21 พฤษภาคม 2567, 01:22:38
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 57 58 [59] 60 61 ... 156   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: สื่อสาส์น สานไมตรี ซีมะโด่ง 2516  (อ่าน 1058427 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1450 เมื่อ: 26 เมษายน 2553, 22:12:23 »

ขออัญเชิญพระราชดำรัส ที่พระราชทานแด่ผู้พิพากษาใหม่ในวันนี้มาลงให้ทราบกันครับ (ข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์)



ในหลวงทรงแนะศาลทำหน้าที่สุจริตเคร่งครัด-รักษาความเรียบร้อยของประเทศ
26 เมษายน 2553 20:33 น.

       พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสต่อคณะผู้พิพากษาประจำศาลยุติธรรมที่เฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ทรงให้ยึดถือความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อรักษาเอาไว้ ซึ่งความเรียบร้อยของประเทศ พร้อมให้เป็นตัวอย่างของผู้ที่ปฏิบัติตามหน้าที่ของตนโดยสุจริตและเคร่งครัด 
     
       เวลา 17.27 น.วันนี้ (26 เม.ย.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯออก ณ ห้องประชุมชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติโรงพยาบาลศิริราช พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายสบโชค สุขารมณ์ ประธานศาลฎีกา นำคณะผู้พิพากษา ประจำศาล สำนักงานศาลยุติธรรม เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณ ก่อนเข้ารับหน้าที่ ในโอกาสนี้ นายวิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม นายไพโรจน์ นวานุช ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ ประจำสำนักประธานศาลฎีกา นายวรวุฒิ ทวาทศิน เลขาธิการประธานศาลฎีกา และนายสราวุธ เบญจกุล รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย
       
       ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน โดยให้ยึดถือความซื่อสัตย์ สุจริตโดยเคร่งครัด
       
       “ตามที่ผู้พิพากษาศาลฎีกาได้มาปฏิญาณตน ในโอกาสนี้ เป็นโอกาสที่สำคัญ เพราะเป็นการแสดงว่า จะปฏิบัติหน้าที่ มีความตั้งใจจริงๆ และการปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิพากษา เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับชีวิตของประชาชน ซึ่งท่านทั้งหลายจะได้ช่วยกันพยุงความยุติธรรม ความเรียบร้อยของประเทศ อันนี้ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ถ้าท่านทำตามที่ปฏิญาณตนด้วยเคร่งครัด จะช่วยให้ประเทศชาติมีความเรียบร้อยได้อย่างแน่นอน การที่ประเทศนี้ ผู้ที่ตั้งใจทำหน้าที่อย่างเคร่งครัดเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะว่านอกจากความเรียบร้อยที่จะเกิดขึ้น เป็นการแสดงว่า มีเจ้าหน้าที่ในประเทศที่ตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่า จะปฏิบัติหน้าที่อย่างแน่นอนอย่างชัดเจน และตั้งใจที่จะรักษาเอาไว้ซึ่งความเรียบร้อยของประเทศ ทำให้ประชาชนทั่วไปมีความตั้งใจในตัว ที่จะปฏิบัติงานของตนอย่างซื่อสัตย์สุจริตเหมือนกัน เชื่อว่าการที่ท่านแสดงเป็นตัวอย่างที่ดีของผู้พิพากษา จะทำให้เป็นความตั้งใจของประชาชนทั่วไป ที่จะตั้งใจทำงานทำการอย่างเคร่งครัด อย่างสุจริต ฉะนั้นการที่ท่านมารับหน้าที่เป็นการที่ดีที่จะช่วยประเทศชาติปฏิบัติตนคนในชาติ ปฏิบัติตนให้มีความเคร่งครัด ความสุจริต
       
       ในประเทศอาจจะมีคนที่ลืมหน้าที่ของตนได้ ท่านแสดงเป็นตัวอย่างว่ามีผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด อย่างสุจริต ฉะนั้น ท่านมีหน้าที่ที่สำคัญมาก ยิ่งได้ปฏิญาณตนว่า จะรักษาความยุติธรรมโดยเคร่งครัดนี้ จะช่วยให้ประชาชนทั่วไปปฏิบัติงานของตนด้วยความเรียบร้อย ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตได้อย่างมากที่สุด เป็นผู้สุจริต เป็นสิ่งที่ไม่ใช่ง่าย เพราะว่าในชีวิตมีสิ่งที่ล่อใจมาก ฉะนั้นท่านได้ปฏิญาณตนนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ ทำให้ท่านเตือนใจอยู่ตลอดว่า ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งถ้าหากมีบุคคลที่ปฏิบัติดี ชอบ ด้วยความแน่วแน่น ด้วยความตั้งใจ เป็นสิ่งที่ช่วยให้คนอื่นปฏิบัติตนให้ดี
       
       ฉะนั้นสำคัญมากที่ท่านได้มาปฏิญาณตนว่าจะทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เข้มแข็ง ถ้ารักษาความซื่อสัตย์สุจริตนี้ไว้ตลอดเวลาที่ท่านปฏิบัติหน้าที่ ตลอดชีวิต แสดงว่ามีคนที่อุ้มชูความเรียบร้อยของประเทศจำนวนหนึ่ง ก็ขอให้ท่านได้สามารถรักษาความตั้งใจของหน้าที่ตามที่ได้มีปฏิญาณตลอดเวลา เป็นตัวอย่างสำหรับคนทั่วประเทศ ให้มีกำลังใจที่จะปฏิบัติงานอย่างซื่อสัตย์สุจริต อย่างที่ท่านได้ปฏิญาณ ขอให้ท่านรักษาความซื่อสัตย์สุจริตอย่างที่ท่านได้กล่าวมาเมื่อครู่นี้ เป็นทางที่จะช่วยให้บ้านเมืองมีความเจริญมั่นคงแน่นอน และในคราวเดียวกัน ท่านเองจะได้ถือว่าเป็นตัวอย่างสำหรับประชาชนทั่วไป ทั้งผู้ที่เป็นข้าราชการ ทั้งผู้ที่ทำหน้าที่ต่างๆ จะช่วยกันอุ้มชูประเทศชาติให้ได้อยู่เย็น มีความผาสุก มีความเข้มแข็งในการงาน และทำให้งานการนั้นมีความสำเร็จ เรียบร้อย ทำให้ทุกคนมีความสุขได้
       
