16 มิถุนายน 2567, 00:14:08
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: 1 ... 240 241 [242] 243 244 ... 681   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: คุย กับ คุณมานพ กลับดี อดีตประธานชมรม ๓ สมัย  (อ่าน 3305627 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6025 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2555, 14:40:17 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                              วันนี้เมื่อตอนหกโมงครึ่ง ตอนเช้าขณะเดินจงกรมออกกำลังกายที่สนามบินเก่าของจังหวัดเชียงราย น้องสาวได้โทรศัพท์ มาบอกว่า แม่ท้องเสีย  อาเจียน  จากอาหารเป็นพิษ  หรือระบบย่อยอาหารไม่ทำงานแล้ว  จึงพาแม่เข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง  เท่ากับว่าแม่ออกจากโรงพยาบาลมา ครบอาทิตย์หนึ่งก็ต้องเข้าไปใหม่อีกครั้ง

                              เดินจงกรมเสร็จ ผมเลยไปใส่บาตรพระด้วยเงิน ที่หลวงพ่อเดินผ่านมาพอดี เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แม่

                              วันศุกร์ ผมถึงจะมีโอกาสไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาลครับ

                              สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6026 เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2555, 21:28:15 »


สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                               ผมมาอยู่ กทม. เรียนบร้อยแล้ว ภายหลังจากไปทำงาน พบเพื่อนฝูง น้องๆ ชาวซีมะโด่ง ทั้งที่เชียงใหม่ และเชียงราย ครับ รายละเอียดนั้น จะเล่าให้ฟังเป็นวันๆ ไป

                               ช่วงที่อยู่เชียงใหม่ - เชียงราย นั้น ไม่มี Air card ครับ จึงไม่ได้เข้ามาทั้งสิ้น ประจวบกับไม่มีเวลาด้วย กลับถึงโรงแรมก็สามทุ่งทุกวัน เลยเข้านอน

                               อยากจะเริ่มต้นที่เชียงรายวันที่ ๑ ที่เป็นวันแรงงานก่อนครับ ผมเดินทางจากเชียงใหม่ ไปเชียงราย ไปถึงเกือบเที่ยง เลยไปหาข้าว - ต้อมเลือดหมูรับประทาน และบ่ายได้ไปตีกอล์ฟ กับคุณมงคลชัย ดวงแสงทอง(ซีมะโด่ง ๒๔) ที่สนาม Happy City เป็นสนามใหม่ป้ายแดง เจ้าของเป็นชาวเกาหลี ทำขนาด ๒๙ หลุม เป็นสนามที่ออกแบบดีมาก ราคาถูกขณะนี้ โดยมีพี่ชาวของคุณมงคลชัย(เสี่ยอ๋า) ร่วมเล่นด้วย

                               รอบที่เล่นนั้น มี ๒๐ หลุม ตอนเย็นเล่นเสร็จ คุณมงคลชัย  พาไปกินข้าวต้มร้านมีนา  อร่อยดีมากครับ

                                ต้องขอขอบคุณ คุณมงคลชัย  ดวงแสงทอง  ณ ที่นี้ด้วยครับ

                                สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6027 เมื่อ: 04 พฤษภาคม 2555, 06:18:29 »


















อรุณสวัสดิ์ครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                              เช้านี้ผมได้หุงข้าว เพื่อใส่บาตรพระที่หน้าบ้าน  ยังมีเวลาก่อนที่จะเดินไปซื้อกับข้าวที่ตลาดลุงเพิ่มหลังการบินไทย  จึงขอนำสิ่งที่ได้กระทำในวันที่ ๒ พฤษภาคม มาเล่าสู่กันฟังครับ

                              ช่วงเช้าผมพาคณะ ๕ ท่านไปชมโรงงานที่เม็งรายคอนกรีต ที่อำเภอแม่จัน  ที่ผมได้ออกแบบโรงงาน และได้แนะนำเป็นอันมาก ทั้งการออกแบบผลิตภัณฑ์  การควบคุมการผลิต การบริหารบุคคลากร และการจัดการรวมทั้งการขาย  เป็นเด็กหนุ่มที่ไฟแรง ผมเลยถ่ายทอดทุกสิ่งให้ ทั้งปริญญาอาชีพ และปริญญาชีวิต  โดยเฉพาะ การปฏิบัติธรรมเพื่อหาอริยะทรัพย์ให้กับตัวเอง

                              ปรากฏว่าเมื่อไปถึงสำนักงาน ผมใช้เวลาในการสนทนาธรรม ตอบข้อข้องใจ ไปสองชั่วโมง เป็นเรื่องการปฏิบัติธรรม ทั้งสิ้น และตอบข้อสงสัย  ตอนท้ายผมสรุปว่า การปฏิบัติธรรมก็ดี  การทำงานก็ดี เราสามารถใช้แนวทางที่พระพุทธองค์ทรงสอนนั้นมาใช้ได้เหมือนกัน เพียงแต่ต่างกันที่แนวทาง และวิธีการปฏิบัติเท่านั้น  ดังนั้นในการทำงานขอให้ยึดแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงสอน โดยเฉพาะ "โพธิปักขิยะธรรม ๓๗ ประการ" นั้นสามารถนำมาใช้ในการทำงาน รวมทั้งพุทธอุทานแรกเริ่มตรัสรู้ เราจะทำงานประสพความสำเร็จแน่นอน ยึดหลัก มรรคที่ ๕ คือ "สัมมาอาชีโว" คือมีอาชีพที่ชอบ ยึดหลัก ต่างคนต่างได้ คือผู้ซื้อได้สินค้าที่มีคุณภาพและการบริการที่ดี ส่วนเราผู้ผลิตขายสินค้าในราคาที่ยุติธรรม สมเหตุ  สมผล ไม่เอาเปรียบ และยึดหลัก ไม่มีใครได้รับทุกข์ ทั้งตัวเรา  ผู้ซื้อ และลูกน้องเรา

