Leam
|
|
« ตอบ #725 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2554, 00:14:47 » |
|
|
|
|
|
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์
กระทู้: 9,865
|
|
« ตอบ #726 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2554, 09:12:24 » |
|
สุดยอดเลยครับ กูรู แหลม เยี่ยมจริง..ดอกสวยมาก ไม่รู้ในเมืองไทย..ใครเคยเห็นที่ไหนบ้างครับ...
|
iss u.Don"t be sure that the world is wide until you check it out by your self.
|
|
|
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์
กระทู้: 9,865
|
|
« ตอบ #727 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2554, 09:44:12 » |
|
เป็นไงล่ะ..ประเทศจีนที่ใครๆพากันปลื้มเป็นนักเป็นหนา... ก็ไม่ได้มีอุดมการณื อะไรที่น่ายกย่อง...ก็พอๆกับเมืองไทย โหล่ยโท่ย ของเรานี่แหละ
ตะลึง! อดีตยอดนักยิมนาสติกดาวรุ่งจีน ถูกพบเดินขอเงินในสถานีรถไฟใต้ดิน
มติชนออนไลน์
สำนักข่าวเดอะซันรายงานว่า ชาง ซางวู นักยิมนาสติกชื่อดังของจีนอดีตแชมป์มหาวิทยาลัยโลกเมื่อปี 2001 ถูกพบขอเงินอยู่ที่สถานีรถไฟใต้ดินในกรุงปักกิ่ง โดยมีผู้ที่จดจำอดีตนักยิมนาสติกดาวรุ่งวัย 28 ปีผู้นี้ได้และถ่ายภาพเอาไว้ แต่รายงานข่าวระบุว่า เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงสถานที่ก็พบว่าชาง ไม่อยู่ที่นั่นแล้ว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ในสถานีเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวของไชน่า ไทมส์ ว่า พบเห็นชางขอเงินมาเป็นเวลานานแล้วเหมือนกัน และมักถูกไล่ออกไปบ่อยๆ ซึ่งจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้อดีตนักยิมนาสติกที่ได้รับเสียงชื่นชมมากที่สุด ต้องมาตกอยู่ในสภาพนี้
นักยิมนาสติก วัย 28 ปี เคยถูกจับตามองว่าจะเป็นดาวดังในอนาคตสำหรับทีมโอลิมปิกของจีน ติดทีมชาติเมื่อปี 2001 คว้าเหรียญทองในกีฬามหาวิทยาลัยโลก แต่กลับมาได้รับบาดเจ็บเมื่อปี 2004 เอ็นร้อยหวายหัก ก่อนหน้าลงแข่งขันเอเธนส์ เกมส์ ซึ่งหลังจากนั้น ซาง ไม่สามารถฟื้นฟูร่างกายกลับมาลงแข่งขันอีก ต้องเลิกเล่นไปโดยได้รับเงินค่าชดเชยจากรัฐประมาณ 3,600 ปอนด์
โดยหลังจากที่ตกงาน ซาง รับงานเป็นพนักงานส่งอาหาร แต่หลังจากนั้นอาการบาดเจ็บก็แย่ลงอีก จนไม่สามารถวิ่งหรือเดินเป็นเวลานานได้ ซ้ำร้ายเมื่อเงินออมหมดลงพ่อของซาง ยังมีอาการตกเลือดในสมองจนต้องไปขโมยของและถูกจับได้ เข้ารับโทษ 2 เดือนในเรือนจำเมื่อปี 2007
รายงานข่าวของไชน่า สปอร์ต เดลิ เผยสถิติที่น่าตกใจว่า นักกีฬาที่เลิกเล่นแล้วประมาณ 3 แสนคนทั่วประเทศจีน มีถึง 80 เปอร์เซ็นต์ที่ต้องลำบากต่อสู้กับอาการบาดเจ็บ ความยากจน และไร้งานทำ
|
iss u.Don"t be sure that the world is wide until you check it out by your self.
|
|
|
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์
กระทู้: 9,865
|
|
« ตอบ #728 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2554, 09:53:22 » |
|
ผิดกับญี่ปุ่น.. เรื่องราวต่อไปนี้..ขอสดุดีแด่ชาวญี่ปุ่นจริงๆๆ
"นาเดชิโกะ" กับปาฏิหาริย์ที่แฟรงก์เฟิร์ต
(ที่มา หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 19 กรกฎาคม 2554)
ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปปี 1992 และ 2004 เคยมีเทพนิยายเดนส์และกรีกให้แฟนๆ ได้ทึ่งกับบทสรุปอันมหัศจรรย์ การแข่งขัน ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2011 ซึ่งเพิ่งปิดฉากเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา ก็มี "ปาฏิหาริย์" ในแบบฉบับของตัวเอง กับตำแหน่งแชมป์โลกชนิดพลิกความคาดหมาย (แต่ถูกใจหลายๆ คน) ของ ญี่ปุ่น ซึ่งกลายเป็นชาติแรกของเอเชียที่คว้าถ้วยสำคัญนี้
หากเปรียบมวยกันก่อนแข่ง เรียกว่าแทบไม่เห็นโอกาสชนะของสาวๆ แดนปลาดิบ เพราะนอกจากรูปร่างจะเป็นรองอย่างเห็นได้ชัดแล้ว (นักเตะที่สูงที่สุดในทีมญี่ปุ่นสูงเพียง 171 ซม.เท่านั้น) ขาอ่อนเมืองมะกันยังมีดีกรีเป็นทีมอันดับ 1 ของโลก พร้อมผลงานแชมป์โลก 2 สมัย และเหรียญทองโอลิมปิก 3 สมัย เป็นเครื่องการันตี ขณะที่ฝ่ายสาวปลาดิบเคยไปได้ไกลสุดแค่รอบ 8 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลกหญิงปี 1995 เท่านั้น
...ที่สำคัญในการพบกัน 25 นัดก่อนหน้านี้ สหรัฐยังไม่เคยแพ้ให้ญี่ปุ่นเลยแม้แต่ครั้งเดียว!
