01 พฤศจิกายน 2567, 06:05:21
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน [สมาชิกเก่าลืมรหัส โทร 081-7611760]
A A A A  ระเบียบปฎิบัติ
   
Languages    
  หน้า: [1] 2  ทั้งหมด   ลงล่าง
ผู้เขียน หัวข้อ: ขอเชิญร่วมแสดงความยินดี คุณประภาส บุญยินดี  (อ่าน 25957 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
songkeat2515
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 250

« เมื่อ: 07 ธันวาคม 2554, 09:26:19 »

ขอเชิญร่วมแสดงความยินดี คุณประภาส บุญยินดี อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย
ในวันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม 2554 เวลา 9.30 น. ณ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ
อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ชั้น 5 ถนนแจ้งวัฒนะ หลักสี่ กทม.10210
โทรศัพท์ : 02-141-6047
โทรศัพท์ หน้าห้องคุณประภาส : 02-141-6019
      บันทึกการเข้า

Engineer 15
มีนา
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2515
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 1,865

« ตอบ #1 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2554, 10:14:49 »


.....ร่วมแสดงความยินดีกับท่านอธิบดีประภาส... ค่ะ
.....อรโทรบอกเมื่อวานติดรายการซ่อมบ้าน ช่างเดินเข้า-ออกบ้าน
ไม่สะดวกไปแสดงความยินดีด้วยตัวเอง
.....มีโอกาสรอกลุ่มสิงห์ดำอีกครั้ง
      บันทึกการเข้า
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2554, 10:27:10 »

...พี่ตู่ก็ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะในฐานะที่รู้จักกับท่านอธิบดีตั้งแต่เป็นน้องใหม่คณะและน้องใหม่หอค่ะ...

...อยู่ๆก็ไม่ได้รู้จักกันเองหรอกค่ะ...แต่มีพี่ปี่ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของท่านพาท่านมารู้จักตอนท่านเข้าปี 1 ใหม่ๆ...

...พี่ปี่เป็นรุ่นพี่ค่ายคณะรัฐศาสตร์ปี 3...ตอนพี่ตู่ไปค่ายคณะปี 1 ค่ะ...

...และแฟนพี่ปี่ยังเป็นแพทย์รุ่นน้องหมอประสิทธิ์ปีนึงค่ะ...
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
songkeat2515
Full Member
**


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 250

« ตอบ #3 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2554, 17:13:35 »

  หลั่นล้า ขอเลื่อนวันและเวลา เข้าพบท่านอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน
เป็นวันพุธที่ 14 ธันวาคม 2554 เวลา 13.45 น.
      บันทึกการเข้า

Engineer 15
ทราย 16
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,838

« ตอบ #4 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2554, 17:17:04 »

ยินดีด้วยค่ะ
อยากเห็นหน้าตาอธิบดี ผ่านรูปถ่าย พี่ๆจะมีแบ่งปันให้ชมมั๊ยค่ะ
ทราย 16
 หลั่นล้า หลั่นล้า
      บันทึกการเข้า
เหยง 16
Cmadong อภิมหาอมตะเซียน
******


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2516
คณะ: เภสัชศาสตร์ 2516
กระทู้: 23,533

« ตอบ #5 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2554, 18:52:02 »

ขอแสดงความยินดีกับพี่ด้วยครับ
      บันทึกการเข้า
มีนา
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2515
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 1,865

« ตอบ #6 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2554, 21:15:48 »

อ้างถึง
ข้อความของ songkeat2515 เมื่อ 07 ธันวาคม 2554, 17:13:35
  หลั่นล้า ขอเลื่อนวันและเวลา เข้าพบท่านอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน
เป็นวันพุธที่ 14 ธันวาคม 2554 เวลา 13.45 น.

วันนี้เจอเพื่อนสิงห์ดำเล่าให้เค้าฟังว่าชาวหอจะไปแสดงความยินดี
กับท่านอธิบดี  เพื่อนถามกลับว่าติดต่อท่านเรียบร้อยแล้วรึ จะว่างเหรอ?
มาเจอเมาบอกเลื่อนพอดี
      บันทึกการเข้า
Soponเท่านั้น
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,405

« ตอบ #7 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2554, 08:56:30 »

อ้างถึง
ข้อความของ Jintana Yhoung-aree เมื่อ 07 ธันวาคม 2554, 17:17:04
ยินดีด้วยค่ะ
อยากเห็นหน้าตาอธิบดี ผ่านรูปถ่าย พี่ๆจะมีแบ่งปันให้ชมมั๊ยค่ะ
ทราย 16
 หลั่นล้า หลั่นล้า



นี่เลยครับ
รูปอื่นจะลองหาดูตอนชาวหอไปเยี่ยมครั้งเป็นผู้ว่าฯที่สิงห์บุรีครับ
      บันทึกการเข้า
ทราย 16
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,838

« ตอบ #8 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2554, 08:59:42 »

อ้างถึง
ข้อความของ Soponเท่านั้น เมื่อ 09 ธันวาคม 2554, 08:56:30
อ้างถึง
ข้อความของ Jintana Yhoung-aree เมื่อ 07 ธันวาคม 2554, 17:17:04
ยินดีด้วยค่ะ
อยากเห็นหน้าตาอธิบดี ผ่านรูปถ่าย พี่ๆจะมีแบ่งปันให้ชมมั๊ยค่ะ
ทราย 16
 หลั่นล้า หลั่นล้า

นี่เลยครับ
รูปอื่นจะลองหาดูตอนชาวหอไปเยี่ยมครั้งเป็นผู้ว่าฯที่สิงห์บุรีครับ
ขอบคุณค่ะ
      บันทึกการเข้า
เอมอร 2515
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu 2515
คณะ: รัฐศาสตร์(นิติศาสตร์)
กระทู้: 4,562

« ตอบ #9 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2554, 09:01:46 »

ขอแสดงความยินดี ด้วยค่ะ
      บันทึกการเข้า
roong15
Full Member
**


Peaceful and Useful Life
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 514

« ตอบ #10 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2554, 09:53:02 »


ขอแสดงความยินดี ด้วยครับ


 sing หลั่นล้า sing

      บันทึกการเข้า

Peaceful and Useful Life
มีนา
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2515
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 1,865

« ตอบ #11 เมื่อ: 10 ธันวาคม 2554, 12:42:06 »

อ้างถึง
ข้อความของ Jintana Yhoung-aree เมื่อ 07 ธันวาคม 2554, 17:17:04
ยินดีด้วยค่ะ
อยากเห็นหน้าตาอธิบดี ผ่านรูปถ่าย พี่ๆจะมีแบ่งปันให้ชมมั๊ยค่ะ
ทราย 16
 หลั่นล้า หลั่นล้า
มีรูปอธิบดีตอนเป็นผู้ว่าฯสิงห์บุรีและภริยาค่ะ



อธิบดีคนใส่หมวก ภริยาเสื้อยืดขาวอยู่ด้านขวามืออธิบดี

อีกรูป



รูปนี้อธิบดียังใส่หมวกไม่มีแว่น  ยืนติดกับพิษณุ  นิลกลัด  ใส่หมวกและแว่น
ด้านหลังระยะไกลเห็นสาวเสื้อลายคือผู้ว่าฯตราด (ขณะนั้นเป็นรองผู้ว่าฯอ่างทอง)
      บันทึกการเข้า
ทราย 16
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,838