                               คือคุณโอ เขาไม่ได้ถามผมเรื่องการทำงานเลย เพราะเขาไปเจอพระองค์หนึ่งใกล้บ้าน  ได้รับคำแนะนำในการปฏืบัติธรรม  ถูกใจ  มีความสงสัย  จึงมาถามผมถึงแนวทางที่แท้จริง  ผมก็ตอบไปตามสิ่งที่รู้ด้วยตัวเอง  ตามสติปัญญา โดยยึดมั่นในสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงสอนไว้ เป็นแนวทางในการปฏิบัติธรรม

                               หลังจากนั้น ได้พาคณะไปชมโรงงานผลิตแผ่นพื้น และเสาเข็ม  ได้บรรยาย  ตอบข้องข้องใจ และไปรับประทานอาหารกลางวัน เป็นร้าน สะเต็ก ที่แม่จัน  ร้านนี้อร่อย เจ้าของใจดี เห็นคณะเรามาหลายท่านเลยแถมเค็กบลูเบอรี่ให้พิเศษด้วย

                               สวัสดี
      บันทึกการเข้า
swsm
Cmadong Member
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
****


@@ ยาหยี @@
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: Rcu2523
คณะ: Comm Arts
กระทู้: 28,369

« ตอบ #6028 เมื่อ: 04 พฤษภาคม 2555, 06:23:18 »

มารายงานตัวค่ะ พี่สิงห์     หึหึ
      บันทึกการเข้า

.. don't play with me, cos I know how to play it too .. may be better than you do ..
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6029 เมื่อ: 04 พฤษภาคม 2555, 07:55:14 »

เยี่ยม คุณพัชรี ภรรยา คุณมงคลชัย ทั้งคู่เป็นชาวซีมะโด่ง ๒๔ ที่บ้าน

                              หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ ผมได้ไปเยี่ยมคุณพัชรี ที่บ้าน โดยมีกระเช้าผลไม้ของ SIW ซึ่งคุณพัชรีบอกว่า พรุ่งนี้จะเอาผลไม้นี้ใส่บาตรพระลูกชาย ที่หน้าบ้าน

                              ลูกชาย คนโตคือ พระวิชย์ ได้บวชให้กับคุณพ่อ - คุณแม่ คือคุณพัชรี - คุณอ๋า  เมื่อวันที่ ๒๖ ที่ผ่านมา ที่วัดป่า ในอำเภอพาน เป็นวัดสาขาของหลวงปู่ชา  วัดหนองป่าพงษ์  เป็นสิ่งที่ดีที่ลูกชายสมควรบวชให้คุณพ่อ คุณแม่ ได้ทำบุญ  เป็นวัฒนธรรมไทยของชาวพุทธ ที่ควรสืบทอดต่อไป ครับ

                              ผมไม่ได้พบคุณพัชรี ประมาณ สองปี งานวันเกิดปีที่แล้วก็มัวแต่เล่นกอล์ฟ กับคุณมงคลชัย(อ๋า) เลยไม่ได้ไปอวยพรวันเกิด ที่บ้าน  มาคราวนี้เลยถือโอกาสไปเยี่ยม ดีใจครับที่ได้พบกัน  ระลึกถึงกัน ในฐานะคนรู้จัก และเป้นชาวซีมะโด่งด้วย

                              ผมตั้งใจจะไปแนะนำให้คุณพัชรี  ปฏิบัติธรรม บังเอิญคุณพัชรี ก็ปฏิบัติธรรม ตามแนวทางหลวงพ่อชา  มานานมากพอสมควร เพียงแต่ไม่ได้ปฏิบัติอย่างต่อเนื่องเท่านั้น  แต่ก็สามารถปล่อยวางได้พอสมควร  ผมจึงดีใจมาก และบอกไปว่า มาถูกทางแล้ว

                              คุณพัชรี  เกิดความสงสัยในสิ่งที่ได้ยินได้ฟังพระท่านเทศนา มาก็ได้ถามพี่สิงห์ หลายเรื่อง พี่สิงห์ก็ได้ตอบให้หายสงสัย ทุกประเด็น โดยยึกหลักคำสอนของพระพุทธองค์ ที่อยู่ในรูปของบทสวดมนต์ และพระไตรปิฎก  ยกตัวอย่าง

                              มีพระรูปหนึ่ง ท่านสอนว่า การกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล นั้น พระพุทธเจ้าไม่ได้สอน และไม่มีในพระไตรปิฎก  ดังนั้นไม่สมควรที่เราชาวพุทธต้องกระทำ  พี่สิงห์ มีความเห็นว่าอย่างไร ?

                              ผมก็ตอบว่า ในสมัยพุทธกาลนั้น มีหลายสิ่งหลายอย่าง ที่พระพุทธเจ้าไม่ได้สอน  แต่ท่านก็ไม่ได้ห้าม  ถ้าเป็นความศรัทธาของประชาชน และเป็นประเพณีที่กระทำต่อๆ กันมา และไม่ก่อทุกข์ให้กับใคร พระองค์จะไม่ห้ามทั้งสิ้น

                              แต่พระองค์ ไม่สรรเสริญในการไปสวดอ้อนวอน  สิ่งศักดิ์สิทธ์ ให้มาคุ้มครอง หรือบันดาลให้สมหวัง 

                              พระองค์ให้กระทำด้วยความเพียร จะประสพความสำเร็จได้ และไม่ให้เชื่อสิ่งใด ที่ไร้เหตุผล ให้อยู่กับความเป็นจริง ทุกสิ่งล้วนเกิดจากเหตุ - ปัจจัย ทั้งสิ้น เกิดขึ้นเองไม่ได้

