seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์
กระทู้: 9,865
|
|
« ตอบ #1000 เมื่อ: 06 กุมภาพันธ์ 2555, 12:08:28 » |
|
การหลอกลวงครั้งยิ่งใหญ่เรื่อง Cholesterol ข่าวดีสำหรับผู้ที่มี Cholesterol สูง
Dr. Malcolm Kendrick แพทย์ผู้มีชื่อเสียงของอังกฤษ ได้ค้นคว้า “ความจริง” ของเรื่องไขมันในเลือด (Cholesterol) ซึ่งเป็นที่หวาดกลัวของคนทั่วโลกในยุคนี้ และได้เขียนหนังสือ “The Great Cholesterol Con” อาจแปลเป็นไทยว่า การหลอกลวงครั้งยิ่งใหญ่เรื่อง Cholesterol ซึ่งเป็นหนังสือกำลังขายดีอย่างเทน้ำเทท่าในอังกฤษ มูลนิธิจึงได้เรียบเรียง สรุป และนำเสนอเรื่องที่ทุกคนควรอ่าน เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ เลือกแนวทางดูแลสุขภาพของท่าน ด้วยความปรารถนาดีอย่างจริงใจ มิได้มุ่งหวังจะโจมตีหรือขัดผลประโยชน์ใคร
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิดร่างกายจะสร้าง Cholesterol ขึ้นมาในตัวของมันเองอยู่ตลอดเวลา หากว่า Cholesterol เป็นสิ่งไม่ดีแล้วธรรมชาติจะสร้างขึ้นมาทำไม? เราควรคิดกลับไปหาธรรมชาติ นั่นคือคำตอบที่แท้จริง
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Cholesterol เกิดขึ้นมานานแล้ว เพราะมีผู้ต้องการสร้างภาพ Cholesterol ให้เป็นผู้ร้ายโดยใช้เงินมหาศาล ส่งเสริมให้กินน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมัน น้ำมันปาล์ม น้ำมันข้าวโพด ฯลฯ โดยมีบริษัทยาเริ่มให้ข่าวที่เหมือนเป็นการให้ความรู้มาก่อนว่า Cholesterol เป็นสิ่งที่น่ากลัว ถ้า Total Cholesterol สูงเกิน 200 ก็ควรกินยาลดไขมันในเลือด ซึ่งวงการแพทย์ส่วนใหญ่ก็เห็นดีเห็นงาม จากข้อมูล (Medical Journal) ที่บริษัทยาอยู่เบื้องหลังการทำวิจัยแบบลำเอียง เลือกกลุ่มข้อมูลบางส่วนที่จะเข้าทางบริษัทยาเท่านั้น แล้วทำการเผยแพร่ให้แพทย์และสาธารณะชนให้หลงหวาดกลัวโรคหัวใจ จึงยอมกินยาลดไขมันที่แพทย์แนะนำให้กิน
หนังสือ The Great Cholesterol Con โดย Dr. Malcolm Kendrick
นี่เป็นข้อมูลจากอังกฤษ ซึ่งไม่ถูกครอบงำโดยบริษัทยา เหมือน FDA (Food & Drug Administration) ในอเมริกา ปกหน้าของหนังสือเล่มนี้เขียนไว้ว่า “This book will change the way you think about heart disease forever” เพราะเราเชื่อว่าโรคหัวใจเกิดจาก Cholesterol ตอนหลังมีคนคัดค้านว่าไม่เป็นความจริง เพราะ Cholesterol จะสูงหรือต่ำก็ตายเหมือนกัน
ญี่ปุ่นเป็นอีกประเทศที่ประชากรอายุยืนที่สุดและไม่โดนครอบงำโดยข้อมูลจากฝรั่งอเมริกา ลองมาดูว่า คนญี่ปุ่นกินอย่างไร
Cholesterol levels 1958 = 3.9mmol/l Cholesterol levels 1999 = 4.9mmol/l
จากข้อมูลจะเห็นว่า Total Calories ในปี 1985 ค่อนข้างสูง ถึง 2,837 แต่ในปี 1999 กลับลดลงมาเหลือแค่ 2,202 ลดลงจากอะไร ลองดูที่ Carbohydrate intake เดิม 84% ลดการบริโภคมาเหลือ 62% และเพิ่มโปรตีนจากเดิม 11% เป็น 18% แต่ดูอันสุดท้าย Fat intake เพิ่มจาก 5% เป็น 20% กินน้ำมันเพิ่มขึ้นถึง 400% ทำให้ Total Cholesterol ของคนญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 20% แต่ดูผลจากกราฟข้างล่าง
อัตราการตายด้วยโรคหัวใจของคนญี่ปุ่นลดลงถึง 6 เท่า โดยการลด Carbohydrate เพิ่ม Protein และ ไขมัน(ดี)
จากกราฟ Average Cholesterol Levels ของขาว Aboriginals (คนพื้นเมืองในออสเตรเลีย) ต่ำที่สุด แต่กลับอัตราการตายสูงที่สุด ในทางกลับกัน ระดับ Cholesterol ของ Switzerland สูงที่สุด แต่อัตราการตายกลับต่ำสุด
เมื่อเริ่มตระหนักว่าผลการวิจัยที่ว่า Cholesterol สูงทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจนั้น ไม่เป็นความจริงตามที่บริษัทยามาขู่ บริษัทยาเหล่านั้นจึงเบี่ยงเบนความสนใจว่าดู Total Cholesterol ไม่พอ ต้องดูละเอียดลงไปถึง LDL และ HDL โดยสร้างผู้ร้ายตัวใหม่ให้ LDL มีวิจัยตัวใหม่ชี้ว่า LDL เป็น Bad Cholesterol และ HDL เป็น Good Cholesterol
แต่เชื่อหรือไม่ว่าแท้ที่จริง ทั้ง LDL และ HDL ไม่ใช่ Cholesterol ทั้งคู่!!
LDL ย่อมาจาก Low-Density Lipoproteins HDL ย่อมาจาก Hi-Density Lipoproteins “คุณแน่มากที่สามารถทำให้ทั้งแพทย์และประชาชนเชื่อว่า LDL และ HDL เป็น Cholesterol” !
Lipoproteins คือ รูปแบบหนึ่งของไขมันผสมกับโปรตีน ที่สามารถละลายน้ำได้ และสามารถเคลื่อนตัวไปในกระแสเลือดได้ ส่วน Cholesterol คือ ไขมันอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งไม่สามารถละลายในน้ำได้ มันจึงต้องเข้าไปแทรกตัวอยู่ข้างใน Lipoprotein เพื่อที่จะใช้เป็นพาหนะนำพา Cholesterol เข้าไปในกระแสเลือดและไปซ่อมแซมส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ ซึ่ง Cholesterol เป็นสิ่งที่ร่างกายเราสร้างขึ้นมาเองประมาณ 90% และมีความจำเป็นต้องใช้อย่างมาก! ร่างกายจะทรุดโทรมอย่างรวดเร็วถ้า Cholesterol ต่ำกว่า 200 ดังนั้นความเชื่อที่บอกว่า Cholesterol สูงแล้วมีโอกาสตายด้วยโรคหัวใจ ไม่เป็นความจริง ตรงกันข้าม ถ้าคุณกินยาลดไขมันเพื่อให้ Cholesterol ต่ำกว่า 200 อาจทำให้คุณเป็นโรคหัวใจวายตายเฉียบพลันได้สูงกว่า 3 – 4 เท่าของคนที่ไขมันสูงกว่า 200 แต่ไม่ได้กินยา
ข้อมูลอีกอันหนึ่งเกี่ยวกับ LDL มีการเก็บข้อมูลของคนอินเดียและคนอเมริกันผิวขาวที่อาศัยอยู่ในอเมริกา ดังตารางข้างล่าง (จากหนังสือหน้า 121)
จากตาราง คนอินเดีย มีอัตราความอ้วน , ความดันสูง, LDL, สูบบุหรี่ น้อยกว่าคนอเมริกันผิวขาวมากมาย แต่อัตราการตายของคนอินเดียกลับสูงกว่ามากมายหลายเท่า และสาเหตุของการตายที่มีอัตราสูงที่สุดคือโรคหัวใจ
ทำไมข้อมูลเหล่านี้ไม่ถึงมือผู้บริโภค?