« ตอบ #12 เมื่อ: 10 ธันวาคม 2554, 13:26:11 »

อ้างถึง
ข้อความของ มีนา เมื่อ 10 ธันวาคม 2554, 12:42:06
อ้างถึง
ข้อความของ Jintana Yhoung-aree เมื่อ 07 ธันวาคม 2554, 17:17:04
ยินดีด้วยค่ะ
อยากเห็นหน้าตาอธิบดี ผ่านรูปถ่าย พี่ๆจะมีแบ่งปันให้ชมมั๊ยค่ะ
ทราย 16
 หลั่นล้า หลั่นล้า
มีรูปอธิบดีตอนเป็นผู้ว่าฯสิงห์บุรีและภริยาค่ะ

อธิบดีคนใส่หมวก ภริยาเสื้อยืดขาวอยู่ด้านขวามืออธิบดี
อีกรูป

รูปนี้อธิบดียังใส่หมวกไม่มีแว่น  ยืนติดกับพิษณุ  นิลกลัด  ใส่หมวกและแว่น
ด้านหลังระยะไกลเห็นสาวเสื้อลายคือผู้ว่าฯตราด (ขณะนั้นเป็นรองผู้ว่าฯอ่างทอง)
ขอบคุณพี่มีนาที่เอารูปมาให้ชมค่ะ
สังเกตได้ว่าภรรยาผู้ว่าฯสวยทุกคนเลยน่ะคะ
      บันทึกการเข้า
มีนา
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2515
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 1,865

« ตอบ #13 เมื่อ: 13 ธันวาคม 2554, 11:34:46 »

อ้างถึง
ข้อความของ Jintana Yhoung-aree เมื่อ 10 ธันวาคม 2554, 13:26:11
อ้างถึง
ข้อความของ มีนา เมื่อ 10 ธันวาคม 2554, 12:42:06
อ้างถึง
ข้อความของ Jintana Yhoung-aree เมื่อ 07 ธันวาคม 2554, 17:17:04
ยินดีด้วยค่ะ
อยากเห็นหน้าตาอธิบดี ผ่านรูปถ่าย พี่ๆจะมีแบ่งปันให้ชมมั๊ยค่ะ
ทราย 16
 หลั่นล้า หลั่นล้า
มีรูปอธิบดีตอนเป็นผู้ว่าฯสิงห์บุรีและภริยาค่ะ

อธิบดีคนใส่หมวก ภริยาเสื้อยืดขาวอยู่ด้านขวามืออธิบดี
อีกรูป

รูปนี้อธิบดียังใส่หมวกไม่มีแว่น  ยืนติดกับพิษณุ  นิลกลัด  ใส่หมวกและแว่น
ด้านหลังระยะไกลเห็นสาวเสื้อลายคือผู้ว่าฯตราด (ขณะนั้นเป็นรองผู้ว่าฯอ่างทอง)
ขอบคุณพี่มีนาที่เอารูปมาให้ชมค่ะ
สังเกตได้ว่าภรรยาผู้ว่าฯสวยทุกคนเลยน่ะคะ


ใช่เลย..เป็นอย่าง ดร.ทราย บอก คงเพราะราศี/รัศมีคุณนายจับน่ะ
เคยฟังเพลงสุเทพ  ประยูรพิทักษ์ เนื้อหาว่าผู้หญิงสวยทุกคนแม้ตาเข
แล้วแต่มุมมองความชอบของใคร  เอ! ใช่ป่าว น่าใช่ จำชื่อเพลงไม่ได้แหล่ว
      บันทึกการเข้า
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #14 เมื่อ: 13 ธันวาคม 2554, 12:50:41 »

แปลกนะคนเรา เพื่อนฝูงพี่น้องกัน ทำไมต้องไปเรียกมันว่า ท่าน ให้มันสดุดรูหู
ก็เรียกมันว่า ไอ้หมู จะได้ ไกล้ชิด หนิดหนม

ยศฐาบรรดาศักดิ์มันของแปลกปลอม
ถ้าบอกว่า ไปแสดงความยินดีกับ ไอ้หมู ก็จะไป
แต่ถ้าเรียกว่า ไปพบท่านอธิบดี ก็ไม่ไป

งงงงงจิ๊งๆชาวหอนี่
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
มีนา
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2515
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 1,865

« ตอบ #15 เมื่อ: 13 ธันวาคม 2554, 13:34:33 »


ไม่ได้ไปที่กรมฯ รอเจอนอกกรม
ไม่  งง งง  sing
      บันทึกการเข้า
Soponเท่านั้น
Hero Cmadong Member
***


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,405

« ตอบ #16 เมื่อ: 14 ธันวาคม 2554, 22:22:33 »

อ้างถึง
ข้อความของ seree_60 เมื่อ 13 ธันวาคม 2554, 12:50:41
แปลกนะคนเรา เพื่อนฝูงพี่น้องกัน ทำไมต้องไปเรียกมันว่า ท่าน ให้มันสดุดรูหู
ก็เรียกมันว่า ไอ้หมู จะได้ ไกล้ชิด หนิดหนม

ยศฐาบรรดาศักดิ์มันของแปลกปลอม
ถ้าบอกว่า ไปแสดงความยินดีกับ ไอ้หมู ก็จะไป
แต่ถ้าเรียกว่า ไปพบท่านอธิบดี ก็ไม่ไป

งงงงงจิ๊งๆชาวหอนี่
อย่าขวางโลก เพื่อน
เราต้องให้เกียรติเพื่อนหน่อยตามมารยาทสังคม โดยเฉพาะข้าราชการฝ่ายปกครองระดับสูง ต่อหน้าสาธารณชนและในเว็บซึ่งเป็นที่สาธารณะ
เวลาคุยกันในกลุ่มค่อยเรียกอย่างที่เราอยากเรียก แต่ถ้าเพื่อนมีฟอร์มมากก็ไม่ต้องสนใจ เราไม่ต้องไปพึ่งพาหรือไปขอเขากิน
      บันทึกการเข้า
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #17 เมื่อ: 14 ธันวาคม 2554, 22:37:03 »

อ้างถึง
ข้อความของ Soponเท่านั้น เมื่อ 14 ธันวาคม 2554, 22:22:33
อ้างถึง
ข้อความของ seree_60 เมื่อ 13 ธันวาคม 2554, 12:50:41
แปลกนะคนเรา เพื่อนฝูงพี่น้องกัน ทำไมต้องไปเรียกมันว่า ท่าน ให้มันสดุดรูหู
ก็เรียกมันว่า ไอ้หมู จะได้ ไกล้ชิด หนิดหนม

ยศฐาบรรดาศักดิ์มันของแปลกปลอม
ถ้าบอกว่า ไปแสดงความยินดีกับ ไอ้หมู ก็จะไป
แต่ถ้าเรียกว่า ไปพบท่านอธิบดี ก็ไม่ไป