แต่เกมนัดชิงชนะเลิศที่เมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ช่วงกลางดึกวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แม้ว่ารูปเกมจะเป็นรองอย่างเห็นได้ชัด ทีมหญิงญี่ปุ่นเจ้าของฉายา "นาเดชิโกะ" (ชื่อดอกไม้สีชมพูสื่อถึงความสวยสง่าและงดงาม) ก็มีวินัยและความมุ่งมั่นเป็นอาวุธชั้นเลิศ
พวกเธอโดนนำถึงสองครั้งสองคราทั้งในเวลาปกติและช่วงต่อเวลาพิเศษ แต่ทุกคนยังวิ่งไล่บอลอย่างไม่ย่อท้อ จนไล่ตีเสมอได้สำเร็จ ก่อนจะแสดงความมั่นใจในการดวลลูกโทษ ผิดกับฝั่งอเมริกาที่เริ่มมีอาการเสียขวัญจากการทำแชมป์หลุดมือในเวลาปกติอย่างเห็นได้ชัด อายูมิ ไคโฮริ ผู้รักษาประตูญี่ปุ่นจึงโชว์ความนิ่งป้องกันได้ถึง 2 ลูก ก่อนชนะไป 3-1 ในที่สุด
สาวๆ จากแดนอาทิตย์อุทัยมาร่วมแข่งขันรายการนี้เพียง 4 เดือนหลังโศกนาฏกรรมแผ่นดินไหวและสึนามิที่เขย่าหัวใจคนทั้งโลก ทุกแมตช์และทุกนาทีในสนามของพวกเธอจึงไม่ใช่แค่ผลแพ้ชนะ แต่ยังแบกความหวังของเพื่อนร่วมชาติอีก 128 ล้านคนไว้บนบ่า ทางหนึ่งเพื่อให้ชาวญี่ปุ่นมีเรื่องดีๆ ให้ฉลองหลังต้องเจอกับเรื่องร้ายติดๆ กัน และอีกทางเพื่อบอกให้ชาวโลกรู้ว่า พวกเขาจะยืนหยัดได้ใหม่ในอนาคตอันใกล้แน่นอน
แต่ถึงจะไม่มีเรื่องภัยธรรมชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็ว่ากันว่านาเดชิโกะชุดนี้ "ชนะใจ" แฟนบอลทั่วโลกไปไม่น้อยแล้ว ด้วยลีลาการเล่นรุกรับอย่างมีวินัย การต่อบอลค่อยๆ ทำเกมอย่างอดทน มีสไตล์น่าดูไม่แพ้บอลชาย จนเกจิลูกหนังบางคนถึงขั้นเอาฟอร์มของพวกเธอไปเทียบกับ บาร์เซโลน่า ทีมลูกหนังอันดับ 1 ของยุคเลยทีเดียว!
เอพริล ไฮน์ริชส์ อดีตโค้ชทีมชาติสหรัฐ ชมว่า นักเตะญี่ปุ่นครองบอลได้ดีทั้งสองเท้าทำให้อ่านเกมลำบาก เป็นสไตล์ที่ไม่ใช่เพิ่งมาหัดเล่นกัน 3-4 ปีนี้ แต่ปลูกฝังกันมาตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อนแล้ว เพราะตอนที่ตนยังร่วมทีมสหรัฐแข่งฟุตบอลโลกปี 1991 ทีมนาเดชิโกะก็เล่นอย่างนี้เหมือนกัน
ในรอบรองชนะเลิศกับ สวีเดน แทคติคของญี่ปุ่นผนึกจนสาวๆ ไวกิ้งมีโอกาสยิงประตูเพียง 4 ครั้งเท่านั้น ถึงในรอบชิงชนะเลิศจะโดนสหรัฐบุกยิงสลุดใส่หนแล้วหนเล่า แต่ความขยันและทีมเวิร์กก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง จนทำให้สาวมะกันแพ้ภัยตัวเองไปในที่สุด
โนริโอะ ซาซากิ โค้ชทีมชาติญี่ปุ่นบอกว่า ลูกทีมชุดนี้เล่นด้วยกันมา 3 ปี เริ่มจากโอลิมปิกเกมส์ที่จีนเมื่อปี 2008 ที่ตอนนั้นคว้าอันดับ 4 ซึ่งถือว่าเป็นไปตามเป้า พร้อมเอ่ยถึงหลักการง่ายๆ ของการวางแผนการเล่นที่น่าจะเป็นต้นแบบแนวคิดสำหรับทีมลูกหนังในภูมิภาคเอเชียได้เป็นอย่างดีว่า
"นักเตะญี่ปุ่นตัวเล็ก เราเลยต้องเน้นเรื่องต่อบอลเป็นพิเศษ ให้ทุกคนในทีมช่วยกัน เพราะถ้าไม่ทำอย่างนั้นคงสู้กับชาติอื่นไม่ได้ ย้อนไปเมื่อ 5 ปีก่อน เราว่าเราเล่นดีแล้ว แต่ยังบุกไม่พอ ส่วนนักเตะเราเมื่อก่อนจะเรียกว่าตัวรับมืออาชีพไม่ได้ เราว่าขาดตรงไหนก็ปรับก็แก้ตรงนั้นครับ"
กับความสำเร็จที่เกินเป้าครั้งนี้ เมื่อถูกถามถึงเงินอัดฉีดที่คงจะได้กันมหาศาล ซาซากิตอบอย่างถ่อมตัวว่า ถ้าได้นาฬิกาใหม่สักเรือนก็คงดี
"เราไม่เคยคุยเรื่องเงินกันเลยครับ ทุกคนคิดแค่ว่าจะลงสนามเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของฟุตบอลโลกเท่านั้นเอง"
และนี่ก็เป็นภารกิจเพื่อชาติที่สำเร็จลุล่วงอย่างน่าทึ่งไปแล้ว!
......