       ขอให้ท่านรักษาคำปฏิญาณโดยเข้มแข็ง เชื่อว่า ท่านจะมีความสุขในการปฏิบัติหน้าที่ที่ดี ขอให้ท่านได้ปฏิบัติหน้าที่ได้ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างที่ท่านได้กล่าว ให้เป็นสิ่งที่ท่านมีส่วนในการสร้างบ้านเมืองให้ดี และเวลาเดียวกันท่านก็สร้างตัวท่านเองให้เป็นคนที่ดี คนที่มีความสำเร็จ ขอให้ท่านปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเรียบร้อยตลอดชีวิตของท่าน และขอให้ท่านมีความสำเร็จในงานการ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่สูงสุด ณ ในการปฏิบัติงานของคนที่เป็นคนสำคัญในชาติ คือ ผู้พิพากษา ขอให้ท่านมีความสำเร็จในการงาน มีความ ในเวลาเดียวกัน ท่านก็จะมีความสุขที่ได้ทำงานอย่างครบถ้วน ขอให้ท่านมีสำเร็จ มีความสำเร็จในงานการดังกล่าว”

 
 
 
พิมพ์จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000057458
 

      บันทึกการเข้า
Janchai
มือใหม่หัดเมาท์
*


It is lovely to be called "Mom".
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 242

« ตอบ #1451 เมื่อ: 26 เมษายน 2553, 23:07:20 »

อ้างถึง
ข้อความของ iamfrommoon เมื่อ 26 เมษายน 2553, 14:49:23
สวัสดีค่ะพี่ๆ 16

น้องต้องขอโทษด้วยที่่ห่างหายไปนานนนนนนนนนมาก.....แต่ยังคิดถึงพี่ๆ ทุกคนเสมอนะคะ ตอนแรกกะไปงานรดน้ำขอพรแล้ว แต่เจอเหตุการณ์และได้โทรเช็คกับพี่เสียดแล้ว อดกันถ้วนหน้าค่ะ


ต้อนรับน้องปุ๊กกี้กลับมานะคะ
หายไป กลับมาก็ยังสวยสดชื่นเหมือนเดิมเลย
พี่เข้าไปคุยกับปุ๊กกี้มาในห้องอาหารแล้วด้วย
      บันทึกการเข้า

ติ๋ม จันทร์ฉาย
Janchai
มือใหม่หัดเมาท์
*


It is lovely to be called "Mom".
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 242

« ตอบ #1452 เมื่อ: 26 เมษายน 2553, 23:09:34 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 26 เมษายน 2553, 22:12:23
ขออัญเชิญพระราชดำรัส ที่พระราชทานแด่ผู้พิพากษาใหม่ในวันนี้มาลงให้ทราบกันครับ (ข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์)




ในหลวงทรงแนะศาลทำหน้าที่สุจริตเคร่งครัด-รักษาความเรียบร้อยของประเทศ
26 เมษายน 2553 20:33 น.

       พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสต่อคณะผู้พิพากษาประจำศาลยุติธรรมที่เฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ทรงให้ยึดถือความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อรักษาเอาไว้ ซึ่งความเรียบร้อยของประเทศ พร้อมให้เป็นตัวอย่างของผู้ที่ปฏิบัติตามหน้าที่ของตนโดยสุจริตและเคร่งครัด  
    
       เวลา 17.27 น.วันนี้ (26 เม.ย.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯออก ณ ห้องประชุมชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติโรงพยาบาลศิริราช พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายสบโชค สุขารมณ์ ประธานศาลฎีกา นำคณะผู้พิพากษา ประจำศาล สำนักงานศาลยุติธรรม เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณ ก่อนเข้ารับหน้าที่ ในโอกาสนี้ นายวิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม นายไพโรจน์ นวานุช ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ ประจำสำนักประธานศาลฎีกา นายวรวุฒิ ทวาทศิน เลขาธิการประธานศาลฎีกา และนายสราวุธ เบญจกุล รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย
      
       ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน โดยให้ยึดถือความซื่อสัตย์ สุจริตโดยเคร่งครัด
      
       “ตามที่ผู้พิพากษาศาลฎีกาได้มาปฏิญาณตน ในโอกาสนี้ เป็นโอกาสที่สำคัญ เพราะเป็นการแสดงว่า จะปฏิบัติหน้าที่ มีความตั้งใจจริงๆ และการปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิพากษา เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับชีวิตของประชาชน ซึ่งท่านทั้งหลายจะได้ช่วยกันพยุงความยุติธรรม ความเรียบร้อยของประเทศ อันนี้ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ถ้าท่านทำตามที่ปฏิญาณตนด้วยเคร่งครัด จะช่วยให้ประเทศชาติมีความเรียบร้อยได้อย่างแน่นอน การที่ประเทศนี้ ผู้ที่ตั้งใจทำหน้าที่อย่างเคร่งครัดเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะว่านอกจากความเรียบร้อยที่จะเกิดขึ้น เป็นการแสดงว่า มีเจ้าหน้าที่ในประเทศที่ตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่า จะปฏิบัติหน้าที่อย่างแน่นอนอย่างชัดเจน และตั้งใจที่จะรักษาเอาไว้ซึ่งความเรียบร้อยของประเทศ ทำให้ประชาชนทั่วไปมีความตั้งใจในตัว ที่จะปฏิบัติงานของตนอย่างซื่อสัตย์สุจริตเหมือนกัน เชื่อว่าการที่ท่านแสดงเป็นตัวอย่างที่ดีของผู้พิพากษา จะทำให้เป็นความตั้งใจของประชาชนทั่วไป ที่จะตั้งใจทำงานทำการอย่างเคร่งครัด อย่างสุจริต ฉะนั้นการที่ท่านมารับหน้าที่เป็นการที่ดีที่จะช่วยประเทศชาติปฏิบัติตนคนในชาติ ปฏิบัติตนให้มีความเคร่งครัด ความสุจริต
      