งงงงงจิ๊งๆชาวหอนี่
อย่าขวางโลก เพื่อน
เราต้องให้เกียรติเพื่อนหน่อยตามมารยาทสังคม โดยเฉพาะข้าราชการฝ่ายปกครองระดับสูง ต่อหน้าสาธารณชนและในเว็บซึ่งเป็นที่สาธารณะ
เวลาคุยกันในกลุ่มค่อยเรียกอย่างที่เราอยากเรียก แต่ถ้าเพื่อนมีฟอร์มมากก็ไม่ต้องสนใจ เราไม่ต้องไปพึ่งพาหรือไปขอเขากิน
โถ..ไอ้ที่ได้ดิบได้ดี มันก็เกาะขานักการเมืองทั้งนั้นแหละ
ยิ่งระบบราชการ คนดีไม่มีเส้น จะมีปัญญา คว้าตำแหน่งใหญ่ได้หรือ
เพื่อนกู อยากได้ตำแหน่ง ไอ้นักการเมืองมันบอกต้องใช้เงินถึงจะได้ มันเลยเซ่อไปเลย

จริงๆแล้วมันเกินไป รุ่นพี่ต้องมาเรียกรุ่นน้องที่มีตำแหน่งว่าท่าน มันเกินไป
เรียกชื่อเฉยๆก็พอแล้ว..มันให้เกียรติเกินไปหรือเปล่า?
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
suriya2513
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,457

« ตอบ #18 เมื่อ: 14 ธันวาคม 2554, 22:38:24 »

อ้างถึง
ข้อความของ Soponเท่านั้น เมื่อ 14 ธันวาคม 2554, 22:22:33
อ้างถึง
ข้อความของ seree_60 เมื่อ 13 ธันวาคม 2554, 12:50:41
แปลกนะคนเรา เพื่อนฝูงพี่น้องกัน ทำไมต้องไปเรียกมันว่า ท่าน ให้มันสดุดรูหู
ก็เรียกมันว่า ไอ้หมู จะได้ ไกล้ชิด หนิดหนม

ยศฐาบรรดาศักดิ์มันของแปลกปลอม
ถ้าบอกว่า ไปแสดงความยินดีกับ ไอ้หมู ก็จะไป
แต่ถ้าเรียกว่า ไปพบท่านอธิบดี ก็ไม่ไป

งงงงงจิ๊งๆชาวหอนี่
อย่าขวางโลก เพื่อน
เราต้องให้เกียรติเพื่อนหน่อยตามมารยาทสังคม โดยเฉพาะข้าราชการฝ่ายปกครองระดับสูง ต่อหน้าสาธารณชนและในเว็บซึ่งเป็นที่สาธารณะ
เวลาคุยกันในกลุ่มค่อยเรียกอย่างที่เราอยากเรียก แต่ถ้าเพื่อนมีฟอร์มมากก็ไม่ต้องสนใจ เราไม่ต้องไปพึ่งพาหรือไปขอเขากิน
รัก เปี๊ยก โสภณ ขึ้นมากมายเลย (เดิมก็รักน้องมากอยู่แล้ว)
เพราะน้องเข้าใจโลก และสัจธรรมของโลก ได้ตามสมควรแล้ว
      บันทึกการเข้า

[โบราณคดี]จุดกำเนิดเริ่มต้นของ cmadong.com by : มานพ กลับดี  คลิ๊ก->
pusadee sitthiphong
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

คณะ: พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
กระทู้: 4,689

« ตอบ #19 เมื่อ: 14 ธันวาคม 2554, 22:58:01 »

ยังไม่มีรูปให้ดูหรือคะ ขอแสดงความยินดีกับพี่ประภาสด้วยค่ะ
      บันทึกการเข้า

pom shi 2516
too_ploenpit
Cmadong ชั้นเซียน
*****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

รุ่น: rcu2514
คณะ: รัฐศาสตร์
กระทู้: 7,778

เว็บไซต์
« ตอบ #20 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2554, 09:29:38 »

อ้างถึง
ข้อความของ seree_60 เมื่อ 13 ธันวาคม 2554, 12:50:41
แปลกนะคนเรา เพื่อนฝูงพี่น้องกัน ทำไมต้องไปเรียกมันว่า ท่าน ให้มันสดุดรูหู
ก็เรียกมันว่า ไอ้หมู จะได้ ไกล้ชิด หนิดหนม

ยศฐาบรรดาศักดิ์มันของแปลกปลอม
ถ้าบอกว่า ไปแสดงความยินดีกับ ไอ้หมู ก็จะไป
แต่ถ้าเรียกว่า ไปพบท่านอธิบดี ก็ไม่ไป

งงงงงจิ๊งๆชาวหอนี่

...น้องตะวันคะ...เพื่อนบางคนที่ได้ดิบได้ดีเค้าก็คงไม่อยากให้เราเรียกว่า...ท่าน...เท่าไหร่หรอก...

...เพราะพี่ตู่เคยเรียกเพื่อนหรือรุ่นน้องหลายคนว่า...ท่าน...บางทีเค้าก็ชะงักเหมือนกันค่ะ...

...เค้าก็คงเหมือนเราที่คุ้นเคยกับความสัมพันธุ์เดิมๆที่เคยมีให้กัน...

...แต่ก่อนนี้พี่ตู่ก็เคยคิดแบบตะวัน...แต่ตอนหลังๆถึงได้เข้าใจ...

...ว่าคนเรามีบุญวาสนาไม่เท่ากัน...ทำไมเราถึงมีฐานะธรรมดาๆ...

...แต่เพื่อนหรือรุ่นน้องได้เป็นถึง...ผู้ว่า...หรือระดับอธิบดี...

...อย่าเพิ่งไปคิดว่าเค้าต้องเลียนักการเมืองทุกคนค่ะ...

...บางคนเค้าก็ไต่เต้ามาด้วยความสามารถก็มี...ถ้าต้องอาศัยเลียตลอด...ตำแหน่งคงไม่ยั่งยืนค่ะ...

...และกว่าเค้าจะเป็นถึงระดับนี้...อายุก็ใกล้เกษียนแล้ว...

...ต้องชมเค้ามากกว่าว่าเป็นคนเก่งค่ะ...ได้ดิบได้ดีถึงขนาดนี้ไม่ใช่ใครจะทำได้ง่ายๆ...

...และที่เราต้องยกมือไหว้เพื่อนหรือรุ่นน้องก็ถือว่าเป็นการทักทายธรรมดาๆตามสังคมทั่วไปที่เค้าทำกันค่ะ...

...อย่างเวลาเจอท่านตามที่สาธารณะ...ประชาชนทั่วไปเค้ายกมือสวัสดี...

...แล้วเราจะไปตบหลังทักทายท่านเหรอคะ...เท่ากับทำตัวตีเสมอไม่รู้จักที่ตำที่สูง...หรือไม่ให้เกียรติท่านค่ะ...
      บันทึกการเข้า

i love pink, you are pink = i love you
ดร.มนตรี
Cmadong พันธุ์แท้
****


ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,540

« ตอบ #21 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2554, 10:57:48 »

ขอแสดงความยินดีด้วยครับ ...


