28 มีนาคม 2567, 23:20:34
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1] 2 3 ... 6  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: มาแต่งนิทานกันเถอะ  (อ่าน 69610 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Apirat T.
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,357

« เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2549, 18:29:24 »

เนื้อเรื่องตอนที่แล้วมีอยู่ว่า
(เอ้า พี่ปุ๊กมา post หน่อยเร้ว จะได้แต่งกันต่อ)

ตาแคม Cool
บันทึกการเข้า
party
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,875

« ตอบ #1 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2549, 18:42:15 »

รออ่าน Series เรื่องยาว ที่ไม่รู้จะมีแววจบเมื่อไหร่อยู่นะคะ...พี่ปุ้กสู้..สู้..  Cheesy


ที่จริงพอเนื้อเรื่องจบแล้ว เราน่าจะหาทีมงาน วาดการ์ตูนที่เป็นพี่ๆน้องๆ ชาวหอ มาวาดรูปรวมเล่ม หลังจากนั้นก้อหาพี่ๆหอจัดการเรื่องโรงพิมพ์ ตลอดจน แผงขายหนังสือ แล้ววางขายเป็รลำเป็นสันเลยดีกว่า ช่วยกันทำมาหากินคะ :lol:  :lol:
บันทึกการเข้า

http://happinessparty.multiply.com/
<embed src=\\\"http://images.multiply.com/multiply/horizontal-headshot-badge.swf\\\" type=\\\"application/x-shockwave-flash\\\" wmode=\\\"transparent\\\" FLASHVARS=\\\"user_id=happinessparty&enc=U2FsdGVkX1.XgxV7rEZX6q1u2Jyr2y9bKY8Amx,Hc,GTybsHCwE8.8sOCJWnoHQj
หลิม 81
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,840

« ตอบ #2 เมื่อ: 02 พฤศจิกายน 2549, 21:47:22 »

แล้ว "อีเผือก" เป็นไงบ้าง :lol:
บันทึกการเข้า

@ ปีนี้ปีของผม @
iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2549, 08:23:49 »

ก่อนเริ่มต้องขอบอกว่า นักจินตนาการปนเรื่องจริงทั้งหลาย ที่ร่วมแต่งกันมาได้ 16 หน้ากระดาษ A4 แล้วนั้นมีรายนามจอมมาร เอ้ย จอมจินตนาการ อภินิหารทั้งหลาย ดังนี้

1. Apirat ผู้เริ่มต้นความคิดพิสดารพันลึก

2. Ppornsan ผู้ต่อเติมความบ้า ฮา และบ๊อง

3. ชาร์ป ผู้เพิ่มเติมจินตนาการปนเรื่องจริง

4. โจ้เลีย-78 ผู้ทำให้เป็นเรื่องจริงยิ่งขึ้น

5. ป๋าบอล ผู้เสริมทัพในการสร้างความฮา

6. ไจโกะ ผู้สร้างปม

7. Iamfrommoon ผู้พยายามดึงมาเป็นจินตนาการ แต่ก็ปนเรื่องจริงเล็กน้อย อิอิ

แล้วเจอกันข้างล่างได้เล้ย:


************************************************************
....กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ยังมีดินแดนอันลึกลับตั้งอยู่กับเกาะอันโดดเดี่ยว ใจกลางมหาสมุทรฝั่งตะวันตก บนเกาะมีปราสาทสวยงามหลังหนึ่งเป็นที่พำนักของ พระราชาและพระราชินีผู้ครองนครบนเกาะนี้ ภายใต้การปกครองของทั้งสองพระองค์ ดินแดนแห่งนี้จึงสงบสุข จนกระทั่ง...วันหนึ่ง มีชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่งมานอนหมดสติอยู่บนชายหาดด้านใต้ของเกาะ ตามร่างกายของเขาเต็มไปด้วยบาดแผล การแต่งชายของชายคนนั้นออกจะโทรมๆ ไม่มีอะไรแปลกประหลาด แต่สิ่งที่น่าสะดุดตา ก็คือ แหวนรูปร่างประหลาดที่เค้าสวมอยู่ที่นิ้วโป้งข้างซ้าย และแล้ว ชาวประมงก็เดินมาพบชายคนนั้น

....ชาวประมงจึงพาชายคนนั้นไปรักษาตัวที่บ้านของเขา โดยให้ลูกสาวของเขาเป็นผู้ดูแล ที่พักของชาวประมงมีลักษณะเป็นกระท่อมเล็กๆ พอกันฝนกันลมได้ ชาวประมงอาศัยอยู่กะลูกสาวเพียงสองคน ลูกสาวชาวประมงมีบุคลิกหน้าตาดี ผิวพรรณ ผุดผ่อง ลักษณะต่างจากลูกสาวชาวประมงทั่วไป ดวงตาที่โตสุกสกาว และผมยาวเหยียดตรงของเธอ ทำให้ผู้คนแถวนั้นจดจำและรู้จักเธอ ดี ในนาม "อีเผือก" ชาวประมงและอีเผือกดูแลจนผู้ชายคนนั้นฟื้น...แต่เขากลับสูญเสียความทรงจำ สิ่งที่เชื่อมโยงเขากับอดีต..คือ แหวน และรอยแผลทั่วร่าง เขาจำอะไรไม่ได้เลย..แม้กระทั่งชื่อตัวเอง อีเผือกจึงตั้งชื่อให้เขาว่า เอก...ข่าวของชายแปลกหน้า เริ่มกระจายออกไปเรื่อย จากหมู่บ้านประมงสู่ตัวเมือง จากตัวเมืองเข้าสู่ราชวัง แม้ "เอก"เป็นคนหน้าตาดีแต่มีสีผิวดำสนิท ซึ่งผิดแปลกจากชาวเมืองในเกาะนี้ ยิ่งเมื่อเอกและอีเผือก ได้พบปะผู้คนมากเท่าไร ทุกคนก็ยิ่งล่ำลือถึงความแปลกประหลาด ของร่างกาย เอก ชาวเมืองไม่เคยเห็นมนุษย์ผิวสีมาก่อน จึงเกิดความหวาดกลัวและตื่นตระหนก เมื่อพระราชาและพระราชินีทราบเรื่องว่ามีแขกต่างบ้านต่างเมืองเข้ามาภายในอาณาเขตตน จึงทรงรับสั่งให้ นายมหาดเล็กชื่อ สมเจต ออกตามหาชายผู้นี้เพื่อ...พระราชาตามหาชายผู้นี้เพื่อ...ที่พระองค์จะได้จัดงานต้อนรับให้เหมาะสม
"สมเจต..ขากลับฝากซื้อสตาร์บัคแก้วนึงด้วยนะ"..พระราชาตรัส
"ออกตังค์ไปก่อนนะ คือ..ตอนนี้ไม่มีเงินสดแล้ว" พระราชาแอบชำเลืองมองไปยังคนที่อยู่ข้างๆ
"ชั้นบอกแล้ว..ให้เล่นอิตาลี เซียนโต้งเค้าฟันธง" ราชินีพูด..พร้อมกับมองค้อนกลับไป
"เออน่าๆ..แหม เอ้า ไปได้แล้วสมเจต" พระราชาตัดบท
"เออ..งั้นกรูไปก่อนนะ ค่ากาแฟเดี๋ยวจ่ายพร้อมค่าบอลที่ค้างไว้ละกัน"
มหาดเล็กสมเจตโบกมือบ๊ายบาย ลูกหนี้ทั้งสอง ว่าแล้วมหาดเล็กก็ออกเดินทางไปหาชายหนุ่มผู้นั้นด้วยจักรยานคู่ใจ ดริฟท์ปาดหน้าแม่ค้าส้มตำหนึ่งที ก่อนจะพุ่งทะยานออกไปด้วยความมั่นใจ ขณะเดียวกัน พระราชากับราชินี ก็รีบหยิบโทรศัพท์ โทรไปหา E-on เพื่อกู้ยืมตังค์ เนื่องจากภาวะน้ำมันแพง..และเศรษฐกิจในเกาะที่ไม่ค่อยดี ทำให้พระราชากู้ e-on ไม่ผ่านทำให้พระองค์ทรงคิดมากเรื่องเงินกู้ อย่างเป็นที่สุด พระราชาเข้าตาจน จึงนึกได้ว่า ถ้าเราเอาที่สัปทานของรัฐ เอาไปขายให้ต่างชาติ โดยทำการปลอมแปลงเอกสารโฉนด แล้วออกขาย ตามหน้าหนังสือพิมพ์ ขายแบบทั้งภูเขา อย่างที่ประเทศบางประเทศ กำลังถูกต่างชาติเร่ขาย เกาะของตัวเองแทบครึ่งเกาะ น่าจะได้ราคาดีพิกล คราวนี้เหละ กรูจะได้เงินคืนมา แล้วเก็บไว้ แทงลิเวอร์พูล ในศึกชาริตี้ชิล วันที่ 13 สิงหานี้ ได้ข่าวว่า ศูนย์หน้าตัวใหม่ แบรามี่ ฟอร์มดี น่าจะยัน เชลซี ได้ เอ้ หรือไม่ได้ เอาไว้ถามเฮีย โต้งอีกที
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2549, 08:26:10 »

"ป๊าบบบบ...เอ๋ง" เสียงฝ่ามือแหวกอากาศฟาดลงกลางกระหม่อมของพระราชา
"เหม่ออยู่นั่นแหละไอ้แก่..ไม่ยอมช่วยกันทำมาหากินนะ" พระราชินีด่าพร้อมกับยื่นถุงเงินให้
"โอ้ว..เงิน เอามาจากไหนอ่ะ"..พระราชาทรงพระงง
"ไปยืมมาจากแม่มด"
"โอ้โห..ว่าแต่ดอกเบี้ยเท่าไหร่" พระราชาพูดพลางหยิบเครื่องคิดเลข
"ไม่คิดดอกเบี้ย..แต่แลกกะทาส 1 คน"
"เฮ้ย..แล้วจะให้ใครไปเป็นทาสอ่ะ ครั้งที่แล้วก็เอาแม่เธอไปแล้วนะ"..พระราชากลอกตา
"มหาดเล็กสมเจต ดีมั้ย" พระราชินีเสนอ
"ไม่ได้ๆ สมเจตมันเป็นเจ้าหนี้เรา ถ้าให้มันไปเป็นทาส แล้วเราจะเอาเงินนี่ไปให้ใครล่ะ"..พระราชาโชว์ความ Mega Clever ออกมา "อืม..ก็จริง" พระราชินีเริ่มเห็นด้วย

********************************************************
...(10 วินาทีผ่านไป)...
"คิดออกแล้ว" ทั้งสองคนพูดพร้อมกัน
"ไอ้เอกไง"..คราวนี้พระราชาเร็วกว่า 0.15 วิฯ
"ไอ้เอก..มึงเสร็จกรูแน่ หึ หึ หึ ฮ่า ฮ่า ฮ่า อิคึ อิคึ"...พระราชาหัวเราะอย่างซาดิสม์
ฝ่ายเจ้าเอกที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย...ได้แต่อยู่กับหญิงสาวอย่างงง...งวย..บวกกับมีความสุข ทั้งกลางวัน หรือยามคำคืน ในที่สุด สมเจตก็เดินทางมาจนพบเอก อีเผือก และพ่อของอีเผือก และได้แจ้งข่าวว่าพระราชามีรับสั่งให้เข้าเฝ้า ทั้งสามคนจึงได้เดินทางเข้าไปในวัง ตามบัญชานั้น.. ในขณะเดียวกันนั้นเอง..อีกฟากนึงของโลก บนเกาะอีกเกาะหนึ่ง ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศน้อยใหญ่ที่เกาะนี้ได้ยกทัพไปตีมารวมเป็นประเทศเดียวกัน..ทุกประเทศต่างต้องสวามิภักดิ์ให้กับเกาะๆนี้ซึ่งมีชื่อว่า.. เกาะแน่นๆนะน้อง..พระราชาของประเทศนี้มีความคิดที่จะใช้ทรัพยากรต่างๆจากทุกๆที่ ด้วยการยกทัพไปตีเมืองต่างๆ ยึดมาเป็นอาณานิคม และส่งทรัพยากร เงินทอง กลับไปยังเกาะแน่นๆนะน้อง.. วันนึง มหาดเล็กได้กราบทูลว่า ได้ทราบว่า มีเกาะๆนึงที่อยู่ไกลโพ้น แต่มีทรัพยากรมากมาย เห็นสมควรให้จัดทัพ 10 หมื่นคน เรือ 5000 ลำ ไปยึดเกาะนั้นเพราะจะได้หัวเมืองอีกฟากนึงของโลกเป็นตัวแทนของประเทศ พระราชาเห็นด้วย ดังนั้นจึงได้....พระราชาจึงได้สั่งกองทัพเข้าไปยึด แต่เดี๋ยวก่อน ยกทัพไปเยอะแยะเปลืองทรัพยากรบุคคลเสียเปล่าๆ ยิ่งผลิตยากๆ กันอยู่ด้วย ผู้ชายในประเทศยิ่งไม่ค่อยมีสมรรถภาพ เพราะเป็นโรคหวัดช้วง ทำให้ไร้น้ำยา ว่าแล้วจึงเรียกเหล่าโกลด์เซ็นต์ในตำนาน พร้อมกับ ซุนโกคู และปิคโกโร่ มาแทน ช่วงที่ หน่วยทหารม้าส่งสาร กำลังควบม้า ส่งสารขอกำลัง จากเหล่า ยอดมนุษย์ อยู่นั้น (แต่เอ เป็นทีน่าสังเกตว่า superman ขวัญใจสาว ๆ และ hero ที่เก่งกาจอันดับหนึ่งของ อาณาจักร กลับไม่ได้ถูกเรียกตัว .. สงสัยมีการเมืองเข้ามายุ่งแน่ ๆ เลย) ก็ตัดฉาก มาที่เจ้าเอก และผู้ติดตาม ที่กำลังเดินทางมาอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง ว่า พระราชาต้องมีอะไรดี ๆ มอบให้เขาแน่เลย เพราะ ความพิเศษ เรื่องสีผิวที่ไม่เหมือน คนในเมืองนี้
"สมเจต..ตัวเองรู้ป่าว ว่าพระราชาเรียกเค้าเข้าพบทำไมเหยอ" เอกถามสมเจต หลังออกเดินทางมาพักใหญ่
"ข้าไม่แน่ใจหรอก เรื่องเนี๊ยะ..มันแต่งกันหลายคน เดาทางลำบาก" สมเจตตอบอย่างรู้ way
"แต่ข้า..รู้สึกว่าต้องเป็นเรื่องร้าย" แน่ะ..สมเจตมันรู้ way อีกละ
"แต่เค้าว่ามันน่าจะเป็นเรื่องดีมากกว่านะ" เอกมองโลกในแง่ดี
"เรามาพนันกันมั้ยล่ะ" สมเจตยิ้มอย่างท้าทาย
"จะดีเหรอคะเอก เราไม่ค่อยมีเงินนะ" อีเผือกขอมีบทพูดบ้าง
"แค่ 100 เดียวก็พอ ข้าให้อัตราต่อรอง แทง 1 จ่าย 10 เลยเป็นไง" สมเจตหลอกล่ออย่างชำนาญ
"อ่ะ เหรอ งั้น..แทง 1000 นึงเลย" อีเผือกรีบแทง
"อ้าว ไอ้นี่...เฮ้ย!!!..หลบ!!!"
ยังไม่ทันที่จะขยับปากด่า สมเจตก็ต้องดึงผู้ร่วมทางทั้งสองให้พ้นจากการอันตราย ด้วย skill มหาโจรที่สมเจตฝึกฝนมา..ประสาทสัมผัสของเขาจึงไวเป็นพิเศษ
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2549, 08:27:03 »