       ในประเทศอาจจะมีคนที่ลืมหน้าที่ของตนได้ ท่านแสดงเป็นตัวอย่างว่ามีผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด อย่างสุจริต ฉะนั้น ท่านมีหน้าที่ที่สำคัญมาก ยิ่งได้ปฏิญาณตนว่า จะรักษาความยุติธรรมโดยเคร่งครัดนี้ จะช่วยให้ประชาชนทั่วไปปฏิบัติงานของตนด้วยความเรียบร้อย ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตได้อย่างมากที่สุด เป็นผู้สุจริต เป็นสิ่งที่ไม่ใช่ง่าย เพราะว่าในชีวิตมีสิ่งที่ล่อใจมาก ฉะนั้นท่านได้ปฏิญาณตนนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ ทำให้ท่านเตือนใจอยู่ตลอดว่า ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งถ้าหากมีบุคคลที่ปฏิบัติดี ชอบ ด้วยความแน่วแน่น ด้วยความตั้งใจ เป็นสิ่งที่ช่วยให้คนอื่นปฏิบัติตนให้ดี
      
       ฉะนั้นสำคัญมากที่ท่านได้มาปฏิญาณตนว่าจะทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เข้มแข็ง ถ้ารักษาความซื่อสัตย์สุจริตนี้ไว้ตลอดเวลาที่ท่านปฏิบัติหน้าที่ ตลอดชีวิต แสดงว่ามีคนที่อุ้มชูความเรียบร้อยของประเทศจำนวนหนึ่ง ก็ขอให้ท่านได้สามารถรักษาความตั้งใจของหน้าที่ตามที่ได้มีปฏิญาณตลอดเวลา เป็นตัวอย่างสำหรับคนทั่วประเทศ ให้มีกำลังใจที่จะปฏิบัติงานอย่างซื่อสัตย์สุจริต อย่างที่ท่านได้ปฏิญาณ ขอให้ท่านรักษาความซื่อสัตย์สุจริตอย่างที่ท่านได้กล่าวมาเมื่อครู่นี้ เป็นทางที่จะช่วยให้บ้านเมืองมีความเจริญมั่นคงแน่นอน และในคราวเดียวกัน ท่านเองจะได้ถือว่าเป็นตัวอย่างสำหรับประชาชนทั่วไป ทั้งผู้ที่เป็นข้าราชการ ทั้งผู้ที่ทำหน้าที่ต่างๆ จะช่วยกันอุ้มชูประเทศชาติให้ได้อยู่เย็น มีความผาสุก มีความเข้มแข็งในการงาน และทำให้งานการนั้นมีความสำเร็จ เรียบร้อย ทำให้ทุกคนมีความสุขได้
      
       ขอให้ท่านรักษาคำปฏิญาณโดยเข้มแข็ง เชื่อว่า ท่านจะมีความสุขในการปฏิบัติหน้าที่ที่ดี ขอให้ท่านได้ปฏิบัติหน้าที่ได้ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างที่ท่านได้กล่าว ให้เป็นสิ่งที่ท่านมีส่วนในการสร้างบ้านเมืองให้ดี และเวลาเดียวกันท่านก็สร้างตัวท่านเองให้เป็นคนที่ดี คนที่มีความสำเร็จ ขอให้ท่านปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเรียบร้อยตลอดชีวิตของท่าน และขอให้ท่านมีความสำเร็จในงานการ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่สูงสุด ณ ในการปฏิบัติงานของคนที่เป็นคนสำคัญในชาติ คือ ผู้พิพากษา ขอให้ท่านมีความสำเร็จในการงาน มีความ ในเวลาเดียวกัน ท่านก็จะมีความสุขที่ได้ทำงานอย่างครบถ้วน ขอให้ท่านมีสำเร็จ มีความสำเร็จในงานการดังกล่าว”

 
 
 
พิมพ์จาก http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrView.asp?NewsID=9530000057458
 



ขอบคุณครับ
      บันทึกการเข้า

ติ๋ม จันทร์ฉาย
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1453 เมื่อ: 27 เมษายน 2553, 11:38:09 »

ขออนุญาตเปลี่ยนชื่อห้องตามสถานการณ์เป็น "@ การชุมนุมที่แนกราชประสงค์"
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1454 เมื่อ: 28 เมษายน 2553, 09:07:50 »

                                            

วันนี้เมื่อ 60 ปีที่แล้วเป็นวันบรมราชาภิเษกสมรส

ขอนำเสนอเรื่องราวดีๆ สำหรับเช้านี้ 

6 ทศวรรษ...พระคู่ขวัญแห่งแผ่นดิน
28 เมษายน 2553 06:41 น.