แนวคิดและทัศนคติ ของท่าน เป็นแบบอย่างที่น่าศึกษาสำหรับรุ่นน้องๆ ...
   รักนะ

---------------------------------------------


คอลัมน์ “เปิดจวนชวนคุย”
SODA

สิงห์บุรี : ครัวของประเทศและครัวของโลก
 
    ความเชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ถือเป็นที่พึ่งทางใจของชาวไทยมานาน บางคนใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ การแก้ไขปัญหาบางอย่าง หรือบางครั้งก็ถูกใช้ให้เป็นกุศโลบายให้เข้าถึงธรรม เพราะหากผู้คนมั่นคงในคำสอนของศาสนาแล้ว ย่อมปฏิบัติดีทั้งกาย วาจา ใจ นอกจากนี้ความเชื่อบางอย่างยังมีความเป็นวิทยาศาสตร์ เป็นกุศโลบายให้คนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีอีกด้วย

   ข้อดีของความเชื่ออีกประการคือการรวมจิตใจของชนชาวไทย และด้วยเหตุนี้กระมังที่ทำให้ท่านประภาส บุญยินดี ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ได้ดำเนินการสร้าง “พระอินทร์” ไว้ที่บริเวณที่เรียกว่า “หัวเมืองอินทร์” เดิม หรือที่อำเภออินทร์บุรีซึ่งดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านไปมาบนเส้นทางกรุงเทพฯ-นครสวรรค์ แวะสักการบูชาเพื่อเป็นสิริมงคลกันไม่ขาดสาย ลำดับต่อไปท่านกำลังดำเนินการสร้าง “พระพรหม” ไว้ที่หัวเมืองพรหม

   “สิงห์บุรีมีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานมาก เป็นหัวเมืองชั้นโท เมืองลูกเธอหลานเธอมาครองเมือง เมื่อโบราณนั้นมีอยู่สามหัวเมืองเท่านั้นเอง คือ หัวเมืองพรหม หัวเมืองอินทร์ และหัวเมืองสิงห์ เพิ่งมารวมเป็นจังหวัดสิงห์บุรีมี ๖ อำเภอในสมัยรัชกาลที่ ๕ นี้เอง หัวเมืองพรหมปีนี้ครบ ๙๐๑ ปี หัวเมืองอินทร์ปีนี้ ๖๘๗ ปี ยาวนานมาก และเจ้าผู้ครองนครอินทร์เคยไปตีกรุงศรีอยุธยาแล้วไปครองกรุงศรีอยุธยาใช้พระนามว่า พระอินทราชาที่ ๑

   ผมมาดูแล้วประวัติความเป็นมายาวนาน ชื่อเป็นสิริมงคล ผมก็เลยสร้างพระอินทร์ใหญ่ที่สุดในโลกไว้ที่อำเภออินทร์บุรี มีเอกชนเขาให้ที่ดิน ๑๐ ไร่ เพราะว่าอินทร์บุรี ถ้าแปลแล้วก็จะได้ความว่า เมืองพระอินทร์อยู่ และตอนนี้ผมกำลังสร้างพระพรหมใหญ่ที่สุดในโลกไว้ที่หัวเมืองพรหม เททองไปแล้วเมื่อวันที่ ๑๘ มีนาคม มีคนมาร่วมงานเททองนับหมื่นคน ตอนนี้กำลังสร้างเทวลัย สูง ๒๔ เมตร ผมไปเรียนหลวงพ่อจรัญว่าจะสร้างพระพรหมตามที่สัญญาไว้กับชาวบ้าน และขออนุญาตท่านทำเหรียญ ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อจรัญ ด้านหลังเป็นพระพรหม และพอดีปีนี้หลวงพ่อจรัญอายุครบ ๘๐ ปีพอดี ผมก็สร้างเหรียญนี้จำหน่ายเพื่อนำเงินมาสร้างพระพรหม ให้หลวงพ่อจรัญปลุกเสกให้”

   ท่านประภาส มารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรีเมื่อขณะที่สิงห์บุรีกำลังทุกข์หนักเพราะน้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปี ๒๕๔๙ เมื่อมาถึงก็ลุยน้ำช่วยเหลือชาวบ้าน และเป็นจังหวัดแรกที่สามารถจ่ายเงินบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน

   “ผมมาวันแรกไม่ได้ประชุมข้าราชการแต่ออกไปหาชาวบ้าน ไปถามความเห็นเขา ไปดูว่าเขาเดือดร้อนอย่างไร มีใครมาช่วยเหลืออะไรบ้างหรือยัง ผมเป็นจังหวัดแรกใน ๔๐ กว่าจังหวัดที่น้ำท่วมเหมือนกัน จ่ายเงินบรรเทาความเดือดให้แก่ชาวบ้านจนกระทรวงมหาดไทยให้เอาไปเป็นตัวอย่าง ผมทำเร็วโดยไม่รอให้น้ำลด น้ำท่วมอยู่ก็สั่งให้เจ้าหน้าที่ออกไปสำรวจความเดือดร้อนของชาวบ้าน พอได้ข้อมูลมาหมดแล้วก็สั่งจ่ายเงิน มีกรรมการจ่ายเงิน ให้ชาวบ้านนับเงินต่อหน้ากรรมการ

   ที่นี่ผมสร้างชื่อเสียงไว้หลายเรื่อง เรื่องแรกก็เรื่องน้ำท่วม เรื่องที่สองเป็นเรื่องยาเสพติด เมื่อก่อนมีศูนย์ต่อสู้เอาชนะยาเสพติดระดับจังหวัดและอำเภอ ผมเรียกประชุมแล้วตั้งศูนย์เอาชนะยาเสพติดระดับหมู่บ้านมีผู้ใหญ่บ้านเป็นประธาน มีเจ้าอาวาสวัดที่สำคัญเป็นประธานที่ปรึกษา ผมตั้งครบทุกหมู่บ้านแล้วก็ของบประมาณจากท้องถิ่นได้มาล้านกว่าบาทเพื่อนำไปสนับสนุนให้กับศูนย์ฯ  ใช้ในการประชุมทุกเดือนเป็นกำลังใจให้กับเขาจะได้เห็นว่าเราไม่ได้ทอดทิ้งเขา ตรงนี้เป็นที่มาที่ ปปส.นำไปทำตั้งศูนย์ต่อสู้เอาชนะยาเสพติดระดับ อบต. เทศบาล เขามาที่สิงห์บุรีแล้วผมก็ชี้แจงโมเดลนี้ไปทางผู้แทน ปปส.ก็นำไปเป็นต้นแบบในระดับตำบล แต่ไม่ได้ลงถึงระดับหมู่บ้าน

   เรื่องที่สามเป็นเรื่องของการเลือกตั้ง สิงห์บุรีมีสถิติการออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ๖๐ กว่าเปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง ผมได้วางแผนใหม่ ให้หัวหน้าส่วนทุกส่วนถือเป็นหน้าที่ในเรื่องนี้ เพราะว่าการปกครองในระบอบประชาธิปไตยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการรู้หน้าที่ของความเป็นพลเมืองดี ต้องวางมาตรฐานตรงนี้ไว้ให้ได้ พอเลือกตั้งเสร็จปรากฏว่าเราได้ที่ ๑ ของภาคกลาง และเป็นที่ ๒ ของประเทศทั้งการเลือกตั้ง ส.ส.และส.ว. ตอนเลือกตั้ง ส.ส.มีคนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งสูงถึง ๘๕.๔๕%  ส.ว.ได้ ๗๗.๗๙% ตรงนี้ทำให้ผมมีความรู้สึกว่าขณะนี้ชาวบ้านเข้าใจแล้ว เพราะว่าผมออกไปชี้แจงเองกับทุกจุดว่าเรื่องนี้เราต้องทำไว้เป็นบรรทัดฐานเพื่อให้ลูกหลานเราได้เข้าใจ ได้รู้บทบาทตัวเองและเลียนแบบในสิ่งที่ดี”