Journal of the American Medical Association in 1995 : (จากหนังสือหน้า 123)
Our findings do not support the hypothesis that hypercholesterolemia or low HDL-C are important risk factors for allcause mortality, coronary heart disease mortality, or hospitalization for myocardial infarction or unstable angina in this cohort of persons older than 70 years.
สมมุติฐานที่ว่า Cholesterol สูง และ LDL ต่ำ เป็นเรื่องที่น่ากลัว เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหัวใจวาย ไม่เป็นความจริง
Journal of the American Geriatric Society in 1991 :
Elevated total cholesterol was not found to be associated with CHD mortality in older men.
National Centre for Health Statistics :
Although coronary heart disease remains a leading cause of death and disability in old age, the relationship of serum cholesterol level to risk of coronary heart disease in old age is controversial. Data for 2,388 white person aged 65 – 74 … were examined to determine the relationship of serum cholesterol level to coronary heart disease incidence… there was no overall relationship between serum cholesterol level and coronary heart disease risk in either men or women…
ถึงแม้โรคหัวใจเป็นสาเหตุการตาย และความพิการสำหรับผู้สูงอายุแต่ว่าความสัมพันธ์ระหว่าง ระดับ Cholesterol กับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน
ทำไมข้อมูลเหล่านี้จึงไม่ได้รับการเผยแพร่??
พฤติกรรมของบริษัทยา
บริษัท Rosuvastation (Crestor) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยาขนาดเล็ก ใช้เงินในการส่งเสริมการขายยากลุ่ม Statin ในปีแรกสูงถึง 1 พันล้านเหรียญ ยังไม่รวมอีก 6 บริษัทที่ใหญ่กว่ามากได้ส่งเสริมการขายไปก่อนแล้วแต่ไม่เปิดเผยถึงงบประมาณนี้
บริษัทยาจะเซ็นสัญญากับนักวิจัยว่าห้ามเปิดเผยข้อมูล โดยจะเลือกเปิดเผยเฉพาะข้อมูลที่มีผลประโยชน์กับบริษัทเท่านั้นและจ่ายเงินให้นักหนังสือพิมพ์เพื่อไปเขียนเชียร์ผลิตภัณฑ์ จัดประชุมสัมมนาทางวิชาการระดับนานาชาติ แล้วให้ข้อมูลการวิจัยซึ่งมีสถาบันที่ดูน่าเชื่อถือรับรองผล ให้กับหมอโดยตรง
ครอบงำ FDA เมื่อ FDA จะยอมรับยาอะไรก็ต้องผ่านการทดสอบในแนวทางที่บริษัทยาตั้งไว้ แล้วประกาศเป็นกฎหมายบังคับใช้ ด้วยกระบวนการและวิธีต่างๆ ที่ได้กล่าวมา ข้อมูลผลการวิจัยจึงแทรกซึมเข้าไปในหลักสูตรการแพทย์
ผลเสียของ Statin (ตัวยาที่ใช้ในยาลดไขมันในเลือด) - ทำให้ปวดกล้ามเนื้อ - เป็นโรคกล้ามเนื้อสลาย - ในอเมริกามีผู้เสียชีวิตโดยตรงกับการใช้ยานี้ไปแล้ว 416 คน (เก็บข้อมูล 6 ปี) - มีพิษทำลายระบบประสาท ทำให้สูญเสียความจำ มึนงง เวียนหัว
ข้อมูลที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นผลเสีย - มีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง - มีโอกาสเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ มากกว่าคนที่ไม่ได้กินยานี้ถึง 3 เท่า
Statin ปัจจุบันเป็นยาอันดับ 1 ที่สร้างผลกำไรมหาศาลให้กับบริษัทยาทั่วโลก (ยกเว้นบริษัท Bayer ของเยอรมัน ที่มีจรรยาบรรณและได้ถอนตัวออกจากตลาดไปเมื่อปี 2001 เนื่องจากติดตามผล แล้วพบว่ามีผู้เสียชีวิตโดยตรงจากการใช้ยานี้ถึง 40 คน) และจากการเก็บข้อมูลคนอเมริกัน (ตลอด 6 ปี) พบว่ามีผู้เสียชีวิตจากการกินยากลุ่ม Statin ไปแล้วถึง 416 คน ปัจจุบันคนยุโรป 99% และอีกมากมายทั่วโลกที่กินยานี้ เพราะความเข้าใจแบบผิดๆ
ลองย้อนกลับไปดูชีวิตมนุษย์เมื่อหมื่นปีก่อน ร่างกายของเราถูกสร้างมาให้ทำอะไร กินอะไร และใช้ชีวิตยังไง ถ้าหากเราใช้ชีวิตถูกต้องตามที่ธรรมชาติออกแบบมา ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกินยา
ถ้า Cholesterol ไม่ใช่ผู้ร้ายตัวจริง แล้วอะไรเป็นสาเหตุของโรคหัวใจที่แท้จริง?
โปรดติดตามตอนต่อไป ในเดือนธันวาคม 2554 ครับ จะเปิดโฉมหน้า “ผู้ร้ายตัวจริง” ที่หมอไม่ค่อยชอบจะตอแยด้วย เพราะไม่มีบริษัทยาคอยเป็นกุนซือชี้แนะ เพราะบริษัทยาไม่รู้จะป้ายร้ายป้ายสีอะไรกับผู้ร้ายตัวนี้ เนื่องจากมันเป็น “ผู้ร้ายตัวจริง” ระดับอินเตอร์อยู่แล้ว พิสูจน์ได้ทั่วโลก จะมาหลอกเฉพาะประเทศด้อยข้อมูลไม่ได้
|
iss u.Don"t be sure that the world is wide until you check it out by your self.
|
|
|
มีนา
Hero Cmadong Member
ออฟไลน์
รุ่น: rcu2515
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 1,865
|
|
« ตอบ #1001 เมื่อ: 06 กุมภาพันธ์ 2555, 12:21:06 » |
|
ขอบคุณตะวันที่ส่งมาให้อ่าน เหมือนเรื่องกะทิที่ว่าอันตรายข่าวว่าไม่ใช่แล้ว คงตายเร็วเพราะเครียดวิตกกังวลมากไปจะกินอะไรดี กินคละหมุนเวียนกันไป ไม่มาก ไม่น้อย พอเพียงแหละดี
|
|
|
|
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์
กระทู้: 9,865
|
|
« ตอบ #1002 เมื่อ: 06 กุมภาพันธ์ 2555, 12:45:04 » |
|
หวัดดีหมอนี้ ที่จริงตอนแรกเราก็กลัวนะ กินยาลด ไขมันไปเยอะเหมือนกัน วันก่อนแฟนไปตรวจเลือด หมอบอกไขมันสูงให้ยาลดมากิน ปรากฎว่ากินแล้วมีไข้ ปวดเมื่อยไปหมด เลยหยุดกิน ก็หายไข้ ตอนนี้เราเลิกกินมานาน และเลิกไปตรวจไขมันแล้ว ก็อยู่สุขสบายดี ไม่ต้องเสียเงินอีกต่างหาก แต่เรื่องนี้ ตัวใครตัวมันนะครับ อย่าเชื่อผมทั้งหมด เดี๋ยวไขมันจุกอก แล้วมาโทษกระผม
|
iss u.Don"t be sure that the world is wide until you check it out by your self.