ตูม!!! เพียงพริบตาเดียว ก่อนที่หางของสัตว์ยักษ์จะฟาดลงมา สมเจตก็พาคนทั้งสองหลบออกมาไกลเกือบ 10 เมตร...ไว ไวมาก ไวกว่า ประกันภัยอีก
"พวกเจ้าไม่เป็นไรนะ" ยังไม่ทันที่ทั้งสองคนจะตอบ "กี๊ซซซซซซซซซซซ" สัตว์ยักษ์คำราม ด้วยความหงุหงิ
"ไม่เป็นไร อา...นั่น นั่นมันมังกรนี่ ข้าเคยเห็นในหนังแฮรี่พอตเตอร์" เอกตื่นเต้น
"กร๊าซซซซซซ์" มังกรคำราม เมื่อพบว่าโจมตีพลาดเป้าหมาย พลางหันขวับมาทางทั้งสามคน..สายตาของมัน จับจ้องไปที่แหวน
"ท่าทางดุร้ายจริง...เอ๊ะ สมเจต ท่าน..กางเกงตูดขาดนี่" อีเผือกช่างสังเกตจริงๆ
"อ๊ะ!! อั่ก...ข้าคงสู้กับมันไม่ไหวแล้ว" สมเจตกระอักเลือดด้วยความอาย
"ไม่เป็นไรข้าสู้เอง" เอกคว้าดาบจากสมเจต
"เอก....เจ้าจะไหวเร้อ" สมเจตและอีเผือกพูดพร้อมกัน
"ข้าว่าเจ้าตายแน่ แทง 10 จ่าย 1 เลย" สมเจตควักโพยมาจด
"ข้าไม่ตายหรอก เพราะข้าเป็นพระเอก"
"เจ้ารู้ได้ไง..อ่านมาตั้งนาน ข้ายังไม่แน่ใจเลย" คนอ่านถาม
"ข้ารู้ตั้งแต่ตอนข้าบวชแล้ว..ตอนนั้น ใครๆก็เรียกข้าว่า พระเอก"
"ไอ่แสดดดดด มุขควาย" คนอ่านด่า
"ข้าไปล่ะ...สู้โว๊ยยยย"..เอกวิ่งถือดาบออกไป
"อ๊ากกกกกกกซซซ์" เอกร้องดังลั่น ขณะที่มังกรกระชากแขนซ้ายของเขา หลุดติดปากไป
"โธ่..เอก..สมน้ำหน้ามึง" สมเจตสะใจ อีเผือกสะใจ คนอ่านก็สะใจ
"ว่าแต่พวกเรา เอาไงดีเนี่ย"...อีเผือกเริ่มรู้สึกตัวถึงอันตราย
"อ๊ากกกกก.." พระเอก..เอ๊ยไอ้เอก ร้องลั่นเมื่อแขนของตัวเองขาดไป.. พลันเจ้ามังกรได้สิ่งที่ต้องการ นั่นก็คือแหวนวงนั้น มันบินกลับมาหันมองที่คนทั้งสาม..แล้วก็คิดว่า..ไปดีกว่า..ก่อนไปได้ส่งสายตาหวานฉ่ำให้อีเผือก 1 ที เจ้ามังกรก็ได้บินจากคนทั้งสามไป..
"ทำไงดี เอกดูเหมือนจะเสียเลือดมาก.." สมเจตพูด
"ไม่ดูเหมือนล่ะ..มันออกมากจริงๆ เราจะทำไงดี" อีเผือกถามด้วยสายตาร้อนรน..
"เราต้องพาเค้าไปรักษาก่อน แถวนี้ได้ข่าวมีแม่มดเก่งมากๆอยู่ 1 คน สามารถรักษาได้ทุกอย่าง แขนขาดก็ทำให้งอกให้ได้ แต่มีข้อแม้นะ..." "ข้อแม้อะไรเหรอ.."
"แม่มดจะขอของรักของเจ้า 1 อย่างที่แม่มดต้องการ แล้วเค้าถึงจะยอมรักษา..ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่สามารถให้ได้ น้อยคนนักที่จะยอม.." สมเจตดูเหมือนจะรู้ไปซะทุกเรื่อง.. "ว่าไงว่ากัน ตอนนี้ต้องรีบพาไปรักษาก่อน"... ว่าแล้วทั้งสามก็รีบเดินทางไปหาแม่มดคนนั้น..
ตัดไปที่เจ้ามังกร.. ระหว่างที่กำลังบินกลับรังอย่างสบายใจเฉิบ..ฉับพลันก็มีเงาดำทะมึนเข้ามากระแทกโดยที่มันยังไม่รู้ตัวว่าถูกอะไรจู่โจม ระหว่างมึนงงอยู่นั่นเอง..สายตามันก็เหลือบไปเห็นสิ่งที่ในชีวิตนี้มันไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นอะไรที่มันกลัวขนาดนี้เลย..แล้วมันก็หมดสติไป ปล่อยแขนขวาที่มีแหวนนั่นตกลงไปเบื้องล่าง.. ...จมลงไปในมหาสมุทร..เมื่อแหวนจมสู่ก้นมหาสมุทร มันได้จมอยู่เคียงข้างกับจี้+สร้อยเส้นหนึ่ง ตอนที่สร้อยเส้นนี้ยังอยู่กับเจ้าของ ใครๆ ก็เรียกมันว่า "หัวใจมหาสมุทร" ทันทีที่แหวนปริศนาที่อยู่บนมือที่ขาดไปของเจ้าเอกตกลงไปอยู่ข้างจึ้หัวใจมหาสมุทรนั้น พลันก็เกิดลำแสงพุ่งเป็นเส้นตรงขึ้นมาจากมหาสุทร สามารถมองเห็นได้ไกลหลายร้อยไมล์ ทะเลเลยทีเดียว ในขณะเดียวกัน กลุ่มของเจ้าเอก อีเผือก และมหาดเล็กสมเจตน์ ก็ได้เห็นถึงลำแสงอันแสน ประหลาดที่พวยพุ่งมาจากมหาสมุทรเช่นเดียวกัน ขณะที่ทุกคนกำลังตะลึงกันอยู่นั้น เจ้าเอกก็พูดแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันอ่อนนุ่ม
"พวกมรึงจะดูกันอีกนานไหม๊ เลือดไหลมากจนตัวกรูซีดแล้น"
"เออ จริง มันขาวขึ้นเยอะเลยว่ะ" สมเจตน์สมทบ ทุกคนจึงละความสงสัยจากลำแสงนั้น รีบพยุงเจ้าเอก มุ่งหน้าไปยังป่าไร้หวนคืน อันเป็นที่อยู่ของแม่มดท่านนั้น ก่อนที่จะลับตาจากจุดที่สามารถมองเห็นลำแสงปริศนานั้น เจ้าเอกก็เห็นมา เพื่อจดจำตำแหน่งที่แน่นอนของลำแสงนั้น เหมือนกับรู้ความลับของที่มาแห่งลำแสง
"ไม่คิดเลยว่าจะหาง่ายอย่างนี้" เจ้าเอกคิดในใจ
"ว่าแต่เรากำลังตามหาอะไรวะ"...เอกเพิ่งคิดได้ว่าตัวเองความจำเสื่อม
"แต่ยังไง..ข้าต้องไปยังตำแหน่งของลำแสงนั่น ข้ารู้สึกเช่นนั้น" เอกคิดในใจ อีกแล้ว
"เอก รีบมาทางนี้เถอะ " ... สมเจตพูดออกมา
"ตกลง..มึงจะไปซ่อมแขนมึงมั้ย".. สมเจตด่าในใจ
"ไปครับพี่ ไปครับ นำทางไปเลยครับ" ... เอกรับคำ พร้อมกับรีบเดินตาม
"ไอ่แสดดด ช้านิดหน่อย ทำมาเร่ง" ... เอกด่าในใจ
"เอก เธอเดินไหวมั้ย" ... อีเผือกพูดด้วยความเป็นห่วง
"ไม่ไหวก็รีบตายๆ ไปซะ เดินนานกรูเหนื่อย" ... อีเผือกแช่งเอกในใจ
...ทั้งหมดเดินลึกเข้าไปในป่าไม่หวนกลับ ลึกเข้าไป ลึกเข้าไป...
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2549, 08:34:23 »

"อีกไกลมั้ย สมเจต..บ้านแม่มดเนี่ย" อีเผือกทำท่าจะหมดแรงซะแล้ว
"เราเดินกันมาตั้งหลายบรรทัดแล้วนะ "
"ทำไมพากรูมาหาแม่มด ทำไมไม่พากรูไปหาหมอ" เอกวิญญาณ ใกล้หลุดลอย
"บ่นจริง..เอ้า นั่นไง ..ถึงแล้ว" สมเจตชี้ไปข้างหน้าต้นไม้ขนาดใหญ่ อายุร้อยกว่าปี เส้นรอบวงหลายสิบคนโอบ ยอดสูงระฟ้า ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า สมเจตท่ามกลางคบไม้ ที่แตกกิ่งก้านกันอย่างหนาแน่น ปรากฎกระท่อมหลังเล็กๆ ตั้งอยู่ท่ามกลาง ความมืดทะมึนของต้นไม้ใหญ่นั้น
"ทางเข้าอยู่ด้านล่างต้นไม้" สมเจตบอก "แต่กรูไม่ไปนะ กรูกลัว"
"อ้าว ...." ทุกคนอุทานพร้อมยื่นเท้าขวากระโดดถีบสมเจตด้วยความรักใคร่
"มรึงนำไปเลย ไม่ต้องมาลีลา"

กลับมาที่กองเรือแห่งราชอาณาจักรเกาะแน่นๆ นะน้องนะ หลังจากรวบรวมคนเสร็จแล้ว ก็พร้อมจะออกเดินทาง

แต่เนื่องจากโกคู ติดภาระกิจในการผลิตโกฮังคนที่สองกับจีจี้อยู่ ส่วนปิคโกโร่ก้อตามจีบโกฮัง ที่เลี้ยงดูกันมาตั้งแต่เด็กด้วยเหมือนกัน ทั้งคู่เลยมาร่วมกองทัพด้วยไม่ได้ ดังนั้น กองทัพเรือมันยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ จึงตัดสินใจเดินทัพ โดยไม่มีผู้กล้าในตำนานร่วมทัพมาด้วย เรือธงเปกาซัสซึ่งเป็นเรือที่เคลื่อนที่ได้ดุจสายลม วิ่งนำร่องออกไปด้วยความเร็วสูง ภายใต้การควบคุมของผู้พันเหยี่ยว ตามด้วยเรือหลักแห่งกองทัพ เรือลิเวียธาน ขนาดอันมหึมา ติดตั้งปืนใหญ่ 1,080 กระบอก ยากที่จะหาเรือใดที่มีอานุภาพทำลายล้างทัดเทียมได้ ยิ่งได้รับการสั่งการจาก จอมพลชาร์ป แล้ว ยิ่งหาใครมาเป็นคู่ต่อกรด้วย ระหว่างการเดินทางนั่นเอง จอมพลชาร์ปก็ได้เห็นลำแสงประหลาดพุ่งขึ้นมาจากท้องทะเลเช่นกัน..