 
       นับจากวันที่ 28 เม.ย.2493 จวบจนวันนี้ ยาวนานมาถึง 60 ปีแล้ว ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงครองคู่พระบารมี สถิตย์เป็นพระมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย
       
       เรื่องราวความรักของทั้งสองพระองค์ เป็นที่ทราบดีของปวงชนชาวไทย รวมไปถึงผู้ที่ได้มีโอกาสรับทราบเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสของทั้งสองพระองค์มาจนถึงทุกวันนี้
       
       ย้อนกลับไปในวันมหาประชาปีติเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2493 วันนั้นท้องฟ้าแจ่มใสเหมือนจะประกาศก้องให้คนไทยทั้งแผ่นดิน ได้ร่วมชื่นชมในความรักของพระมิ่งขวัญทั้ง 2 พระองค์
       
       ในช่วงเช้าเมื่อได้เวลาพระฤกษ์เวลา 09.30 น.พระราชพิธีราชาภิเษกสมรสได้เริ่มขึ้น ณ พระตำหนักของสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ในวังสระปทุม เริ่มจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ทูลเกล้าฯ ถวายสมุดทะเบียนสมรส
       
       พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงลงพระปรมาภิไธย จากนั้นพระคู่หมั้น หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ลงนามในสมุดทะเบียนสมรส โดยมี สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร พระราชปิตุลา และ จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี ลงพระนามและลงนามเป็นราชสักขีพยาน พระราชพิธีราชาภิเษกสมรสในครั้งนั้น นับว่าเป็นครั้งแรกที่พระมหากษัตริย์ไทยในยุคประชาธิปไตย ได้ทรงจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เช่นเดียวกับประชาชนชาวไทยทั่วไป
       
       จากนั้นทั้ง 2 พระองค์ทรงเข้าเฝ้าสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เพื่อทรงประกอบพระราชพิธีตามโบราณราชประเพณี จากนั้นทรงให้พระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการลงนามถวายพระพรเฉพาะพระพักตร์ ทรงรับของทูลพระขวัญ แล้วมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานของที่ระลึกตอบแทนเป็นหีบเงินขนาดเล็ก มีตราจักรีคล้องกันอยู่เบื้องกลางระหว่างอักษรพระปรมาภิไธยย่อ ภ.อ.และอักษร พระนามาภิไธยย่อ ส.ก.
       
       ในวันเดียวกัน ทรงสถาปนาหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ พระอัครมเหสี เป็นสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ และเสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณในพระบรมมหาราชวัง ทั้ง 2 พระองค์ประทับคู่กันเหนือพระราชอาสน์ พระราชทานพระราชวโรกาสให้พระบรมวงศานุวงศ์เฝ้าฯ โดย พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนชัยนาทนเรนทร (ต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาเป็น สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร) กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคลแทนพระบรมวงศานุวงศ์ มีความตอนหนึ่งแสดงความปีติโสมนัสในวันราชาภิเษกสมรส ในการที่ทรงเลือกสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์มาเป็นพระอัครมเหสี ความว่า
       
       “...ได้ทรงพิจารณาเลือกสรรประสบผู้ที่สมควรแก่การสนองพระยุคลบาท ร่วมทุกข์ร่วมสุขแบ่งเบาพระภาระในภายหน้า...”
       
       
       ไม่เพียงแต่กล่าวถวายพระพรชัยมงคลในวาระนั้น สมเด็จฯ กรมพระยาชัยนาทนเรนทรยังได้รับฉันทานุมัติจากพระบรมวงศานุวงศ์ ให้กล่าวถวายพระพรชัยมงคลในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2493 อีกด้วย หม่อมราชวงศ์ปรียนันทนา รังสิต สมาชิกวุฒิสภาสรรหา ผู้เป็นพระนัดดา เล่าให้ฟังว่า
       
       
       “เสด็จปู่ (สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร) ทรงเป็นพระราชโอรสที่พระชนมายุยืนที่สุด ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) และในขณะนั้น (พ.ศ 2493) ทรงเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ผู้ใหญ่ฝ่ายหน้า (ฝ่ายชาย) พระองค์เดียวที่เหลืออยู่ ทรงเป็นพระราชปิตุลาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถด้วย ทั้งสองพระองค์ทรงสนิทสนมคุ้นเคยกับท่านมากและทรงเรียกว่า “เสด็จลุง” เสด็จปู่ทรงกำพร้าพระมารดาตั้งแต่ชันษา 11 วัน รัชกาลที่ 5 จึงพระราชทานให้สมเด็จพระพันวัสสาฯ ทรงเลี้ยง เสด็จปู่จึงทรงสนิทสนมกับ พระราชโอรสพระราชธิดาในสมเด็จพระพันวัสสาฯ โดยเฉพาะ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
       
       
       หลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2475 พระราชพิธีต่างๆในพระราชสำนักได้ถูกระงับไปเป็นเวลาเกือบ 20 ปี จนผู้ใหญ่ที่เชี่ยวชาญรู้เรื่องพระราชพิธี ก็ได้ล้มหายตายจากไปตามๆ กัน เมื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเสด็จปู่เป็นประธานผู้สำเร็จราชการฯ และต่อมาเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แต่เพียงองค์เดียว เสด็จปู่จึงค่อยๆ รื้อฟื้นพระราชพิธีต่างๆ ที่ได้หยุดประกอบไป อาทิ พระราชพิธีแรกนาขวัญ พระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกต ตามฤดูกาล เป็นต้น พระราชพิธีบรมราชาภิเษกจึงได้เป็นไปตามโบราณราชประเพณีทุกประการ เพราะเสด็จปู่ได้ทรงค้นคว้า และกำกับขั้นตอนของพระราชพิธีด้วยพระองค์เองอย่างละเอียดยิ่ง”
       
       
       นอกจากนี้ คุณหญิงยังเล่าต่อว่า ภายหลังจากพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ยังได้เสด็จฯ เป็นการส่วนพระองค์ เพื่อเฉลิมฉลองและร่วมเสวยพระกระยาหารค่ำ กับเสด็จในกรมและหม่อมเอลิซาเบธ รังสิต ณ อยุธยา ที่วังวิทยุ (วังของเสด็จในกรม) อย่างสำราญพระราชหฤทัยยิ่ง
       