กุญแจสำคัญที่ช่วยให้ญี่ปุ่นประสบความสำเร็จในฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลกครั้งนี้คือ ทักษะ วินัย และทีมเวิร์ก โดยมีหัวใจหลักของทีมคือ โฮมาเระ ซาวะ กองกลางกัปตันทีมวัย 32 ปี เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ
นอกจากจะเป็นคนแรกที่ได้ชูถ้วยแชมป์แล้ว ซาวะยังได้รางวัลรองเท้าทองคำกลับบ้านไปอีก 2 ถ้วย กับตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของการแข่งขัน ด้วยผลงาน 5 ประตู โดยเฉพาะลูกยิงสำคัญในนาที 117 ซึ่งตีเสมอสหรัฐ 2-2 ในนัดชิงชนะเลิศ จนนำไปสู่การดวลลูกโทษตัดสิน และตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์
จุดเด่นของโฮมาเระคือการเป็นผู้เล่นสารพัดประโยชน์ ทำได้ดีทั้งรุกและรับ ติดทีมชาติญี่ปุ่นมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีมนาเดชิโกะ 165 นัด และยิงประตูมากที่สุด 79 ประตู
ซาวะเปรยเป็นนัยๆ ก่อนหน้านี้ว่า เวิลด์คัพสมัยที่ 5 ของเธอในปีนี้อาจจะเป็นปีสุดท้ายแล้ว แต่ โนริโอะ ซาซากิ ยังหวังจะหว่านล้อมให้เธอเล่นต่อเพื่อนำทีมสู้ศึกโอลิมปิกเกมส์ที่กำลังจะเตะรอบคัดเลือกในเดือนกันยายนนี้
|
iss u.Don"t be sure that the world is wide until you check it out by your self.
|
|
|
Pete15
|
|
« ตอบ #729 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2554, 10:02:42 » |
|
เมื่อ เรามีประโยชน์ สังคมก็ให้ความสำคัญ เมื่อไร้ประโยชน์ ก็หมดความหมาย (โลกมนุษย์ ) ข้ารู้แล้ว ว่ะ ก่อนที่เราจะทำอะไรไม่ได้ (สังขาร) หรือ (เวรกรรม) ข้าต้องหัด หอน ไว้ก่อน อย่างไรก็เอาไว้เฝ้าบ้านได้ ว่ะ ตะวัน .........
|
|
|
|
Leam
|
|
« ตอบ #730 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2554, 15:26:51 » |
|
สวัสดียามบ่ายครับ.........พี่ตะวัน..พี่ปี๊ด..พี่อร..พี่มีนา..พี่รุ่ง..พี่เปี๊ยก และพี่น้องทุกท่าน
ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นพี่มีนาและพี่รุ่งเข้ามาโพสท์เลยครับ...
|
|
|
|
Leam
|
|
« ตอบ #731 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2554, 15:33:07 » |
|
ส่งดอก..."นาเดชิโกะ"...มาร่วมแสดงความยินดีกับทีมแชมป์โลกฟุตบอลหญิง ทีมแรกของเอเชีย ครับ
|
|
|
|
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
ออฟไลน์
รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562
|
|
« ตอบ #732 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2554, 19:57:38 » |
|
นั่นสินะ น้องแหลม จนพี่ต้องเข้าไปถามว่า ป่วยหรือเปล่า ปรากฎว่าสบายดี แต่มีธุระบ่อยๆ สักพักก็คงเข้ามาค่ะ มีแฟนๆคิดถึง ยิ่งเข้ามาเร็วค่ะ
|
|
|
|
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
ออฟไลน์
รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562
|
|
« ตอบ #733 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2554, 20:02:42 » |
|
แอสทิลบ์ (Astilbe) ของน้องแหลทั้งสีชมพูอ่อน และแก่ สวยงามมากค่ะ พี่ว่าแล้ว เรื่องข้อมุล ไม่พ้นมือน้องแหลมผู้รอบรู้ไปได้ พี่อุตส่าห์ หาชื่อ อะรูไม่ไร้ มาดักไว้ก่อนแล้วนา เมืองไทยไม่เคยเห็นที่ไหน หรือเห็นแต่ไม่สวยเลยไม่สวยสะดุดตาก็ไม่รู้ได้ค่ะ
|
|
|
|
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
ออฟไลน์
รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562
|
|
« ตอบ #734 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2554, 20:05:06 » |
|
หน้าตาเหมือนดอกบานเย็นที่ชอบเอามาทัดหูเล่นค่ะ
|
|
|
|
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์
กระทู้: 9,865
|
|
« ตอบ #735 เมื่อ: 20 กรกฎาคม 2554, 22:58:34 » |
|
ดีมาก เก่งมากเลยเปลี่ยนชื่อน้องซะเลย..ลงโทษน้องหรือเปล่าที่เก่งเกินพี่
|
iss u.Don"t be sure that the world is wide until you check it out by your self.
|
|
|
Leam
|
|
« ตอบ #736 เมื่อ: 21 กรกฎาคม 2554, 00:50:14 » |
|
5.....5.....5 .......ไม่ว่ากันครับ
ชื่อในตำนาน........
|
|
|
|
Leam
|
|
« ตอบ #737 เมื่อ: 21 กรกฎาคม 2554, 01:07:46 » |
|
จริงๆแล้ว....ดอกนาเดชิโกะ มีหลายสีหลากรูปทรง แล้วแต่สายพันธุ์ครับ พี่อร
|
|
|
|
Leam
|
|
« ตอบ #738 เมื่อ: 21 กรกฎาคม 2554, 01:18:03 » |
|
ผมก็ยังไม่เคยเห็นเหมือนกันครับ.... พี่อร,พี่ตะวัน
|
|
|
|
Pete15
|
|
« ตอบ #739 เมื่อ: 21 กรกฎาคม 2554, 12:27:18 » |
|
สวัสดี ครับ เพื่อนๆ และสมาชิก......ใบ้ ครับ เกียวกับดอกไม้ ชอบไปหมด
|
|
|
|
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์
กระทู้: 9,865
|
|
« ตอบ #740 เมื่อ: 21 กรกฎาคม 2554, 13:09:49 » |
|
ไอ้ใบ้ ไม่ชอบดอกไม้หรอกเพื่อนชอบอย่างอื่น..รู้กัน..อิอิอิ
|
iss u.Don"t be sure that the world is wide until you check it out by your self.