|
|
|
Leam
|
|
« ตอบ #1003 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2555, 18:02:02 » |
|
สวัสดียามเย็นครับ... พี่ตะวัน..พี่มีนา..พี่อร และพี่น้องทุกท่าน
|
|
|
|
Leam
|
|
« ตอบ #1004 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2555, 18:04:58 » |
|
ใช้ในความหมาย " ถวายเคารพ " ครับพี่
|
|
|
|
มีนา
Hero Cmadong Member
ออฟไลน์
รุ่น: rcu2515
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 1,865
|
|
« ตอบ #1005 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2555, 11:16:00 » |
|
|
|
|
|
Pete15
|
|
« ตอบ #1006 เมื่อ: 10 กุมภาพันธ์ 2555, 12:53:15 » |
|
|
|
|
|
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์
กระทู้: 9,865
|
|
« ตอบ #1007 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2555, 21:37:55 » |
|
HAPPY VALENTINE ทุกๆคนครับ
|
iss u.Don"t be sure that the world is wide until you check it out by your self.
|
|
|
มีนา
Hero Cmadong Member
ออฟไลน์
รุ่น: rcu2515
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 1,865
|
|
« ตอบ #1008 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2555, 22:49:31 » |
|
สวยงามมาก ได้รับแล้ว ขอบคุณค่ะ
|
|
|
|
มีนา
Hero Cmadong Member
ออฟไลน์
รุ่น: rcu2515
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 1,865
|
|
« ตอบ #1009 เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2555, 23:02:23 » |
|
ยังอยู่ในบรรยากาศสวยๆงามๆ เผื่อเห็นแล้วอยากแต่งใหม่ กับคนเดิมน๊า "สลักรัก@สลักคอก" จังหวัดตราด
|
|
|
|
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์
กระทู้: 9,865
|
|
« ตอบ #1010 เมื่อ: 24 กุมภาพันธ์ 2555, 14:36:17 » |
|
ทีซีซี"ลุ้นชนะประมูลที่ดินสามย่าน ไม่หวั่นจุฬาเรียก"แลนด์ฯ"ต่อรอง
มติชนออนไลน์
ทีซีซีแลนด์ลุ้นชนะประมูลพัฒนาที่ดินตลาดสามย่านของจุฬาฯ มั่นใจให้ผลตอบแทนสูงกว่าทีโออาร์ ไม่สนจุฬาฯเรียกแลนด์ฯเจรจาต่อรองแล้วก็ตาม รอชี้ชะตาภายในกุมภาพันธ์นี้ เปิดแผนอัดงบลงทุน 6 พันล้าน เน้นโรงแรม-ศูนย์การค้า รองรับเปิดเสรีเออีซี
นายวุษณุ หวังวิสุทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้าและตลาด บริษัท ทีซีซี แลนด์ รีเทล จำกัด บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มทีซีซีแลนด์ เปิดเผยว่า ทีซีซีแลนด์ได้ยื่นประมูลที่ดินเนื้อที่ 13 ไร่ บริเวณตลาดสามย่าน ของสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งแผนที่นำเสนอนั้นเป็นการพัฒนาพื้นที่ภายใต้แนวคิด อินโนเวชั่นคอมเพล็กซ์ ซึ่งเป็นโครงการลักษณะผสมผสานระหว่างศูนย์การค้าเฉพาะทาง โรงแรมระดับ 3-4 ดาว ศูนย์ประชุม และศูนย์การเรียนรู้บนพื้นที่ 200,000 ตารางเมตร ใช้เงินลงทุนก่อสร้างประมาณ 5-6 พันล้านบาท ระยะสัญญาเช่า 30 ปี ไม่รวมระยะเวลาก่อสร้างโครงการอีก 4 ปี ส่วนผลประโยชน์ตอบแทนที่นำเสนอนั้นได้เสนอผลตอบแทนสูงกว่าผลตอบแทนขั้นต่ำตามที่ทีโออาร์กำหนด ซึ่งทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจะประกาศรายชื่อผู้ที่ชนะการประมูลภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้
"คู่แข่งที่ยื่นประมูลในครั้งนี้คือ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งล่าสุดทราบว่าทางสำนักงานจัดการทรัพย์สินฯได้เรียกบริษัทดังกล่าวไปเจรจาแล้ว ซึ่งคาดว่าอาจให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าบริษัททีซีซี แต่อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ทางสำนักงานทรัพย์สินฯยังไม่มีข้อสรุปว่าจะเลือกบริษัทใด จึงต้องรอการประกาศผลอย่างเป็นทางการ"
นายวิษณุกล่าวว่า แนวทางการพัฒนาโครงการดังกล่าว ถือเป็นแนวทางที่ตอบโจทย์สำหรับนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคนทั่วไป อีกทั้งยังเป็นโครงการที่จะรองรับนักท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศอาเซียน ที่สามารถเดินทางได้โดยเสรีไม่ต้องใช้วีซ่า สามารถทำธุรกิจร่วมกันโดยไม่ต้องมีกำแพงภาษี อีกทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวอาเซียนเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพเป็นอย่างมาก เพราะมีประชากรรวมกันประมาณ 600 ล้านคน
นายปณต สิริวัฒนภัคดี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส กลุ่มทีซีซีแลนด์ กล่าวว่า แนวทางในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มในปีนี้จะให้น้ำหนักกับธุรกิจค้าปลีกและโรงแรมเป็นหลัก ส่วนโครงการที่อยู่อาศัยจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ 3 โครงการ ขณะที่ในส่วนของค้าปลีกจะรวมแนวคิดในการพัฒนาเป็นศูนย์การค้ารองรับนักท่องเที่ยวตามกรอบเออีซีที่จะมีผลในปี 2558 เช่น การเปิดตัวโครงการเอเชีย ทีค ย่านเจริญกรุง และโครงการล่าสุดคือศูนย์การค้าเกตเวย์ เอกมัย พื้นที่ให้เช่ารวม 93,000 ตารางเมตร ใช้เงินลงทุน 2 พันล้านบาท เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในย่านเอกมัย มีชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังสามารถรับนักท่องเที่ยวในย่านนั้นได้เป็นอย่างดี โดยไฮไลต์ของโครงการจะเน้นโซนร้านอาหารที่เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับ เช่น ร้านโคอุระคุเอ็น ซึ่งเป็นร้านราเมนอันดับ 1 ของญี่ปุ่น ร้านโอกาชิ แลนด์ เป็นต้น ซึ่งร้านเหล่านี้ยังไม่เคยมีสาขาในประเทศไทย โดยล่าสุดมียอดพื้นที่แล้ว 90%
|
iss u.Don"t be sure that the world is wide until you check it out by your self.
|
|
|
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
ออฟไลน์
รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562
|
|
« ตอบ #1011 เมื่อ: 24 กุมภาพันธ์ 2555, 14:55:08 » |
|
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ทุกคน ตามอ่านค่ะ
|
|
|
|
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์
กระทู้: 9,865
|
|
« ตอบ #1012 เมื่อ: 02 มีนาคม 2555, 17:21:32 » |
|
|
iss u.Don"t be sure that the world is wide until you check it out by your self.
|
|
|
Leam
|
|
« ตอบ #1013 เมื่อ: 03 มีนาคม 2555, 16:25:17 » |
|
ํํYes!!! ... Be a winner.
|
|
|
|
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
ออฟไลน์
รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562
|
|
« ตอบ #1014 เมื่อ: 05 มีนาคม 2555, 13:07:49 » |
|
เป็นผู้ชนะด้วยคนค่ะ
|
|
|
|
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์
กระทู้: 9,865
|
|
« ตอบ #1015 เมื่อ: 06 มีนาคม 2555, 20:48:05 » |
|
วั นนี้ได้ข่าวดี เพราะน้องคนหนึ่งได้มาขอให้ช่วยในการเขียนโครงการ เพื่อเสนอต่อ สำนักงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ(สกส) มีผู้ส่งโครงการทั้งหมด 47 โครงการ แต่เขาให้ผ่านแค่ 20 โครงการ ผลเพิ่งออกมาวันนี้ ปรากฎว่าโครงการของเราผ่านฉลุย แถม ผอ.สกส ยังชมว่า โครงการเขียนได้ดีมาก จากนี้ น้องเขาจะได้เข้ารับการอบรม และเขียน Business plan แล้วเขาจะคัดให้เหลือ 5 ทีม เพื่อรับเงินสนับสนุน 100,000 บาท คงต้องเหนื่อยกันอีกหลายยก โครงการของน้อง เป็นการร่วมกับชาวบ้านที่ต.ดอนแร่อ.เมือง จ.ราชบุรี เป็นการเลี้ยงหมูหลุม ใครสนใจไปเยี่ยมโครงการ ยกมือขึ้น..จะพาไปสัมผัส ส่วนจะไปเมื่อไหร่จะแจ้งอีกครั้งข้างล่างนี้ คือ ข้อเขียนที่มีการเขียนถึง สกส.จึงนำมาให้อ่านกันเล่นๆ
|
iss u.Don"t be sure that the world is wide until you check it out by your self.
|
|
|
Leam
|
|
« ตอบ #1016 เมื่อ: 08 มีนาคม 2555, 16:53:41 » |
|
ขอยกมือรักษาสิทธิ์ไว้ก่อน...