                              การกรวดน้ำก็เหมือนกัน พระองค์ไม่ได้ทรงบัญญัติ แต่ก็ไม่ได้ห้าม เพราะคนสมัยนั้นเขามีการกรวดน้ำ ทำบุญ  ให้ทาน อยู่ก่อนแล้ว มีครั้งหนึ่ง หรือครั้งแรกในพุทธศาสนา ที่พระเจ้าพิมพิศาล ได้ถวายวัดเวฬุวัน เป็นวัดแรกในพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าทรงรับ แต่คืนนั้นพระเจ้าพิมพิศาล นอนไม่หลับ เปรต อสุรกาย เทวดา มาเข้าฝัน ไม่ได้รับส่วนบุญ จึงมาปรากฏในฝันทำให้พระเจ้าพิมพิศาล กังวล นอนไม่หลับ เกิดความกังวล ทำบุญแต่มีทุกข์ รุ่งขึ้นจึงไปกราบทูลพระพุทธองค์  พระพุทธเจ้าท่านจึงบอกให้พระเจ้าพิมพิศาลกรวดน้ำตามประเพณีที่ทำกันมาแต่ก่อน อุทิศส่วนกุศลให้กับ เปรต เทวดา อสุรกายเหล่านั้นเสีย พระเจ้าพิมพิศาล กระทำตามที่พระพุทธองค์รับสั่ง พวกนั้นก็ไม่มารังควานอีกเลย

                             การกรวดน้ำสามารถกระทำได้เป็นการทำจิตให้เบิกบาน ไม่ก่อทุกข์ให้ใครทั้งสิ้น สามารถกระทำได้ ดังตัวอย่างที่กล่าว เราอย่าไปสนใจอะไร  ที่ใครกระทำไม่ถูกไม่ควรเลย เป็นเรื่องของคนอื่น เรารักษากาย  วาจา  ใจ  ของเราให้เป็นปกติ หรืออยู่ในกรอบของการรักษาศีล ๕ นี่ละ ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนเป็นสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงเน้นเสมอ

                              ผมได้ตอบข้อสงสัย และแนวทางในการปฏิบัติธรรม ให้มีสติหรือความระลึกได้อยู่ ณ ปัจจุบัน ในอิริยาบถหลัก  อิริยาบถย่อย ในชีวิตประจำวันเรานี่ละ เพราะ มันจะไม่คิดนอกกาย เมื่อไม่คิดก็ไม่ทุกข์  อยู่กับมันอย่างนี้ละ(สติ) เป็นแนวทางที่ถูกต้อง ไม่ต้องสงสัยทั้งสิ้น แล้วเราเอาสติมาคอยดูกาย  ดูใจ  ของเราให้เกิดตัว "รู้" ขึ้นมาให้ได้ เพียงแค่นี้จริงๆ แล้วจะรู้ด้วยตัวเอง เมื่อเวลาเหมาะสม นั่นละความสุขที่แท้จริง หรือ อริยะทรัพย์ ที่เราพึงหามาอยู่ในจิต ของเราละ

                              คุยกันเผลอไปหน่อยเกือบสองชั่วโมง  คุณพัชรี ต้องไปธุระในเมือง ผมเลยขอตัวกลับ

                              คุณพัชรี บอก พี่ชาย และคนรอบกายว่า วันนี้มีพระมาโปรด แต่เป็นฆาราวาส

                              ผมต้องไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี แล้วครับ สำหรับภาพ และเรื่องที่เชียงใหม่ จะมานำเสนอในโอกาสหน้า

                              สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6030 เมื่อ: 04 พฤษภาคม 2555, 08:00:53 »

อ้างถึง
ข้อความของ swsm เมื่อ 04 พฤษภาคม 2555, 06:23:18
มารายงานตัวค่ะ พี่สิงห์     หึหึ

สวัสดี ปีใหม่ค่ะ คุณน้องยาหยี ที่รัก

                    ในสงกรานต์ ที่ผ่านไปนี้ ขอให้เธอและครอบครัว มีความสุข สมปราถนาในทุกสิ่งค่ะ

                     สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Khun28
Full Member
**


ดูกายเห็นจิต ดูคิดเห็นธรรม
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: RCU2528
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์
กระทู้: 784

« ตอบ #6031 เมื่อ: 04 พฤษภาคม 2555, 18:18:42 »

สวัสดีครับพี่สิงห์
          ทักทายมาจาก กว่างโจว   
          มาเที่ยวงาน canton fair ครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6032 เมื่อ: 04 พฤษภาคม 2555, 19:53:21 »

อ้างถึง
ข้อความของ Khun28 เมื่อ 04 พฤษภาคม 2555, 18:18:42
สวัสดีครับพี่สิงห์
          ทักทายมาจาก กว่างโจว   
          มาเที่ยวงาน canton fair ครับ

สวัสดีครับ ท่านขุน

                          เมืองกว่างโจว พี่สิงห์ ยังไม่เคยไป เคยไปแต่ หางโจว  ซูโจว ตาลี่  ลิเจียง คุณหมิง ปักกิ่ง เซินเจิ่น เซี่ยงไฮ้ เมืองกุ้ยหลิน และอีกหลายเมืองจำไม่ได้ครับ

                           พักผ่อนให้สนุกครับ

                           สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6033 เมื่อ: 04 พฤษภาคม 2555, 20:27:59 »

เยี่ยม คุณนา  ที่อำเภอเชียงคำ จังหวัดเชียงราย




                            วันพฤหัสบดี ผมไปเยี่ยมคุณนา ที่เป็นลูกค้าของ SIW ไม่ได้ไปเยี่ยมนานมากแล้วเพราะว่าอยู่ไกล กว่าภูชี้ฟ้าอีก  คราวหน้าตั้งใจจะไปนอนที่ภูชี้ฟ้า  สักครั้งตามคำเชิญ ครับ