|
|
|
|
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์
กระทู้: 9,865
|
|
« ตอบ #742 เมื่อ: 21 กรกฎาคม 2554, 18:49:46 » |
|
เรื่องเล่านอกกะลา โดย : สมสกุล เผ่าจินดามุข จาก นสพ.กรุงเทพธุรกิจวันที่ 21 กรกฎาคม2011
โรงเรียนนี้ไม่มีการสอบ ไม่มีค่าแป๊ะเจี๊ยะ ไม่มีแบบเรียน ไม่มีการท่องสูตรคูณ และเป็นโรงเรียนที่ไม่ยอมให้เด็กล้มเหลวแม้แต่คนเดียว
- 4 -
หน้าเสาธง โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา มีแท่งปูนสี่เหลี่ยมสูงราวหนึ่งเมตร แต่ละด้านสลักเป็นปริศนาว่า
"ในน้ำต้องเลี้ยงปลา ในนาต้องปลูกข้าว"
พรรณทิพย์พา ทองมี หรือที่นักเรียนมักเรียกกันว่า ครูต๋อย หนึ่งในกลุ่มครูผู้บุกเบิกโรงเรียนลำปลายมาศ โรงเรียนที่ถือว่าเป็นต้นแบบของโรงเรียนทางเลือกขยายความให้ฟังว่า
"ทุกวันนี้โลกเปลี่ยน ปลาไม่ต้องเลี้ยงแล้ว แต่ต้องรู้วิธีให้ได้มาซึ่งอาหาร เรารอธรรมชาติไม่ได้แล้ว ตรงนี้อยากบอกว่า ไม่ใช่แค่รอให้มันมาหาเรา แต่บางอย่างต้องสร้างขึ้นมาเอง สร้างโอกาสขึ้นมา"
บ้านเกิดของครูต๋อยอยู่ร้อยเอ็ด เธออยากเป็นครูสอนเด็กประถมวัยตั้งแต่เริ่มจำความได้ อาจเป็นเพราะได้แรงบันดาลใจจากพ่อและแม่ ซึ่งเป็นครูทั้งคู่
พอเรียนจบเธอสอบเข้าบรรจุเป็นครูได้สมใจหลังสอบผ่านรอขึ้นบัญชีเรียกบรรจุ 3 แห่งด้วยกัน
ระหว่างรอเรียกบรรจุ เธอเห็นโฆษณาประกาศรับสมัครครูสำหรับโรงเรียนใหม่ของอำเภอลำปลายมาศ จึงตัดสินใจสมัครและสัมภาษณ์ร่วมเป็นครูบุกเบิกตั้งแต่ยุคที่โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนายังเป็นที่โล่ง อาคารยังสร้างไม่เสร็จ ดินยังไม่ถม เสาธงไม่มี อาคารยังไม่ก่อ
ผ่านมาหนึ่งปี ครูต๋อยได้รับจดหมายเรียกตัวให้ไปบรรจุเป็นครูรัฐบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี แต่เธอตัดสินใจอยู่ลำปลายมาศต่อ แม้จะมีเสียงไม่พอใจจากพ่อแม่ก็ตาม
เธอผัดผ่อนพ่อแม่ที่คะยั้นคะยอให้เข้าบรรจุโรงเรียนรัฐมาตลอด จนสุดท้ายมีจดหมายเรียกบรรจุเข้าโรงเรียนในกรุงเทพฯ ซึ่งดูเหมือนเธอจะหมดทางผัดผ่อนแล้ว เธอเล่าว่าวันนั้นร้องไห้ทั้งคืน พยายามบอกพ่อแม่ว่าไม่อยากไป เพราะรักและผูกพันกับโรงเรียนลำปลายมาศ และเป็นผู้ร่วมอุดมการณ์ทำให้เป็นโรงเรียนตัวอย่างที่หลายแห่งเริ่มเอาอย่าง สุดท้าย ถึงแม้จะนั่งรถมาถึงหน้าโรงเรียนที่กรุงเทพฯแล้ว เธอเปลี่ยนใจไม่ลงจากรถ และโทรอ้อนวอนพ่อแม่อีกครั้ง ขอกลับมาเป็นครูต๋อยของนักเรียนลำปลายมาศ และรับผิดชอบกับการตัดสินใจสำคัญของตัวเอง
"เรามีอำนาจในการเลือก ชีวิตเป็นของเรา" ครูต๋อยบอก
- 3 -
ย้อนกลับไป 9 ปีที่แล้ว มันเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่งสำหรับข้าราชการวัย 32 ปีที่กำลังเติบโตในสายงานได้ดี และไต่ระดับขึ้นมาเป็นผู้บริหารโรงเรียนรัฐเพื่อมาร่วมปั้นฝันสร้างโรงเรียนทางเลือกที่เขาเรียกว่า โรงเรียนนอกกะลา
วิเชียร ไชยบัง ครูใหญ่โรงเรียนลำปลายมาศเล่าว่า จุดเริ่มต้นของการสร้างโรงเรียนแนวใหม่มาจากเจตนารมณ์ของชาวอังกฤษหนุ่มคนหนึ่ง เจมส์ คลาร์ก ที่มาอยู่เมืองไทยและหลงรักประเทศนี้ เจมส์ คลาร์ก คนนี้ยังเป็นคนเดียวที่ช่วยส่งเสริมซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส สุริยัน / จันทรา ระบบปฏิบัติการและโปรแกรมประยุกต์ เพื่อเป็นทางเลือกแทนการซื้อซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ และติดตั้งซอฟต์แวร์เถื่อน