"โอ้ พระเจ้า นั่นมันแสงอะไรกันนี่" จอมพลอุทาน..
"หะโหย หะโหย..มันน่าจะเป็นแสงในตำนานรึเปล่าท่าน ข้าเคยอ่านตำเร็ว เอ๊ย..ตำนานมา ว่าลำแสงที่พุ่งขึ้นมาจากทะเลแบบนี้ มันน่าจะเป็นแสงระวี เอ๊ย แสงยูเรน่า อันเกิดจากการที่แหวนแห่งพลัง ได้มาพบกับสร้อยหัวใจมหาสมุทร ซึ่งมันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อน เพียงแต่มีคำกล่าวว่า ผู้ค้นพบจะเป็นเจ้าของพลังที่ไม่อาจมีใครเทียบได้.." พลทหารเรือคนนึงบอกกับท่านจอมพล..
"มรึงเป็นทหารเรือ หรือเป็นคนแต่งวะ ทำไมมันรู้ดีจัง.." จอมพลนึกในใจ..
"555 ในเมื่อเกาะที่เราจะไปนั้นเป็นขนมๆ อยู่แล้น ..ดังนั้น เรามุ่งหัวเรือไปยังทิศทางแห่งแสงนั่น เพื่อที่เราจะได้ครอบครองสิ่งนั้นดีกว่า...5555" จอมพลสั่งการ

..ทัพเรือทั้งหมด..จึงหันหัวเรือไปยังที่มาแห่งแสงนั่น และเคลื่อนตัวฝ่ามหาสมุทรต่อไป....พลังที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง ด้วยพลังอำนาจแห่งวงแหวน "อัสนีบาต" และสร้อย"หัวใจมหาสมุทร" ก่อเกิดพลังปาฎิหารย์ น้ำทะแลแดดบริเวณรอบข้างเป็นรัศมีวงกว้าง รังสีที่แผ่ออกมาเกิดปฎิกิริยาต่อสิ่งมีชีวิตบนพื้นแผ่นดินมนุษย์ สัตว์ใดที่กายต้องกับรังสีนี้ พลันผ่าน ดีเอ็นเอ ภายในร่างกายเกิดแปรปรวน กลับกลายเป็นสัตว์ยักษ์เหนือตำนาน แม้ฉลามเจ้าแห่งท้องทะแล ยิ่งเพิ่มความดุร้าย ร่างกายใหญ่โต เขาและเขี้ยวก็งอกยาว ปลาหมึกกล้วย หนวดยิ่งงอกยาว เพิ่มขนาดขึ้นหลายสิบเท่า จิตสำนึกถูกสั่งการเพียงเพื่อปกป้อง โบราณสถานกลางเกาะกลางทะแลที่พึ่งโผล่ขึ้นด้วยแรงพลังอนุภาพแห่งของทั้งสองนี้ ลำแสงแห่งพลังยังคงส่องทอดสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า ณ ศูนย์กลาง โบราณสถานนั้นเอง ยังกะจะเชื้อเชิญให้บุรุษผู้กล้าหาญ เข้ามาเป็นเจ้าของ ส่วนสัตว์ยักษ์ยังคงคลุ้มคลั่งเหมือนโดนครอบงำด้วยอำนาจอันบ้าคลั่งบางอย่าง ใครเลยจะรู้ว่า สิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวที่สุดกำลังจะบังเกิดขึ้น ใต้โบราณสถานพร้อมกับพลังอันยิ่งใหญ่ ที่เป็นมหันตภัยแก่มวลมนุษย์นี้แล้ว แล้วใครเลยที่จะหยุดมันได้

กลับมาที่ป่าไร้หวนคืน ณ ต้นไม้พันปีอันเป็นที่อยู่ของแม่มด กลุ่มของเจ้าเอก ย่างก้าวเดินเข้าไปหากระท่อมด้วยความระมัดระวัง เนื่องจาก บรรยากาศที่เงียบสงัดจนเกินไป ไร้แม้แต่เสียงแมลง จนทำให้พลอยนึกว่าเกิดเหตุการณ์ใดที่ผิดปกติไป

"วืด ............ โครม!!!" เสียงเหมือนท่อนไม้ขนาดใหญ่แหวกอากาศ ทั้งหมดกระโดดหลบกันไปคนละทิศทาง พร้อมกับท่อนซุงขนาดใหญ่ฟาดลงมากลางวงพอดี ทุกรีบตั้งสติ พยุงตัวลุกขึ้นอย่างเร็วที่สุดที่สามารถทำได้

"โฮกกกกกกก" เสียงที่มาของซุงขนาดใหญ่ ลิงกอลิล่า ขนาด 4 เมตร ถือซุงขนาดยักษ์อยู่ในมือ ทันทีที่การโจมตีครั้งแรกพลาดเป้า
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2549, 08:35:33 »

กลับมาที่ กองทัพเรืออีกครั้ง....

"ตุ๊บ"..เสียงดังสนั่นเมื่อร่างของจอมพลชาร์ปหล่นจากเก้าอี้ เพราะเผลอหลับระหว่างการเดินทางติดต่อกันหลายสิบชั่วโมง
"ฮ้าวววว...งึมๆ งัมๆ แหง่บๆ" จอมพลคราง พลางบิดขี้เกียจ และกวาดสายตาไปรอบๆเรือ
"เฮ้ย ทำไมเรือเราโดนล้อมวะ"
"จมมันให้หมด พลปืนทั้งหลาย ยิงๆๆๆๆๆ"
"แต่..ท่าน"
"ไม่มีแต่ ยิง จมพวกมัน"
"เฮ้ย แล้วนั่นเรืออะไรวะ แล่นเร็วชิบ ถล่มมันให้ยับเลย" สิ้นเสียงจอมพล ปืนใหญ่ ร่วม 500 กระบอก ต่างเล็งไปยังเรือเป้าหมาย

ตูมๆๆๆๆ เรือเร็วลำนั้นแหลกไม่มีชิ้นดี
"ฮ่าๆๆๆ ยิงๆๆๆๆ" จอมพลสั่งอย่างบ้าคลั่ง ปืน 1080 กระบอกกระหน่ำยิงไปรอบๆจนหมดกระสุน เรือนับร้อยทีท่ล้อมอยู่ต่างค่อยๆจมลงจนหมด
"ค่อยยังชั่ว..ตั้งแต่ข้าเกิดมา ไม่เคยมีใครล้อมเรือข้าได้ ฮ่าๆๆๆ"
"แต่..ท่าน"
"ทำไมอีกล่ะ"
"นั่นมันเรือเปกาซัส และกองทัพเราทั้งหมดนะท่านจอมพล" จอมพลชาร์ปอึ้ง

*********************************************************
....15 วินาที ผ่านไป...
"พวกเราเดินหน้าต่อไป เมื่อกี๊ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แค่อุบัติเหตุปืนลั่นเท่านั้น"
ดังนั้นกองเรืออันยิ่งใหญ่ จึงเหลือแค่เรือลิเวียธานลำเดียว ที่ไม่มีกระสุนปืนใหญ่เหลืออยู่บนเรือเลย

ตัดกลับไปในป่าต่อได้ละ
จากนั้นการโจมตีครั้งที่สองของกอลิล่าก็เกิดขึ้น...และในครั้งนี้นี่เอง ทุกคนก็ได้รับรู้ความลับที่ปิดมานานของอีเผือก... ถึงแม้อีเผือกจะเป็นลูกสาวชาวประมง แต่หารู้ไม่ว่า อีเผือกมีความสามารถในการส่งภาษากับสัตว์ได้ ซึ่งหลายต่อหลายครั้งที่พ่ออีเผือกต้องประหลาดใจที่บางครั้งเรือลำอื่นหาได้เพียงแค่นิดหน่อย แต่ทุกครั้งที่พาอีเผือกไปด้วย จะต้องได้อาหารกลับมามากกว่าคนอื่นๆ ทุกครั้ง...ดังนั้นขณะมีการเผชิญหน้ากับเจ้าลิง 4 ตัว อีเผือกได้ส่งภาษา “เจียก เจี่ยก เจี้ยก เจี๊ยก เจี๋ยก” และ “โฮก โฮ่ก โฮ้ก โฮ๊ก โฮ๋ก”...(แปลว่า..เจ้ากอลิล่าผู้น่ารัก เจ้าช่างมีหน้าตาอันหล่อเหลา ดั่งเจ้าเอก หากเจ้ายอมรับในคำชมนี้ ขอเจ้าจงล่าถอยไป พร้อมทั้งนำทางพวกข้าไปสู่แม่มด ข้าจะทำให้เจ้าได้พ้นจากการเป็นบริวาร และได้ไปหากินตามวิถีธรรมชาติที่เจ้าควรจะเป็น)
เจ้ากอลิร่า มีท่าทีสงบลง อีเผือกค่อยๆ ขยับกายเข้าไปใกล้เพื่อสร้างความคุ้นเคย
"สุดยอดมากอีเผือก เธอนี่สัตว์ เอ้ย คุยกับสัตว์รู้เรื่องด้วยเหรอ" สมเจตน์ตะโกนด้วยความประหลาดใจ
"หรือ จะเป็นความสามารถของแม่มดมนต์น้ำเงิน" เอกพึมพำกับตัวเอง
"มีอะไรที่นอกเหนือความคาดเดามาก ... แต่ เอ มันอะไรกันน้า" เหมือนจะนึกอะไรออก แต่ความทรงจำของเอกก็วูบหายไปอีก
”ระวัง!!!" ท่าทีที่เหมือนจะสงบลงของกอลิล่า กลับระเบิดกลับมาอีกครั้งอย่างกระทันหัน ท่อนซุงถูกยกขึ้นและฟาดลงมาอย่างเร็วเกินกว่าอีเผือกจะตั้งตัวทัน เจ้าเอกโชว์ความเป็นพระเอกเต็มที่ ทั้งที่มีแขนเดียวแต่กลับพุ่งตัวเข้าไปขวางอีเผือกอย่างรวดเร็ว
กรี๊ด เสียงอีเผือก ร้องดังลั่น เพราะแรงผลัก ของเอก เธอ กระเด็นล้มไปชนขอนไม้ขนาดใหญ่ พยายามจะหันกลับไป เพื่อต่อว่าเอก "มรึงมาผลักกรูทำไมเนี้ย" แต่เธอต้องกลับต้องตกใจสุดขีดคราบเลือดระเรง กองเต็มพื้น ร่างของเอกทรุดลงกองกะพื้น หัวเอกแบะ!!! แรงกระแทกของท่อนซุง ทำให้หัวเอกกระจาย สมองทะลัก ลูกตากระเด็นออกมา เอกขาดใจ ตายในทันที !!!
ฉับพลันนั้นเอง..เจ้าลิงยักษ์ก็เกิดอาการตกใจสุดขีด ร้องเสียงคำรามลั่นป่า เหมือนกลัวอะไรบางอย่าง..แล้วก็รีบกระโดดหนีหายเข้าป่าไป.. เช่นกันกับอีเผือกและสมเจต..ดั่งมีกระแสลมหนาวพัดมาอย่างกระทันหัน ทั้งสองขนลุกเกลียวกับความรู้สึกน่ากลัวดังนั้น..เบื้องหน้าในป่าลึก เหมือนกำลังมีบางสิ่งบางอย่าง กำลังเข้ามาใกล้..ทั้งสองรีบวิ่งไปที่ร่างของเอก..เมื่อมองไปด้านหน้า..ก็เห็นแม่มดปรากฏตัวขึ้นในชุดดำทะมึน ผมขาวยาว..หน้าตาเหี่ยวย่น ดังมีอายุผ่านมานานแสนนาน.. แม่มดเห็นทั้งสอง..อยู่กับร่างอันเละเทะของเอก...แล้วจึงกล่าวว่า.....
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2549, 08:36:32 »

"ข้า ยังอยาก ให้มัน อยู่ในนิทาน ก่อน ... เอางี้" แม่มดครุ่นคิด พร้อมกับจ้องไปยังร่างอันเละเทะ ของ เจ้าเอก

สักพัก ใหญ่ พอ ๆ กับที่ สติสัมปชัญญะ ของ สมเจตน์ กับ อีเผือก กำลังกลับมา แม่มด ก็ กล่าวออกมาด้วยเสียง เย็นชา ...

"เมื่อสักวัน สองวัน มานี้ ข้าสังเกต เห็นแสง ประหลาดพุ่งขึ้นไปบนฟ้า แถบน่านน้ำของหมู่เกาะแน่นๆ นะน้อง...."

"ข้าจำได้ว่า ทวดของข้า เคยเล่าไว้ว่า แสงที่เกิดขึ้นเป็นแสง แห่ง พลังงานประะหลาด ที่เกิดจาก วัตถุลึกลับล้ำค่า 2 ชนิด มาอยู่ใกล้กัน เวลาลำแสงมันกระทบกับอะไรก็ตามมันจะถ่ายทอดพลังงานไปยังสิ่งเหล่านั้น ทำให้สิ่งมีชิวิตเป็นสิ่งมีชิวิตที่ทรงพลัง ทำให้ ก้อนหินกลายเป็นก้อนพลัง สามารถขับเคลื่อนวัตถุได้ "

"แล้ว มันเกี่ยวอะไรกัน ยาย ... ชั้นยังไม่รู้เลยว่า ชั้นจะทำอะไรต่อ แล้ว ยายมาเล่าเรื่องนี้นะ โอ้ย ชั้นยิ่งงงไปใหญ่ " อีเผือก ตัดบท ขึ้นมาหลังจาก ได้สติกลับมาแล้ว

"เฮ้ย ... ฟังยายแกก่อน เดี๋ยวแกงอน ..." สมเจตน์ปรามอีเผือกที่ ... ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย ..
แม่มดเฒ่าแต่ยังสาว มองด้วยสายตาอันโกรธ กริ้วมายัง ผู้มาเยือนทั้งสอง พร้อมคิดในใจ ... "ไอ้พวกนี้ ปากเสียจริง ชั้นน่ะ ยังสาวอยู่นะ แฟนยังไม่มี จะให้เป็นยายซะแล้ว เดี๋ยว ปั๊ดเลย ..."

