28 มีนาคม 2567, 14:53:24
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 269 270 [271] 272 273 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3207020 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ประทาน14
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2514
คณะ: เภสัชศาสตร์
กระทู้: 999

« ตอบ #6750 เมื่อ: 17 สิงหาคม 2555, 21:01:25 »

อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 17 สิงหาคม 2555, 20:32:38
เห็นจะไม่ไหวอะครับคุณประทาน
 เค้าไม่ยอม แบร่่!!! ขึ้นเลย
แหม...หอเราเลยขาดกิจกรรมดีๆไปอีกหนึ่งกิจกรรม
พี่ๆน้องๆที่อยากจะรำแห่นางแมวก็ไปลอบบี้พี่ป๋องเอาเองนะครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6751 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2555, 09:55:05 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่งและแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                             เวลาบ่ายๆ ของนครศรีธรรมราช จะต้องมีพายุลมแรง เมฆฝนมึดครึ้มเต็มท้องฝ้า มาจากเขาหลวง แต่ไม่มีฝนตก ลมมันพัดไปสู่ทะเลอ่าวไทยหมด  ดังนั้นนครศรีธรรมราช พัทลุง จึงแล้งไม่มีฝน  ไม่มีน้ำประปาจะบริโภค กันแล้ว

                             คงจะต้องหาวิธีแห่นางแมวกันบ้างแล้ว  แต่ผมก็ไม่รู้ว่าทางใต้เขาทำกันหรือเปล่า ครับ

                             ที่โรงแรมก็เงียบเหงา ไม่มีนักการเมือง หรือรัฐมนตรีเดินทางมาเปิดสัมมนาแต่ประการใด

                             สองวันมาแล้วที่ผม หลังจากสวดมนต์ทำวัตรเช้า นั่งภาวนา แล้วจะลงมาออกกำลังกายด้วยมวยจีน  โยคะ แต่ผมเพิ่มการว่ายน้ำเข้าไปอีก ว่ายเสร็จจะรู้สึกว่าสดชื่นขึ้นมาก  หัวใจ-ปอดได้ทำงานมากขึ้น แต่ผมเริ่มว่ายแบบไม่มากเพียงแค่ไป-กลับ สอบรอบความยาวสระก็พอ เอาไว้ค่อยๆ เพิ่มที่หลังเพราะกล้ามเนื้อมันยังไม่ชินกับท่าว่ายน้ำ

                            วันนี้เย็นผมต้องเดินทางกลับโดยสายการบิน Air Asia ไปลงที่สุวรรรภูมิ เพราะว่าของ Nok Air เต็ม ครับ

                            สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #6752 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2555, 10:00:40 »


...สวัสดีค่ะ...พี่สิงห์และสมาชิกทุกท่าน...

...สงสัยว่าฝนคงมาตกอยู่ที่พัทยาค่ะ...

...ตกทุกวัน...โดยเฉพาะตอนเย็นๆค่ะ...

...แต่ตอนกลางวันแดดจะร้อนมากๆและไม่มีเค้าว่าฝนจะตกเลย...

...ถ้าแดดทางใต้ร้อนมากๆ...อีกไม่กี่วันฝนคงตกค่ะ...

...แต่ก็ดีนะคะ...ฝนไม่ตกการท่องเที่ยวก็ไม่เสียหาย...

...ปลอดภัยต่อการเดินทางดีค่ะ...
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6753 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2555, 10:03:34 »

อ้างถึง
ข้อความของ ประทาน14 เมื่อ 17 สิงหาคม 2555, 21:01:25
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 17 สิงหาคม 2555, 20:32:38
เห็นจะไม่ไหวอะครับคุณประทาน
 เค้าไม่ยอม แบร่่!!! ขึ้นเลย
แหม...หอเราเลยขาดกิจกรรมดีๆไปอีกหนึ่งกิจกรรม
พี่ๆน้องๆที่อยากจะรำแห่นางแมวก็ไปลอบบี้พี่ป๋องเอาเองนะครับ

สวัสดีครับ คุณประทาน  และชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                             ถ้า ดร.สุริยา  ยอมเป็นนางแมว  ผมจะหากลองยาวไปช่วยแห่ ครับ ชาวนาจะได้มีฝน ช่วยให้ข้าวไม่แห้งตายคาท้องนา  จริงๆ มันเป็นเรื่องที่ดี  ที่ ดร.สุริยา  ควรกระทำ

                             และผมก้เชื่อว่า นาข้าวแถวๆ ทับทัน นั้นแห้งตายหมดแล้ว ชาวนาทับทันกำลังรอ ดร.สุริยา  ด้วยความหวัง

                             ปัจจุบันการทำนาของชาวนานั้น (ที่อุทัยก็มีมาก) จะใช้วิธีเจาะบ่อบาดาลในท้องนา  สูบน้ำขึ้นมาทำนา แทนน้ำฝน หรือน้ำจากคลองชลประทาน 

                             แต่ในความเห็นของผมนั้น  ไม่ควรกระทำเลย เอาน้ำบาดาลไว้บริโภค นั้นดี  แต่เอามาทำนานั้นไม่สมควรเพราะการทำนา ทำสวนต้องใช้น้ำแยะมาก เมื่อสูบน้ำขึ้นมามาก จะทำให้ระดับน้ำใต้ดินลดลงไปอีก  ความชุ่มชื้นที่ผิวดินจะหายไป  ยิ่งแล้งหนักเข้าไปอีก  ไม่มีใครชี้แจง  ชาวนาจึงขุดบาบาลสูบน้ำขึ้นมาทำนา ทำสวนกันมาก ไม่ถูกต้องเลย

                             สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6754 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2555, 10:17:05 »

อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 18 สิงหาคม 2555, 10:00:40

...สวัสดีค่ะ...พี่สิงห์และสมาชิกทุกท่าน...

...สงสัยว่าฝนคงมาตกอยู่ที่พัทยาค่ะ...

...ตกทุกวัน...โดยเฉพาะตอนเย็นๆค่ะ...

...แต่ตอนกลางวันแดดจะร้อนมากๆและไม่มีเค้าว่าฝนจะตกเลย...

...ถ้าแดดทางใต้ร้อนมากๆ...อีกไม่กี่วันฝนคงตกค่ะ...

...แต่ก็ดีนะคะ...ฝนไม่ตกการท่องเที่ยวก็ไม่เสียหาย...

...ปลอดภัยต่อการเดินทางดีค่ะ...


