ตามด้วย คุณ"เปลว สีเงิน"
"รวมสี"สู่เส้นทางมหาประชาชนเปลว สีเงิน 19 เมษายน 2553 - 00:00     ดูเหมือนผมเคยบอกแต่เมื่อครั้ง  "เมษาเดือด"  แล้วว่า  "มหาประชาชนเท่านั้นที่ชาติต้องการ"  และเป็นเช่นนั้นจริงๆ  ถึงวันนี้ผมขอบคุณฟ้า-ดินจริงๆ  ที่ทำให้  "ประเทศไทยมีวันนี้"  คือวันที่ภายใต้หัวกะโหลกคนไทยทุกคน  "ต่อมปัญญา"  จากรากแก้วได้แตกตัวขยายเป็นรากฝอย  "แผ่ยึดแผ่นดินไปทุกสารทิศ  นั่นคือนิมิต  "ประเทศไทยเติบใหญ่"  สู่อนาคตใหม่ภายใต้แกนรากเดิมแน่นอน!
     หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง  ๒๔๗๕  เรื่อยมา  เราได้ยินประโยคหนึ่งที่พูดต่อเนื่องกันมาว่า  "บริหารให้ประชาชนโง่เข้าไว้  แล้วจะง่ายต่อการปกครอง"!
     ด้วยปรัชญาประชาธิปไตยจิ้งจอกจากผู้นำทางการบริหารประเทศภายใต้ระบอบใหม่ที่ใช้กันต่อเนื่องมาตลอดนั้น  ถึง  ณ  วันนี้  "ความโง่"  ๗๘  ปี  ที่ประชาชนทุกระดับชั้น  ทุกระดับองค์กรของไทยถูกบ่มเพาะต่อเนื่องมา  ก็ถึงวันที่ความโง่พัฒนาพันธุ์เป็น  "ความรู้-ความเข้าใจ"  ถึงคำว่า  "สิทธิ์เอ็ง-สิทธิ์ข้า"
     ยังขาดเพียง  "สะพานเชื่อมต่อ"  ถึงการใช้สิทธิ์นั้นไปสู่จุดพัฒนาการบน  "ความทัดเทียมกัน"  ทางโอกาส  ผ่านคำว่า  "การใช้และการรักษาสิทธิ์-หน้าที่ของเรานั้น  ต้องเคารพสิทธิ์  และไม่ล่วงเกินสิทธิ์ของผู้อื่นด้วย"
     เราไม่ชอบให้คนอื่นมาเหยียบหัวแม่ตีนเรา  ฉันใด  คนอื่นเขาก็ไม่ชอบให้เราไปเหยียบหัวแม่ตีนเขา  ฉันนั้น!
     นี่คือ  "หัวใจประชาธิปไตย"  ที่ถูกต้อง  และเราทั้งหลายกำลังก้าวไปถึงจุดนี้  และนี่แหละคือ  "ความดีงาม"  ในความทรามของการอ้างใช้ประชาธิปไตยกลางถนนที่คนหัวโจกเสื้อแดงไปเกณฑ์  "ชาวบ้าน"  จากท้องทุ่ง-ท้องท่ามาเข้าคอร์สประชาธิปไตย  แล้วใช้ความอสัตย์ในหัวใจ  "สอนลัทธิล้มชาติ"  แทน 
     ชาวบ้าน   ๘๐-๙๐%  นอกเหนือจากมือ-ตีนของพวกแกนนำขบวบนการโค่นชาติ  เขาซื่อ  แต่-แต่ละคนมีปัญหาในวงจรชีวิตจริงๆ  เมื่อถูกหลอกด้วยเรื่องอิงนิยาย  ประกอบกับเป็นมนุษย์ในสังคมที่ต้องเคลื่อนตามกันเป็นหมู่  พวกเขาจึงถูกเสี้ยมใช้โดยง่าย 
     ยิ่งมาอยู่ร่วมกันมากๆ  ฟังนิทานโกหกจากพวกบนเวทีกรอกหูทั้งวัน-ทั้งคืน  ย่อมเกิดอุปาทานหมู่  เหมือนคนฟังพระสวดภาณยักษ์   พอพระสวดกระทุ้งเสียงดังว่า  ยั้กกกก...โข....เท่านั้นแหละ
     เยี่ยวราด  ดิ้นกันตูมจนศาลาแตก  พอคนแรกดิ้น  ไอ้ที่สั่นๆ  ก็พลันดิ้นตามกันไป  เลยกลายเป็นว่า  ผีห่า-ผีโหง  สิงอยู่ในร่างชาวบ้านหมดเกือบทุกคน!?
