Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #6625 เมื่อ: 24 กรกฎาคม 2555, 17:35:52 » |
|
ขอบพระคุณมากครับ ป๋าทู ที่บอกรายละเอียดให้ทราบ
พี่สิงห์ มีแผนสำรอง คือ คุณหมอสรรเสริญที่พักอยู่ราชบุรีในวันเสาร์ รอกินข้าวกลางวันด้วย คงไปหาเจอครับ แต่ทำไม คุณหมอให้เลี้ยวขวาเข้าตัวเมือง มันตรงข้ามกันเลยครับในเรื่องทิศ
สวัสดี
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #6626 เมื่อ: 24 กรกฎาคม 2555, 17:39:35 » |
|
สวัสดีครับ ป้าแจ่ม ที่รัก
พี่สิงห์ ไม่มีพลังจิตอะไรทั้งสิ้น พยายามให้มีสติ รู้สึกตัว ตื่นตัวตลอดเวลา ศึกษากาย-ใจตนเอง เอาสิ่งที่ค้นพบมาบอกเท่านั้น อยู่กับความจริง อยู่กับธรรม ที่เป็นจริง เท่านั้นครับ พยายามให้รู้เท่าทันจิต และรักษากาย วาจา ใจ ให้เป็นปกติอยู่เสมอ ไม่ยินดีในสุข ทุกข์ ที่ต้องประสบ ครับ
เข้าพรรษานี้ ตั้งใจถือศีล ๘ ตลอดพรรษา เพื่อฝึกจิตตนเอง ครับ
สวัสดี
|
|
|
|
pusadee sitthiphong
|
|
« ตอบ #6627 เมื่อ: 24 กรกฎาคม 2555, 23:00:53 » |
|
เอแปลกจัง แล้วเวลาพี่สิงห์เข้ามาในเว็บบอร์ด มันไม่ขึ้นมาบอกว่า คุณได้รับข้อความใหม่หรือคะ
|
pom shi 2516
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #6628 เมื่อ: 25 กรกฎาคม 2555, 05:32:02 » |
|
ที่ผ่านมามันขึ้น และเข้าไปเปิดอ่าน
แต่คราวนี้ มันไม่ขึ้น และไม่มีข้อความใหม่
แสดงว่าเกิดการผิดพลาดในการส่ง หรือ ระบบ ครับ
กรุณา ส่งใหม่
สวัสดีตอนเช้า
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #6629 เมื่อ: 25 กรกฎาคม 2555, 06:06:36 » |
|
ปุจฉา :
"ธรรมทั้งหลายเกิดจากเหตุ พระตถาคตเจ้าแสดงเหตุแห่งธรรมนั้น และแสดงความดับไปแห่งธรรมนั้น พระตถาคตเจ้ามีปกติเกล่าอย่างนี้.......(อุปะติสะ...บรรลุโสดาบัน)"
เข้าใจยากจังครับ ขอความเข้าใจอย่างหยาบๆ ครับวิสัชนา :
เมื่ออุปะติสะ และโกลิตะ ได้ฟังธรรมนี้ ล้วนได้ "ดวงตาเห็นธรรม" บรรลุเป็นโสดาบัน ทั้งสองท่าน
ขอตอบตามสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเอง ที่เกิดมาจากใจภายใน ที่รู้ได้เองว่า
การได้ดวงตาเห็นธรรมนั้น ก็คือรู้ความจริง และเข้าใจได้เอง จากจิตตนเอง ที่พิจารณาตามในสิ่งที่ได้ยินนั้น อย่างแจ่มแจ้ง ไม่มีข้อสงสัยใดๆ หรือรู้ด้วยอารมณ์ที่เข้าใจได้
อุปะติสะ และ โกลิตะ รู้อะไร ?