       
       จากบทบาทของเสด็จปู่องค์ต้นราชสกุลรังสิต ทำให้ หม่อมราชวงศ์ปรียนันทนา ยังคงปลาบปลื้มในเหตุการณ์ครั้งสำคัญเรื่อยมา แม้เกิดไม่ทัน แต่ในฐานะพสกนิกรชาวไทยคนหนึ่ง และเป็นตัวแทนของราชสกุลรังสิต ที่มีความใกล้ชิดผูกพันกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ในวาระ 60 ปี แห่งพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส คุณหญิงขอถวายพระพรให้ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน พระสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์ และขอให้ทรงได้สบายพระราชหฤทัยโดยเร็วที่สุด เพราะว่าในขณะที่บ้านเมืองของเรามีวิกฤตเช่นนี้ คนไทยกำลังทะเลาะเข่นฆ่ากันเอง แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ทำให้ทรงทุกข์พระราชหฤทัยเป็นอย่างยิ่ง
       
       จึงอยากเชิญชวนให้คนไทยทุกคน ร่วมกันสร้างความสงบ สันติสุขให้กลับคืนมาสู่บ้านเมือง เพื่อมอบถวายให้ทั้ง 2 พระองค์ ที่ทรงเป็นร่มโพธิ์ร่มไทร ศูนย์รวมจิตใจคนไทยทั้งชาติ เพราะตลอดระยะเวลา 60 ปี ภายใต้พระบรมโพธิสมภาร ประเทศไทยได้เจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงมาก่อนนี้ เพราะฉะนั้น คนไทยจึงควรตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณ โดยให้ทั้ง 2 พระองค์ได้ทรงสบายพระราชหฤทัยโดยเร็ว
       
       “ไม่มีพระมหากษัตริย์และพระราชินีพระองค์ใดในโลก ที่ทรงงานหนัก ทรงทุ่มเทพระวรกาย เพื่อพสกนิกรมากเท่านี้แล้ว ทรงริเริ่มโครงการเพี่อปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนกว่า 3,000 โครงการ พระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นนักพัฒนา ทรงพัฒนาทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและเพื่อให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนและมีศักดิ์ศรี สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันคู่ชาติไทยมากว่า 800 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงดำรงพระองค์อยู่เหนือการเมือง ทรงวางรากฐานให้แก่การปกครองระบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างดี”
       
       กระทั่งทุกวันนี้ แม้จะมิได้เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมพสกนิกรทั่วทุกภาคเหมือนแต่ก่อน แต่ทั้ง 2 พระองค์ก็ยังคงทรงงานทุกวัน และระหว่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับที่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อรักษาพระอาการประชวร สมเด็จพระนางเจ้าฯ ก็ทรงประทับเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มิได้ห่าง เคียงคู่พระบารมีตราบจนทุกวันนี้
       
       “อันที่จริง ในวันที่ 28 เม.ย.ที่จะถึงนี้ เป็นวันสำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์ ที่คนไทยจะได้ร่วมกันฉลองในวาระ 60 ปีราชาภิเษกสมรส แต่ก็ทำได้ไม่เต็มที่ เพราะอยู่ในช่วงไม่สงบ จึงอยากขอให้ทุกคนร่วมกันนำความสงบ สันติ คืนมาร่วมกัน เพื่อตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย”
 
 
คลิ๊กไปอ่านและชมภาพเพิ่มเติมที่ http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9530000057863
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1455 เมื่อ: 28 เมษายน 2553, 12:25:00 »

ตามด้วยข่าวจากไทยรัฐ "ห้องเหะหะพาที" ของ "ซูม"

ภาพนี้..ไม่มีวันลืม

ผมได้หยิบยกข้อความจากหนังสือ "คือรักแห่งราชัน" มาฝากท่านผู้อ่านไปแล้ว 2 วัน...และวันนี้ซึ่งเป็นวันสำคัญที่สุด เนื่องในวโรกาสครบรอบ 60 ปี แห่งพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส ...จึงขออนุญาตนำเหตุการณ์สำคัญๆมารายงานท่านผู้อ่านอีกวันหนึ่ง เพื่อให้สมบูรณ์ครบถ้วน

จากที่ผมได้สรุปไว้เมื่อวาน จะเห็นได้ว่าในห้วงสัปดาห์นี้ของเมื่อ 60 ปีที่แล้ว เป็นสัปดาห์แห่งความทรงจำของชาวไทยอย่างแท้จริง

เพราะมีเหตุการณ์ใหญ่ทั้ง พระราชพิธีราชาภิเษกสมรส ในวันที่ 28 เมษายน 2493 แล้วต่อด้วย พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2493 อีกเพียง 7 วันถัดมา

พระราชพิธีบรมราชาภิเษก นั้น นับเป็นโบราณราชประเพณีที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติมหากษัตริย์องค์ใหม่ให้ทรงดำรงตำแหน่งพระมหากษัตริย์ที่สมบูรณ์ครบถ้วน

คำนำหน้าพระนามที่ใช้ว่า "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ก็จะเปลี่ยนเป็น "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" รวมทั้งเครื่องราชอิสริยยศบางประการ เช่น พระเศวตฉัตรที่มีเพียง 7 ชั้น ก็จะเป็น 9 ชั้น และคำสั่งของพระองค์ที่แต่เดิมยังไม่เป็นพระบรมราชโองการ ก็จะเป็นพระบรมราชโองการเต็มรูป หลังพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นต้นไป

ด้วยเหตุนี้พระราชพิธีบรมราชาภิเษกเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2493 ซึ่งต่อมาเรียกกันว่า "วันฉัตรมงคล" นั้น จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

