16 มิถุนายน 2567, 15:25:34
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 105 106 [107] 108 109 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3306765 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 5 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
nok15
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 529

« ตอบ #2650 เมื่อ: 28 กรกฎาคม 2554, 16:10:39 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 28 กรกฎาคม 2554, 08:33:29
สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง และชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                      วันพุธประชุมทั้งวันภาคบ่าย อยู่ในห้องแอร์ ทำให้หายใจไม่สะดวก ตอนเช้าไปถึงโรงงานนั่งในห้องแอร์ จาม ไอ รุมเร้ามาก เห็นท่าไม่ดี  จึงหาหมวกนิรภัยมาสวม เอาผ้าปิดปากกันฝุ่น เดินตรวจโรงงานเสียสองชั่วโมงเพื่อหลีกเลี่ยงไม่นั่งห้องแอร์ ครับ

                       พอดีผลตรวจร่างกายที่โรงงานออกมาพอดี ปรากฎว่าปริมาณเม็ดเลือดขาวน้อยไปหน่อย มันก็ตรงกับสิ่งที่เป็นอยู่คือ ถ้าปริมาณเม็ดเลือดขาวน้อยกว่าปกติ(WBC 4,000 เกณฑ์ 5,000-10,000) ภูมิต้านทานจะลดลง  โดยเฉพาะโรคภูมิแพ้ และโอกาสเป็นมะเร็งจะสูง ซึ่งมันก็เป็นจริง พี่สิงห์จึงต้องทนทุกข์ไอ แพ้อากาศอย่างหนักมาหนึ่งเดือนเต็มแล้ว  กำลังจะหาวิธีเพิ่มปริมาณเม็ดโลหิตขาวให้กับตัวเอง คงต้องเป็นเรื่องอาหารการกิน  ส่วนความดันโลหิตปกติแต่สูง  คอเรสตอรอลสูงเกินปกตินิดหน่อย ไตรกรีเวอไรที่เคยสูงปรากฏว่า ต่ำมาก  คงยังต้องควบคุมอาหาร งดไขมัน (แต่ก็งงเหมือนกัน เพราะอาหารไขมันกินน้อยมาก  เนื้อหมู ไก่ เนื้อ  จนคิดว่าน้อยเกินไปด้วยซ้ำ) และออกกำลังกายให้มากขึ้น พักผ่อนให้เพียงพออีกด้วย ตอนนี้น้ำหนัก 67 กิโลกรัม  คงต้องทำให้มันลดลงเหลือ 66 กิโลกรัมภายในสองอาทิตย์ เพราะที่ผ่านมาคิดว่ากินน้อย ภูมิต้านทานลดลง ตอนนี้เลยกิน กิน มาก อยู่ที่ 68 กิโลกรัม ส่วนสูง 172 เซนติเมตร  อีกสามเดือนจะลองไปตรวจเลือดใหม่ ครับ

                       เป็นอันว่าชีวิตพี่สิงห์เหลืออีกไม่มากแล้ว ก็จะเป็นท่อนไม้แห้งจมอยู่ในแผ่นดิน หรือถูกเผาเป็นอากาศธาตุ  คงต้องเร่งความเพียรให้มากกว่านี้เพราะเวลาเหลือน้อยลงแล้ว  การปฏิบัติธรรมที่ผ่านมานั้น จิตไม่อยู่ปกติ ณ ปัจจุบัน ยังมีอยู่ประมาณ 25% ในหนึ่งวันโดยเฉลี่ย ก็นับว่าสูง คือเผลอ ขณะกินข้าว  พูด  ทำงาน  อ่านหนังสือ หรืออยู่หน้าจอทีวี คอมพิวเตอร์ คือลืมดูกาย-ใจไป  แต่ก็ยังมีสติรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ณ ขณะนั้น  ส่วนจิตนั้น ยังดีอยู่คือ ไม่ปล่อยให้ใจลอยคิดเลื่อยเปื่อย ไปตามอารมณ์ ยังสามารถกลับมาได้เร็วมากเวลาเผลอตัวไป ส่วนเรื่องคิดเพือฝัน เกือบไม่มีเพราะจะตัดทิ้งไม่คิด เช่น เรื่องทางเพศ พอคิดปุ๊ปตัดปั๊ปทันที รู้ตัวเณ้วมาก จนมันไม่คิดลืมไปเลยเรื่องนี้ แต่เรื่องทัวไปในอดีตเกี่ยวกับการทำงานมานั้น มันยังเผลอคิดไปบ้าง แต่ก็พอรู้ตัวว่าเผลอไปคิดก็ตัดทิ้งทันที เพราะความคิดแบวแบบนี้มันเป็นความคิดภายใต้โมหะ คือหลงอยู่ในความคิด ต้องตัดทิ้ง จนบางครั้งก็รู้ตัวเองเหมือนกัน ว่าเรานี่คิดน้อยไปหรือไม่คิดอะไรเลย ในแต่ละวัน  จนลืมอะไรๆ ไปแยะมากโดยเฉพาะชื่อคน

                         มาวิเคราะห์ดูแล้ว  สิ่งที่เราคิดแวบอยู่นี้ก็คือ เรืองงานที่ผ่านมา และกามสุขทางตา หู จมูก  ลิ้น กาย ที่ยังสัมผัสอยู่ ณ ปัจจุบัน แต่ถ้าเราไม่เกี่ยวข้อง เช่น ไม่ดูทีวี  ฟังข่าว  ไม่อ่าน ไม่ไปไหน  ไม่พบผู้คน จะพบว่า เราสามารถตัดความคิดทางกามสุขจากทางอายตนะออกได้ เพราะปัจจุบันก็ไม่คิดปรุงแต่งอะไร เมื่อมีสิ่งมากระทบทาง อายตนะ ๖ อยู่แล้ว  พระท่านถึงให้ไปหาสถานที่สงบตามป่าเขาปฏิบัติธรรม เพราะจะเหลือเพียงจิตของเราอย่างเดียวเท่านั้น เพราะสิ่งที่มากระทบทางอายตนะ ไม่มีหรือมีก็น้อยมาก จนไม่ปรุงแต่งได้ เหลือเพียง จิตเราปรุงแต่ง คือเผลอตัว คิดนอกตัวเท่านั้น  เราก็จะมีโอกาสเอาชนะจิตเราได้ คือ ไม่เป็รทาษ หรือหลงไปกับมัน ครับ

                          พี่สิงห์ก็ได้แต่ ภาวนาสักวันเราหน้าที่จะไปอยู่ในสภาพที่ตัดขาดจากโลกภายนอก ให้เหลือแต่โลกภายใน คือ จิตเรายังเดียวที่จะต้องต่อสู้กับมัน  คอยดูมันคิด จริงๆ จังๆ เสียที แต่ก็ไม่รู้ว่าจะต้องรอถึงเมื่อใด  เพราะตอนนี้ยังต้องใช้กรรมเก่าอยู่  ยังต้องหาเงินมาซื้อข้าวเลี้ยงชีวิต  เป็นห่วงแม่-พี่สาว ที่ต้องอุปการะอยู่  ยังทิ้งไม่ได้ ยังต้องทำงานเพราะไม่มีเงินเก็บ มีเพียงทรัพย์สินเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น พอเพียงจริงๆ เพราะไม่เคยคดโกงใคร  มีแต่เป็นผู้ให้เสียมากกว่า  แต่ก็ตั้งใจไว้ไม่เกินสี่ปี  คงต้องละทุกอย่างเพื่อตัวเองเสียที คงต้องคอยไป หรือบางทีอาจจะเร็วกว่านั้นก็ได้