อุปะติสะ และโกลิตะ (พระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ) เมื่อขณะฟังธรรมก็ได้ตั้งใจ มีสติ เป็นสมาธิพิจารณาไป ได้รู้ความจริงใน "กาย-ใจ" ตนเอง คือรู้ "รูป-นาม" นั่นเอง ได้เห็นความคิดตนเอง ไม่หลงอยู่ในความคิดตนเอง หรือโมหะ
เห็นความคิด (ได้เข้าใจธรรมชาติของจิต)ที่เกิดขึ้น มากมายในทุกขณะ และความคิดที่คิดขึ้นมานั้น มันจะคงอยู่สักระยะหนึ่ง เพื่อรอให้ "รูป-นาม" ปรุงแต่งต่อ หรือรอให้กระทำตาม เมื่อ "รูป-นาม" ไม่กระทำตาม คือวางอุเบกขา ความคิดนั้นก็ดับไปเอง ธรรมชาติของจิตมันเป็นเช้่นนั้น
อุปะติสะ และโกลิตะ จึงทราบได้ทันทีว่า "ความทุกข์ สุข ไม่สุขไม่ทุกข์ ล้วนเกิดขึ้นจากความคิดปรุงแต่งทั้งสิ้น และรู้ความสิ้นไปแห่งความคิด หรือทุกข์ ที่แท้จริงนั้น"
และทราบได้ทันทีว่า "พระพุทธเจ้าเกิดขึ้นแล้วในโลกนี้"
ธรรมชาติของความคิด "เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป" มันเป็นเช่นนี้เอง
เมื่อรู้ความจริงอันนี้ เกิดวิปัสสนาญาณ เอาชนะด้วยปัญญาภายใน มันจะปล่อยวางได้เองตามธรรมชาติ
หรือหยุดความคิดปรุงแต่ง ด้วยความรู้สึกตัว คือมีสติ-สัมปชัญญะ ความคิดก็จะดับไปเอง
อย่าลืม ความคิด เราไม่มีอำนาจเหนือมัน บังคับบัญชามันไม่ได้ เพราะมันเป็น "อนัตตา" มันไม่มีตัว ไม่มีตน มันเกิดขึ้นเอง
เอวังด้วยประการฉะนี้ "ขอความสุข ไม่ปรุงแต่งทางความคิด มีสติ-สัมปชัญญะ จะบังกับท่านทุกคน เทอญ"
สวัสดียามเช้าครับ วันหนึ่ง พระอัสสชิ ซึ่งเป็นหนึ่งในจำนวนพระปัญจวัคคีย์ ที่พระพุทธองค์ทรงส่งไปประกาศพระศาสนา ได้จาริกมาถึงกรุงราชคฤห์ และเข้าไปบิณฑบาตในเมือง อุปติสสปริพาชก ออกจากอารามมาด้วยกิจธุระภายนอกเห็นท่านแสดงออกซึ่งปฏิปทาอันน่าเลื่อมใส จะก้าวไปหรือถอยกลับ จะเหยียดแขนหรือพับแขน จะเหลียวซ้ายแลขวา ดูน่าเลื่อมใสเรียบร้อยไปทุกอิริยาบถ ทอดจักษุแต่พอประมาณ มีอาการแปลกจากบรรพชิต ที่เคยเห็นมาแต่กาลก่อน อยากจะทราบว่า ท่านบวชในสำนักของใคร ใครเป็นศาสดาของท่าน แต่ก็มิอาจถามท่านได้เพราะมิใช่กาลเวลาอันสมควร จึงเดินตามไปห่าง ๆ
เมื่อพระเถระได้รับอาหารพอสมควรแล้วจึงออกไปสู่ที่แห่งหนึ่งเพื่อทำภัตตกิจ อุปติสสปริพาชก จึงได้จัดปูลาดอาสนะ ถวายน้ำใช้น้ำฉัน และคอยเฝ้าปฏิบัติอยู่ เมื่อเสร็จภัตกิจแล้ว จึงกราบเรียนถามด้วยความเคารพว่า:-
“ข้าแต่ท่านผู้มีอายุ อินทรีย์ของท่านผ่องใสยิ่งนัก ผิวพรรณของท่านก็หมดจดผ่องใส ท่านบวชในสำนักของใคร ใครเป็นศาสดาของท่าน และท่านชอบใจธรรมของใคร?”
พระเถระตอบว่า “ปริพาชกผู้มีอายุ เราบวชจำเพาะพระมหาสมณะศากยบุตรผู้เสด็จออกจากศากยสกุล พระองค์เป็นศาสดาของเรา เราชอบใจธรรมของท่าน”
“พระศาสดาของท่านสอนว่าอย่างไร?"