หากวันไปไม่สะดวก จะแจ้งยกเลิกภายหลังครับ...
|
|
|
|
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์
กระทู้: 9,865
|
|
« ตอบ #1017 เมื่อ: 15 มีนาคม 2555, 17:37:45 » |
|
|
iss u.Don"t be sure that the world is wide until you check it out by your self.
|
|
|
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์
กระทู้: 9,865
|
|
« ตอบ #1018 เมื่อ: 15 มีนาคม 2555, 17:39:14 » |
|
ทรัพย์สินจุฬาฯไล่ปรับโฉมที่ดินแถวสยาม
posttoday.com
ทรัพย์สินจุฬาฯ ทยอยไล่ปรับโฉมที่ดินโรงหนังลิโด้ เตรียมควักกว่า 1,800 ล้าน ผุดช้อปปิ้งมอลล์ใหม่ ปี 57
นพ.เพิ่มยศ โกศลพันธุ์ รองอธิการบดี กำกับดูแล สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่าสำนักงานจัดการทรัพย์สินจุฬาฯ เตรียมแผนที่จะพัฒนาพื้นที่บริเวณเฟส 2 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงภาพยนตร์ลิโด้ เนื้อที่ 7-8 ไร่ เป็นช็อปปิ้งมอลล์แห่งใหม่ หลังจากสัญญาการเช่าพื้นที่หมดลงในปี 2556 โดยจะเริ่มพัฒนาได้ในต้นปี 2557 ขณะที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการสยามสแควร์วัน หรือ SQ1 บนเนื้อที่ 8 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่บนเนื้อที่ของโรงภาพยนตร์สยามเดิม ที่ใช้เงินลงทุน 1,800 ล้านบาท จะก่อสร้างเสร็จพร้อมเปิดให้บริการได้ในเดือนธ.ค. ปี 2556
"บริเวณ ถ.พระราม 1 ที่บริเวณสยามสแควร์นั้นถือว่ามีศักยภาพที่จะพัฒนาเป็นช็อปปิ้งเซ็นเตอร์ หลังจากที่โรงหนังสยาม ถูกไฟไหม้ไป เมื่อคราวเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง จึงทำให้ที่ดินแปลงดังกล่าวนั้นถูกนำมาพัฒนาก่อสร้างได้ก่อน และจะทยอยปรับโฉมเป็นช็อปปิ้ง มอลล์ใหม่ ในเฟส 2 บริเวณโรงหนังลิโด้ รวมไปถึงที่ดินบริเวณโรงหนังสกาล่า ซึ่งทั้ง 3 แห่งเป็นโรงหนังในเครือเอเพ็กซ์ที่มีกลุ่มสวนนงนุชเป็นผู้เช่า และทยอยหมดสัญญาเช่า"
สำหรับโครงการสยามสแควร์วันนั้น มีเนื้อที่ 7.4 หมื่นตร.ม เป็นอาคารสูง 9 ชั้น มีชั้นใต้ดิน 2 ชั้น จะเป็นศูนย์การค้าที่เน้นสินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ จากกลุ่มยังดีไซน์เนอร์คนไทย และอินเตอร์แบรนด์ และกลุ่มสินค้าไอที รวมไปถึงร้านค้าแฟลกชิพ สโตร์ บริเวณชั้น 7 ของโครงการ จะก่อสร้างเป็นเพลย์เฮ้าส์ หรือโรงละคร ขนาด 850 ที่นั่ง โดยอยู่ระหว่างประมูลหาผู้ดำเนินการ ซึ่ง มี 2 บริษัท สนใจเข้ามาประมูลคือ บริษัท เวิร์คพ้อยท์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ และบริษัท ทีวี ธันเดอร์ ซึ่งจะทราบผลเร็วๆ นี้ว่ารายใดชนะการประมูล
ทั้งนี้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะเป็นกลุ่มระดับ เอ ถึงบี ได้แก่ กลุ่มวัยรุ่น นิสิต นักศึกษา กลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ และนักท่องเที่ยว คาดว่าหลังจากเปิดใหม่บริการในช่วงแรก จะมีลูกค้ามาเดินไม่ต่ำกว่าวันละ 5 หมื่นคน และมีการจัดจ่ายไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทต่อครั้ง
นพ.เพิ่มยศ กล่าวถึงโครงการประเภทมิกซ์ยูส บริเวณสี่แยกเจริญผล ที่เปิดประมูลโดยมีผู้ที่ผ่านร่างทีโออาร์ ได้แก่ กลุ่มแลนด์แอนด์เฮ้าส์ และกลุ่มทีซีซีแลนด์ ของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างรอคณะรัฐมนตรีอนุมัติแผนร่วมทุนเนื่องจากเป็นโครงการที่มีมูลค่าเกิน 1,000 ล้านบาท ซึ่งแนวโน้มที่กลุ่มแลนด์แอนด์เฮ้าส์จะชนะการประมูลมีความเป็นไปได้สูง เนื่องจากเสนอผลตอบแทนสูงกว่ากลุ่มทีซีซีแลนด์ อย่างไรก็ตามทางสำนักทรัพย์สินจุฬาฯอยู่ระหว่างการเจรจาต่อรองขอเพิ่มอัตราผลตอบแทนที่เสนอเข้ามา
|
iss u.Don"t be sure that the world is wide until you check it out by your self.
|
|
|
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์
กระทู้: 9,865
|
|
« ตอบ #1019 เมื่อ: 22 มีนาคม 2555, 09:50:01 » |
|
เอาของดีมาฝาก พวก สว.ทั้งหลายป้องกันอัลไซเมอร์ด้วยท่ากระต่ายขาเดียวSIMPLE BUT EFFECTIVE EXERCISE The essence of the exercise is that your "Eyes Must be Closed" when you are doing this exercise. You must practise the "Jin Ji Du Li" exercise with the eyes closed. This exercise was so simple and amazing. Here is the exercise: Stand on one leg while your eyes are closed. That is all. Just try it right now, stop reading and stand up, close your eyes and try standing on one foot. Untitled.jpg If you are not able to stand for less than 10 seconds, it means that your body has degenerated to 60 to 70 years old level in other words, you may be only 40 years old, but your body has aged a lot faster. You do not need to lift your leg high, if your internal organs are out of synch, even lifting your leg this bit will make you wobble. It was very heartening to know that frequent and regular practice can help you recover your sense of balance. In fact Chinese specialists suggest daily practice of Jin Ji Du Li for 1 minute, this helps prevent dementia. You can try slightly closing both eyes while practicing Jin Ji Du Li, instead of completely closing them; in fact this is what the health specialist Zhong Li Ba Ren recommends. Daily practice of Jin Ji Du Li, can help in healing many illnesses or diseases like Hypertension, High Blood Sugar or diabetes, Neck and Spinal diseases, it can also prevent you from getting dementia. As you gain ability to stand for longer time, the feeling of "head heavy, light feet” disappears. As benefits or practising Jin Ji Du Li, you will experience that the quality of sleep improves, the mind clears up and memory improves significantly. Most importantly if you can practice Jin Ji Du Li with your eyes closed for 1 minute every day, you will not get dementia. Zhong Li Ba Ren explained that there are 6 important meridians passing through our legs. When you stand on a single leg, the weak meridian will feel sore while getting the necessary exercise, and as this happens, the corresponding organs of these meridians and their path-ways, start getting the necessary tuning. This method can focus or concentrate the awareness, and channel the body's qi to the foot. The beneficial effects of practising Jin Ji Du Li on various illnesses associated with hypertension, diabetes, neck and spinal diseases are quick to be seen and felt. Jin Ji Du Li can also prevent gout. Jin Ji Du Li helps to Strengthen body Immunity rapidly Jin Ji Du Li it is suitable for everyone generally. It is the basic cure for "Cold Feet Disease” and it can also strengthen the body’s immunity. You do not have to wait until you have any illness to start practising Jin Ji Du Li.