สวัสดีครับ คุณน้องตู่ ที่รัก

                           สงสัยมันจะเป็นจริง ลมมันพัดเอาฝนข้ามอ่าวไทยไปทางพัทยา

                           นครศรีธรรมราช ถึงจะเป็นเมืองท่องเที่ยว  มีแหล่งท่องเที่ยวมากก็จริง

                           แต่ไม่มีนักท่องเที่ยวมาเลย  แต่ละอาทิตย์จะมีน้อยมาก มีเฉพาะคนมาเลเซีย ถ้าเป็นคนไทย  ทัวร์ไทยแล้ว  แทบจะไม่พบเลย  มีแต่พวกมาสัมมนาเท่านั้น  คนท้องถิ่นเขาก็ไม่เที่ยวกัน

                           ผู้จัดการ ททท. ที่มาใหม่แต่ละคน มีแต่ความคิดเดิมๆ  มีข้ออ้างทั้งนั้น  มันจึงส่งเสริมการท่องเที่ยวไม่ถูกทาง  สัมมนากับภาคเอกชนก็แล้ว ระดมความคิดก็แล้ว มีแต่คนเก่ง  พุดเก่ง แต่คนก็ยังไม่มาเที่ยวนครศรีธรรมราชเหมือนเดิม

                           สวัสดีค่ะ
      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #6755 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2555, 11:00:05 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 17 สิงหาคม 2555, 14:18:51
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 17 สิงหาคม 2555, 11:44:08
พี่สิงห์

เมื่อวานนี้ ผมพาพี่หลิว และหมอตุ่น ไปสำรวจบึงบรเพ็ด เพื่อพาชาวหอเก่าไปเยี่ยม ในต้นเดือนตุลาคม นี้ พบว่า

1.อาคารที่พักซึ่งเป็นเรือนไม้อย่างดี ขณะนี้อยู่ในช่วงกำลังซ่อมแซมครับ คาดว่าอาจจะเสร็จทันเดือนตุลาคม ที่จะถึงนี้

2.ทางกรมประมงได้ถ่ายน้ำออกจากบึงบรเพ็ด เพื่อทำการลอกตะกอนและดินก้นบึงออก เพื่อเพิ่มความจุของน้ำ หากเกิดอุทกภัย ส่งผลให้ระดับน้ำในบึงลดต่ำมาก ขนาดเรือไม่สามารถพานักท่องเที่ยวออกชมบึงบรเพ้ดได้ เรือจอดแช่อยู่ริมฝั่งทั้ง 5 ลำ โดยเจ้าหน้าที่คาดว่า หากมีฝนตกใหญ่ ก็จะช่วยเพิ่มระดับน้ำขึ้นมา
     อย่างไรก็ตาม งานขุดลอกยังดำเนินต่อไปอย่างไม่ทราบวันจบ (ภาพอาจจะมีในห้องไปเยี่ยมพี่ที่นครสวรรค์และพิษณุโลก ของหมอตุ่นครับ)

3.เส้นทางจากแยกห้างแมคโครไปอุทยานบึงบรเพ็ด (ในสังกัดกรมประมงและ อบจ.นครสวรรค์) มีดินตกเรี่ยอยู่บนผิวพื้นถนน จากรถบรรทุกดินจำนวนมากที่อยู่ในโครงการขุดลอก ทำตกเอาไว้

หากจะไปพักค้างแรม เพื่อ"ชมนก-ชมดาว" คงต้องเลยช่วงเดือนตุลาคม 2555 นี้ไปก่อนครับ



                อย่าบอกผมเลย  ผมไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น ครับ
แต่เรื่องที่ผมสำรองจ่ายไป 3,000.- บาทค่า ก๊วนโบว์ลิ่งซีมะโด่ง 2513 มานพ กลับดี 1 ก๊วน นั้น
ไม่รับรู้ ไม่รับทราบ ไม่ได้เชียวนะครับ

 เค้าไม่ยอม เค้าไม่ยอม เค้าไม่ยอม
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6756 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2555, 11:46:34 »

อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 18 สิงหาคม 2555, 11:00:05
อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 17 สิงหาคม 2555, 14:18:51
อ้างถึง
ข้อความของ เหยง 16 เมื่อ 17 สิงหาคม 2555, 11:44:08
พี่สิงห์

เมื่อวานนี้ ผมพาพี่หลิว และหมอตุ่น ไปสำรวจบึงบรเพ็ด เพื่อพาชาวหอเก่าไปเยี่ยม ในต้นเดือนตุลาคม นี้ พบว่า

1.อาคารที่พักซึ่งเป็นเรือนไม้อย่างดี ขณะนี้อยู่ในช่วงกำลังซ่อมแซมครับ คาดว่าอาจจะเสร็จทันเดือนตุลาคม ที่จะถึงนี้

2.ทางกรมประมงได้ถ่ายน้ำออกจากบึงบรเพ็ด เพื่อทำการลอกตะกอนและดินก้นบึงออก เพื่อเพิ่มความจุของน้ำ หากเกิดอุทกภัย ส่งผลให้ระดับน้ำในบึงลดต่ำมาก ขนาดเรือไม่สามารถพานักท่องเที่ยวออกชมบึงบรเพ้ดได้ เรือจอดแช่อยู่ริมฝั่งทั้ง 5 ลำ โดยเจ้าหน้าที่คาดว่า หากมีฝนตกใหญ่ ก็จะช่วยเพิ่มระดับน้ำขึ้นมา
     อย่างไรก็ตาม งานขุดลอกยังดำเนินต่อไปอย่างไม่ทราบวันจบ (ภาพอาจจะมีในห้องไปเยี่ยมพี่ที่นครสวรรค์และพิษณุโลก ของหมอตุ่นครับ)

3.เส้นทางจากแยกห้างแมคโครไปอุทยานบึงบรเพ็ด (ในสังกัดกรมประมงและ อบจ.นครสวรรค์) มีดินตกเรี่ยอยู่บนผิวพื้นถนน จากรถบรรทุกดินจำนวนมากที่อยู่ในโครงการขุดลอก ทำตกเอาไว้

หากจะไปพักค้างแรม เพื่อ"ชมนก-ชมดาว" คงต้องเลยช่วงเดือนตุลาคม 2555 นี้ไปก่อนครับ



                 อย่าบอกผมเลย  ผมไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น ครับ
แต่เรื่องที่ผมสำรองจ่ายไป 3,000.- บาทค่า ก๊วนโบว์ลิ่งซีมะโด่ง 2513 มานพ กลับดี 1 ก๊วน นั้น
ไม่รับรู้ ไม่รับทราบ ไม่ได้เชียวนะครับ

 เค้าไม่ยอม เค้าไม่ยอม เค้าไม่ยอม

                      ผมยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริงๆ ครั้งที่ผ่านมาผมก็จ่ายไปครั้งหนึ่งแล้ว

                      ผมเองไม่มีใครโทรศัพท์มาหา มาคุย ในส่วนของสมาคมเลย  ผมเองไม่เคยติดตามไปอ่านข่าวสารที่ไหนเลยในเวบ  นอกจากของคุณหนุ๋งหนิ๋ง

                       ผมก็ทำตัวเหมือนพี่เก่าๆ ทั่วไป คือ เขาไม่ปรึกษา  เขาไม่โทรศัพท์มาหา เราจะเสนอหน้าไปได้อย่างไร เพราะสมัยผมที่ผ่านมานั้น ผมโทรศัพท์ไปหา  ไปเชิญ ด้วยตัวเองเป็นหลัก เสมอ  เพราะผมถือว่า ผมไปขอความช่วยเหลือ ผมเป็นประธานชมรมฯ  ผมก็ต้องโทรศัพท์ ไปด้วยตัวเอง ครับ