                            อำเภอเชียงคำ น่าอยู่มาก เจริญมากด้วย  อยู่ติดชายแดนลาว เคยมีปัญหาทางชายแดน  จนรัฐบาลต้องให้ทหารอาสาสมัคร มาตั้งบ้านอยู่ถาวร โดยมรงบประมาณสนับสนุน จึงเป็นอำเภอที่เจริญมากอำเภอหนึ่ง  พื้นดินดี เหมาะแก่การทำนาและทำสวนเป็นอย่างยิ่ง ต้นสักมีปลูกกันมาก

                             ผมได้คุยกับคุณนา หลายเรื่องด้วยกัน เรื่องแรกคือ คุณนา อยากให้ช่วยออกแบบโรงงานให้ใหม่  ในสถานที่ใหม่ จะสร้างในอีกสองปีข้างหน้า รอให้ลูกเข้าโรงเรียนก่อน  ผมยินดีรับใช้  ออกแบบให้ฟรี ครับ แต่มีข้อแม้คือ ขอไปนอนรีสอร์ทที่ภูชี้ฟ้า สักคืนหนึ่ง

                             คุณนา เป็นคนหนึ่งที่ปฏิบัติธรรมตามแนวทางของหลวงปู่ชา แต่นานๆ ครั้ง  จึงได้สนทนาธรรมกันนานพอสมควร  คุณนา มีปัญหาอยากถามผมคือ รู้ว่าการปล่อยวางมันเป็นสิ่งที่สมควรกระทำ แต่ทำไม ? มันยังอยากที่จะมีโรงงานใหม่อีก เป็นเพราะอะไร ?

                             ผมตอบคุณนาว่า เป็นเพราะความรับผิดชอบต่อครอบครัว จึงทำให้เกิดความอยาก เนื่องจากคุณนา และท่านปลัดมีลูกชาย หนึ่งคนอายุ ยังไม่ครบ ๑ ปี และอีก ๑๒ ปี ท่านปลัดจะเกษียร ดังนั้นคุณนากลัวว่าจะไม่มีอะไรให้ลูก จึงเห็นว่าโรงงานใหม่  จะทำรายได้ให้ภายหลังจากสามีเกษียรอายุราชการ  มันก้เป็นสิ่งที่สมควรกระทำ ไม่ผิด เพียงแต่ขอให้กระทำตามมรรค ข้อที่ ๕ คือ สัมมาอาชีโว  เท่านั้น คือทำมาหากินโดยสุจริต เพราะเรายังเป็นปุถุชนม์คนธรรมดา ยังต้องรับผิดชอบต่อครอบครัว จึงตัดความอยากไปไม่ได้

                             และอีกข้อ หนึ่งที่คุณนา อยากถามมากคือ เวลาไม่มีงาน  ขายของไม่ได้  แต่มีภาระต้องจ่ายค่า Over Head ประจำ ทำให้กลุ้ม คิดมาก ทั้งๆที่รู้ว่า การคิดกังวลนั้นเป็นทุกข์ จะทำอย่างไรดี

                             ผมก็อธิบายว่า ขอให้มีสติ คือความรู้สึกตัวในขณะคิด ขอให้ตั้งใจคิด  หาแนวทางที่สุจริตในอาชีพ  เราไม่ควรกังวลในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง  แต่เราสามารถวางแผนในการจะหาเงินมาใช้จ่ายได้  และเราก็สามารถคิดหาหนทางที่เราจะขายของ หรือหมุนเงินได้ มันเป็นเรื่องของการคิดในการทำงานแก้ปัญหา แต่เราอย่าไปกังวลกับมัน เพราะยังมาไม่ถึง เอาสติไปทำงานหาเงินดีกว่า แต่ต้องเป็นไปในทางอาชีพที่ชอบ และไม่เป็นภาระมาก ดังนั้นการคิดอย่างมีสติ  จึงไม่ผิดหลัการ เพราะเราไม่ได้ปล่อยให้ใจลอย คิด กังวลไปในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง

                             นอกจากนี้ก็คุยกันหลายเรื่องครับ  สุดท้ายคุณนา ขอมากราบที่มือ ที่ผมให้ความกระจ่างไปหลายเรื่องในเรื่องของธรรมะ ของพระพุทธเจ้า

                              ผมได้กินน้ำพริกหนุ่ม ผักต้ม และปลาช่อนนึ่ง เสียหนึ่งจาน ก่อนจะรีบลาไปขึ้นเครื่องบินกลับ กทม. เพราะต้องใช้เวลาเดินทางจาก อำเภอเชียงคำมาสนามบิน ๒.๕ ชั่วโมง ครับ

                              สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6034 เมื่อ: 04 พฤษภาคม 2555, 20:42:28 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                               วันนี้ผมได้ไปเฝ้าแม่  คุยอยู่กับแม่  จับมือท่านลูบเพื่อความอบอุ่นแม่-ลูก ทั้งวัน ได้ดูแลท่านหลายเรื่อง เพราะพยาบาลให้ช่วย พยาบาลชั้น ๕ ไม่ค่อยดีในเรื่องการบริการ  การทำแผล ก็ทำไม่เรียบร้อย น้องสาวจึงขอย้ายไปชั้นสาม ที่พยาบาลทุกคน รักแม่มาก และพร้อมที่จะดูแลเป็นพิเศษให้ เมื่อมีห้องว่าง  ผมเลยต้องคอยเฝ้าแม่ และช่วยย้ายห้อง อย่างที่เห็นพยาบาลชั้น ๕ ไม่สนใจเท่าที่ควรจริงๆ คนเรามันก็อย่างนี้แหละจิตคน มีดีบ้าง ไม่ดีบ้างเป็นธรรมดา  เราเลือกได้ เราก็ต้องเลือก มันก็เป็นเรื่องธรรมดา เช่นกัน

                                แม่เป็นโรคอาหารเป็นพิษ  คือกินเข้าไปแล้ว ไม่ย่อยเลย  ออกหมด คุณหมอวิทิต  บอกว่าอาหารที่กินคงมีเชื้อโรค เพราะอาหารบูดง่ายเนื่องจากอากาศร้อนเชื้อโรคโตเร็ว อาหารเสียง่ายมาก