หลังจากเสด็จแปรพระราชฐานเพื่อทรงฮันนีมูน (ใช้ตามสำนวนข่าวหนังสือพิมพ์ใน พ.ศ.2493) ณ พระราชวังไกลกังวล หัวหิน เป็นเวลา 5 วัน ทั้ง 2 พระองค์ก็เสด็จฯกลับพระนครโดยรถไฟพระที่นั่ง

ถึงพระนครในวันที่ 3 พฤษภาคม 2493 ได้เสด็จพระราชดำเนินไปยังหอพระธาตุมณเฑียร ในพระบรมมหาราชวัง อันเป็นที่ประดิษฐานพระบรมอัฐิพระบรมราชบุพการี ทรงจุดธูปเทียนสักการะตามพระราชประเพณีแล้วจึงเสด็จฯกลับพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน

วันที่ 4 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันแรกของพระราชพิธี 3 วัน มีพิธีทางศาสนาในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่เวลา 18.50 น. เป็นต้นไป

วันที่ 5 พฤษภาคม หลังจากการดำเนินพระราชพิธีต่างๆเป็นไปอย่างครบถ้วนแล้ว สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดินโดยถูกต้องสมบูรณ์ตามขัตติยราชประเพณีเฉลิมพระบรมนามาภิไธยว่า

"พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช มหิตลาธิเบศร รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร์ สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร" นับแต่นั้น

พร้อมกันนั้น ได้ทรงเปล่งพระราชดำรัสอันถือเป็นพระปฐมบรมราชโองการว่า "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม" และได้ทรงปฏิบัติตามพระปฐมบรมราชโองการนี้ตลอดมาจนถึงปัจจุบัน

รุ่งขึ้นวันที่ 6 พฤษภาคม 2493 ยังมีพิธีที่เรียกว่า เฉลิมพระราชมณเฑียร หรือพิธีขึ้นบ้านใหม่ อันหมายถึงว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่จะสามารถเสด็จประทับในพระบรมมหาราชวังได้โดยสมบูรณ์แล้ว จึงมีพิธีเฉลิมพระราชมณเฑียรเป็นการรองรับ

ซึ่งทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชินีก็ได้เสด็จเข้าร่วมในพระราชพิธีนี้ และทรงประทับแรม ณ พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน เป็นเวลา 1 ราตรี

จากนั้นในวันถัดมา ทั้ง 2 พระองค์ได้เสด็จออกสีหบัญชร ณ พระที่นั่งสุทไธสวรรยปราสาทในเวลาบ่าย เพื่อให้ประชาชนชมพระบารมี ซึ่งนับเป็นวันประวัติศาสตร์อีกวันหนึ่ง

ท่านที่เคยเห็นภาพเก่าๆ คงจะจำได้ว่ามีประชาชนไปรอตั้งแต่เช้า แน่นขนัดไปทั้งพระราชอุทยานสราญรมย์และบริเวณสนามไชยหน้าพระที่นั่งสุทไธสวรรยประสาทนับหมื่นๆคน แทบไม่มีที่ยืน

นี่คือเหตุการณ์แห่งความปีติที่ยังอยู่ในความทรงจำของพสกนิกรไทยมาโดยตลอด

ภาพที่ทั้ง 2 พระองค์เสด็จออกสีหบัญชรในครั้งนั้น เสมือนเป็นสัญญาว่า ทั้ง 2 พระองค์จะทรงร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่ประกอบพระราชกรณียกิจอันเป็นคุณแก่ประเทศชาติและพสกนิกรต่อไปในวันข้างหน้า

บัดนี้กาลเวลาผ่านไป 60 ปี และเป็นที่ตระหนักแล้วว่า ทั้ง 2 พระองค์ได้ทรงยืนหยัดเคียงข้างประชาชนของพระองค์อย่างแท้จริง

พระมหากรุณาธิคุณทั้งหลายทั้งปวงที่มิอาจพรรณนาได้หมดสิ้นนี้ จะจารึกอยู่ในดวงใจของพสกนิกรตราบนานแสนนาน.

"ซูม"

http://www.thairath.co.th/column/pol/hehapatee/79377

หมายเหตุ ชาวหอคงทราบดีนะครับว่า "ซูม" คือใคร??
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1456 เมื่อ: 28 เมษายน 2553, 12:36:06 »

ลาพักเวรฯ ไปหาอาหารเที่ยงก่อนนะครับ อีกสักชั่วโมงเศษจะกลับมาเข้าเวรฯ รายงานสถานการณืให้ทราบต่อไป
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1457 เมื่อ: 28 เมษายน 2553, 17:54:50 »

กลับมาอีกที ก็พอดีลูกสาวคนเล็กโทรมาบอกว่า รถตู้ที่นั่งจากอนุสาวรีย์ชัย - โรงงานกิฟฟารีน นวนคร ติดมากๆ แทบไม่ขยับเลย

ปัญหามาจากการปะทะกันระหว่างทหาร-นปช. ที่หน้าอนุสรณ์สถาน ดอนเมือง ตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงขณะนี้

ซึ่งมีการปะทะกันถึง 3 หน นั่นเอง..ถ้าจะจบยากทีเดียว การจราจรแทบไม่ขยับเอาเลย

และลูกสาวยังนั่งอยู่บนรถตู้ อยู่หน้าดอนเมืองในขณะนี้
      บันทึกการเข้า
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #1458 เมื่อ: 28 เมษายน 2553, 19:15:35 »

หวังว่าหลานสาวออกจากดอนเมืองได้แล้ว และถึงบ้านโดยปลอดภัยนะคะ
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1459 เมื่อ: 28 เมษายน 2553, 23:56:51 »