                          หลงอยู่ในความคิดตัวเองอีกแล้วเรา

                         สวัสดีครับ (34066)
so sad
                            สวัสดีค่ะพี่สิงห์

                                       อ่านข้อความตรงนี้แล้วเศร้าจัง " เป็นอันว่าชีวิตพี่สิงห์เหลืออีกไม่มากแล้ว ก็จะเป็นท่อนไม้แห้งจมอยู่ในแผ่นดิน หรือถูกเผาเป็นอากาศธาตุ  คงต้องเร่งความเพียรให้มากกว่านี้เพราะเวลาเหลือน้อยลงแล้ว"  แม้ว่าจะทราบว่าพี่สิงห์เจริญสติอยู่ตลอดเวลาก็ตาม  นกไม่ทราบหรอกค่ะว่าพี่สิงห์กำลังป่วยมากหรือน้อยเพียงใด  เพราะทราบจากการอ่านว่า  พี่สิงห์เป็นหวัดบ้าง  ไปหาหมอฟันบ้าง  ก็ไม่น่าจะเป็นอะไรมาก  เม็ดเลือดขาวก็ต่ำกว่าเกณฑ์ไม่เท่าไร  สู้..สู้นะคะ  กลับมาจากหาหมอคราวนี้สุขภาพต้องแข็งแรงขึ้นนะคะ  เพราะพี่สิงห์อยู่ในความไม่ประมาทดังที่พระพุทธองค์สอนไว้ตลอด

                                                                      nok15 รักนะ
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #2651 เมื่อ: 28 กรกฎาคม 2554, 16:56:32 »

สวัสดีคะพี่นก 15
ยังไม่เคยแสดงความคารวะพี่เลย,
พี่ไปอยู่ที่ไหนมาคะ?
ขอต้อนรับนะคะ.

น้องหนิง...รักจริงหวังแต่ง..
ไม่ปด ไม่คด ไม่จอแหลคะพี่
แต่ไม่รู้ทำไม..ชอบทะลึ่งกะพี่สิงห์จริงๆค่า
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #2652 เมื่อ: 28 กรกฎาคม 2554, 17:01:05 »

พี่นก,
มีขาอ่านค้านมาว่า:
"หนุงหนิง,จอแหลแปลว่าอะไร คำใต้เหรอ?"
หนิงบอก.."ปล่าวค่า ปากปีจอ+ตอแหลค่า"
..
..
ขาอ่านเค้าชอบคอมเม้นต์ค่ะพี่
บางทีหวิดวางมวย!
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #2653 เมื่อ: 28 กรกฎาคม 2554, 17:11:57 »

พี่สิงห์,
ถึงนครศรีฯโดยสวัสดิภาพรึยังคะ?
ชักเป็นห่วงพี่สิงห์อีกแล้วเนี่ย.......

จิตพี่มีสุขภาพ กายพี่จะดีด้วย
หนิงชักไม่ค่อยเชื่อ!
งั้นกลับไปตั้งต้นใหม่นะคะ...
ตรงไหน?
ตรงเรื่องกินสิพี่...กินดี มีสุขภาพนะพี่
แพ้แอร์ ปิดแอร์ นอนพัดลม?
เป็นหวัด เจ็บคอ จาม ไอ นอนพักก่อนมั้ยพี่
เพราะพี่ไม่สบาย กำลังกายก็จะไม่ได้ออก
จะเป็นวงจรที่ต่อเนื่อง...เห็นน้ำหนักพี่แล้ว
หนิงนับนิ้ว....
อ่าร้ายยยย
พี่หนักกว่าหนิง 7 กิโลได้ไง?
กล้ามเนื้อ-กระดูกที่แข็งแรงไปอยู่ที่ไหน?
..
..
เอ,รึหนิงจาเพิ่มน้ำหนักอีก 7 กิโลดี พี่ว่าไง?
จะได้ขึ้นชกรุ่นเดียวกัน....welterweight!

เอ้ย,welterweight 69 กิโลพี่
hop hop อีก 2 กิโลคะ
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #2654 เมื่อ: 28 กรกฎาคม 2554, 17:32:07 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 28 กรกฎาคม 2554, 08:33:29
สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง และชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน


                       เป็นอันว่าชีวิตพี่สิงห์เหลืออีกไม่มากแล้ว ก็จะเป็นท่อนไม้แห้งจมอยู่ในแผ่นดิน หรือถูกเผาเป็นอากาศธาตุ  คงต้องเร่งความเพียรให้มากกว่านี้เพราะเวลาเหลือน้อยลงแล้ว  การปฏิบัติธรรมที่ผ่านมานั้น จิตไม่อยู่ปกติ ณ ปัจจุบัน ยังมีอยู่ประมาณ 25% ในหนึ่งวันโดยเฉลี่ย ก็นับว่าสูง คือเผลอ ขณะกินข้าว  พูด  ทำงาน  อ่านหนังสือ หรืออยู่หน้าจอทีวี คอมพิวเตอร์ คือลืมดูกาย-ใจไป  แต่ก็ยังมีสติรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ณ ขณะนั้น  ส่วนจิตนั้น ยังดีอยู่คือ ไม่ปล่อยให้ใจลอยคิดเลื่อยเปื่อย ไปตามอารมณ์ ยังสามารถกลับมาได้เร็วมากเวลาเผลอตัวไป ส่วนเรื่องคิดเพือฝัน เกือบไม่มีเพราะจะตัดทิ้งไม่คิด เช่น เรื่องทางเพศ พอคิดปุ๊ปตัดปั๊ปทันที รู้ตัวเณ้วมาก จนมันไม่คิดลืมไปเลยเรื่องนี้ แต่เรื่องทัวไปในอดีตเกี่ยวกับการทำงานมานั้น มันยังเผลอคิดไปบ้าง แต่ก็พอรู้ตัวว่าเผลอไปคิดก็ตัดทิ้งทันที เพราะความคิดแบวแบบนี้มันเป็นความคิดภายใต้โมหะ คือหลงอยู่ในความคิด ต้องตัดทิ้ง จนบางครั้งก็รู้ตัวเองเหมือนกัน ว่าเรานี่คิดน้อยไปหรือไม่คิดอะไรเลย ในแต่ละวัน  จนลืมอะไรๆ ไปแยะมากโดยเฉพาะชื่อคน

                         มาวิเคราะห์ดูแล้ว  สิ่งที่เราคิดแวบอยู่นี้ก็คือ เรืองงานที่ผ่านมา และกามสุขทางตา หู จมูก  ลิ้น กาย ที่ยังสัมผัสอยู่ ณ ปัจจุบัน แต่ถ้าเราไม่เกี่ยวข้อง เช่น ไม่ดูทีวี  ฟังข่าว  ไม่อ่าน ไม่ไปไหน  ไม่พบผู้คน จะพบว่า เราสามารถตัดความคิดทางกามสุขจากทางอายตนะออกได้ เพราะปัจจุบันก็ไม่คิดปรุงแต่งอะไร เมื่อมีสิ่งมากระทบทาง อายตนะ ๖ อยู่แล้ว  พระท่านถึงให้ไปหาสถานที่สงบตามป่าเขาปฏิบัติธรรม เพราะจะเหลือเพียงจิตของเราอย่างเดียวเท่านั้น เพราะสิ่งที่มากระทบทางอายตนะ ไม่มีหรือมีก็น้อยมาก จนไม่ปรุงแต่งได้ เหลือเพียง จิตเราปรุงแต่ง คือเผลอตัว คิดนอกตัวเท่านั้น  เราก็จะมีโอกาสเอาชนะจิตเราได้ คือ ไม่เป็รทาษ หรือหลงไปกับมัน ครับ