เขาและมูลนิธิ เจมส์ คลาร์ก ได้มอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนภาคอีสานอยู่หลายปี จนเมื่อผ่านไประยะหนึ่งจึงเริ่มปรับแนวทางใหม่ โดยเห็นว่าหากต้องการส่งเสริมการศึกษาให้ยั่งยืน น่าจะมีโรงเรียนตัวอย่างขึ้นมาสักแห่ง
ก่อนมีโรงเรียนก็ต้องมีครูใหญ่ เป็นผู้บริหารโรงเรียนและหลักสูตร เจมส์ จึงมองหาอาสาสมัครและคนร่วมอุดมการณ์เพื่อสร้างโรงเรียนทางเลือก โดยรับบทบาทเป็นผู้สัมภาษณ์งานด้วยตัวเอง สัมภาษณ์ไปจนถึงรอบสามถึงได้ครูใหญ่ชื่อ วิเชียร ไชยบัง มาช่วยกันปั้นโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา
"ตอนนั้น ที่ดินโล่งเปล่า มีต้นยางใหญ่สองต้นยืนอยู่ พอเจมส์เขารับผมเข้าทำโครงการ ผมกับเจมส์ทำข้อตกลงกันวันแรกว่า เขาสามารถไล่ผมออกทุกเวลา แต่เขาต้องให้อิสระผมทำงาน ซึ่งเจมส์ตอบตกลง และบอกว่าเขาไม่รู้เรื่องการศึกษา แต่ต้องการโรงเรียนที่ดีที่สุด" ครูใหญ่โรงเรียนนอกกะลา เล่าต้นเรื่อง
ช่วงปีแรกเป็นช่วงท้าทายมาก เพราะเขาต้องเริ่มหลายอย่างพร้อมกัน ตั้งแต่การออกแบบสร้างอาคาร รับสมัครครู และถ่ายทอดปรัชญาการศึกษาตามที่เขาออกแบบ ซึ่งใช้เวลาราว 6 เดือน ก่อนเปิดรับนักเรียนรุ่นแรก ค่อยๆ ถ่ายทอดปรัชญาความรู้ให้จนสุดท้ายหล่อหลอมครูต้นแบบสำเร็จตามที่วิเชียรมองหา
"พอโรงเรียนเป็นรูปร่างก็มาดูว่าเราต้องการบรรยากาศแบบไหน เราต้องการให้ครูมีท่าทีอย่างไร เราต้องการกิจกรรมอย่างไร ต้องการหลักสูตรแบบไหน ค่อนข้างชัดขึ้นในช่วง 2-3 ปี พอปีที่ 4 เริ่มมีการประเมินภายนอก มาจากสองที่ ได้แก่ สมส. เป็นส่วนของประเทศไทย การประเมินครั้งนั้นเขามาประเมินปกติ ปรากฏเขาให้เราดีมาก 13 ข้อ และดี 1 ข้อ ซึ่งไม่มีที่ไหนได้"
ต่อมา ยังได้รับการประเมินจากหน่วยงานการศึกษาต่างประเทศ โดยมหาวิทยาลัย ทัสมาเนีย โดยเจ้าหน้าที่มาอยู่โรงเรียน 10 วัน เขียนรายงานยาว บรรทัดสุดท้ายของรายงานระบุว่า "นี่คือโรงเรียนระดับ World class"
แรกก้าวเข้ามาโรงเรียนลำปลายมาศ สิ่งที่แทบมองไม่เห็นเลยคืออาคารเรียนที่ซ่อนตัวอย่างกลมกลืนกับร่มไม้ และบรรยากาศร่มรื่นที่ถูกจัดสภาพแวดล้อมอย่างเหมาะสม
ชุดนักเรียนของโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนาออกจะแตกต่างจากโรงเรียนละแวกนี้ มีกลิ่นอายกระเดียดไปทางโรงเรียนนานาชาติด้วยซ้ำด้วยเสื้อผ้าลายสก็อตแบบพื้นบ้านชาวอีสานที่ตัดเย็บโดยพ่อแม่ของนักเรียนเอง เสื้อนักเรียนหญิงมีให้เลือกทั้งคอบัว และคอปก เหตุที่ใช้ผ้าลายพื้นบ้านตัดเย็บเป็นเสื้อนักเรียนแทนเสื้อสีขาวก็เพราะจะดูไม่ออกว่านักเรียนคนไหนเสื้อขาวกว่า ใหญ่กว่า รวยหรือจนกว่า
โรงเรียนนอกกะลาของครูนอกกะลามีเสาธงอยู่หน้าอาคาร แต่ไม่ได้เป็นจุดรวมพลที่ทุกเช้านักเรียนต้องมาเข้าแถวเคารพธงชาติ และฟังครูอบรมปากเปียกปากแฉะ
โรงเรียนนอกกะลาไม่ได้ใช้ตำราเรียนของกระทรวงศึกษา แต่ยังอิงอยู่กับหลักสูตรของกระทรวงศึกษา
โรงเรียนนี้ไม่มีสอบเข้า ไม่มีค่าแป๊ะเจี๊ยะ แต่ใช้การจับฉลากเข้าตามหลักการสุ่ม
โรงเรียนนี้นักเรียนเรียนฟรี และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด คือ
โรงเรียนนี้ไม่ยอมให้เด็กล้มเหลวแม้แต่คนเดียว