   ท่านผู้ว่าฯ ประภาส อยากให้สิงห์บุรีเป็นครัวของประเทศและครัวของโลก

    “ส่วนใหญ่คนที่นี่ทำนา ๙๐% มีพื้นที่ทำนาเกือบสี่แสนไร่ เพราะว่าเป็นพื้นที่ราบลุ่มอุดมสมบูรณ์ ผมลงไปคุยกับชาวบ้าน เรียกประชุมทุกตำบลตอนนี้ครบหมดทุกตำบลแล้ว ไปนั่งจับเข่าคุยกับชาวบ้าน ปีกว่ามาแล้ว เอาข้าราชการกระทรวงเกษตรทั้งหมดออกไปพร้อมกัน ผมมองดูแล้วจังหวัดสิงห์บุรีต้องพัฒนาการเกษตรให้เป็นครัวของประเทศและเป็นครัวของโลก เกษตรไม่ใช่แค่เพิ่มผลผลิตจะต้องเป็นเกษตรปลอดสารพิษด้วย ขณะนี้ชาวบ้านตื่นตัวมากในเรื่องของการใช้น้ำชีวภาพ และปุ๋ยอินทรีย์ ซึ่งจังหวัดสิงห์บุรีเป็นจังหวัดตัวอย่างขณะนี้กระทรวงเกษตรฯ ส่งคนมาดูว่าทำอย่างไรถึงประสบความสำเร็จในเรื่องนี้ แล้วแหล่งน้ำผมขุดลอกดูแลความสะอาดทั้งหมด ที่นี่มีแหล่งน้ำสำคัญ ๆ อยู่ ๔-๕ แห่ง มีทั้งแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย แม่น้ำลพบุรี และลำแม่ลาการ้อง ซึ่งลำแม่ลาการ้องนี้เองที่สร้างชื่อเสียงให้สิงห์บุรีมาก เพราะว่าเป็นแหล่งผลิตปลาช่อนแม่ลาที่มีชื่อเสียงมาก ที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าที่ลำแม่ลาฯ มีหอยฝาเดียวชนิดหนึ่งซึ่งเป็นอาหารของปลาช่อน และใต้ผืนดินของลำแม่ลาฯ เป็นดินเหนียวชนิดที่ไม่เหมือนที่อื่นคือจะมีสีดำมันก็เข้าใจว่าจะมีแร่ธาตุบางอย่าง ซึ่งปลาช่อนมีนิสัยชอบมุดดินทำให้เนื้อปลาอร่อย เนื้อปลาช่อนลำแม่ลาฯ จะออกเป็นสีชมพู เวลานำมาแผ่เพื่อทำปลาแดดเดียวเนื้อจะหุ้มหนัง แต่ถ้าเป็นปลาช่อนที่อื่นหนังจะหุ้มเนื้อ

   ตอนนี้ผมขุดลอกลำแม่ลาการ้องแล้วก็รณรงค์ให้ชาวนาทำนาโดยไม่ใช้สารเคมี เพราะที่ปลาช่อนลำแม่ลาการ้องลดน้อยลงไปเพราะสารเคมี พอชาวนาปล่อยน้ำทิ้งทำให้สารเคมีลงไปในลำแม่ลาการ้อง ทำให้ปลาช่อนไม่โต และหอยฝาเดียวตาย ลำน้ำสกปรก มีสารพิษตกค้าง ตอนนี้พอชาวนาเริ่มเชื่อเราแล้วสารเคมีก็จะน้อยลงการปล่อยน้ำลงลำแม่ลาการ้องก็จะไม่มีพิษมีภัยอีกต่อไป ผมก็เลยจะพัฒนาเอาปลาช่อนมาปล่อย และจะส่งเสริมการเลี้ยงปลาช่อน ผมเชื่อว่าชาวบ้านที่อยู่บริเวณสองฝั่งของลำแม่ลาการ้องถ้าหากขุดบอเลี้ยงปลาช่อนจะเป็นปลาช่อนที่มีคุณภาพเพราะพื้นใต้คลองจะมีดินลักษณะเดียวกัน”

   ท่านผู้ว่าฯ ประภาสได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของชาวนาจากการ “ทำนาทางโทรศัพท์” มาเป็นการ “ทำนาดำ” และให้ชาวนาลงนากันมากขึ้น

   “ตอนนี้เราเปลี่ยนวิถีตรงนี้หมด เรียกมาทำความเข้าใจกันให้ทำนาพร้อมกันและทำปีละ ๒ ครั้งก็พอ โดยทำนาดำ ใช้ปุ๋ยชีวภาพ ที่ผ่านมาสิงห์บุรีมีผลผลิตต่อไร่ต่ำมาก ประมาณ ๘๐ ถัง/ไร่ เป็นเพราะว่าใช้นาหว่านแล้วไม่ลงนา วัชพืชขึ้นเต็มไปหมด บางคนไม่เคยเห็นนาตัวเองเลยใช้โทรศัพท์โทรสั่งเอา พอจะไถนาก็โทรหารถไถนา หว่านข้าว รถดำนา ฉีดยาก็จ้างเขาฉีด พอถึงเวลาเก็บเกี่ยวก็จ้างรถมาเกี่ยว ปีหนึ่งไม่เคยเห็นนา ผมเรียกทำนาทางโทรศัพท์ แล้วพอถึงเวลาเงินก็ไม่เหลือเป็นหนี้เป็นสิน ตอนนี้ก็พยายามเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่”

   การเปลี่ยนวิถีชีวิตของชาวนาท่านผู้ว่าฯ ไม่ได้พูดลอย ๆ แต่นำมาผูกกับโครงการอยู่ดีมีสุขของจังหวัด คือ ให้ชาวบ้านรวมกลุ่มกันแล้วทำนาโดยไม่เผาตอซังข้าว ไม่ใช้สารเคมี และหากมีประชาคมมาว่ากลุ่มอยากได้เครื่องมือทางการเกษตรอะไรเพื่อช่วยทุ่นแรงในการทำนา ท่านผู้ว่าฯ ก็ให้ทำโครงการขอขึ้นไป เช่น ถังอัดแรงดันน้ำ เครื่องแยกเมล็ดพันธุ์ข้าว เป็นต้น ตอนนี้เครื่องมือเหล่านี้ได้ถูกส่งลงไปช่วยชาวนาเต็มพื้นที่แล้ว

   นอกจากนี้ท่านผู้ว่าฯ ยังดำเนินการปล่อยกุ้งแม่น้ำขนาด ๕ ซม.ลงแม่น้ำลำคลอง เพื่อให้เป็นแหล่งอาหารของชาวบ้าน ซึ่งนอกจากชาวบ้านจะมีกุ้งกินแล้วผลพลอยได้จากการปล่อยกุ้งที่ถือว่าดีเกินคาดนั่นคือ ช่วยลดปัญหาเด็กวัยรุ่นด้วย เพราะการตกกุ้งกลายเป็นกีฬายอดฮิตที่สนุกสนานของวัยรุ่นชาวสิงห์บุรีไปแล้ว แทนที่จะไปเที่ยวเล่นมั่วสุมกัน ตอนนี้วัยรุ่นสิงห์บุรีพากันไปตกกุ้งแม่น้ำของผู้ว่าฯ ได้ทั้งความสนุกและสตางค์อีกด้วย