                          พี่สิงห์ก็ได้แต่ ภาวนาสักวันเราหน้าที่จะไปอยู่ในสภาพที่ตัดขาดจากโลกภายนอก ให้เหลือแต่โลกภายใน คือ จิตเรายังเดียวที่จะต้องต่อสู้กับมัน  คอยดูมันคิด จริงๆ จังๆ เสียที แต่ก็ไม่รู้ว่าจะต้องรอถึงเมื่อใด  เพราะตอนนี้ยังต้องใช้กรรมเก่าอยู่  ยังต้องหาเงินมาซื้อข้าวเลี้ยงชีวิต  เป็นห่วงแม่-พี่สาว ที่ต้องอุปการะอยู่  ยังทิ้งไม่ได้ ยังต้องทำงานเพราะไม่มีเงินเก็บ มีเพียงทรัพย์สินเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น พอเพียงจริงๆ เพราะไม่เคยคดโกงใคร  มีแต่เป็นผู้ให้เสียมากกว่า  แต่ก็ตั้งใจไว้ไม่เกินสี่ปี  คงต้องละทุกอย่างเพื่อตัวเองเสียที คงต้องคอยไป หรือบางทีอาจจะเร็วกว่านั้นก็ได้

                          หลงอยู่ในความคิดตัวเองอีกแล้วเรา

                         สวัสดีครับ (34066)

ชีวิตพี่เพิ่งเริ่มค่ะ!
ทำไมหนิงถึงคิดแบบนั้น?
ตอนนี้แหละพี่ ที่พี่จะได้enjoyชีวิต
ได้ทำในสิ่งที่พี่อยากทำ ได้ร่วม
ในสิ่งที่พี่อยากร่วม ได้มีเวลาเป็น
ของตัวเองที่จะทำเพื่อตัวเอง ทำเพื่อ
คนอื่นๆที่พี่รัก ที่พี่ชอบ....

หนิงมองไม่เห็นความจำเป็นอะไรตรงไหน
ที่จะรู้สึกว่าพอใกล้หยุดทำงาน ส่วนอื่นๆ
ต้องหยุดไปด้วย กลับกันคะ,ตอนนี้ล่ะ
คือตอนที่หอมหวานที่สุด!ได้ทำอะไรๆที่
ตอนทำงาน ผลัดผ่อนมาตลอด..

และ 60 ยังไม่แก่คะพี่...หนิงไม่ชอบคำนี้เลยคะ
เพราะที่นั่น"Jungendwahn"บ้าความอ่อนเยาว์
ทำให้วัยอื่นๆต้องตราตัวเองออกจากวงชีวิต
ได้ไงพี่,ฝรั่งชีวิตเค้าเพิ่งเริ่ม...ยังจะอยู่ดีกินดี
กันไปอีก20กว่าปี...พู้น



      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #2655 เมื่อ: 28 กรกฎาคม 2554, 17:49:12 »

กำลังถกเครียดคะพี่สิงห์!
ถกเรื่องอะไร?
ก็ถกเรื่องหายใจไม่ออกทำไงดี?

บ้างว่า...ให้หายใจทางปาก (คงพะงาบ พะงาบพิลึก)
บ้างว่า...งั้นทางเหงือก อ๊ะ (ไม่ไช่ปลานะ)
บ้างว่า...งั้นทางผิวหนังละกัลลลลล ( ลื่นๆชื้นๆนะหนิงว่า)

แถมยังถกต่อคะ
ว่าบอกพี่ดีมั้ย?
หนิงบอก ...ขืนบอกไม่ใครก็ใคร
ได้โดนpatchเป็นลูกกอล์ฟ ลอย
หมุนวนไปตกป่าพัมพ้ากันมั่ง.....
..
..
ไม่รู้จักพี่สิงห์....ซะแล้ว!


ลงชื่อ
น้องแค๊ดดี้
      บันทึกการเข้า


Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #2656 เมื่อ: 28 กรกฎาคม 2554, 20:03:27 »

สวัสดีค่ะ คุณน้อง Nok15 ที่รัก

                       พี่สิงห์ไม่ได้เป็นอะไรมาก ยังทำงานได้  ยังเดินไปซื้อข้าวกินได้ ตอนนั่งที่สนามบินดอนเมืองเจอแอร์มันหายใจไม่สะดวก พอขึ้นเครื่องหายใจคล้องดี เลยนั่งเจริญสติ จนมันหลับไปหงีบหนึ่งตอนเครื่องบินไต่ระดับ ตื่นขึ้นมาสดชื่น หายใจโล่งจมูกเพราะได้พักทั้งกายและจิต พอตื่นก็นั่งเจริญสติต่อ จนถึงนครศรีธรรมราช  ลงเครื่องบินเจอฝนตกพรำๆ ต้องการร่มเดินมาที่อาคารผู้โดยสารขาเข้า และไปโรงแรม ปรากฏว่าฝนยังตกอยู่ไม่สามารถเดินจงกรมออกกำลังกายได้  เลยไปเดินเร็วๆ บนสายพานให้หัวใจเต้น 120 ครั้งต่อนาที เดินได้ 3.5 กิโลเมตร ผลาญพลังงานไป 300 แคลอรี่ ใช้เวลา 35 นาที เสร็จแล้วก็มา รำ TAI CHI 21 ท่า ประมาณ 20 นาที ต่อด้วยโยคะของโรงพยาบาลจอมทอง 40 ท่าใช้เวลา 30 นาที จึงนั่งเจริญสติต่อ จนหายเหนื่อย รวมเวลาทั้งหมดในการออกกำลังกาย เกือบสองชั่วโมงครับ  ต้องออกกำลังกายต่อสู้กับอาการไอเรื้อรังและแพ้อากาศให้ได้ครับ

                       ชีวิตคนเรามันไม่แน่นอน เพื่อความไม่ประมาทก็ต้องเร่งความเพียร แต่เร่งมากก็ไม่บังเกิดผล เพราะใจมันอยากเสียแล้ว หลงไปในความคิดตัวเองใหญ่  แต่ถึงอย่างไร การเจริญสติ มันก็เป็นงานที่พี่สิงห์ต้องกระทำให้สม่ำเสมออยู่ดีครับ  จนมันเป็นนิสัยไปเกือบสมบูรณ์แล้ว จะเตือนตัวเองตลอดเวลา ให้สร้างความรู้สึกตัว ให้รู้ว่าขณะนี้เรากำลังทำอะไรอยู่ เพราะพอระลึกได้(มีสติสมบูรณ์) จิตมันไม่คิด อยู่อย่างว่างๆ มันก็เฉยๆ ดีครับ

                       เดี๋ยวนี้สังเกตุ ตัวเอง ความโกรธ  ความพรุ่งพร่านเดือดดาลใจ มันหายไปแยะแล้ว พอประสพกับสิ่งที่ไม่รัก ไม่ชอบ เกลียด รู้สึกหงุดหงิดนิดเดียว มันก็หายไปเอง ไม่ทันแสดงใดๆทั้งสิ้น สติมาก็วิ่งมาเตือนแล้ว และสามารถวางอุเบกขาได้ทันที ปล่อยมันไป ไม่ปรุงแต่ง มันก้หายไปพลันเหมือนกัน ครับ

                       ขอบคุณและสวัสดีค่ะ
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #2657 เมื่อ: 28 กรกฎาคม 2554, 20:09:45 »

สวัสดีค่ะ พี่สิงห์
เข้ามาเยี่ยม หายเร็วๆนะคะ
บางครั้งการเดินทางบ่อยๆ หรือขึ้นเครื่องบินปรับความดันอากาศบ่อยๆ
อาจจะมีผลต่อการปรับร่างกายได้บ้าง
การออกกำลังคงช่วยได้ค่ะ พี่สิงห์ทำประจำคงทำให้ไม่ป่วยนานค่ะ
คงจะฟื้นเร็วนะคะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #2658 เมื่อ: 28 กรกฎาคม 2554, 20:16:36 »

สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก

                       ที่สนามบินดอนเมืองพี่สิงห์ซื้อลูกเสาวรสมาหนึ่งถุง ๕๐ บาท ของโครงการหลวง พอถึงโรงแรมก็เอาลูกเสาวรสไป ๔ ลูกปั่นกับแตงโม ดื่มแก้วใหญ่  พอออกกำลังกายเสร็จอาบน้ำ ลงไปรับประทานอาหารเย็นก็เอาลูกเสาวรสไปสี่ลูกปั่นกับฝรั่ง ดื่มก่อนรับประทานอาหารเย็น ซึ่งเป็น ส้มตำไทย และสะเต็กปลาอินทรีย์ ผัก ไม่เอาซอดลาด