                               คุณหมอให้น้ำเกลือไปสองขวด แม่ดีขึ้นมาก ผิวพรรณยังผ่องใส กว่าคนปกติ  มีสติรู้เรื่อง ยังบวกเลขได้  ยังคูณได้  ยังค่าขายได้  และเมื่อถาม สามารถตอบได้  แสดงว่าท่านยังอยู่กับเราไปอีกนาน ครับ

                               ผมกลับมาถึง กทม. หกโมงเย็น ส่วนแม่ยังอยู่โรงพยาบาลไปอีกระยะ  จริงๆ  อยากให้อยู่นาน แต่เกรงใจทางโรงพยาบาล  ก็ต้องใช้วิธี เข้าๆ ออกๆ อย่างนี้ละครับ

                               ราตรีสวัสดิ์ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6035 เมื่อ: 04 พฤษภาคม 2555, 20:56:03 »



                             คุณรองรัตน์ น่าที่จะยึดอาชีพผลิตแผ่นพื้นขาย ตามต่างจังหวัด ผมสามารถทำเครื่องมือช่วยในการเทคอนกรีต ใช้คนงานเพียง ห้าคน สามารถผลิตแผ่นพื้นได้วันละ 600 ตารางเมตร ขายตารางเมตรละ 200 บาท เท่ากับมีรายได้วันละ 180,000 บาท  กำไรมีเกินตารางเมตรละ 50 บาท ครับ

                              ตอนนี้ผมกำลังตั้งใจที่จะผลิตเครื่องมือช่วยในการเทคอนกรีต เขย่าคอนกรีต สำหรับการผลิตแผ่นพื้น และเสาเข็มรูปสี่เหลี่ยม  โดยให้ใช้คนน้อยที่สุด เพราะแรงงานหายาก ต้องใช้เครื่องจักรแล้ว  ขอเวลาพัฒนา ไม่เกินสามเดือน เพราะต้องให้ทางหลานชาย ที่เชี่ยวชาญทางเครื่องจักรประดิษฐ์ให้ครับ

                              เพราะออกแบบโรงงานนั้นเหมือน มันมีรายได้น้อยนิดด้วยความเกรงใจ  แต่เครื่องจักรนั้น มันน่าที่จะมีรายได้มากกว่า เพราะเป็นสิ่งจำเป็นแล้ว ณขณะนี้

                              ทำไม? มันเกิดความอยากขึ้นมาก็ไม่รู้  ทั้งๆ ที่อยากจะเลิก ลาโลงแล้ว  แต่สมองมันอยากคิด !  สงสัยคงเป็นพวกมาร !

                              ราตรีสวัสดิ์ครับ
      บันทึกการเข้า
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #6036 เมื่อ: 04 พฤษภาคม 2555, 23:57:03 »

พี่สิงห์ยังเล่าไม่จบนะคะ ยังไม่ได้เล่าเรื่องไปกินข้าวกับน้องๆที่เชียงใหม่เลยค่ะ
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
Dtoy16
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: อักษรศาสตร์
กระทู้: 1,424

« ตอบ #6037 เมื่อ: 05 พฤษภาคม 2555, 09:38:22 »

                สวัสดีค่ะ พี่สิงห์ ไปแอ่วเหนือหลายวันกลับมาแล้วน่ะค่ะ
                คุณแม่พี่สิงห์ท่านมีสุขภาพกายใจที่ดีมากมากเป็นวัยอย่างเราเรา
                คงแย่ คุณแม่ต้อยท่านก็รับอาหารทางสายมานานหลายปีต้องทำใหม่
                เกือบทุกวันก็แข็งแรงกว่าเดิมขึ้นมาก เมื่อวานได้ฤกษ์วันดีนิมนต์พระ
                ขึ้นบ้านใหม่ให้ท่านแลละเป็นวันคล้ายวันเกิดหลานด้วยค่ะ 
      บันทึกการเข้า

Dtoy16
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: อักษรศาสตร์
กระทู้: 1,424

« ตอบ #6038 เมื่อ: 05 พฤษภาคม 2555, 10:13:16 »

               
             
                 
      บันทึกการเข้า

Dtoy16
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: อักษรศาสตร์
กระทู้: 1,424

« ตอบ #6039 เมื่อ: 05 พฤษภาคม 2555, 10:24:06 »

                 
                   
         
      บันทึกการเข้า

Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6040 เมื่อ: 05 พฤษภาคม 2555, 13:19:37 »


สวัสดีค่ะ คุณน้องต้อย ที่รัก

                              พี่สิงห์ ขออนุโมทนา กับ เธอ ครอบครัว ญาติพี่-น้อง ที่มีความกตัญญูต่อบุพการี คือบิดา -มารดา ที่ได้เลี้ยงดู-แล เอาใจใส่ท่าน โดยเฉพาะเมื่อท่านช่วยตัวเองไม่ได้  จะเป็นกุศลต่อเธออย่างยิ่ง

                              และขอให้คุณแม่เธอ มีอายุยืนนาน และไม่เป็นทุกข์ทางใจ ครับ

                              เป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องทำอะไรๆ ให้ท่าน เช่น ทำบุญวันเกิด แต่ลูกๆ ต้องสามัคคีกัน ไม่ใช่เป็นแบบพี่สิงห์  คนอื่นเขาไม่ยินดี ยินร้ายเท่าไร  พี่สิงห์  ก็ทำของพี่สิงห์ไป  เพื่อให้หลานๆ ได้เห็น ว่าสมควรที่เราเป็นลูกต้องกระทำ ครับ

                              สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6041 เมื่อ: 05 พฤษภาคม 2555, 13:50:31 »
