"หลักสูตรเราอิงกับหลักสูตรกระทรวงศึกษา แต่ไม่ใช้แบบเรียนของกระทรวงศึกษา กิจกรรมต่างๆ ไม่มีอบรมหน้าเสาธง เพราะจะทำอะไรสักอย่างต้องมีเหตุผล เราต้องการสอนคนให้มีเหตุผล เราไม่เชื่อว่าการเข้าแถวเคารพธงชาติทำให้คนรักชาติมากขึ้น แต่มันเป็นพิธีกรรมสำหรับการเริ่มต้นที่ดี ความนอบน้อม ความเคารพต่ออะไรสักอย่างเท่านั้นเอง ไม่มีบทที่ต้องมาว้ากกัน" ครูใหญ่ ช่วยเติมคำให้ช่องว่างของคำถาม
รูปแบบที่นอกกรอบ นอกกะลา นอกขนบทำให้เปิดเรียนปีแรกผู้ปกครองบางคนถึงกับช็อค เพราะส่งนักเรียนเข้าเรียนอนุบาล ต่างเข้าใจกันโดยปริยายว่า นักเรียนต้องได้เขียน ก. ไก่ ตามรอยประ
วิเชียร บอกว่า นอกจากเด็กนักเรียนเรียนรู้ ผู้ปกครองต้องเรียนรู้ด้วย เมื่อผู้ปกครองเรียนรู้แล้วจะเข้าใจและเห็นเป้าหมายของเด็ก ไม่กดดันเด็ก
"เขาจะรู้ว่าความงอกงามของคนมีหลายด้าน ลูกเขาก็งอกงาม"
- 2 -
ชื่อเสียงของโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนาถูกพูดถึงอย่างมากในฐานะโรงเรียนทางเลือก มีผู้บริหารและครูจากโรงเรียนหลายแห่งเข้าเยี่ยมชมการเรียนการสอน หลายคนมักมาพร้อมกับคำถามถึงหลักการที่ประกาศว่า "ไม่ละทิ้งเด็กแม้แต่คนเดียว " ว่าเป็นจริงได้แค่ไหน
ครูวิเชียร อธิบายว่า ระบบการวัดที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันค่อนข้างบิดเบี้ยว และไม่สามารถใช้วัดความเป็นมนุษย์ได้ เนื่องจากถูกออกแบบให้โฟกัสที่ความรู้มากเกินไป ระบบดังกล่าวเขามองว่าไม่ใช่ความผิดสำหรับยุค 100-200 ปี ซึ่งเป็นยุคที่มนุษย์จำเป็นต้องแสวงหาความรู้
"ดูเหมือนการแสวงหาความรู้ของมนุษย์จะไม่มีวันสิ้นสุด แต่พอหาแล้วกลายเป็นว่ามนุษย์ตีกรอบความคิดลึกลงถึงยีนมนุษย์ และรู้สึกว่ายังต้องแสวงหาอยู่ ทั้งที่ความรู้ล้นเหลือไปแล้ว กรอบมันยังสลัดไม่ออก ผู้ปกครองทุกคนก็ยังมีกรอบติดอยู่กับความเชื่อว่า ความรู้ฉันมีน้อย เราอาจอยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่ายจากกรอบนี้ไปสู่อีกกรอบหนึ่ง การสลัดให้ได้ การช่วยให้คนสลัดจากสิ่งนี้ให้ได้คือความหวัง " มุมมองของครูใหญ่
เขาเสนอให้คนหลุดจากรอบเดิมในการมองเป้าหมายของการศึกษาไปสู่กรอบใหม่ เป็นกรอบที่ ผู้ให้การศึกษา ผู้ปกครอง และนักเรียนร่วมตั้งคำถามกันว่า มนุษย์ควรมีชีวิตอย่างไรให้มีความสุข กรอบใหม่ไม่ใช่แค่เรียนหนังสือสอบเอนทรานซ์ได้ และมีงานทำ เขาชวนเชิญให้ตั้งคำถามว่า มนุษย์จะมีความสุขได้อย่างไร จะพอใจบางอย่างง่ายๆ ได้อย่างไร จะจัดการความสัมพันธ์ที่ยุ่งเหยิงอย่างนี้ได้อย่างไร จะบริหารอารมณ์ตัวเองได้อย่างไร หากได้คำตอบเมื่อนั้น คนนั้นจะเข้าใจว่าอยู่มาเพื่ออะไร
แนวคิดการสร้างโรงเรียนตัวอย่างของครูวิเชียรถูกถ่ายทอดลงในหนังสือโรงเรียนนอกกะลาที่เขาจัดทำเมื่อปี 2550 เนื้อความหนึ่งกล่าวถึงโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนาว่า เป็นโรงเรียนที่ไม่มีการสอบ โรงเรียนที่ไม่มีเสียงออด เสียงระฆัง โรงเรียนที่ไม่มีแบบเรียน โรงเรียนที่ครูส่งเสียงสอนเบาที่สุด ซึ่งล้วนขัดกับสิ่งที่ทุกคนพบเห็น และทุกคนก็พยายามหาว่า มันคืออะไร เมื่อได้มาเห็นจริง ต่างเข้าอกเข้าใจกันดีว่า รูปแบบของโรงเรียนนอกกะลาไม่ได้หนีไปจากความปรารถนาของการศึกษา แต่อยู่กับเป้าหมายของพรบ. อยู่ในความต้องการของหลักสูตร เป็นเป้าหมายเดียวกัน แต่วิธีต่างกัน