                        ผมถึงบอกว่าอะไรที่โทรศัพท์ มาหาผม  มาเชิญผม  ผมไม่เคยปฏิเสธเลยสักครั้ง  และอย่ามาเดาว่าผมรู้เรื่อง เพราะผมไม่ได้รับข่าวอะไรเลย  และไม่อยากไปหาด้วย เช่น คุณราเมศวร์โทรศัพท์ให้ผมไปพูดให้เด็กฟังตอนรับน้องใหม่ ผมก็ไป   และขอให้ผมให้ทุนค่าหอ  ผมก็ให้  ทำให้ทั้งนั้น  แต่จะให้ทำให้แบบ ไม่บอก  ให้รู้ด้วยตัวเองนั้น  มันผิดหลักการ ผมก็อุเบกขา เท่านั้น เช่น การจัดไปท่องเที่ยวที่ผ่านมา  ไม่มีใครบอกผม ไม่มีใครเชิญผม ผมก็อุเบกขา เพราะผมไม่เคยทำแบบนั้น

                        ครั้งนี้ผมก็ไม่รู้เรื่อง ดร.สุริยา  ต้องออกเอง  ครั้งที่แล้วผมออกไปแล้ว  ครั้งนี้ก็ไม่มีใครบอก เชิญ ขออุเบกขา  อย่าไปคิดว่าผมรู้  ผมไม่รู้อะไรเลย  นอกจากในหน้านี้เท่านั้น

                        ไม่บอก  ไม่เชิญ  ก็ขอ อุเบกขา ครับ เพราะไม่อยากก้าวก่ายทั้งสิ้น

                        สวัสดี
      บันทึกการเข้า
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #6757 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2555, 12:24:02 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 18 สิงหาคม 2555, 10:17:05
อ้างถึง
ข้อความของ too_ploenpit เมื่อ 18 สิงหาคม 2555, 10:00:40

...สวัสดีค่ะ...พี่สิงห์และสมาชิกทุกท่าน...

...สงสัยว่าฝนคงมาตกอยู่ที่พัทยาค่ะ...

...ตกทุกวัน...โดยเฉพาะตอนเย็นๆค่ะ...

...แต่ตอนกลางวันแดดจะร้อนมากๆและไม่มีเค้าว่าฝนจะตกเลย...

...ถ้าแดดทางใต้ร้อนมากๆ...อีกไม่กี่วันฝนคงตกค่ะ...

...แต่ก็ดีนะคะ...ฝนไม่ตกการท่องเที่ยวก็ไม่เสียหาย...

...ปลอดภัยต่อการเดินทางดีค่ะ...


สวัสดีครับ คุณน้องตู่ ที่รัก

                           สงสัยมันจะเป็นจริง ลมมันพัดเอาฝนข้ามอ่าวไทยไปทางพัทยา

                           นครศรีธรรมราช ถึงจะเป็นเมืองท่องเที่ยว  มีแหล่งท่องเที่ยวมากก็จริง

                           แต่ไม่มีนักท่องเที่ยวมาเลย  แต่ละอาทิตย์จะมีน้อยมาก มีเฉพาะคนมาเลเซีย ถ้าเป็นคนไทย  ทัวร์ไทยแล้ว  แทบจะไม่พบเลย  มีแต่พวกมาสัมมนาเท่านั้น  คนท้องถิ่นเขาก็ไม่เที่ยวกัน

                           ผู้จัดการ ททท. ที่มาใหม่แต่ละคน มีแต่ความคิดเดิมๆ  มีข้ออ้างทั้งนั้น  มันจึงส่งเสริมการท่องเที่ยวไม่ถูกทาง  สัมมนากับภาคเอกชนก็แล้ว ระดมความคิดก็แล้ว มีแต่คนเก่ง  พุดเก่ง แต่คนก็ยังไม่มาเที่ยวนครศรีธรรมราชเหมือนเดิม

                           สวัสดีค่ะ


...จริงเหรอคะ...พี่สิงห์...

...ที่จังหวัดนครศรีธรรมราชไม่มีการส่งเสริมการท่องเที่ยว...

...เดี๋ยวนี้ตู่เห็นทุกอำเภอ...ทุกตำบล...มีอะไรนิดอะไรหน่อย...เค้าจะจัดโปรโมททันทีค่ะ...

...คล้ายๆโอท็อป...

...จริงๆที่สิชล...ก็น่าจะส่งเสริมได้...มีชายหาด...มีอาหารทะเล...มีน้ำตกวิภาวดี...มีพระธาตุนคร...ค่ะ...

...จำได้ว่าตอนที่สุราษฎร์ยังไม่มีท่าเรือเฟอรี่ไปสมุย...

...ก็จะต้องไปขึ้นเรือที่ท่าเรือดอนสัก...ตรงนั้นน่าจะเจริญแล้ว...

...และน่าจะทำเป็นที่ท่องเที่ยวได้ค่ะ...

...เสริมกับโอท็อปด้วย...คงไปโลด...
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #6758 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2555, 12:37:40 »

สวัสดีค่ะ  พี่สิงห์      รักนะ

หยีและลูกชายเดินทางกลับถึงลิสบอนแล้ว โดยปลอดภัย
กราบขอบพระคุณพี่สิงห์ที่กรุณาชวนทานข้าวและช่วยแนะนำการใช้ชีวิต การทำงาน กับลูกชาย
ในช่วงที่เราอยู่เมืองไทย

      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6759 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2555, 14:02:33 »

อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 18 สิงหาคม 2555, 12:37:40
สวัสดีค่ะ  พี่สิงห์      รักนะ

หยีและลูกชายเดินทางกลับถึงลิสบอนแล้ว โดยปลอดภัย
กราบขอบพระคุณพี่สิงห์ที่กรุณาชวนทานข้าวและช่วยแนะนำการใช้ชีวิต การทำงาน กับลูกชาย
ในช่วงที่เราอยู่เมืองไทย



สวัสดีค่ะ คุณน้องยาหยี ที่รัก

                               ยินดีด้วยที่เดินทาง ปลอดภัย

                               พี่สิงห์  ก็ลืมไปเลยว่าเธออยู่เมืองไทย (นี่ละนักปฏิบัติธรรม มันคิดอยู่เฉพาะสิ่งที่อยู่ตรงหน้าครับ)

                               สวัสดีค่ะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6760 เมื่อ: 18 สิงหาคม 2555, 14:06:29 »

สวัสดีค่ะ คุณน้องตู่ ที่รัก

                         ทาง ททท.นครศรีธรรมราช เขาก็ส่งเสริม  เขาว่าเขาก็มีวิสัยทัศน์  รวมทั้งท่านผู้ว่าราชการจังหวัดด้วย

                         แต่โดยทั่วไป  คนเขาไม่มาท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช ครับ

                         แปลก แต่ จริง

                         แต่มีเครื่องบิน บินมาลงนครศรีธรรมราช วันละ ๖ เที่ยวบินจัดว่ามาก แต่เป็นคนท้องถิ่นที่เดินทางระหว่าง กทม.-นครศรีฯ เป็นส่วนใหญ่ และคนมาทำงานแบบพี่สิงห์ คือ พวก CHEVRON ครับ

                         สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6761 เมื่อ: 20 สิงหาคม 2555, 10:36:06 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                              วันนี้อยู่ กทม. เลยได้หุงข้าว ใส่บาตรพระในตอนเช้า ที่หน้าบ้าน

                              ผมได้รับข้อความส่วนตัวจากคุณน้อง Kaimook เธอยังมีความเศร้าโศก และเสียดายที่ไม่ได้อยู่กับคุณพ่อ ณ เวลาที่ท่านจากไป  ผมก็เลยได้ส่งข้อความให้เธอได้พิจารณา  เพื่อให้จิตกลับมาอยู่กับความจริง  จะได้คลายความเศร้า-โศก ลงได้