     ซึ่งในความเป็นจริง  มันไม่ใช่  และมันไม่มีอะไรเป็นจริงอย่างนั้น  แต่ก็นั่นแหละ  ด้วยศรัทธาที่ไร้รากปัญญา  เพราะไม่มีใครสอนความจริงกับเขา  ทำให้มนุษย์ไม่สนใจจะใช้เหตุผลเข้าค้นหา  และลึกเข้าไปถึงแก่นใจ  ชาวบ้านก็รู้ว่ามันไม่ใช่...ไม่จริง  แต่ทำตามๆ  กันไปแล้วมันได้พวกแถมสบายใจ 
     ฉะนั้น  จะปฏิเสธมันไปเพื่ออะไรล่ะ?
     แต่วันนี้  และจากตัวอย่างของจริงในบทเรียนประชาธิปไตย  ชาวบ้านที่มาชุมนุม  "บางส่วน"  เริ่มเรียนรู้  และเข้าใจด้วยปัญญาแยกแยะได้แล้วว่าที่ทักษิณและหัวโจกสวดนั้นมันคือ  "มนต์แห่งมาร"  ไม่ใช่ภาณยักษ์  ดูได้จากจากเหตุการณ์  ๑๐  เมษา.ไม่ใช่การไล่ผีที่เข้าสิงประชาธิปไตย  หากแต่เป็นการฆ่าชาวบ้าน...ฆ่าทหาร  "คนไทยกันเอง"  ให้วายกลายเป็นผี
     แล้วใคร..ที่ไหนล่ะ  ที่ฆ่าทหาร  ฆ่าชาวบ้านเสื้อแดงกันเอง?
     ก็   "กลุ่มก่อการร้ายติดอาวุธ"   ของพวกบกฏทักษิณนั่นแหละ  มันทำเป็น  "ใครไม่รู้"  มาช่วยบ้าง  ทำให้เข้าใจว่าเป็นทหารของบ้านเมืองลอบฆ่าบ้าง  แล้วมันเองก็ฆ่าทั้งชาวบ้านเสื้อแดง  ฆ่าทั้งทหารอันเป็นลูกหลานของชาวบ้านแท้ๆ
     เหตุผลมีอย่างเดียวคือ  พวกกบฏทักษิณ  "ปั่นหัว"  ให้  "ชาวบ้าน-รัฐบาล-ทหาร"  เข้าใจผิดกัน  แล้วโกรธแค้นกัน  จากนั้นก็...ทำสงครามประชาชน!
     ถ้าเกิด  "สงครามประชาชน"  ใครพัง?
     ประเทศชาติของคนไทยทุกคน  "พัง"!
     พังแล้ว...ใครได้?
     ทักษิณน่ะ  นึกหรือว่าจะได้  ความจริงมันก็  "ควาย"  ตัวหนึ่งที่เบิ่งเห็นปล่องเมรุเป็นยอดปราสาท  พวกคณะกบฏแผ่นดินอันประกอบด้วย  "วีระ-จตุพร-ณัฐวุฒิ-เหวง  และใครต่อใครระดับแกนๆ  นั่นแหละ  ถ้าทำสำเร็จก็จะหลอกให้ทักษิณกลับเข้ามา  แล้วก็จับเชือดโดยอ้าง  "เพื่อขจัดเงื่อนไข"  ที่เป็นอุปสรรคในการสร้างชาติไทยใหม่ของเขา
     อย่านึกว่าทักษิณคนเดียวจะถูกพวกคณะกบฏเชือดนะ  พวกวงศ์วานว่านเครือทั้งหลาย  จะถึง  ๗  ชั่วโคตรหรือไม่  ผมไม่รู้  แต่ที่รู้แน่  ไม่ต่ำกว่า  ๑๐  คน  จะต้องถูกพวก  วีระ-จตุพร-ณัฐวุฒิ-เหวง  "เชือด"  เป็นการ...ขุดราก-ถอนโคน
     ล้านเปอร์เซนต์!?
     ทำไมถึงเป็นเช่นนี้  เอ้า...โคตรเหง้า  และวงศ์วานว่านเครือ  โปรดฟัง  ทุกกบฏ-ทุกสงครามชิงชาติ  เป็นอย่างนี้ทั้งนั้น  ต้องไม่ลืมว่า  "เบื้องหลังของความสำเร็จที่สวยงามมาจากการทรยศ  กบฏรัก  และหักหลังกัน"!!!
