาขอ ที่อาตมาได้สร้างขึ้นตามแบบดั้งเดิมที่พบในเจดีย์ใหญ่ใกล้กับวัดอัมพวัน ซึ่งพังลงน้ำ
ที่ก๋งเหล็งเป็นคนรวบรวมเอาให้อาตมาตั้งแต่เมื่อเริ่มมาพัฒนาวัดใหม่ๆ แต่แตกหักผุพังทั้งนั้น หลายสิบปี๊บ
อาตมาได้ป่นเอามาผสมสร้างเป็นองค์พระใหม่ ไปร่วมบรรจุไว้ที่ยอดพระเจดีย์บ้าง

วันนั้นอาตมาเดินทางไปถึงก็ได้เดินขึ้นไปบนเจดีย์ตอนที่สุดบันไดแล้ว มองเห็นโพรงที่ทางเขาทำไว้สำหรับลงไปด้านล่าง
มีร้านไม้พอไต่ลงไปภายใน ตั้งใจเด็ดเดี่ยวว่าลงไปคราวนี้ ถ้าพลาดตกลงไปจากนั่งร้านม้าก็ยอมตาย
คนที่ร่วมเดินทางมาเขามัวแต่ไปบนลานชั้นบน อาตมาก็ดิ่งลงไปชั้นล่าง มีไฟฉายดวงหนึ่ง เวลานั้นประมาณ ๐๙.๐๐ น.
อาตมาลงไปภายในแล้วก็พบนิมิตดังที่สมเด็จพระพนรัตน์ได้บอกไว้จริงๆ
อาตมาจึงได้พบว่าแท้ที่จริงแล้ว สิ่งที่สมเด็จพระพนรัตน์วัดป่าแก้วท่านได้จารึกถวายพระพร
ก็คือบทสวดที่เรียกว่า "พาหุงมหาการุณิโก" ท้ายของนิมิตนั้นระบุว่า "เราสมเด็จพระพนรัตน์วัดป่าแก้วศรีอโยธเยศ
คือผู้จารึกนิมิตรจนาเอาไว้ถวายพระพรแด่มหาบพิตรเจ้าสมเด็จพระนเรศวรมหาราช"
พาหุงมหากาก็คือบทสวดสรรเสริญพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ แล้วก็พรพาหุงอันเริ่มด้วย
"พาหุงสหัสไปจนถึงทุคคาหทิฏฐิ แล้วเรื่อยไปจนถึงมหาการุณิโกนาโถหิตายะ
และจบลงด้วยภาวะตุ สัพพะมังคะลัง สัพพะพุทธา สัพพะธัมมา สัพพะสังฆา นุภาเวนะสะทาโสตถี ภะวันตุเต"
อาตมา เรียกรวมกันว่าพาหุงมหากา
อาตมาจึงเข้าใจในบัดนั้นเองว่า บทพาหุงนี้คือบทสวดมนต์ที่สมเด็จพระพนรัตน์วัดป่าแก้วได้ถวายให้พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ไว้สวดเป็นประจำเวลาอยู่กับพระมหาราชวังและในระหว่างศึกสงคราม
จึงปรากฏว่าพระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้าทรงรบ ณ ที่ใด ทรงมีชัยชนะอยู่ตลอดมามิได้ทรงเพลี่ยงพล้ำเลยแม้จะเพียงลำพังสองพระองค์กับสมเด็จพระอนุชาธิราชเจ้า
ท่ามกลางกองทัพพม่าจำนวนนับแสนคนก็ทรงมีชัยชนะเหนือกองทัพพม่าด้วยการกระทำยุทธหัตถี
มีชัยเหนือพระมหาอุปราชาที่ดอนเจดีย์ปูชนียสถานแม้ข้าศึกจะยิงปืนไฟเข้าใส่พระองค์ในตอนที่เข้ากัน
พระศพของพระมหาอุปราชาออกไปราวกับห่าฝนก็มิปานแต่ก็มิได้ต้องพระองค์ ด้วยเดชะพาหุงมหากาที่ทรงเจริญอยู่เป็นประจำนั่นเอง