แต่สักพัก ยายแม่มด (หมายถึงแม่มด นะ ไม่ใช่ยายของแม่มด) ก็กลับมาสู่ภาวะขึงขันพร้อมกับเล่าต่อ

"ถ้าพวกเอ็งอยากให้ เจ้าเอก ฟื้นคืนมา ป้วนเปี้ยนในนิทานต่อ พวกเจ้าก็ต้องไปเก็บก้อนหินที่ถูกแสงประหลาดนั้นมาให้ข้าอย่างน้อย 1 กิโลกรัม ข้าจะนำพลังของก้อนหินที่ได้จากแสงประหลาดนั้นมาฟื้นคืนชีวิตให้มัน"

"เฮ้ย ... อย่างนี้ก็เจ๋งสิ " สมเจตน์ อุทาน

"แต่เจตน์ค่ะ" อีเผือก พูดด้วยเสียงออดอ้อน และแย้งว่า ... "ทำไมต้องให้เจ้าเอก ฟื้นขึ้นมาเป็น กขค. เราด้วยล่ะค่ะ"

"เออ พวกเอ็งไม่ต้องเถียงกัน ไว้ให้คนมาเขียนต่อ ตัดสินแล้วกัน ...." แม่มดตัดบท เพราะ อิจฉา
"แต่ว่า ข้าขอเตือนพวกเอ็ง พลังที่อยู่ในก้อนหินนั้น จะมีอยู่จนกระทั่ง วัตถุทั้งสองแยกห่างจากกัน 1 กิโลเมตร เป็นเวลา 1 ปี .... แล้วต้องรอให้มันห่างกันอีก 10 ปี ถึงจะสามารถสร้างแสงได้อีก ครั้ง ... ที่สำคัญ ซากของเจ้าเอกนี้ ถ้าเลย 1 เดือนไปแล้ว ไม่ว่าอะไรก็จะไม่สามารถ ดึงมันกลับมาฟื้นคืนได้อีก นอกจากไปเกิดใหม่ ... ฮ่า ฮ่า ฮ่า เอิ๊ก ..." พูดจบแล้วแม่มด ก็กลับไป ทิ้งปริศนา คำตอบให้ ทั้งสองคนถกเถียงกันต่อไป ..

************
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2549, 08:37:33 »

"พลทหาร สมเกียรติ ...." จอมพลชาร์ปเรียก
"มี ไร คับทั่น .." พลทหารสมเกียรติ ขานรับด้วยความขึงขัน
"อยู่ทะเล เบื่อ ๆ ... ทำไข่เจียว พร้อม กับ พริกน้ำปลา ให้กินหน่อยซิ" จอมพลสั่งการ
"ไข่เจียว กับ น้ำปลาพริก ใช่มั้ยทั่น"  พลทหาร ยืนยันคำสั่ง ..
"เฮ้ย ... พริกน้ำปลา ไม่ใช่ น้ำปลาพริก ... มีที่ไหนเขาเรียก น้ำปลาพริกบ้างว่ะ นอกจากจันทบุรี บ้านแกเนี่ย ..." จอมพลย้อน ...
"เอ้า ... อย่ามาแย้งนะ ไปทำมาให้ข้าได้แล้ว หิวว่ะ ... เออ ขอข้าวเหนียวด้วยนะ 1 กระติ๊บใหญ่ ๆ" พลทหาร สมเกียรติ เดินเข้าครัวอย่างสงสัย ว่า พริกน้ำปลา มันทำยังไง เพราะ เคยทำแต่ น้ำปลาพริก ...
"เมื่อไรจะถึงวะเนี่ย ไอ้ จุดกำเนิดแสงประหลาด ... " จอมพลบ่นอุบอิบ
"กระสุนก็ไม่มี เรือก็จมไปซะหมด แล้ว .... จะเอาอะไรไปยึดเค้าล่ะเนี่ย " ...
"มันก็มีทางอยู่นะท่าน บางทีท่านก้อไม่อาจใช้กำลังอะไรก็ได้ ใช่แค่หน้าตาอันหล่อเหลา แปลก ๆ แบบท่าน พร้อมกับ เวลา สักหน่อย ก็สามารถยึดเกาะได้แล้ว ..." ท้ายเรือ ป๋าบอล กล่าว
"จริงหรือท่าน ป๋าบอล ... ไหนเล่ามาสิทำยังไง"
คืองี้ ท้ายเรือ ป๋าบอล เอ่ย
"เจ้าผู้ครองเกาะ มีลูกสาว แสนสวยอยู่ 3 คน .... ขอเพียงท่านสามารถกุมหัวใจ ลูกสาวคนโตได้ ก็จะได้ครองเกาะทั้งเกาะแล้ว เพราะ อีก 2 ปี ก็จะถึงคราวที่เจ้าผู้ครองเกาะต้องโอนอำนาจให้ทายาทรุ่นต่อไป ...ง่ายนิด เดียว ไม่เหนื่อยจริง ๆ นะท่าน... แต่..."

"แต่ อาราย "  จอมพลทักท้วงด้วยความสนใจ ท้ายเรือป๋าบอล ได้ช่องโจมตี ...
"ท่านเองก้อหน้าตา ใช่ว่าขี้ริ้ว ขี้เหล่ อะไร .... แต่ข้าเกรงว่า อุปสรรคที่สำคัญก็คือ ตัวท่านเองล่ะ ขืนท่านทำตัวปอด ๆ วัน ๆ ได้แต่เหล่สาวแต่ไม่ทำอะไร ...ท่านก้อไม่ทันกินชาวบ้านเค้าหรอก จริงมั้ยท่าน ..."
"เออ ๆ... เอ็งไปคุมท้ายเรือต่อไปได้แล้ว...ข้าไม่อยากคุยเรื่องนี้ " จอมพลตัดบทพร้อมกับเข้าสู่สภาวะครุ่นคิดต่อไป ...
"ฮึ ๆ ป๋าบอล เจ้าสบประมาทข้ามากเกินไปแล้ว คอยดู ข้าจะเป็นพระยาเทครัวซะเลย หุ หุ หุ แต่ก่อนอื่น ข้าต้องไปยังจุดกำเนิด แสงประหลาดนั้นเสียก่อน .... หึ หึ พลังอันยิ่งใหญ่หรือ ไม่ยากเกินเอื้อม งายกว่าจีบสาว ๆ เป็นไหน ๆ"
.......
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2549, 08:38:03 »

กลับมาที่สมเจตกับอีเผือก ที่อยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะเอายังไงดี อยู่ๆ ทั้งสองก็ตกใจอย่างแรงเนื่องจาก ผีเอกก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ มาพูดกะคนทั้งสองว่า
"สวัสดีจ้า" นี้เอกเอง ผีเอกโผล่ขึ้นมา พร้อมวงแหวนบนศรีษะ ทุกคนพากันตกใจ (มีแต่อีเผือกที่รู้สึกเซ็ง เพราะดันมีผี กขค โผล่มาซะได้)
"เจ้าพื้นคืนชีพได้อย่างไรเนี้ย เอก" เสียงสมเจตต์ตะโกนขึ้นพร้อมตัวสั่นเทา
"อย่ากลัวไปเลยท่านสมเจต์" ผีเอกกล่าว "ข้าจะเล่าให้ฟัง" ผีเอกเอื้อมมือไปตบบ่าของสมเจตต์เบาๆเพื่อแสดงถึงมิตรภาพ และเป็นการปลอบให้สมเจตต์สงบลง
"หลังจากข้าได้ตายไป เมื่อกี๋ ข้าได้พบกะแม่เฒ่าหมอดูจากเรื่อง ดาก้อนบอล ซึ่งท่านเห็นในกรรมดีที่ข้าได้ปกป้องชีวิตของ แม่นางอีเผือกไว้ จึงได้ ขอร้องต่อท่านเจ้านรก ให้ข้ากลับมาสู่โลกมนุษย์ในร่างของวิญญาณเพื่อทำหน้าที่สำคัญต่อไป โดยให้เวลาข้าอยู่ในโลกมนุษย์ได้แค่ 1 เดือนเท่านั้น ซึ่งนั้นก็เพียงพอแล้วที่ข้าอาจได้ชีวิตใหม่ หรืออย่างน้อยก็เท่ากะเวลาก่อนที่ร่างของข้าจะเสื่อมสลาย"
อีเผือกงงงงกะนิทานบนเรื่องจริง(เช่นเรื่องของพลทหารสมเกียรติ์)
"เอาเป็นว่ายังงี้เราต้องรีบเดินทางต่อ เอ้าเร็วเข้าพวกเรา " "ข้ายังมีของขวัญติดมาด้วยน่ะ"  ผีเอกยังกล่าวต่อ
แล้วพลันหยิบถุงกำยาน ออกมา สามใบ "ท่านเจ้านรกยังได้ให้ถุงนี้มาสามใบ ท่านบอกว่าถ้ามีเรื่องเดือดร้อนให้เปิดถุงนี้ออกแล้วมันจะช่วยเจ้าได้ แต่ใช้ได้แค่สามครั้งทั้งเรื่องเท่านั้นน่ะ" " วิเศษ!!!" งั้นเรารีบเปิดมาดูเถิด" อีเผือกกล่าว
"โป๊ก!!! " สมเจตต์ตบไปที่กะโหลกของอีเผือกที่นึง แล้วก็ไม่พูดอะไร พร้อมกับดึงมือและเร่งผีเท้ารีบเดินทางต่อไป
ทั้งหมดเดินทางย้อนกลับไปที่บ้านของอีเผือกเพื่อไปเอาเรือที่จะใช้ในการเดินทาง
"โอ้ งี้จะไหวเหลือเนี่ย" เอกอุทานเมื่อเห็นสภาพโกโรโกโสของเรืออีเผือก
"ช่าย ทุเรศพอกับเจ้าของมันเลย" สมเจตน์สมทบ ดีนะอีเผือกไม่ได้ยิน เพราะมัวแต่สาระวนกับการเล่น net อยู่ข้างๆ
"มัว chat sex line กับใครอยู่อีเผือก ไม่รีบเดินทางเดี๋ยวตูก้อม่องแบบถาวรหรอก"
"โง่แล้วยังปากดีอีกไอ้เอก จะออกเรือทั้งทีไม่ check สภาพอากาศได้ไง เชอะๆๆๆๆๆ" อีเผือก รีบตรวจสอบสภาพอากาศต่อ
"ตอนนี้คลื่นลมแรงผิดปกติมาก คงจะเป็นเพราะเจ้าลำแสงประหลาดนั่นแน่ๆ"
"เรือเราคงไปไม่รอดแน่ แต่ดีนะที่ครอบครัวข้ามีสิ่งนี้อยู่" ว่าแล้วอีเผือกก้อหยิบ ของคล้ายเครื่องยนต์ขึ้นมา
"เครื่องยนต์เทอร์โบ พร้อมพอร์ชั่นไนโตรในตำนาน"
อะไรก็เกิดขึ้นได้ หากมีอีเผือกพกพาไปด้วย เหมือนดั่งมีกระเป๋าโดเรม่อนก็มิเปรียบปานได้
ขณะที่สมเจตย์ขับเคลื่อนเครื่องยนต์เทอร์โบ 2000 ได้รับการเลียนแบบจากรองเท้าบาจา สมัยที่ผีเอกเรียนมัธยมก็พุ่งทะยานด้วยความรวดเร็วจนคลื่นน้ำกระเพรื่อมแทบไม่ทัน สมเจตน์ขับแบบ Tokyo Drift คดเคี้ยวไปคดเคี้ยวมาตามซอกหลืบของสังคม เอ้ย ตามซอกภูเขาน้ำแข็ง เพื่อทดสอบความกล้า และบ้าบิ่นของตัวเอง โดยมีผีเอกนั่งบัญชาการบนไหล่ ดั่ง Shutter กด ติดวิญญาณ  หารู้ไม่ว่า อีเผือกจิตสั่นระทวย กลัวว่า ชาตินี้ คนสวยอย่าง อีฉันคงจะไม่ได้พบเนื้อคู่แล้วหล่ะมั้ง แต่ทันใดนั้น...
"ฮะ โหย ฮะ โหย เรืออะไร ช่างใหญ่โตขนาดนี้" ผีเอกอุทานแทบไม่อยากเชื่อสายตาผี ผี
"ไอ้ผีเอก ไหนบอกข้าซิในเรือลำนั้น มีผู้ใดเป็นจุดสนใจแก่อีเผือกบ้าง เอ้ยไม่ใช่ มีผู้ใดเป็นอันตรายและส่อลางร้ายแก่พวกเราบ้าง" สมเจตน์รุกหนัก เตรียมรับมือกับผู้มาโดยรับเชิญ (จากผู้แต่ง)

"โอมเพี้ยง! ขอให้มีหนุ่มเหลาทะลุตา แด่ข้าด้วยเทอญ เพี้ยง" อีเผือกนึกในใจ แต่หารู้ไม่ผีเอกล่วงรู้ลึกในจิตใจอีเผือกได้...ผีเอกกระโดดไปกระทืบบนบ่าอีเผือกทันใดด้วยแรงอิจฉาริษยา

"ข้าเห็น เห็น เห็น โอ้ มันช่างเป็นชายที่น่ากลัว เกรงขามอะไรเช่นนี้" ผีเอกอุทานด้วยเสียงสั่นเครือ น้ำตาจะไหล ปัสสาวะจะราดใส่บ่าอีเผือก

"มัน มัน...จกข้าวเหนียว แล้วปั้นคำใหญ่มาก กินด้วยความเร็ว 100 กม./ชม. โอ้! น่ากลัวๆ หน้าตามันดูหล่อเหลา ไม่ Sharp Sharp แต่ Strange Strange ข้าคาดการว่า เจ้าคนนี้ต้องไม่เคยเจออาหารมานานนับปี น่าจะกินแต่ computers มากกว่ากินข้าวนะท่าน" ผีเอกสันนิษฐานจากความทรงจำที่คลับคล้ายคลับคลาที่ค่อยผุดขึ้น ผุดขึ้นทีละนิด ๆ ดั่งว่า ตัวเองเคยทำอะไรมาก่อนที่ความจำจะหายไป

**************************
 
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2549, 08:39:29 »

บนเรือรบนั่นเอง..