     นี่คือสัจจะในหมู่โจรชิงชาติ  แต่ละคน-แต่ละฝ่าย  ลองตอบตัวเองดูก็ได้  อย่างวีระ-จตุพร-เหวง-ณัฐวุฒิ  ลึกลงไปในใจ  เป็นใครก็ต้อง  "แอบจิต"  คิดว่า  "พวกกู  ลงทุน  ลงแรง"  ชนิด  "ชีวิตเป็นเดิมพัน"  แล้วมันเรื่องอะไร  สำเร็จแล้วให้มันมานั่งโต๊ะมุก  ส่วนพวกเราต้องคุกเข่า"?
     แค่เงินที่โปรยหว่านน่ะเรอะ....เชอะ..เงินมันที่ไหน   เงินโกงชาติ-โกงแผ่นดินมาทั้งนั้น  ถ้าให้มึงขึ้นเป็นใหญ่  "มึงและคณะญาติ"  ก็จะกวาดเรียบอีก  "แล้วพวกกูแทบเป็น-แทบตาย  แกล้งยืนกลางแดดตบตาชาวบ้านที่หลอกมารบเคียงบ่า-เคียงไหล่  (แต่นอน  SC  ปาร์คบ้าง  เอราวัณบ้าง)
     แล้วมันเรื่องอะไร...พวกกูเป็นใหญ่เสียเองไม่ดีกว่าเรอะ!?
     นี่คือ  "เรื่องจริง"  ที่ไม่อิงนิยาย  อันชาย  "ต่อมโต"  ควรสังวรไว้  พวกฝ่ายคอมมิวนิสต์หลงยุคใกล้ตัวนั่นน่ะ  เขาร่าง  "พิมพ์เขียว"  ตามแนว  "แดงทั้งแผ่นดิน"  ฉบับของพวกเขาไว้เรียบร้อยแล้ว  รู้ไว้ด้วย...โง่แล้วอวดรวย  น่าสงสารจริงๆ! 
     ผมถึงบอกว่า  "ขอบคุณฟ้า-ดิน"  ที่ทำให้ประเทศไทยมีวันนี้  ถ้าคนไทยยังไม่มีความเจ็บปวดร่วมกันที่ต้องต่อสู้เพื่อเอาชนะสิ่งนั้นร่วมกัน  นั่นก็ยากที่ไทยจะฝ่าวิบากไปสู่จุดพัฒนาสูงสุดข้างหน้า
     วันนี้  "เรามีจุดเจ็บปวดที่ต้องต่อสู้"  เพื่อเอาชนะร่วมกันแล้ว!
     ไม่ใช่ชนะแบบ   "เอาสีไปฆ่าสี"  สี-มันก็แค่เปลือก  จะสีแดง  สีเหลือง  สีเขียว  สีน้ำเงิน   สีกากี  สีขาว  ก็คือเปลือก  แต่  "เนื้อใน"  ของคนไทยวันนี้  คือ  "ปัญญาไทย"  ที่แก่จัด  ได้เวลาที่ต้องขยายพันธุ์ลงแปลงเพาะ  แล้วฟูมฟัก-พัฒนาให้เผ่าพันธุ์ปัญญาไทยเป็น  "พันธุ์ใหม่"  ที่ให้ผลิตผลต่อชาติ-ต่อสังคมชนิด  ๑  ต่อ  ๑๐๐  ไม่ใช่  ๑  ต่อ  ๑๐  หรือ  ๒๐  เหมือนอดีตแล้ว
     และ  "ผู้ที่"  รู้ทันต่อพัฒนาการ  "ต้องมองความเป็นไปนี้ด้วยความเข้าใจ  นั่นคือ  "ต้องไม่ควบคุม"  แต่ต้องปกครองด้วยรูปแบบ  "บริหาร"  โดยแปลง  "การจัดการ"  เป็น  "การบริการ"  สู่เป้าหมายไทย  "ทุกสี"  ชนะร่วมกัน!