พระเถระคิดว่า “ธรรมดาปริพาชกทั้งหลาย ย่อมเป็นปฏิปักษ์ต่อพระศาสนา ควรที่เราจะแสดงความลึกซึ้งคัมภีร์ภาพแห่งพระธรรม” จึงกล่าวว่า:-
“ผู้มีอายุ เราเป็นผู้บวชใหม่ มาสู่พระธรรมวินัยนี้ไม่นาน ไม่สามารถจะแสดงธรรมแก่ท่านโดยพิสดารได้ เราจักกล่าวแก่ท่านแต่โดยย่อพอรู้ความ”
“ท่านสมณะ ท่านจงกล่าวแต่เนื้อความเถิด ข้าพเจ้าต้องการเฉพาะเนื้อความเท่านั้น”
พระอัสสชิเถระ ได้ฟังคำของอุปติสสปริพาชกแล้ว จึงกล่าวหัวข้อธรรมมีใจความว่า:-
เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ เหตุ ? ตถาคโต เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํวาที มหาสมโณฯ
“ธรรมเหล่าใด มีเหตุเป็นแดนเกิด (เกิดแต่เหตุ) พระตถาคตเจ้า ทรงแสดงเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น และความดับแห่งธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะ ตรัสอย่างนี้”
อุปติสสะ เพียงได้ฟังหัวข้อธรรมนี้จากพระเถระเท่านั้นก็สำเร็จเป็นพระโสดาบัน เกิดธรรมจักษุ คือ ดวงตาเห็นธรรมว่า:-
“สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งหมดมีความดับเป็นธรรมดา” ดังนี้
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #6630 เมื่อ: 25 กรกฎาคม 2555, 06:08:58 » |
|
วันนี้ ผมต้องไปสอนหนังสือ ที่สระบุรี
และไปค้างคืนที่เขาชะโงก เพื่อแข่งขันกอลืฟอาชีพ ครับ
สวัสดี
|
|
|
|
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
ออฟไลน์
รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562
|
|
« ตอบ #6631 เมื่อ: 25 กรกฎาคม 2555, 07:54:01 » |
|
สวัสดีค่ะพี่สิงห์ โชคดีในการแข่งขันนะคะ
|
|
|
|
too_ploenpit
|
|
« ตอบ #6632 เมื่อ: 25 กรกฎาคม 2555, 10:33:58 » |
|
...โชคดีค่ะ...พี่สิงห์...
|
i love pink, you are pink = i love you
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #6633 เมื่อ: 25 กรกฎาคม 2555, 14:10:22 » |
|
สวัสดีค่ะ คุณน้องเอมอร และคุณน้องตู่ ที่รัก
พี่สิงห์ ไม่ไปแข่งขันกอล์ฟแล้ว ขอไปหาแม่แทนดีกว่าครับ บ่ายนี้ เพราะเวลาเหลือไม่มากแล้ว
สวัสดี
|
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #6635 เมื่อ: 25 กรกฎาคม 2555, 20:29:57 » |
|
สวัสดีครับ คุณน้องหนุ๋น
ขอบคุณมากที่ชม ครับ
พี่สิงห์ กลับมาถึงกรุงเทพฯ แล้ว ประชุมจนถึงหกโมงเย็น จึงไม่ได้ไปแข่งกอล์ฟ และไปเยี่ยมแม่ได้ ในวันนี้ ดังนั้น พรุ่งนี้ พี่สิงห์ ต้องไปสิงห์บุรี เพื่ออยู่กับแม่
อาทิตย์นี้ทางนครศรีธรรมราช ไม่มีอะไรพิเศษ เลยงดไปสักหนึ่งอาทิตย์ เพราะวันเสาร์พี่สิงห์ต้องไปงานฌาปนกิจศพ คุณพ่อของคุณสุภา ที่ราชบุรี ครับ
ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครบ
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #6636 เมื่อ: 26 กรกฎาคม 2555, 07:53:36 » |
|
สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่งและแขกผู้มีเกียรติที่มาเยือน ที่รักทุกท่าน
วันนี้เป็นวันพระขึ้น ๘ ค่ำ เดือนแปด(หลัง) ถ้ามีเวลาว่างก็ใส่บาตรเพื่อระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ เพื่อชำระจิตขอเราให้ขาวรอบ เป็นผู้ให้ ปล่อยวาง ด้วยการมีสติ-สัมปชัญญะ มีการปรุงแต่งให้น้อยๆ ครับ
เมื่อเช้า ขณะยืนรอใส่บาตรพระที่หน้าบ้าน อุบาสิกา ท่านหนึ่งก็ได้เล่าว่า ได้ฟังหลวงพ่อปู่ (จำชื่อไม่ได้) ท่านระลึกชาติได้ ว่าเมื่อชาติก่อนท่านเกิดเป็นพระตาบอด เวลาไปไหนต้องมีหมานำ และหมาก็ชอบที่จะไปหยุดตรงที่มีอุจจาระประจำ รวมทั้งเรื่องฤาษี ภิกษุณี ที่มีมาก ทั้งๆ การบวชภิกษุณีนั้น ผิดขั้นตอน คือต้องบวชโดยภิกษุณี ทั้งๆที่รู้ว่าพุทธศาสนา ได้หมดไปจากอินเดีย-ลังกา ถึง ๘๐๐ ปี ไม่มีภิกษุณี เหลืออยู่เลย แล้วจะบวชได้อย่างไร ก็ว่ากันไป ต่างจิตต่างใจ จิตมันก็เตือนว่า มันก็อย่างนี้ละ มันถึงยุคเสื่อมของพุทธศาสนาแล้ว ในเมื่อพุทธบริษัท ๔ ไม่ปฏิบัติตามคำสอนของพระสมณโคดม ไปกระทำตามจิตตนเอง มันเป็นเรื่องของ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
และเมื่อได้ยิน จิตของเรามันก็คิดปรุงแต่ง ทำไมมนุษย์เราไม่น้อมนำหลักกาลามสูตร มาพิจารณาเลย พระท่านก็กระไร ยังหรอกตัวเองทุศีล อยู่ร่ำไป สร้างความงมงายให้ญาติโยม เพื่อให้มีคนมานับถือ ท่านไม่อยู่กับความจริง ตามที่พระพุทธองค์สอน ท่านอยู่ด้วบภาพปัจจัย สร้างภาพให้คนหลงเชื่อ
จิตเราก็หวั่นไหว คือปรุงแต่ง แต่แล้วก็ฉุกคิดได้ว่า มันไม่ใช่เรื่องของเรา ใครจะประพฤติแบบนั้นก็เรื่องของเขา เขาจะเข้าใจแบบนั้นก็เรื่องของเขา เราอย่าพูด อย่าแสดงอาการเลย ปล่อยวางในสิ่งที่ได้ยินไป ไม่ก่อประโยชน์อะไร พูด อธิบายไป มันก็เท่านั้น เพราะคนเหล่านั้นยังหลงอยู่ในความคิดตัวเอง มองธรรมที่แท้จริงยังไม่ออก เราก็ปล่อยวางมันไป ได้แต่รับรู้ แต่ระวังกาย วาจา ใจ ของเราให้เป็นปกติ ก็สามารถฟังได้ ด้วยความสงบ ไม่ปรุงแต่งต่อ กลับมาสำรวมดังเดิม
เราไม่ได้แบกทุกข์ แบกภาระอะไรมากนักในสังคมนี้ แต่เราสามารถกระทำแต่สิ่งดีๆ ปฏิบัติตามคำสอนของสมณะโคดม ได้ ให้เป็นแบบอย่างในสิ่งที่ทุกคนรู้ว่าดีได้ เราเพียรของเราไปอย่างนี้ดีแล้ว อย่าไปให้ความสำคัญอะไรมากมายเลย เราอยู่ของเราแบบพอเพียง ไปทีละวันๆ อย่างนี้ละ อะไๆ ที่ยังมาไม่ถึง ไม่ต้องพะวงทั้งสิ้น เรายังมีข้าวกิน ยังพอมีงานทำ มีรายได้ เราก็รักษากาย วาจา ใจ ปฏิบัติตามมรรค ๘ ของเราไป ควรน่าที่จะเพียงพอแล้ว ไม่ต้องการอะไรๆ มากกว่านี้ จะตายเมื่อไรก็ได้ เพราะไม่มีอะไรต้องกังวล ต้องกระทำ มันเป้นเรื่องของธรรมชาติ ที่จะต้องเป็นแบบนี้ จิตเราก็สงบดี มีสติ ความอยากลดลงไปแยะ อะไรๆ ก็รับได้