เรื่องท้าทายที่สุดในตลอด 9-10 ปี ของโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนาคือการเดินสู่เป้าหมายที่ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่แรกคือ การเป็นโรงเรียนตัวอย่าง ที่ต้องทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระดับประเทศ ไม่ใช่แค่บุรีรัมย์ และเป็นสิ่งที่กดดันให้คณะครูต้องทำกิจกรรมถ่ายทอดแนวทางให้กระจายออกไปให้เร็วที่สุด
"ลมหายใจเราก็สั้น คำว่าลมหายใจหมายถึง ทุนเราไม่ได้ยาว ช่วงเวลาที่มีอยู่ นอกจากทำที่นี่ให้ดีที่สุด ทำให้เด็กดีที่สุด ต้องให้ผลขยายออกไปให้เร็วที่สุด เพื่อให้เกิดมวลวิกฤติพอที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ให้กระทบทั้งข้างบน และข้างล่าง"
เพื่อสร้างผลกระทบให้เกิดขึ้น โรงเรียนได้เปิดประตูรับคณะครู แลเจ้าหน้าที่การศึกษาจากทั่วประเทศให้เดินทางมาเยี่ยมชมโรงเรียน หรือที่เรียกว่า "ดูงาน" และยังจัดทำคอร์สอบรมระยะสั้นที่โรงเรียนด้วย อย่างไรก็ตาม ระยะหลังโรงเรียนลดระดับของการดูงานน้อยลง และเพิ่มน้ำหนักการอบรมมากขึ้น
"แต่ก่อนมาดูงาน 100 คน อาจมีแรงบันดาลใจ 2 คนออกไปทำ ซึ่งประโยชน์ที่ได้ทันทีคือ เด็กที่อยู่ในห้องเขา และถ้าเขาคลิกเปลี่ยน ครูคนนั้นเปลี่ยนคนเดียว ไม่รู้เด็กกี่คนกว่าที่เขาจะเกษียณจะผ่าน และเด็กพวกนั้นได้ประโยชน์ไหม" ครูใหญ่ตั้งคำถาม
เมื่อมองดูรายชื่อโรงเรียนที่มาดูงาน และอบรมเพื่อนำโมเดลของโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนาไปขยายผลพบว่า โรงเรียนในภาคอีสานและภาคตะวันออกทุกจังหวัดที่ได้มาสัมผัสด้วยตา และรับแนวทางไปปรับใช้กับโรงเรียนของตน หลายโรงเรียนสามารถยกระดับเป็นต้นแบบ อาทิ โรงเรียนในศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครพนม มุกดาหาร ขอนแก่น และภูเก็ต ซึ่งสามารถเป็นศูนย์อบรมแทนโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนาได้
วิเชียรยอมรับว่า วิธีการที่พวกเขาทำอยู่ ยากที่จะเปลี่ยนแปลงครู หรือสร้างแรงบันดาลใจให้ครูจากโรงเรียนอื่นนำไปใช้ แต่อย่างน้อยเขาคิดว่าการทำงานของโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนาได้เปลี่ยนมุมมองและวิธีจัดการเด็ก เปลี่ยนครูบางคนที่เคยเข้าใจว่าเป็นครูที่สอนเด็กได้เก่งที่สุดให้มองเห็นอีกด้านหนึ่งของเด็กด้วย
"บางคนมาดูงาน กลับไปเขียนลงเฟซบุ๊คว่า ตลอดชีวิตที่ทำมาอีกสองปี รู้สึกว่าทำผิดมาตลอด"
-1-
แม้เด็กที่จบระดับประถมศึกษาด้วยแนวทางการเรียนการสอนแบบใหม่จะกลับเข้าสู่โรงเรียนมัธยมในกะลาอีกครั้ง ครูวิเชียรมองว่า สิ่งที่นักเรียนได้ไปตลอดช่วง 6 ปีที่เรียนอยู่ลำปลายมาศพัฒนาช่วยให้เด็กจัดการกับชีวิตตัวเองได้ง่ายขึ้น
"เขาจัดการตัวเองได้ง่าย ไปสอบไปแข่งก็ติด คะแนนก็ใช้ได้ เราไม่ได้แบ่งเป็นโลกใหม่หรือโลกเก่า จริงๆ แล้วเราให้เวลาเขาอยู่ในชุมชนและครอบครัวมากกว่าอยู่โรงเรียน แบบจำลองของเราเป็นแบบนี้ คุณอยู่ห่างไกลจากสิ่งรบกวน คุณอยู่กับชุมชนและคนที่เอื้ออาทรต่อคุณ ให้ความรักและโอกาสคุณตลอดเวลา สุดท้ายเขาจะเป็นคนเลือก เวลาเขาออกนอกสังคมเขาจะเลือกแบบไหน เราเลือกให้เขาไม่ได้ สุดท้ายเขาต้องเลือกเองว่า ฉันชอบแบบนี้ เราจะสร้างสังคมเราแบบนี้ ฉันจะเป็นอย่างนี้ " วิเชียรพูดถึงผลผลิต
ไม่ว่าจะเป็นการเรียนการสอนในช่วงชั้นไหน และวิชาไหน พื้นฐานหลักของการสอนของครูโรงเรียนลำปลายมาศประกอบด้วย 3 ส่วนหลักได้แก่ หลัก 3 ช.