                              วันอังคาร-พุธ ผมอยู่สิงห์บุรี เพราะวันอังคารต้องไปงานสวดพระอภิธรรมศพ ที่วัดโบสถ์ อินทร์บุรี ตอนค่ำ ศพท่านอดีตนายอำเภอสุวัจน์   ทับทิบทอง คุณพ่อของเพื่อนรัก และเป็นคนที่คุณพ่อ ผม ได้เกี่ยวข้องด้วยมานาน เราในฐานะลูก  ก็ต้องทำหน้าที่แทนท่าน

                               วันพุธบ่าย ผมมีประชุมที่ PSTC สระบุรี

                               สำหรับเรื่องโบลิ่งการกุศล นั้น ทางสมาคมจัดวันเสาร์ ผมติดประชุมที่ นครศรีธรรมราช  ก็คงต้องให้เป็นโอกาสของ ดร.สุริยา  กระทำหน้าที่แทน แล้วครับ

                               เดี๋ยวนี้ ผมมีความรู้สึก เข้าใจได้มากขึ้น  ในสมัยที่ผมเป็นประธานชมรมฯ นั้นเราพยายามไม่รบกวนรุ่นพี่ ที่เกษียรอายุแล้ว ยกเว้นถ้าพี่ๆ ท่านมีฐานะดี เช่นพี่กาญจนา เป็นต้น  นอกนั้นเราจะเรียนเชิญให้ท่านมาร่วมงาน แต่จะไม่รบกวนเรื่องเงิน เพราะท่านที่เกษียรอายุนั้น ไม่มีรายได้แล้ว   ผมเองเข้าใจดียิ่งขึ้นในขณะนี้  เพราะตกในสภาพเดียวกัน

                                คนที่เกษียรอายุ  ที่ไม่มีเงินเก็บมากพอ นั้นลำบากครับ ต้องช่วยตัวเองในทางการเงิน ดังนั้นโอกาสที่จะช่วยเหลือสังคม ย่อมน้อยลงตามไปด้วย 

                                ความเห็นผม สมาคม มันควรจะเป็นหน้าที่ของคนปัจจุบันที่มีรายได้เพียงพอ มีเหลือแล้วต่างหาก ที่จะดูแลสมาคมต่อไป  อย่าไปรบกวนคนที่เกษียรอายุเลย  เรียนเชิญให้ท่านมาร่วมงาน ก็เพียงพอแล้ว  เกียรติยศ  ชื่อ-เสียง  มันไม้ต้องการแล้ว ขอเพียงปัจจัย ๔ ที่พออยู่ได้ เท่านั้น เป็นพอ มันเลยวัยย์ที่จะทำอะไร ๆ ได้แล้ว  แต่ถ้าใคร ยังอยากอยู่ก็เรียนเชิญตามสะดวก  ยกเว้นผมครับ  รู้ตัวดี

                                 การที่คนเราจะหนีความรับรู้ทางสังคม  โดยผ่านทางตา  หู  จมูก  ลิ้น  กาย  ใจ ไปนั้น กระทำไม่ได้เพราะมันเป็นธรรมชาติ เราไม่มีอำนาจเหนือมัน หรือจะไปบังคับมัน ไม่ให้รับรู้  ไม่ได้ครับ

                                 แต่เราสามารถรู้เท่าทันมันได้  อยู่กับมันได้   ขอเพียงให้มีความรู้สึกตัว(สติ-สัมปชัญญะ)เข้าไว้  ปัญญามันเกิดเอง  ที่จะไม่ยึดติด  ไม่อยาก ลงได้  เราก็อยู่ของเราได้  ไม่ต้องสนใจสังคม หรือคนอื่นมากนัก  สนใจแต่ตัวเราเองที่จะรักษา กาย  วาจา  ใจ  ให้เป็นปกติ  ด้วยการสำรวมอินทรีย์ทั้ง ๖ ไม่ยินดี  ยินร้าย   ถ้าทำได้ ความยึดมั่น ถือมั่นในรูป-นาม มันจะจางลง  ความอยากจะจางลง  และความคิดปรุงแต่งจะจางลง  เราก็อยู่ของเราไป ด้วยความไม่ประมาททั้งรูป-นาม  รอวันจากไปได้ อย่างปกติ มีความปรุงแต่งทางความคิดน้อยๆ หรือไม่ปรุงแต่งเลย  นั่นละสุขที่แท้จริงครับ

                                 สวัสดี




      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6762 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2555, 08:48:23 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง และแขกผู้มาเยือน ที่รักทุกท่าน

                               ไม่มีใครมาเขียนอะไรทิ้งไว้เลย

                                มันก็เป็นไปตามกฏไตรลักษณ์ทั้งสิ้น คือเป็นอนิจจัง  ทุกขัง  อนัตตา

                                เมื่อเป็นเช่นนี้ก็อย่าไปหลงอยู่ในความคิดตนเอง  

                                อย่าไปยึดมั่น ถือมั่นในรูป-นาม ของเราอยู่เลย มีแต่ทุกข์ เพราะมีแต่รูป-นาม เท่านั้นที่เป็นตัวทุกข์ อะไรที่แสดงเป็นตัว เป็นตนของเรามันอยู่ไหน  มันไม่มี มันเป็นเพียงนาม หรือสมมติบัญญัติที่ตั้งกันขึ้นมาเพื่องเรียกขานรูป-นาม แต่ละรูปนามเป็นที่เข้าใจกันได้เท่านั้น

                                เมื่อมันไม่มีตัวตนของเรา เราก็ไม่ได้ทุกข์ไปด้วยสักหน่อย ที่เป็นตัวทุกข์ ที่แสดงว่าเป็นตัวตนของเรา นั้นเราหลงไปเองทั้งสิ้น  มองความจริงอันนี้ไม่ออก  มันจึงมีแต่ความคิดปรุงแต่ง  เมื่องมีความคิดปรุงแต่ง ก็มีแต่ความไม่สบายกาย  ความไม่สบายใจ คือความทุกข์นั่นเอง  อย่าจมปรักอยู่ในความคิดตนเอง  ถอนออกมาด้วยการมีสติ-สัมปชัญญะ คือความรู้สึกตัวนี่ละ ความคิดปรุงแต่งมันจะจางลง หรือหมดไป ความยึดมั่น  ถือมั่น มันจะจางลง หรือมอดหมดไปในที่สุด  ความทุกข์มันก็จะไม่บังเกิดขึ้นกับรูป-นามที่แสดงเป็นตัวตนของเราตามสมมติบัญญัอีกต่อไป

                                แต่ความทุกข์มันก็ยังคงอยู่ของมันอย่างนั้น เพราะธรรมชาติมันเป็นอย่างนั้น

                                ความปราถนาอยากให้ผู้อื่นพ้นทุกข์  มันก็เป็นทุกข์เสมอ  แต่เป็นทุกข์ที่มีโทษน้อย เพราะมันผ่านไปแล้ว  ไม่มีอะไรน่าจดจำ

                                วันนี้ได้ตื่นขึ้นมาสวดมนต์ทำวัตรเช้า  นั่งเจริญสติ ทำโยคะ หุงข้าว เดินไปซื้อกับข้าวและใส่บาตรพระตอนเจ็ดโมงเช้าที่หน้าบ้าน