                      ตอนนี้ยังเหลืออีกแปดลูก กะว่าพรุ่งนี้เช้าออกกำลังกายเสร็จต้องรับประทานสดๆ ก่อนลงไปรับประทานอาหารเช้าครับ

                      วันนี้คุยกับทาง SIW เรื่องไปทัวร์ยุโรป ทางทัวร์เสนอมา ไปกรีก ๕ วัน  รู้สึกว่าจะแพงกว่าไปยุโรป แถวๆ เยอรมันเสียอีก ไม่ถูกอย่างที่คิดเลย  สงสัยคงต้องไปยุโรปแถวๆ เยอรมัน จะไปประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน เริ่มหิมะตกแน่ๆ อีกแล้วครับ  ไปเองพี่สิงหืไม่มีปัญญาไปหรอก ครับ

                      หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาพี่สิงห์กังวลว่า คงขาดสารอาหารไปบ้างร่างกายเลยอ่อนแอ เลยกินเสียใหญ่ผลคือ น้ำหนักขึ้นมาหนึ่งกิโลกรัมที่ ๖๙ กิโลกรัม อาทิตย์หน้าคงต้องลดสัก ๒ กิโลกรัม ให้อยู่ในระดับ ๖๗ กิโลกรัม ตามเดิม ครับ

                      ราตรีสวัสดิ์ครับ
      บันทึกการเข้า
Dtoy16
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: อักษรศาสตร์
กระทู้: 1,424

« ตอบ #2659 เมื่อ: 28 กรกฎาคม 2554, 20:17:13 »

                          ว้าว wow!  น้องหนิง มาทำให้พี่เห็นพี่สิงห์ในชุดกอลฟ์สีชมพูสุดจ๊าบ
                                          แล้วน้องเคยได้ยินเสียงเพลงจากพี่สิงห์รึยัง อือฮือ....ยังกะนักร้อง
                          พี่สิงห์ค่ะ ยังติดใจตรงที่กิจกรรมบางอย่างเช่นร้องเพลงมันขัดกับการปฏิบัติธรรมแบบว่า
                          พี่ว่าพยายามลด ละ เลิก อะไรทำนองนั้นเชียวหรือค่ะ
                          เปี๊ยกบอกว่า พี่สิงห์ดูผอมลง   กลับมาเท่าเดิมดีกว่าค่ะต้อยก็พยายามทำให้อ้วนเหมือนกัน               
      บันทึกการเข้า

Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #2660 เมื่อ: 28 กรกฎาคม 2554, 20:29:06 »

อ้างถึง
ข้อความของ เอมอร 2515 เมื่อ 28 กรกฎาคม 2554, 20:09:45
สวัสดีค่ะ พี่สิงห์
เข้ามาเยี่ยม หายเร็วๆนะคะ
บางครั้งการเดินทางบ่อยๆ หรือขึ้นเครื่องบินปรับความดันอากาศบ่อยๆ
อาจจะมีผลต่อการปรับร่างกายได้บ้าง
การออกกำลังคงช่วยได้ค่ะ พี่สิงห์ทำประจำคงทำให้ไม่ป่วยนานค่ะ
คงจะฟื้นเร็วนะคะ
สวัสดีค่ะ คุณน้องเอมอร ที่รัก
   
             มันก็จริงของเธอ อย่างหูด้านซ้ายจะเป็นตัวชีวัดอย่างดี เพราะแพ้อากาศทีไร หูด้านซ้ายจะรู้สึกว่าเจ็บอักเสบ อย่างวันนี้ขณะเครื่องบินลดเพดานบินเพื่อลงที่นครศรีธรรมราช ปวดขึ้นมาจีีดๆ สามครั้ง ทั้งที่อัดอากาศเข้าปากเพื่อปรับความดันแล้ว แสดงว่าแพ้อากาศจริงคือหูด้านซ้ายมันจะอักเสบแต่ไม่มาก  เคยไปหาแพทย์ทางหู คอ จมูก มา คุณหมอบอกแพ้อากาศ มันจะแสดงออกมาทางหู  ไม่ต้องตกใจเดี๋ยวมันก็หายไปเอง

              เธอเป็นอย่างไรบ้าง หายสนิทหรือยัง?
 
              ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #2661 เมื่อ: 29 กรกฎาคม 2554, 07:39:31 »

อ้างถึง
ข้อความของ Dtoy16 เมื่อ 28 กรกฎาคม 2554, 20:17:13
                          ว้าว wow!  น้องหนิง มาทำให้พี่เห็นพี่สิงห์ในชุดกอลฟ์สีชมพูสุดจ๊าบ
                                          แล้วน้องเคยได้ยินเสียงเพลงจากพี่สิงห์รึยัง อือฮือ....ยังกะนักร้อง
                          พี่สิงห์ค่ะ ยังติดใจตรงที่กิจกรรมบางอย่างเช่นร้องเพลงมันขัดกับการปฏิบัติธรรมแบบว่า
                          พี่ว่าพยายามลด ละ เลิก อะไรทำนองนั้นเชียวหรือค่ะ
                          เปี๊ยกบอกว่า พี่สิงห์ดูผอมลง   กลับมาเท่าเดิมดีกว่าค่ะต้อยก็พยายามทำให้อ้วนเหมือนกัน               
สวัสดีค่ะ คุณน้องต้อย ที่รัก

            การร้องเพลงมันเป็นเรื่องกามสุขที่เกิดจากการเห็น  ได้ยิน  ได้กลิ่น  ได้ลิ้มรส  และได้สัมผัส ทางอายตนะ เช่นเดียวกับการร้องเพลง มันเป็นสุขทางโลก  เมื่อก่อนพี่สิงห์ร้องเพลง เพราะน้องสาวบอกว่าทางการแพทย์แนะนำให้ร้องเพลงเพื่อความผ่อนคลาย และทำให้ความจำยังคงอยู่ พี่สิงห์จึงร้องเพลง  แต่เมื่อพี่สิงห์รู้ว่ายังมีความสุขที่ปราณีตกว่าการร้องเพลงรอพี่สิงห์อยู่  พี่สิงห์จึงขอหาความสุขทางใจใหม่ที่ปราณีตดีกว่า และก็พบแล้วครับ

            คุณน้องต้อยเคยเห็นพระร้องเพลงไหม ? มันไม่เหมาะสม  พระพุทะองค์ยังตำหนิพระบางรูปที่ชอบดัดเสียงให้แปลก หรือเอื่อนยาวไปเวลาเทศน์ พระองค์ไม่ให้กระทำแบบนั้น มันเป็นเรื่องของชาวบ้านไม่ใช่สงฆ์  เช่นเดียวกันตอนนี้พี่สิงห์ก็ไม่อยากกระทำเหมือนกัน มันไม่เหมาะสมที่จะกลับไปอยู่แบบเดิมๆ ที่จิตมันต้องการ ครับ

            แต่อย่างไรก็ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ

            สวัสดีค่ะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #2662 เมื่อ: 29 กรกฎาคม 2554, 07:50:53 »


สวัสดีครับคุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง คุณเอมอร คุณน้อง Nok15 คุณน้องต้อย คุณน้องตู่ และชาวซีมะโด่งที่รักทุกท่าน

                     ขอบคุณที่ทุกท่านเป็นห่วงพี่สิงห์ มันเป็นเรื่องของธรรมชาติที่จะต้องได้รับทุกข์ตามที่พระองค์ทรงแสดงไว้ว่า ความเจ็บป่วยก็เป็นทุกข์ อยู่ในความทุกข์ ๗ ประการที่พึงมีในโลกนี้  พระพุทธองค์ให้กำหนดรู้เท่านั้น ยอมให้ป่วยทางกายตามธรรมชาติ แต่อย่าป่วยทางใจ  พี่สิงห์ก็พยายามรักษาจิตตัวเองไม่ให้ป่วยตามกายไปครับ  เช้านี้เลยไปถ่ายรูปตัวเอง ตอนรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมภายหลังจากออกกำลังกายยามเช้ามา ครับ