อย่าแบกอะไรๆ ไว้เลยมันหนัก ปล่อยทิ้งมันไป
ก็ได้ทบทวนกับตัวเอง ไม่ให้ประมาท อยู่แต่ในกุศลธรรม ครับ
ต้องเดินทางไปอยู่กับแม่ที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี แล้วครับ
สวัสดี
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #6637 เมื่อ: 26 กรกฎาคม 2555, 21:30:48 » |
|
วันพฤหัสบดีที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๕ สัพเพ สังขารา อะนิจจา, สังขารคือร่างกายจิตใจ, แลรูปธรรมนามธรรม ทั้งหมดทั้งสิ้น, มันไม่เที่ยง; เกิดขึ้นแล้วดับไป มีแล้วหายไป; สัพเพ สังขารา ทุกขา, สังขารคือร่างกายจิตใจ, แลรูปธรรมนามธรรม ทั้งหมดทั้งสิ้น, มันเป็นทุกข์ทนยาก; เพราะเกิดขึ้นแล้ว แก่ เจ็บ ตายไป; สัพเพ ธัมมา อะนัตตา, สิ่งทั้งหลายทั้งปวง, ทั้งที่เป็นสังขารแลมิใช่สังขาร ทั้งหมดทั้งสิ้น, ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน; ไม่ควรถือว่าเรา ว่าของเรา ว่าตัวว่าตนของเรา; สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่งและแขกผู้มาเยือนที่รักทุกท่าน
ดร.สุริยา ภาพนี้อาจจะเป็นภาพสุดท้าย ที่ผมถ่ายแม่
อาการของแม่แย่ลงเนื่องจากอาหาร(นมพิเศษ ที่ดูดซึมง่าย) กระเพาะอาหาร ไม่สามารถดูดซึมได้ จึงออกหมด ผลคือแม่ไม่มีอาหาร จึงเหลือแรงน้อยเต็มที พูดไม่ได้ แต่สื่อสารกันได้รู้เรื่อง แม่คงจะจากไปไม่ช้าก็เร็วๆ นี้ วันต่อวัน คงไม่ทรมาร คงหมดแรงไปเองตามธรรมชาติ
ผมและน้องสาวได้เตรียมเสื้อผ้าที่แม่สั่งไว้เรียบร้อยแล้ว ได้บอกพี่ๆ ทุกคนทราบแล้ว จะไม่มีการช่วยชีวิตทั้งสิ้น ถึงเวลาที่แม่ต้องจากไปจริงๆ ท่านก็พร้อมแล้ว ผมเองหลงปรุงแต่งไปกับจิต เฝ้าดูจิตตนเอง แต่ก็กลับมาได้เป็นปกติ
เวลาเห็นพยาบาลทำแผลกดทับ น้องสาวเองทนไม่ไหว แต่แม่ทนได้สบาย แผลดีขึ้นจากเห็นกระดูกสันหลัง ปัจจุบัน ดีขึ้นมาก ไม่เห็นกระดูก ไม่ติดเชื้อ แม่ทนเจ็บได้เก่งจริงๆ แผลดีขึ้นแต่ กระเพาะ ลำไส้มันไม่ดูดสารอาหาร คุณหมอก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
พรุ่งนี้ภายหลังใส่บาตรพระที่หน้าบ้านเสร็จ ก็คงต้องไปอยู่กับแม่ที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี และได้เตรียมเสื้อผ้าที่จะอยู่กับแม่ไปด้วย เพื่อความไม่ประมาท
พระพุทธองค์ทรงสอนไว้ ความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ปราถนาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้น ประสบสิ่งที่ไม่รักไม่ชอบ และพลัดพรากจากสิ่งที่รักที่ชอบ ล้วนเป็นทุกข์ทั้งสิ้น มนุษย์ทุกคนจะต้องประสบ ไม่ช้าก็เร็วหนีไม่พ้น มันเป็นเรื่องธรรมดา แต่มันก็อดหวั่นไหวไม่ได้ ต้องสร้างความรู้สึกตัว ไม่ปรุงแต่งตามจิตที่ประสบ ก็พอจะวางจิตได้ถูก