                                 เราเกิดมานี้ ส่วนใหญ่ คนเขามองเราว่าไม่คุ้มค่าเลย  ไม่หาความสุขใส่ตัวตามทางโลก  ไม่ทำมาหากินให้มีเงินแยะๆ  จนร่ำรวย  ไม่มีภรรยา-บุตรเพื่อสืบสกุล เสียดายความรู้  จะต้องหายไป ต่างๆ นาๆ  อีกมากมายนัก

                                 มันก็เป็นจริงตามที่เขาพูดไว้ทุกประการ  ถ้าเรายังยึดมั่นในชีวิตสังคมแบบคนทั่วๆ ไป  เราเกิดมาเสียชาติเกิดจริงๆ ไร้ซึ่งเกียรติยศ  เงินทอง  สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่โก้หรูเลย   พอแก่เฒ่า  ไม่มีใครสนใจ  ไม่มีใครเลี้ยง หรือเมตตาสงสาร  มีแต่จะสมน้ำหน้า เพราะไม่ทำมาหากิน  คดโกงเก็บเงินเอาไว้แยะๆ เหมือนอย่างคนอื่นๆ ที่มีบ้านใหญ่โต  ร่ำรวย มีลูกหลาน  มีเพื่อนฝูง  มีหน้าตาในสังคม  ได้ท่องเที่ยวทั่วโลก  มีแต่ความสุข  ความสะดวก  สะบาย  เราเองต่างหาก  ที่ตรงข้ามในสิ่งที่กล่าว

                                  มันชั่งเป็นมารที่ร้ายมากเสียเหลือเกินหนอเรา  

                                  ใครจะคิดอย่างไรก็เรื่องของเขา  เราอยู่ของเราโดยไม่ทำให้ใครเดือดร้อน  เราไม่ได้พึ่งใคร  เราไม่ได้ไปเอาเงินของใคร  เราก็อยู่ของเราแบบนี้  คนอื่นมีแต่นำทุกข์(ความวิตกกังวล) มาให้เราทั้งนั้น  ทำไมเราต้องทำตามเขาด้วย หรือกระทำตามแบบนั้นๆ ด้วย  เรานี่โง่บัดสบ จริงๆ  ทั้งๆที่เรารู้ความจริงของรูป-นาม

                                  อย่าไปหลงตามเขาเลย  มันเป็นเรื่องของเขา  ความปราถนาของเขา  ปล่อยวางไปให้หมด  อย่าไปยึดมั่นในรูป-นามที่เขาสมมติให้แสดงเป็นตัวตนของเราเลย  มันไม่มีตัวตนที่แท้จริงหรอก

                                  หลายวันมานี้ ต้องเตือนตัวเองให้จงหนัก  เพื่อไม่ให้หลงอยู่ในโมหะมากไป  จนสติ-สัมปชัญญะ มันจางลง เพราะอวิชชา  ทั้งนั้น  ความคิดปรุงแต่ง จึงบังเกิดขึ้น มีแต่ทุกข์

                                  เอาละรู้ตัวแล้ว

                                  ทุกท่านฝึกเอาไว้นะครับ เวลาหลงอยู่ในความคิด  แช่อยู่ในความคิด  เพ่งอยู่กับอะไรอยู่ก็ตาม เมื่อกลับมารู้ตัวว่าเราหลงไปแล้ว  นั่นละตัวรู้ที่เราต้องการ สำหรับการปฏิบัติธรรมละ  แต่อย่าไปแช่ติดอยู่ในตัวรู้ มันจะเป็นความคิดไป   ไม่่ถูกต้องเพราะตัวรู้มันก็เป็นไปตามกฏไตรลักษณ์ เหมือนความคิด

                                   ขอให้รู้สึกตัวบ่อยๆ   รู้เข้าไว้ให้มากๆ  มันจะดีเอง เพราะตัวไม่รู้มันจะจาง และหมดไปเมื่อ รูป-นาม ที่แท้จริงมันแสดงตนออกมาเอง เมื่อสุกงอมเหมือนผลไม้ ฉันใด ฉันนั้น  หรือพอให้จิตมันตื่น หรือเป็นจิตของผู้รู้  ในความหมายของนักปฏิบัติธรรมทั้งหลาย

                                  สวัสดีครับ


      บันทึกการเข้า
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #6763 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2555, 09:42:10 »


...สวัสดีค่ะ...พี่สิงห์และสมาชิกทุกท่าน...

...คนเรามันไม่เหมือนกันทุกคนค่ะ...

...อะไรที่เราคิดว่าทำแล้วมีความสุขและไม่ผิดศีล 5 ก็ทำไปเถอะค่ะ...

...ทุกอย่างเป็นประสบการณ์ชีวิตที่มีคุณค่าทั้งนั้น...

...เราไม่สามารถไปกำหนดกฎเกณฑ์ให้ใครๆมาทำอย่างที่เราชอบได้ค่ะ...

...ซึ่งในความคิดของเค้า...เค้าก็คิดว่าของเค้าถูก...

...และอาจคิดว่าแบบของพี่สิงห์สุดโต่งไปเลยก็ได้...

...เราอาจอยู่ในทางโลกแบบเค้าๆ...ไม่จำเป็นต้องมากเกินไปหรือน้อยเกินไป...

...แต่ในอีกเสี้ยวนึง...เราก็มีโลกส่วนตัวของเราซึ่งเป็นแบบที่เราชอบ...

...เราก็ไปของเราก็ได้...และถ้าเค้าไม่ชอบก็ไม่จำเป็นต้องดึงเค้าเข้ามาค่ะ...

...เหมือนตอนตู่ไปอยู่วัด...บางทียังนึกอัศจรรย์ใจตัวเองเหมือนกันว่า...เออ...เราก็เก่งเหมือนกันนะ...

...สำหรับคนบางคนมันทำได้ยากค่ะ...ที่จะลดอีโก้ตัวเองไปเป็นแบบนั้น...

...ต้องไปอยู่ในห้องที่ไม่มีอะไรเลย...นอกจากเตียงเก่าๆพื้นก็ไม่เสมอกัน...ตื่นมาทีตัวงี้เจ็บปวดไปหมด...

...แต่ก็จำเป็นต้องใช้เพราะถ้านอนพื้นกระเบื้องนานๆก็มีผลกับร่างกายเหมือนกันถึงจะมีเสื่อปูก็ตาม...

...ห้องที่อยู่ผ้าม่านก็ไม่มีค่ะ...แต่คนเก่าๆที่เคยมาอยู่เค้าเอากระดาษหนังสือพิมพ์ไปแปะตรงช่องแสงข้างบน...

...เอาผ้าห่มพีทีไอสีเหลืองเก่าๆมากั้นหน้าต่างที่อยู่ตรงหัวนอนด้านเดียว...แล้วใช้ไม้หนีบกับมุ้งลวด...

...แล้วตั้งพระพุทธรูปองค์เล็กๆไว้ตรงช่องแสงองค์นึง...เพราะในห้องไม่มีตู้ที่มีระดับสูงเหนือหัวเรา...

...มีโต๊ะเตี้ยๆแบบพับได้หนึ่งตัวไว้สำหรับวางของใช้จิปาถะ...เช่น..ไฟฉาย...หนังสือธรรมะ...