                     เช้านี้อากาศที่นครศรีธรรมราช มีเมฆมาก เมื่อคืนมีฝน ขณะที่พี่สิงห์เดินจงกรมออกกำลังกายยามเช้า รู้สึกว่าลมเย็นดีครับหายใจโล่ง เลยเดินเสีย ๒๕ รอบ รำ TAI CHI และฝึกโยคะท่า นมัสการพระอาทิตย์ ๒ รอบ และสวิงลมท่ากอล์ฟให้เงื่อออก รวมเวลา ๕๐ นาที ถึงเวลาเจ็ดโมงเช้าพอดี จึงกลับไปที่ห้องล้างหน้า ล้างมือลงมารับประทานอาหารเช้าตามปกติที่อยู่นครศรีธรรมราช ครับ

                     ยังไม่มีเวลาหาธรรมะดีๆ มาฝากครับ เพราะมีงานติดพันอยู่ ครับ

                     สวัสดียามเช้าทุกท่านครับ อย่าลืมทำจิตให้ผ่องใสครับเช้านี้ จะได้มีจิตที่ปลอดดปร่งในการทำงาน ครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #2663 เมื่อ: 29 กรกฎาคม 2554, 08:07:34 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่งที่รักทุกท่าน
 
              เพื่อไม่ให้เสียกำลังใจในเมื่อทุกท่านเข้ามาอ่าน พี่สิงห์ก็ขอเสนอ ประวัติภิกษุณีที่เป็นเอตทัคคะทั้ง ๑๓ องค์ ให้ทราบเป็นองค์แรก ตอนที่สองต่อจาก พระภิกปาฎาจาราเถรี ครับ
              เชิญติดตามอ่านครับ
              สวัสดี


 
รู้ธรรมวันละนิด  จิตผ่องใส

ตอน

ประวัติ ๑๓ ภิกษุณีผู้เป็นเอตทัคคะ

พระมหาปชาบดีโคตรมีเถรี

เอตทัคคะในฝ่ายผู้รัตตัญญู


              พระมหาปชาบดีเถรี เป็นราชธิดาของพระเจ้าสุปปพุทธะ แห่งพระนครเทวทหะ เป็นพระกนิษฐภคินีของพระนางสิริมหามายา (พุทธมารดา) พระประยูรญาตถวายพระนามว่า “โคตมี”

•   เป็นทั้งพระน้านางและพระมารดาเลี้ยง

               พระนางสิริมหามายาทรงอภิเษกเป็นพระมเหสีของพระเจ้าสุทโธทนะศากยราชแห่งพระนครกบิลพัสดุ์ ต่อมาพระบรมโพธิสัตว์จุติจากสวรรค์ชั้นดุสิต ทรงถือปฏิสนธิในพระครรภ์ของพระนางสิริมหามายราชเทวี พอประสูติพระราชโอรส คือเจ้าชายสิทธัตถะได้เพียง ๗ วัน พระนางสิริมหามายาราชเทวี ก็สวรรคตไปบังเกิดเป็นเทพบุตรสวรรค์ชั้นดุสิตพระเจ้าสุทโธทนะ ทรงมอบให้การเลี้ยงดูเจ้าชายสิทธัตถะแก่พระนางมหาปชาบดีโคตรมี ผู้ศักดิ์เป็นพระมาตุจฉา (พระน้านาง) ซึ่งต่อมาได้สถาปนาพระนางไว้ในตำแหน่งพระอัครมเหสี และได้ประสูติพระราชโอรสนามว่า “นันทกุมาร” และพระราชธิดานามว่า “รูปนันทา” ครั้นเมื่อพระบรมโพธิสัตว์เสด็จออกผนวชได้บรรลุพระสัพพัญญุตญาณแล้ว เสด็จไปโปรดพระประยูรญาติ ณ กรุงกบิลพัสดุ์ เสด็จเข้าไปบิณฑบาตในพระนคร และทรงแสดงธรรมกถาโปรดพระเจ้าสุทโธทนะพุทธบิดา ในระหว่างถนน ให้ดำรงอยู่ในอริยภูมิชั้นพระโสดาบัน ครั้นวันที่ ๒ เสด็จเข้าไปบิณฑบาตในถนน ให้ดำรงอยู่ในอริยภูมิชั้นพระสดาบัน ครั้น วันที่ ๒ เสด็จเข้าไปรับอาหารบิณฑบาตในพระราชนิเวศน์ ทรงแสดงธรรมโปรดพระพุทธบิดา และพระน้านางยังพระบิดาให้ดำรงอยู่ในพระสกทาคามี ยังพระน้านางให้บรรลุพระโสดาปัตติผล และในวันรุ่งขึ้น ทรงแสดงมหาปาลชาดกโปรดพระเจ้าสุทโธทนะ พอจบลง พระพุทธบิดา ทรงบรรลุเป็นพระอริยบุคคลชั้นพระอนาคามี

•   ขอบวชแต่ผิดหวัง

               ในวันที่ ๔ แห่งการเสด็จโปรดพระประยูรญาติ พระพุทธองค์เสด็จไปในพิธีอาวาหมงคลอภิเษกสมรส นันทกุมารพระอนุชาต่างพระมารดา กับพระนางชนปทกัลยาณี เมื่อเสร็จพิธีอาวาหมงคล พระพุทธองค์ได้นำนัทกุมาร ไปบวชในวันนั้น ครั้นถึงวันที่ ๗ แห่งการเสด็จกรุงกบิลพัสดุ์ ได้ทรงพาราหุลกุมารออกบรรพชาเป็นสามเณรอีก จึงยังความเศร้าโศกให้บังเกิดแก่พระเจ้าสุทโธทนะยิ่งนักเพราะเกรงว่าจะขาดรัชทายาทสืบสันติวงศ์ ครั้นกาลต่อมา พระเจ้าสุทโธทนะได้บรรลุพระอรหัตผลแล้วเข้าสู่ปรินิพพาน เมื่อการถวายพระเพลิงพระบรมศพเสร็จสิ้นลงแล้ว พระนางมหาปชาบดีโคตรมีรู้สึกว้าเหว่พระทัย มีพระประสงค์จะทรงผนวชในพระพุทธศาสนาจึงเสด็จไปเฝ้าพระบรมศาสดาที่นิโครธารามกราบทูลขออุปสมบท แต่พระพุทธองค์ไม่ทรงอนุญาตให้สตรีบวชในพระพุทธศาสนา พระนางกราบทูลอ้อนวอนถึง ๓ ครั้ง ก็ไม่เป็นผล รู้สึกผิดหวังเศร้าโศกโทมนัสเป็นอย่างยิ่ง จึงกราบทูลลาเสด็จกลับพระราชนิเวศน์พระบรมศาสดาประทับ ณ นิโครธาราม กรุงบิลพัสดุ์ โดยสมควรแก่พระอัธยาศัยแล้ว พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์บริวาร เสด็จไปยังพระนครเวสาลีระทับอยู่ ณ กูฏาคารศาลา ป่ามหาวันพระอานนท์ช่วยกราบทูลจึงได้บวชขณะนั้น พระนางมหาปชาบดีโคตมี ผู้มีพระทัยเปี่ยมด้วยศรัทธา รับสั่งให้ช่างกัลบกมาปลงกระเกศา แล้วครองผ้ากาสาวพัสตร์ นำพาศากิยนารีเป็นบริวารประมาณ ๕๐๐ พระองค์(นางกษัตริย์เหล่านี้สวามีออกบวชไปก่อนแล้ว) เสด็จมุ่งตรงไปยังเมืองเวสาลีแล้วเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า กราบทูลอ้อนวอนของอุปสมบท ถึงอย่างนั้น พระพุทธองค์ก็ยังไม่ทรงอนุญาต จึงเสด็จออกมายืนร้องไห้อยู่ที่ซุ้มประตู ขณะนั้น พระอานนท์ผ่านมาพบจึงสอบถามทราบความโดยตลอดแล้ว พระเถระรู้สึกสงสารคิดจะช่วยพระนาง จึงเข้าเฝ้ากราบทูลถามพระพุทธองค์ว่า:-
 