|
iss u.Don"t be sure that the world is wide until you check it out by your self.
|
|
|
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
ออฟไลน์
รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562
|
|
« ตอบ #1020 เมื่อ: 22 มีนาคม 2555, 11:46:48 » |
|
เอ จะรับไว้ ก็ยังไม่อยากนับรวม เป็น สว. อยากจะหลีกหนีความจริงค่ะ
|
|
|
|
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์
กระทู้: 9,865
|
|
« ตอบ #1021 เมื่อ: 23 มีนาคม 2555, 21:44:16 » |
|
อันตรายจาก สาว...ชายแก่ๆ ควรอ่านไว้...!! หมายเหตุ..เรื่องนี้ ก๊อป เขามา ไม่ใช่ประสบการณ์ผมนะครับ...5555
สำหรับผู้ที่ชอบหาสาวไซไลน์ไปนอนด้วยอ่านเรื่องนี้คงต้องคิดกันมากหน่อย เพราะไม่แน่วันข้างหน้าอาจจะกลายเป็นคนเสียเองที่ต้องอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้ เห็นว่าน่าจะมีประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ผู้ชอบใช้บริการจากน้อง ๆ นักศึกษาที่ชอบหาลำไพ่พิเศษจากการขายนาผืนน้อยกิน ...ศุกร์ก่อน..หลังเลิกงานไปเดินเล่นมาเซนทรัลบางนา ระหว่างที่เดินดูของอยู่ก็รู้สึกว่ามีคนมอง หันไปดูเห็นน้องหนูหน้าตาจิ้มลิ้มยิ้มให้ ก็ยิ้มตอบไปโดยอัตโนมัติ
ในใจตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรจริงๆ ก็หันหลังกลับ ว่าจะเดินต่อ เธอก็เข้ามาทัก แนะนำตัวเสร็จสรรพว่าชื่อแอน ถามไถ่เราว่ามาคนเดียวหรือรอเพื่อนหรือรอแฟนอยู่หรือเปล่า ก็ไม่แน่ใจว่าจะเอายังไงกับกรูว๊ะเนี๊ย ก็ตอบๆ ไปว่ามาเดินดูของคนเดียว ในใจก็คิดว่าเป็นพวกล่าแบบสอบถาม เซลขายของ หรืออย่างในเวปว๊ะเนี๊ย
เธอก็เอ่ยนำว่าเธอก็มาเดินเล่นคนเดียว กำลังเหงา เห็นผมแล้วสนใจเลยเดินมาทัก ยิ่งทำให้ผมระแวงใหญ่ว่าเธอเป็นจำพวกไหนกันแน่ เพราะถึงแม้จะมั่นใจว่าน่าตาบุคคลิกตัวเองดูดีอยู่ แต่คุณการที่ถูกสาวจู่โจมก่อนเนี๊ยก็ไม่คุ้นสักเท่าไหร่
ระหว่างที่เธอชวนคุยไปเรื่อยๆ ผมก็คอยสำรวจท่าทีของเธอและรอบๆ ตัวว่ามีพิรุจอะไรให้สงสัยหรือเปล่า เลยได้เห็นว่าเธอรูปร่างน่าตาดีทีเดียว ขาว หมวย รูปร่างกระทัดรัดแบบเด็กวัยรุ่นสมัยใหม่ ดูสะอาดสะอ้านดี ใจเลยคิดว่าเป็นไงเป็นกัน ลองชวนบอกว่าหิวแล้วไปหาอะไรกินกันดีมั๊ย ระหว่างที่หาร้านอาหารผมยังระแวงอยู่บ้างเลยชวนเธอเดินขึ้นลงหาอยู่พักใหญ่ ให้มั่นใจว่าไม่มีใครตาม (ระวังไว้ก่อน)พอมั่นใจสักหน่อยก็พาเธอเข้าร้านอาหาร กินกันสักพักเธอก็เอ่ยขึ้นว่าหนูมีเรื่องอยากรบกวน ขอพี่ช่วยหน่อยจะให้หนูทำอะไรให้ก็ได้...
ผมเลยเปิดเจรจาอย่างตรงไปตรงมา เช็คอายุเธอ เกิน 18 เป็น ok ตกลงราคาที่ 3.5K และผมเลือกสถานที่เองเพราะใจยังระแวงอยู่ ระหว่างที่นั่งกินก็คิดไปว่าจะพาไปไหนดี บอกตรงๆ ใจมันระแวง หลายๆ ตัวอย่างในหนังสือพิมพ์ก็มีให้เห็น ทั้งมอมยา หรือแบล็กเมล์ นึกไปนึกมาเลยตัดสินใจไปคอนโดของเพื่อนแถวแจ้งวัฒนะดีกว่า
ระหว่างทางที่ขึ้นทางด่วนจะได้สังเกตว่ามีใครตามไหม และที่เราเองระแวดระวังง่ายหน่อย ระหว่างทางก็แวะซื้อเสื้อฝนที่ร้าน 7-11 โดยให้เธอเป็นคนลงไปซื้อเอง ผมบอกเธอว่าจอดรถไม่ได้ ผมต้องรอในรถและอยากได้อะไรๆ ไปกินที่คอนโดด้วย (เพื่อสร้างพยานไว้ก่อน) ถึงคอนโด..ก็บอกเธอว่าต้องไปติดต่อออฟฟิตคอนโด หน่อย (สร้างพยานอีกหน่อย) แล้วถึงขึ้นห้อง
ขอข้ามตรงนี้เลยละกัน มันไม่ใช่ไคล์แมกซ์ ตอนกลับผมขอเบอร์โทรเธอไว้ และลงมาส่งเธอด้วยเพื่อให้มั่นใจว่า เธอผ่านบริเวณที่ผมจะมีพยานไว้เป็นของตัวเอง แล้วให้ รปภ เรียกแท็กซี่ให้เธอด้วย โดยผมไม่ลืมที่จะจดทะเบียนแท็กซี่เผื่อไว้
สามวันผ่านไปก็แล้ว ยังเงียบอยู่ ใจก็คิดว่าจะติดต่อเธอกลับไปเพื่อผูกปิ่นโตเลยดีมั๊ย บอกตรงๆ ครับว่าติดใจหน้าตา รูปร่างเธอทั้งภายนอกและภายในร่มผ้า เครื่องเครา ผมให้ 9/10 เลย ดูยังสดมาก พอวันอังคารเท่านั้นละครับคุณเธอก็โทรมาหา (เธอขอเบอร์ผมไว้ด้วยบอกว่าเผื่อคิดถึงจะได้โทรมานัดกันอีก) บอกว่าต้องการเงินสักห้าแสน ไม่งั้นจะแจ้งความ
ผมคิดโดยทันที โดนแล้วกรู ใจก็ทบทวนว่าหลักฐานที่เราสร้างไว้พอแล้วหรือยัง มีคนเห็นว่าเธอเป็นคนซื้อถุงเอง มีคนเห็นว่ามาด้วยกันไม่ได้ขัดขืน กลับก็ปกติไม่ได้กระรุ่งกระริ่งกลับไป แล้วจะมีอะไรอีก ตอนอยู่ในห้องถ้าบอกว่าใช้กำลัง ก็ต้องมีร่องรอย สะบักสะบอมกลับไป แท็กซี่น่าจะเป็นพยานได้