นายพลชาร์ปมองเห็นสิ่งประหลาดเล็กๆ กำลังวิ่งเข้ามาหาอยู่ลิบๆ..จึงนำกล้องส่องทางไกลมาดู..
"นั่นมันเรือประหลาดอะไรนั่น มันขับเคลื่อนด้วยอะไร ไม่มีเครื่องยนต์ แต่สามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วปานนั้น..มีหญิงสวยอยู่หนึ่ง หนุ่มหล่ออยู่หนึ่ง ไอ้ตัวประหลาดๆดำๆอีกหนึ่ง..ท่าทางไม่เป็นมิตรกับเราอย่างแน่แท้..." นายพลชาร์ปรายงาน..
"เพื่อความไม่ประมาท...ทหาร..หันกระบอกปืนทั้งหมดที่มี และกระสุนสำรองที่ยังพอมีเหลือเล็งไปยังทิศ 9 นาฬิกา ยังเป้าหมายที่มิได้ระบุสัญชาติ..."
" ยิงงงงงงงงงงงงง"......
ตูมมมม....ร่างของทหารเรือสมเกียรติที่พรุนไปด้วยรูกระปืนใหญ่ลอยร่วงลงน้ำไปด้วยแรงกระแทกจะกระสุน
"เฮ้ย...ยิงมันทำไม ไม่ยิงเรือนู่นวะ" นายพลโตะจายโหมะเรยยยย
"ก็ท่านบอกให้ยิงเป้าหมายที่ไม่ระบุสัญชาติ" ใครสักคนตอบ
"ข้าหมายถึงเรือ...เรือนั่นไง" นายพลชาร์ปชี้ไปยังเรืออีเผือก
"อ้าว..แล้วท่านไม่เสือกบอกให้ชัดเจน พวกข้าก็นึกว่าให้ยิงไอ้สมเกียรติ เพราะตอนขึ้นเรือมา มันไม่ได้โชว์พาสปอร์ตน่ะ" ใครบางคนตอบ
"สาดดดดด...เอาใหม่ๆ ยิงเรือนั่น ยิงงงงงงง"
".....หมดแล้ว" ใครอีกคนตอบ
"อะไรอีกวะ" นายพลหงุหงิ
"กระสุนสำรองหมดแล้ว" ใครคนเดิมตอบ
"อะไรวะ ทำไมกระสุนสำรองเรามีน้อยนักวะ นี่อุตส่าห์เหลือมาจากปืนลั่นแล้วนะ"
"คือ..ก่อนออกเรือ สมเกียรติมันเอาไปชั่งกิโลขายเกือบหมดน่ะท่าน มันบอก..สำรองไว้ตั้งนานไม่เห็นได้ใช้ซักที" ใครก็ไม่รู้ตอบ
"กรูจะบ้า ดีแล้วที่ยิงแมร่งไปซะ แล้วเราต่อเอาไงดีวะ" นายพลเริ่มมึน
"ท่านจะไม่ลองคุยกะเรือนั่นก่อนเหรอ เผื่อมันมีพาสปอร์ตนะ" ใครนะตอบ
"โธ่เว้ย..ไม่มันเลย สาดดดดด" นายพลเสียดายที่จะได้แสดงความบ้าพลังออกมา
"เอางั้นก็ได้..ใครคนนึง..แล่นเรือไปใกล้ๆมัน ใครอีกคน..ส่งสัญญาณชวนคุยไปที่เรือนั่น พวกที่เหลือ ปั้นข้าวเหนียวเป็นก้อนๆ ตากแดดไว้เป็นกระสุนสำรอง" ไอ้ชาร์ปสั่งการ
"โอ๊ตสสสส์" ใครหลายคนร้องรับคำสั่ง
"ท่านครับ สัญญาณชวนคุยนี่..เป็นไงเหรอท่าน" ใครอีกคนถาม
"ไอ้โง่...เอ็งก็ไปเขียนบนใบเรือสิวะ ว่า 'เหงาจัง  ' "

"อ่อ งี้นี่เอง เด๋วจัดให้" ใครอีกคนเข้าใจแล้ว
"หึๆๆ ฮ่าๆๆ โฮ่ๆๆๆ" นายพลชาร์ปหัวเราะแก้เขิน และไม่รู้จะคุยอะไรกะเรืออีเผือก เพราะคุยแต่กับต้นไม้ และยิงเรือคนอื่นจมหมดก่อนจะคุยกัน
---------------------------------------------
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2549, 08:39:49 »

จากนั้น เจ้าใครคนนั้นก็ปีนขึ้นบนใบเรือ เพื่อส่งสัญญาณ "เหงาจัง" ตามคำสั่งของนายพลชาร์ป
"โป๊ก" ใครอีกคนเขก หัว ใครคนหนึ่งที่เขียนสัญญาณ "มรึงเขียนไรเนี่ย"
"เหงาจังไง"
"ยังมาเถียงอีก นี่มันอ่านว่า หนาวจัง"
"อ้าวเหรอ งั้นเขียนใหม่"
"โป๊ก" "อะไรอีกล่ะ"
"นี่มัน ขาวจัง เขียนใหม่"
"ก้อ ได้วะ " ใครกันนะเขียนอีกครั้ง
"โป๊ก" "ไรวะผิดอีกแล้วเหรอ"
"เปล่า ถูกแล้ว ตบหัวชมเชยอ่ะ หุหุ" ใครกันเล่าหัวเราะ
ขณะเดียวกันเรือของอีเผือก ทะยานด้วยความเร็ว แหวกคลื่นออกเป็นทางด้วยความแรงของไนโตรในตำนาน
"เฮ้ย นั่นมันเรือรบใครอ่ะ ลำเบ้อเริ่มเลย" ผีเอกเสือกตาดีมองเห็นก่อนคนอื่น พลางลอยตัวขึ้นไปบนฟ้าเพื่อจะได้เห็นได้ชัดเจน
"เอ รู้สึกคุ้นๆ เคยเห็นเรือลำนี้ที่ไหนหว่า เอ ชื่อมันติดปากชอบกล" ผีเอกครุ่นคิดอย่างหนัก "ลิ ... ลิ ... ลิอะไรน๊า ริเวียร่าก้อไม่ใช่ นั่นมัน อาบ อบ นวด"
"ลิเบอร์ตี้ ก้อประกันภัย"
"ลิลิยง ตูราม ก้อนักบอล เอ .... "
"มันเขียนอะไรไว้บนใบเรือด้วย"  สมเจตน์เสือกตาดีเห็นด้วยคนตะโกนแทรกขึ้นมา
"มันเขียนว่า หนาวจัง"
"ไม่ใช่"
"ขาวจัง"
"ไม่ใช่"
"อ๋อ มันเขียนว่าเหงาจังอ่ะ เป็นศัพท์ทางการของการเดินเรือ แปลได้ว่าอยากคุยด้วย" อีเผือก รีบโชว์ความรอบรู้ทางทะเลของคุณเธอออกมาทันที
"เรือลำใหญ่ขนาดนั้น..เค้าอยากคุยกันเราเรื่องอะไรกันนะ.." สมเจตเต้นพึง..เอ๊ย..รำพึง..
"ถ้ามันมีอาวุธแล้วมันยิงเราขึ้นมาจะทำยังไงกันล่ะ เรายิ่งไม่มีอาวุธอะไรด้วย.."อีเผือกรีบแทรก..
"คิดว่าน่าจะไม่นะ..ถ้าความจำผมไม่ผิด..เรือลำนี้เหมือนกับผมเคยรู้จักมันมาก่อน.."ผีเอกว่า
"'งั้นเราเอาไงดี..ถอยดีมั๊ย.."สมเจตถอดใจ..
"ลุยเลยดีกว่า เผื่อยึดเรือได้ จะได้ไม่ต้องนั่งเรือเล็กๆไงล่ะ.."ผีเอกว่า แถมหยิบเอาถุงที่ได้จากท่านเจ้านรกออกมา
"เอาไว้ใช้ยามจำเป็น..ตอนนี้มันอาจจะจำเป็นแล้วก็ได้นะ.."
ว่าแล้วผีเอกก็เปิดถุงแรกออก ข้างในเป็นวัตถุประหลาด..มันเป็นแก้วใส ภายในมีน้ำสีเขียวๆอยู่..
"น้ำไรเนี่ย มีเขียนไว้ว่าห้ามดื่มเกินวันละ 2 ขวดไหม๊เนี่ย" อีเผือกสงสัยมาก
ว่าแล้วอีเผืก ก้อคว้ามา เปิดขวด แล้วกรอกใส่ปากสมเจตน์อย่างรวดเร็ว
"อ่อก อ่อก อี เผือก มรึงทำไรเนี่ย" สมเจตน์ตะโกนโวยวายลั่น พร้อมเช็ดปากออกด้วยความกลัว
"หุหุ กรูขอโต๊ด" อีเผือก ขอโทษหน้าตาระรื่น
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2549, 08:40:13 »

ทันใดนั้น ตัวของสมเจตน์ก้อเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงขึ้น
"อุ ว๊ากกก"
เริ่มมีปะการัง ทั้ง เขากวาง เขาควาย ปะการับสมอง เซี่ยงจี้ โผล่มา พร้อมกับสาหร่ายสีเขียว สีแดง สาหร่ายสีน้ำตาลแกมทอง สาหร่ายพริกไทยดำ ผุดขึ้นมาเต็มตัว
การที่มีสิ่งประหลาดที่เกี่ยวกับทะเล(ยกเว้นเซียงจี๊-มีไว้ทำไมไม่รู้ (คงเหมือนไส้ติ่งมั้ง) ) ออกมา ทำให้สมเจตน์อยากกระโดดลงน้ำ เพราะรู้สึกว่าตัวเองตัองหายใจในน้ำเท่านั้น จึงบอกทั้งสองคนให้รอบนเรือก่อน โดยที่ไม่รู้ว่าโดดลงน้ำไปแล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป
ตูม ...
สมเจตน์จมหายไปในพริบตา ทุกคนรีบตามไปเกาะขอบเรือเพื่อดูผล
"หายเงียบไปเลยวุ้ย มันจะตายไหม๊เนี่ย"
"ถ้ามันตายเราก้อรีบกลับกันดีกว่าเน๊อะ เรื่องจะได้จบซะที ไม่ค่อยมีคนมาแต่งเรื่องต่อแล้ว" อีเผือกบ่นกระปอดกระแปด
"ตูม" สมเจตน์โผล่ขึ้นมาหน้าบานแฉ่ง
"โห หายใจได้อยู่เหมือนบนบกเลย" สมเจตน์รายงานผล
"รีบกินน้ำยานั่นเร็ว จะได้ดำน้ำแอบไปขึ้นเรือเหงาจังกัน"
"แล้วตูต้องกินด้วยไหม๊เนี่ย ตูเป็นวิญญาณอยู่นะ" ผีเอกสงสัย
"ไม่ต้องมั้ง..แกตายแล้ว..คงไม่จมน้ำตายซ้ำหรอก เอ้า..อีเผือก..กินเข้า..เดี๋ยวเราจะลองไปดูที่เรือกันหน่อย.."
"กินก็กิน.."อีเผือกว่า..ว่าแล้วก็ซัดเข้าไป 2 อึก..ซักพัก..ทั้งคู่ก็เหมือนปะการังตัวผู้กับตัวเมียนั่งอยู่ด้วยกัน..
"ไปกันเถอะ.." ว่าแล้วทั้งหมดก็กระโดดตูมลงน้ำ และเดินไปที่เรือเหงาจังใต้ท้องทะเลนั่นเอง..
...ทั้ง 3 ต่างเดินใต้ท้องทะเล..มุ่งหน้าไปหาเรือลิเวียธาน..
เมื่อไปถึงใต้ท้องเรือ ทั้งสามต่างปีนป่ายขึ้นไปบนด้านหลังเรือ..และค่อยๆย่องไปสังเกตุการณ์ความเคลื่อนไหวบนเรือ..
"....ไอ้เรือลำเล็กนั่นทำไมมันลอยอยู่เฉยๆตั้งนานแล้ววะ.."นายพลชาร์ปว่า..
"สงสัยมันตกปลาอยู่มั้งครับท่าน.."ใครคนนั้นว่า..
"สงสัยคงจะไม่มีพิษสงอะไรมั้ง..เราเดินทางต่อไปยังเป้าหมายดีกว่า..เอ้าเก็บปืน...ทหารทั้งหลายเข้าประจำการ...เคลื่อนเรือไปยังเป้าหมายทิศโน้น.."นายพลชาร์ปสั่งด้วยน้ำเสียงอบอุ่น..
"ทิศโน้นมันทิศไหนคับพี่..."นายท้ายเรือตะโกนถามอย่างไม่มีมารยาท..ท่าทางมันน่าจะเคยขับรถร่วมบริการสาย 6 หรือ สาย 8 มาก่อน...
"15 องศาเหนือ..18 ลิปดา 55 ฟิลิปดา 32 องศาเซลเซียส  9 นาฬิกา..." นายพลชาร์ปสั่งด้วยความมั่นใจ..
"กางใบเรือเต็มที่ เดินหน้าเต็มพิกัด...".....
เรือลิเวียธานก็มุ่งหน้าไปสู่ทิศไหนก็ไม่รู้..ตามคำสั่งของท่านนายพลผู้อบอุ่น...
กลับมาที่บุคคลทั้งสาม
"เอาไงดี..สมเจต.."อีเผือกถาม...
"ข้าว่าแอบอยู่อย่างนี้ก็ดีเหมือนกันนะ..ไม่ต้องเสียแรงพาย...ถึงที่หมายสบายผิดกัน..."ผีเอกให้ทัศนะจินดา..
"เฮ้ย...!!! พวกเอ็งเป็นครายยยยย ยกมือขึ้นแล้วหันหลังเข้ากำแพงเดี๋ยวนี้....ทหารเรือชาติเชื้อไทยทั้งหลาย...มาทางนี้ด่วนนนนนน.."
เผอิญนายทหารสมเกียรติที่โดนยิงตกเรือไปว่ายน้ำกลับมาขึ้นเรือพอดี...
"ซวยแล้วละ...เอาไงดีวะ.."สมเจตรำหมื่น..เอ๊ย..รำพัน..
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2549, 08:41:29 »