                          วันที่ ๓๐ เมษายน ที่ผ่านมาผมไปเชียงใหม่โดย TG 102 ถึงเชียงใหม่ 09:10 น. โดยมีคุณสุธี มารับไปทำงานที่ PPS จอมทอง  บ่ายไปตีกอล์ฟ กับคุณประพันธ์ MD ของ PPS ที่สนามกอล์ฟอินทานนท์

                          ช่วงเย็นผมมีนัดกับน้องๆ สุดที่รัก ชาวซีมะโด่ง ที่ร้านอาหาร เข้าใจว่าชื่อซิสเตอร์ ริมแม่น้ำปิง บรรยากาศดี  ดนตรีใช้ได้ อาหารก็อร่อยพอสมควร ผมกับสุธี และคุณมิค (มาจากสุรินทร์) ไปถึงประมาณ 18:30 น. ไปเลือกโต๊ะ และสั่งอาหารไว้คอยท่า

                          ร้านนี้ไอสครีม อร่อยมาก ผมเลือกไอสครีมใส่แปีะก้วย ครับ

                           คุณน้องจุ๋ม-สามี มาคู่แรก ตามด้วยคุณสมควร คุณน้องอ้อมทิพย์ และคุณน้องป้อม-สามี มาหลังสุด แต่จริงๆ แล้วไล่เรี่ยกันเลย บรรยากาศส่วนมาก ผมเป็นผู้ฟังครับ โดยมีคุณสมควร  คุณจุ๋ม  พูดมากหน่อย คือเล่าเรื่องต่างๆ ให้ฟัง ส่วนใหญ่คุณจุ๋มจะเกี่ยวกับลูก เพราะผมเป็นคนถาม  ส่วนคุณสมควรนั้น ต้องถามเกี่ยวกับรถมาสด้า ครับ เพราะเป็นนายกสมาคมผู้จัดจำหน่ายมาสด้า

                           นานๆ พบกันทีย่อมคุยกัน ถามสารทุกข์กัน ด้วยความระลึกถึง ไม่มีอะไรดีกว่านี้อีกแล้ว ชีวิตคนสูงวัยย์

                           ไม่มีใครถามพี่สิงห์เรื่องธรรมะ เลย พี่สิงห์เลยไม่ต้องตอบ มีเพียงคุณอ้อมทิพย์ ถามนิดหน่อยเท่านั้น ครับ

                           คราวหน้าผม คงจะไปช่วงหน้าฝน เพื่อไปสอนลูกชายคุณประพันธ์ PPS ให้รู้เรื่องคอนกรีต ใช้เวลาพอสมควร อยู่หลายวัน  คงจะมีโอกาสได้พบน้องๆ สุดที่รักอีก แต่คราวหน้าพวกเราตกลงกันว่า จะไปกินข้าวที่บ้านคุณน้องป้อม

                           และพวกเราลงมติกันว่า คราวหน้าต้องมีคุณเหยง  อาจารย์ถาวร  ไปร่วมด้วย  คงจะสนุกครึกครื้นมากกว่านี้ครับ

                           ผมจะพยายามชักชวน ท่านทั้งสองครับ

                           ขอขอบคุณ น้องๆ ที่มาระลึกถึงกัน นานๆ ครั้ง

                           และขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งแด่ คุณน้องป้อม ที่เป็นคนกลางในการติดต่อ แต่พี่สิงห์ก็ได้โทรศัพท์ ไปหาด้วย ครับ

                           สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #6042 เมื่อ: 05 พฤษภาคม 2555, 19:49:56 »

เราคุยกันว่า พี่สิงห์ต้องไปบอกถาวรกับเหยงว่า กับข้าวที่บ้านป้อมอร๊อยอร่อย (สมควรกับพี่สิงห์ว่าอย่างนั้น) 555555555+++
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6043 เมื่อ: 05 พฤษภาคม 2555, 20:16:22 »

อ้างถึง
ข้อความของ pusadee sitthiphong เมื่อ 05 พฤษภาคม 2555, 19:49:56
เราคุยกันว่า พี่สิงห์ต้องไปบอกถาวรกับเหยงว่า กับข้าวที่บ้านป้อมอร๊อยอร่อย (สมควรกับพี่สิงห์ว่าอย่างนั้น) 555555555+++

สวัสดีค่ะ คุณน้องป้อม ที่รัก

                             มันก็อร่อยจริงๆ  ปัญหาคือ ท่านอาจารย์ถาวร  งานยุ่งมาก

                             ส่วน คุณเหยงนั้น  ต้องดูว่าเป็นหน้า เก็บเกี่ยว หรือเปล่า
 
                             แต่ถ้าคุณเหยง - อ.ถาวร - สมควร มาพบกัน พี่สิงห์ ยังไม่รู้เลยว่าใคร จะพูดมากกว่ากัน

                             มีโปรแกรมเมื่อไร แล้วจะโทรศัพท์ ไปชวนท่านทั้งสองครับ

                             สวัสดีค่ะ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6044 เมื่อ: 05 พฤษภาคม 2555, 20:24:49 »

สวัสดีครับ ชาวซีมะโด่ง ที่รักทุกท่าน

                               วันอาทิตย์เย็น Boarding 17:35 น. พี่สิงห์เดินทางไปทำงานที่นครศรีธรรมราช ครับ

                               คืนวันจันทร์ และเช้าวันอังคาร อยู่ที่สุราษฎร์ธานี ไปบรรยาย และดูสถานที่สร้างโรงงานคอนกรีตอัดแรง

                               วันอังคาร เย็นกลับ กทม. จากนครศรีธรรมราช Boarding 15:55 น.