   “ตอนที่ผมปล่อยกุ้งก็นึกไม่ถึงว่าจะมีผลพลอยได้ที่ดีเป็นอย่างยิ่งคือ พอกุ้งโตแล้ว วัยรุ่นแทนที่จะเอาเวลาไปเที่ยวก็พากันไปซื้อเบ็ดมาตกกุ้งกัน เป็นกีฬาที่สนุกสนานและได้เงินด้วย ผมก็ดีใจเพราะว่าจากการสำรวจและมีนายกฯ อบต.โทรศัพท์มาบอกว่าวัยรุ่นพากันมาตกกุ้งเต็มไปหมด ตอนนี้ทุก อบต.ตื่นตัวเรื่องนี้และเห็นแล้วว่าโครงการนี้ประสบความสำเร็จมาก ซึ่งจริง ๆ โครงการปล่อยกุ้ง ๕ ซม. ผมทำเป็นคนแรกของประเทศไทย ผมทำโครงการแรกทำไว้ที่สมุทรสงคราม ตอนที่เป็นรองผู้ว่าฯ ปล่อยไว้ที่แม่น้ำแม่กลอง เมื่อก่อนที่สมุทรสงครามีเรือตกกุ้งอยู่ ๒๐๐ กว่าลำ ผมเรียกมาถามเขาบอกว่าบางวันตกไม่ได้เลย กุ้งแม่น้ำก็มีน้อย ผมก็เลยทำโครงการนี้ขึ้นมา คุยกับผู้ว่าฯ ขอเงินมาปล่อยกุ้ง ปล่อยไป ๘ ล้านตัว ที่แม่น้ำแม่กลอง ขณะนี้มีเรือตกกุ้งอยู่ประมาณ ๑,๕๐๐ กว่าลำ ผมถามกับเจ้าของเรือเขาก็บอกว่าวันไหนที่ไม่ค่อยได้เลยก็จะได้ประมาณ ๔๐๐ บาท ใน ๑,๕๐๐ ลำทุกลำมีรายได้ทุกวัน หลังจากนั้นมาทางจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี มาขอโครงการผมไปทำ ผมคิดว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีผมก็เลยนำมาทำที่สิงห์บุรี เดี๋ยวนี้กุ้งเต็มไปหมด ผมว่าเรื่องพวกนี้ต้องทำ ถ้าไม่ทำคนไทยอยู่ไม่ได้ เพราะเรามีความสามารถเรื่องการเกษตรกับการประมง”

   ท่านผู้ว่าฯ ประภาสบอกว่าสิงห์บุรีควรเป็นจังหวัดสำหรับทำการเกษตรไม่ควรมีโรงงานมาตั้ง

   “ผมไม่สนับสนุนโรงงานอุตสาหกรรม ที่มีอยู่แล้วก็ให้การดูแลแต่ถ้าจะมาตั้งใหม่ผมจะไม่สนับสนุนให้มาตั้ง และในระดับภาพรวมของประเทศควรจะกำหนดโซนทำ ไม่ใช่โซนในจังหวัดแต่เป็นโซนประเทศเพราะบางจังหวัดไม่ควรตั้งโรงงานอุตสาหกรรมเช่นจังหวัดที่เป็นที่ลาบลุ่มเหมาะแก่การเพาะปลูกอย่าไปทำโรงงานอุตสาหกรรมเลย ควรจะไปทำในจังหวัดที่แห้งแล้งพัฒนาอะไรไม่ได้เอาโรงงานไปตั้งดีกว่าเพราะเสียดายพื้นที่ ผมพูดเรื่องนี้มานานว่า เมืองไทยอนาคตจะดีมากถ้าเก็บผืนแผ่นดินไว้ นับวันพลเมืองของโลกก็เพิ่มมากขึ้น อีกไม่กี่ปีโลกนี้ก็จะมีเจ็ดพันล้านคน เมืองไทย ๗๐ ล้านคน นับวันคนเพิ่มมากขึ้นแต่ผืนแผ่นดินกลับน้อยลง ธารน้ำแข็งที่ขั้วโลกละลายเร็วขึ้นก็มาท่วมผืนแผ่นดิน ฉะนั้นที่ดินที่มีอยู่จะต้องสร้างศักยภาพให้ได้ เพราะว่าทุกคนต้องกิน ผมพูดกับชาวบ้านเสมอให้เก็บผืนแผ่นดินไว้ให้ลูกหลานให้ได้แล้วต่อไปลูกหลานก็จะรวยเอง มีทรัพย์ในดินสินในน้ำกินได้ทั้งปี เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องดูแลและผมคิดว่าประเทศเราต้องมาดูเรื่องนี้ เรื่องเกษตร เรื่องน้ำ แล้วรักษาผืนแผ่นดินแห่งนี้ไว้”

    สุดท้ายท่านฝากข้อคิดไว้ให้ข้าราชการฝ่ายปกครองอย่างน่าคิดว่า 

   “ผมอยากจะฝากข้าราชการฝ่ายปกครองว่าท่านทำงานหนักในวันนี้เท่ากับท่านได้สร้างคุณประโยชน์ไว้ให้กับกระทรวงมหาดไทยมหาศาล สร้างบุญใหม่เพื่อให้เด็กรุ่นใหม่ได้ใช้บ้าง ผมบอกกับพวกเรามาตลอดว่าขณะนี้พวกเรากินบุญเก่าที่สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ท่านสร้างไว้  เรากินจนกระทั่งบุญนั้นจะหมดอยู่แล้ว ผมฝากไว้ว่าพวกเราต้องสร้างบุญกันใหม่ เพื่อให้เด็กรุ่นหลัง ๆ ไว้ได้ใช้บ้าง ลงไปในพื้นที่ ลงไปหาชาวบ้าน ผมว่าตรงนี้เป็นสิ่งที่ต้องทำ”   

      บันทึกการเข้า
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #22 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2554, 21:02:39 »

คนไทยคนแรกที่...............555555 ขำว่ะ.....คนไทยคนแรก...55555555  ขำว่ะ เหอๆๆ เหอๆๆ เหอๆๆ เหอๆๆ เหอๆๆ เหอๆๆ เหอๆๆ เหอๆๆ เหอๆๆ เหอๆๆ เหอๆๆ เหอๆๆ เหอๆๆ เหอๆๆ เหอๆๆ เหอๆๆ เหอๆๆ
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #23 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2554, 21:23:39 »

เรื่องที่ชาวจุฬาควรใส่ใจ
สถานทูตมะกันวอนชาวเฟซฯ หยุดข่มขู่-หยาบคาย หลังโดนถล่มหนักแส่ ม.112
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    

      
เฟซบุ๊กสถานทูตอเมริกันประจำประเทศไทย ขึ้นข้อความพร้อมรับความเห็นต่าง แต่วอนอย่าใช้คำหยาบคายรุนแรงข่มขู่ หลังโดนคนไทยถล่มหนัก กรณีโฆษก กต.สหรัฐฯ และเอกอัครราชทูตฯ ประจำประเทศไทย แสดงความเห็นแทรกแซงการดำเนินคดีหมิ่นเบื้องสูง ตาม ม.112
       