อาตมาพบนิมิตแล้วก็ไต่ขึ้นมา ด้วยความสบายใจถึงปากปล่องที่ลงไปเกือบสามชั่วโมง เนื้อตัวมีแต่หยากไย่ เดินลงมาแม่ชีเห็นเข้ายังร้องว่า หลวงพ่อเข้าไปในโพรงนั่นมาหรือ แต่อาตมาไม่ตอบ
ตั้งแต่นั้นมา อาตมาจึงสอนการสวดพาหุงมหากาให้แก่ญาติโยมเป็นต้นมา เพราะอะไร เพราะพาหุงมหากานั้นเป็นบทสวดมนต์ที่มีค่าที่สุด มีผลดีที่สุด เพราะเป็นชัยชนะอย่างสูงสุดของพระบรมศาสดา
จากพญาวัสวดีมาร จากอาฬาวกะยักษ์ จากช้างนาฬาคิรี จากองคุลีมาล จากนางจิญมาณวิกา จากสัจจะกะนิครนถ์ จากพญานันโทปนันทนาคราช และท่านท้าวผกาพรหม เป็นชัยชนะที่พระพุทธองค์ทรงได้มาด้วยอิทธิปาฏิหาริย์ และด้วยอำนาจแห่งบารมีธรรมโดยแท้ ผู้ใดได้สวดไว้ประจำทุกวันจะมีชัยชนะมีความเจริญรุ่งเรืองตลอดกาลนาน
มีสติระลึกได้ จะตายก็ไปสู่สุคติภูมิ ขอให้ญาติโยมสวดพาหุงมหากากันให้ทั่วหน้า นอกจากจะคุ้มตัวแล้ว
ยังคุ้มครอบครัวได้ สวดมากๆ เข้า สวดกันทั้งประเทศก็ทำให้ประเทศมีแต่ความรุ่งเรือง พวกคนพาลสันดานหยาบก็แพ้ภัยไปอย่างถ้วนหน้า

ไม่ใช่แต่พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเท่านั้น
ที่พบความมหัศจรรย์ของบทพาหุงมหากา แม้สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชก็ทรงพบเช่นกัน
โดยมีบันทึกโบราณบอกไว้ว่าดังนี้
"เมื่อพระเจ้าตากสินมหาราชตีเมืองจันทบุรีได้แล้วก็ทรงเห็นว่าสงครามกู้ชาติต่อจากนี้ไปจะต้องหนักหนา
และยืดยาวจึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระยอดธงแบบศรีอยุธยาขึ้นแล้วนิมนต์พระเถระทั้งหลายมาสวดบทพาหุง มหากาบรรจุไว้ในองค์พระและพระองค์ก็ทรงเจริญรอยตามพระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ด้วยการเจริญพาหุงมหากาจึงบันดาลให้ทรงกู้ชาติสำเร็จ"
สวดพาหุงมหากากันให้ได้ทุกบ้าน สวดให้ได้มากๆ จะมีแต่ความรุ่งเรือง สวดพาหุงมหากาก่อนแล้วจึงสวดชินบัญชร
เพราะชินบัญชรนั้นเจ้าประคุณสมเด็จท่านได้สวดบูชาพระอรหันต์ของท่าน ต้องสวดพาหุงมหากาก่อนแล้วจึงมาถึงชินบัญชรให้จดจำกันเอาไว้ นั่นแหละมงคลในชีวิต
อันที่จริงถ้าเราทำบุญ เราจะได้ยินพระสวดคาถา "พาหุงมหากา" หรือ "พุทธชัยมงคลคาถา" ให้เราฟังทุกครั้ง
บางทีเราจะเคยได้ยินพระสวดเจนหูเกินไปจนไม่นึกว่ามีความสำคัญ แท้จริงแล้วคาถาดังกล่าวนี้ มีของดีอยู่ในตัวให้เราใช้มากทุกบททุกตอน เป็นเรื่องของพระพุทธเจ้า อ้างอานุภาพของพระพุทธเจ้าเพื่อนำชัยมงคลมาให้แก่เรา ทุกตอนลงท้ายว่า "ตันเตชะสา ภะวะตุเต ชะยะมังคะลานิ"
เวลาพระสวดให้เรา ท่านต้องใช้คำว่า "เต" ซึ่งแปลว่า "แก่ท่าน" แต่ถ้าเราจะเอามาสวดหรือภาวนาของเราเอง
เพื่อให้ชัยชนะเกิดแก่ตัวเราเอง เราก็จะต้องใช้ว่า "เม" ซึ่งแปลว่า "แก่ข้า" คือสวดว่า "ตันเตชะสา ภะวะตุเม
ชะยะมังคะลานิ"