แต่ถ้าบอกว่าใช้ยามันก็น่าจะเกินสี่ชั่วโมง ตั้งแต่มาจนกลับตามฤทธิ์ของยาแต่นี่ตอนมาถึงคอนโดน่ะสี่ทุ่มกว่าแล้ว คุณเธอขอกลับตอนตีสองไม่ถึงครึ่ง
ใจคิดขอบคุณตัวเองที่ไม่ตะกละตะกรามดึงเธอไว้ล้างหน้าไก่ตอนเช้า ตัดสินใจเจรจากับเธอว่าเงินคงไม่ให้ แล้วอย่าไปแจ้งความเสียให้เสียเวลาเลยลองคิดดูดีๆ ว่าวันนั้นผมมีพยานเยอะแยะว่าเธอยินยอมพร้อมใจมากับผมเอง เธอบอกว่าถ้าไม่ให้จะต้องเสียใจ
พอวันพุธคอนโดก็โทรมาหาผมบอกว่ามีตำรวจมาขอพบให้ผมรีบไปหา พอไปถึงก็ถูกแจ้งข้อหาว่าล่อลวงกระทำชำเราคุณเธอ ผมเลยเจรจากับตำรวจถึงพยานต่างๆ ที่ผมสร้างไว้ รวมทั้ง รปภ กับเจ้าหน้าที่คอนโดก็ดีใจหาย หาเทปวงจรปิดของคอนโดมาเป็นหลักฐานเพิ่มให้ผมอีก ทางตำรวจที่มาก็บอกว่าหลักฐานผมอ่อน ให้เจรจากับเจ้าทุกข์ให้ยอมความซะดีกว่าไม่งั้นผมต้องแพ้คดีแน่ๆ
ตัวผมเองก็พอรู้กฎหมายอยู่บ้างก็สงสัยว่า เอ๊ะ.!!อะไรว๊ะ หลักฐานพยานขนาดนี้ยังไม่พอ แล้วอะไรจะพอว๊ะ ผมพอรู้จักตำรวจผู้ใหญ่ในสน.แถวนั้นอยู่บ้าง เลยโทรไปขอคำแนะนำและขอความช่วยเหลือจากท่าน สักพักท่านก็มาช่วย เลยได้รู้ว่าตำรวจที่แจ้งข้อหาผมมาจากสน.อื่น ไม่ใช่สน.พื้นที่ ท่านฟังพยานต่างๆ ของเรารวมทั้งดูเทปวงจรปิดของคอนโด รวมถึงของร้าน 7-11 ที่วันนั้นผมไปแวะซื้อของ ซึ่งท่านส่งคนไปขอเทปมาประกอบคำให้การ ท่านเลยฟันธงว่าถ้าทางฝ่ายคุณเธอจะเอาความก็คงได้ แต่ต้องไปแจ้งความที่สน.พื้นที่ แต่ท่านว่าไม่ควรเพราะหลักฐานทางผมมีพร้อม แจ้งความไปก็รังแต่จะทำให้ตัวเองเสียชื่อ
ชั่วโมงนี้คุณตำรวจเ-งซ-ยที่มากับนางตัวดีก็ยอมอ่อนให้ และบอกนางตัวดีว่าพอเถอะ แจ้งความไปก็คงไม่เกิดประโยชน์ ตอนกลับถึงได้เห็นว่ามันมาด้วยกัน
วันนี้ผมนั่งคิดทบทวนแล้ว คงต้องขอขอบคุณหลายๆ ท่านที่ให้คำเตือนหรือลงเรื่องตัวอย่างต่างๆ เอาไว้มันทำให้ผมระแวดระวังและรอบคอบมากขึ้นจนไม่เสียท่าในวันนั้น ผมหวังว่าเรื่องของผมคงเป็นประโยชน์สำหรับคนอื่นบ้าง...รอบคอบเข้าไว้ อย่าให้หัวล่างสั่งหัวบน จนขาดสติที่จะไตร่ตรองสิ่งต่างๆ อย่างรอบคอบ..
ก็ระวัง ๆ กันเอาไว้บ้างก็ดีนะครับ เพื่อน ๆ ผู้ชายทั้งหลาย.
|
iss u.Don"t be sure that the world is wide until you check it out by your self.
|
|
|
Pete15
|
|
« ตอบ #1022 เมื่อ: 23 มีนาคม 2555, 22:09:38 » |
|
แล้วเรื่องแบบๆๆๆๆนี้........ของผู้หญิงมีไหม?..... อยากรู้ บ้าง ? ติดอ่าง เลย เรา
|
|
|
|
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์
กระทู้: 9,865
|
|
« ตอบ #1023 เมื่อ: 19 มิถุนายน 2555, 22:15:16 » |
|
แนวรบด้านตะวันตก เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง
ในโลกของสงครามมีแต่ความไร้สาระ ผู้คนมากมายต้องมาห้ำหั่นฆ่าฟันกันโดยที่ไม่ได้เคืองแค้นหรือรู้จักกันมาก่อนด้วยซ้ำ คำถามง่ายๆ ที่ว่า รบกันไปเพื่ออะไร ไม่เคยได้รับคำตอบไม่ว่าจะเป็นเมื่ออดีตหรือในปัจจุบันก็ตาม “…ข้าพเจ้ายังหนุ่ม อายุเพียงยี่สิบปี แต่กระนั้นข้าพเจ้าไม่รู้จักชีวิตอย่างอื่นเลย นอกจากความเศร้า ความตาย ความกลัว และเครื่องประดับที่ใช้โรยหน้าอบายแห่งความทุกข์ ข้าพเจ้าเห็นแล้วว่าคนเราได้ถูกยุให้เกลียดกันเองอย่างไร และโดยเงียบๆ โดยความเขลา โดยความบ้า โดยคำสั่ง ตามคำสั่ง และอย่างไม่เดียงสา ฆ่ากันเอง ทำลายกันเอง…” ส่วนหนึ่งจากห้วงคำนึงของ พลทหาร เพาล์ บอยเมอร์ เด็กหนุ่มที่ร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 วัยหนุ่มที่สดใสถูกทำลายลงวัยสงคราม เพาล์ สมัครเข้าเป็นทหารอย่างไม่ใคร่เต็มใจนัก เช่นเดียวกับเด็กหนุ่มอีกหลายคน เยอรมันในขณะนั้นกำลังเข้าสู่สงครามครั้งใหญ่ ชายฉกรรจ์ทั่วประเทศถูกเกณฑ์เข้าเป็นทหาร ไม่เว้นเด็กที่เพิ่งจบเพียงชั้นมัธยมอย่างพวกเขา