ราตรีสวัสดิ์ทุกท่าน ครับ
|
|
|
|
suriya2513
|
|
« ตอบ #6638 เมื่อ: 26 กรกฎาคม 2555, 21:44:07 » |
|
การจากไปโดยไม่มีความเจ็บปวดทรมาน ก็สุดวิเศษ แล้วสำหรับมนุษย์ มารอบนี้แม่สร้างบุญไว้ได้มากมาย รอบหน้าถ้ายังต้องมีอยู่ บุญกุศลจะยิ่งเสริมส่งแม่
สิงห์ มานพ ทำได้ดีที่สุดแล้วครับ ในการดูแลพ่อ และแม่
|
[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี คลิ๊ก->
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #6639 เมื่อ: 27 กรกฎาคม 2555, 06:11:02 » |
|
อภิณหะปัจจะเวกขณ์
(นำ) หันทะ มะยัง อะภิณหะปัจจะเวกขณะปาฐัง ภะณามะ เส. ชะระธัมโมมฺหิ ชะรัง อะนะตีโต (หญิงว่า : ตา), เรามีความแก่เป็นธรรมดา จะล่วงพ้นความแก่ไปไม่ได้; พยาธิธัมโมมฺหิ พยาธิง อะนะตีโต (หญิงว่า : ตา), เรามีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา จะล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปไม่ได้;
มะระณะธัมโมมฺหิ มะระณัง อะนะตีโต (หญิงว่า : ตา), เรามีความตายเป็นธรรมดา จะล่วงพ้นความตายไปไม่ได้; สัพเพหิ เม ปิเยหิ มะนาเปหิ นานาภาโว วินาภาโว. เราจักพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งหลาย, กัมมัสสะโกมฺหิ, เรามีกรรมเป็นของของตน; กัมมะทายาโท (หญิงว่า : ทา). เราจักต้องเป็นผู้รับผลของกรรม นั้น; กัมมะโยนิ, เรามีกรรมเป็นแดนเกิด; กัมมะพันธุ, เรามีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์; กัมมะปะฏิสะระโณ (หญิงว่า : ณา), เรามีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย; ยัง กัมมัง กะริสสามิ, เราทำกรรมอันใดไว้; กัลฺยาณัง วา ปาปะกัง วา, เป็นกรรมดีก็ตาม เป็นกรรมชั่วก็ตาม; ตัสสะ ทายาโท (หญิงว่า : ทา) ภะวิสสามิ. เราจักต้องเป็นผู้รับผลแห่งกรรมนั้น เอวัง อัมเหหิ อะภิณหัง ปัจจะเวกขิตัพพัง. เราทั้งหลายพึงพิจารณาเนือง ๆ อย่างนี้แล. สวัสดียามเช้า ทุกท่านครับ
น้องสาวและคนดูแลแม่ ไม่ได้โทรศัพท์มา แสดงว่าแม่ยังอยู่ได้อีกหนึ่งวัน
ขอให้ทุกท่านพิจารณาธรรม บทที่ได้แสดงไว้ข้างบน ด้วยครับ
สวัสดีครับ
|
|
|
|
อ้อย17
|
|
« ตอบ #6640 เมื่อ: 27 กรกฎาคม 2555, 08:14:59 » |
|
มาส่งใจไปช่วย ให้แม่ของพี่สิงห์ ได้อยู่อย่างสงบ สุข สบาย ไม่เจ็บไม่ปวด ทั้งในยามนี้และยามหน้าค่ะ...
หนูตามมาอ่านคอลัมน์ของพี่สิงห์ทุกวัน แต่ไม่ได้ส่งเสียง
และมาเห็นด้วยกับพี่ป๋องว่า....พี่สิงห์ดูแลแม่ได้อย่างดีที่สุดที่กุลบุตรพึงกระทำแล้วค่ะ...