ขอบคุณครับ สำหรับความห่วงหาอาทร

ถึงหอพักที่นวนครแล้วครับ หลังจากบอกว่า ติดอยู่บนรถตู้เกือบ 3 ชั่วโมง
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1460 เมื่อ: 29 เมษายน 2553, 00:02:41 »

ไปฟังปราศรัยของ พธม. นครสวรรค์ที่อุทยานสวรรค์มา ในช่วงเย็นนี้

เขานัดจะพากันไปยืนหนังสือที่ มทบ.31 ค่ายจิรประวัติ เพื่อสนับสนุนให้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง

และให้ใช้กำลังเพื่อสลายการชุมนุมที่ยืดเยื้อ เพื่อเชื่อว่าจะมีทั้งพลเรือนและทหารเสียชีวิตอีก อย่างไม่จบสิ้น

ข้อเท็จจริงที่รับฟังได้คือ เมื่อเห็นกำแพงทหารและตำรวจ รถกระจายเสียงของแกนนำเสื้อแดงหยุดอยู่กับที่

แต่พวกเสื้อแดงลุยไปข้างหน้า ตลุมบอนกับทหารและตำรวจ แต่แกนนำหนีเมื่อเสียงปืนดังขึ้น

ไปบอกที่ชุมนุมแยกราชประสงค์ว่า "เฉลิม อยู่บำรุง"โทรเข้าไปบอกให้หนี ทหารจะยิงเอา ดูมันทิ้งพรรคพวกเอาตัวรอดคนเดียว
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1461 เมื่อ: 29 เมษายน 2553, 00:03:49 »

ซื้อจากร้านแมงป่องครับ DVD Hotel Rwanda ในราคา 79 บาทเอง

      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1462 เมื่อ: 30 เมษายน 2553, 10:16:57 »

ขออนุญาตเก็บของเล็กน้อย จะเข้า กทม. ครับ

พบกันเมื่อสะดวก (เปิดเว็ปได้)
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1463 เมื่อ: 30 เมษายน 2553, 18:54:38 »

ถึง กทม. แล้วครับ แต่รถติดบนทางด่วนศรีรัชมาก สงสัยจะเป็นเพราะวันศุกร์เย็นและหยุดยาว 3 วัน

อย่างไรก็ดี โน๊ตบุกส์เป็น IE เวอร์ชั่น 6 ค่อนข้างจะช้าและถูกเตือนทุกครั้งว่า ให้อัพเดทเป็นเวอร์ชั่นใหม่
      บันทึกการเข้า
Janchai
มือใหม่หัดเมาท์
*


It is lovely to be called "Mom".
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 242

« ตอบ #1464 เมื่อ: 01 พฤษภาคม 2553, 06:52:59 »

อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 30 เมษายน 2553, 18:54:38
ถึง กทม. แล้วครับ แต่รถติดบนทางด่วนศรีรัชมาก สงสัยจะเป็นเพราะวันศุกร์เย็นและหยุดยาว 3 วัน

อย่างไรก็ดี โน๊ตบุกส์เป็น IE เวอร์ชั่น 6 ค่อนข้างจะช้าและถูกเตือนทุกครั้งว่า ให้อัพเดทเป็นเวอร์ชั่นใหม่

เหยงมีธุระอะไรที่กรุงเทพหรือคะ อย่าโมโหมากจนขาดสติกันนะคะ
พูดกับติ๋มก่อนนะ เป็นไงบ้าง
      บันทึกการเข้า

ติ๋ม จันทร์ฉาย
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1465 เมื่อ: 01 พฤษภาคม 2553, 09:13:29 »

ไปเยี่ยมญาติและจะไปต่องานแต่งหลานของเพื่อนสนิทที่จังหวัดสระบุรีในวันพรุ่งนี้ครับ แล้วจึงกลับนครสวรรค์

รับรองครับจะไม่โมโหจนขาดสติแน่นอน แต่จะไม่ยั้งมือเป็นแน่-หากได้ลงมือแล้วครับ
      บันทึกการเข้า
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #1466 เมื่อ: 01 พฤษภาคม 2553, 17:40:23 »

ติ๋มยังจำได้ว่าเหยงเป็นยังไง เพื่อนๆเป็นห่วงจริงๆนะ
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1467 เมื่อ: 01 พฤษภาคม 2553, 19:43:32 »

เดี๋ยวนี้ต่างไปจากอดีตแล้วครับ เวลาเป็นตัวสั่งสอนเราอย่างหนึ่ง เพราะจะมีผู้คนอีกมากมายที่เราจะเจอะจะเจอ



จำเป็นต้องโกรธช้าลง  เค้าไม่ยอม
 บ่ฮู้บ่หัน
      บันทึกการเข้า
Janchai
มือใหม่หัดเมาท์
*


It is lovely to be called "Mom".
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 242

« ตอบ #1468 เมื่อ: 02 พฤษภาคม 2553, 04:14:34 »

Really, you are right.  We have not seen each other for 30 some years. I am looking forward to seeing you again.
Is your daughter home now?
      บันทึกการเข้า

ติ๋ม จันทร์ฉาย
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1469 เมื่อ: 02 พฤษภาคม 2553, 23:49:51 »

จากสโมสรในค่ายอดิสร ศูนย์การทหารม้า สระบุรี กลับถึงนครสวรรค์ เป็นเวลาประมาณ 23.40 น.แล้วครับ

มีฝนตกในจังหวัดสระบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท โดยตกมาตลอดแล้วหยุดตกในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1470 เมื่อ: 02 พฤษภาคม 2553, 23:52:29 »

อ้างถึง
ข้อความของ Janchai เมื่อ 02 พฤษภาคม 2553, 04:14:34
Really, you are right.  We have not seen each other for 30 some years. I am looking forward to seeing you again.
Is your daughter home now?