...ห้องกว้างประมาณสี่เมตรคูณหกเมตรค่ะ...นอนได้ 3-4 คน...แต่มีเราอยู่คนเดียว...

...ผ้าม่านในห้องน้ำก็ใช้ผ้าขาวเก่าๆเห็นแล้วอย่างเปลี่ยนให้ใหม่ค่ะ...

...ประตู่ห้องก็เสีย...ลูกบิดใช้ไม่ได้...เวลาออกนอกห้องใช้กระดาษแข็งๆพับให้หนาหน่อยแล้วหนีบกับขอบประตูค่ะ...

...ส่วนเวลาอยู่ในห้องก็มีล็อคด้านในที่เป็นล็อคพลาสติคแบบหน้าต่างมุ้งลวดค่ะ...

...ถ้าใช้บ่อยๆเดี๋ยวมันก็คงเสียง่ายเหมือนกัน...

...ฝักบัวใช้ได้ค่ะ...แต่ที่เสียบฝักบัวเสีย...หักและหายไปไหนก็ไม่รู้...

...แต่ภายหลังไปเล่าให้คนอื่นฟัง...เค้าก็เอาที่เสียบมาให้ค่ะ...บอกไม่ได้ใช้แล้ว...

...พอดีน้องที่มาบวชชีพราหมณ์เค้าเป็นช่างด้วย...บ้านเค้ารับซ่อมมอเตอร์ไซค์ค่ะ...เลยมาทำให้...

...แต่ประตูเดี๋ยวต้องหาช่างไปดู...

...คิดว่าจะไปติดม่านให้ค่ะ...เผื่อคนอื่นมาถือศีลเค้าจะได้ไม่ลำบากเหมือนเรา...

...หมอถามว่าแล้วทำไมวัดเค้าไม่ซ่อม...เค้าคงไม่สะดวกที่จะหาช่างหรืออะไรก็แล้วแต่...

...ไม่อยากไปถามเค้าค่ะ...เราพอที่จะรับภาระได้...ก็ยินดีค่ะ...ได้บุญด้วย...
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
nok15
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 529

« ตอบ #6764 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2555, 20:07:55 »

    สวัสดีค่ะพี่too
           นกได้อ่านในสิ่งที่พี่เขียน  รู้สึกชื่นชมในปฏิปทาที่พี่ปฏิบัติอย่างมาก
    และขออนุโมทนาในทานมัยที่ี่พี่ทำ(การทำม่าน)
           สาธุ...สาธุ..ขออนุญาตแบ่งบุญจากพี่too ๒๕เปอร์เซ็นต์(ไม่ค่อยงกเท่าไหร่)
    การที่พี่tooสามารถอยู่ที่วัดที่มีสัปปายะน้อยเช่นนั้นอย่างมีความสุขได้เพราะ.....

               
               
     อ้อ...วัดที่พี่tooไปปฏิบัติธรรมอยู่ที่ไหนคะ  ขออนุโมทนากับพี่อีกครั้งนะคะ
             
                 (เอ๊ะ!..จะได้บุญอีก๒๕เปอร์เซ็นต์มั้ยเนี่ยพี่สิงห์   อ๊ะ..ล้อเล่น)
                             
                                  Nok15
      บันทึกการเข้า
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #6765 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2555, 23:42:26 »

สาธุ ... ครับ พี่ตู่ ...  รักนะ

ความสุข มันอยู่ใกล้เรามากเลยนะครับ  อยู่ใกล้ ...แค่ตรงความคิด... นี่เอง
  หลั่นล้า
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6766 เมื่อ: 22 สิงหาคม 2555, 13:47:45 »



                            ความทุกข์ มันอยู่ที่ไหนเล่า !  มันไม่มีตัวไม่มีตน  เราจะไปสนใจมันได้อย่างไร (สนใจน้อยๆ หน่อย) เล่า

                            ตัวที่ทุกข์คือ อุปาทานขันธ์ ๕ (รูป-นาม) นายแดง  นายดำ ที่ว่าทุกข์นั้น มันเป็นเพียงสมมติบัญญัติเท่านั้น  นายแดง  นายดำ  ก้ประกอบไปด้วยขันธ์ ๕ และขันธ์ ๕ มันก็ไม่มีตัว มีตน เพราะเราไม่มีอำนาจเหนือ รูป-นาม ของเราได้  เราก็เลยไม่รู้จะไปสนใจทุกข์มันที่ไหนได้

                            พระพุทธองค์ทรงสอนให้เรา รู้ว่าสาเหตุแห่งการเกิดทุกข์ เกิดจากเหตุ-ปัจจัยอะไร และวิธีดับทุกข์ คือดับที่เหตุ-ปัจจัย นั้น

                            เมื่อรู้เรื่องทุกข์แล้ว พระพุทธองค์ ทรงสอนให้ รู้เท่าทันทุกข์ แต่อย่าไปเป็นทุกข์เสียเอง

                             ด้วยวิธีอะไร ? ก็มีความระลึกได้ในอิริยาบถหลัก-ย่อย หรือเกิดสติ-สัมปชัญญะ เกิดวิปัสสนาปัญญา เพราะเมื่อมีสติ ความคิดจะไม่เกิด  เมื่อไม่เกิดความทุกข์ก็ไม่เกิด เพราะคนทุกข์เพราะคิด  แต่จะทำไฉนให้มีสติสมบูรณ์ได้เท่านั้น

                             สวัสดี
      บันทึกการเข้า
ประทาน14
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2514
คณะ: เภสัชศาสตร์
กระทู้: 999

« ตอบ #6767 เมื่อ: 22 สิงหาคม 2555, 20:44:36 »

อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 18 สิงหาคม 2555, 10:03:34
อ้างถึง
ข้อความของ ประทาน14 เมื่อ 17 สิงหาคม 2555, 21:01:25
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 17 สิงหาคม 2555, 20:32:38
เห็นจะไม่ไหวอะครับคุณประทาน
 เค้าไม่ยอม แบร่่!!! ขึ้นเลย
แหม...หอเราเลยขาดกิจกรรมดีๆไปอีกหนึ่งกิจกรรม
พี่ๆน้องๆที่อยากจะรำแห่นางแมวก็ไปลอบบี้พี่ป๋องเอาเองนะครับ

สวัสดีครับ คุณประทาน  และชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                             ถ้า ดร.สุริยา  ยอมเป็นนางแมว  ผมจะหากลองยาวไปช่วยแห่ ครับ ชาวนาจะได้มีฝน ช่วยให้ข้าวไม่แห้งตายคาท้องนา  จริงๆ มันเป็นเรื่องที่ดี  ที่ ดร.สุริยา  ควรกระทำ

                             และผมก้เชื่อว่า นาข้าวแถวๆ ทับทัน นั้นแห้งตายหมดแล้ว ชาวนาทับทันกำลังรอ ดร.สุริยา  ด้วยความหวัง

                             ปัจจุบันการทำนาของชาวนานั้น (ที่อุทัยก็มีมาก) จะใช้วิธีเจาะบ่อบาดาลในท้องนา  สูบน้ำขึ้นมาทำนา แทนน้ำฝน หรือน้ำจากคลองชลประทาน 