กองทหารรักษาเรือนับสิบรีบมาล้อม ผู้บุกรุกอันแปลกประหลาด
"นั่นมันตัวไรเนี่ย ปะการังตัวผู้ ปะการังตัวเมีย อีกตัวนึงก้อโปร่งแสง" ใครเอ่ยสงสัยในรูปลักษณ์ของเหล่าผู้บุกรุก
"เกิดอะไรขึ้น เจี๊ยวใหญ่เชียว" นายพลชาร์ป โผล่ขึ้นมาพร้อมพูดจาสองแง่สองง่าม
"ผู้บุกรุกครับ ฆ่ามันเลยดีไหม๊ท่าน แล้วเอาสาหร่ายที่ติดตัวมันมาทำแกงจืด"
"เดี๋ยว ข้าขอสอบสวนมันก่อน" สุดยอดคำตอบอันสุขุมนุ่มลึกจากท่านนายพล
"นี่เราจะรอดไหม๊เนี่ย" "มันมีกันเยอะซะด้วย ไม่น่าซุ่มซ่ามให้มันจับได้เลย" ปะการังอีเผือกกับปะการังสมเจตน์ตาลีตาเหลือกหาทางเอาตัวรอด
"เฮ้ย ไอ้หมดนั่นหน้ามันคุ้นๆ ว่ะ" นายพลชาร์ปจ้องเขม้งไปที่ผีเอก "ข้าเคยเห็นหน้าแกที่ไหนนะ"
ผีเอกไม่ตอบอะไรออกไป แต่ก้อมีความรู้สึกเหมือนเคยรู้จักนายพลชาร์ปมาก่อน
"ข้านึกออกแล้ว รรร หรือ ว่า จะเป็......"
"อ๊าก!!!! " "ตูม!!!" กอ่นที่นายพลชาร์ปจะพูดจบ พลันเสียงของพลทหารด้านหน้าเรือก้ดังขึ้นลั่น
"เราถูกโจมตี ท่านนายพล" "ใครวะ"
"สัตว์ประหลาดดดดด"
ภาพที่ปรากฎต่อหน้าทุกคน คือ ฝูงปลาขนาดใหญ่ในสภาวะ ร่างกายที่ไม่ปกติ บางตัวมีแขนขาเป็นปูยื่นออกมา บางตัวมีก้ามขนาดใญ่ โผล่ขึ้นมาจากพื้นน้ำ เข้ากัดกิน เหล่าทหารบนเรือ
"ออกเรือ รีบออกเรือ ให้พ้นจากบริเวณนี้ด่วน แล้วค่อยกำจัดไอ้ตัวที่ขึ้นมาบนเรือ" เรือเคลื่อนตัวออกอย่างรวดเร็วตามคำสั่งนายพลชาร์ป เพื่อให้พ้นจากการถูกปิดล้อม
"เฮ้ย...ไม่ไหวแล้วว่ะ...ถุงๆๆหยิบมาดูด่วน...นี่เค้าเรียกว่าภาวะขบขัน เอ๊ย..คับขันแล้วใช่มั๊ย.."อีเผือกว่า
"แต่กรูตายแล้ว..กรูก็คงไม่ตายซ้ำอีกทีนี่หว่า...เก็บไว้ใช้ตอนอื่นดีกว่านะ.."ผีเอกมีเถียง...
"แล้วกรูล่ะไอ้เอก...."สมเจตว่าพลางเตะหอยแมลงภู่ยักษ์ที่กระดึ๊บๆมา..
"เอ้า..ก็ได้.." ว่าแล้วผีเอกก็ควานเข้าไปหยิบของวิเศษชิ้นที่สองออกมา..มันเป็นผลึกสีชมพู..ขนาดใหญ่ประมาณกำปั้น..ตรงกลางมีอักษรเขียนว่า HP....
"ใช้ไงวะเนี่ยะ...ไว้เขวี้ยงหัวไอ้พวกนี้เหรอ...."อีเผือกแสดง IQ..
"ตอนเด็กๆเราเคยเล่นเกมส์นินเทนโด..หน้าตามันเหมือนกับที่เคยเห็นเลย..เราว่า..มันน่าจะ เป็น..............."
"Hell power!!! พลังนรก !!!"
สามเสียงกู่ร้องขึ้นพร้อมกัน แล้วมันใช้อย่างไรนี้ดูท่าจะยังไม่มีใครเข้าใจ ในขณะที่เหล่าทหารเรือกำลังต่อสู้อย่างดุเดือด พลเอกชาร์ป ถูกวงล้อมของสัตว์ประหลาดควบคุม แม้ฝีมือดาบคู่จะไม่เป็นรองใครแต่พละกำลังมิอาจต้านทานเหล่าสัตว์ยักษ์ไว้ได้ กำลังเพลี้ยงพล้ำด้วยแรงกายที่ถดถอย "โอ้ยช่วยกรูด้วย ทหาร ทหาร ไปทำอะไรอยู่ " ความรู้สึกตื่นตัว พลันผุดขึ้นในใจผีเอก เป็นความรู้สึกที่เปล่งออกมา เพื่อบอกให้ต้องปกป้องคนสำคัญ ผีเอกคว้า ไอเท็ม HP แล้วกระโดดเข้าไปในวงล้อมเหล่าสัตว์ประหลาดอีกครั้ง เหมือนกะที่เคยสละชีวิตเพื่อเข้าไปช่วยชีวิตอีเผือกไว้จากลิงยักษ์ บนเกาะแม่มด แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งนั้น แน่นอน!!!
"ข้าขอใช้พลังจากนรก Hell Power" เอกขว้างไอเท็ม HP ลงพื้น
เปรี้ยง!! ไอเท็มแตกออก พร้อมแสงสว่างวาบออกมา
...
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #15 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2549, 08:42:12 »

หลังจากที่แสงจางลง ทุกคนบนเรือก็เห็น...สิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์
"ฮิปโป!!!"
ผีเอกอึ้งแดก "โผล่มาทำไมวะ โห แล้วกรูอยู่กลางดงศัตรูอีกแล้ว ตายแล้วจะตายอีกรึป่าววะเนี่ย"
"ฮูมมมม" ฮิปโปคำรามกลบเสียงบ่นผีเอก มันมองไปรอบๆ ด้วยสายตาที่ไม่อาจเดาได้ว่าคิดอะไรอยู่
"นี่ไม่ใช่ฮิปโปธรรมดา" อีเผือกช่างสังเกตุ "มันเป็นฮิปโปยักษ์ อ่า..มีปีกด้วย"
"แล้วไง มันจะช่วยอะไรเราอ่ะ" สมเจตนึกไม่ออก
ไม่ทันขาดคำของสมเจตน์ ฮิปโปยักษ์เริ่มเคลื่อนตัว เดินไปรอบๆ ปลาประหลาดพุ่งความสนใจไปที่ฮิปโปด้วยความอยากลิ้มลองรสชาติเนื้อฮิปโปยักษ์ ทันใดนั้นฮิปโปก็กระโดดขึ้นไปบนฟ้า กางปีกออก....
ปีกของมันแผ่กว้างออกมา พริบตานั้นปีกมันก้อหลุดพรวดออกมาทั้งสองข้าง
ส่งผลให้เจ้าฮิปโป ทิ้งตัวดิ่งลงมาด้วยความเร็วสูงจนตัวลุกเป็นไฟ
ตูม!!! ฮิปโป กามิกาเซ่ กระแทกลงกลางฝูงสัตว์ประหลาดอยากจัง
เหล่าสัตว์ประหลาด กระเด็นปลิวไปคนละทิศละทาง รวมถึงเหล่าพวกผีเอก และ นายพลชาร์ป
เรือแตกออกเป็นสองส่วน เศษไม้ปลิวเต็มท้องฟ้า เรือลิเวียธานค่อยๆ จมลง เสียงเอะอะ โวยวายค่อยๆ จางหายไป
พร้อมๆ กับเหล่าผู้คนในเรือที่กระเด็นหายไปคนละทิศละทาง
ริมหาดร้างฝั่งตะวันตกของเกาะ ร่างนายพลชาร์ปลอยมาติดที่หาด พร้อมกับนายทหารสมเกียรติ และปะการังอีเผือก
นายพลชาร์ป ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา แล้วคลำศรีษะตัว ทันทีที่พบว่าศรีษะตนเอง ว่างเปล่า นายพลชาร์ปสะดุ้งอย่างตกใจ
ลุกขึ้นมากวาดสายตาไปรอบทิศทาง "หมวก หมวก หมวก ตูอยู่ไหน"
ประเทศของท่านนายพลชาร์ป ตำแหน่งและอำนาจจะคงอยู่ด้วย ถ้ามีหมวกประจำตำแหน่งอยู่
หากวันใดหมวกหาย หรือ ถูกใครชิงไปได้ ตำแหน่งและอำนาจจะไปอยู่ในมือ ผู้นั้นแทน
"หึ หึ" นายทหารสมเกียรติ หัวเราะขึ้นเมื่อเห็นสภาพนายพลชาร์ปที่ไร้หมวก
"ฮ่าๆๆ ไอ้เรื่องชั่วๆนี้สมเกียรติชอบ" พลทหารสมเกียรติคิดในใจ พร้อมกับหยิบดาบที่ตกอยู๋แล้วย่องเข้าไปด้านหลังของนายพลชาร์ปที่มัวแต่หาหมวกโดยไม่ได้ระวังตัว ยังกะจะเข้าไปแทงข้างหลังนายพลชาร์ป (เหมือนกะที่ใครบางคนเคยทำกับไอ้ชาร์ป เฮ้ยนายพลชาร์ป)

ทันใดนั้นเสียงวัตถุแหวกอากาศพุ่งมาจากระยะไม่ไกล้ไม่ไกล ปาดผ่านหน้าพลทหารสมเกียรติไป พลทหารผงะ พร้อมกับเสียหลักล้มลง ก้นจ้ำเป้า
"หยุดน่ะเจ้าจะทำอะไร" เสียงหนึ่งดังขึ้น นายพลชาร์ป รีบหันไปดูเหตุการณ์ พบเจ้าของเสียง ยืนตระหง่านอยู่ข้างหน้า
"เอ้ เจ้ามัน มัน มัน" ร่างโปร่งแสงลอยตัวอยู่ มืออีกข้างยังคงถือดาบ จ่อไปทางพลทหารอีกครั้ง
"เจ้าตั้งใจจะทำอะไรน้องข้า เจ้าพลทหาร ชั้นต่ำ!!!"
"อะจึ๋ย.....แห่ๆๆๆ เค้ามาช่วยหาหมวกหรอก..." พลสมเกียรติแกล้งทำติงต๊อง..
"พี่แครมม...ใช่พี่แครมมจริงๆด้วย..."นายพลชาร์ปอุกิน..เอ๊ย..อุทาน..
"ใช่แล้ว..กว่าพี่จะความจำกลับมาได้บางส่วน..ต้องนึกอยู่นาน..ข้าว่าข้าเริ่มคุ้นหน้าเจ้าตั้งแต่แรกเห็นแล้วล่ะ..พอดีจังหวะที่โดนอิปโปไฟถล่มเรือ..หัวข้าไปปะทะเศษไม้..เลยนึกอะไรออกได้บางส่วน...ว่าแต่..ข้าขอจัดการไอ้นี่ก่อน..."
"ฉึก.....เอ๋ง..." เสียงดาบแหวกอากาศทะลุร่างของพลสมเกียรติ หงายหลังนอนตาเหลือก..(เป็นอันว่าตัดตัวละครที่ไม่จำเป็นไปได้หนึ่ง..ไม่ต้องไปทำให้มันฟื้นอีกนะ...แครมมมรำพึงคนเดียว..)
"ว่าแต่น้องรัก...จริงๆข้าชื่อแครมม จริงๆเหรอ..ทำไมชื่อมันช่างอุบาทว์เช่นนั้น.."แครมมกล่าว..
"เรื่องมันนานกว่าปีแล้วพี่..ข้าเองก็คิดว่าจะไม่ได้เห็นหน้าท่านอีก..."นายพลชาร์ปจึงได้เล่าเรื่องในอดีตต่อไปว่า......
ในขณะที่นายพลชาร์ปจะเล่าอดีตให้ผีเอกฟัง
********************************************
 
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2549, 08:43:00 »