         “ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ถ้าสตรีบวชในพระศาสนาแล้ว อาจทำให้แจ้งซึ่งพระโสดาปัตติผล ระกทาคามิผล รอนาคามิผล และพระอรหัตผลได้หรือไม่ พระเจ้าข้า ?” “ดูก่อนอานนท์ อาจทำให้แจ้งได้เหมือนบุรุษเพศทุกประการ” “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ถ้าเช่นนั้นควรจะอนุญาตเพื่ออนุเคราะห์แก่พระนางมหาปชาบดีโคตมี ผู้มีคุณูปการบำรุงเลี้ยงดูพระองค์มาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ให้สมปรารถนาด้วยเถิด พระเจ้าข้า” “ดูก่อนอานนท์ ถ้าปชาบดีโคตรมีรับประพฤติครุธรรม ๘ จากพระผู้มีพระภาคโดยลำดับ
คือ:-
          ๑. ภิกษุณีแม้อุปสมบทแล้วได้ ๑๐๐ พรรษา ก็พึงเคารพกราบไว้ พระภิกษุ แม้อุปสมบทได้วันเดียว
          ๒. ภิกษุณี จะอยู่จำพรรษาในอาวาสที่ไม่มีพระภิกษุนั้นไม่ได้ ต้องอยู่ในอาวาสที่มีพระภิกษุ
          ๓. ภิกษุณี จะต้องทำอุโบสถกรรม และรับฟังโอวาทจากสำนักภิกษุสงฆ์ทุกกึ่งเดือน
          ๔. ภิกษุณี อยู่จำพรรษาแล้ว วันออกพรรษาต้องทำปวารณาในสำนักสงฆ์ทั้งสองฝ่าย(ภิกษุสงฆ์และภิกษุณีสงฆ์)
          ๕. ภิกษุณี ถ้าต้องอาบัติสังฆาทิเสส อยู่ปริวาสกรรม ต้องประพฤติมานัตในสงฆ์สองฝ่าย
          ๖. ภิกษุณี ต้องอุปสมบทในสำนักสงฆ์สองฝ่าย หลังจากเป็นนางสิกขมานารักษาสิกขาบท ๖ ประการ คือ ๑. เว้นจากการฆ่าสัตว์ ๒. เว้นจากการลักขโมย ๓. เว้นจากการประพฤติผิดพรหมจรรย์ ๔.เว้นจากการพูดเท็จ ๕. เว้นจาการดื่มสุราเมรัยและของมึนเมา ๖. เว้นจากการรับประทานอาหารในเวลาวิกาล ทั้ง ๖ ประการนี้มิให้ขาดตกบกพร่องเป็นเวลา ๒ ปี ถ้าบกพร่องในระหว่าง ๒ ปี ต้องเริ่มปฏิบัติใหม่
          ๗. ภิกษุณี จะกล่าวอักโกสกถาคือ ด่าบริพาษภิกษุ ด้วยอาการอย่างใดอย่างหนึ่งมิได้
          ๘. ภิกษุณี ตั้งแต่วันอุปสมบทเป็นต้นไป พึงฟังโอวาทจากภิกษุเพียงฝ่ายเดียว จะให้โอวาทภิกษุมิได้

               พระเถระจดจำนำเอาครุธรรมทั้ง ๘ ประการนี้มาแจ้งแก่พระนางมหาปชาบดีโคตมี พระน้านางได้สดับแล้วมีพระทัยผ่องใสโสมนัส ยอมรับปฏิบัติได้ทุกประการ พระพุทธองค์จึงประทานการอุปสมบทให้แก่พระน้านางสมเจตนาพร้อมศากยขัดติยนารีที่ติดตามมาด้วยทั้งหมดเมื่อพระนางมหาปชาบดีโคตมี ได้อุปสมบทสำเร็จเป็นนางภิกษุณีแล้วเรียนพระกรรมฐานในสำนักพระบรมศาสดา อุตสาห์บำเพ็ญเพียรด้วยความไม่ประมาทไม่นานนักก็ได้บรรลุพระอรหัตผล พร้อมด้วยภิกษุณีบริวารทั้ง ๕๐๐ รูป และได้บำเรฑญกิจพรศาสนาเต็มกำลังความสามารถ

               ลำดับต่อมา เมื่อพระศาสดาประทับ ณ พระเชตะวันมหาวิหาร ทรงสถาปนาภิกษุณีในตำแหน่งเอตทัคคะ หลายตำแหน่ง พระพุทธองค์ทรงพิจารณาเห็นว่า พระนางมหาปชาบดีโคตมีเป็นผู้มีวัยวุฒิสูง คือรู้กาลนาน มีประสบการณ์มาก รู้เหตุการณ์ต่าง ๆ มาตั้งแต่ต้น จึงทรงสถาปนาพระนางนำแหน่งเอตทัคคะ เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุณีทั้งหลาย ในฝ่าย ผู้รัตตัญญู คือ ผู้รู้ราตรีนาน

      บันทึกการเข้า
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #2664 เมื่อ: 29 กรกฎาคม 2554, 08:23:38 »


...สวัสดีตอนเช้าค่ะ...พี่สิงห์และสมาชิกทุกท่าน...

...เข้ามาตามอ่านธรรมะจากพี่สิงห์ค่ะ...

...ขอให้พี่สิงห์หายป่วยจากการแพ้อากาศเร็วๆนะคะ...
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #2665 เมื่อ: 29 กรกฎาคม 2554, 13:34:37 »

อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 29 กรกฎาคม 2554, 08:23:38

...สวัสดีตอนเช้าค่ะ...พี่สิงห์และสมาชิกทุกท่าน...

...เข้ามาตามอ่านธรรมะจากพี่สิงห์ค่ะ...

...ขอให้พี่สิงห์หายป่วยจากการแพ้อากาศเร็วๆนะคะ...

สวัสดีค่ะ คุณน้องตู่ ที่รัก

            สงสัยพี่สิงห์อยู่ในสภาวะเช่นเดียวกับ ดร.กุศล  คือไปไหนไม่ได้ไกล เพราะสถานะการพ่อ ดร.กุศล  อยู่ในฟองสบู่  ไม่รู้ว่าจะไปวันไหน  ตอนนี้ต้องรับประทานอาหารเหลว ทางสายยาง และยังทำใจไม่ได้ ดร.กุศล  จึงเที่ยวไล้เทียวขื่อ ครับ  แม่พี่สิงห์เป็นมากกว่าพ่อ ดร.กุศล  จนพี่สิงห์ตัดใจได้แล้ว รับสภาพได้ทั้งนั้น เพราะอายุมากแล้ว  คงไม่ไปไหนเหมือนกันครับ ช่วงนี้
            สวัสดี
      บันทึกการเข้า
ทราย 16
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,838

« ตอบ #2666 เมื่อ: 29 กรกฎาคม 2554, 14:10:26 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 29 กรกฎาคม 2554, 13:34:37
อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 29 กรกฎาคม 2554, 08:23:38

...สวัสดีตอนเช้าค่ะ...พี่สิงห์และสมาชิกทุกท่าน...

...เข้ามาตามอ่านธรรมะจากพี่สิงห์ค่ะ...

...ขอให้พี่สิงห์หายป่วยจากการแพ้อากาศเร็วๆนะคะ...