                               วันพุธเช้าไปหาแม่ที่โรงพยาบาลสิงห์บุรี บ่ายมีประชุมที่ PSTC สระบุรี

                               และมีโปรแกรมต่อเนื่อง  ยังไม่รู้เหมือนกันจะทำสิ่งไหนก่อนดี มีแข่งขันกอล์ฟอาชีพ ที่เมืองกาญจนบุรี สนามบลูซัลไฟล์ แต่ปัญหามันไม่ได้ซ้อมเลย  คงต้องถอนตัว ทั้ง Senior และ Supper Senior ถ้าไปแข่งก็ตกรอบ ขาดทุนแน่ๆ

                                ราตรีสวัสดิ์ ทุกท่านครับ
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6045 เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2555, 10:11:47 »


                             ทุกสิ่งทุกอย่าง ย่อมมีการเบื่อหน่าย  ไม่ชอบใจตัวเอง เกียจคร้าน เป็นธรรมดา ของมนุษย์ ไม่มียกเว้นสำหรับปุถุชนม์ธรรมดา  ยกเว้นจิตของพระอรหันต์  

                              ผมเองก็เช่นกัน  ย่อมเกิดความเบื่อหน่าย  ไม่ชอบใจ เกียจคร้าน  ขึ้นในจิตเป็นธรรมดา  บางครั้งก็หลงอยู่ในจิตตนเอง เป็นทาสของความคิดตัวเอง  แต่ก็รู้เท่าทันจิต  พยายามที่จะเอาชนะมันให้ได้  เฝ้าสังเกตุตัวเองทั้งกาย และใจ  เพื่อให้รู้เท่าทันมัน และยึดเอาคำสอนของพระพุทธองค์ เป็นหลักในการดำเนินชีวิต และการทำงาน คือต้องยึดคุณสมบัติของสิลธรรมตาม สัมมัปธาน ๔ คือ ทำกุศลกรรมที่ยังไม่เกิด ให้เกิดขึ้น ละอกุศลกรรมที่ยังไม่เกิด ไม่ให้เกิดขึ้น ละอกุศลกรรมที่เกิดขึ้นแล้ว ให้หมดไป ทำกุศลกรรมที่เกิดขึ้นแล้วให้ยิ่งๆ ขึ้นไป คือ เป็นการชำระจิตใจ หรือยกระดับจิตใจ ให้ห่างไกล อกุศลต่างๆ ผมถือว่านั่นเป็นคุณสมบัติที่ดีของคนที่จะปล่อยวาง หรือหลุดพ้น

                              ส่วนวิธีการทำงานนั้น ยึดหลัก โพธิปักขิยะธรรม ๓๗ ประการ เป็นหลัก เพราะหลักธรรมนี้นำไปสู่ความสำเร็จที่แท้จริง แม้กระทั้งจิตตนเองจนบรรลุเป็นพระอรหันต์  เพียงแต่เราต้องเข้าใจมัน และรู้ว่าจะเอาไปทำงานอย่างไร  ไม่ใช่เพียงแต่ท่องจำแบบนกแก้ว-นกขุนทอง เท่านั้น

                              เดี๋ยวนี้ เวลาสอนหนังสือให้คนทำงานเป็น ผมจะใช้หลักธรรมนี้ คือ

                                - ให้ยึดมั่นใน ศีล ๕

                                - มีพรหมวิหาร ๔

                                - กระทำตาม โพธิปักขิยะธรรม ๓๗ ประการ ในการทำงานไปสู่ความสำเร็จ

                              ประกอบกับเราได้ให้ ความรู้ทางด้านวิชาชีพให้เขา เพียงเท่านี้เขาก็สามารถประสบความสำเร็จในการทำงานได้

                              สวัสดีครับ
      บันทึกการเข้า
Dtoy16
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: อักษรศาสตร์
กระทู้: 1,424

« ตอบ #6046 เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2555, 12:54:19 »

                พี่สิงห์สอนพนักงานไปด้วยพร้อมกับถอดรหัสจิตตนเองไปด้วยใช่ไหมค่ะว่าทำไมเกิดขึ้น
                ขณะเกิดสภาวะอารมณ์ต่างๆ คงต้องใช้  ตัวอย่างสถานการณ์และปัญหาจริงของโรงงานแต่    
               ละแห่งมาประกอบมากมายและใช้สติและ      
                 สมาธิ ม่ายงั้นจำ37ข้อของโพธิปักขิยะ  ธรรมไม่ได้น่ะค่ะธ                                                                                    
                                                                                            
      บันทึกการเข้า

Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6047 เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2555, 13:19:51 »

วันนี้ดี...เพราะเมื่อวาน

                            หลายครั้งที่การตัดสินใจในชีวิต เราก็อธิบายไม่ได้เหมือนกันว่า ทำไม ถึงเลือกทางนี้...

                            แต่สิ่งหนึ่งที่น่าจะสำคัญมากกว่าการหาสาเหตุก็คือ

                            การ ยอมรับว่า คนเรามีสิทธิ์ผิดพลาดกันได้ เพียงแต่ขอให้รู้ตัวเองว่า เรา ผิดพลาดเรื่องอะไร

                            และใช้บทเรียนที่ได้นั้นเป็นประสบการณแไว้สอนตัวเอง

                            ไม่ มีประโยชน์กับการนั่งกล่าวโทษตัวเอง หรือมัวหวั่นไหวกับภาพร้ายๆที่คน อื่นสร้างให้ จนทำให้เรารู้สึกแย่ไปกันใหญ่

                            เมื่อวานนี้ของฉัน อาจเคยสร้างความรู้สึกสีเทาให้กับตัวเองและคนที่รักฉันอยู่ไม่น้อยแม้ มันจะต้องใช้เวลาที่ยาวนานเหมือนกัน
กว่าจะจัดการระบายสีให้กับชีวิต วันนี้ของตัวเองเสียใหม่