                             แต่ในความเห็นของผมนั้น  ไม่ควรกระทำเลย เอาน้ำบาดาลไว้บริโภค นั้นดี  แต่เอามาทำนานั้นไม่สมควรเพราะการทำนา ทำสวนต้องใช้น้ำแยะมาก เมื่อสูบน้ำขึ้นมามาก จะทำให้ระดับน้ำใต้ดินลดลงไปอีก  ความชุ่มชื้นที่ผิวดินจะหายไป  ยิ่งแล้งหนักเข้าไปอีก  ไม่มีใครชี้แจง  ชาวนาจึงขุดบาบาลสูบน้ำขึ้นมาทำนา ทำสวนกันมาก ไม่ถูกต้องเลย

                             สวัสดี

สวัสดีครับพี่สิงห์

สงสัยว่าชาวนาทับทันจะหมดหวังได้รับน้ำฝนธรรมชาติจากพี่ป๋องซะแล้วล่ะครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6768 เมื่อ: 23 สิงหาคม 2555, 07:47:25 »

อ้างถึง
ข้อความของ ประทาน14 เมื่อ 22 สิงหาคม 2555, 20:44:36
อ้างถึง
ข้อความของ Manop  Klabdee เมื่อ 18 สิงหาคม 2555, 10:03:34
อ้างถึง
ข้อความของ ประทาน14 เมื่อ 17 สิงหาคม 2555, 21:01:25
อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 17 สิงหาคม 2555, 20:32:38
เห็นจะไม่ไหวอะครับคุณประทาน
 เค้าไม่ยอม แบร่่!!! ขึ้นเลย
แหม...หอเราเลยขาดกิจกรรมดีๆไปอีกหนึ่งกิจกรรม
พี่ๆน้องๆที่อยากจะรำแห่นางแมวก็ไปลอบบี้พี่ป๋องเอาเองนะครับ

สวัสดีครับ คุณประทาน  และชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                             ถ้า ดร.สุริยา  ยอมเป็นนางแมว  ผมจะหากลองยาวไปช่วยแห่ ครับ ชาวนาจะได้มีฝน ช่วยให้ข้าวไม่แห้งตายคาท้องนา  จริงๆ มันเป็นเรื่องที่ดี  ที่ ดร.สุริยา  ควรกระทำ

                             และผมก้เชื่อว่า นาข้าวแถวๆ ทับทัน นั้นแห้งตายหมดแล้ว ชาวนาทับทันกำลังรอ ดร.สุริยา  ด้วยความหวัง

                             ปัจจุบันการทำนาของชาวนานั้น (ที่อุทัยก็มีมาก) จะใช้วิธีเจาะบ่อบาดาลในท้องนา  สูบน้ำขึ้นมาทำนา แทนน้ำฝน หรือน้ำจากคลองชลประทาน  

                             แต่ในความเห็นของผมนั้น  ไม่ควรกระทำเลย เอาน้ำบาดาลไว้บริโภค นั้นดี  แต่เอามาทำนานั้นไม่สมควรเพราะการทำนา ทำสวนต้องใช้น้ำแยะมาก เมื่อสูบน้ำขึ้นมามาก จะทำให้ระดับน้ำใต้ดินลดลงไปอีก  ความชุ่มชื้นที่ผิวดินจะหายไป  ยิ่งแล้งหนักเข้าไปอีก  ไม่มีใครชี้แจง  ชาวนาจึงขุดบาบาลสูบน้ำขึ้นมาทำนา ทำสวนกันมาก ไม่ถูกต้องเลย

                             สวัสดี

สวัสดีครับพี่สิงห์

สงสัยว่าชาวนาทับทันจะหมดหวังได้รับน้ำฝนธรรมชาติจากพี่ป๋องซะแล้วล่ะครับ

สวัสดีครับ คุณประทาน และชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                 ชาวนาทับทัน เขาหมดวังไปแล้ว  ยอมรับสภาพว่านาข้าวจะต้องแห้งตาย คาต้น เพราะขาดน้ำ  เนื่องจากฝนไม่ตก  ดร.สุริยา  ไม่ไปเป็นนาแมวแห่รอบหมู่บ้านเพื่อขอฝน  ผลกรรมที่จะตามมาสำหรับ ดร.สุริยา คือ ค่าเช่านา  ที่ผู้เช่าไม่มีเงินมาให้ เพราะทำนาไม่ได้ผล  ถ้า ดร.สุริยา  ยืนกรานว่าต้องได้ค่าเช่าทำนา  กรรมก็จะตกกับ ดร.สุริยา  อีก เพราะต้องไปทวงหนี้  ก่อทุกข์ ทั้งผู้เช่า  และ ดร.สุริยา  ก็หวังว่า ดร.สุริยา  คงจะต้องจำยอม  ไม่ไปทวงถามค่าเช่าทำนา ครับ

                  คุณประทาน  สำหรับแม่นั้น อาการต่างๆ ดีขึ้นมากแบบผิดปกติ  ผิวพรรณดีมาก  ตอนนี้สามารถให้อาหารเหลวของโรงพยาบาลได้แล้ว ไม่ต้องใช้นมพิเศษ จากทางโรงพยาบาล  แต่พยาบาลก็จะดูดอาหารจากกระเพาะมาดูทุกครั้งว่า มีอาหารเหลือที่ไม่สามารถย่อยได้หรือไม่  ถ้ามีดูดทิ้ง  ถ้าไม่มีให้ใหม่  อาการเป็นปกติ  จนคุรหมอวิทิต  กำลลับไปรักษาที่บ้าน  เพราะอยู่โรงพยาบาลงวดนี้เกินสองเดือนแล้ว  ผิดกฏของทางโรงพยาบาลที่อยู่ได้ติดต่อกันไม่เกิน ๑๔ วันในแต่ละครั้งการเจ็บป่วย  ยกเว้นคุณหมอเห็นว่าสำคัญ เท่านั้น

                  สำหรับแผลกดทับ  มันก้อยู่ของมันอย่างนั้น  ไม่ติดเชื้อ  คุณหมอวิทิต ก็ยอมรับว่า  ไม่รู้จะทำอย่างไรกับมันให้หายได้  ได้แต่ล้างแผล ทำความสะอาดไม่ให้ติดเชื้อ เห็นเนื้อแดงๆ เพิ่มขึ้น แม่ไม่ได้ทุกข์ร้อนกับมัน  ท่านอยู่ของท่านได้

                  ถ้าแม่กลับบ้านเราก็รู้ว่าแม่จะหมดแรงเร็ว  รับอาหารไม่สด  ไม่ตรงเวลา  และสุดท้ายแย่ลงเพราะขาดสารอาหารบางชนิด ก็ต้องนำกลับมาอยู่โรงพยาบาลต่อ เพราะท่านยังมีสติทุกอย่างครบ  ใจแข็ง  ยังอยากมีชีวิตอยู่  เพราะไม่ได้ทุกข์อะไร  เราก็ต้องดูแลท่านให้ดีที่สุด

                 ก็ดีเหมือนกัน กลับไปอยู่บ้านสักอาทิตย์  แล้วกลับมาใหม่  เพราะแผลกดทับมาสาหัสมาก

                  สำหรับผมนั้น  ต้องกลับไปอยู่กับแม่ให้มากเมื่อว่าง เพราะคนดูแล  น้องสาว จะได้อบอุ่น 