     "ทุกสี"  จะชนะร่วมกันไปสู่เป้าหมาย  "มหาประชาชน"  ที่ชาติต้องการได้อย่างไร  พูดแล้วยาว  ดูตัวอย่าง  "ไทยเสื้อหลากสี"  ดังต่อไปนี้ดีกว่า
     เรียนคุณเปลวที่เคารพ
     ดิฉันเพิ่งจะกลับมาจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิแล้วก็มาส่งเมล์ให้คุณเลย  มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเลยว่าจะสามารถพูดให้คุณฟังได้อย่างไร  ดิฉันไม่นึกเลยว่าจะมีประชาชนที่รัก  "ในหลวง"  จะออกมาแสดงความรู้สึก  และทุกคนพร้อมที่จะทำเพื่อท่านจะมากมายขนาดนี้  วันแรกที่ไปก็ใจไม่ดีเหมือนกันว่าจะไปรอดไหม  และก็ไม่รู้ว่าในกรุงเทพฯ  ของเราจะมีสักกี่คนที่รักพระองค์ท่าน  หลังจากนั้นไม่กี่วันต่อมาก็ได้ทราบข่าวว่ามี  "กลุ่มวัยรุ่น"  ที่เล่นโลกออนไลน์ที่บางครั้งผู้ใหญ่ชอบมองว่าไร้สาระ   แต่กลับกลายเป็นว่าวัยรุ่นพวกนี้น่ารัก  น่านับถือกว่าผู้ใหญ่บางกลุ่ม  บางคน  ที่มันทรยศ  ขายชาติ  ขายแผ่นดิน  เพียงแค่ได้เงินมาปรนเปรอให้ตัวเองมีความสุขความสบายโดยไม่นึกถึงความเลว  ความชั่ว  ผิด  ถูก 
     อีกทั้งทำให้ดิฉันได้ปลดปล่อยความอัดอั้นตันใจที่  "ในหลวง"  ของเราถูกจาบจ้วงอย่างเสียหายโดยที่รัฐฯ  ไม่จัดการ  ปล่อยให้บานปลายจนเป็นไฟลามทุ่ง  แล้วยังเหตุการณ์วันสงกรานต์อีก  แล้วยังมีทหารที่จงรักภักดีถูกเก็บ  ถูกฆ่า  อีกทั้งอันธพาลครองเมืองจริงๆ  ทุกๆ  ครั้งที่เสื้อแดงมันมาที่บ้านคุณอภิสิทธิ์  มาปิดถนนสุขุมวิททีไร  ดิฉันเครียดมากๆ  อึดอัดมากพูดก็ไม่ได้บอกไม่ถูก 
     วันที่ไปราบ   ๑๑  ก็เช่นเดียวกัน  ดิฉันรู้สึกว่าได้ปลดปล่อยความรู้สึกที่รักชาติบ้านเมือง  รักพ่อหลวงของเรา  หลังจากที่เครียด  และกดดันมากๆๆ  ที่ทหารและบ้านเมืองโดนไอ้พวกชั่วช้าสามานย์มันทำได้ถึงขนาดนี้  ดิฉันนั่งร้องไห้และเครียดมากๆๆ  ตอนที่ดูทีวีเห็นทหารบาดเจ็บ  คนเสื้อแดงถูกยิงตาย  จนสามีดิฉันต้องปิดทีวีแล้วบอก
     "ไม่ต้องดูแล้ว  ทำใจให้สบายๆ  เดี๋ยวพระสยามเทวาธิราชจะคุ้มครองคนดีๆ  เอง"
     คุณเปลวลองคิดดูสิคะว่าเมืองไทยเป็นได้ขนาดนี้  วันนี้ดิฉันดีใจที่ได้ส่งเมล์ให้คุณเปลว  สีเงิน  เป็นการระบายความในใจว่า  ถึงอย่างไรเงินสักเท่าไหร่ก็ซื้อความจงรักภักดี  ความรักชาติ  รักแผ่นดินของดิฉันไม่ได้  ดิฉันอาจจะเขียนยาวไปหน่อย  กลัวคุณเปลว  สีเงิน  จะไม่อ่านเมล์ชาวบ้านอย่างดิฉัน  แต่มันก็เป็นการเขียนออกมาจากหัวใจคนรักชาติ-ศาสน์-กษัตริย์  นะคะ  ดิฉันไม่เคยเขียนเมล์ยาวขนาดนี้  ถ้าส่งให้เพื่อนจะไม่เกินสามบรรทัดค่ะ
                                    ขอบพระคุณอย่างสูงนะคะที่ให้ดิฉันเขียนระบาย
                                               ชาวบ้านสุขุมวิท
     นี่คือมิติของการ  "รวมสี"  ให้เป็นมหาประชาชน  แต่อยากบอกถึงบางกลุ่มนอกจากนี้ว่า  ถ้าหวังจะชนะร่วมกันทุกคน-ทุกสี  ข้อแรก  ต้องเปลี่ยนจาก  "เคารพ-เทิดทูนในหลวง"  ด้วยปากมาเป็นการ  "ลงมือทำ"  ตามที่พระองค์สอน  ข้อสอง  การเทิดทูนในหลวง  ต้องไม่ดึงพระองค์ท่านลงมาใช้ในลักษณะอ้างอิงแบ่งข้าง-แบ่งฝ่าย  และข้อสาม  ชาวบ้านอันเป็นผู้ตามต้องอภิบาล  ส่วน  "กบฏแผ่นดิน"  อันเป็นผู้ก่อการ
     ประหารสถานเดียว!
http://www.thaipost.net/news/190410/20981