http://www.84000.org/pray/puttakun.shtml
      บันทึกการเข้า
ตุ๋ย 22
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2522
คณะ: ครุศาสตร์
กระทู้: 20,173

« ตอบ #1443 เมื่อ: 25 เมษายน 2553, 13:27:39 »

ไม่ได้สวดแต่นั่งดูทีวี ช่อง nbt
      บันทึกการเข้า

น้ำใจน้องพี่สีชมพู ไม่เสื่อมคลายหายไปจากหัวใจ
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1444 เมื่อ: 25 เมษายน 2553, 13:37:51 »

พระคาถาพาหุง
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

พระคาถาพาหุง  (ข้อมูล)เรียกอีกอย่างว่า ชัยมงคลคาถา หรือ บทสวดถวายพรพระ เป็นพระคาถาแปดบท ใช้สวดสรรเสริญชัยชนะแปดประการองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่มีต่อมนุษย์และอมนุษย์ ที่ได้มาด้วยพระพุทธธรรม มิได้มาด้วยอิทธิปาฏิหาริย์แต่อย่างใด โดยพระมักสวดต่อท้ายทำวัตรเช้า – เย็น เริ่มด้วย บทพาหุง ตามด้วยบทมหาการุณิโก รวมเรียกว่า พาหุงมหาการุณิโก หรือ พาหุงมหากา

ตำนานเกี่ยวกับพระคาถาพาหุงมหากา
จากคำสอนของหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี ท่านเล่าว่าได้พบกับสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว แห่งกรุงศรีอยุธยาในนิมิต และได้ทราบว่าคาถาพาหุงมหากานี้ เป็นบทสวดที่สมเด็จพระพนรัตน์ ได้จารึกถวายต่อสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ไว้สวดเป็นประจำระหว่างอยู่ในพระบรมหาราชวัง หรือระหว่างออกศึกสงคราม เพื่อให้มีชัยต่อพระมหาอุปราชแห่งพม่า และกอบกู้กรุงศรีอยุธยาจากกรุงหงสาวดีได้สำเร็จ

บทสวดพร้อมคำแปล
ดูบทความหลักที่ พระคาถาพาหุง ใน วิกิซอร์ซ

บทสวดทำนองสรภัญญะ
 
ธงชัยเฉลิมพลกองทหารอาสาในสงครามโลกครั้งที่ 1 ด้านหน้า
ธงชัยเฉลิมพลกองทหารอาสาในสงครามโลกครั้งที่ 1 ด้านหลังพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เพื่อให้กองทัพไทยสวดก่อนออกรบร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยทรงนำพระคาถาพาหุงบทแรก มาดัดแปลงตอนท้ายจากเดิม 'ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ' เป็น 'ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะสิทธิ นิจจัง' นอกจากนี้ยังได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จารึกพระคาถาบทนี้ลงในธงชัยเฉลิมพลสำหรับกองทหารอาสาในสงครามครั้งนี้ทั้งด้านหน้าและด้านหลังอีกด้วย