ชง - เชื่อม - ใช้
ชง คือกระบวนการที่ครูให้เด็กแต่ละคนปะทะกับข้อมูลปฐมภูมิ ทุติยภูมิ หรืออะไรก็ตาม และให้นักเรียนแสวงหาค้นหาคำตอบเอง เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตัวเอง
เชื่อม คือการกระบวนการเข้าไปดูว่านักเรียนแต่ละคนค้นคว้าและหาคำตอบอะไรมา ทุกคนจะเห็นว่าคำตอบของบางคนไม่เหมือนกัน กระบวนการเชื่อมจะทำให้โครงสร้างของความรู้คมชัด แต่เป็นโครงสร้างที่ใหญ่ขึ้น และเห็นข้อเท็จจริงมากขึ้นกว่าเดิม กระบวนการเชื่อมยังทำให้เกิดโครงสร้างองค์ความรู้ในสมอง เกิดการเรียนรู้ด้วยตัวเองว่าสิ่งที่รู้มาผิดหรือถูก โดยเปรียบเทียบจากคนอื่น
ใช้ เป็นกระบวนการนำเอาสิ่งเร้าใหม่ใส่เข้าไป อาทิ ใบงาน แบบฝึกหัดเพื่อดูว่านักเรียนสามารถนำโครงสร้างองค์ความรู้ใช้ได้จริงหรือไม่
"ในอนาคตเราหวังว่ากระบวนการนี้จะแข็ง แล้วไม่ทำให้คนอหังการ สิ่งที่ฉันรู้ยังไม่พอ อ่านหนังสือมาหมด ยังไม่พอ เพื่อนค้นอินเทอร์เน็ตได้มากกว่า เข้าใจมากกว่า เพื่อนไปถามครู มาเล่า ถามพ่อแม่มาเล่า หรือฉันได้ลองทำเอง มันได้ผลแบบนี้"
ที่โรงเรีนลำปลายมาศพัฒนายังไม่มีเสียงนักเรียนท่องสูตรคูณแม่ต่างๆ เหมือนหลายโรงเรียนที่ถูกบังคับให้ท่องก่อนเลิกเรียน
ครูวิเชียรเล่าอย่างขบขันว่า หลักสูตรคณิตศาสตร์ในประเทศไทยตลกมากเรื่องจำนวน และตัวเลข นักเรียนประถม 1 และ 2. ห้ามบวกลบเกิน 100 นักเรียนประถม 3 และ ห้ามบวกลบเกิน 1,000 สำหรับโรงเรียนนอกกะลา ไม่ว่า ป.1 หรือ ป2. ครูจะทำตัวเลขให้น้อย แต่มุ่งให้นักเรียนเข้าใจ
"ถ้าเราเข้าใจกระบวนการของการนับเพิ่มหรือ การคูณ โดยไม่ต้องท่อง ถ้าเราเข้าใจมันเราสามารถสร้างแม่สูตรคูณได้โดยไม่ต้องท่อง แม่ไหนก็ได้ แต่ถ้าท่อง สมองควรจำส่วนที่มีค่า เวลาเราสอนเนื้อหาอะไรก็ตาม เราเน้นความเข้าใจ สุดท้ายแล้วความเข้าใจจะนำไปสู่การเห็นความสัมพันธ์ พอเห็นความสัมพันธ์ถึงจะรู้ว่า ผมกินองุ่น องุ่นกลายเป็นผม ถ้าเข้าใจจะเห็นความสัมพันธ์ พอเห็นความสัมพันธ์ก็จะเห็นคุณค่าของมัน พอเห็นคุณค่าของมัน จะพอใจที่มันเป็น พอใจแล้วก็จะยินดี"
โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา ซึ่งดูแลบริหารงานโดย 2 มูลนิธิได้แก่ มูลนิธิ เจมส์ คลาร์ก และมูลนิธิลำปลายมาศพัฒนา ยังได้เปิดสอนระดับมัธยมต้นเป็นปีแรก หลังจากเปิดสอนเฉพาะระดับประถมมา 9 ปี เหตุผลที่ครูวิเชียร เพิ่มระดับชั้นมาจากเขามองเห็นปรากฏการณ์บางอย่างที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ทั่วประเทศ
"มัธยมทั่วประเทศเหมือนกันคือ ทิ้งเด็กบางกลุ่ม ใครที่อ่อนใครพฤติกรรมไม่ดี ถูกทิ้ง โดยไม่เข้าใจพฤติกรรมเขา เพราะเราเอาเกณฑ์เราไปวัด ฮอร์โมนแบบนั้นเราไม่ได้หลั่งแล้ว เราควบคุมตัวเองได้แล้ว เราคิดว่าเขาควบคุมตัวเองได้เหมือนเรา ใครที่เรียนไม่เก่ง ใครที่พฤติกรรมไม่ดีก็ทิ้ง ครึ่งหนึ่งของประเทศไทยเป็นแบบนั้น เด็กติด ศูนย์ ติด "ร" มากที่สุดถูกละทิ้ง"
ครูวิเชียรมองไปที่อาคารเรียนระดับมัธยมซึ่งปลูกเป็นเรือนไม้สองชั้นที่ได้ไม้มาจากวัดที่รื้อทิ้ง ก่อนหันมาบอกว่า
"ผมจะทำให้ดูว่า มัธยมที่ไม่ทิ้งใครเลยเป็นอย่างไร"
|
iss u.Don"t be sure that the world is wide until you check it out by your self.
|
|
|
Leam
|
|
« ตอบ #743 เมื่อ: 22 กรกฎาคม 2554, 22:27:57 » |
|
ยาวจัง....
แต่อ่านแล้วคุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปแน่นอน..... Confirm!!!
|
|
|
|
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
ออฟไลน์
รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562
|
|
« ตอบ #744 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2554, 18:45:56 » |
|
เด็กๆหลายคน คงจะอิจฉาเด็ก โรงเรียนนี้
|
|
|
|
|
Leam
|
|
« ตอบ #746 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2554, 21:55:58 » |
|
ขอบคุณพี่รุ่งและพี่ตุ๊มากครับ....
|
|
|
|
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์
กระทู้: 9,865
|
|
« ตอบ #747 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2554, 22:04:06 » |
|
หายไปนาน กลับมาพร้อมของดีๆเลยนะ เพื่อนรุ่ง
|
iss u.Don"t be sure that the world is wide until you check it out by your self.
|
|
|
มีนา
Hero Cmadong Member
ออฟไลน์
รุ่น: rcu2515
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 1,865
|
|
« ตอบ #748 เมื่อ: 23 กรกฎาคม 2554, 23:35:29 » |
|
.....สวัสดีสมาชิกทุกท่าน มาอ่านทุกเรื่องดีหมดเลย มีเวลาแต่ยังใช้แบบตามใจฉัน ไม่ค่อยได้สัดส่วน อยู่ระหว่างปรับปรุง ไปเข้าโครงการปรับพฤติกรรมการใช้วิถีชีวิต เรียนรู้เรื่องการกินอาหารที่เป็นประโยชน์ และการออกกำลังกาย พุงคงลด บอกวิทยากรว่าอยากเพิ่มน้ำหนัก คำตอบคือไม่ต้องเพิ่มแล้ว
|
|
|
|
Pete15
|
|
« ตอบ #749 เมื่อ: 24 กรกฎาคม 2554, 02:38:52 » |
|
สวัสดี ครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ยามดึก ผู้ที่แบ่งเวลาได้ไม่ค่อย จะลงตัว ก็เลย มานั้งจิ้ม อยู่หน้า Keyboard ดีกว่า ขอบคุณแดงที่มีของดีมาฝาก รับไว้ปฏิบัติ.......
|
|
|
|
|