       วันนี้ (15 ธ.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. เฟซบุ๊ก US Embassy Bangkok ของสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้ขึ้นข้อความเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ใจความว่า “เรียนเพื่อนๆ ชาวเฟซบุ๊ก เรายินดีรับมุมมองและความคิดเห็นที่หลากหลายบนหน้าเฟซบุ๊กต่างๆ ของเรา เพียงแต่อยากขอให้เพื่อนๆ ทำความเข้าใจกับเงื่อนไขในการให้บริการเฟซบุ๊กของเรา และโปรดงดเว้นการใช้ภาษาที่หยาบคาย รุนแรง หรือข่มขู่”
       
       ก่อนหน้านี้ ในหน้าเฟซบุ๊กสถานทูตสหรัฐอเมริกาดังกล่าว มีสมาชิกเฟซบุ๊กจำนวนหนึ่งเข้าไปแสดงความไม่เห็นด้วย ต่อกรณีที่ นายเดอรราจ์ พาราดิโซ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศฝ่ายเอเชียตะวันออกของสหรัฐอเมริกา แสดงความวิตกกังวลต่อการบังคับใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มาตรา 112 และกระบวนการยุติธรรมของไทย และการแสดงความเห็นผ่านทวิตเตอร์ของ นางคริสตี้ เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กรณีการตัดสินคดีของ นายโจ กอร์ดอน ว่า มีความกังวลต่อการตัดสินที่ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานสากลในเรื่องสิทธิเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น
       
       ทั้งนี้ สมาชิกเฟซบุ๊กส่วนใหญ่ที่เข้ามาโพสต์ได้แสดงความคิดเห็นทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ในเชิงชี้ให้เห็นความแตกต่างระหว่างระบอบการปกครองของไทยและสหรัฐฯ และแสดงความไม่พอใจที่สหรัฐอเมริกาเข้ามาก้าวก่ายกิจการภายในของประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา อาทิ “อเมริกา คุณคิดว่าคุณเป็นผู้จัดการของโลกนี้หรืออย่างไร คุณเที่ยวไปแทรกแซงกิจการของประเทศโน้นประเทศนี้ มันกงการอะไรของคุณ ประเทศคุณไม่มีวัฒนธรรมเก่าแก่ และดีงามเหมือนประเทศไทย เพราะประเทศคุณไม่เคยมีพระมหากษัตริย์ ประเทศไทยไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของใคร ก็เพราะเรามีพระมหากษัตริย์ เรามีภาษาพูดภาษาเขียนเป็นของเราเอง เพราะพระมหากษัตริย์ ประเทศคุณเสียอีก ชื่อประเทศอเมริกา แต่ใช้ภาษาของประเทศอังกฤษ คุณแทรกแซงเรื่องอื่นเราทนได้ แต่อย่ามาแทรกแซงเรื่องเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ของเรา”
       
       บางข้อความระบุว่า “คราวที่ นางยิ่งลักษณ์ มีหวังได้เป็นนายกฯ ยังไม่ทันได้แต่งตั้ง นางคริสตี้ก็รีบออกมาเชียร์สุดๆ แต่ตอนที่นางยิ่งลักษณ์บริหารงานน้ำท่วมแบบเลวทราม เดือดร้อนไปทั่ว นางคริสตี้ เงียบ พอประเทศเกาหลีเขียนแปลนสร้างตึกแฝด คล้ายตึกเวิลด์เทรดถูกชนก็โวยวาย หาว่าทำร้ายจิตใจ ทีเรื่องของตนเองรับไม่ได้ แล้วมา***อะไรกับความรู้สึก และกฎหมายของประเทศอื่น ลองนับดูว่า จริงๆ แล้วใครบ้างในโลกนี้ที่ไม่เกลียด U.S.A.ที่เขาเหล่านั้นยังคงคบค้าสมาคม เพราะไปแสดงอำนาจบาตรใหญ่ข่มขู่ ไม่ต้องสงสัยเลยที่เหตุใดจึงมักเกิดเภทภัยที่ถูกเรียกว่า “ก่อการร้าย” ต่อสถานทูต และคนอเมริกันทั่วโลก ทบทวนให้ดีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านั้น ก็คือ สิ่งเดียวกับที่ประเทศนี้ไปทำไว้ในหลายๆ ที่บนโลก แล้วมักอ้างว่านั่นคือ การปราบผู้ก่อการร้าย และขอสาปแช่งให้เจออีกเรื่อยๆ”
       

       จากการตรวจสอบต้นตอของผู้ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น พบว่า ในเว็บไซต์โอเคเนชั่น บล็อกเกอร์ที่ชื่อว่า “Canไทเมือง” ได้โพสต์ข้อความในหัวข้อ “ก่อนเดินไปประท้วงสถานทูตอเมริกาพรุ่งนี้ วันนี้เชิญชวนชาวเน็ตไปบอกท่านทูตใน Wall ของ US Embassy Bangkok” เมื่อเวลา 17.00 น.ของวันที่ 14 ธ.ค.โดยระบุว่า “ชวนกันไปแสดงความเห็นใน wall ของท่านทูตอเมริกา ผมไปมาแล้ว คุณไปเขียนหรือยัง” ก่อนจะอ้างถึงข้อความที่ตนนำไปโพสต์ “อย่าเสนอความเห็นทางกฎหมายที่เสมือนว่าไทยเป็นบริวารของอเมริกา เราเป็นรัฐอิสระ มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกับอเมริกา เรามีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่าประเทศของคุณเพราะฉะนั้นอย่าเอาความรู้สึกของประเทศสาธารณรัฐ มาตัดสินประเทศที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เรารักประชาธิปไตยพอๆ กับรักประมุขของเรา และที่สำคัญเรามีกระบวนการทางยุติธรรมที่เป็นสากล”
       

       หลังจากที่ผู้ใช้นามแฝงคนดังกล่าวโพสต์ข้อความออกไป ปรากฏว่า หลังจากนั้น มีผู้เข้าชมบล็อกดังกล่าว ตามไปโพสต์ข้อความแสดงความไม่พอใจที่เฟซบุ๊กสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยเป็นจำนวนมาก กระทั่งสถานทูตสหรัฐฯ ได้ออกประกาศเตือนในเฟซบุ๊กดังกล่าว

      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
seree_60
Cmadong Member
Cmadong ชั้นเซียน
****


ชีวิต คือ การท่องเที่ยว การท่องเที่ยว คือ ชีวิตเรา
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 9,865

« ตอบ #24 เมื่อ: 15 ธันวาคม 2554, 21:26:15 »

ควรยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือไม่ ? (บทความพิเศษ)

การยกเลิกมาตรา 112 มีผลทำให้ประมุขของรัฐซึ่งถูกจำกัดสิทธิที่จะคุ้มครองตนเองโดยฐานะของตนในทางพฤตินัยไม่ได้รับความคุ้มครองและเสียสิทธิที่จะปกป้องตนเองในทางนิตินัยไปพร้อมกันด้วย

ผู้เขียนเป็นนักเรียนโรงเรียน ภ.ป.ร. ราชวิทยาลัย รุ่นแรก จบกฎหมายจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เคยรับราชการเป็นผู้พิพากษาและเป็นอาจารย์พิเศษสอนในมหาวิทยาลัย ปัจจุบันยังคงทำงานด้านกฎหมายอยู่ ผู้เขียนเคยได้รับทุนฟูลไบรท์ไปศึกษาวิชากฎหมายที่ประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งถือเป็นประเทศประชา ธิปไตยเต็มรูปแบบของโลก เนื่องจากขณะนี้มีปัญหาถกเถียงกันอยู่ว่าประเทศไทยควรจะมีกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือไม่ ? ซึ่งผู้เขียนขอแสดงความเห็นในด้านกฎหมายเพื่อประกอบการพิจารณาของท่านทั้งหลายไว้ดังต่อไปนี้