ปางเมื่อพระองค์ปะระมะพุท- ธะวิสุทธะศาสดา
ตรัสรู้อนุตตะระสะมา- ธิ ณ โพธิบัลลังก์
ขุนมารสหัสสะพหุพา- หุวิชาวิชิตขลัง
ขี่คีริเมขละประทัง คชะเหี้ยมกระเหิมหาญ
แสร้งเสกสราวุธะประดิษฐ์ กละคิดจะรอนราน
ขุนมารผจญพยุหะปาน พระสมุททะนองมา
หวังเพื่อผจญวระมุนิน- ทะสุชิน(ะ)ราชา
พระปราบพหลพยุหะมา- ระเมลืองมลายสูญ
ด้วยเดชะองค์พระทศพล สุวิมล(ะ)ไพบูลย์
ทานาทิธัมมะวิธิกูล ชนะน้อมมโนตาม
ด้วยเดชะสัจจะวจนา และนะมามิองค์สาม
ขอจงนิกรพละสยาม ชยะสิทธิทุกวาร
ถึงแม้จะมีอริวิเศษ พละเดช(ะ)เทียมมาร
ขอไทยผจญพิชิตผลาญ อริแม้นมุนินทรฯ   

นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ยังได้ทรงพระราชนิพนธ์ “ บทนนฺโท ” เพื่อให้นักรบฝ่ายกองทัพเรือไว้ใช้สวดก่อนนอน โดยเป็นการแปลคาถาพาหุงคาถาที่เจ็ด ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงชนะ นันโทปนันทนาคราช

ปางเมื่อพระองค์ปะระมะพุท- ธะวรุตตะมาจารย์
ประศาสน์พระศาสะนะประสาน มนะเพื่อผดุงคน
นันโทปนันทะภุชะคา ติฉลาดและแสนกล
เรืองอิทธิฤทธิจะประจน จิระเหี้ยมอหังการ์
พระโลกะนาถะพระประทาน อุปะเทศะฤทธา
แด่องค์พระเถระวรสา- วะกะเพื่อผจญงู
วันอัคคะสาวะกะวิสิฎ- ฐะวิชิต ณ ศัตรู
ปราบนาคะราชะชยชู ชะนะแม้นมะโนจง
ด้วยเดชะสัจจะวะจะนา และนะมามิสามองค์
ขมพลสมุททะยุธะยง ชยสิทธิทุกครา
ถึงแม้คณาอริจะนำ พหุยุทธะนาวา
มาแน่น ณ แดนอุทกะสา- ครก้องคะนองหาญ
ขอเดชะองค์พระทศพล พิระเกื้อกำลังราญ
เรืองไทยวิชัยวิชิตผลาญ อริแม้นมุนินทรฯ

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B8%87
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1445 เมื่อ: 25 เมษายน 2553, 17:31:43 »

“ชาวไทยพุทธ” สวดมนต์วัดพระแก้ว วอนประเทศไทยสงบสุข
25 เมษายน 2553 15:50 น.


 
       ประธานจากทั่วประเทศร่วมทำบุญ สวดมนต์ขอพรให้ประเทศเกิดความสงบสุข และขอพรให้ในหลวงทรงหายจากพระอาการประชวร โดยมีประชาชนจำนวนมากร่วมกันใส่ชุดสีขาว ณ พระอุโบสถวัดพระแก้ว
       
       
       วันนี้ (25 เม.ย.) ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว เมื่อเวลา 07.00 น.ได้มีการจัดกิจกรรม “หยุดหนึ่งชั่วโมงให้กับประเทศไทย” เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ขจัดภัยพิบัติด้วยอำนาจธรรม โดยมีหลวงพ่อพระอาจารย์อารยะวังโส วัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย จังหวัดลำพูน เป็นประธานนำสวดมนต์และบรรยายธรรม และ อธิษฐานจิตเพื่อแผ่นดินไทย ร่วมด้วย ม.ล.สลาลี กิติยากร, คุณหญิง สุพัตรา มาศดิตถ์ ประธานสถาบันผู้หญิงกับการเมืองแห่งเอเชียและแปซิฟิก ทั้งนี้ มีพุทธศาสนิกชนแต่งชุดขาว กว่า 1,000 คน ร่วมกันสำรวมจิต กาย วาจา และสวดพุทธชัยมงคลคาถาหรือพาหุง (ชนะมาร) 9 จบ พร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อให้ประเทศไทยและประชาชนได้รับความปลอดภัยและสันติสุข ปกป้องรักษาสถาบัน พระมหากษัตริย์ หลังจากที่สถานการณ์บ้านเมืองมีความไม่สงบเรียบร้อย
       
       ทั้งนี้ ภายหลังสวดมนต์เสร็จสิ้น พุทธศาสนิกชนได้หันหน้าไปทางโรงพยาบาลศิริราช และร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงสดุดีมหาราชา ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นได้แยกย้ายเดินทางกลับในเวลา 09.30 น.