                  ก็เรียนให้ทราบตามจริงครับ  เราทำอะไรไม่ได้มาก กฏ ก็คือ กฏ  เราคิดได้ แต่ทำไม่ได้ สู้ไม่คิดเสียดีกว่า เพราะไม่มีใครทุกข์กับมัน  ทั้งแม่  และ ผม  ต่างก็กระทำตามหน้าที่ให้ดีที่สุดเท่านั้นครับ

     

                  สวัสดี




      บันทึกการเข้า
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #6769 เมื่อ: 23 สิงหาคม 2555, 08:05:07 »

ชาวหอฯ เขาก็รู้กันหมดซิครับว่า ผมทำนาบนหลังคน

พี่น้องชาวนาในหมู่บ้านผมเขาร่วมสร้างบุญสร้างกุศล ส่งวิศวกรจนๆ คนหนึ่งมารับใช้สังคม
โดยไม่ให้ต้องเดือดร้อนมากนัก เพราะถ้าเรียกรับค่าตอบแทนทางวิศวกรรมแพงๆ ก็อดตายซะเปล่าๆ
เนื่องจากฝีมือไม่ถึงขั้น
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6770 เมื่อ: 23 สิงหาคม 2555, 08:07:51 »

อ้างถึง
ข้อความของ suriya2513 เมื่อ 23 สิงหาคม 2555, 08:05:07
ชาวหอฯ เขาก็รู้กันหมดซิครับว่า ผมทำนาบนหลังคน

 
ก็ความจริง มันเป็นอย่างนั้น  จะไปอายมันทำไม?  อยู่กับมัน มันก็เท่านั้นเอง มันเป็นเรื่องของเรา
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6771 เมื่อ: 23 สิงหาคม 2555, 08:14:24 »



อ่านแล้วได้ประโยชน์ ดีมากๆ ครับ

ได้รู้ว่าเรามาถูกทางแล้ว

ได้รับรู้ว่าสิ่งที่เราประสบนั้น ท่านพระอาจารย์ปราโมทย์  ก็ประสบอย่างเรา  เห็น(รับรู้)ตามจริงเหมือนรับ

ได้รับรู้ว่า  เราก็ปฏิบัติได้ถูกต้อง แล้ว

ได้รับรู้ว่า เรามาถึงไหนแล้ว (ระดับความก้าวหน้า)

และผมก็ขอยืนยัน  ว่าสิ่งที่ท่านเขียนนั้น  ถูกต้อง ครับ

น่าสนใจสำหรับผู้ที่จะปฏิบัติธรรม เป็นอย่างมาก  จะได้ไม่ผิดแนวทางตามที่พระพุทธองค์ ทรงสอน

สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6772 เมื่อ: 23 สิงหาคม 2555, 08:21:22 »



อาหารใส่บาตรพระ สำหรับเช้าวันนี้ ครับ



ข้าวนก  จาก อำเภอแม่จัน  เชียงราย


                           เมื่อวานผมอยู่สระบุรี ได้ไปเยื่อมคุณพรโชค โรงโม่หิน ศิลาเลิศจิตต์  เลยได้ข้าวนกมารับประทาน เป็นข้าวพันธ์พื้นเมืองต้นตระกูลข้าวของชาวเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ 

                           มีประโยชน์  สำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน

                           เลยวันนี้หุงข้าวนกใส่บาตรพระ ผู้ให้จะได้รับอานิสสงฆ์ด้วย

                           รับประทานแล้ว อร่อย  ดี ครับ

                           สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6773 เมื่อ: 23 สิงหาคม 2555, 08:32:47 »



ปฏิบัติธรรมผ่อนคลาย  โดย พระมหาสีไพร  : 0810060504 : www.sripai.com


                            เมื่อวานเช้า สายๆ ขณะขับรถจากโรงพยาบาลสิงห์บุรี  ไปสระบุรี เปิดวิทยุสถานีวัดกุฎีทอง(FM 98) เป็นเพื่อนเดินทาง พอดีเป็นรายการที่พระมหาสีไพร  ท่านมาออกอากาศ  ชักชวนให้ญาติโยมไปปฏิบัติธรรม ที่วัดศรีพรหมประสิทธิ์ อำเภอพรหม วันที่  ๒๒-๒๓-๒๔ สิงหาคมนี้ เพื่อรักษาโรคปวด ชา  ข้อต่อต่างๆ หรือรักษาทุกโรคให้หายได้ ท่านพูดถึงการทำสมาธิ ๓๖ ท่านอน ๓ ท่านั่ง ๑ ท่าอิสสระ  เลยสนใจ

                            พอดีรถกำลังจะผ่านหน้าวัดพอดี เลยแวะไปที่วัด เพื่อสอบถาม  น่าสนใจมาก แต่ผมไม่มีเวลา เลยซื้อ VCD มาศึกษาเอง ราคา ๑๕๐๐ บาท

                            ใครที่เป็นโรคปวด  ชา  ข้อติด  เรียนเชิญได้เลยครับ  ท่านรับรองว่าหาย  ถ้าไม่หายแสดงว่าเรามีกรรม ครับ

                            สวัสดี

      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6774 เมื่อ: 23 สิงหาคม 2555, 08:43:16 »








                            ทุกครั้งที่ผมเดินทางไปหาแม่ผ่านวัดอัมพวัน  ผมจะแวะไปซื้อปลาตะเพียนต้มเข็ม  ผักสด  น้ำพริก และข้าโพดข้าวเหรี๋ยว ไปรับประทานทุกครั้ง เพราะมันไม่แพง

                            และแม่ค้าพยายาม จะบังคับให้ผมไปกราบหลวงพ่อ  ผมก็บอกว่าผมเคยไปกราบท่านแล้ว

                            ผมก็ชี้ไปที่แผงพระเครื่อง  แม่ค้าก็ร้องโวยวาย  และรู้ว่าผมหมายถึงอะไร  ผมเลยต้องรับเผ่นออกจากวัดทันที  ก่อนที่จะถูกประชาทัน  แต่วันหลังผมก็แวะของผมไปซื้อของอีกเป็นประจำ  จนแม่ค้าจำได้  ผมไม่ได้ทำอะไรผิด  ผมก็พูดจากับแม่ค้าเป็นอย่างดี  เพียงแต่ผมไม่มีเวลาที่จะไปนั่งรอคิว เพื่อถวายปัจจัย  อาหาร  เครื่องธรรมทาน แด่ท่าน เหมือนกับญาติโยม ท่านอื่นๆ ที่ไปกราบท่านทุกวัน

                            มันก็เท่านั้นเอง

                            วันนี้ผมก็ไปหาแม่ที่สิงห์บุรี และสี่โมงเย็น ต้องไปเผาศพ ท่านอดีตนายอำเภอวัจ  คุณพ่อของเพื่อน และผู้ที่สนิทสนมกับพ่อ-แม่ ผม  มาก่อน และจะได้พบเพื่อนๆ สมัยเรียน มศ. ๑-๓  ได้กราบพระคู่สวด และได้กราบคุณครู ที่ได้สอนผมมา ด้วยครับ

                            และจะแวะวัดอัมพวันเพื่อซื้ออาหารไปรับประทานด้วยครับ

                            สวัสดี
      บันทึกการเข้า
  หน้า: 1 ... 269 270 [271] 272 273 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><