แนวรบด้านตะวันตก เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง (All Quiet on the Western Front) เป็นผลงานชิ้นเอกของ เอริช มาเรีย เรอมาร์ค (Erich Maria Remarque) เป็นนามปากกาของ เอริช เพาล์ เรอมาร์ค (Erich Paul Remarque) นักเขียนชาวเยอรมันที่ผ่านสมรภูมิสงครามโลกครั้งที่ ๑ มาแล้ว ซึ่งเขาได้เอาชีวิตจริงมาเขียนเป็นนิยายเรื่องนี้ มันถูกตีพิมพ์ครั้งแรกในปี ๑๙๒๘ ที่เยอรมัน และได้สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากทั้งกลุ่มที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับสงคราม จนกลายเป็นหนังสือขายดี จำหน่ายได้มากกว่า ๑ ล้านเล่มเฉพาะในเยอรมันที่เดียว และถูกแปลเผยแพร่ไปทั่วโลกกว่า ๔๕ ภาษา ฉบับภาษาไทยนั้น ทรงแปลโดย หม่อมเจ้า ขจรจบกิตติคุณ กิติยากร ตีพิมพ์ครั้งแรกปี พ.ศ. ๒๔๗๒
เมื่อหนังสือแนวรบด้านตะวันตกฯ ถูกเผยแพร่ในเยอรมัน มันได้จุดชนวนความขัดแย้งในสังคมเยอรมันถึงเรื่องของสงครามขึ้นมา ทั่วโลกในขณะนั้นไม่มีใครอยากจะรื้อฟื้นถึงสงครามอีก โดยเฉพาะเยอรมันที่เป็นฝ่ายพ่ายสงคราม ประเด็นนี้บอบบางยิ่งนัก จริงอยู่ที่สงครามนั้นโหดร้าย ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ลึกๆ ในใจของชาวเยอรมันที่ไม่อยากรำลึกถึงมันเป็นเพราะอะไร เป็นเพราะความโหดร้ายของมันหรือเป็นเพราะพวกเขาแพ้สงครามกันแน่ เมื่อพรรคนาซีขึ้นมามีอำนาจ หนังสือเล่มนี้ถูกทำลายทิ้งอย่างราบคาบ เพราะคงไม่ดีแน่ถ้าพลเมืองเยอรมันได้รับรู้ถึงความโหดร้ายที่แท้จริงของสงครามผ่านตัวหนังสือของเรอมาร์ค
เรอมาร์ค เปิดเรื่องด้วยถ้อยแถลงที่ดูเหมือนจะบอกว่า เขาไม่ได้โทษหรือตำหนิใครแต่เนื้อเรื่องข้างในนั้น ถึงจะไม่ได้บอกอย่างตรงๆ แต่ผู้อ่านก็สัมผัสได้ถึงความบัดซบของระบบสังคม การเมือง ความงี่เง่าของกลุ่มคนไม่กี่คนที่ก่อให้เกิดหายนะอย่างร้ายกาจนี้ ซึ่งตัวละครต่างๆ ในเรื่องก็เป็นเสมือนตัวแทนของความชั่วช้าเหล่านี้
คันทอเรค ครูที่พร่ำสอนนักเรียนถึงแต่เรื่องรักชาติ อีกทั้งยุยงให้นักเรียนสมัครเป็นทหาร ใครที่ปฏิเสธก็จะถูกเหน็บแนมถูกเย้ยหยันว่าขลาดเขลา ไม่รักชาติ หรือครูฝึกทหารใหม่ สิบโทฮิมเมิลสโตสส์ ที่ชอบแกล้งฝึกทหารใหม่และวางก้ามองอาจเสียเต็มประดา แต่พอไปถึงแนวหน้ากลับซุกตัวสั่นอยู่ในโพรงอย่างกลัวตาย หรือพวกแพทย์ทหารที่คอยจ้องจะตัดแขนตัดขาพวกทหารที่บาดเจ็บร่ำไป เพราะนั่นคือการรักษาที่รวดเร็วที่สุด
แนวรบด้านตะวันตกฯ ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ ในปี ค.ศ. ๑๙๓๐ ผลงานการกำกับของ ลิวอิส ไมล์สโตน (Lewis Milestone)ได้รับรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและผู้กำกับยอดเยี่ยม เป็นหนึ่งในภาพยนตร์สงครามเรื่องเยี่ยมของโลก ตัวภาพยนตร์นำเสนอเรื่องราวในนิยายได้อย่างครบถ้วนและมีชั้นเชิง ตัดสลับกันระหว่างเหตุการณ์ในสงครามและเรื่องราวก่อนที่เด็กหนุ่มเหล่านี้จะเดินหน้าเข้าสู่สมรภูมิได้อย่างไหลลื่น แม้จะไม่มีฉากโหดๆ เหมือนหนังสงครามในยุคนี้ แต่มันก็สะท้อนความไม่ดีร้ายของสงครามผ่านเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างมีพลัง
ฉากเด็ดตอนหนึ่งที่แสนเศร้าคือตอนที่ เพาล์ แทงทหารฝรั่งเศสนายหนึ่ง แต่ทั้งคู่ก็ต้องติดอยู่ในสนามเพลาะ เพาล์ ต้องผจญกับความสับสนในตัวเอง เขาเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับความถูกต้องของสงครามขณะที่จ้องมองร่างไร้วิญญาณของอีกฝ่าย
“…เพื่อนเอ๋ย กันไม่อยากจะฆ่าแกเลยทีเดียว ถ้าแกกระโดดลงมาในหลุมนี้อีกสักครั้ง กันจะไม่ทำอะไรแกเลย … ขอโทษเถอะเพื่อนเอ๋ย เราทุกคนมองเห็นความจริงเอาเมื่อสายเสียแล้ว ทำไมเขาไม่บอกเราเสียก่อนนะว่าก็เป็นมนุษย์ที่น่าสงสารอย่างเดียวกับเรา และมารดาของแกก็มีความวิตกทุกข์ร้อนอย่างเดียวกับมารดาของเรา … ขอโทษเถอะเพื่อนเอ๋ย แกจะมาเป็นข้าศึกกับกันได้อย่างไร ถ้าเราต่างทิ้งปืนเสีย ทิ้งเครื่องแบบเสีย แกก็อาจมาเป็นพี่น้องของกันได้ …” เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการนำภาพยนตร์เรื่องนี้ออกวางจำหน่ายอีกครั้งในรูปแบบ VCD และ DVD สามารถหาซื้อมาชมได้และขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งว่าหากมีโอกาส ขอให้ลองหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านสักครั้ง
|
iss u.Don"t be sure that the world is wide until you check it out by your self.