ตัดกลับมาที่สมเจตน์
สมเจตน์ ค่อยๆ ลุกขึ้น หลังจากหมดสติไปนาน ค่อย หันไปรอบๆ ข้างเพื่อจะหาพรรคพวกที่ กระจัดกระจายไป
"ที่มันที่ไหนหว่า ไม่ค่อยคุ้นเคย สิ่งแวดล้อมแปลกๆ เหมือนใต้ทะเลเลย" ทันทีที่สมเจตน์เงยหน้าขึ้นไปมองท้องฟ้า เค้าแทบจะช๊อค
หาเรื่องสลบเพื่ออู้งานไปอีกซักระยะหนึ่ง ท้องฟ้ากลับไม่ใช่ท้องฟ้า แต่มันเป็นพื้นน้ำ ลอยอยู่สูงเหนือหัวขึ้นไป มีปลาประหลาดที่โจมตีเรือเมื่อครู่ จำนวนหลายร้อยพัน ว่ายไปมาอยุ่ด้านบน
"มีเราคงโดนแรงกระแทกจากเจ้าฮิปโปนั่น เจอแรงอัดจนล่วงลงที่ดินแดนใต้ทะเลแห่งนี้" สมเจตน์พยายามคาดเดาและลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยความงงงวย
"ว่าแต่ว่า ดินแดน นี่มันเกิดขึ้นได้ไงเนี่ย"
"ใต้ทะเล แต่กลับมีอากาศหายใจ" มรึงจะสงสัยอะไรกันนักหนา ได้สมเจตน์

"กร๊อบ" ขณะกำลังนึกอะไรอยู่นั้น สมเจตน์ก้อเหยียบวัตถุสิ่งหนึ่งเข้า
"หมวกใครมาตกอยู่ตรงนี้เนี่ย"
สมเจตน์ยกเท้าขึ้นมาดูก้อพบว่าเค้าเหยียบหมวกใบหนึ่งอยู่ "อ๋อ หมวกที่นายพลหน้าเห่ยๆ คนนั้นใส่อยู่นี่หว่า เก็บไว้ดีกว่า"
เขาเดินสำรวจเพื่อหาทางออกจากดินแดนใต้ท้องทะเล อยู่พักใหญ่ ทันใดสายตาเค้าก้อไปพบกับแสงสว่างประหลาด ที่พวยพุ่งขึ้นมาอยู่ไกลๆ
"หรือว่า นั่นจะเป็น..." สมเจตน์รีบวิ่งไปที่แสงสว่างนั้นอย่างรวดเร็ว
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2549, 08:43:57 »

ตัดไปบนชายหาดปะการัง อีเผือกได้เป็นคราบทิ้งไว้ ส่วนตัวจริงอยู่ในทะเลกับสมเจตน์

"หึ หึ ...
ในที่สุด ข้าก็จะได้เข้าสู่ภารกิจแรกแต่เริ่มซะที ...ตั้งแต่หน้าที่ สอง มาหน้า หก นี้ .. ยังนึกไม่ออกเลยว่าจะได้เข้าวัง ไปหาเหล่า กิ๊ก สาว ๆ ได้เมื่อไร"
" 5 5 5 5 5... ในที่สุด ... 5 5 5 5 5 "
สมเจตน์ รำพึงรำพัน ตะโกนโหวกเวก ท่ามกลาง หมู่ อสุรกาย ที่ว่ายเวียนวนอยู่เบื้องบน เป็นที่น่าแปลกใจยิ่งนัก ว่า สมเจตน์ จมลงลู่ก้นทะเลโดยที่ ไม่โดนเหล่าอสุรกาย ขย้ำ ได้อย่าง ไร ... นักตรรกวิทยา เป็นงง ยิ่งนัก ...
แถม นัก ชีว-ฟิสิกส์ ก็สงสัยว่า ที่ระดับ ใต้น้ำทะเล 1000 เมตร นี้ ร่างกายของสมเจตน์ ทนได้อย่างไร ... และ จากจุดกำเนิด แสง กับเรือ ... ก้ห่างใกลกันลิบ ... สมเจตน์ มาได้อย่างไร ... น่าฉงน ยิ่งนัก
แต่ช่างเหอะ ... คงไม่มีใครตอบได้หรอก เพราะ ไม่รู้ว่า ไอ้คนเขียนมันจะสงสัยไปทำบ้าอะไร ... ยังไง สมเจตน์ มันก็มาถึงแล้ว
... เมื่อถึง แหล่งกำเนิดแสง ... โอ้ ... ใครจะรู้บ้างว่า สมเจตน์ เจออะไร ...
("เออ สิ ใครจะรู้ว่ะ ถ้า มรึง ไม่บอก" ... เสียงใครคนนั้น ที่อยู่กับใครบางคน แต่ดันคิดถึงใครคนหนึ่งอยู่ ... ตะโกนมาด้วยเสียงที่แสดงถึงอารมณ์ หงุหงิ)
พื้นที่ส่องสว่างของแสง ... ทำไมมันกว้างใหญ่ไพศาลอย่างนี้ ... เทียบกับ โอล แทรฟ ฟอร์ด ได้ถึง 100 สนาม ... เทียบ กัน แอนฟิลด์ ได้  100.5 สนาม...โอว์สสส
"#%6273$jhdjh&*(36 ... -ตค-ก่*%^*@9n0&^ ..."
สมเจตน์ บ่น เป็นภาษาที่ไม่รู้เรื่อง ... (ใครอ่านรู้เรื่อง ก็แปล บอกหน่อยแล้วกัน)
"แล้ว กรู จะหาก้อนแหล่ง กำเนิด แสง ได้อย่างไรเนี่ย ... "
" แฮ่ก ๆ ๆ ๆ ... แฮ่ะ ๆ ๆ ๆ " เสียงหอบของใครสักคน ..เอ๊ะไม่ สองคนต่างหาก ...เสียงไม่เหมือนกัน
"สมเจตน์ !!!! " ...
"นี้ ไม่รอกันเลยนะ ... เจ้านี้..." อีเผือก ส่งเสียงงอนด้วยความน้อยใจ ...
"โธ่ ... ไม่หรอก ข้า เห็นแสง ก็เลยรีบมา .. ไม่ทันได้ดู ว่ามีใครตาม มา... " สมเจตน์ แก้ตัว ไป.. แต่ก็แอบคิดอยู่ในใจ .. "นี้ล่ะ น้า ผู้หญิง ขี้น้อยใจจริง... เรื่องไม่เป็นเรื่อง เฮ้อ ... แต่ เอ๊ะ แล้ว ตามมาได้อย่างไร ไม่เห็นรู้เรื่อง เลย"
"อะ ... แฮ่ม ...ท่านทั้งสอง .. ข้าก็อยู่นะ สนใจข้าหน่อย ..." ท่านนายท้าย ป๋าบอล ... กระแอมขัดจังหวะทั้งสอง ...

.... ท้ายที่สุด จากการระเบิดของ HP ... ได้แบ่งกลุ่มการผจญภัยใหม่ เป็น 2 กลุ่ม แต่ต่างสมาชิก ...
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #18 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2549, 08:45:09 »

ภาพในอดีตของ น้องชาร์ปกับพี่แครม ก้อค่อยๆ ผุดขึ้นมาในความทรงจำของคนทั้งสอง พี่น้องสองคน แห่งเกาะซึ่งเป็นศูนย์กลางการพาณิชย์และอารยธรรมของโลก
 
พี่น้อง ซึ่งมีความกล้าแกร่ง ทั้งสติปัญญาและเชิงกีฬา ทั้งคู่ตัดสินใจเข้าทำงานกับหน่วยงานของรัฐบาล ซึ่งมีความทะเยอทะยานในการจะครอบครองโลกไว้ทั้งหมด
 
แต่เมื่อทั้งคู่ มีความเด่นที่เหนือกว่าคนอื่นกันทั้งคู่ จึงไม่เป็นการดีหากจะอยู่ร่วมในหน่วยเดียวกัน
เพราะจะต้องทำให้ทั้งคู่มาแข่งขันกันเอง

แครม เลือกที่จะอยู่ในกองทัพอากาศ
ชาร์ป เลือกที่จะอยู่ในกองทัพเรือ

ทั้งคู่ ก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำระดับสูงของกองทัพทั้งสองอย่างรวดเร็ว ด้วยความสามารถอันเปี่ยมล้น
แต่ก็ต้องแลกมาซึ่งการต้อง ขจัดคู่แข่งหลายๆ คน เพื่อก้าวขึ้นไปในระดับสูง

หนึ่งในนั้น คือ "ป๋าบอล" รุ่นพี่คนหนึ่ง ซึ่งเฝ้ารอการก้าวขึ้นเป็นระดับผู้นำ แต่ก็โดนทั้งคู่ แซงหน้า จนทำให้ป๋าบอลต้องกระเด็นจากตำแหน่ง ไปคุมในส่วนของคลังอาวุธแทน

และแล้ว ความแตกร้าวเริ่มคืบคลานเข้ามายังพี่น้องทั้งสอง เมื่อ "ความรัก" เป็นต้นเหตุ
ชาร์ปผู้น้อง วันๆ หมกตัวและมุ่งมั่นกับงาน เกิดหลงรักหญิงนางหนึ่ง (นามสมมุติว่า อ.) แม้พันตรีหนุ่ม(ในขณะนั้น) จะยังไม่ได้เข้าใจและเอาใจใส่ในเรื่องหัวใจ มากเท่าไร

แต่เป็นที่รู้กันว่า พร้อมและทุ่มแทให้กับหญิงคนนี้ได้เสมอ ถ้าเธอต้องการ เหมือนโชคชะตากลั่นแกล้ง ปัญหารุมเร้า ทำให้ระยะทางของเขาและเธอกลับห่างไกลกัน

พันตรีชาร์ป ถูกส่งไปรบที่ชายแดน ปล่อยให้หญิงที่แอบรักโดดเดี่ยว เหมือนฟ้าเป็นใจ เอก หรือ พันโทแคมได้มีโอกาสใกล้ชิดกับ น้องอ. ทั้งสองเริ่มคุ้นเคยกัน จนเริ่มมีเสียงนินทาว่า มีการ"แทงข้างหลัง"เกิดขึ้น เมื่อพันตรีชาร์ปได้ข่าว ก็ได้แต่เก็บความรู้สึกนั้นไว้ และ มุ่งมั่นที่จะได้ทำงานต่อไป เวลาผ่านไปชาร์ปและเอก เริ่มกระอักกระอ่วน ไม่เข้าใจการเหมือนเดิม

จนมาวันหนึ่งเอกได้รับภารกิจออกรบอีกครั้ง ครั้งนี้หนักหนานัก และกองทัพเป็นฝ่ายเพี้ยงพล้ำ ทหารกว่าพันนายที่เอกบัญชาการหายไปอย่างไร้ร่องรอย และเป็นปริศนารวมถึงตัวเอกเอง เหตุการณ์ผ่านไปได้กว่าสิบปี จนเอกรู้สึกตัวอีกครั้งบนเกาะของอีเผือกพร้อมกับความทรงจำที่จางหายไป
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #19 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2549, 08:45:53 »

หลังจากที่ผีเอกได้ฟังเรื่องราวจบ ก็พบความจริงว่า สิบกว่าปีที่ผ่านมา บัดนี้พันตรีชาร์ปได้เลื่อนยศเป็น จอมพลชาร์ป แห่งราชอาณาจักรเกาะแน่นๆ นะน้องนะ ขณะที่ตัวเองเป็นคนที่หายสาบสูญ จนกลายเป็นผีสาบสูญ มีแต่วิญญาณรางๆ ที่คอยนั่งอยู่บนไหล่ใครบางคน และได้พบกับมิตรแท้อย่างสมเจตน์และอีเผือก   แม้จะไม่ได้เป็นญาติพี่น้อง ผองเพื่อนแต่ก็ยังอดทน สู้อุตส่าห์พาวิญญาณพิการ แขนขาดข้างขวาไปไหนมาไหนด้วย และตอนนี้พลัง HP ได้ทำให้แยกกลุ่มผู้ร่วมเดินทางไปยังเกาะๆนึงที่อยู่ไกลโพ้น แต่มีทรัพยากรมากมาย ที่ราชอาณาจักรเกาะแน่นๆ นะน้องนะ ต้องการครอบครอบ

สมเจตน์ อีเผือก และนายท้ายเรือป๋าบอลยังแหวกว่าย หาทางขึ้นสู่เบื้องบน แห่งท้องทะเล
จอมพลชาร์ป ผีเอก พลทหารสมเกียรติ ลอยไปติดหาด หารู้ไม่ว่า หาดนั้นคือ “เกาะสวาท หาดสวรรค์” ซึ่งเป็นที่หมายปอง แก่ราชอาณาจักรเกาะแน่นๆ นะน้องนะ  จอมพลชาร์ปส่งสายตามองหาเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพาและกันน้ำได้ เพื่อวัดระยะพิกัดที่ตั้งของชายหาดแห่งนี้
“โอ้ แม่เจ้าโว้ย!!! ในที่สุด ในที่สุด ในที่สุด ในที่สุด ในที่สุด” ผีเอกตบกะโหลกทีหนึ่ง โทษฐานชักช้า เลยวื่ดทุกอย่าง
“เอ็งจะอุทานอะไรยาวนัก มีอะไรก็รีบๆ บอกมา เวลายิ่งมีน้อยอยู่ ข้าเหลือเวลาอีกไม่กี่วันก็จะครบ 1 เดือนตามที่แม่มดบอก ข้าไม่อยากต้องเป็น “ผีเอก” อย่างนี้ตลอดไป”
“รู้มั้ยว่า ที่นี่คือ เกาะที่ข้ารอมานานแล้ว รอ รอ รอ แล้วก็รอ รอที่จะมาพิชิตลูกสาวคนโตของเกาะนี้ ท่านพี่รู้มั้ยว่า เจ้าผู้ครองเกาะนี้มีลูกสาวแสนสวย 3 คน เพียงข้ากุมหัวใจลูกสาวคนโตได้ อีก 2 ปีข้าก็ได้ครองนครนี้แล้ว หุหุ (ฝันหวานอีกแล้ว) แต่ครั้งนี้ข้าต้องทำสำเร็จแน่นอน เพราะท่านพี่อยู่ด้วย แถมแผลข้างหลังข้า หายสนิทดี พร้อมลุยใหม่แล้ว อะคึ อะคึ
****************************************
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #20 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2549, 08:47:03 »