ขอชื่นชมสุดหัวใจ......................
|
|
|
|
หนุน'21
Global Moderator
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
ซีมะโด่ง'จุฬาฯ ที่มาของผม
ออฟไลน์
คณะ: "ครุศาสตร์"
กระทู้: 26,927
|
|
« ตอบ #6641 เมื่อ: 27 กรกฎาคม 2555, 08:46:23 » |
|
เข้ามาส่งกำลังใจให้คุณแม่พี่สิงห์ด้วยครับ
|
“สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในใต้หล้า ทั้งมิใช่ชื่อเสียง และไม่ใช่ทรัพย์ศฤงคาร หากแต่เป็นน้ำใจระหว่างคน ท่านหากได้มา พึงทะนุถนอมไว้ อย่าได้สร้างความผิดหวังต่อตนเองและผู้อื่น.” “วีรบุรุษสำราญ” “โกวเล้ง”
|
|
|
too_ploenpit
|
|
« ตอบ #6642 เมื่อ: 27 กรกฎาคม 2555, 09:45:27 » |
|
...ขอเป็นกำลังใจให้พี่สิงห์ค่ะ...
...ขอให้พี่สิงห์มีกำลังใจที่ดี...ที่จะทำหน้าที่ลูกอย่างดีที่สุด...
...และขอคุณพระและบุญกุศลทั้งปวงที่คุณแม่พี่สิงห์ได้เคยทำมาคุ้มครองให้ท่านมีทุกขเวทนาที่น้อยที่สุดค่ะ...
|
i love pink, you are pink = i love you
|
|
|
พธู ๒๕๒๔
Administrator
Cmadong ชั้นเซียน
ซื่อต่อนายไม่หน่ายมิตรใกล้ชิดลูกน้องคุ้มครองชาวBan
ออฟไลน์
รุ่น: 64
คณะ: niti
กระทู้: 7,842
|
|
« ตอบ #6643 เมื่อ: 27 กรกฎาคม 2555, 11:18:55 » |
|
สาธุ
|
เว้นชั่ว ประพฤติชอบประกอบแต่สิ่งดีงาม ทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #6644 เมื่อ: 28 กรกฎาคม 2555, 08:03:46 » |
|
สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่งและแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน
ด้วยแรงใจจากคุณน้องตู่ ป๋าทู คุณหนุ๋น คุณน้องอ้อย และอีกหลายๆ ท่านที่ไม่ได้เอ่ยนาม และ
เวลาผมอยู่กับแม่ จะเปิดเทปธรรมให้ท่านฟัง และนั่งเจริญสติ ใส่บาตรพระก็แผ่เมตตาให้ ปรากฏว่าแม่อาการตรงกันข้ามเลยกับเมื่อวาน ดีขึ้นมากๆ พูดได้ ลืมตาได้ อาหารที่ให้ไม่ไหลออกเร็ว หรือออกหมด สามารถดูดซับได้บ้างบางส่วน แม่เลยมีแรงกลับมาอีก และ
มีคุณหมอ ท่านหนึ่ง ซึ่งคุณหมอวิทิตและพยาบาลชั้นสาม ตึกแปดสิบปี ก็ไม่เคยพบ case แบบแม่ คืออาหารไหลออกหมด ดูดซับไม่ได้ คุณหมอ ท่านนี้ได้แนะนำน้องสาวมาว่า ให้ไปหาซื้อถุงให้อาหารแบบหยด เพราะการให้แบบหยด จะทำให้กระเพาะอาหาร ลำไส้ มีเวลาสามารถจะดูดซับสารอาหารได้ดีกว่า
ดังนั้น วันนี้เช้าผมจะไปหาซื้อที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และคุณอดิสร(เล็ก) จะกรุณาไปช่วยหาที่ร้านตรงข้ามโรงพยาบาลจุฬาฯ และผมได้รับความกรุณาจากคุณรุ่งศักดิ์ หาเบอร์โทรของ Facicno ให้ จึงสามารถสื่อสารหาแหล่งขายอุปกรณ์การแพทย์แบบนี้ได้ ต้องขอกราบขอบพระคุณทุกท่านที่กรุณา ครับ
วันนี้เช้าผมอยู่บ้าน นั่งเจริญสติ สวดมนต์ทำวัตรเช้า และใส่บาตรพระที่หน้าบ้าน ตามปกติที่เคยปฏิบัติถ้าอยู่บ้าน เสาร์-อาทิตย์ คนใส่บาตรลดลงเหลือเพียงสามบ้านเท่านั้น