สวัสดีค่ะ คุณน้องตู่ ที่รัก

            สงสัยพี่สิงห์อยู่ในสภาวะเช่นเดียวกับ ดร.กุศล  คือไปไหนไม่ได้ไกล เพราะสถานะการพ่อ ดร.กุศล  อยู่ในฟองสบู่  ไม่รู้ว่าจะไปวันไหน  ตอนนี้ต้องรับประทานอาหารเหลว ทางสายยาง และยังทำใจไม่ได้ ดร.กุศล  จึงเที่ยวไล้เทียวขื่อ ครับ  แม่พี่สิงห์เป็นมากกว่าพ่อ ดร.กุศล  จนพี่สิงห์ตัดใจได้แล้ว รับสภาพได้ทั้งนั้น เพราะอายุมากแล้ว  คงไม่ไปไหนเหมือนกันครับ ช่วงนี้
            สวัสดี

พี่สิงห์ & พี่กุศลคะ
สัจจธรรมค่ะ
รีบควักธรรมะ
ที่พี่สั่งสมมานานโขแล้ว
ออกมาต่อสู้กับทุกข์ นาที-ต่อ-นาที
เลยค่ะ เอาใจช่วยค่ะ
ทราย 16
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #2667 เมื่อ: 29 กรกฎาคม 2554, 14:24:30 »

อ้างถึง
ข้อความของ Jintana Yhoung-aree เมื่อ 29 กรกฎาคม 2554, 14:10:26
อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 29 กรกฎาคม 2554, 13:34:37
อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 29 กรกฎาคม 2554, 08:23:38

...สวัสดีตอนเช้าค่ะ...พี่สิงห์และสมาชิกทุกท่าน...

...เข้ามาตามอ่านธรรมะจากพี่สิงห์ค่ะ...

...ขอให้พี่สิงห์หายป่วยจากการแพ้อากาศเร็วๆนะคะ...

สวัสดีค่ะ คุณน้องตู่ ที่รัก

            สงสัยพี่สิงห์อยู่ในสภาวะเช่นเดียวกับ ดร.กุศล  คือไปไหนไม่ได้ไกล เพราะสถานะการพ่อ ดร.กุศล  อยู่ในฟองสบู่  ไม่รู้ว่าจะไปวันไหน  ตอนนี้ต้องรับประทานอาหารเหลว ทางสายยาง และยังทำใจไม่ได้ ดร.กุศล  จึงเที่ยวไล้เทียวขื่อ ครับ  แม่พี่สิงห์เป็นมากกว่าพ่อ ดร.กุศล  จนพี่สิงห์ตัดใจได้แล้ว รับสภาพได้ทั้งนั้น เพราะอายุมากแล้ว  คงไม่ไปไหนเหมือนกันครับ ช่วงนี้
            สวัสดี

พี่สิงห์ & พี่กุศลคะ
สัจจธรรมค่ะ
รีบควักธรรมะ
ที่พี่สั่งสมมานานโขแล้ว
ออกมาต่อสู้กับทุกข์ นาที-ต่อ-นาที
เลยค่ะ เอาใจช่วยค่ะ
ทราย 16
สวัสดีค่ะ คุณน้องทราย ที่รัก

            เรื่องแม่พี่สิงห์ปลงได้ตั้งนานแล้วครับ เคยสอนน้องสาวตอนที่พบรูป-นาม ว่านี่ละชีวิตหนีไม่พ้น อนิจจัง  ทุกขัง  อนัตตา จิตตอนนั้น ตัดได้  หมดความต้องการ  ไม่ได้ยึดติดอะไรเลย  แต่เดี๋ยวนี้มันชักกลับตะละปัดย้อนกลับ เลยต้องปฏิบัติให้มากขึ้น  อย่าเมื่อเช้าเข้าไปที่โรงงาน  ไปพบกับสิ่งที่ไม่พึงประสงค์มากที่สุดในชีวิต  ถ้าเป็นสมัยก่อนคงแยกทางกันไปเลย  คราวนี้  พี่สิงห์ก็อยากดูความโกรธของตัวเองเหมือนกัน  แต่ทำไม  ไม่ชอบขนาดนี้มันจึงไม่โกรธ เพียงหงุดหงิดนิดหน่อยเท่านั้น  แล้วก็จากมันไป  ปฏิบัติธรรมมันก็ดีเหมือนกันนา

           เธอสบายดีนะ
           
           สวัสดี
      บันทึกการเข้า
khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #2668 เมื่อ: 29 กรกฎาคม 2554, 16:58:55 »

พี่สิงห์,
กรีกกำลังล้มละลาย คนไม่ไปเที่ยว
dumpingราคาจมดิ่งถูกสุดๆคนก็ไม่ไป
ทำไมถึงแพงคะ?
เค้าถกกันเครียดเรื่องEUต้องช่วย..ปั๊มเงิน
คนด่ากันลั่นว่าแบบนั้นไม่ได้ช่วยเค้า!
เค้าต้องช่วยตัวเองก่อน..

นี่หนิงซื้อOUZOมาขวด...ช่วยเค้าเนี่ย
เอื๊อก!


อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 28 กรกฎาคม 2554, 20:16:36
สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก                       
                      วันนี้คุยกับทาง SIW เรื่องไปทัวร์ยุโรป ทางทัวร์เสนอมา ไปกรีก ๕ วัน  รู้สึกว่าจะแพงกว่าไปยุโรป แถวๆ เยอรมันเสียอีก ไม่ถูกอย่างที่คิดเลย  สงสัยคงต้องไปยุโรปแถวๆ เยอรมัน จะไปประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน เริ่มหิมะตกแน่ๆ อีกแล้วครับ  ไปเองพี่สิงหืไม่มีปัญญาไปหรอก ครับ

                    สวัสดิ์ครับ
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #2669 เมื่อ: 29 กรกฎาคม 2554, 17:17:42 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 29 กรกฎาคม 2554, 07:39:31
สวัสดีค่ะ คุณน้องต้อย ที่รัก

            การร้องเพลงมันเป็นเรื่องกามสุขที่เกิดจากการเห็น  ได้ยิน  ได้กลิ่น  ได้ลิ้มรส  และได้สัมผัส ทางอายตนะ เช่นเดียวกับการร้องเพลง มันเป็นสุขทางโลก  เมื่อก่อนพี่สิงห์ร้องเพลง เพราะน้องสาวบอกว่าทางการแพทย์แนะนำให้ร้องเพลงเพื่อความผ่อนคลาย และทำให้ความจำยังคงอยู่ พี่สิงห์จึงร้องเพลง  แต่เมื่อพี่สิงห์รู้ว่ายังมีความสุขที่ปราณีตกว่าการร้องเพลงรอพี่สิงห์อยู่  พี่สิงห์จึงขอหาความสุขทางใจใหม่ที่ปราณีตดีกว่า และก็พบแล้วครับ
            คุณน้องต้อยเคยเห็นพระร้องเพลงไหม ? มันไม่เหมาะสม  พระพุทะองค์ยังตำหนิพระบางรูปที่ชอบดัดเสียงให้แปลก หรือเอื่อนยาวไปเวลาเทศน์ พระองค์ไม่ให้กระทำแบบนั้น มันเป็นเรื่องของชาวบ้านไม่ใช่สงฆ์  เช่นเดียวกันตอนนี้พี่สิงห์ก็ไม่อยากกระทำเหมือนกัน มันไม่เหมาะสมที่จะกลับไปอยู่แบบเดิมๆ ที่จิตมันต้องการ ครับ
            แต่อย่างไรก็ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ

            สวัสดีค่ะ
อะไร อะไร
พี่สิงห์หยุดsing a song?
oh,no...โลกไม่สุนทรีย์แน่ๆคะ
เดี๋ยว,ต้องแอบอยู่ที่ไหนสักหลืบ..
อะไร?
ก็karaokeพี่สิงห์สิ,
เคยแปะแล้ว ก็ขุดมาแปะใหม่
ทนขนาดเครื่องเจ๊งกะบ๊งแล้ว
ยังอยู่ดี...หายไปล่ะ เสียดายแย่!