ใต้มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ณ อาณาจักรใต้น้ำที่เกิดจากอำนาจของลำแสงประหลาดจากแหวนพลังและหัวใจมหาสมุทร ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญได้มาพบกัน

กลุ่มของสมเจตน์ อีเผือก และนายท้ายป๋าบอลกำลังคลำทางเพื่อไปหาแหล่งกำเนิดแสงอย่างระมัดระวัง
" นี่มรึงจะมองก้นตูอีกนานไหม๊เนี่ย ไอ้ป๋าบอล " สมเจตน์หันมาตวาดลั่นเมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาของนายท้ายป๋าบอล ที่จ้องเขม็งมาที่ก้นของตัวเค้ามาตลอดทาง

"มรึงเป็นเกย์ป้ะเนี่ย เห็นก้นอันอวบอิ่มของข้าแล้วทนไม่ได้ใช่ไหม๊ กร๊ากกก"
"ม ... ม ไม่ใช่ครับ มองเฉยๆ มะมีอะไร" ป๋าบอลแก้ตัวละล่ำละลักเมื่อถูกจับผิด
"เออ แล้วไป รีบเดินทางต่อกันเถอะ จะได้หาทางออกจากที่นี่กันซะที"
จะมีใครสักคนที่รู้กันเหล่า สิ่งที่นายท้ายป๋าบอลสนใจมิใช่ประตูหลังของสมเจตน์ แต่เป็นหมวกจอมพล ของจอมพลชาร์ปที่เหน็บไว้ที่ก้นของสมเจตน์นั่นเอง จะมีใครสักคนที่จำเขาได้ นายท้ายป๋าบอล อดีตนายทหารผู้เกรียงไกรแห่งกองทัพเรือ ผู้มีอนาคตไกล
แต่ต้องถูกเขี่ยกระเด็นออกจากเส้นทาง ด้วยนายทหารรุ่นใหม่ ซึ่งก็คือ นายพลชาร์ปในปัจจุบัน
ป๋าบอลต้องถูกย้ายไปเฝ้าคลังอาวุธแทน อนาคตดับวูบ ทุกคนต่างลืมเลือนเขาไปหมด
ป๋าบอลเฝ้ารอวันที่จะกลับมาแก้แค้นจอมพลชาร์ป
ในระหว่างนั้น ป๋าบอลได้อาศัยห้องทดลองของคิดค้นอาวุธร้ายแรงขึ้นมา แต่ยังขาดสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งอยู่ที่เกาะแห่งนี้เอง
เมื่อทราบข่าวว่าจะมีการยกทัพมายังเกาะแห่งนี้ ป๋าบอลจึงได้ปลอมตัวมาเป็นนายท้าย
จุดประสงค์หนึ่ง คือ การได้มาซึ่งปัจจัยในการผลิตอาวุธ อีกจุดประสงค์ คือ การล้างแค้นจอมพลชาร์ป
"หึ หึ เป้าหมายเราอยู่ใกล้แค่เอื้อมนี่เอง" ป๋าบอลยิ้มเยาะอย่างชั่วร้ายอยู่ในใจ
"อยู่ในง่ามก้นข้างหน้านี่เอง เคี๊ยกๆๆๆๆๆๆ"
"นั่นมันเนินอะไรอ่ะ สมเจตน์" อีเผือกชี้ไปยังเนินขนาดใหญ่ ลักษณะเหมือนเนินดิน ที่โดนถูกพลังอะไรซักอย่างดันขึ้นมาจากข้างใต้ จนมียอดสูงขึ้นไป โดยที่ปลายยอดมีลำแสงพวยพุ่งอยู่ขึ้นมาตลอดเวลา
"นั่นคงจะเป็นศูนย์กลางลำแสงที่เราค้นหากันแหละ"
ว่าแล้วทั้งหมดก้อรีบตะเกียกตะกายขึ้นเนินดิน เพื่อค้นหาสิ่งที่เป็นแหล่งกำเนิดแสงดังกล่าว
"อีเผือก เธอปีนนำก่อนล่ะกัน lady first" สมเจตน์แนะ
"ไม่ได้ เดี๋ยวมรึงอยู่ข้างล่าง แล้วแอบมองบั้นท้ายชั้น มรึงนั่นแหละขึ้นก่อน"
"ไม่ได้ เดี๋ยวป๋าบอล มันแอบมองก้นเค้าเหมือนกัน" ทั้งคู่ต่างมั่นใจในบั้นท้ายของตัวเอง
"ก้อได้ ตูปีนขึ้นก่อนก้อได้" ป๋าบอลตัดความรำคาญ "แต่ตูก้นเหม็นนะ อยากอยู่ข้างล่างก้อเชิญ"
พักใหญ่ ทั้งสามก้อขึ้นมาได้ เดี๋ยวสีหน้าอันซีดเผือด ไม่ใช่เพราะเหนื่อย แต่ก้อป๋าบอล แมร่งเหม็นจิงๆ
แหล่งกำเนิดแสงยูเรน่าอยู่ข้างหน้าคนทั้งสามนี่เอง แหวนพลังและหัวใจมหาสมุทรลอยอยู่กลางอากาศ ส่องแสง ปล่อยกระแสพลัง พวยพุ่งออกมาตลอดเวลาอย่างต่อเนื่อง รอบๆ แหวนและสร้อย ปรากฏหินอัญมณีขนาดเท่ากำปั้น มีแปดสี แปดก้อน ลอยอยู่ล้อมรอบ เสมือนอยู่ในตำแหน่งกระจกแปดเหลี่ยม
"นั่นคงจะเป็นแหวนและสร้อยในตำนานแน่ๆ เลย" สมเจตน์รำพึงรำพัน
"และหินนั่น คงจะเป็นหินที่จะทำให้ไอ้ผีเอก คืนชีพขึ้นมาได้ ตามที่นังแม่มดนั่นบอกมา"
อีเผือกเสริม "ว่าแต่ว่ามันก้อนไหนเหรอ หรือว่าต้องขนทั้งหมดฟะเนี่ย"
ก่อนที่ทั้งหมดจะตัดสินใจทำอะไร ทันใดนั้น สิ่งที่มีชีวิตขนาดมหึมาซึ่งเคยโจมตีมังกรมาก่อน ก็พุ่งมาจากพื้นน้ำด้านบน
ทะลุลงมาที่แหล่งกำเนิดแสง พุ่งตรงมายังทั้งสามคนอย่างรวดเร็ว!!!!!!
...วีปอน..!!!!!! (WEAPON)...ทั้งสามอุกิน เอ๊ย..อุทานพร้อมกัน..
วีปอนเป็นสัตว์ในตำนาน ร่างกายใหญ่โต..มีปีก..รูปร่างเหมือนมังกรผสมตัวเงินตัวทองและตั๊กแตน..หางยาวใหญ่ มีปีก ซึ่งเป็นสัตว์ที่มักจะเห็นได้ตามห้างพาต้า..เอ๊ย..ตามจิตรกรรมฝาหนังถ้ำโบราณ ที่คนโบราณอายุกว่า 5000 ปีได้วาดเอาไว้ ทุกคนคิดว่า..มันเป็นแต่เพียงในจินตนาการและในตำนาน..ว่าวีปอน..ได้ถูกส่งมาเพื่อพิทักษ์สิ่งของมีค่าสิ่งหนึ่ง..แต่บัดนี้..วีปอน..ได้ปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าทั้งสามแล้ว...วีปอนได้หยุดอยู่ต่อหน้าคนทั้งสาม..จ้องมองอย่างดุร้าย..และคำรามไปทั่วพื้นน้ำ...

ฮูมมมมมมม........
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #21 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2549, 08:47:28 »

....บนเกาะสวาท หาดสวรรค์..

"นั่นเสียงอะไรน่ะ.."เอกหูดี..
"เสียงสับหมู.."นายพลชาร์ปรับมุก..
"หอมอะไรน่ะ.."นายพลจะเล่นมุกต่อ แต่โดนผีเอกตบกะโหลก..
"พอได้แล้ว..ไอ้นี่..เล่นมุกแป๊กๆมาแต่ไหนแต่ไร..ไม่ทั้งนิสัย..วันหลังมันต้องเล่นอย่างพี่..มุกหยอดอย่างมีศิลปะ..หยอดบ่อยๆเดี๋ยวดีเอง..แต่เอ...ข้าได้ยินเสียงประหลาดจริงๆนะ..เหมือนจะมีเรื่องไม่ค่อยดีเกิดขึ้น..ข้าว่าต้นกำเนิดเสียงคงอยู่ไม่ไกลมาก..ด้วย sense ของข้า..ข้าว่ามันจะต้องอยู่ทิศนี้แหงมๆ.."ว่าแล้วก็ชี้ไปทางทิศเหนือ..
"ว่าแต่ข้าเห็นแสงอะไรแว๊บๆอยู่หลังก้อนหินนั่น.."นายพลชาร์ปตาดี..
"โอ๊ะ..นั่นเรือนี่นา...."ผีเอกว่า..และทั้งสองก็รีบวิ่งไปที่เรือที่แอบอยู่หลังก้อนหินนั่น..
"อุว่ะ..บังเอิญดีแท้..เรือของอีเผือกดันลอยมาติดเกาะนี้พอดี..นี่..พลังไนโตรยังอยู่ด้วย..และนี่อะไรอยู่ในซอกหินนี่..."ผีเอกพลันเห็นดาบเล่มหนึ่ง..สภาพเหมือนดาบโบราณ..แต่ความคมและเนื้อดาบยังอยู่ในสภาพดีมากๆ..ใต้ดาบนั้นมีคำจารึกว่า...
"เพื่อใครก็ตาม..ที่จะกอบกู้สันติสุขมาสู่โลก..จริงๆนะจ๊ะ.."
"ดาบอะไรวะเนี่ยะ.."ผีเอกว่า..พร้อมดึงมันออกมาจากก้อนหิน..มันเบาดั่งขนนก..
"เอาล่ะ..ได้อาวุธมาอีกหนึ่งชิ้น ไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเก็บได้อีกกี่ item รีบเดินทางกันดีกว่า"ผีเอกว่า
...............ทั้งคู่ต่างออกเรือไปตามหาต้นกำเนิดเสียงอีกครั้ง...
......กลับมาต้นกำเนิดแสง....
ฉับพลันที่ทั้งสามได้ยินเสียง...ฮูมมมมมมม...สติสัมปชัญญะของทั้งสามก็หลุดลอยไป..
".....ฮืม...อู้วววว .....โอยยยยย...อ้าววว..ซี๊ดดดดด.."นายท้ายป๋าบอลละเมอ...ทำให้สมเจตตื่นขึ้น...
"เราอยู่กันที่ไหนนี่..."สมเจตว่า พลางหันไปรอบๆตัว..บรรยากาศสีฟ้า..อยู่ในห้องขังที่ทำด้วยปะการังขนาดยักษ์..แค่สองคน...ไม่มีอีเผือก...
"เอ้อ.....ดี....กำลังจะมาปลุกอยู่พอดี..."เสียงหนึ่งอยู่หน้ากรงขัง...
....ชายที่ปรากฏตรงหน้า..เป็นชายรูปร่างสันทัด..ใส่ชุดเกราะสีทองทั่วร่าง..ในมือมีธนูรูปร่างแปลกๆ...ไม่เห็นหน้าตา..เนื่องจากถูกปิดไว้ด้วยหน้ากากสีทอง..พอเห็นแต่เพียงช่องตามืดๆ..
"...นี่มัน...เซย่า...นักรบในตำเร็ว..เอ๊ย..ตำนาน....."สมเจตร้อง..พลันมึนงงว่านี่มันเรื่องอะไรกัน..ทั้งวีปอน..สัตว์ยักษ์ในตำนาน..และเซย่า..นักรบในตำนาน..มันเกิดขึ้นพร้อมกัน..เร็วจนตั้งตัวไม่ทัน..
"จ๊ากกกกกก.....นี่มันอะไรกัน....."...นายท้ายป๋าบอลตื่นขึ้นมาเห็นนักรบในตำนานพอดี...
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

หลิม 81
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,840

« ตอบ #22 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2549, 13:39:55 »

ยังอุตสาห์...หาเรื่องเดิมมาต่อกันจนได้..นับถือจริง ๆ ครับพี่น้อง Tongue
บันทึกการเข้า

@ ปีนี้ปีของผม @
iamfrommoon
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2535
คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 8,396

เว็บไซต์
« ตอบ #23 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2549, 18:34:58 »

อ้างจาก: "หลิม 81"
ยังอุตสาห์...หาเรื่องเดิมมาต่อกันจนได้..นับถือจริง ๆ ครับพี่น้อง Tongue


เพื่อน้องๆ พี่ทำได้ ได้ ได้ ได้ ได้  :lol:  :lol:  :lol: โอ๊ย เมื่อยตา... :wink:
บันทึกการเข้า

@@ธรรมชาติสร้างความขัดแย้ง เพื่อให้คนเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดียิ่งขึ้น@@@

ppornson
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,724

« ตอบ #24 เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2549, 11:08:02 »

เอ้า..มากันหน่อยพี่ๆน้องๆ..จะบีบให้จบแล้ว..ซับซ้อนมากยิ่งงง..
บันทึกการเข้า
  หน้า: [1] 2 3 ... 6  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><