วันนี้ สิบโมง ผมจะออกเดินทางไปราชบุรี ไปร่วมงานฌาปนกิจศพ คุณพ่อ ของคุณสุภา(เปี๊ยก) ที่วัดช่องลมในเวลา 14:00 น. ได้นัดกับคุณหมอสรรเสริญ เอาไว้แล้ว เพราะกลัวว่าจะหาวัดไม่พบ
มีคุณเหยง อาจารย์ถาวร-คุณญาณิศา ท่านผู้พิพากษาสุภาภรณ์ และอาจารย์พนิดา ฝากซองไปทำบุญด้วย ผมจะจัดการให้ตามวัตถุประสงค์ทุกประการ ขออนุโมทนา
เช้านี้อย่าลืมครับ
สำรวมอินทรย์ ด้วยการรักษากาย วาจา ใจ ให้เป็นปกติเอาไว้ ทุกขณะที่นึกรู้ได้ นั่นละคือการปฏิบัติธรรมละ เพราะการที่คนเราจะสวมรวมกาย วาจา ใจ ให้เป็นปกติได้ตลอดเวลานั้น ต้องมีความรู้สึกตัว หรือมีสติ-สัมปชัญญะ จึงจะกระทำได้ ไม่ตกอยู่ภายใต้ความคิดตัวเอง และให้คอยสังเกต หรือดูอารมณ์เจตสิกที่เกิดขึ้นกับจิตตนเอง ว่าเกิดอะไรขึ้น ดูเฉยๆ ปล่อยวางด้วยจิตของมันเองที่เกิดจากภายใน ไม่ต้องไปบังคับอะไรมันทั้งสิ้น ให้เป็นตามธรรมชาติ ท่านจะพบกับสุขที่แท้จริง เมื่อท่านหยุดการปรุงแต่งทางความคิด นั่นละสุขถาวรละ
สวัสดีครับ
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #6645 เมื่อ: 28 กรกฎาคม 2555, 08:15:50 » |
|
โอลิมปิค 2012 หรือ London เกมส์ เปิดฉากขึ้นแล้วอย่างเป็นทางการ เมื่อเช้ามืดนี้ครับ
ผมมีโอกาสได้ดูพิธี จุดไฟโอลิมปิค ขณะนั่งรอพระมาบิณฑบาตรที่หน้าบ้าน
ทีแรกที่เห็น นึกว่า(ปรุงแต่งเมื่อตาเห็นรูป)ผู้จัด จะใช้ปืนไฟแบบคานดีดอาศัยแรงเหวี่ยงจากความยืดหยุ่น เป็นเครื่องยิงใส่กระถางคบเพลิง เพราะจำลองมาแบบเครื่องยิงโบราณ ปรากฏว่าไม่ยิงตามคาด เพียงยกให้ไปรวมกันเป็นกระถางคบเพลิง ก็ดีครับ ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เช่น คนวิ่ง จุดคบเพลิง ก็ใช้ทายาทของอดีตนักกีฬาผู้มีชื่อเสียงในอดีต กระทำแทน
สวัสดีครับ
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #6646 เมื่อ: 28 กรกฎาคม 2555, 13:54:22 » |
|
พี่สิงห์
ขอบพระคุณครับ ที่เป็นธุระให้
Olympic ไม่ได้ติดตามเลยครับ....ตามแต่สถานการณ์หนี้เน่าของยูโร
หลายประเทศ เขาคงแข่งไป ร้องไห้ไป เพราะหมดกีฬาเมื่อไหร่ เจอเช็คบิลแน่นอน
โดยเฉพาะ กรีซ สเปน ตามด้วยอิตาลี
|
|
|
|
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์
รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644
|
|
« ตอบ #6647 เมื่อ: 28 กรกฎาคม 2555, 20:16:14 » |
|
คุณเปี๊ยก ฝากขอบคุณมาด้วยครับ
สำหรับหนี้ยูโร สำหรับผม คงไม่เป็นไร เพราะไม่ใช่พ่อค้า ได้แต่ระวัง เพราะมันมีผลกระทบแน่นอน มันต้องเป็นลูกโซ่ ใครเตรียมตัวดีก็รอด พวกนักเสี่ยง ก็ต้องวัดดวง(มันไม่มีจริง ต้องใช้ปัญญา)
ราตรีสวัสดิ์ครับ
|
|
|
|
|
เหยง 16
|
|
« ตอบ #6649 เมื่อ: 29 กรกฎาคม 2555, 22:10:25 » |
|
|
|
|
|
|