ข้อ 1. ประเทศไทยกำหนดห้ามหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และห้ามหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดาไว้ในมาตรา 326 ความว่า

" มาตรา 112 ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี "

" มาตรา 326 ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ "

ข้อแตกต่างของความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์กับบุคคลธรรมดาประการแรกก็คือ มาตรา 112 เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ซึ่งหมายความว่ารัฐเป็นผู้เสียหายและเจ้าหน้าที่ของรัฐจะต้องดำเนินการกับผู้กระทำความผิด ส่วนมาตรา 326 เป็นความผิดอันยอมความได้หรือความผิดต่อส่วนตัวซึ่งถ้าไม่มีผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเจ้าหน้าที่รัฐก็จะไม่ดำเนินคดีให้ เหตุที่บัญญัติไว้แตกต่างกันเช่นนี้เพราะไม่มีประเทศใดในโลกที่ประมุขของรัฐจะไปฟ้องร้องกล่าวโทษพลเมืองของตนเอง หากยกเลิกมาตรา 112 ก็เท่ากับเป็นการจำกัดสิทธิประมุขแห่งรัฐไม่ให้สามารถคุ้มครองตนเองจากการถูกหมิ่นประมาทได้

ยิ่งกว่านั้นการ " หมิ่นประมาท " หมายความว่า ใส่ความโดยไม่เป็นความจริงในลักษณะที่ทำให้ผู้ได้ยินได้ฟังเกลียดชังผู้ถูกใส่ความซึ่งเป็นการกระทำอันชั่วร้ายผิดศีลธรรม การยกเลิกมาตรา 112 มีผลทำให้ประมุขของรัฐซึ่งถูกจำกัดสิทธิที่จะคุ้มครองตนเองโดยฐานะของตนในทางพฤตินัยไม่ได้รับความคุ้มครองและเสียสิทธิที่จะปกป้องตนเองในทางนิตินัยไปพร้อมกันด้วย

ข้อ 2.กฎหมายอาญาของไทยเป็นกฎหมายที่มีความเป็นสากล กล่าวคือ ให้ความคุ้มครองประมุขของรัฐต่างประเทศและผู้แทนของรัฐต่างประเทศด้วยดังจะเห็นได้จากมาตรา 133 และ มาตรา 134 ซึ่งบัญญัติไว้ว่า

" มาตรา 133 ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายราชาธิบดี ราชินี ราชสามี รัชทายาท หรือประมุขแห่งรัฐต่างประเทศ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปีหรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ "

" มาตรา 134 ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายผู้แทนรัฐต่างประเทศซึ่งได้รับแต่งตั้งให้มาสู่พระราชสำนัก ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปีหรือปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ "

ถ้ายกเลิกมาตรา 112 ผลตามกฎหมายก็คือ ประเทศไทยให้ความคุ้มครองประมุขแห่งรัฐต่างประเทศแต่ไม่คุ้มครองประมุขของตนเองซึ่งเป็นเรื่องผิดวิสัยของอารยประเทศอย่างยิ่ง หากจะยกเลิกมาตรา 133 และมาตรา 134 ไปพร้อมกับมาตรา 112 ผลก็คือประเทศไทยจะกลายเป็นประเทศป่าเถื่อนในสายตาสังคมโลกและไม่มีประเทศที่เจริญแล้วประเทศใดในโลกคบค้าสมาคมด้วย เพราะไม่ให้เกียรติแก่ประมุขของเขาซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติยศสูงสุดของประเทศเหล่านั้น

ข้อ 3. ในสังคมระหว่างประเทศมีหลักในการอยู่ร่วมกันข้อหนึ่งคือหลักถ้อยทีถ้อยปฏิบัติโดยเท่าเทียมกัน ( Reciprocity ) กฎหมายของประเทศที่เจริญแล้วในโลกไม่ว่าจะมีประมุขเป็นพระมหากษัตริย์ หรือประธานาธิบดี หรือเรียกชื่ออื่นใดก็ตาม ย่อมถือว่าประมุขของประเทศใดเป็นตัวแทนหรือสัญลักษณ์ของประเทศนั้น แต่ละประเทศจะให้ความคุ้มครองสูงสุดแก่ประมุขของตนและให้ความคุ้มครองแก่ประมุขของประเทศอื่น เพื่อประเทศอื่นจะได้ให้ความคุ้มครองแก่ประมุขของตนเองด้วยแล้ว ย่อมมีผลทำให้ประเทศไทยต่ำต้อยกว่าประเทศอื่นใดในสายตาชาวโลก

ข้อ 4. ประมุขของประเทศใดก็ตามย่อมถือเป็นเกียรติยศสูงสุดของประเทศนั้นหากประมุขของประเทศใดไร้เกียรติพลเมืองของประเทศนั้นย่อมต่ำต้อยไร้ค่ากว่าพลเมืองของประเทศอื่นในโลก ถ้าคนไทยยังรักที่จะเป็นคนที่มีเกียรติก็จะต้องรักษาเกียรติยศแห่งสถาบันพระมหากษัตริย์ในฐานะประมุขของประเทศไว้สูงสุดจึงจะทำให้คนไทยมีเกียรติเหมือนพลเมืองชาติอื่นในโลก

ข้อ 5. ประมุขของแต่ละประเทศทั้งที่ได้รับการเลือกตั้งหรือโดยการแต่งตั้งล้วนแต่เป็นผู้ที่ถูกคัดเลือกขึ้นเพื่อให้เป็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติยศ ขวัญและกำลังใจของประเทศนั้นๆ ความภาคภูมิใจของพลเมืองในประเทศที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขนั้นก็คือ พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุขได้รับการคัดเลือกจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหนือธรรมชาติ ( Supernatural ) ทำให้เชื่อมั่นได้ว่าเป็นผู้มีบุญญาธิการและประกอบคุณงามความดีมาก่อน สิ่งศักดิ์สิทธิ์เหนือธรรมชาติจึงคัดเลือกให้มาเป็นประมุข

การแก้ไขกฎหมายใดๆ โดยไม่ได้ศึกษาถึงผลกระทบทั้งภายในประเทศและในสังคมระหว่างประเทศ รวมทั้งโดยไม่คำนึงถึงหลักนิติธรรมอาจทำให้บรรลุเป้าหมายด้านผลประโยชน์ของบุคคลบางคนบางกลุ่มแต่ก่อให้เกิดความหายนะใหญ่หลวงแก่ประชาชนส่วนใหญ่และประเทศชาติ

ขวัญชัย รัตนไชย
      บันทึกการเข้า

iss u.Don"t be sure that the world is wide
       until you check it out by your self.
  หน้า: [1] 2  ทั้งหมด   ขึ้นบน
  
กระโดดไป:  

     

ทำไมหอพักนิสิตจุฬาจึงเป็นดินแดนมหัศจรรย์            " ไม่ได้เป็นแค่หอให้นอนพัก  แต่เป็นบ้านอบอุ่นรักให้อาศัย  ไม่เป็นแค่ที่ซุกหัวยามหลบภัย  แต่สร้างใจให้เข้มแข็งแกร่งการงาน"  <))))><