 
 
ดูภาพเพิ่มเติมได้ที่ นสพ. ผู้จัดการ ออนไลน์
http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000056717
 
      บันทึกการเข้า
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #1446 เมื่อ: 25 เมษายน 2553, 19:37:26 »

ขอบคุณหลายๆหนค่า
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1447 เมื่อ: 26 เมษายน 2553, 11:53:16 »

คืนนี้ ข่าวสองทุ่ม "ข่าวในพระราชสำนัก" จะเป็นรายการที่คนไทยทุกคนควรเฝ้าติดตามชม เนื่องจากประธานศาลฎีกา จะนำผู้พิพากษาใหม่ จำนวน 101 ท่านเข้าถวายสัตย์ฯ ช่วงเวลาประมาณ 17.30 น.ของวันนี้ ก่อนออกปฏิบัติหน้าที่ ณ ศาลาเฉลิมพระเกียรติ รพ.ศิริราช

ประธานศาลฎีกานำผู้พิพากษาใหม่เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ฯ วันนี้
26 เมษายน 2553 10:57 น.

 
       ประธานศาลฎีกา เตรียมนำผู้พิพากษาใหม่ 101 คน เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ พระเจ้าอยู่หัว วันนี้ (26 เม.ย.) เวลา 17.30 น. ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช
       
       วันนี้ (26 เม.ย.) ที่สำนักงานศาลยุติธรรม ถ.รัชดาภิเษก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่นายสนอง บูรณะ รองราชเลขาธิการ ปฏิบัติราชการแทนราชเลขาธิการ ได้ทำหนังสือแจ้งมายังนายวิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เรื่อง พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ผู้พิพากษาเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฎิญาณ ความว่า
       
       ตามที่ขอให้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณา ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส ให้นายสบโชค สุขารมณ์ ประธานศาลฎีกา นำผู้พิพากษาประจำศาล สำนักงานศาลยุติธรรม จำนวน 101 คน เข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ และขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้นายวิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม นายไพโรจน์ นวานุช ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ประจำสำนักประธานศาลฎีกา นายวรวุฒิ ทวาทศิน เลขาธิการประธานศาลฎีกา และนายสราวุธ เบญจกุล รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เฝ้าฯ ร่วมด้วยนั้น ความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฎิญาณ ก่อนเข้ารับหน้าที่ในวันจันทร์ที่ 26 เมษายนนี้ เวลา 17.30 น. ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช
       
       ทั้งนี้ สำนักงานศาลยุติธรรมได้ทำหนังสือถึงราชเลขาธิการ เรื่องขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ผู้พิพากษาเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเพื่อถวายสัตย์ปฎิญาณ เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา ความว่า ด้วยได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งผู้ช่วยผู้พิพากษาให้ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาประจำศาลจำนวน 101 คน ตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.2552 และโดยที่ผู้พิพากษาประจำศาลต้องถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ก่อนเข้ารับหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ม.201 สำนักงานศาลยุติธรรมจึงมีความประสงค์ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ประธานศาลฎีกานำคณะผู้พิพากษาเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณ

 
 
จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000057027
 
 
      บันทึกการเข้า
iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #1448 เมื่อ: 26 เมษายน 2553, 14:49:23 »

สวัสดีค่ะพี่ๆ 16

น้องต้องขอโทษด้วยที่่ห่างหายไปนานนนนนนนนนมาก.....แต่ยังคิดถึงพี่ๆ ทุกคนเสมอนะคะ ตอนแรกกะไปงานรดน้ำขอพรแล้ว แต่เจอเหตุการณ์และได้โทรเช็คกับพี่เสียดแล้ว อดกันถ้วนหน้าค่ะ
      บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1449 เมื่อ: 26 เมษายน 2553, 22:12:08 »

สวัสดีจ๊ะปุ๊กกี้
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 56 57 [58] 59 60 ... 156   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><