                             อย่างไรเสีย... วันนี้ของฉันก็ดีกว่าเมื่อวาน

                             ด้วยแรงเสียดทานหนักๆที่เคยผ่าน ทำให้ เราเข้าใจอะไรๆมากขึ้น

                             ทำให้เรากลายเป็นคนหนักแน่นและมีความอดทน ไม่ ท้อง่ายต่อเรื่องยากในชีวิต

                             ฉันได้กลับมาเป็นลูกที่ดีพอใช้ได้คนหนึ่งของ พ่อแม่

                             เป็นแม่ที่พึ่งพาได้ของลูกตัวเอง และเป็นคนที่พอใช้ได้ อีกคนหนึ่งในสังคม

                             เท่านี้ก็เพียงพอที่ควรจะขอบคุณ "เมื่อวาน"ที่ ทำให้ฉันวันนี้ "คิดได้" ในหลายๆเรื่อง

                             ไม่ว่าอะไรก็ตามจะเกิดขึ้นในชีวิตคุณ

                             มันขึ้นอยู่กับ ตัวคุณว่า จะตีความหมายของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไร

                             และไม่ว่า สถานการณแนั้นจะมีความหมายหรือคุณค่าอย่างไรกับคุณ

                             คุณเองแหละที่จะเป็น คนให้ความหมายหรือคุณค่ากับสถานการณ์นั้นๆเอง. . .

                             - - - - - - - - - - - - - - - - - -

                             หากคุณมีเรื่องเมื่อวันวาน ...

                             ที่ยัง สร้างความรู้สึกแง่ลบให้กับตัวเองจนถึงวันนี้อยู่ละก็...

                             ทุ กๆ เ ช้ า ที่ เ ร า ตื่ น น อ น

                             ลองบอกกับตัวเองว่า

                             "เรามีทางเลือกอยู่ สองทางคือ จะเลือกว่ารู้สึกดีต่อตัวเอง หรือรู้สึกไม่ดี..."

                             และ เราจะเลือกอย่างหลัง ไ ป เ พื่ อ อะ ไ ร ...?
      บันทึกการเข้า
Manop Klabdee
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


พอเพียง มีสติ เกิดปัญญา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: 2513 วศ. รุ่นที่ 54
คณะ: วิศวกรรมศาสตร์ แผนกวิชาวิศวกรรมโยธา
กระทู้: 11,644

« ตอบ #6048 เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2555, 13:27:52 »

อ้างถึง
ข้อความของ Dtoy16 เมื่อ 07 พฤษภาคม 2555, 12:54:19
               พี่สิงห์สอนพนักงานไปด้วยพร้อมกับถอดรหัสจิตตนเองไปด้วยใช่ไหมค่ะว่าทำไมเกิดขึ้น
                ขณะเกิดสภาวะอารมณ์ต่างๆ คงต้องใช้  ตัวอย่างสถานการณ์และปัญหาจริงของโรงงานแต่    
               ละแห่งมาประกอบมากมายและใช้สติและ      
                 สมาธิ ม่ายงั้นจำ37ข้อของโพธิปักขิยะ  ธรรมไม่ได้น่ะค่ะธ                                                                                    
                                                                                            





ทุกสิ่งเกิดขึ้นจาก เหตุ-ปัจจัยทั้งสิ้น

หาเหตุนั้นให้พบ ดับปัญหาที่เหตุ ด้วยการกระทำตรงกันข้ามกับเหตุนั้น

สวัสดีค่ะ คุณน้องต้อย ที่รัก

                             ขอบคุณมากที่เข้ามาทักทาย

                             สำหรับธรรม ของพระพุทธเจ้านั้น พี่สิงห์ ไม่ได้ท่องจำ แต่นำมันมาใช้ควบคุมอารมณ์ หรือจิต ตนเองบ่อยๆ มันก็จำได้เอง และ เราเข้าใจในความหมายของมัน  มันจึงมีประโยชน์ต่อเรา  คอยเป็นเครื่องมือเตือนเรา ให้ตระหนักกับมัน  มันจึงอยู่ในจิตของเราครับ

                             อย่าลืมหลักในโพชฌงค์ ข้อที่ ๒ คือ ธรรมวิจัย  คือการยกข้อธรรมมาพิจารณา ให้เห็นจริงตามนั้น  เพราะเวลาปฏิบัติธรรมนั้น เราไม่สามารถควบคุมจิตได้ ให้มันอยู่นิ่งๆ ต้องมีสิ่งให้จิตเกาะ เช่นความรู้สึกตัวในอิริยาบถหลัก-ย่อย และนำธรรมะ มาให้จิตพิจารณา หาความจริง ครับ

                             อย่าลืมว่า "โพธิปักขิยะธรรม ๓๗ ประการ" นั้น เป็นเครื่องมือในการบรรลุธรรม เป็นพระอรหันต์ ที่แสนยาก  ยังสำเร็จได้  

                             ดังนั้นถ้าเรานำโพธิปักขิยะธรรม ๓๗ ประการ มาใช้ในการทำงาน งานของเราจะสำเร็จโดยพลัน นี่เป็นความจริง ครับ เพียงแต่เราต้องเข้าใจมัน และใช้มันให้เป็นเท่านั้น

                             สวัสดี
      บันทึกการเข้า
Dtoy16
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: อักษรศาสตร์
กระทู้: 1,424

« ตอบ #6049 เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2555, 13:33:26 »

                 ขอบคุณค่ะพี่สิงห์ ต้องฝึกปฎิบัติเองค่ะบางข้อก็ไม่ค่อยเชื่อในยุคสมัยนี้เล้ย(อันนี้บ่น)ยังอธิบาย
                ตัวอย่างประกอบไม่ได้ตอนนี้ ขอผลัดเมื่อสัมผัสได้กับตัวเองจะมาเล่าให้พี่ฟังค่ะ
      บันทึกการเข้า

  หน้า: 1 ... 240 241 [242] 243 244 ... 681   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

สมาคมนิสิตเก่าหอพักนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มวลสมาชิกสมาคม คณาจารย์ และนิสิตเก่าทุกคน ขอน้อมเกล้าถวายความอาลัย  พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ <;))))><