ลูกสาวคนโตกลับไปช่วยงานบ้านครับ, คนที่สองกำลังจะไปต่อโทที่ม.แลงคาสเตอร์ อังกฤษ ในช่วงกรกฎาคมนี้
ส่วนสาวที่ 3 ฝึกงานอยู่ที่กิ๊ฟฟารีน นวนคร จะเรียนปี 4 ที่ คณะวิทย์ BioTech มหิดล
      บันทึกการเข้า
noi16
มือใหม่หัดเมาท์
*


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 153

« ตอบ #1471 เมื่อ: 05 พฤษภาคม 2553, 00:33:40 »

เหยง

ขอชื่นชมกับอภิชาตบุตร ไม่มีความสุขใดของพ่อ แม่
ที่ได้เห็นความสุข ความเจริญก้าวหน้าของลูก
และที่สำคัญลูกเป็นคนดีของสังคม..ยินดี
      บันทึกการเข้า
Janchai
มือใหม่หัดเมาท์
*


It is lovely to be called "Mom".
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 242

« ตอบ #1472 เมื่อ: 05 พฤษภาคม 2553, 08:29:39 »

อ้างถึง
ข้อความของ noi16 เมื่อ 05 พฤษภาคม 2553, 00:33:40
เหยง

ขอชื่นชมกับอภิชาตบุตร ไม่มีความสุขใดของพ่อ แม่
ที่ได้เห็นความสุข ความเจริญก้าวหน้าของลูก
และที่สำคัญลูกเป็นคนดีของสังคม..ยินดี

Let me join Noi congratulate เหยง for your success in raising your beautiful family.
      บันทึกการเข้า

ติ๋ม จันทร์ฉาย
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1473 เมื่อ: 05 พฤษภาคม 2553, 11:35:32 »

บอกข่าวเพื่อการสะสม

วันนี้เป็นวันฉัตรมงคล และครบ ๖๐ ปี บรมราชาภิเษก และเมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน ๕๓ ที่ผ่านมา ครบ ๖๐ ปี ราชาภิเษกสมรส เช่นกัน กระทรวงการคลัง และ ธนาคารแห่งประเทศไทย ออกธนบัตร ฉบับราคา ๑๐๐ บาท โดยด้านหลังธนบัตรเป็นภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ และภาพช่วงบรมราชาภิเษก ออกให้แลกในวันที่ ๔ พฤษภาคม ที่ผ่านมา ตามธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง (ดังภาพตัวอย่างขาว-ดำ ที่นำมาแสดง)

ข่าวแจ้งว่า หมดก่อนเที่ยงวัน แต่บางท่านที่ติดต่อธนาคารเป็นประจำ อาจพอมีเหลือครับ

      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #1474 เมื่อ: 05 พฤษภาคม 2553, 19:41:37 »

รายละเอียดของธนบัตร ฉบับราคา ๑๐๐ บาท

ธนบัตรที่ระลึก ราชาภิเษกสมรสและบรมราชภิเษก ครบ 60 ปี
   
เนื่องในอภิลักขิตสมัยมหามงคลวันราชาภิเษกสมรส และวันบรมราชาภิเษกครบ 60 ปี พุทธศักราช 2553
ธนบัตรที่ระลึกชนิดราคา 100 บาท ออกใช้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จำนวน 9,999,999 ฉบับ ซึ่งเป็นธนบัตรที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย

ลักษณะเด่นของธนบัตรที่ระลึกฯ

ธนบัตรที่ระลึกชนิดราคา 100 บาท นี้ ด้านหน้ามีลักษณะ สี และขนาดเหมือนกับธนบัตรชนิดราคา 100 บาท ซึ่งใช้หมุนเวียนในปัจจุบัน ปรับเปลี่ยนเฉพาะด้านหลังธนบัตรเป็นเรื่องราวของพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส และพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน
ภาพประธานด้านหลังธนบัตร เชิญพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะทรงโบกพระหัตถ์ และพระฉายาสาทิสลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในงาน พระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม พุทธศักราช 2549 ตอนล่างของธนบัตรมีข้อความ “ราชาภิเษกสมรสครบ 60 ปี 28 เมษายน 2553” และ “บรมราชาภิเษกครบ 60 ปี 5 พฤษภาคม 2553”

ภาพประกอบด้านหลังธนบัตร เชิญพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหลั่งทักษิโณทก ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ประดับด้วยลายดอกพิกุล 6 ดอก เบื้องซ้ายมุมบน เชิญพระราชลัญจกรประจำพระองค์รัชกาลที่ 9 พิมพ์บนธงชาติไทย เบื้องซ้ายมุมล่าง เชิญพระปฐม บรมราชโองการ “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” ซึ่งพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานไว้ เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พุทธศักราช 2493

ธนบัตรทุกฉบับมีเลข ๙ นำหน้าหมวดอักษรไทย ธ หมายถึง พระมหากษัตริย์ และอักษรโรมัน R ซึ่งมาจาก Rex และ Regina ในภาษาละติน หมายถึง พระมหากษัตริย์และพระราชินี ตามด้วยเลขหมาย จำนวน 7 หลัก เริ่มตั้งแต่ ๙ธ (R) ๐๐๐๐๐๐๑ - ๙ธ (R) ๙๙๙๙๙๙๙

กำหนดวันจ่ายแลก: ตั้งแต่วันอังคารที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เป็นต้นไป

ราคาที่จ่ายแลก : จ่ายแลกในราคาฉบับละ 100 บาท

สถานที่จ่ายแลก : สาขาธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ทุกแห่งทั่วประเทศ

http://ecatalog.treasury.go.th/webboard/view.php?qid=4498&gid=12
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 57 58 [59] 60 61 ... 156   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><