ว่าแต่,
พี่สิงห์ยังไม่ไช่พระ
ร้องได้สิคะ ทำไมจะร้องไม่ได้


<a href="http://img805.imageshack.us/flvplayer.swf?f=P63l" target="_blank">http://img805.imageshack.us/flvplayer.swf?f=P63l</a>
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #2670 เมื่อ: 29 กรกฎาคม 2554, 17:22:54 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 29 กรกฎาคม 2554, 07:50:53

สวัสดีครับคุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง คุณเอมอร คุณน้อง Nok15 คุณน้องต้อย คุณน้องตู่ และชาวซีมะโด่งที่รักทุกท่าน
                     สวัสดียามเช้าทุกท่านครับ อย่าลืมทำจิตให้ผ่องใสครับเช้านี้ จะได้มีจิตที่ปลอดดปร่งในการทำงาน ครับ

พี่สิงห์!
ทำไมสดชื่นยังงี้??
ชักสงสัยใครป่วยกันแน่ พี่รึหนิง
ไปดูsheหน้าจอน้ำท่าหัวหูดูไม่ได้
ไม่ได้คะไม่ได้ อายพี่จัง!
ไปอาบน้ำแต่งตัวก่อน...สดชื่นกว่า
ปากแดงกว่า รับรอง.
      บันทึกการเข้า


khesorn mueller
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2527
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 71,885

« ตอบ #2671 เมื่อ: 29 กรกฎาคม 2554, 17:30:53 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 29 กรกฎาคม 2554, 14:24:30
สวัสดีค่ะ คุณน้องทราย ที่รัก

            อย่างเมื่อเช้าเข้าไปที่โรงงาน  ไปพบกับสิ่งที่ไม่พึงประสงค์มากที่สุดในชีวิต  ถ้าเป็นสมัยก่อนคงแยกทางกันไปเลย  คราวนี้  พี่สิงห์ก็อยากดูความโกรธของตัวเองเหมือนกัน  แต่ทำไม  ไม่ชอบขนาดนี้มันจึงไม่โกรธ เพียงหงุดหงิดนิดหน่อยเท่านั้น  แล้วก็จากมันไป  ปฏิบัติธรรมมันก็ดีเหมือนกันนา
         
           สวัสดี

พี่สิงห์เล่าให้ฟังด้วยคะ
นั่นคือการนำมาปฏิบัติจริง
ที่หนิงเชื่อว่าพี่ๆน้องๆที่นี่
อยากทราบค่ะ
      บันทึกการเข้า


Dtoy16
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: อักษรศาสตร์
กระทู้: 1,424

« ตอบ #2672 เมื่อ: 29 กรกฎาคม 2554, 18:07:45 »

              แหมมาทีหลังน้องหนิงอีกแระ  พี่สิงห์ดูสดชื่นและมีพลังสดใส แข็งแรง(โดยไม่ต้องดื่มโอวัลติน)
              แต่ดื่มน้ำส้ม น้ำผลไม้  พี่ๆ น้องๆชาวซีมะโด่งหลายคนเป็นปลื้มและโล่งที่เห็นพี่สิงห์มีสุขภาพดี
               ต้อยเชื่อว่าอาการที่พี่เป็น พวกเราบางคนก็เคยเป็นกัน แล้วก็กลับมาหายดี หายช้า เร็วก็ปกติได้
              ยิ่งพี่ดูแลเรื่องอาหาร การออกกำลังกายเป็นประจำยิ่งดีในระยะยาว ก็คืออายุยืนละค่ะ

             ขอติดอ่านธรรมะไว้ก่อน จาไปเปิดแผ่นของนักร้อง โอเกะ โดยproducerหนิงก่อน

             น้องหนิง ถูกจายมากกกกก    มีcopyrightรึเปล่าค่ะ
      บันทึกการเข้า

Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #2673 เมื่อ: 29 กรกฎาคม 2554, 20:27:17 »

สวัสดีค่ะ คุณน้องหนุ๋งหนิ๋ง ที่รัก
                     
                       ก็นั่นนะซิกรีกล้มละลาย อย่างไรก็ต้องลดราคา ปรากฏว่าไม่ลดแพงครับ โปรแกรมที่ทัวร์จัดมานั้น คือล่องเรือในทะเลเมดิเตอเรเนี่ยน ด้วยทั้งหมดห้าวัน ทาง SIW สู้ไม่ไหวเกินงบ กำลังปรับให้เหลือสี่วัน พี่สิงห์เลยบอกว่างั้นไปเที่ยวเยอรมันดีกว่า เอาอย่างเดียวเลย ไปเมืองที่พวกเราไม่เคยไปกัน  ไม่จำเป็นต้องเป็นเมืองท่องเที่ยวก็ได้  อย่างคราวที่ไปออสเตรียครั้งที่แล้ว

                        สำหรับการปฏิบัติธรรมนั้น ถ้าทำจริงๆ  ความโลภ  ความโกรธ  ความหลง  มันลดน้อยลงจริงๆ  เพราะเราจะเห็นธรรมที่แท้จริงคือ จิตของเราและกายของเรา เมื่อเห็นความจริงแล้ว ใจมันจืดลงเองโดยธรรมชาติ  เมืาเช้านั้นสติพี่สิงห์ก็ตามไม่ทัน แต่มันเป็นเองคือ มันแทบจะไม่โกรธอะไร  ไม่มีการแสดงออกทั้งสิ้น(ทางกาย วาจา) เป็นปกติเพียงขุ่นใจที่อุตส่าห์กำชับสั่งการไว้อย่างดีแล้ว เตือนไว้ คาดโทษไว้ อย่างแรงแบบถ้ารั้นไม่ทำตามที่สั่งไว้ จะไม่รับรองทันที(ถอนความรับผิดชอบเรื่องคุมงาน)  ผลคือลูกน้องรั้นจะส่งให้ได้ตามนั้น มีแต่คนโยนความรับผิดชอบได้แต่สั่งๆๆ ต่อๆๆ กันไปแต่ไม่ทำการซ่อมให้มันดูดีเสียก่อน  รั้นจะส่งท่าเดียว  ผลสุดท้ายอยากส่งก็ส่งไปตามเวรตามกรรมก็แล้วกัน  แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อนเผ่นกลับกรุงเทพฯ ทันทีขาดกันไปข้างหนึ่งเลยพวกรั้นดื่อแบบนี้

                         แต่ละคนความคิดไม่เหมือนกัน  ต่างก็คิดว่าตัวเองทำถูกทำดีแล้ว แต่อีกคนบอกว่ามันยังไม่ดีพอ  มาตรฐานมันต่างกัน นี่ละจิตคน  ดังนั้น  ถ้าเราไม่ได้ทำด้วยตัวเองแล้ว  อย่าไปหวังอะไรมากว่ามันจะดีเหมือนอย่างที่เราเคยทำ ต้องปล่อยมันไป  ไม่งั้นมีแต่ทุกข์ พรุ่งพล่านเดือดดานใจ ไม่เป็นสุขทั้งสองฝ่าย  เขาอยากทำอย่างนั้นก็ปล่อยไป เราได้เตือนแล้วได้บอกถึงผลลัพญ์ที่จะเกิดขึ้นแล้ว ดังนั้นอะไรจะเกิดมันต้องเกิด และเราก็ลืมไปแล้วเพราะเป็นอดีตไปแล้ว อย่าไปทุกขืกับมันเลย มุ่งไปข้างหน้าดีกว่า

                         สวัสดีค่ะ
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #2674 เมื่อ: 29 กรกฎาคม 2554, 20:42:32 »

ที่พระต้องเอื้อนยาวๆ เวลาสวดมนต์ในพิธีการต่างๆ เพราะเป็นพระที่ได้รับกิจนิมนต์มาจากคนละวัดกัน
จึงต้องทอดเสียงเพื่อการซิงโครไนซ์กันนิดนึงครับ (อะไรกัน อุบาสกสิงห์หาว่าพระแกล้งทำเสียงหล่อ)
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
  หน้า: 1 ... 105 106 [107] 108 109 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><