|
|
|
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์
กระทู้: 9,865
|
|
« ตอบ #1024 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2555, 21:46:46 » |
|
25 คำคมชีวิตสะกิดใจจากทั่วโลก > > > > > เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม > ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก pinterest.com > > ในชีวิตของคนเรา > ล้วนได้เจอกับเหตุการณ์และมีประสบการณ์ชีวิตที่แตกต่างกันออกไป > การเรียนรู้ความจริงของชีวิตทุก ๆ อย่างที่มีด้วยตัวเองทั้งหมด > จึงดูเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้และยากเย็นเกินกว่าหนึ่งชีวิตจะทำได้ > การแลกเปลี่ยนความคิดด้วยการถ่ายทอดผ่านถ้อยคำที่สะกิดใจ > จึงเป็นการเรียนรู้ความจริงของชีวิตได้อีกทางหนึ่ง วันนี้ > กระปุกดอทคอมก็เลยขอรวบรวมคำคมสะกิดใจจากคนดังหลาย ๆ คนมาฝากกันอีกครั้ง > เพื่อกระตุ้นความคิดและสร้างกำลังใจให้ใครหลาย ๆ คนค่ะ > ว่าแล้วก็ไปดูกันว่าถ้อยคำสวย ๆ ที่เลือกมาฝากกันวันนี้มีอะไรบ้าง > > > > > > > > Life is too short to spend time with people who suck the > hapiness out of you. > > ชีวิตคนเราสั้นเกินกว่าที่จะเสียเวลาให้กับคนที่พรากความสุขไปจากเรา > > > > > > Sometimes we need to forget some people from our past, > because of one simple reason; they just don't belong in our future. > > > บางครั้งคนเราก็ต้องลบลืมคนบางคนในอดีต เพราะเหตุผลง่าย ๆ > เหตุผลเดียว นั่นคือ.. ใครคนนั้นจะได้ไม่อยู่ในอนาคตของเรา > > > > > > > Being single doesn't mean you're weak; it means you're > strong enough to wait for what you deserve. > > > การเป็นโสดไม่ได้หมายความว่าคุณอ่อนแอ > แต่มันหมายความว่าคุณเข้มแข็งพอที่จะรอในสิ่งที่คุณคู่ควรต่างหาก > > > > > > > Consider how hard it is to change yourself and you'll > understand what little chance you have in trying to change others. > > ลองคิดดูว่ามันยากแค่ไหนที่จะเปลี่ยนตัวเราเอง > แล้วคุณจะรู้ว่ามันมีโอกาสน้อยแค่ไหนที่จะเปลี่ยนคนอื่น > > > > > > > Difference between school and life? In school you > are taught a lesson and then given a test. In life, you are > given a test that teaches you a lesson. > > > > ชีวิตวัยเรียนและชีวิตจริงแตกต่างกันตรงที่.. > ชีวิตวัยเรียน เราได้รับการสอนบทเรียนก่อนทำแบบทดสอบ > แต่ในชีวิตจริงนั้น เราจะได้ทำแบบทดสอบที่จะสอนบทเรียนให้กับเรา > > > > > > > The world will not be destroyed by those who will do > evil,But by those who watch them without doing anything. > > > โลกใบนี้จะไม่พินาศด้วยน้ำมือของคนชั่ว > แต่มันจะพังพินาศด้วยน้ำมือของคนที่ได้แต่มอง > แต่ไม่คิดจะทำอะไรเลยต่างหาก > > > > > > > > The happiest people don't have the best of everything, they > just make the best of everything. > > > คนที่มีความสุขที่สุด ไม่ใช่คนที่ "มี" > ทุกอย่างในชีวิตดีที่สุด แต่คือคนที่สามารถ "ทำ" > ทุกอย่างในชีวิตให้ดีที่สุด > > > > > > > > If you don't like something, change it. If you can't change > it, change the way you think about it. > > > ถ้าคุณไม่ชอบอะไร ขอให้เปลี่ยนมัน > ถ้าคุณเปลี่ยนมันไม่ได้ ขอให้เปลี่ยนทัศนคติของคุณเอง > > > > > > > > You have the choice to create the life your heart is yearning to live. > > > คุณเลือกได้ที่จะมีชีวิตอย่างที่หัวใจต้องการ > > > > > > > > Never get tired of doing little things for others. Sometimes > those little things occupy the biggest part of their hearts. > > > อย่าเบื่อหน่ายกับการทำสิ่งเล็ก ๆ เพื่อคนอื่น > เพราะบางครั้งสิ่งเล็ก ๆ นั้น > อาจกลายเป็นสิ่งยิ่งใหญ่ในหัวใจของคนเหล่านั้น > > > > > > > > Be who you are and say what you feel because those who mind > don't matter and those who matter don't mind. > > > เป็นในสิ่งที่คุณเป็น และพูดในสิ่งที่คุณรู้สึก > เพราะคนที่สำคัญกับชีวิตคุณจะไม่ใส่ใจมัน > ส่วนคนที่ใส่ใจมันคือคนที่ไม่สำคัญกับชีวิตคุณ > > > > > > Tell me and I forget. Teach me and I remember. Involve me and I learn. > บอกฉัน ฉันจะลืม สอนฉัน ฉันจะจำ แต่ถ้าให้ฉันได้ทำ ฉันจะเรียนรู้ > > > > > > > God often removes a person from your life for your > protection. Think before running after them. > > > พระเจ้ามักจะพรากคนออกจากชีวิตเพื่อปกป้องคุณ > จงคิดก่อนที่จะวิ่งตามพวกเขา > > > > > > Rudeness is weak person's imitation of strength. > > > ความหยาบคาย คือ การพยายามทำเป็นเข้มแข็งที่คนอ่อนแอมักจะทำ > > > > > > > > Nothing is permanent in this wicked world, not even our troubles. > > > ไม่มีอะไรที่คงทนถาวรเลยสักอย่างในโลกที่โหดร้าย > แม้กระทั่งความทุกข์ของชีวิต > > > > > > > > Some people come in your life as blessings, others come in > your life as lessons. > > > มีแค่คนไม่กี่คนเท่านั้นที่เข้ามาในชีวิตคุณเหมือนเป็นพรจากสวรรค์ > ส่วนคนอื่น ๆ นั้น เข้ามาเพื่อให้บทเรียน > > > > > > > > Keep your thoughts positive because your thoughts become your words. > Keep your words positive because your words become your behavior. > Keep your behavior positive because your behavior becomes > your habits. Keep your habits positive because your habits > become your values. > Keep your values positive because your values become your destiny. > > > จงระวังความคิด เพราะความคิดจะกลายเป็นคำพูด > จงระวังคำพูด เพราะคำพูดจะกลายเป็นการกระทำ จงระวังการกระทำ > เพราะการกระทำจะกลายเป็นนิสัย จงระวังนิสัย > เพราะนิสัยจะกลายเป็นบุคลิก จงระวังบุคลิก > เพราะบุคลิกจะกลายเป็นชะตากรรม > > > > > > > Have nothing in your house that you do not know to be > useful, or believe to be beautiful. > > อย่าได้ครองของใช้ที่ไม่มีประโยชน์ และไม่สวย > > > > > > > > Feelings are much like waves, we can't stop them from coming > but we can choose which one to surf. > > > ความรู้สึกคนเรามันเหมือนคลื่น เราไม่อาจหยุดมันไม่ให้ซัดมาได้ > แต่เราสามารถเลือกวิธีที่จะโต้คลื่นได้ > > > > > > > > > May the sun brings you new energy by day. > May the moon softly restore you by night. > May the rain wash away your worries. > May the breeze blow new strength into your being > May you walk gently through the world and know its beauty > all the days of your life. > > ขอให้ดวงอาทิตย์ ทำให้คุณมีพลังในตอนกลางวัน > ขอให้ดวงจันทร์ ทำให้คุณได้ฟื้นฟูร่างกายในตอนกลางคืน > ขอให้สายฝน ชะล้างความกังวลที่มีออกไปหมด ขอให้สายลม > ช่วยพัดพาความเข้มแข็งมาสู่ชีวิต และขอให้คุณค่อย ๆ > ย่างก้าวไปบนโลก แล้วรับรู้ถึงความสวยงามของชีวิตในทุก ๆ วัน > > > > > > > > > It is easier to build strong children than to repair broken men. > > > การสร้างเด็กที่เข้มแข็งสักคน > ง่ายกว่าการทำให้ผู้ชายสิ้นหวังกลับมาเข้มแข็งได้ดังเดิม > > > > > > > > Don't marry a man unless you would be proud to have a son > exactly like him > > > อย่าแต่งงานกับผู้ชายคนไหน > จนกว่าจะแน่ใจว่าคุณจะรู้สึกภูมิใจถ้าวันหนึ่งมีลูกชายเป็นเหมือนเขา > > > > > > > > Love me when I least deserve it, because that's when I really need it > > > ได้โปรดรักฉันเมื่อฉันควรค่ากับความรัก เพราะเวลานั้น > คือเวลาที่ฉันต้องการมันอย่างแท้จริง > > > > > > > > Wisdom is nothing more than healed pain. > > > ความฉลาดไม่ได้มีความหมายอะไรมากไปกว่าความเจ็บปวดที่ได้รับการเยียวยาแล้ว > > > > > > For one minute please, > stand here in silence and look at the sky, > and contemplate how awesome life is. > > > ขอเวลา 1 นาที ยืนตรงนี้เงียบ ๆ แล้วมองไปบนฟ้า > ลองคิดดูสิว่า ชีวิตมันวิเศษแค่ไหน > > และนี่ก็คือคำคมชีวิตดี ๆ ทั้งหมดที่เรานำมาฝากให้นำไปขบคิดกัน > และเผลอ ๆ มันอาจจะยึดเป็นคติประจำใจของใครหลาย ๆ คนได้ด้วย > ว่าแต่คุณล่ะคะ มีคำคมชีวิตโดนใจเด็ด ๆ > อะไรที่ประทับอยู่ในใจแบบที่ไม่เคยลืมบ้างหรือเปล่า ลองเอามาแชร์
|
iss u.Don"t be sure that the world is wide until you check it out by your self.
|
|
|
|